Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā

    จตฺตาโรนิสฺสยาทิกถาวณฺณนา

    Cattāronissayādikathāvaṇṇanā

    ๑๒๘-๙. ‘‘ตาวเทว ฉายา เมตพฺพา’’ติอาทิ ‘‘ภิกฺขูนํ ปาเท วนฺทาเปตฺวา’’ติ วจนโต เถราเถรภาวชานนตฺถํ วุตฺตํฯ ‘‘จิเรน อคมาสี’’ติ กิร โปราณปาโฐ, จิรํ อกาสีติ จตฺถิฯ

    128-9.‘‘Tāvadeva chāyā metabbā’’tiādi ‘‘bhikkhūnaṃ pāde vandāpetvā’’ti vacanato therātherabhāvajānanatthaṃ vuttaṃ. ‘‘Cirena agamāsī’’ti kira porāṇapāṭho, ciraṃ akāsīti catthi.

    ๑๓๐. อนาปตฺติ สโมฺภเค สํวาเสติ อุกฺขิตฺตเกน สทฺธิํ สโมฺภคสํวาสปจฺจยา ปาจิตฺติยาปตฺติ ปญฺญตฺตา, ตโต อนาปตฺตีติ อโตฺถฯ กถํ ปญฺญายตีติ? สํวาสคฺคหเณฯ อลชฺชินา สทฺธิํ สโมฺภคปจฺจยา อาปชฺชิตพฺพํ ทุกฺกฎํ ปน อาปชฺชติ เอว, น สํวาสปจฺจยาฯ น หิ อลชฺชินา สทฺธิํ สํวาโส ปฎิกฺขิโตฺตฯ สํวาโส ปเนตฺถ สหเสยฺยปฺปโหนเก อาวาเส สหวาโส, น ‘‘ปาราชิโก โหติ อสํวาโส’’ติ เอตฺถ วุตฺตสํวาโสฯ อยํ สํวาโส อุกฺขิตฺตเกน สทฺธิํ น วฎฺฎติฯ อลชฺชินา สทฺธิํ เอกโจฺจ วฎฺฎติฯ ธมฺมสโมฺภควินิมุโตฺตเวตโร ฯ อิทํ ปน ‘‘อุกฺขิตฺตโก วิพฺภมี’’ติอาทิสุตฺตํ อิมสฺมิํ อุปสมฺปาเทตพฺพานุปสมฺปาเทตพฺพทีปนสามญฺญโต วุตฺตํฯ กิญฺจ ภิโยฺย ปฎิปตฺติกฺกมโตว อาปตฺติโต สุทฺธิ โหติ, น วิพฺภเมน, ตสฺมา อุปสมฺปโนฺน ภิกฺขุ อนฺตมโส ทุพฺภาสิตมฺปิ อาปชฺชิตฺวา อปรภาเค วิพฺภมิตฺวา อาคโต อุปสมฺปชฺชติ, ตํ อาปตฺติํ เทเสตฺวาว สุชฺฌติ, น อญฺญถาติ อุปสมฺปนฺนสฺส สุทฺธิกฺกมทสฺสนตฺถํฯ อสาธารณาปตฺติยา อทสฺสนปจฺจยา อุกฺขิตฺตกสฺส ลิงฺคปริวตฺตเนน อาปตฺติโต วุฎฺฐิตสฺส ปุน เจ ปกติลิงฺคเมวุปฺปชฺชติ, นานาสํวาสกตาว, วิพฺภมิตฺวา อาคเตปิ ยถาวุตฺตนเยเนว อุปสมฺปาเทตฺวา น วุฎฺฐิตตฺตาติ เจ? น ลิงฺคนฺตรปาตุภาวาฯ น วิพฺภเมน กมฺมาสุชฺฌนโตฯ น กมฺมาสุชฺฌเน ปุน อุปสมฺปทากมฺมวิปตฺติปฺปสงฺคโตฯ น จ กมฺมวิปตฺติ, น จ กมฺมปฎิปฺปสฺสทฺธิฯ วิพฺภเมน จ อนุปสมฺปโนฺน นานาสํวาสกภาเวน กมฺมํ โกเปติ ธมฺมิสฺสเรน อาหจฺจ ภาสิตตฺตาฯ เตเนว ‘‘ปสฺสิสฺสสี’’ติ อนาคตวจนํ กตํฯ ตาทิโส ปน คหโฎฺฐ นิกฺขิตฺตวตฺตปาริวาสิโก วิย ปกตตฺตภูมิยํ วิพฺภมาทินา อนุปสมฺปนฺนปกติยํเยว ติฎฺฐตีติ อิมสฺส สพฺพสฺสปิ อตฺถวิกปฺปสฺส ทสฺสนตฺถมิทํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํฯ ปุเพฺพ วุตฺตปฺปกาโร ปน ปริวตฺติตลิโงฺค หุตฺวา ปุน ปกติลิเงฺค ฐิตอุกฺขิตฺตโก ปุน ปุจฺฉิตโพฺพ ‘‘ปสฺสสี’’ติฯ ‘‘อาม ปสฺสามี’’ติ วทโนฺต โอสาเรตโพฺพฯ ‘‘เทเสหี’’ติ น วตฺตโพฺพ ลิงฺคปริวตฺตเนน วุฎฺฐิตตฺตาฯ ตปฺปฎิกโมฺม อุกฺขิตฺตโก ปุจฺฉิตโพฺพ ‘‘ปฎิกมฺมํ กิํ เต กต’’นฺติ, ‘‘อาม กต’’นฺติ วทโนฺต โอสาเรตโพฺพฯ ‘‘กตฺตพฺพํ เม ปฎิกมฺมํ น โหตี’’ติ วทโนฺต น โอสาเรตโพฺพติ เอเกฯ อสาธารณาปตฺติมฺหิ อิทํ วิธานํ, น สาธารณายฯ ตตฺถ อุกฺขิตฺตโก ลิงฺคปริวตฺตเนเนว ปฎิปฺปสฺสทฺธกโมฺมติ เอเกฯ วิจาเรตฺวา ยุตฺตตรํ คเหตพฺพนฺติ อาจริโยฯ อนุคณฺฐิปเท ปน ‘‘อลชฺชิปริโภโค สหตฺถทานาทิวเสน ปริจฺฉินฺทิตโพฺพ, ‘สารณียธมฺมปูรกาทโย ทเสฺสตฺวา อลชฺชิสฺส สหตฺถา ทาตุํ วฎฺฎตี’ติ วทนฺตานํ วาโท ปฎิเสเธตโพฺพฯ กถํ? อุกฺขิตฺตกสฺส สหตฺถา ทาตุํ น วฎฺฎตีติ วินิจฺฉยานุสาเรนฯ ทาเปตุํ ปน วฎฺฎเตวาติ จฯ กิญฺจาปิ อลชฺชิปริโภควเสน ทุกฺกฎํ, อถ โข อยํ อลชฺชี น โหติ, ตสฺมา สพฺพากาเรน นิราปตฺติตํ สนฺธาย ‘อนาปตฺติ สโมฺภเค สํวาเส’ติ วุตฺตํฯ กถํ ปญฺญายตีติ? วิเญฺญโยฺย อตฺถโต อุจฺฉุรสกสฎานํ สตฺตาหกาลิกยาวชีวิกตฺตา ‘วฎฺฎติ วิกาเล อุจฺฉุํ ขาทิตุ’นฺติ สญฺญํ อุปฺปาเทตฺวา ตํ ขาทิตฺวา ตปฺปจฺจยา ปาจิตฺติยํ น ปสฺสติ, วฎฺฎตีติ ตถาสญฺญิตายฯ โย วา ปน อาปตฺติํ อาปนฺนภาวํ ปฎิชานิตฺวา ‘น ปฎิกโรมี’ติ อภินิวิสติ, อิเม เทฺว –

    130.Anāpattisambhoge saṃvāseti ukkhittakena saddhiṃ sambhogasaṃvāsapaccayā pācittiyāpatti paññattā, tato anāpattīti attho. Kathaṃ paññāyatīti? Saṃvāsaggahaṇe. Alajjinā saddhiṃ sambhogapaccayā āpajjitabbaṃ dukkaṭaṃ pana āpajjati eva, na saṃvāsapaccayā. Na hi alajjinā saddhiṃ saṃvāso paṭikkhitto. Saṃvāso panettha sahaseyyappahonake āvāse sahavāso, na ‘‘pārājiko hoti asaṃvāso’’ti ettha vuttasaṃvāso. Ayaṃ saṃvāso ukkhittakena saddhiṃ na vaṭṭati. Alajjinā saddhiṃ ekacco vaṭṭati. Dhammasambhogavinimuttovetaro . Idaṃ pana ‘‘ukkhittako vibbhamī’’tiādisuttaṃ imasmiṃ upasampādetabbānupasampādetabbadīpanasāmaññato vuttaṃ. Kiñca bhiyyo paṭipattikkamatova āpattito suddhi hoti, na vibbhamena, tasmā upasampanno bhikkhu antamaso dubbhāsitampi āpajjitvā aparabhāge vibbhamitvā āgato upasampajjati, taṃ āpattiṃ desetvāva sujjhati, na aññathāti upasampannassa suddhikkamadassanatthaṃ. Asādhāraṇāpattiyā adassanapaccayā ukkhittakassa liṅgaparivattanena āpattito vuṭṭhitassa puna ce pakatiliṅgamevuppajjati, nānāsaṃvāsakatāva, vibbhamitvā āgatepi yathāvuttanayeneva upasampādetvā na vuṭṭhitattāti ce? Na liṅgantarapātubhāvā. Na vibbhamena kammāsujjhanato. Na kammāsujjhane puna upasampadākammavipattippasaṅgato. Na ca kammavipatti, na ca kammapaṭippassaddhi. Vibbhamena ca anupasampanno nānāsaṃvāsakabhāvena kammaṃ kopeti dhammissarena āhacca bhāsitattā. Teneva ‘‘passissasī’’ti anāgatavacanaṃ kataṃ. Tādiso pana gahaṭṭho nikkhittavattapārivāsiko viya pakatattabhūmiyaṃ vibbhamādinā anupasampannapakatiyaṃyeva tiṭṭhatīti imassa sabbassapi atthavikappassa dassanatthamidaṃ vuttanti veditabbaṃ. Pubbe vuttappakāro pana parivattitaliṅgo hutvā puna pakatiliṅge ṭhitaukkhittako puna pucchitabbo ‘‘passasī’’ti. ‘‘Āma passāmī’’ti vadanto osāretabbo. ‘‘Desehī’’ti na vattabbo liṅgaparivattanena vuṭṭhitattā. Tappaṭikammo ukkhittako pucchitabbo ‘‘paṭikammaṃ kiṃ te kata’’nti, ‘‘āma kata’’nti vadanto osāretabbo. ‘‘Kattabbaṃ me paṭikammaṃ na hotī’’ti vadanto na osāretabboti eke. Asādhāraṇāpattimhi idaṃ vidhānaṃ, na sādhāraṇāya. Tattha ukkhittako liṅgaparivattaneneva paṭippassaddhakammoti eke. Vicāretvā yuttataraṃ gahetabbanti ācariyo. Anugaṇṭhipade pana ‘‘alajjiparibhogo sahatthadānādivasena paricchinditabbo, ‘sāraṇīyadhammapūrakādayo dassetvā alajjissa sahatthā dātuṃ vaṭṭatī’ti vadantānaṃ vādo paṭisedhetabbo. Kathaṃ? Ukkhittakassa sahatthā dātuṃ na vaṭṭatīti vinicchayānusārena. Dāpetuṃ pana vaṭṭatevāti ca. Kiñcāpi alajjiparibhogavasena dukkaṭaṃ, atha kho ayaṃ alajjī na hoti, tasmā sabbākārena nirāpattitaṃ sandhāya ‘anāpatti sambhoge saṃvāse’ti vuttaṃ. Kathaṃ paññāyatīti? Viññeyyo atthato ucchurasakasaṭānaṃ sattāhakālikayāvajīvikattā ‘vaṭṭati vikāle ucchuṃ khāditu’nti saññaṃ uppādetvā taṃ khāditvā tappaccayā pācittiyaṃ na passati, vaṭṭatīti tathāsaññitāya. Yo vā pana āpattiṃ āpannabhāvaṃ paṭijānitvā ‘na paṭikaromī’ti abhinivisati, ime dve –

    ‘สญฺจิจฺจ อาปตฺติํ อาปชฺชติ, อาปตฺติํ ปริคูหติ;

    ‘Sañcicca āpattiṃ āpajjati, āpattiṃ parigūhati;

    อคติคมนญฺจ คจฺฉติ, เอทิโส วุจฺจติ อลชฺชีปุคฺคโล’ติฯ (ปริ. ๓๕๙) –

    Agatigamanañca gacchati, ediso vuccati alajjīpuggalo’ti. (pari. 359) –

    วุตฺตลกฺขเณ อปตนโต อลชฺชิโน น โหนฺติ, ตสฺมา ‘โย อาปตฺติเทสนปฎิกมฺมานิ น กโรติ, เตน สทฺธิํ สโมฺภคาทิกรเณ อนาปตฺตี’ติ วิเสเสตฺวา วุตฺตวจเนน, อิตเรนปิ สทฺธิํ กิญฺจาปิ รูปิยสํโวหาโร น โหติ, อถ โข กยวิกฺกเยน อาปตฺติ โหติเยวาติ นโย ทิโนฺน โหติ, ปญฺจหิ สทฺธิํ สพฺพถาปิ อนาปตฺตีติ นโย จฯ เอวํ สาปตฺติฎฺฐาเนสุ วิเสเสตฺวา จ วจนโต อิธ ตถา อวุตฺตตฺตา เตน สห อลชฺชิปริโภโค นตฺถิฯ ภชาปิยมาโน ปน อลชฺชิปกฺขํ ภชตีติ อิมินาปิ อุปาเยน สพฺพตฺถ ตํ ตํ สํสนฺทิตฺวา อโตฺถ ปริเยสิตโพฺพติ อปเรฯ อาจริยา ปน เอวํ น วทนฺตี’’ติ วุตฺตํฯ ‘‘สจาหํ น ปสฺสิสฺสามีติ วทติ, น ปพฺพาเชตโพฺพ’’ติ วุตฺตตฺตา ปุเพฺพ อาปนฺนาปตฺติโย อุปฺปพฺพชิตสฺสาปิ น ปฎิปฺปสฺสมฺภนฺตีติ สิทฺธํ, เตเนว อาจริยา อาปตฺติํ เทสาเปตฺวาว สิกฺขาปจฺจกฺขานํ การาเปนฺตีติ จ อนาปตฺติ สโมฺภเค สํวาเสติ อิทํ ปุเพฺพ อาปนฺนํ สนฺติํ เอว อาปตฺติํ น ปสฺสตีติ อาสงฺกิตโพฺพฯ สา ปฎิปฺปสฺสทฺธาติ ญาปนตฺถํ วุตฺตนฺติ จ เอเกฯ ‘‘ปสฺสิสฺสสี’’ติ คหฎฺฐตฺตา เทเสตุํ น วฎฺฎตีติ อนาคตวเสน วุตฺตํฯ ‘‘อุปสมฺปาเทตฺวา ปสฺสิสฺสสี’’ติ ปริวาสาทินา กตฺตพฺพสฺส อตฺถิภาเวน ‘‘ปสฺสสี’’ติ อวตฺวา อนาคตวเสน วุตฺตํ, โอสาเรตฺวาติ อพฺภานวเสนฯ ตตฺถ ปุน กาตพฺพสฺส อภาวา ‘‘ปสฺสสี’’ติ วุตฺตํฯ อิทํ สพฺพํ สพฺพตฺถ ปฎิชานนํ สนฺธาย วุตฺตํฯ เอกตฺราปิ ปุน น ปฎิชานาติ, เอเตน สห ตสฺสา อาปตฺติยา อนุรูเปน สํวาโส น กาตโพฺพ, อลชฺชิภาเวนาติ วุตฺตํ โหติฯ ทิฎฺฐิยาติอาทีสุ โอสารณํ นาม สมานกมฺมาทินา กรณนฺติ อโตฺถฯ อนาปตฺติ สโมฺภเคติ อุกฺขิตฺตเกน สโมฺภเค อนาปตฺติฯ กสฺมา? อุกฺขิตฺตกกมฺมสฺส คหฎฺฐภาเวน ปฎิปฺปสฺสทฺธตฺตา, เตเนว ‘‘อลพฺภมานาย สามคฺคิยา’’ติ วุตฺตํฯ อิทานิ ภิกฺขุภาเว กตฺตพฺพโตติ เกจิฯ ทฺวีสุปิ วาเรสุ กมฺมปฎิปฺปสฺสทฺธิวิธานํ เตเยว ชานนฺติ, ตสฺมา สพฺพวาเรสุ ยุตฺตมยุตฺตญฺจ สุฎฺฐุ สลฺลเกฺขตฺวา กเถตพฺพํฯ

    Vuttalakkhaṇe apatanato alajjino na honti, tasmā ‘yo āpattidesanapaṭikammāni na karoti, tena saddhiṃ sambhogādikaraṇe anāpattī’ti visesetvā vuttavacanena, itarenapi saddhiṃ kiñcāpi rūpiyasaṃvohāro na hoti, atha kho kayavikkayena āpatti hotiyevāti nayo dinno hoti, pañcahi saddhiṃ sabbathāpi anāpattīti nayo ca. Evaṃ sāpattiṭṭhānesu visesetvā ca vacanato idha tathā avuttattā tena saha alajjiparibhogo natthi. Bhajāpiyamāno pana alajjipakkhaṃ bhajatīti imināpi upāyena sabbattha taṃ taṃ saṃsanditvā attho pariyesitabboti apare. Ācariyā pana evaṃ na vadantī’’ti vuttaṃ. ‘‘Sacāhaṃ na passissāmīti vadati, na pabbājetabbo’’ti vuttattā pubbe āpannāpattiyo uppabbajitassāpi na paṭippassambhantīti siddhaṃ, teneva ācariyā āpattiṃ desāpetvāva sikkhāpaccakkhānaṃ kārāpentīti ca anāpatti sambhoge saṃvāseti idaṃ pubbe āpannaṃ santiṃ eva āpattiṃ na passatīti āsaṅkitabbo. Sā paṭippassaddhāti ñāpanatthaṃ vuttanti ca eke. ‘‘Passissasī’’ti gahaṭṭhattā desetuṃ na vaṭṭatīti anāgatavasena vuttaṃ. ‘‘Upasampādetvā passissasī’’ti parivāsādinā kattabbassa atthibhāvena ‘‘passasī’’ti avatvā anāgatavasena vuttaṃ, osāretvāti abbhānavasena. Tattha puna kātabbassa abhāvā ‘‘passasī’’ti vuttaṃ. Idaṃ sabbaṃ sabbattha paṭijānanaṃ sandhāya vuttaṃ. Ekatrāpi puna na paṭijānāti, etena saha tassā āpattiyā anurūpena saṃvāso na kātabbo, alajjibhāvenāti vuttaṃ hoti. Diṭṭhiyātiādīsu osāraṇaṃ nāma samānakammādinā karaṇanti attho. Anāpatti sambhogeti ukkhittakena sambhoge anāpatti. Kasmā? Ukkhittakakammassa gahaṭṭhabhāvena paṭippassaddhattā, teneva ‘‘alabbhamānāya sāmaggiyā’’ti vuttaṃ. Idāni bhikkhubhāve kattabbatoti keci. Dvīsupi vāresu kammapaṭippassaddhividhānaṃ teyeva jānanti, tasmā sabbavāresu yuttamayuttañca suṭṭhu sallakkhetvā kathetabbaṃ.

    โย ขนฺธกํ ปพฺพชฺชนามเธยฺยํ,

    Yo khandhakaṃ pabbajjanāmadheyyaṃ,

    นานานยํ สาสนมูลภูตํ;

    Nānānayaṃ sāsanamūlabhūtaṃ;

    ญตฺวา ปกาเสติ ปรสฺส สมฺมา,

    Ñatvā pakāseti parassa sammā,

    ตสฺสาธิปจฺจํ มุนิสาสนสฺมินฺติฯ

    Tassādhipaccaṃ munisāsanasminti.

    มหาขนฺธกวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Mahākhandhakavaṇṇanā niṭṭhitā.







    Related texts:



    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / วินยปิฎก (อฎฺฐกถา) • Vinayapiṭaka (aṭṭhakathā) / มหาวคฺค-อฎฺฐกถา • Mahāvagga-aṭṭhakathā / จตฺตาโรนิสฺสยาทิกถา • Cattāronissayādikathā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā / จตฺตาโรนิสฺสยาทิกถาวณฺณนา • Cattāronissayādikathāvaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā / จตฺตาโรนิสฺสยาทิกถาวณฺณนา • Cattāronissayādikathāvaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / ปาจิตฺยาทิโยชนาปาฬิ • Pācityādiyojanāpāḷi / ๖๔. จตฺตาโรนิสฺสยาทิกถา • 64. Cattāronissayādikathā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact