Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā |
จตุพฺพิธวินยกถาวณฺณนา
Catubbidhavinayakathāvaṇṇanā
๔๕. นีหริตฺวาติ สาสนโต นีหริตฺวาฯ ตถา หิ ‘‘ปญฺจหุปาลิ อเงฺคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา นานุยุญฺชิตพฺพํฯ กตเมหิ ปญฺจหิ? สุตฺตํ น ชานาติ, สุตฺตานุโลมํ น ชานาตี’’ติ (ปริ. ๔๔๒) เอวมาทิปริยตฺติสาสนโต สุตฺตํ สุตฺตานุโลมญฺจ นีหริตฺวา ปกาเสสุํ, ‘‘อนาปตฺติ เอวํ อมฺหากํ อาจริยานํ อุคฺคโห ปริปุจฺฉาติ คณฺหาตี’’ติ เอวมาทิปริยตฺติสาสนโต อาจริยวาทํ นีหริตฺวา ปกาเสสุํ, ภารุกจฺฉกวตฺถุสฺมิํ (ปารา. ๗๘) ‘‘อายสฺมา อุปาลิ เอวมาห อนาปตฺติ อาวุโส สุปินเนฺตนา’’ติ เอวมาทิปริยตฺติสาสนโต เอว อตฺตโนมติํ นีหริตฺวา ปกาเสสุํฯ ตาย หิ อตฺตโนมติยา เถโร เอตทคฺคฎฺฐานํ ลภิฯ
45.Nīharitvāti sāsanato nīharitvā. Tathā hi ‘‘pañcahupāli aṅgehi samannāgatena bhikkhunā nānuyuñjitabbaṃ. Katamehi pañcahi? Suttaṃ na jānāti, suttānulomaṃ na jānātī’’ti (pari. 442) evamādipariyattisāsanato suttaṃ suttānulomañca nīharitvā pakāsesuṃ, ‘‘anāpatti evaṃ amhākaṃ ācariyānaṃ uggaho paripucchāti gaṇhātī’’ti evamādipariyattisāsanato ācariyavādaṃ nīharitvā pakāsesuṃ, bhārukacchakavatthusmiṃ (pārā. 78) ‘‘āyasmā upāli evamāha anāpatti āvuso supinantenā’’ti evamādipariyattisāsanato eva attanomatiṃ nīharitvā pakāsesuṃ. Tāya hi attanomatiyā thero etadaggaṭṭhānaṃ labhi.
วุตฺตนฺติ นาคเสนเตฺถเรน วุตฺตํฯ ปชฺชเต อเนน อโตฺถติ ปทํ, ภควตา กณฺฐาทิวณฺณปฺปวตฺติฎฺฐานํ อาหจฺจ วิเสเสตฺวา ภาสิตํ ปทํ อาหจฺจปทํ, ภควโตเยว วจนํฯ เตนาห ‘‘อาหจฺจปทนฺติ สุตฺตํ อธิเปฺปต’’นฺติฯ ‘‘อิทํ กปฺปติ, อิทํ น กปฺปตี’’ติ เอวํ อวิเสเสตฺวา ‘‘ยํ, ภิกฺขเว, มยา ‘อิทํ น กปฺปตี’ติ อปฺปฎิกฺขิตฺตํ, ตเญฺจ อกปฺปิยํ อนุโลเมติ, กปฺปิยํ ปฎิพาหติ, ตํ โว น กปฺปตี’’ติอาทินา (มหาว. ๓๐๕) วุตฺตํ สามญฺญลกฺขณํ อิธ ‘‘รโส’’ติ อธิเปฺปตนฺติ อาห ‘‘รโสติ สุตฺตานุโลม’’นฺติฯ ธมฺมสงฺคาหกปฺปภุติอาจริยปรมฺปรโต อานีตา อฎฺฐกถาตนฺติ อิธ ‘‘อาจริยวํโส’’ติ อธิเปฺปตาติ อาห ‘‘อาจริยวํโสติ อาจริยวาโท’’ติฯ
Vuttanti nāgasenattherena vuttaṃ. Pajjate anena atthoti padaṃ, bhagavatā kaṇṭhādivaṇṇappavattiṭṭhānaṃ āhacca visesetvā bhāsitaṃ padaṃ āhaccapadaṃ, bhagavatoyeva vacanaṃ. Tenāha ‘‘āhaccapadanti suttaṃ adhippeta’’nti. ‘‘Idaṃ kappati, idaṃ na kappatī’’ti evaṃ avisesetvā ‘‘yaṃ, bhikkhave, mayā ‘idaṃ na kappatī’ti appaṭikkhittaṃ, tañce akappiyaṃ anulometi, kappiyaṃ paṭibāhati, taṃ vo na kappatī’’tiādinā (mahāva. 305) vuttaṃ sāmaññalakkhaṇaṃ idha ‘‘raso’’ti adhippetanti āha ‘‘rasoti suttānuloma’’nti. Dhammasaṅgāhakappabhutiācariyaparamparato ānītā aṭṭhakathātanti idha ‘‘ācariyavaṃso’’ti adhippetāti āha ‘‘ācariyavaṃsoti ācariyavādo’’ti.
อิธ วินยวินิจฺฉยสฺส อธิกตตฺตา ตทนุจฺฉวิกเมว สุตฺตํ ทเสฺสโนฺต อาห – ‘‘สุตฺตํ นาม สกเล วินยปิฎเก ปาฬี’’ติฯ มหาปเทสาติ มหาโอกาสา, มหนฺตานิ วินยสฺส ปติฎฺฐาปนฎฺฐานานิ เยสุ ปติฎฺฐาปิโต วินโย วินิจฺฉยติ อสเนฺทหโตฯ มหนฺตานิ วา การณานิ มหาปเทสา, มหนฺตานิ วินยวินิจฺฉยการณานีติ วุตฺตํ โหติฯ ‘‘อตฺถโต ปน ‘ยํ, ภิกฺขเว’ติอาทินา วุตฺตา สาธิปฺปายา ปาฬิเยว มหาปเทสา’’ติ วทนฺติฯ เตเนวาห ‘‘เย ภควตา เอวํ วุตฺตา’’ติอาทิฯ อิเม จ มหาปเทสา ขนฺธเก อาคตา, ตสฺมา เตสํ วินิจฺฉยกถา ตเตฺถว อาวิ ภวิสฺสตีติ อิธ น วุจฺจติฯ ยทิปิ ตตฺถ ตตฺถ ภควตา ปวตฺติตา ปกิณฺณกเทสนาว อฎฺฐกถา, สา ปน ธมฺมสงฺคาหเกหิ ปฐมํ ตีณิ ปิฎกานิ สงฺคายิตฺวา ตสฺส อตฺถวณฺณนานุรูเปเนว วาจนามคฺคํ อาโรปิตตฺตา ‘‘อาจริยวาโท’’ติ วุจฺจติ อาจริยา วทนฺติ สํวเณฺณนฺติ ปาฬิํ เอเตนาติ กตฺวาฯ เตนาห – ‘‘อาจริยวาโท นาม…เป.… อฎฺฐกถาตนฺตี’’ติฯ ติโสฺส สงฺคีติโย อารุโฬฺหเยว จ พุทฺธวจนสฺส อตฺถสํวณฺณนาภูโต กถามโคฺค มหามหินฺทเตฺถเรน ตมฺพปณฺณิทีปํ อาภโต, ปจฺฉา ตมฺพปณฺณิเยหิ มหาเถเรหิ สีหฬภาสาย ฐปิโต นิกายนฺตรลทฺธิสงฺกรปริหรณตฺถํฯ กิญฺจาปิ อตฺตโนมติ สุตฺตาทีหิ สํสนฺทิตฺวาว ปริกปฺปียติ, ตถาปิ สา น สุตฺตาทีสุ วิเสสโต นิทฺทิฎฺฐาติ อาห ‘‘สุตฺตสุตฺตานุโลมอาจริยวาเท มุญฺจิตฺวา’’ติฯ อนุพุทฺธิยาติ สุตฺตาทีนิเยว อนุคตพุทฺธิยาฯ นยคฺคาเหนาติ สุตฺตาทิโต ลพฺภมานนยคฺคหเณนฯ
Idha vinayavinicchayassa adhikatattā tadanucchavikameva suttaṃ dassento āha – ‘‘suttaṃ nāma sakale vinayapiṭake pāḷī’’ti. Mahāpadesāti mahāokāsā, mahantāni vinayassa patiṭṭhāpanaṭṭhānāni yesu patiṭṭhāpito vinayo vinicchayati asandehato. Mahantāni vā kāraṇāni mahāpadesā, mahantāni vinayavinicchayakāraṇānīti vuttaṃ hoti. ‘‘Atthato pana ‘yaṃ, bhikkhave’tiādinā vuttā sādhippāyā pāḷiyeva mahāpadesā’’ti vadanti. Tenevāha ‘‘ye bhagavatā evaṃ vuttā’’tiādi. Ime ca mahāpadesā khandhake āgatā, tasmā tesaṃ vinicchayakathā tattheva āvi bhavissatīti idha na vuccati. Yadipi tattha tattha bhagavatā pavattitā pakiṇṇakadesanāva aṭṭhakathā, sā