Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย (ฎีกา) • Aṅguttaranikāya (ṭīkā) |
๒. จรวโคฺค
2. Caravaggo
๑. จรสุตฺตวณฺณนา
1. Carasuttavaṇṇanā
๑๑. ทุติยสฺส ปฐเม จรโตติ คจฺฉนฺตสฺส, จงฺกมนฺตสฺส วาฯ อุปฺปชฺชติ กามวิตโกฺก วาติ วตฺถุกาเมสุ อวีตราคตาย ตาทิเส ปจฺจเย กามปฎิสํยุโตฺต วา วิตโกฺก อุปฺปชฺชติ เจ , ยทิ อุปฺปชฺชติฯ พฺยาปาทวิตโกฺก วา วิหิํสาวิตโกฺก วาติ อาฆาตวินเย วิเสเสน จิตฺตสฺส อทมิตตฺตา อาฆาตนิมิเตฺต พฺยาปาทปฎิสํยุโตฺต วา วิตโกฺก, เลฑฺฑุทณฺฑาทีติ ปรหิํสนวเสน วิหิํสาปฎิสํยุโตฺต วา วิตโกฺก อุปฺปชฺชติ เจติ สมฺพโนฺธฯ ตํ เจ ภิกฺขุ อธิวาเสตีติ ตํ ยถาวุตฺตํ กามวิตกฺกาทิํ ยถาปจฺจยํ อตฺตโน จิเตฺต อุปฺปนฺนํ ‘‘อิติปายํ วิตโกฺก ปาปโก, อิติปิ อกุสโล, อิติปิ สาวโชฺช, โส จ โข อตฺตพฺยาพาธาย สํวตฺตตี’’ติอาทินา นเยน ปจฺจเวกฺขณาย อภาวโต อธิวาเสติ อตฺตโน จิตฺตํ อาโรเปตฺวา วาเสติฯ อธิวาเสโนฺตเยว จ นปฺปชหติ ตทงฺคาทิปฺปหานวเสน น ปฎินิสฺสชฺชติฯ ตโต เอว จ น วิโนเทติ อตฺตโน จิตฺตสนฺตานโต น นุทติ น นีหรติฯ ตถา อวิโนทนโต น พฺยนฺตีกโรติ น วิคตนฺตํ กโรติฯ อาตาปี ปหิตโตฺต ยถา เตสํ อโนฺตปิ นาวสิสฺสติ อนฺตมโส ภงฺคมตฺตมฺปิ, เอวํ กโรติ, อยํ ปน ตถา น กโรตีติ อโตฺถฯ ตถาภูโต ปน น อนภาวํ คเมติ อนุ อนุ อภาวํ น คเมติฯ น ปชหติ เจ, น วิโนเทติ เจติ อิติอาทินา เจ-สทฺทํ โยเชตฺวา อโตฺถ เวทิตโพฺพฯ
11. Dutiyassa paṭhame caratoti gacchantassa, caṅkamantassa vā. Uppajjati kāmavitakko vāti vatthukāmesu avītarāgatāya tādise paccaye kāmapaṭisaṃyutto vā vitakko uppajjati ce , yadi uppajjati. Byāpādavitakko vā vihiṃsāvitakko vāti āghātavinaye visesena cittassa adamitattā āghātanimitte byāpādapaṭisaṃyutto vā vitakko, leḍḍudaṇḍādīti parahiṃsanavasena vihiṃsāpaṭisaṃyutto vā vitakko uppajjati ceti sambandho. Taṃ ce bhikkhu adhivāsetīti taṃ yathāvuttaṃ kāmavitakkādiṃ yathāpaccayaṃ attano citte uppannaṃ ‘‘itipāyaṃ vitakko pāpako, itipi akusalo, itipi sāvajjo, so ca kho attabyābādhāya saṃvattatī’’tiādinā nayena paccavekkhaṇāya abhāvato adhivāseti attano cittaṃ āropetvā vāseti. Adhivāsentoyeva ca nappajahati tadaṅgādippahānavasena na paṭinissajjati. Tato eva ca na vinodeti attano cittasantānato na nudati na nīharati. Tathā avinodanato na byantīkaroti na vigatantaṃ karoti. Ātāpī pahitatto yathā tesaṃ antopi nāvasissati antamaso bhaṅgamattampi, evaṃ karoti, ayaṃ pana tathā na karotīti attho. Tathābhūto pana na anabhāvaṃ gameti anu anu abhāvaṃ na gameti. Na pajahati ce, na vinodeti ceti itiādinā ce-saddaṃ yojetvā attho veditabbo.
เอวํภูโตติ เอวํ กามวิตกฺกาทีหิ ปาปวิตเกฺกหิ สมงฺคิภูโตฯ อนาตาปีติ กิเลสานํ อาตาปยิกสฺส วีริยสฺส อภาเวน อนาตาปีฯ ปาปุตฺราสลกฺขณสฺส โอตฺตปฺปสฺส อภาเวน อโนตฺตาปีฯ สตตํ สมิตํ สพฺพกาลํ นิรนฺตรํฯ กุสีโต หีนวีริโยติ กุสเลหิ ธเมฺมหิ ปริหาปยิตฺวา อกุสลปเกฺข กุจฺฉิตํ สีทนโต โกสชฺชสมนฺนาคเมน จ กุสีโต, สมฺมปฺปธานวีริยาภาเวน หีนวีริโย วีริยวิรหิโตติ วุจฺจติ กถียติฯ ฐิตสฺสาติ คมนํ อุปจฺฉินฺทิตฺวา ติฎฺฐโตฯ สยนอิริยาปถสฺส วิเสสโต โกสชฺชปกฺขิกตฺตา ยถา ตํสมงฺคิโน ภาวิตตฺตา สมฺภวนฺติ, ตํ ทเสฺสตุํ ‘‘ชาครสฺสา’’ติ วุตฺตํฯ
Evaṃbhūtoti evaṃ kāmavitakkādīhi pāpavitakkehi samaṅgibhūto. Anātāpīti kilesānaṃ ātāpayikassa vīriyassa abhāvena anātāpī. Pāputrāsalakkhaṇassa ottappassa abhāvena anottāpī. Satataṃ samitaṃ sabbakālaṃ nirantaraṃ. Kusīto hīnavīriyoti kusalehi dhammehi parihāpayitvā akusalapakkhe kucchitaṃ sīdanato kosajjasamannāgamena ca kusīto, sammappadhānavīriyābhāvena hīnavīriyo vīriyavirahitoti vuccati kathīyati. Ṭhitassāti gamanaṃ upacchinditvā tiṭṭhato. Sayanairiyāpathassa visesato kosajjapakkhikattā yathā taṃsamaṅgino bhāvitattā sambhavanti, taṃ dassetuṃ ‘‘jāgarassā’’ti vuttaṃ.
สุกฺกปเกฺข ตเญฺจ ภิกฺขุ นาธิวาเสตีติ อารทฺธวีริยสฺสปิ วิหรโต อนาทิมติ สํสาเร จิรกาลภาวิตตฺตา ตถารูปปจฺจยสมาโยเค สติสโมฺมเสน วา กามวิตกฺกาทิ อุปฺปชฺชติ เจ, ตํ ภิกฺขุ อตฺตโน จิตฺตํ อาโรเปตฺวา น วาเสติ, อพฺภนฺตเร น วาเสตีติ อโตฺถฯ อนธิวาเสโนฺต กิํ กโรติ? ปชหติ ฉเฑฺฑติฯ กิํ กจวรํ วิย ปิฎเกนาติ? น, อปิจ โข ตํ วิโนเทติ นุทติ นีหรติฯ กิํ พลิพทฺทํ วิย ปโตเทนาติ? น, อถ โข พฺยนฺตีกโรติ วิคตนฺตํ กโรติ, ยถา เตสํ อโนฺตปิ นาวสิสฺสติ อนฺตมโส ภงฺคมตฺตมฺปิ, ตถา เต กโรติฯ กถํ ปน เต ตถา กโรติ? อนภาวํ คเมติ อนุ อนุ อภาวํ คเมติ, วิกฺขมฺภนปฺปหาเนน ยถา สุวิกฺขมฺภิตา โหนฺติ, ตถา เน กโรตีติ วุตฺตํ โหติฯ
Sukkapakkhe tañce bhikkhu nādhivāsetīti āraddhavīriyassapi viharato anādimati saṃsāre cirakālabhāvitattā tathārūpapaccayasamāyoge satisammosena vā kāmavitakkādi uppajjati ce, taṃ bhikkhu attano cittaṃ āropetvā na vāseti, abbhantare na vāsetīti attho. Anadhivāsento kiṃ karoti? Pajahati chaḍḍeti. Kiṃ kacavaraṃ viya piṭakenāti? Na, apica kho taṃ vinodeti nudati nīharati. Kiṃ balibaddaṃ viya patodenāti? Na, atha kho byantīkaroti vigatantaṃ karoti, yathā tesaṃ antopi nāvasissati antamaso bhaṅgamattampi, tathā te karoti. Kathaṃ pana te tathā karoti? Anabhāvaṃ gameti anu anu abhāvaṃ gameti, vikkhambhanappahānena yathā suvikkhambhitā honti, tathā ne karotīti vuttaṃ hoti.
เอวํภูโตติอาทีสุ เอวํ กามวิตกฺกาทีนํ อนธิวาเสน สุวิสุทฺธาสโย สมาโน ตาย จ อาสยสมฺปตฺติยา ตนฺนิมิตฺตาย จ ปโยคสมฺปตฺติยา ปริสุทฺธสีโล อินฺทฺริเยสุ คุตฺตทฺวาโร โภชเน มตฺตญฺญู สติสมฺปชเญฺญน สมนฺนาคโต ชาคริยํ อนุยุโตฺต ตทงฺคาทิวเสน กิเลสานํ อาตาปนลกฺขเณน วีริเยน สมนฺนาคตตฺตา อาตาปีฯ สพฺพโส ปาปุตฺราเสน สมนฺนาคตตฺตา โอตฺตาปี สตตํ รตฺตินฺทิวํฯ สมิตํ นิรนฺตรํ สมถวิปสฺสนานุโยควเสน จตุพฺพิธสมฺมปฺปธานสิทฺธิยา อารทฺธวีริโย ปหิตโตฺตฯ นิพฺพานํ ปติ เปสิตจิโตฺตติ วุจฺจติ กถียตีติ อโตฺถฯ
Evaṃbhūtotiādīsu evaṃ kāmavitakkādīnaṃ anadhivāsena suvisuddhāsayo samāno tāya ca āsayasampattiyā tannimittāya ca payogasampattiyā parisuddhasīlo indriyesu guttadvāro bhojane mattaññū satisampajaññena samannāgato jāgariyaṃ anuyutto tadaṅgādivasena kilesānaṃ ātāpanalakkhaṇena vīriyena samannāgatattā ātāpī. Sabbaso pāputrāsena samannāgatattā ottāpī satataṃ rattindivaṃ. Samitaṃ nirantaraṃ samathavipassanānuyogavasena catubbidhasammappadhānasiddhiyā āraddhavīriyo pahitatto. Nibbānaṃ pati pesitacittoti vuccati kathīyatīti attho.
คาถาสุ เคหนิสฺสิตนฺติ เอตฺถ เคหวาสีหิ อปริจฺจตฺตตฺตา เคหวาสิสภาวตฺตา เคหธมฺมตฺตา วา เคหํ วุจฺจติ วตฺถุกาโมฯ อถ วา เคหปฺปฎิพทฺธภาวโต, กิเลสกามานํ นิวาสฎฺฐานภาวโต วา เคหาติ วุจฺจนฺติ, ตํวตฺถุกตฺตา กามวิตกฺกาทิ เคหนิสฺสิตํ นามฯ กุมฺมคฺคปฎิปโนฺนติ ยสฺมา อริยมคฺคสฺส อุปฺปถภาวโต อภิชฺฌาทโย ตเทกฎฺฐธมฺมา จ กุมฺมโคฺค, ตสฺมา กามวิตกฺกาทิพหุโล กุมฺมคฺคปฎิปโนฺนฯ โมหเนเยฺยสุ มุจฺฉิโตติ โมหสํวตฺตนิเยสุ รูปาทีสุ มุจฺฉิโต สมฺมโตฺต อโชฺฌปโนฺนฯ สโมฺพธินฺติ อริยมคฺคญาณํฯ ผุฎฺฐนฺติ ผุสิตุํ ปตฺตุํ ปาโป โส ตาทิโส มิจฺฉาสงฺกปฺปโคจโร ปุคฺคโล อภโพฺพ, น กทาจิ ตํ ปาปุณาตีติ อโตฺถฯ
Gāthāsu gehanissitanti ettha gehavāsīhi apariccattattā gehavāsisabhāvattā gehadhammattā vā gehaṃ vuccati vatthukāmo. Atha vā gehappaṭibaddhabhāvato, kilesakāmānaṃ nivāsaṭṭhānabhāvato vā gehāti vuccanti, taṃvatthukattā kāmavitakkādi gehanissitaṃ nāma. Kummaggapaṭipannoti yasmā ariyamaggassa uppathabhāvato abhijjhādayo tadekaṭṭhadhammā ca kummaggo, tasmā kāmavitakkādibahulo kummaggapaṭipanno. Mohaneyyesu mucchitoti mohasaṃvattaniyesu rūpādīsu mucchito sammatto ajjhopanno. Sambodhinti ariyamaggañāṇaṃ. Phuṭṭhanti phusituṃ pattuṃ pāpo so tādiso micchāsaṅkappagocaro puggalo abhabbo, na kadāci taṃ pāpuṇātīti attho.
วิตกฺกํ สมยิตฺวานาติ ยถาวุตฺตํ มิจฺฉาวิตกฺกํ ปฎิสงฺขานภาวนาพเลน วูปสเมตฺวาฯ วิตกฺกูปสเม รโตติ นวนฺนมฺปิ มหาวิตกฺกานํ อจฺจนฺตูปสมภูเต อรหเตฺต, นิพฺพาเน เอว วา อชฺฌาสเยน รโต อภิรโตฯ ภโพฺพ โสติ โส ยถาวุโตฺต สมฺมาปฎิปชฺชมาโน ปุคฺคโล ปุพฺพภาเค สมถวิปสฺสนาพเลน สพฺพวิตเกฺก ยถารหํ ตทงฺคาทิวเสน วูปสเมตฺวา ฐิโต วิปสฺสนํ อุสฺสุกฺกาเปตฺวา มคฺคปฎิปาฎิยา อรหตฺตมคฺคญาณสงฺขาตํ นิพฺพานสงฺขาตญฺจ อนุตฺตรํ สโมฺพธิํ ผุฎฺฐุํ อธิคนฺตุํ ภโพฺพ อรหาฯ เอวเมตฺถ ปาฬิวณฺณนา เวทิตพฺพาฯ
Vitakkaṃ samayitvānāti yathāvuttaṃ micchāvitakkaṃ paṭisaṅkhānabhāvanābalena vūpasametvā. Vitakkūpasame ratoti navannampi mahāvitakkānaṃ accantūpasamabhūte arahatte, nibbāne eva vā ajjhāsayena rato abhirato. Bhabbo soti so yathāvutto sammāpaṭipajjamāno puggalo pubbabhāge samathavipassanābalena sabbavitakke yathārahaṃ tadaṅgādivasena vūpasametvā ṭhito vipassanaṃ ussukkāpetvā maggapaṭipāṭiyā arahattamaggañāṇasaṅkhātaṃ nibbānasaṅkhātañca anuttaraṃ sambodhiṃ phuṭṭhuṃ adhigantuṃ bhabbo arahā. Evamettha pāḷivaṇṇanā veditabbā.
จรสุตฺตวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Carasuttavaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย • Aṅguttaranikāya / ๑. จรสุตฺตํ • 1. Carasuttaṃ
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / องฺคุตฺตรนิกาย (อฎฺฐกถา) • Aṅguttaranikāya (aṭṭhakathā) / ๑. จรสุตฺตวณฺณนา • 1. Carasuttavaṇṇanā