Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย (อฎฺฐกถา) • Aṅguttaranikāya (aṭṭhakathā)

    ๕. พฺราหฺมณสจฺจสุตฺตวณฺณนา

    5. Brāhmaṇasaccasuttavaṇṇanā

    ๑๘๕. ปญฺจเม พฺราหฺมณสจฺจานีติ พฺราหฺมณานํ สจฺจานิ ตถานิฯ โส เตน น สมโณติ มญฺญตีติ โส ขีณาสโว เตน สเจฺจน ‘‘อหํ สมโณ’’ติ ตณฺหามานทิฎฺฐีหิ น มญฺญติฯ เสสปเทสุปิ เอเสว นโยฯ ยเทว ตตฺถ สจฺจํ, ตทภิญฺญายาติ ยํ ตตฺถ ‘‘สเพฺพ ปาณา อวชฺฌา’’ติ ปฎิปตฺติยา สจฺจํ ตถํ อวิปรีตํฯ อิมินา วจีสจฺจํ อพฺภนฺตรํ กตฺวา ปรมตฺถสจฺจํ นิพฺพานํ ทเสฺสติฯ ตทภิญฺญายาติ ตํ อุภยมฺปิ อภิวิสิฎฺฐาย ปญฺญาย ชานิตฺวาฯ อนุทฺทยาย อนุกมฺปาย ปฎิปโนฺน โหตีติ อนุทฺทยตฺถาย จ อนุกมฺปตฺถาย จ ยา ปฎิปทา, ตํ ปฎิปโนฺน โหติ, ปูเรตฺวา ฐิโตติ อโตฺถฯ เสสปฎิปทาสุปิ เอเสว นโยฯ

    185. Pañcame brāhmaṇasaccānīti brāhmaṇānaṃ saccāni tathāni. So tena na samaṇoti maññatīti so khīṇāsavo tena saccena ‘‘ahaṃ samaṇo’’ti taṇhāmānadiṭṭhīhi na maññati. Sesapadesupi eseva nayo. Yadeva tattha saccaṃ, tadabhiññāyāti yaṃ tattha ‘‘sabbe pāṇā avajjhā’’ti paṭipattiyā saccaṃ tathaṃ aviparītaṃ. Iminā vacīsaccaṃ abbhantaraṃ katvā paramatthasaccaṃ nibbānaṃ dasseti. Tadabhiññāyāti taṃ ubhayampi abhivisiṭṭhāya paññāya jānitvā. Anuddayāya anukampāya paṭipanno hotīti anuddayatthāya ca anukampatthāya ca yā paṭipadā, taṃ paṭipanno hoti, pūretvā ṭhitoti attho. Sesapaṭipadāsupi eseva nayo.

    สเพฺพ กามาติ สเพฺพ วตฺถุกามกิเลสกามาฯ อิติ วทํ พฺราหฺมโณ สจฺจมาหาติ เอวมฺปิ วทโนฺต ขีณาสวพฺราหฺมโณ สจฺจเมว อาหฯ สเพฺพ ภวาติ กามภวาทโย ตโยปิฯ นาหํ กฺวจนีติ เอตฺถ ปน จตุโกฺกฎิกสุญฺญตา กถิตาฯ อยญฺหิ ‘‘นาหํ กฺวจนี’’ติ กฺวจิ อตฺตานํ น ปสฺสติ, กสฺสจิ กิญฺจนตสฺมินฺติ อตฺตโน อตฺตานํ กสฺสจิ ปรสฺส กิญฺจนภาเว อุปเนตพฺพํ น ปสฺสติ, ภาติฎฺฐาเน ภาตรํ, สหายฎฺฐาเน สหายํ, ปริกฺขารฎฺฐาเน วา ปริกฺขารํ มญฺญิตฺวา อุปเนตพฺพํ น ปสฺสตีติ อโตฺถฯ น จ มม กฺวจนีติ เอตฺถ มมสทฺทํ ตาว ฐเปตฺวา ‘‘น จ กฺวจนิ ปรสฺส จ อตฺตานํ กฺวจิ น ปสฺสตี’’ติ อยมโตฺถฯ อิทานิ ‘‘มมสทฺทํ อาหริตฺวา มม กิสฺมิญฺจิ กิญฺจนํ นตฺถี’’ติ โส ปรสฺส อตฺตา มม กิสฺมิญฺจิ กิญฺจนภาเว อตฺถีติ น ปสฺสติ, อตฺตโน ภาติฎฺฐาเน ภาตรํ, สหายฎฺฐาเน สหายํ, ปริกฺขารฎฺฐาเน วา ปริกฺขารนฺติ กิสฺมิญฺจิ ฐาเน ปรสฺส อตฺตานํ อิมินา กิญฺจนภาเวน อุปเนตพฺพํ น ปสฺสตีติ อโตฺถฯ เอวมยํ ยสฺมา เนว กตฺถจิ อตฺตานํ ปสฺสติ, น ตํ ปรสฺส กิญฺจนภาเว อุปเนตพฺพํ ปสฺสติ, น ปรสฺส อตฺตานํ ปสฺสติ, น ปรสฺส อตฺตานํ อตฺตโน กิญฺจนภาเว อุปเนตพฺพํ ปสฺสตีติฯ อิติ วทํ พฺราหฺมโณติ เอวํ จตุโกฺกฎิกํ สุญฺญตํ วทโนฺตปิ ขีณาสวพฺราหฺมโณ ตสฺสา ปฎิปทาย สมฺมา ปฎิวิทฺธตฺตา สจฺจเมว อาห, น มุสาติ สเพฺพสุปิ วาเรสุ มญฺญนานํ ปหีนตฺตาเยว น มญฺญตีติ จ อโตฺถ เวทิตโพฺพฯ อากิญฺจญฺญํเยว ปฎิปทนฺติ กิญฺจนภาววิรหิตํ นิปฺปลิโพธํ นิคฺคหณเมว ปฎิปทํ ปฎิปโนฺน โหติ ปูเรตฺวา ฐิโตฯ

    Sabbe kāmāti sabbe vatthukāmakilesakāmā. Iti vadaṃ brāhmaṇo saccamāhāti evampi vadanto khīṇāsavabrāhmaṇo saccameva āha. Sabbe bhavāti kāmabhavādayo tayopi. Nāhaṃ kvacanīti ettha pana catukkoṭikasuññatā kathitā. Ayañhi ‘‘nāhaṃ kvacanī’’ti kvaci attānaṃ na passati, kassaci kiñcanatasminti attano attānaṃ kassaci parassa kiñcanabhāve upanetabbaṃ na passati, bhātiṭṭhāne bhātaraṃ, sahāyaṭṭhāne sahāyaṃ, parikkhāraṭṭhāne vā parikkhāraṃ maññitvā upanetabbaṃ na passatīti attho. Na ca mama kvacanīti ettha mamasaddaṃ tāva ṭhapetvā ‘‘na ca kvacani parassa ca attānaṃ kvaci na passatī’’ti ayamattho. Idāni ‘‘mamasaddaṃ āharitvā mama kismiñci kiñcanaṃ natthī’’ti so parassa attā mama kismiñci kiñcanabhāve atthīti na passati, attano bhātiṭṭhāne bhātaraṃ, sahāyaṭṭhāne sahāyaṃ, parikkhāraṭṭhāne vā parikkhāranti kismiñci ṭhāne parassa attānaṃ iminā kiñcanabhāvena upanetabbaṃ na passatīti attho. Evamayaṃ yasmā neva katthaci attānaṃ passati, na taṃ parassa kiñcanabhāve upanetabbaṃ passati, na parassa attānaṃ passati, na parassa attānaṃ attano kiñcanabhāve upanetabbaṃ passatīti. Iti vadaṃ brāhmaṇoti evaṃ catukkoṭikaṃ suññataṃ vadantopi khīṇāsavabrāhmaṇo tassā paṭipadāya sammā paṭividdhattā saccameva āha, na musāti sabbesupi vāresu maññanānaṃ pahīnattāyeva na maññatīti ca attho veditabbo. Ākiñcaññaṃyevapaṭipadanti kiñcanabhāvavirahitaṃ nippalibodhaṃ niggahaṇameva paṭipadaṃ paṭipanno hoti pūretvā ṭhito.

    อิมานิ โข ปริพฺพาชกา จตฺตาริ พฺราหฺมณสจฺจานิ มยา สยํ อภิญฺญา สจฺฉิกตฺวา ปเวทิตานีติ ยานิ ตุเมฺห โภวาทิพฺราหฺมณานํ สจฺจานิ วเทถ, เตหิ อญฺญานิ มยา อิมานิ พาหิตปาปพฺราหฺมณสฺส จตฺตาริ สจฺจานิ จตูหิ มเคฺคหิ โสฬสวิเธน กิเจฺจน ชานิตฺวา ปจฺจกฺขํ กตฺวา ปเวทิตานิ เทสิตานิ โชติตานีติ อโตฺถฯ อิติ อิมสฺมิํ สุเตฺต จตูสุปิ ฐาเนสุ ขีณาสวสฺส วจีสจฺจเมว กถิตนฺติฯ

    Imāni kho paribbājakā cattāri brāhmaṇasaccāni mayā sayaṃ abhiññā sacchikatvā paveditānīti yāni tumhe bhovādibrāhmaṇānaṃ saccāni vadetha, tehi aññāni mayā imāni bāhitapāpabrāhmaṇassa cattāri saccāni catūhi maggehi soḷasavidhena kiccena jānitvā paccakkhaṃ katvā paveditāni desitāni jotitānīti attho. Iti imasmiṃ sutte catūsupi ṭhānesu khīṇāsavassa vacīsaccameva kathitanti.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย • Aṅguttaranikāya / ๕. พฺราหฺมณสจฺจสุตฺตํ • 5. Brāhmaṇasaccasuttaṃ

    ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / องฺคุตฺตรนิกาย (ฎีกา) • Aṅguttaranikāya (ṭīkā) / ๕. พฺราหฺมณสจฺจสุตฺตวณฺณนา • 5. Brāhmaṇasaccasuttavaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact