Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā

    จตุพฺพิธวินยาทิกถาวณฺณนา

    Catubbidhavinayādikathāvaṇṇanā

    ๔๕. นีหริตฺวาติ ปาฬิโต อุทฺธริตฺวา, ตถา หิ ‘‘ปญฺจหุปาลิ, อเงฺคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา นานุยุญฺชิตพฺพํฯ กตเมหิ ปญฺจหิ? สุตฺตํ น ชานาติ, สุตฺตานุโลมํ น ชานาตี’’ติอาทิปาฬิโต สุตฺตํ สุตฺตานุโลมญฺจ นีหริํสุฯ ‘‘อนาปตฺติ เอวํ อมฺหากํ อาจริยานํ อุคฺคโห ปริปุจฺฉาติ ภณตี’’ติ เอวมาทิโต อาจริยวาทํฯ ‘‘อายสฺมา อุปาลิ เอวมาห – ‘อนาปตฺติ, อาวุโส, สุปินเนฺตนา’ติ’’ เอวมาทิโต อตฺตโน มติํ นีหริํสุ, สา จ เถรสฺส อตฺตโนมติ สุเตฺตน สงฺคหิตตฺตา สุตฺตํ ชาตํ, เอวมญฺญาปิ สุตฺตาทีหิ สงฺคหิตาว คเหตพฺพา, เนตราติ เวทิตพฺพํฯ อถ วา นีหริตฺวาติ วิภชิตฺวา สาฎฺฐกถํ สกลํ วินยปิฎกํ สุตฺตาทีสุ จตูสุ ปเทเสสุ ปกฺขิปิตฺวา จตุธา วิภชิตฺวา วินยํ ปกาเสสุํ ตพฺพินิมุตฺตสฺส อภาวาติ อธิปฺปาโยฯ วุตฺตนฺติ นาคเสนเตฺถเรน มิลินฺทปเญฺห วุตฺตํฯ กณฺฐาทิวณฺณุปฺปตฺติฎฺฐานกรณาทีหิ อาหริตฺวา อตฺตโน วจีวิญฺญตฺติยาว ภาสิตวจนํ อาหจฺจปทํฯ รโสติ สาโร ‘‘ปตฺตรโส’’ติอาทีสุ (ธ. ส. ๖๒๘-๖๓๐) วิย, ปฎิกฺขิตฺตอนุญฺญาตสุตฺตสาโรติ อโตฺถ, รโสติ วา ลกฺขณํ ปฎิวตฺถุกํ อนุทฺธริตฺวา ลกฺขณานุโลเมน วุตฺตตฺตาฯ ธมฺมสงฺคาหกาทิอาจริยวํเสน อาภตา อฎฺฐกถา อาจริยวํโสติ อาห ‘‘อาจริยวํโสติ อาจริยวาโท’’ติฯ

    45.Nīharitvāti pāḷito uddharitvā, tathā hi ‘‘pañcahupāli, aṅgehi samannāgatena bhikkhunā nānuyuñjitabbaṃ. Katamehi pañcahi? Suttaṃ na jānāti, suttānulomaṃ na jānātī’’tiādipāḷito suttaṃ suttānulomañca nīhariṃsu. ‘‘Anāpatti evaṃ amhākaṃ ācariyānaṃ uggaho paripucchāti bhaṇatī’’ti evamādito ācariyavādaṃ. ‘‘Āyasmā upāli evamāha – ‘anāpatti, āvuso, supinantenā’ti’’ evamādito attano matiṃ nīhariṃsu, sā ca therassa attanomati suttena saṅgahitattā suttaṃ jātaṃ, evamaññāpi suttādīhi saṅgahitāva gahetabbā, netarāti veditabbaṃ. Atha vā nīharitvāti vibhajitvā sāṭṭhakathaṃ sakalaṃ vinayapiṭakaṃ suttādīsu catūsu padesesu pakkhipitvā catudhā vibhajitvā vinayaṃ pakāsesuṃ tabbinimuttassa abhāvāti adhippāyo. Vuttanti nāgasenattherena milindapañhe vuttaṃ. Kaṇṭhādivaṇṇuppattiṭṭhānakaraṇādīhi āharitvā attano vacīviññattiyāva bhāsitavacanaṃ āhaccapadaṃ. Rasoti sāro ‘‘pattaraso’’tiādīsu (dha. sa. 628-630) viya, paṭikkhittaanuññātasuttasāroti attho, rasoti vā lakkhaṇaṃ paṭivatthukaṃ anuddharitvā lakkhaṇānulomena vuttattā. Dhammasaṅgāhakādiācariyavaṃsena ābhatā aṭṭhakathā ācariyavaṃsoti āha ‘‘ācariyavaṃsoti ācariyavādo’’ti.

    วินยปิฎเก ปาฬีติ อิธ อธิการวเสน วุตฺตํฯ เสสปิฎเกสุปิ สุตฺตาทิจตุนยา ยถานุรูปํ ลพฺภเนฺตวฯ มหาปเทสาติ มหาโอกาสา มหาวิสยา, เต อตฺถโต ‘‘ยํ, ภิกฺขเว’’ติอาทิปาฬิวเสน อกปฺปิยานุโลมโต กปฺปิยานุโลมโต จ ปุคฺคเลหิ นยโต ตถา ตถา คยฺหมานา อตฺถนยา เอวฯ เต หิ ภควตา สรูปโต อวุเตฺตสุปิ ปฎิกฺขิตฺตานุโลเมสุ, อนุญฺญาตานุโลเมสุ จ เสเสสุ กิเจฺจสุ นิวตฺติปวตฺติเหตุตาย มหาโคจราติ ‘‘มหาปเทสา’’ติ วุตฺตา, น ปน ‘‘ยํ, ภิกฺขเว, มยา อิทํ น กปฺปตี’’ติอาทินา วุตฺตา สาธิปฺปายา ปาฬิเยว ตสฺสา สุเตฺต ปวิฎฺฐตฺตาฯ ‘‘สุตฺตานุโลมมฺปิ สุเตฺต โอตาเรตพฺพํ…เป.… สุตฺตเมว พลวตร’’นฺติ (ปารา. อฎฺฐ. ๑.๔๕) หิ วุตฺตํ, น เหสา สาธิปฺปายา ปาฬิ สุเตฺต โอตาเรตพฺพา, น คเหตพฺพา วา โหติ, เยนายํ สุตฺตานุโลมํ สิยาฯ ตสฺมา อิมํ ปาฬิอธิปฺปายํ นิสฺสาย ปุคฺคเลหิ คหิตา ยถาวุตฺตอตฺถาว สุตฺตานุโลมํฯ ตปฺปกาสกตฺตา ปน อยํ ปาฬิปิ สุตฺตานุโลมนฺติ คเหตพฺพํ, เตนาห เย ภควตา เอวํ วุตฺตาติอาทิฯ ยํ ภิกฺขเวติอาทิปาฬินเยน หิ ปุคฺคเลหิ คเหตพฺพา เย อกปฺปิยานุโลมาทโย อตฺถา วุตฺตา, เต มหาปเทสาติ อโตฺถฯ

    Vinayapiṭake pāḷīti idha adhikāravasena vuttaṃ. Sesapiṭakesupi suttādicatunayā yathānurūpaṃ labbhanteva. Mahāpadesāti mahāokāsā mahāvisayā, te atthato ‘‘yaṃ, bhikkhave’’tiādipāḷivasena akappiyānulomato kappiyānulomato ca puggalehi nayato tathā tathā gayhamānā atthanayā eva. Te hi bhagavatā sarūpato avuttesupi paṭikkhittānulomesu, anuññātānulomesu ca sesesu kiccesu nivattipavattihetutāya mahāgocarāti ‘‘mahāpadesā’’ti vuttā, na pana ‘‘yaṃ, bhikkhave, mayā idaṃ na kappatī’’tiādinā vuttā sādhippāyā pāḷiyeva tassā sutte paviṭṭhattā. ‘‘Suttānulomampi sutte otāretabbaṃ…pe… suttameva balavatara’’nti (pārā. aṭṭha. 1.45) hi vuttaṃ, na hesā sādhippāyā pāḷi sutte otāretabbā, na gahetabbā vā hoti, yenāyaṃ suttānulomaṃ siyā. Tasmā imaṃ pāḷiadhippāyaṃ nissāya puggalehi gahitā yathāvuttaatthāva suttānulomaṃ. Tappakāsakattā pana ayaṃ pāḷipi suttānulomanti gahetabbaṃ, tenāha ye bhagavatā evaṃ vuttātiādi. Yaṃ bhikkhavetiādipāḷinayena hi puggalehi gahetabbā ye akappiyānulomādayo atthā vuttā, te mahāpadesāti attho.

    ภควโต ปกิณฺณกเทสนาภูตา จ สุตฺตานุโลมภูตา จ อฎฺฐกถาฯ ยสฺมา ธมฺมสงฺคาหกเตฺถเรหิ ปาฬิวณฺณนากฺกเมน สงฺคเหตฺวา วุตฺตา, ตสฺมา ‘‘อาจริยวาโท’’ติ วุตฺตา, เอเตน จ อฎฺฐกถา สุตฺตสุตฺตานุโลเมสุ อตฺถโต สงฺคยฺหตีติ เวทิตพฺพาฯ ยถา จ เอสา, เอวํ อตฺตโนมติปิ ปมาณภูตาฯ น หิ ภควโต วจนํ วจนานุโลมญฺจ อนิสฺสาย อคฺคสาวกาทโยปิ อตฺตโน ญาณพเลน สุตฺตาภิธมฺมวินเยสุ กญฺจิ สมฺมุติปรมตฺถเภทํ อตฺถํ วตฺตุํ สโกฺกนฺติ, ตสฺมา สพฺพมฺปิ วจนํ สุเตฺต สุตฺตานุโลเม จ สงฺคยฺหติฯ วิสุํ ปน อฎฺฐกถาทีนํ สงฺคหิตตฺตา ตทวเสสํ สุตฺตสุตฺตานุโลมโต คเหตฺวา จตุธา วินโย นิทฺทิโฎฺฐฯ สุตฺตาทโย นิสฺสาเยว ปวตฺตาปิ อตฺตโนมติ เตสุ สรูเปน อนาคตตฺตา วุตฺตํ ‘‘สุตฺตสุตฺตานุโลมอาจริยวาเท มุญฺจิตฺวา’’ติ, เตนาห ‘‘อนุพุทฺธิยา นยคฺคาเหนา’’ติฯ ตตฺถ สุตฺตาทีนิ อนุคตาย เอว พุทฺธิยา เตหิ ลทฺธนยคฺคาเหน จาติ อโตฺถฯ

    Bhagavato pakiṇṇakadesanābhūtā ca suttānulomabhūtā ca aṭṭhakathā. Yasmā dhammasaṅgāhakattherehi pāḷivaṇṇanākkamena saṅgahetvā vuttā, tasmā ‘‘ācariyavādo’’ti vuttā, etena ca aṭṭhakathā suttasuttānulomesu atthato saṅgayhatīti veditabbā. Yathā ca esā, evaṃ attanomatipi pamāṇabhūtā. Na hi bhagavato vacanaṃ vacanānulomañca anissāya aggasāvakādayopi attano ñāṇabalena suttābhidhammavinayesu kañci sammutiparamatthabhedaṃ atthaṃ vattuṃ sakkonti, tasmā sabbampi vacanaṃ sutte suttānulome ca saṅgayhati. Visuṃ pana aṭṭhakathādīnaṃ saṅgahitattā tadavasesaṃ suttasuttānulomato gahetvā catudhā vinayo niddiṭṭho. Suttādayo nissāyeva pavattāpi attanomati tesu sarūpena anāgatattā vuttaṃ ‘‘suttasuttānulomaācariyavāde muñcitvā’’ti, tenāha ‘‘anubuddhiyā nayaggāhenā’’ti. Tattha suttādīni anugatāya eva buddhiyā tehi laddhanayaggāhena cāti attho.

    เถรวาโทติ มหาสุมเตฺถราทีนํ คาโหฯ สุตฺตาทิํ นิสฺสาเยว วิปรีตโตปิ อตฺตโนมติ อุปฺปชฺชตีติ อาห ตํ ปนาติอาทิฯ อเตฺถนาติ อตฺตนา นยคฺคหิเตน อเตฺถนฯ ปาฬินฺติ อตฺตโน คาหสฺส นิสฺสยภูตํ สาฎฺฐกถํ ปาฬิํฯ ปาฬิยาติ ตปฺปฎิเกฺขปตฺถํ ปเรนาหฎาย สาฎฺฐกถาย ปาฬิยา, อตฺตนา คหิตํ อตฺถํ นิสฺสาย ปาฬิญฺจ สํสนฺทิตฺวาติ อโตฺถฯ อาจริยวาเทติ อตฺตนา ปเรน จ สมุทฺธฎอฎฺฐกถายฯ โอตรติ เจว สเมติ จาติ อตฺตนา อุทฺธเฎหิ สํสนฺทนวเสน โอตรติ, ปเรน อุทฺธเฎน สเมติฯ สพฺพทุพฺพลาติ อสพฺพญฺญุปุคฺคลสฺส โทสวาสนาย ยาถาวโต อตฺถสมฺปฎิปตฺติอภาวโต วุตฺตํฯ ปมาทปาฐวเสน อาจริยวาทสฺส สุตฺตานุโลเมน อสํสนฺทนาปิ สิยาติ อาห ‘‘อิตโร น คเหตโพฺพ’’ติฯ

    Theravādoti mahāsumattherādīnaṃ gāho. Suttādiṃ nissāyeva viparītatopi attanomati uppajjatīti āha taṃ panātiādi. Atthenāti attanā nayaggahitena atthena. Pāḷinti attano gāhassa nissayabhūtaṃ sāṭṭhakathaṃ pāḷiṃ. Pāḷiyāti tappaṭikkhepatthaṃ parenāhaṭāya sāṭṭhakathāya pāḷiyā, attanā gahitaṃ atthaṃ nissāya pāḷiñca saṃsanditvāti attho. Ācariyavādeti attanā parena ca samuddhaṭaaṭṭhakathāya. Otarati ceva sameti cāti attanā uddhaṭehi saṃsandanavasena otarati, parena uddhaṭena sameti. Sabbadubbalāti asabbaññupuggalassa dosavāsanāya yāthāvato atthasampaṭipattiabhāvato vuttaṃ. Pamādapāṭhavasena ācariyavādassa suttānulomena asaṃsandanāpi siyāti āha ‘‘itaro na gahetabbo’’ti.

    สเมนฺตเมว คเหตพฺพนฺติ เย สุเตฺตน สํสนฺทนฺติ, เอวรูปาว อตฺถา มหาปเทสโต อุทฺธริตพฺพาติ ทเสฺสติ ตถา ตถา อุทฺธฎอตฺถานเมว สุตฺตานุโลมตฺตา, เตนาห ‘‘สุตฺตานุโลมโต หิ สุตฺตเมว พลวตร’’นฺติฯ อปฺปฎิวตฺติยนฺติ อปฺปฎิพาหิยํฯ การกสงฺฆสทิสนฺติ ปมาณตฺตา สงฺคีติการกสงฺฆสทิสํฯ พุทฺธานํ ฐิตกาลสทิสนฺติ ธรมานกพุทฺธสทิสนฺติ อโตฺถฯ สกวาที สุตฺตํ คเหตฺวา กเถตีติอาทีสุ โย ยถาภูตมตฺถํ คเหตฺวา กถนสีโล, โส สกวาทีฯ สุตฺตนฺติ สงฺคีติตฺตยารุฬฺหํ ปาฬิวจนํฯ ปรวาทีติ มหาวิหารวาสี วา โหตุ อญฺญนิกายวาสี วา, โย วิปรีตโต อตฺถํ คเหตฺวา กถนสีโล, โสว อิธ ‘‘ปรวาที’’ติ วุโตฺตฯ สุตฺตานุโลมนฺติ สงฺคีติตฺตยารุฬฺหํ วา อนารุฬฺหํ วา ยํกิญฺจิ วิปลฺลาสโต วา วญฺจนาย วา ‘‘สงฺคีติตฺตยาคตมิท’’นฺติ ทสฺสิยมานํ สุตฺตานุโลมํฯ เกจิ ‘‘อญฺญนิกาเย สุตฺตานุโลม’’นฺติ วทนฺติ, ตํ น ยุตฺตํ สกวาทีปรวาทีนํ อุภินฺนมฺปิ สงฺคีติตฺตยารุฬฺหสุตฺตาทีนํ เอว คเหตพฺพโตฯ ตถา หิ วกฺขติ ‘‘ติโสฺส สงฺคีติโย อารุฬฺหํ ปาฬิอาคตํ ปญฺญายติ, คเหตพฺพ’’นฺติอาทิฯ น หิ สกวาที อญฺญนิกายสุตฺตาทิํ ปมาณโต คณฺหาติ, เยน เตสุ สุตฺตาทีสุ ทสฺสิเตสุ ตตฺถ ฐาตพฺพํ ภเวยฺย, วกฺขติ จ ‘‘ปโร ตสฺส อกปฺปิยภาวสาธกํ สุตฺตโต พหุํ การณญฺจ วินิจฺฉยญฺจ ทเสฺสติ…เป.… ‘สาธู’ติ สมฺปฎิจฺฉิตฺวา อกปฺปิเยเยว ฐาตพฺพ’’นฺติ (ปารา. อฎฺฐ. ๑.๔๕)ฯ ตสฺมา ปรวาทินาปิ สงฺคีติตฺตเย อนารุฬฺหมฺปิ อนารุฬฺหมิเจฺจว ทสฺสียติ, เกวลํ ตสฺส ตสฺส สุตฺตาทิโน สงฺคีติตฺตเย อนาคตสฺส กูฎตา, อาคตสฺส จ พฺยญฺชนจฺฉายาย อญฺญถา อธิปฺปายโยชนา จ วิเสโสฯ ตตฺถ จ ยํ กูฎํ, ตํ อปนียติฯ ยํ อญฺญถา โยชิตํ, ตสฺส วิปรีตตาสนฺทสฺสนตฺถํ ตทเญฺญน สุตฺตาทินา สํสนฺทนา กรียติฯ โย ปน ปรวาทินา คหิโต อธิปฺปาโย สุตฺตนฺตาทินา สํสนฺทติ, โส สกวาทินาปิ อตฺตโน คาหํ วิสฺสเชฺชตฺวา คเหตโพฺพติ อุภินฺนมฺปิ สงฺคีติตฺตยาคตเมว สุตฺตาทิปมาณนฺติ เวทิตพฺพํฯ เตเนว กถาวตฺถุปฺปกรเณ สกวาเท ปญฺจ สุตฺตสตานิ ปรวาเท ปญฺจาติ (ธ. ส. อฎฺฐ. นิทานกถา; กถา. อฎฺฐ. นิทานกถา) สุตฺตสหสฺสมฺปิ อธิปฺปายคฺคหณนานเตฺตน สงฺคีติตฺตยาคตเมว คหิตํ, น นิกายนฺตเร กิญฺจีติฯ

    Samentameva gahetabbanti ye suttena saṃsandanti, evarūpāva atthā mahāpadesato uddharitabbāti dasseti tathā tathā uddhaṭaatthānameva suttānulomattā, tenāha ‘‘suttānulomato hi suttameva balavatara’’nti. Appaṭivattiyanti appaṭibāhiyaṃ. Kārakasaṅghasadisanti pamāṇattā saṅgītikārakasaṅghasadisaṃ. Buddhānaṃ ṭhitakālasadisanti dharamānakabuddhasadisanti attho. Sakavādī suttaṃ gahetvā kathetītiādīsu yo yathābhūtamatthaṃ gahetvā kathanasīlo, so sakavādī. Suttanti saṅgītittayāruḷhaṃ pāḷivacanaṃ. Paravādīti mahāvihāravāsī vā hotu aññanikāyavāsī vā, yo viparītato atthaṃ gahetvā kathanasīlo, sova idha ‘‘paravādī’’ti vutto. Suttānulomanti saṅgītittayāruḷhaṃ vā anāruḷhaṃ vā yaṃkiñci vipallāsato vā vañcanāya vā ‘‘saṅgītittayāgatamida’’nti dassiyamānaṃ suttānulomaṃ. Keci ‘‘aññanikāye suttānuloma’’nti vadanti, taṃ na yuttaṃ sakavādīparavādīnaṃ ubhinnampi saṅgītittayāruḷhasuttādīnaṃ eva gahetabbato. Tathā hi vakkhati ‘‘tisso saṅgītiyo āruḷhaṃ pāḷiāgataṃ paññāyati, gahetabba’’ntiādi. Na hi sakavādī aññanikāyasuttādiṃ pamāṇato gaṇhāti, yena tesu suttādīsu dassitesu tattha ṭhātabbaṃ bhaveyya, vakkhati ca ‘‘paro tassa akappiyabhāvasādhakaṃ suttato bahuṃ kāraṇañca vinicchayañca dasseti…pe… ‘sādhū’ti sampaṭicchitvā akappiyeyeva ṭhātabba’’nti (pārā. aṭṭha. 1.45). Tasmā paravādināpi saṅgītittaye anāruḷhampi anāruḷhamicceva dassīyati, kevalaṃ tassa tassa suttādino saṅgītittaye anāgatassa kūṭatā, āgatassa ca byañjanacchāyāya aññathā adhippāyayojanā ca viseso. Tattha ca yaṃ kūṭaṃ, taṃ apanīyati. Yaṃ aññathā yojitaṃ, tassa viparītatāsandassanatthaṃ tadaññena suttādinā saṃsandanā karīyati. Yo pana paravādinā gahito adhippāyo suttantādinā saṃsandati, so sakavādināpi attano gāhaṃ vissajjetvā gahetabboti ubhinnampi saṅgītittayāgatameva suttādipamāṇanti veditabbaṃ. Teneva kathāvatthuppakaraṇe sakavāde pañca suttasatāni paravāde pañcāti (dha. sa. aṭṭha. nidānakathā; kathā. aṭṭha. nidānakathā) suttasahassampi adhippāyaggahaṇanānattena saṅgītittayāgatameva gahitaṃ, na nikāyantare kiñcīti.

    เขปนฺติ ‘‘กิํ อิมินา’’ติ ปฎิเกฺขปํ ฉฑฺฑนํฯ ครหนฺติ ‘‘กิเมส พาโล ชานาตี’’ติ นินฺทนํฯ สุเตฺต โอตาเรตพฺพนฺติ ยสฺส สุตฺตสฺส อนุโลมนโต อิทํ สุตฺตานุโลมํ อกาสิ, ตสฺมิํ, ตทนุรูเป วา อญฺญตรสฺมิํ สุเตฺต อตฺตนา คหิตํ สุตฺตานุโลมํ อตฺถโต สํสนฺทนวเสน โอตาเรตพฺพํ, ‘‘อิมินา จ อิมินา จ การเณน อิมสฺมิํ สุเตฺต สํสนฺทตี’’ติ สํสนฺทิตฺวา ทเสฺสตพฺพนฺติ อโตฺถฯ อยนฺติ สกวาทีฯ ปโรติ ปรวาทีฯ อาจริยวาโท สุเตฺต โอตาเรตโพฺพติ ยสฺส สุตฺตสฺส วณฺณนาวเสน อยํ อาจริยวาโท ปวโตฺต, ตสฺมิํ, ตาทิเส จ อญฺญตรสฺมิํ สุเตฺต ปุพฺพาปรอตฺถสํสนฺทนวเสน โอตาเรตพฺพํฯ คารยฺหาจริยวาโทติ ปมาทลิขิโต, ภินฺนลทฺธิเกหิ วา ฐปิโต, เอส นโย สพฺพตฺถฯ

    Khepanti ‘‘kiṃ iminā’’ti paṭikkhepaṃ chaḍḍanaṃ. Garahanti ‘‘kimesa bālo jānātī’’ti nindanaṃ. Sutte otāretabbanti yassa suttassa anulomanato idaṃ suttānulomaṃ akāsi, tasmiṃ, tadanurūpe vā aññatarasmiṃ sutte attanā gahitaṃ suttānulomaṃ atthato saṃsandanavasena otāretabbaṃ, ‘‘iminā ca iminā ca kāraṇena imasmiṃ sutte saṃsandatī’’ti saṃsanditvā dassetabbanti attho. Ayanti sakavādī. Paroti paravādī. Ācariyavādo sutte otāretabboti yassa suttassa vaṇṇanāvasena ayaṃ ācariyavādo pavatto, tasmiṃ, tādise ca aññatarasmiṃ sutte pubbāparaatthasaṃsandanavasena otāretabbaṃ. Gārayhācariyavādoti pamādalikhito, bhinnaladdhikehi vā ṭhapito, esa nayo sabbattha.

    ยํ กิญฺจิ กูฎสุตฺตํ พาหิรกสุตฺตาทิวจนํ น คเหตพฺพนฺติ ทเสฺสตุํ สุตฺตํ สุตฺตานุโลเม โอตาเรตพฺพนฺติอาทิ วุตฺตํฯ คุฬฺหเวสฺสนฺตราทีนิ มหาสงฺฆิกาทิภินฺนลทฺธิกานํ ปกรณานิฯ อาทิ-สเทฺทน คุฬฺหอุมฺมคฺคาทีนํ คหณํ ฯ สกวาที สุตฺตํ คเหตฺวา กเถติ, ปรวาทีปิ สุตฺตนฺติอาทินา อเญฺญปิ วาทาลมฺพนา วุตฺตนเยน สกฺกา ญาตุนฺติ อิธ น วุตฺตาฯ

    Yaṃ kiñci kūṭasuttaṃ bāhirakasuttādivacanaṃ na gahetabbanti dassetuṃ suttaṃ suttānulome otāretabbantiādi vuttaṃ. Guḷhavessantarādīni mahāsaṅghikādibhinnaladdhikānaṃ pakaraṇāni. Ādi-saddena guḷhaummaggādīnaṃ gahaṇaṃ . Sakavādī suttaṃ gahetvā katheti, paravādīpi suttantiādinā aññepi vādālambanā vuttanayena sakkā ñātunti idha na vuttā.

    เอวํ สุตฺตสุตฺตานุโลมาทิมุเขน สามญฺญโต วิวาทํ ทเสฺสตฺวา อิทานิ วิเสสโต วิวาทวตฺถุํ ตพฺพินิจฺฉยมุเขน สุตฺตาทีนญฺจ ทเสฺสตุํ อถ ปนายํ กปฺปิยนฺติอาทิ วุตฺตํฯ สุเตฺต จ สุตฺตานุโลเม จาติ เอตฺถ -กาโร วิกปฺปโตฺถ, เตน อาจริยวาทาทีนมฺปิ สงฺคโห, เตนาห ‘‘การณญฺจ วินิจฺฉยญฺจ ทเสฺสตี’’ติฯ ตตฺถ การณนฺติ สุตฺตาทินยํ นิสฺสาย อตฺตโนมติยา อุทฺธฎํ เหตุํฯ วินิจฺฉยนฺติ อฎฺฐกถาวินิจฺฉยํฯ การณจฺฉายาติ สุตฺตาทีสุ ‘‘กปฺปิย’’นฺติ คาหสฺส, ‘‘อกปฺปิย’’นฺติ คาหสฺส จ นิมิตฺตภูตํ กิเจฺฉน ปฎิปาทนียํ อวิภูตการณํ การณจฺฉายา, การณปติรูปกนฺติ อโตฺถฯ วินยญฺหิ ปตฺวาติ อิมสฺส วิวรณํ กปฺปิยากปฺปิยวิจารณมาคมฺมาติฯ รุนฺธิตพฺพนฺติ กปฺปิยสญฺญาย วีติกฺกมกรณํ รุนฺธิตพฺพํ, ตํนิวารณจิตฺตํ ทฬฺหตรํ กาตพฺพํฯ โสตํ ปจฺฉินฺทิตพฺพนฺติ ตตฺถ วีติกฺกมปฺปวตฺติ ปจฺฉินฺทิตพฺพาฯ ครุกภาเวติ อกปฺปิยภาเวฯ สุตฺตวินิจฺฉยการเณหีติ สุเตฺตน อฎฺฐกถาวินิจฺฉเยน จ ลทฺธการเณหิฯ เอวนฺติอาทิ ยถาวุตฺตสฺส อตฺถสฺส นิคมนวจนํฯ อติเรกการณนฺติ สุตฺตาทีสุ ปุริมํ ปุริมํ อติเรกการณํ นาม, พหุการณํ วาฯ

    Evaṃ suttasuttānulomādimukhena sāmaññato vivādaṃ dassetvā idāni visesato vivādavatthuṃ tabbinicchayamukhena suttādīnañca dassetuṃ atha panāyaṃ kappiyantiādi vuttaṃ. Sutte ca suttānulome cāti ettha ca-kāro vikappattho, tena ācariyavādādīnampi saṅgaho, tenāha ‘‘kāraṇañca vinicchayañca dassetī’’ti. Tattha kāraṇanti suttādinayaṃ nissāya attanomatiyā uddhaṭaṃ hetuṃ. Vinicchayanti aṭṭhakathāvinicchayaṃ. Kāraṇacchāyāti suttādīsu ‘‘kappiya’’nti gāhassa, ‘‘akappiya’’nti gāhassa ca nimittabhūtaṃ kicchena paṭipādanīyaṃ avibhūtakāraṇaṃ kāraṇacchāyā, kāraṇapatirūpakanti attho. Vinayañhi patvāti imassa vivaraṇaṃ kappiyākappiyavicāraṇamāgammāti. Rundhitabbanti kappiyasaññāya vītikkamakaraṇaṃ rundhitabbaṃ, taṃnivāraṇacittaṃ daḷhataraṃ kātabbaṃ. Sotaṃ pacchinditabbanti tattha vītikkamappavatti pacchinditabbā. Garukabhāveti akappiyabhāve. Suttavinicchayakāraṇehīti suttena aṭṭhakathāvinicchayena ca laddhakāraṇehi. Evantiādi yathāvuttassa atthassa nigamanavacanaṃ. Atirekakāraṇanti suttādīsu purimaṃ purimaṃ atirekakāraṇaṃ nāma, bahukāraṇaṃ vā.

    วาจุคฺคตนฺติ วาจาย อุคฺคตํ, ตตฺถ นิรนฺตรํ ฐิตนฺติ อโตฺถฯ ‘‘สุตฺตํ นาม สกลํ วินยปิฎก’’นฺติ วุตฺตตฺตา ปุน สุตฺตโตติ ตทตฺถปฎิปาทกํ สุตฺตาภิธมฺมปาฬิวจนํ อธิเปฺปตํฯ อนุพฺยญฺชนโตติ อิมสฺส วิวรณํ ปริปุจฺฉโต จ อฎฺฐกถาโต จาติฯ ตตฺถ ปริปุจฺฉาติ อาจริยสฺส สนฺติกา ปาฬิยา อตฺถสวนํฯ อฎฺฐกถาติ ปาฬิมุตฺตกวินิจฺฉโยฯ ตทุภยมฺปิ หิ ปาฬิํ อนุคนฺตฺวา อตฺถสฺส พฺยญฺชนโต ‘‘อนุพฺยญฺชน’’นฺติ วุตฺตํฯ วินเยติ วินยาจาเร, เตเนว วกฺขติ วินยํ อวิชหโนฺต อโวกฺกมโนฺตติอาทิฯ ตตฺถ ปติฎฺฐานํ นาม สญฺจิจฺจ อาปตฺติยา อนาปชฺชนาทิ โหตีติ อาห ‘‘ลชฺชีภาเวน ปติฎฺฐิโต’’ติ, เตน ลชฺชี โหตีติ วุตฺตํ โหติฯ วินยธรสฺส ลกฺขเณ วตฺตเพฺพ กิํ อิมินา ลชฺชีภาเวนาติ อาห อลชฺชี หีติอาทิฯ ตตฺถ พหุสฺสุโตปีติ อิมินา ปฐมลกฺขณสมนฺนาคมํ ทเสฺสติฯ ลาภครุตายาติอาทินา วินเย ฐิตตาย อภาเว ปฐมลกฺขณโยโค กิจฺจกโร น โหติ, อถ โข อกิจฺจกโร อนตฺถกโร เอวาติ ทเสฺสติฯ สงฺฆเภทสฺส ปุพฺพภาโค กลโห สงฺฆราชิ

    Vācuggatanti vācāya uggataṃ, tattha nirantaraṃ ṭhitanti attho. ‘‘Suttaṃ nāma sakalaṃ vinayapiṭaka’’nti vuttattā puna suttatoti tadatthapaṭipādakaṃ suttābhidhammapāḷivacanaṃ adhippetaṃ. Anubyañjanatoti imassa vivaraṇaṃ paripucchato ca aṭṭhakathāto cāti. Tattha paripucchāti ācariyassa santikā pāḷiyā atthasavanaṃ. Aṭṭhakathāti pāḷimuttakavinicchayo. Tadubhayampi hi pāḷiṃ anugantvā atthassa byañjanato ‘‘anubyañjana’’nti vuttaṃ. Vinayeti vinayācāre, teneva vakkhati vinayaṃ avijahanto avokkamantotiādi. Tattha patiṭṭhānaṃ nāma sañcicca āpattiyā anāpajjanādi hotīti āha ‘‘lajjībhāvena patiṭṭhito’’ti, tena lajjī hotīti vuttaṃ hoti. Vinayadharassa lakkhaṇe vattabbe kiṃ iminā lajjībhāvenāti āha alajjī hītiādi. Tattha bahussutopīti iminā paṭhamalakkhaṇasamannāgamaṃ dasseti. Lābhagarutāyātiādinā vinaye ṭhitatāya abhāve paṭhamalakkhaṇayogo kiccakaro na hoti, atha kho akiccakaro anatthakaro evāti dasseti. Saṅghabhedassa pubbabhāgo kalaho saṅgharāji.

    วิตฺถุนตีติ วิตฺถมฺภติ, นิตฺถุนติ วา สนฺติฎฺฐิตุํ น สโกฺกติ, เตนาห ยํ ยนฺติอาทิฯ อาจริยปรมฺปราติ อาจริยานํ วินิจฺฉยปรมฺปรา, เตเนว วกฺขติ ‘‘อตฺตโน มติํ ปหาย…เป.… ยถา อาจริโย จ อาจริยาจริโย จ ปาฬิญฺจ ปริปุจฺฉญฺจ วทนฺติ, ตถา ญาตุํ วฎฺฎตี’’ติฯ น หิ อาจริยานํ นามมตฺตโต ปรมฺปราชานเน ปโยชนมตฺถิฯ ปุพฺพาปรานุสนฺธิโตติ ปุพฺพวจนสฺส อปรวจเนน สห อตฺถสมฺพนฺธชานนโตฯ อตฺถโตติ ปทตฺถปิณฺฑตฺถอธิเปฺปตตฺถาทิโตฯ การณโตติ ตทตฺถุปปตฺติโตฯ เถรวาทงฺคนฺติ เถรวาทปฎิปาฎิํ, เตสํ วินิจฺฉยปฎิปาฎินฺติ อโตฺถฯ

    Vitthunatīti vitthambhati, nitthunati vā santiṭṭhituṃ na sakkoti, tenāha yaṃ yantiādi. Ācariyaparamparāti ācariyānaṃ vinicchayaparamparā, teneva vakkhati ‘‘attano matiṃ pahāya…pe… yathā ācariyo ca ācariyācariyo ca pāḷiñca paripucchañca vadanti, tathā ñātuṃ vaṭṭatī’’ti. Na hi ācariyānaṃ nāmamattato paramparājānane payojanamatthi. Pubbāparānusandhitoti pubbavacanassa aparavacanena saha atthasambandhajānanato. Atthatoti padatthapiṇḍatthaadhippetatthādito. Kāraṇatoti tadatthupapattito. Theravādaṅganti theravādapaṭipāṭiṃ, tesaṃ vinicchayapaṭipāṭinti attho.

    อิเมหิ จ ปน ตีหิ ลกฺขเณหีติ เอตฺถ ปฐเมน ลกฺขเณน วินยสฺส สุฎฺฐุ อุคฺคหิตภาโว วุโตฺตฯ ทุติเยนสฺส ลชฺชีภาเวน เจว อจลตาย จ ปติฎฺฐิตตาฯ ตติเยน ปาฬิอฎฺฐกถาสุ อนุรูเปน อนาคตมฺปิ ตทนุโลมโต อาจริเยหิ ทินฺนนยโต วินิจฺฉินิตุํ สมตฺถตาฯ โอติเณฺณ วตฺถุสฺมินฺติ โจทนาวเสน วีติกฺกมวตฺถุสฺมิํ สงฺฆมเชฺฌ โอติเณฺณฯ โจทเกน จุทิตเกน จ วุเตฺต วตฺตเพฺพติ เอวํ โอติเณฺณ วตฺถุํ นิสฺสาย โจทเกน ‘‘ทิฎฺฐํ สุต’’นฺติอาทินา จุทิตเกน ‘‘อตฺถิ นตฺถี’’ติอาทินา จ ยํ วตฺตพฺพํ, ตสฺมิํ วตฺตเพฺพ วุเตฺตติ อโตฺถฯ ถุลฺลจฺจยทุพฺภาสิตานํ มาติกาย อนาคตตฺตา ‘‘ปญฺจนฺนํ อาปตฺตีน’’นฺติ วุตฺตํฯ ติกทุกฺกฎนฺติ ‘‘อนุปสมฺปเนฺน อุปสมฺปนฺนสญฺญี อุชฺฌายติ วา ขียติ วา อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสา’’ติอาทินา (ปาจิ. ๑๐๖ โถกํ วิสทิสํ) อาคตํ ติกทุกฺกฎํฯ อญฺญตรํ วา อาปตฺตินฺติ ‘‘กาเล วิกาลสญฺญี อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺส, กาเล เวมติโก อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสา’’ติอาทิกํ (ปาจิ. ๒๕๐) ทุกทุกฺกฎํ สนฺธาย วุตฺตํฯ อนฺตราปตฺตินฺติ ตสฺมิํ ตสฺมิํ สิกฺขาปเท อาคตวตฺถุวีติกฺกมํ วินา อญฺญสฺมิํ วตฺถุวีติกฺกเม นิทานโต ปภุติ วินีตวตฺถุปริโยสานา อนฺตรนฺตรา วุตฺตํ อาปตฺติํฯ อิธ ปน ‘‘วตฺถุํ โอโลเกตี’’ติ วิสุํ คหิตตฺตา ตทวเสสา อนฺตราปตฺตีติ คหิตาฯ ปฎิลาตํ อุกฺขิปตีติ อิทํ วิสิพฺพนสิกฺขาปเท (ปาจิ. ๓๕๐-๓๕๑) อาคตํฯ ตตฺถ ฑยฺหมานํ อลาตํ อคฺคิกปาลาทิโต พหิ ปติตํ อวิชฺฌาตเมว ปฎิอุกฺขิปติ , ปุน ยถาฐาเน ฐเปตีติ อโตฺถฯ วิชฺฌาตํ ปน ปกฺขิปนฺตสฺส ปาจิตฺติยเมวฯ อนาปตฺตินฺติ เอตฺถ อนฺตรนฺตรา วุตฺตา อนาปตฺติปิ อตฺถิ, ‘‘อนาปตฺติ, ภิกฺขเว, อิทฺธิมสฺส อิทฺธิวิสเย’’ติอาทิ (ปารา. ๑๕๙) วิย สาปิ สงฺคยฺหติฯ

    Imehi ca pana tīhi lakkhaṇehīti ettha paṭhamena lakkhaṇena vinayassa suṭṭhu uggahitabhāvo vutto. Dutiyenassa lajjībhāvena ceva acalatāya ca patiṭṭhitatā. Tatiyena pāḷiaṭṭhakathāsu anurūpena anāgatampi tadanulomato ācariyehi dinnanayato vinicchinituṃ samatthatā. Otiṇṇe vatthusminti codanāvasena vītikkamavatthusmiṃ saṅghamajjhe otiṇṇe. Codakena cuditakena ca vutte vattabbeti evaṃ otiṇṇe vatthuṃ nissāya codakena ‘‘diṭṭhaṃ suta’’ntiādinā cuditakena ‘‘atthi natthī’’tiādinā ca yaṃ vattabbaṃ, tasmiṃ vattabbe vutteti attho. Thullaccayadubbhāsitānaṃ mātikāya anāgatattā ‘‘pañcannaṃ āpattīna’’nti vuttaṃ. Tikadukkaṭanti ‘‘anupasampanne upasampannasaññī ujjhāyati vā khīyati vā āpatti dukkaṭassā’’tiādinā (pāci. 106 thokaṃ visadisaṃ) āgataṃ tikadukkaṭaṃ. Aññataraṃ vā āpattinti ‘‘kāle vikālasaññī āpatti dukkaṭassa, kāle vematiko āpatti dukkaṭassā’’tiādikaṃ (pāci. 250) dukadukkaṭaṃ sandhāya vuttaṃ. Antarāpattinti tasmiṃ tasmiṃ sikkhāpade āgatavatthuvītikkamaṃ vinā aññasmiṃ vatthuvītikkame nidānato pabhuti vinītavatthupariyosānā antarantarā vuttaṃ āpattiṃ. Idha pana ‘‘vatthuṃ oloketī’’ti visuṃ gahitattā tadavasesā antarāpattīti gahitā. Paṭilātaṃ ukkhipatīti idaṃ visibbanasikkhāpade (pāci. 350-351) āgataṃ. Tattha ḍayhamānaṃ alātaṃ aggikapālādito bahi patitaṃ avijjhātameva paṭiukkhipati , puna yathāṭhāne ṭhapetīti attho. Vijjhātaṃ pana pakkhipantassa pācittiyameva. Anāpattinti ettha antarantarā vuttā anāpattipi atthi, ‘‘anāpatti, bhikkhave, iddhimassa iddhivisaye’’tiādi (pārā. 159) viya sāpi saṅgayhati.

    ปาราชิกาปตฺตีติ น ตาว วตฺตพฺพนฺติ อิทํ อาปนฺนปุคฺคเลน ลชฺชีธเมฺม ฐตฺวา ยถาภูตํ อาวิกรเณปิ ทุพฺพินิจฺฉยํ อทินฺนาทานาทิํ สนฺธาย วุตฺตํฯ ยํ ปน เมถุนาทีสุ วิชานนํ, ตํ วตฺตพฺพเมว, เตนาห เมถุนธมฺมวีติกฺกโม หีติอาทิฯ โย ปน อลชฺชิตาย ปฎิญฺญํ อทตฺวา วิเกฺขปํ กโรติ, ตสฺส อาปตฺติ น สกฺกา โอฬาริกาปิ วินิจฺฉินิตุํ, ยาว โส ยถาภูตํ นาวิ กโรติ, สงฺฆสฺส จ อาปตฺติสเนฺทโห น วิคจฺฉติ, ตาว นาสิตโกว ภวิสฺสติฯ สุขุมาติ จิตฺตปริวตฺติยา สุขุมตาย สุขุมาฯ เตนาห ‘‘จิตฺตลหุกา’’ติ, จิตฺตํ ตสฺส ลหุกนฺติ อโตฺถฯ เตติ วีติกฺกเมฯ ตํวตฺถุกนฺติ อทินฺนาทานาทิมูลกํฯ ยํ อาจริโย ภณติ, ตํ กโรหีติอาทิ สพฺพํ ลชฺชีเปสลํ กุกฺกุจฺจกเมว สนฺธาย วุตฺตํฯ โย ยาถาวโต ปกาเสตฺวา สุทฺธิเมว คเวสติ, เตนาปิ, ปาราชิโกสีติ น วตฺตโพฺพติ อนาปตฺติโกฎิยาปิ สงฺกิยมานตฺตา วุตฺตํ, เตเนว ‘‘ปาราชิกจฺฉายา’’ติ วุตฺตํฯ สีลานิ โสเธตฺวาติ ยสฺมิํ วีติกฺกเม ปาราชิกาสงฺกา วตฺตติ, ตตฺถ ปาราชิกาภาวปกฺขํ คเหตฺวา เทสนาวุฎฺฐานคามินีนํ อาปตฺตีนํ โสธนวเสน สีลานิ โสเธตฺวาฯ ทฺวตฺติํสาการนฺติ ปากฎภาวโต อุปลกฺขณวเสน วุตฺตํ, ยํ กิญฺจิ อภิรุจิตํ มนสิกาตุํ วฎฺฎเตวฯ กมฺมฎฺฐานํ ฆฎิยตีติ วิปฺปฎิสารมูลเกน วิเกฺขเปน อนฺตรนฺตรา ขณฺฑํ อทเสฺสตฺวา ปพนฺธวเสน จิเตฺตน สงฺฆฎิยติฯ สงฺขาราติ วิปสฺสนากมฺมฎฺฐานวเสน วุตฺตํฯ สาปตฺติกสฺส หิ ปคุณมฺปิ กมฺมฎฺฐานํ น สุฎฺฐุ อุปฎฺฐาติ, ปเคว ปาราชิกสฺสฯ ตสฺส หิ วิปฺปฎิสารนินฺนตาย จิตฺตํ เอกคฺคํ น โหติฯ เอกสฺส ปน วิตกฺกวิเกฺขปาทิพหุลสฺส สุทฺธสีลสฺสปิ จิตฺตํ น สมาธิยติ, ตํ อิธ ปาราชิกมูลกนฺติ น คเหตพฺพํฯ กตปาปมูลเกน วิปฺปฎิสาเรเนเวตฺถ จิตฺตสฺส อสมาธิยนํ สนฺธาย ‘‘กมฺมฎฺฐานํ น ฆฎิยตี’’ติ วุตฺตํ, เตนาห วิปฺปฎิสารคฺคินาติอาทิฯ อตฺตนาติ จิเตฺตน กรณภูเตน ปุคฺคโล กตฺตา ชานาติ, ปจฺจเตฺต วา กรณวจนํ, อตฺตา สยํ ปชานาตีติ อโตฺถฯ

    Pārājikāpattīti na tāva vattabbanti idaṃ āpannapuggalena lajjīdhamme ṭhatvā yathābhūtaṃ āvikaraṇepi dubbinicchayaṃ adinnādānādiṃ sandhāya vuttaṃ. Yaṃ pana methunādīsu vijānanaṃ, taṃ vattabbameva, tenāha methunadhammavītikkamo hītiādi. Yo pana alajjitāya paṭiññaṃ adatvā vikkhepaṃ karoti, tassa āpatti na sakkā oḷārikāpi vinicchinituṃ, yāva so yathābhūtaṃ nāvi karoti, saṅghassa ca āpattisandeho na vigacchati, tāva nāsitakova bhavissati. Sukhumāti cittaparivattiyā sukhumatāya sukhumā. Tenāha ‘‘cittalahukā’’ti, cittaṃ tassa lahukanti attho. Teti vītikkame. Taṃvatthukanti adinnādānādimūlakaṃ. Yaṃ ācariyo bhaṇati, taṃ karohītiādi sabbaṃ lajjīpesalaṃ kukkuccakameva sandhāya vuttaṃ. Yo yāthāvato pakāsetvā suddhimeva gavesati, tenāpi, pārājikosīti na vattabboti anāpattikoṭiyāpi saṅkiyamānattā vuttaṃ, teneva ‘‘pārājikacchāyā’’ti vuttaṃ. Sīlāni sodhetvāti yasmiṃ vītikkame pārājikāsaṅkā vattati, tattha pārājikābhāvapakkhaṃ gahetvā desanāvuṭṭhānagāminīnaṃ āpattīnaṃ sodhanavasena sīlāni sodhetvā. Dvattiṃsākāranti pākaṭabhāvato upalakkhaṇavasena vuttaṃ, yaṃ kiñci abhirucitaṃ manasikātuṃ vaṭṭateva. Kammaṭṭhānaṃ ghaṭiyatīti vippaṭisāramūlakena vikkhepena antarantarā khaṇḍaṃ adassetvā pabandhavasena cittena saṅghaṭiyati. Saṅkhārāti vipassanākammaṭṭhānavasena vuttaṃ. Sāpattikassa hi paguṇampi kammaṭṭhānaṃ na suṭṭhu upaṭṭhāti, pageva pārājikassa. Tassa hi vippaṭisāraninnatāya cittaṃ ekaggaṃ na hoti. Ekassa pana vitakkavikkhepādibahulassa suddhasīlassapi cittaṃ na samādhiyati, taṃ idha pārājikamūlakanti na gahetabbaṃ. Katapāpamūlakena vippaṭisārenevettha cittassa asamādhiyanaṃ sandhāya ‘‘kammaṭṭhānaṃ na ghaṭiyatī’’ti vuttaṃ, tenāha vippaṭisāragginātiādi. Attanāti cittena karaṇabhūtena puggalo kattā jānāti, paccatte vā karaṇavacanaṃ, attā sayaṃ pajānātīti attho.

    จตุพฺพิธวินยาทิกถาวณฺณนานโย นิฎฺฐิโตฯ

    Catubbidhavinayādikathāvaṇṇanānayo niṭṭhito.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / วินยปิฎก • Vinayapiṭaka / มหาวิภงฺค • Mahāvibhaṅga / ๑. ปฐมปาราชิกํ • 1. Paṭhamapārājikaṃ

    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / วินยปิฎก (อฎฺฐกถา) • Vinayapiṭaka (aṭṭhakathā) / มหาวิภงฺค-อฎฺฐกถา • Mahāvibhaṅga-aṭṭhakathā / ๑. ปฐมปาราชิกํ • 1. Paṭhamapārājikaṃ

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā / จตุพฺพิธวินยกถาวณฺณนา • Catubbidhavinayakathāvaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā / จตุพฺพิธวินยกถาวณฺณนา • Catubbidhavinayakathāvaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact