A World of Knowledge
    Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / เถรีคาถาปาฬิ • Therīgāthāpāḷi

    ๓. จาปาเถรีคาถา

    3. Cāpātherīgāthā

    ๒๙๒.

    292.

    ‘‘ลฎฺฐิหโตฺถ ปุเร อาสิ, โส ทานิ มิคลุทฺทโก;

    ‘‘Laṭṭhihattho pure āsi, so dāni migaluddako;

    อาสาย ปลิปา โฆรา, นาสกฺขิ ปารเมตเวฯ

    Āsāya palipā ghorā, nāsakkhi pārametave.

    ๒๙๓.

    293.

    ‘‘สุมตฺตํ มํ มญฺญมานา, จาปา ปุตฺตมโตสยิ;

    ‘‘Sumattaṃ maṃ maññamānā, cāpā puttamatosayi;

    จาปาย พนฺธนํ เฉตฺวา, ปพฺพชิสฺสํ ปุโนปหํฯ

    Cāpāya bandhanaṃ chetvā, pabbajissaṃ punopahaṃ.

    ๒๙๔.

    294.

    ‘‘มา เม กุชฺฌิ มหาวีร, มา เม กุชฺฌิ มหามุนิ;

    ‘‘Mā me kujjhi mahāvīra, mā me kujjhi mahāmuni;

    น หิ โกธปเรตสฺส, สุทฺธิ อตฺถิ กุโต ตโปฯ

    Na hi kodhaparetassa, suddhi atthi kuto tapo.

    ๒๙๕.

    295.

    ‘‘ปกฺกมิสฺสญฺจ นาฬาโต, โกธ นาฬาย วจฺฉติ;

    ‘‘Pakkamissañca nāḷāto, kodha nāḷāya vacchati;

    พนฺธนฺตี อิตฺถิรูเปน, สมเณ ธมฺมชีวิโน’’ 1

    Bandhantī itthirūpena, samaṇe dhammajīvino’’ 2.

    ๒๙๖.

    296.

    ‘‘เอหิ กาฬ นิวตฺตสฺสุ, ภุญฺช กาเม ยถา ปุเร;

    ‘‘Ehi kāḷa nivattassu, bhuñja kāme yathā pure;

    อหญฺจ เต วสีกตา, เย จ เม สนฺติ ญาตกา’’ฯ

    Ahañca te vasīkatā, ye ca me santi ñātakā’’.

    ๒๙๗.

    297.

    ‘‘เอโตฺต จาเป จตุพฺภาคํ, ยถา ภาสสิ ตฺวญฺจ เม;

    ‘‘Etto cāpe catubbhāgaṃ, yathā bhāsasi tvañca me;

    ตยิ รตฺตสฺส โปสสฺส, อุฬารํ วต ตํ สิยา’’ฯ

    Tayi rattassa posassa, uḷāraṃ vata taṃ siyā’’.

    ๒๙๘.

    298.

    ‘‘กาฬงฺคินิํว ตกฺการิํ, ปุปฺผิตํ คิริมุทฺธนิ;

    ‘‘Kāḷaṅginiṃva takkāriṃ, pupphitaṃ girimuddhani;

    ผุลฺลํ ทาลิมลฎฺฐิํว, อโนฺตทีเปว ปาฎลิํฯ

    Phullaṃ dālimalaṭṭhiṃva, antodīpeva pāṭaliṃ.

    ๒๙๙.

    299.

    ‘‘หริจนฺทนลิตฺตงฺคิํ, กาสิกุตฺตมธารินิํ;

    ‘‘Haricandanalittaṅgiṃ, kāsikuttamadhāriniṃ;

    ตํ มํ รูปวติํ สนฺติํ, กสฺส โอหาย คจฺฉสิ’’ฯ

    Taṃ maṃ rūpavatiṃ santiṃ, kassa ohāya gacchasi’’.

    ๓๐๐.

    300.

    ‘‘สากุนฺติโกว สกุณิํ 3, ยถา พนฺธิตุมิจฺฉติ;

    ‘‘Sākuntikova sakuṇiṃ 4, yathā bandhitumicchati;

    อาหริเมน รูเปน, น มํ ตฺวํ พาธยิสฺสสิ’’ฯ

    Āharimena rūpena, na maṃ tvaṃ bādhayissasi’’.

    ๓๐๑.

    301.

    ‘‘อิมญฺจ เม ปุตฺตผลํ, กาฬ อุปฺปาทิตํ ตยา;

    ‘‘Imañca me puttaphalaṃ, kāḷa uppāditaṃ tayā;

    ตํ มํ ปุตฺตวติํ สนฺติํ, กสฺส โอหาย คจฺฉสิ’’ฯ

    Taṃ maṃ puttavatiṃ santiṃ, kassa ohāya gacchasi’’.

    ๓๐๒.

    302.

    ‘‘ชหนฺติ ปุเตฺต สปฺปญฺญา, ตโต ญาตี ตโต ธนํ;

    ‘‘Jahanti putte sappaññā, tato ñātī tato dhanaṃ;

    ปพฺพชนฺติ มหาวีรา, นาโค เฉตฺวาว พนฺธนํ’’ฯ

    Pabbajanti mahāvīrā, nāgo chetvāva bandhanaṃ’’.

    ๓๐๓.

    303.

    ‘‘อิทานิ เต อิมํ ปุตฺตํ, ทเณฺฑน ฉุริกาย วา;

    ‘‘Idāni te imaṃ puttaṃ, daṇḍena churikāya vā;

    ภูมิยํ วา นิสุมฺภิสฺสํ 5, ปุตฺตโสกา น คจฺฉสิ’’ฯ

    Bhūmiyaṃ vā nisumbhissaṃ 6, puttasokā na gacchasi’’.

    ๓๐๔.

    304.

    ‘‘สเจ ปุตฺตํ สิงฺคาลานํ, กุกฺกุรานํ ปทาหิสิ;

    ‘‘Sace puttaṃ siṅgālānaṃ, kukkurānaṃ padāhisi;

    น มํ ปุตฺตกเตฺต ชมฺมิ, ปุนราวตฺตยิสฺสสิ’’ฯ

    Na maṃ puttakatte jammi, punarāvattayissasi’’.

    ๓๐๕.

    305.

    ‘‘หนฺท โข ทานิ ภทฺทเนฺต, กุหิํ กาฬ คมิสฺสสิ;

    ‘‘Handa kho dāni bhaddante, kuhiṃ kāḷa gamissasi;

    กตมํ คามนิคมํ, นครํ ราชธานิโย’’ฯ

    Katamaṃ gāmanigamaṃ, nagaraṃ rājadhāniyo’’.

    ๓๐๖.

    306.

    ‘‘อหุมฺห ปุเพฺพ คณิโน, อสฺสมณา สมณมานิโน;

    ‘‘Ahumha pubbe gaṇino, assamaṇā samaṇamānino;

    คาเมน คามํ วิจริมฺห, นคเร ราชธานิโยฯ

    Gāmena gāmaṃ vicarimha, nagare rājadhāniyo.

    ๓๐๗.

    307.

    ‘‘เอโส หิ ภควา พุโทฺธ, นทิํ เนรญฺชรํ ปติ;

    ‘‘Eso hi bhagavā buddho, nadiṃ nerañjaraṃ pati;

    สพฺพทุกฺขปฺปหานาย, ธมฺมํ เทเสติ ปาณินํ;

    Sabbadukkhappahānāya, dhammaṃ deseti pāṇinaṃ;

    ตสฺสาหํ สนฺติกํ คจฺฉํ, โส เม สตฺถา ภวิสฺสติ’’ฯ

    Tassāhaṃ santikaṃ gacchaṃ, so me satthā bhavissati’’.

    ๓๐๘.

    308.

    ‘‘วนฺทนํ ทานิ วชฺชาสิ, โลกนาถํ อนุตฺตรํ;

    ‘‘Vandanaṃ dāni vajjāsi, lokanāthaṃ anuttaraṃ;

    ปทกฺขิณญฺจ กตฺวาน, อาทิเสยฺยาสิ ทกฺขิณํ’’ฯ

    Padakkhiṇañca katvāna, ādiseyyāsi dakkhiṇaṃ’’.

    ๓๐๙.

    309.

    ‘‘เอตํ โข ลพฺภมเมฺหหิ, ยถา ภาสสิ ตฺวญฺจ เม;

    ‘‘Etaṃ kho labbhamamhehi, yathā bhāsasi tvañca me;

    วนฺทนํ ทานิ เต วชฺชํ, โลกนาถํ อนุตฺตรํ;

    Vandanaṃ dāni te vajjaṃ, lokanāthaṃ anuttaraṃ;

    ปทกฺขิณญฺจ กตฺวาน, อาทิสิสฺสามิ ทกฺขิณํ’’ฯ

    Padakkhiṇañca katvāna, ādisissāmi dakkhiṇaṃ’’.

    ๓๑๐.

    310.

    ตโต จ กาโฬ ปกฺกามิ, นทิํ เนรญฺชรํ ปติ;

    Tato ca kāḷo pakkāmi, nadiṃ nerañjaraṃ pati;

    โส อทฺทสาสิ สมฺพุทฺธํ, เทเสนฺตํ อมตํ ปทํฯ

    So addasāsi sambuddhaṃ, desentaṃ amataṃ padaṃ.

    ๓๑๑.

    311.

    ทุกฺขํ ทุกฺขสมุปฺปาทํ, ทุกฺขสฺส จ อติกฺกมํ;

    Dukkhaṃ dukkhasamuppādaṃ, dukkhassa ca atikkamaṃ;

    อริยํ จฎฺฐงฺคิกํ มคฺคํ, ทุกฺขูปสมคามินํฯ

    Ariyaṃ caṭṭhaṅgikaṃ maggaṃ, dukkhūpasamagāminaṃ.

    ๓๑๒.

    312.

    ตสฺส ปาทานิ วนฺทิตฺวา, กตฺวาน นํ 7 ปทกฺขิณํ;

    Tassa pādāni vanditvā, katvāna naṃ 8 padakkhiṇaṃ;

    จาปาย อาทิสิตฺวาน, ปพฺพชิํ อนคาริยํ;

    Cāpāya ādisitvāna, pabbajiṃ anagāriyaṃ;

    ติโสฺส วิชฺชา อนุปฺปตฺตา, กตํ พุทฺธสฺส สาสนํฯ

    Tisso vijjā anuppattā, kataṃ buddhassa sāsanaṃ.

    … จาปา เถรี…ฯ

    … Cāpā therī….







    Footnotes:
    1. ธมฺมชีวิเน (ก.)
    2. dhammajīvine (ka.)
    3. สกุณํ (สฺยา.)
    4. sakuṇaṃ (syā.)
    5. นิสุเมฺภยฺยํ (สี.)
    6. nisumbheyyaṃ (sī.)
    7. กตฺวานหํ (สี.)
    8. katvānahaṃ (sī.)



    Related texts:



    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / ขุทฺทกนิกาย (อฎฺฐกถา) • Khuddakanikāya (aṭṭhakathā) / เถรีคาถา-อฎฺฐกถา • Therīgāthā-aṭṭhakathā / ๓. จาปาเถรีคาถาวณฺณนา • 3. Cāpātherīgāthāvaṇṇanā


    © 1991-2024 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact