Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya

    ๓. จนฺทูปมสุตฺตํ

    3. Candūpamasuttaṃ

    ๑๔๖. สาวตฺถิยํ วิหรติ…เป.… ‘‘จนฺทูปมา, ภิกฺขเว, กุลานิ อุปสงฺกมถ – อปกเสฺสว กายํ, อปกสฺส จิตฺตํ, นิจฺจนวกา กุเลสุ อปฺปคพฺภา 1ฯ เสยฺยถาปิ , ภิกฺขเว, ปุริโส ชรุทปานํ วา โอโลเกยฺย ปพฺพตวิสมํ วา นทีวิทุคฺคํ วา – อปกเสฺสว กายํ, อปกสฺส จิตฺตํ; เอวเมว โข, ภิกฺขเว, จนฺทูปมา กุลานิ อุปสงฺกมถ – อปกเสฺสว กายํ, อปกสฺส จิตฺตํ, นิจฺจนวกา กุเลสุ อปฺปคพฺภา’’ฯ

    146. Sāvatthiyaṃ viharati…pe… ‘‘candūpamā, bhikkhave, kulāni upasaṅkamatha – apakasseva kāyaṃ, apakassa cittaṃ, niccanavakā kulesu appagabbhā 2. Seyyathāpi , bhikkhave, puriso jarudapānaṃ vā olokeyya pabbatavisamaṃ vā nadīviduggaṃ vā – apakasseva kāyaṃ, apakassa cittaṃ; evameva kho, bhikkhave, candūpamā kulāni upasaṅkamatha – apakasseva kāyaṃ, apakassa cittaṃ, niccanavakā kulesu appagabbhā’’.

    ‘‘กสฺสโป, ภิกฺขเว, จนฺทูปโม กุลานิ อุปสงฺกมติ – อปกเสฺสว กายํ, อปกสฺส จิตฺตํ, นิจฺจนวโก กุเลสุ อปฺปคโพฺภฯ ตํ กิํ มญฺญถ, ภิกฺขเว, กถํรูโป ภิกฺขุ อรหติ กุลานิ อุปสงฺกมิตุ’’นฺติ? ‘‘ภควํมูลกา โน, ภเนฺต, ธมฺมา ภควํเนตฺติกา ภควํปฎิสรณาฯ สาธุ วต, ภเนฺต, ภควนฺตํเยว ปฎิภาตุ เอตสฺส ภาสิตสฺส อโตฺถฯ ภควโต สุตฺวา ภิกฺขู ธาเรสฺสนฺตี’’ติฯ

    ‘‘Kassapo, bhikkhave, candūpamo kulāni upasaṅkamati – apakasseva kāyaṃ, apakassa cittaṃ, niccanavako kulesu appagabbho. Taṃ kiṃ maññatha, bhikkhave, kathaṃrūpo bhikkhu arahati kulāni upasaṅkamitu’’nti? ‘‘Bhagavaṃmūlakā no, bhante, dhammā bhagavaṃnettikā bhagavaṃpaṭisaraṇā. Sādhu vata, bhante, bhagavantaṃyeva paṭibhātu etassa bhāsitassa attho. Bhagavato sutvā bhikkhū dhāressantī’’ti.

    อถ โข ภควา อากาเส ปาณิํ จาเลสิฯ ‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, อยํ อากาเส ปาณิ น สชฺชติ น คยฺหติ น พชฺฌติ; เอวเมว โข, ภิกฺขเว, ยสฺส กสฺสจิ ภิกฺขุโน กุลานิ อุปสงฺกมโต กุเลสุ จิตฺตํ น สชฺชติ น คยฺหติ น พชฺฌติ – ‘ลภนฺตุ ลาภกามา, ปุญฺญกามา กโรนฺตุ ปุญฺญานี’ติ; ยถาสเกน ลาเภน อตฺตมโน โหติ สุมโน, เอวํ ปเรสํ ลาเภน อตฺตมโน โหติ สุมโน; เอวรูโป โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อรหติ กุลานิ อุปสงฺกมิตุํฯ

    Atha kho bhagavā ākāse pāṇiṃ cālesi. ‘‘Seyyathāpi, bhikkhave, ayaṃ ākāse pāṇi na sajjati na gayhati na bajjhati; evameva kho, bhikkhave, yassa kassaci bhikkhuno kulāni upasaṅkamato kulesu cittaṃ na sajjati na gayhati na bajjhati – ‘labhantu lābhakāmā, puññakāmā karontu puññānī’ti; yathāsakena lābhena attamano hoti sumano, evaṃ paresaṃ lābhena attamano hoti sumano; evarūpo kho, bhikkhave, bhikkhu arahati kulāni upasaṅkamituṃ.

    ‘‘กสฺสปสฺส, ภิกฺขเว, กุลานิ อุปสงฺกมโต กุเลสุ จิตฺตํ น สชฺชติ น คยฺหติ น พชฺฌติ – ‘ลภนฺตุ ลาภกามา, ปุญฺญกามา กโรนฺตุ ปุญฺญานี’ติ; ยถาสเกน ลาเภน อตฺตมโน โหติ สุมโน; เอวํ ปเรสํ ลาเภน อตฺตมโน โหติ สุมโนฯ

    ‘‘Kassapassa, bhikkhave, kulāni upasaṅkamato kulesu cittaṃ na sajjati na gayhati na bajjhati – ‘labhantu lābhakāmā, puññakāmā karontu puññānī’ti; yathāsakena lābhena attamano hoti sumano; evaṃ paresaṃ lābhena attamano hoti sumano.

    ‘‘ตํ กิํ มญฺญถ, ภิกฺขเว, กถํรูปสฺส ภิกฺขุโน อปริสุทฺธา ธมฺมเทสนา โหติ, กถํรูปสฺส ภิกฺขุโน ปริสุทฺธา ธมฺมเทสนา โหตี’’ติ? ‘‘ภควํมูลกา โน, ภเนฺต, ธมฺมา ภควํเนตฺติกา ภควํปฎิสรณาฯ สาธุ วต, ภเนฺต, ภควนฺตํเยว ปฎิภาตุ เอตสฺส ภาสิตสฺส อโตฺถ ฯ ภควโต สุตฺวา ภิกฺขู ธาเรสฺสนฺตี’’ติฯ ‘‘เตน หิ, ภิกฺขเว, สุณาถ, สาธุกํ มนสิ กโรถ; ภาสิสฺสามี’’ติฯ ‘‘เอวํ, ภเนฺต’’ติ โข เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจโสฺสสุํฯ ภควา เอตทโวจ –

    ‘‘Taṃ kiṃ maññatha, bhikkhave, kathaṃrūpassa bhikkhuno aparisuddhā dhammadesanā hoti, kathaṃrūpassa bhikkhuno parisuddhā dhammadesanā hotī’’ti? ‘‘Bhagavaṃmūlakā no, bhante, dhammā bhagavaṃnettikā bhagavaṃpaṭisaraṇā. Sādhu vata, bhante, bhagavantaṃyeva paṭibhātu etassa bhāsitassa attho . Bhagavato sutvā bhikkhū dhāressantī’’ti. ‘‘Tena hi, bhikkhave, suṇātha, sādhukaṃ manasi karotha; bhāsissāmī’’ti. ‘‘Evaṃ, bhante’’ti kho te bhikkhū bhagavato paccassosuṃ. Bhagavā etadavoca –

    ‘‘โย หิ โกจิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํจิโตฺต ปเรสํ ธมฺมํ เทเสติ – ‘อโห วต เม ธมฺมํ สุเณยฺยุํ, สุตฺวา จ ปน ธมฺมํ ปสีเทยฺยุํ, ปสนฺนา จ เม ปสนฺนาการํ กเรยฺยุ’นฺติ; เอวรูปสฺส โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน อปริสุทฺธา ธมฺมเทสนา โหติฯ

    ‘‘Yo hi koci, bhikkhave, bhikkhu evaṃcitto paresaṃ dhammaṃ deseti – ‘aho vata me dhammaṃ suṇeyyuṃ, sutvā ca pana dhammaṃ pasīdeyyuṃ, pasannā ca me pasannākāraṃ kareyyu’nti; evarūpassa kho, bhikkhave, bhikkhuno aparisuddhā dhammadesanā hoti.

    ‘‘โย จ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํจิโตฺต ปเรสํ ธมฺมํ เทเสติ – ‘สฺวากฺขาโต ภควตา ธโมฺม สนฺทิฎฺฐิโก อกาลิโก เอหิปสฺสิโก โอปเนยฺยิโก ปจฺจตฺตํ เวทิตโพฺพ วิญฺญูหีติ 3ฯ อโห, วต เม ธมฺมํ สุเณยฺยุํ, สุตฺวา จ ปน ธมฺมํ อาชาเนยฺยุํ, อาชานิตฺวา จ ปน ตถตฺตาย ปฎิปเชฺชยฺยุ’นฺติฯ อิติ ธมฺมสุธมฺมตํ ปฎิจฺจ ปเรสํ ธมฺมํ เทเสติ, การุญฺญํ ปฎิจฺจ อนุทฺทยํ 4 ปฎิจฺจ อนุกมฺปํ อุปาทาย ปเรสํ ธมฺมํ เทเสติฯ เอวรูปสฺส โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ปริสุทฺธา ธมฺมเทสนา โหติฯ

    ‘‘Yo ca kho, bhikkhave, bhikkhu evaṃcitto paresaṃ dhammaṃ deseti – ‘svākkhāto bhagavatā dhammo sandiṭṭhiko akāliko ehipassiko opaneyyiko paccattaṃ veditabbo viññūhīti 5. Aho, vata me dhammaṃ suṇeyyuṃ, sutvā ca pana dhammaṃ ājāneyyuṃ, ājānitvā ca pana tathattāya paṭipajjeyyu’nti. Iti dhammasudhammataṃ paṭicca paresaṃ dhammaṃ deseti, kāruññaṃ paṭicca anuddayaṃ 6 paṭicca anukampaṃ upādāya paresaṃ dhammaṃ deseti. Evarūpassa kho, bhikkhave, bhikkhuno parisuddhā dhammadesanā hoti.

    ‘‘กสฺสโป, ภิกฺขเว, เอวํจิโตฺต ปเรสํ ธมฺมํ เทเสติ – ‘สฺวากฺขาโต ภควตา ธโมฺม สนฺทิฎฺฐิโก อกาลิโก เอหิปสฺสิโก โอปเนยฺยิโก ปจฺจตฺตํ เวทิตโพฺพ วิญฺญูหีติฯ อโห, วต เม ธมฺมํ สุเณยฺยุํ, สุตฺวา จ ปน ธมฺมํ อาชาเนยฺยุํ, อาชานิตฺวา จ ปน ตถตฺตาย ปฎิปเชฺชยฺยุ’นฺติฯ อิติ ธมฺมสุธมฺมตํ ปฎิจฺจ ปเรสํ ธมฺมํ เทเสติ, การุญฺญํ ปฎิจฺจ อนุทฺทยํ ปฎิจฺจ อนุกมฺปํ อุปาทาย ปเรสํ ธมฺมํ เทเสติฯ กสฺสเปน วา หิ โว, ภิกฺขเว, โอวทิสฺสามิ โย วา ปนสฺส กสฺสปสทิโส, โอวทิเตหิ จ ปน โว ตถตฺตาย ปฎิปชฺชิตพฺพ’’นฺติฯ ตติยํฯ

    ‘‘Kassapo, bhikkhave, evaṃcitto paresaṃ dhammaṃ deseti – ‘svākkhāto bhagavatā dhammo sandiṭṭhiko akāliko ehipassiko opaneyyiko paccattaṃ veditabbo viññūhīti. Aho, vata me dhammaṃ suṇeyyuṃ, sutvā ca pana dhammaṃ ājāneyyuṃ, ājānitvā ca pana tathattāya paṭipajjeyyu’nti. Iti dhammasudhammataṃ paṭicca paresaṃ dhammaṃ deseti, kāruññaṃ paṭicca anuddayaṃ paṭicca anukampaṃ upādāya paresaṃ dhammaṃ deseti. Kassapena vā hi vo, bhikkhave, ovadissāmi yo vā panassa kassapasadiso, ovaditehi ca pana vo tathattāya paṭipajjitabba’’nti. Tatiyaṃ.







    Footnotes:
    1. อปฺปคพฺพา (ก.)
    2. appagabbā (ka.)
    3. วิญฺญูหิ (?)
    4. อนุทยํ (พหูสุ) ทฺวิตฺตการณํ ปน คเวสิตพฺพํ
    5. viññūhi (?)
    6. anudayaṃ (bahūsu) dvittakāraṇaṃ pana gavesitabbaṃ



    Related texts:



    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) / ๓. จนฺทูปมสุตฺตวณฺณนา • 3. Candūpamasuttavaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) / ๓. จนฺทูปมสุตฺตวณฺณนา • 3. Candūpamasuttavaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact