Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย • Aṅguttaranikāya |
๔. พฺยากรณสุตฺตํ
4. Byākaraṇasuttaṃ
๘๔. ตตฺร โข อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน ภิกฺขู อามเนฺตสิ – ‘‘อาวุโส ภิกฺขเว’’ติฯ ‘‘อาวุโส’’ติ โข เต ภิกฺขู อายสฺมโต มหาโมคฺคลฺลานสฺส ปจฺจโสฺสสุํฯ อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน เอตทโวจ –
84. Tatra kho āyasmā mahāmoggallāno bhikkhū āmantesi – ‘‘āvuso bhikkhave’’ti. ‘‘Āvuso’’ti kho te bhikkhū āyasmato mahāmoggallānassa paccassosuṃ. Āyasmā mahāmoggallāno etadavoca –
‘‘อิธาวุโส, ภิกฺขุ อญฺญํ พฺยากโรติ – ‘ขีณา ชาติ, วุสิตํ พฺรหฺมจริยํ, กตํ กรณียํ, นาปรํ อิตฺถตฺตายาติ ปชานามี’ติฯ ตเมนํ ตถาคโต วา ตถาคตสาวโก วา ฌายี สมาปตฺติกุสโล ปรจิตฺตกุสโล ปรจิตฺตปริยายกุสโล สมนุยุญฺชติ สมนุคฺคาหติ สมนุภาสติฯ โส ตถาคเตน วา ตถาคตสาวเกน วา ฌายินา สมาปตฺติกุสเลน ปรจิตฺตกุสเลน ปรจิตฺตปริยายกุสเลน สมนุยุญฺชิยมาโน สมนุคฺคาหิยมาโน สมนุภาสิยมาโน อิรีณํ อาปชฺชติ วิจินํ 1 อาปชฺชติ อนยํ อาปชฺชติ พฺยสนํ อาปชฺชติ อนยพฺยสนํ อาปชฺชติฯ
‘‘Idhāvuso, bhikkhu aññaṃ byākaroti – ‘khīṇā jāti, vusitaṃ brahmacariyaṃ, kataṃ karaṇīyaṃ, nāparaṃ itthattāyāti pajānāmī’ti. Tamenaṃ tathāgato vā tathāgatasāvako vā jhāyī samāpattikusalo paracittakusalo paracittapariyāyakusalo samanuyuñjati samanuggāhati samanubhāsati. So tathāgatena vā tathāgatasāvakena vā jhāyinā samāpattikusalena paracittakusalena paracittapariyāyakusalena samanuyuñjiyamāno samanuggāhiyamāno samanubhāsiyamāno irīṇaṃ āpajjati vicinaṃ 2 āpajjati anayaṃ āpajjati byasanaṃ āpajjati anayabyasanaṃ āpajjati.
‘‘ตเมนํ ตถาคโต วา ตถาคตสาวโก วา ฌายี สมาปตฺติกุสโล ปรจิตฺตกุสโล ปรจิตฺตปริยายกุสโล เอวํ เจตสา เจโต ปริจฺจ มนสิ กโรติ – ‘กิํ นุ โข อยมายสฺมา อญฺญํ พฺยากโรติ – ขีณา ชาติ, วุสิตํ พฺรหฺมจริยํ, กตํ กรณียํ, นาปรํ อิตฺถตฺตายาติ ปชานามี’ติ?
‘‘Tamenaṃ tathāgato vā tathāgatasāvako vā jhāyī samāpattikusalo paracittakusalo paracittapariyāyakusalo evaṃ cetasā ceto paricca manasi karoti – ‘kiṃ nu kho ayamāyasmā aññaṃ byākaroti – khīṇā jāti, vusitaṃ brahmacariyaṃ, kataṃ karaṇīyaṃ, nāparaṃ itthattāyāti pajānāmī’ti?
‘‘ตเมนํ ตถาคโต วา ตถาคตสาวโก วา ฌายี สมาปตฺติกุสโล ปรจิตฺตกุสโล ปรจิตฺตปริยายกุสโล เอวํ เจตสา เจโต ปริจฺจ ปชานาติ –
‘‘Tamenaṃ tathāgato vā tathāgatasāvako vā jhāyī samāpattikusalo paracittakusalo paracittapariyāyakusalo evaṃ cetasā ceto paricca pajānāti –
‘โกธโน โข อยมายสฺมา; โกธปริยุฎฺฐิเตน เจตสา พหุลํ วิหรติฯ โกธปริยุฎฺฐานํ โข ปน ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย ปริหานเมตํฯ
‘Kodhano kho ayamāyasmā; kodhapariyuṭṭhitena cetasā bahulaṃ viharati. Kodhapariyuṭṭhānaṃ kho pana tathāgatappavedite dhammavinaye parihānametaṃ.
‘อุปนาหี โข ปน อยมายสฺมา; อุปนาหปริยุฎฺฐิเตน เจตสา พหุลํ วิหรติฯ อุปนาหปริยุฎฺฐานํ โข ปน ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย ปริหานเมตํฯ
‘Upanāhī kho pana ayamāyasmā; upanāhapariyuṭṭhitena cetasā bahulaṃ viharati. Upanāhapariyuṭṭhānaṃ kho pana tathāgatappavedite dhammavinaye parihānametaṃ.
‘มกฺขี โข ปน อยมายสฺมา; มกฺขปริยุฎฺฐิเตน เจตสา พหุลํ วิหรติฯ มกฺขปริยุฎฺฐานํ โข ปน ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย ปริหานเมตํฯ
‘Makkhī kho pana ayamāyasmā; makkhapariyuṭṭhitena cetasā bahulaṃ viharati. Makkhapariyuṭṭhānaṃ kho pana tathāgatappavedite dhammavinaye parihānametaṃ.
‘ปฬาสี โข ปน อยมายสฺมา; ปฬาสปริยุฎฺฐิเตน เจตสา พหุลํ วิหรติฯ ปฬาสปริยุฎฺฐานํ โข ปน ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย ปริหานเมตํฯ
‘Paḷāsī kho pana ayamāyasmā; paḷāsapariyuṭṭhitena cetasā bahulaṃ viharati. Paḷāsapariyuṭṭhānaṃ kho pana tathāgatappavedite dhammavinaye parihānametaṃ.
‘อิสฺสุกี โข ปน อยมายสฺมา; อิสฺสาปริยุฎฺฐิเตน เจตสา พหุลํ วิหรติฯ อิสฺสาปริยุฎฺฐานํ โข ปน ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย ปริหานเมตํฯ
‘Issukī kho pana ayamāyasmā; issāpariyuṭṭhitena cetasā bahulaṃ viharati. Issāpariyuṭṭhānaṃ kho pana tathāgatappavedite dhammavinaye parihānametaṃ.
‘มจฺฉรี โข ปน อยมายสฺมา; มเจฺฉรปริยุฎฺฐิเตน เจตสา พหุลํ วิหรติฯ มเจฺฉรปริยุฎฺฐานํ โข ปน ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย ปริหานเมตํฯ
‘Maccharī kho pana ayamāyasmā; maccherapariyuṭṭhitena cetasā bahulaṃ viharati. Maccherapariyuṭṭhānaṃ kho pana tathāgatappavedite dhammavinaye parihānametaṃ.
‘สโฐ โข ปน อยมายสฺมา; สาเฐยฺยปริยุฎฺฐิเตน เจตสา พหุลํ วิหรติฯ สาเฐยฺยปริยุฎฺฐานํ โข ปน ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย ปริหานเมตํฯ
‘Saṭho kho pana ayamāyasmā; sāṭheyyapariyuṭṭhitena cetasā bahulaṃ viharati. Sāṭheyyapariyuṭṭhānaṃ kho pana tathāgatappavedite dhammavinaye parihānametaṃ.
‘มายาวี โข ปน อยมายสฺมา; มายาปริยุฎฺฐิเตน เจตสา พหุลํ วิหรติฯ มายาปริยุฎฺฐานํ โข ปน ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย ปริหานเมตํฯ
‘Māyāvī kho pana ayamāyasmā; māyāpariyuṭṭhitena cetasā bahulaṃ viharati. Māyāpariyuṭṭhānaṃ kho pana tathāgatappavedite dhammavinaye parihānametaṃ.
‘ปาปิโจฺฉ โข ปน อยมายสฺมา; อิจฺฉาปริยุฎฺฐิเตน เจตสา พหุลํ วิหรติฯ อิจฺฉาปริยุฎฺฐานํ โข ปน ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย ปริหานเมตํฯ
‘Pāpiccho kho pana ayamāyasmā; icchāpariyuṭṭhitena cetasā bahulaṃ viharati. Icchāpariyuṭṭhānaṃ kho pana tathāgatappavedite dhammavinaye parihānametaṃ.
‘สติ 3 โข ปน อยมายสฺมา อุตฺตริ กรณีเย โอรมตฺตเกน วิเสสาธิคเมน อนฺตรา โวสานํ อาปโนฺนฯ อนฺตรา โวสานคมนํ โข ปน ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย ปริหานเมตํ’ฯ
‘Sati 4 kho pana ayamāyasmā uttari karaṇīye oramattakena visesādhigamena antarā vosānaṃ āpanno. Antarā vosānagamanaṃ kho pana tathāgatappavedite dhammavinaye parihānametaṃ’.
‘‘โส วตาวุโส, ภิกฺขุ ‘อิเม ทส ธเมฺม อปฺปหาย อิมสฺมิํ ธมฺมวินเย วุทฺธิํ วิรูฬฺหิํ เวปุลฺลํ อาปชฺชิสฺสตี’ติ เนตํ ฐานํ วิชฺชติฯ โส วตาวุโส, ภิกฺขุ ‘อิเม ทส ธเมฺม ปหาย อิมสฺมิํ ธมฺมวินเย วุทฺธิํ วิรูฬฺหิํ เวปุลฺลํ อาปชฺชิสฺสตี’ติ ฐานเมตํ วิชฺชตี’’ติฯ จตุตฺถํฯ
‘‘So vatāvuso, bhikkhu ‘ime dasa dhamme appahāya imasmiṃ dhammavinaye vuddhiṃ virūḷhiṃ vepullaṃ āpajjissatī’ti netaṃ ṭhānaṃ vijjati. So vatāvuso, bhikkhu ‘ime dasa dhamme pahāya imasmiṃ dhammavinaye vuddhiṃ virūḷhiṃ vepullaṃ āpajjissatī’ti ṭhānametaṃ vijjatī’’ti. Catutthaṃ.
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / องฺคุตฺตรนิกาย (อฎฺฐกถา) • Aṅguttaranikāya (aṭṭhakathā) / ๔. พฺยากรณสุตฺตวณฺณนา • 4. Byākaraṇasuttavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / องฺคุตฺตรนิกาย (ฎีกา) • Aṅguttaranikāya (ṭīkā) / ๑-๘. วาหนสุตฺตาทิวณฺณนา • 1-8. Vāhanasuttādivaṇṇanā