pana dhammasaṅgāhakehi paṭhamaṃ tīṇi piṭakāni saṅgāyitvā tassa atthavaṇṇanānurūpeneva vācanāmaggaṃ āropitattā ‘‘ācariyavādo’’ti vuccati ācariyā vadanti saṃvaṇṇenti pāḷiṃ etenāti katvā. Tenāha – ‘‘ācariyavādo nāma…pe… aṭṭhakathātantī’’ti. Tisso saṅgītiyo āruḷhoyeva ca buddhavacanassa atthasaṃvaṇṇanābhūto kathāmaggo mahāmahindattherena tambapaṇṇidīpaṃ ābhato, pacchā tambapaṇṇiyehi mahātherehi sīhaḷabhāsāya ṭhapito nikāyantaraladdhisaṅkarapariharaṇatthaṃ. Kiñcāpi attanomati suttādīhi saṃsanditvāva parikappīyati, tathāpi sā na suttādīsu visesato niddiṭṭhāti āha ‘‘suttasuttānulomaācariyavāde muñcitvā’’ti. Anubuddhiyāti suttādīniyeva anugatabuddhiyā. Nayaggāhenāti suttādito labbhamānanayaggahaṇena.
อตฺตโนมติํ สามญฺญโต ปฐมํ ทเสฺสตฺวา อิทานิ ตเมว วิเสเสตฺวา ทเสฺสโนฺต ‘‘อปิจา’’ติอาทิมาหฯ อิทานิ ตตฺถ ปฎิปชฺชิตพฺพาการํ ทเสฺสโนฺต อาห – ‘‘ตํ ปน อตฺตโนมติํ คเหตฺวา กเถเนฺตนา’’ติอาทิฯ อเตฺถนาติ อตฺตนา สลฺลกฺขิเตน อเตฺถนฯ อาจริยวาเท โอตาเรตพฺพาติ อาจริยวาเท ญาเณน อนุปฺปเวเสตพฺพาฯ สพฺพทุพฺพลาติ ปุคฺคลสฺส สยํ ปฎิภานภาวโตฯ ปมาทปาฐวเสน อาจริยวาทสฺส กทาจิ สุตฺตานุโลเมน อสํสนฺทนาปิ สิยา, โส น คเหตโพฺพติ ทเสฺสโนฺต อาห – ‘‘อาจริยวาโทปิ…เป.… สเมโนฺต เอว คเหตโพฺพ’’ติฯ สเมนฺตเมว คเหตพฺพนฺติ ยถา สุเตฺตน สํสนฺทติ, เอวํ มหาปเทสโต อตฺถา อุทฺธริตพฺพาติ ทเสฺสติฯ สุตฺตานุโลมสฺส สุเตฺตกเทสเตฺตปิ สุเตฺต วิย ‘‘อิทํ กปฺปติ, อิทํ น กปฺปตี’’ติ ปริจฺฉินฺทิตฺวา อาหจฺจภาสิตํ กิญฺจิ นตฺถีติ อาห – ‘‘สุตฺตานุโลมโต หิ สุตฺตเมว พลวตร’’นฺติฯ อปฺปฎิวตฺติยนฺติ อปฺปฎิพาหิยํฯ การกสงฺฆสทิสนฺติ ปมาณตฺตา สงฺคีติการกสงฺฆสทิสํฯ พุทฺธานํ ฐิตกาลสทิสนฺติ อิมินา พุเทฺธเหว กถิตตฺตา ธรมานพุทฺธสทิสนฺติ วุตฺตํ โหติฯ สุเตฺต หิ ปฎิพาหิเต พุโทฺธว ปฎิพาหิโต โหติฯ สกวาที สุตฺตํ คเหตฺวา กเถตีติ สกวาที อตฺตโน สุตฺตํ คเหตฺวา โวหรติฯ ปรวาที สุตฺตานุโลมนฺติ อญฺญนิกายวาที อตฺตโน นิกาเย สุตฺตานุโลมํ คเหตฺวา กเถติฯ เขปํ วา ครหํ วา อกตฺวาติ ‘‘กิํ อิมินา’’ติ เขปํ วา ‘‘กิเมส พาโล วทตี’’ติ ครหํ วา อกตฺวาฯ สุตฺตานุโลมนฺติ ปรวาทินา วุตฺตํ อญฺญนิกาเย สุตฺตานุโลมํฯ สุเตฺต โอตาเรตพฺพนฺติ สกวาทินา อตฺตโน สุเตฺต โอตาเรตพฺพํฯ สุตฺตสฺมิํเยว ฐาตพฺพนฺติ อตฺตโน สุเตฺตเยว ฐาตพฺพํฯ เอวํ เสสวาเรสุปิ อตฺถโยชนา กาตพฺพาฯ อยนฺติ สกวาทีฯ ปโรติ อญฺญนิกายวาทีฯ เอวํ เสเสสุปิฯ
Attanomatiṃ sāmaññato paṭhamaṃ dassetvā idāni tameva visesetvā dassento ‘‘apicā’’tiādimāha. Idāni tattha paṭipajjitabbākāraṃ dassento āha – ‘‘taṃ pana attanomatiṃ gahetvā kathentenā’’tiādi. Atthenāti attanā sallakkhitena atthena. Ācariyavāde otāretabbāti ācariyavāde ñāṇena anuppavesetabbā. Sabbadubbalāti puggalassa sayaṃ paṭibhānabhāvato. Pamādapāṭhavasena ācariyavādassa kadāci suttānulomena asaṃsandanāpi siyā, so na gahetabboti dassento āha – ‘‘ācariyavādopi…pe… samento eva gahetabbo’’ti. Samentameva gahetabbanti yathā suttena saṃsandati, evaṃ mahāpadesato atthā uddharitabbāti dasseti. Suttānulomassa suttekadesattepi sutte viya ‘‘idaṃ kappati, idaṃ na kappatī’’ti paricchinditvā āhaccabhāsitaṃ kiñci natthīti āha – ‘‘suttānulomato hi suttameva balavatara’’nti. Appaṭivattiyanti appaṭibāhiyaṃ. Kārakasaṅghasadisanti pamāṇattā saṅgītikārakasaṅghasadisaṃ. Buddhānaṃ ṭhitakālasadisanti iminā buddheheva kathitattā dharamānabuddhasadisanti vuttaṃ hoti. Sutte hi paṭibāhite buddhova paṭibāhito hoti. Sakavādī suttaṃ gahetvā kathetīti sakavādī attano suttaṃ gahetvā voharati. Paravādī suttānulomanti aññanikāyavādī attano nikāye suttānulomaṃ gahetvā katheti. Khepaṃ vā garahaṃ vā akatvāti ‘‘kiṃ iminā’’ti khepaṃ vā ‘‘kimesa bālo vadatī’’ti garahaṃ vā akatvā. Suttānulomanti paravādinā vuttaṃ aññanikāye suttānulomaṃ. Sutte otāretabbanti sakavādinā attano sutte otāretabbaṃ. Suttasmiṃyeva ṭhātabbanti attano sutteyeva ṭhātabbaṃ. Evaṃ sesavāresupi atthayojanā kātabbā. Ayanti sakavādī. Paroti aññanikāyavādī. Evaṃ sesesupi.
นนุ จ ‘‘สุตฺตานุโลมโต สุตฺตเมว พลวตร’’นฺติ เหฎฺฐา วุตฺตํ, อิธ ปน ‘‘สุตฺตานุโลเม สุตฺตํ โอตาเรตพฺพ’’นฺติอาทิ กสฺมา วุตฺตนฺติ? นายํ วิโรโธฯ ‘‘สุตฺตานุโลมโต สุตฺตเมว พลวตร’’นฺติ หิ อิทํ สกมเตเยว สุตฺตํ สนฺธาย วุตฺตํฯ ตตฺถ หิ สกมติปริยาปนฺนเมว สุตฺตาทิํ สนฺธาย ‘‘อตฺตโนมติ สพฺพทุพฺพลา, อตฺตโนมติโต อาจริยวาโท พลวตโร, อาจริยวาทโต สุตฺตานุโลมํ พลวตรํ, สุตฺตานุโลมโต สุตฺตเมว พลวตร’’นฺติ จ วุตฺตํฯ อิธ ปน ปรวาทินา อานีตํ อญฺญนิกาเย สุตฺตํ สนฺธาย ‘‘สุตฺตานุโลเม สุตฺตํ โอตาเรตพฺพ’’นฺติอาทิ วุตฺตํฯ ตสฺมา ปรวาทินา อานีตํ สุตฺตาทิํ อตฺตโน สุตฺตานุโลมอาจริยวาทอตฺตโนมตีสุ โอตาเรตฺวา สเมนฺตํเยว คเหตพฺพํ, อิตรํ น คเหตพฺพนฺติ อยํ นโย อิธ วุจฺจตีติ น โกจิ ปุพฺพาปรวิโรโธฯ
Nanu ca ‘‘suttānulomato suttameva balavatara’’nti heṭṭhā vuttaṃ, idha pana ‘‘suttānulome suttaṃ otāretabba’’ntiādi kasmā vuttanti? Nāyaṃ virodho. ‘‘Suttānulomato suttameva balavatara’’nti hi idaṃ sakamateyeva suttaṃ sandhāya vuttaṃ. Tattha hi sakamatipariyāpannameva suttādiṃ sandhāya ‘‘attanomati sabbadubbalā, attanomatito ācariyavādo balavataro, ācariyavādato suttānulomaṃ balavataraṃ, suttānulomato suttameva balavatara’’nti ca vuttaṃ. Idha pana paravādinā ānītaṃ aññanikāye suttaṃ sandhāya ‘‘suttānulome suttaṃ otāretabba’’ntiādi vuttaṃ. Tasmā paravādinā ānītaṃ suttādiṃ attano suttānulomaācariyavādaattanomatīsu otāretvā samentaṃyeva gahetabbaṃ, itaraṃ na gahetabbanti ayaṃ nayo idha vuccatīti na koci pubbāparavirodho.
พาหิรกสุตฺตนฺติ ติโสฺส สงฺคีติโย อนารุฬฺหคุฬฺหเวสฺสนฺตราทีนิ มหาสงฺฆิกนิกายวาสีนํ สุตฺตานิฯ เวทลฺลาทีนนฺติ อาทิ-สเทฺทน คุฬฺหอุมฺมคฺคาทิคฺคหณํ เวทิตพฺพํ, อิตรํ คารยฺหสุตฺตํ น คเหตพฺพํฯ อตฺตโนมติยเมว ฐาตพฺพนฺติ อิมินา อญฺญนิกายโต อานีตสุตฺตโตปิ สกนิกาเย อตฺตโนมติเยว พลวตราติ ทเสฺสติฯ สกวาที สุตฺตํ คเหตฺวา กเถติ, ปรวาทีปิ สุตฺตเมวาติเอวมาทินา สมานชาติกานํ วเสน วาโร น วุโตฺต, สุตฺตสฺส สุเตฺตเยว โอตารณํ ภินฺนํ วิย หุตฺวา น ปญฺญายติ, วุตฺตนเยเนว จ สกฺกา โยเชตุนฺติฯ
Bāhirakasuttanti tisso saṅgītiyo anāruḷhaguḷhavessantarādīni mahāsaṅghikanikāyavāsīnaṃ suttāni. Vedallādīnanti ādi-saddena guḷhaummaggādiggahaṇaṃ veditabbaṃ, itaraṃ gārayhasuttaṃ na gahetabbaṃ. Attanomatiyameva ṭhātabbanti iminā aññanikāyato ānītasuttatopi sakanikāye attanomatiyeva balavatarāti dasseti. Sakavādī suttaṃ gahetvā katheti, paravādīpi suttamevātievamādinā samānajātikānaṃ vasena vāro na vutto, suttassa sutteyeva otāraṇaṃ bhinnaṃ viya hutvā na paññāyati, vuttanayeneva ca sakkā yojetunti.
อิทานิ สกวาทีปรวาทีนํ กปฺปิยากปฺปิยาทิภาวํ สนฺธาย วิวาเท อุปฺปเนฺน ตตฺถ ปฎิปชฺชิตพฺพวิธิํ ทเสฺสโนฺต อาห – ‘‘อถ ปนายํ กปฺปิยนฺติ คเหตฺวา กเถตี’’ติอาทิฯ ตตฺถ สุเตฺต จ สุตฺตานุโลเม จ โอตาเรตพฺพนฺติ สกวาทินา อตฺตโนเยว สุเตฺต จ สุตฺตานุโลเม จ โอตาเรตพฺพํฯ ปโร การณํ น วินฺทตีติ ปรวาที การณํ น ลภติฯ สุตฺตโต พหุํ การณญฺจ วินิจฺฉยญฺจ ทเสฺสตีติ ปรวาที อตฺตโน สุตฺตโต พหุํ การณํ วินิจฺฉยญฺจ อาหริตฺวา ทเสฺสติฯ สาธูติ สมฺปฎิจฺฉิตฺวา อกปฺปิเยว ฐาตพฺพนฺติ อิมินา อตฺตโน นิกาเย สุตฺตาทีนิ อลภเนฺตน สกวาทินา ปรวาทีวจเนเยว ฐาตพฺพนฺติ วทติฯ ทฺวินฺนมฺปิ การณจฺฉายา ทิสฺสตีติ สกวาทีปรวาทีนํ อุภินฺนมฺปิ กปฺปิยากปฺปิยภาวสาธกํ การณปติรูปกํ ทิสฺสติฯ ยทิ ทฺวินฺนมฺปิ การณจฺฉายา ทิสฺสติ, กสฺมา ‘‘อกปฺปิเยว ฐาตพฺพ’’นฺติ อาห ‘‘วินยญฺหิ ปตฺวา’’ติอาทิฯ ‘‘วินยํ ปตฺวา’’ติ วุตฺตเมวตฺถํ ปากฎตรํ กตฺวา ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘กปฺปิยากปฺปิยวิจารณมาคมฺมา’’ติฯ รุนฺธิตพฺพนฺติอาทีสุ ทุพฺพิเญฺญยฺยวินิจฺฉเย กปฺปิยากปฺปิยภาเว สติ กปฺปิยนฺติ คหณํ รุนฺธิตพฺพํ, อกปฺปิยนฺติ คหณํ คาฬฺหํ กาตพฺพํฯ อปราปรํ ปวตฺตกปฺปิยคหณโสตํ ปจฺฉินฺทิตพฺพํ, ครุกภาวสงฺขาเต อกปฺปิยภาเวเยว ฐาตพฺพนฺติ อโตฺถฯ
Idāni sakavādīparavādīnaṃ kappiyākappiyādibhāvaṃ sandhāya vivāde uppanne tattha paṭipajjitabbavidhiṃ dassento āha – ‘‘atha panāyaṃ kappiyanti gahetvā kathetī’’tiādi. Tattha sutte ca suttānulome ca otāretabbanti sakavādinā attanoyeva sutte ca suttānulome ca otāretabbaṃ. Paro kāraṇaṃ na vindatīti paravādī kāraṇaṃ na labhati. Suttato bahuṃ kāraṇañca vinicchayañca dassetīti paravādī attano suttato bahuṃ kāraṇaṃ vinicchayañca āharitvā dasseti. Sādhūti sampaṭicchitvā akappiyeva ṭhātabbanti iminā attano nikāye suttādīni alabhantena sakavādinā paravādīvacaneyeva ṭhātabbanti vadati. Dvinnampi kāraṇacchāyā dissatīti sakavādīparavādīnaṃ ubhinnampi kappiyākappiyabhāvasādhakaṃ kāraṇapatirūpakaṃ dissati. Yadi dvinnampi kāraṇacchāyā dissati, kasmā ‘‘akappiyeva ṭhātabba’’nti āha ‘‘vinayañhi patvā’’tiādi. ‘‘Vinayaṃ patvā’’ti vuttamevatthaṃ pākaṭataraṃ katvā dassento āha ‘‘kappiyākappiyavicāraṇamāgammā’’ti. Rundhitabbantiādīsu dubbiññeyyavinicchaye kappiyākappiyabhāve sati kappiyanti gahaṇaṃ rundhitabbaṃ, akappiyanti gahaṇaṃ gāḷhaṃ kātabbaṃ. Aparāparaṃ pavattakappiyagahaṇasotaṃ pacchinditabbaṃ, garukabhāvasaṅkhāte akappiyabhāveyeva ṭhātabbanti attho.
พหูหิ สุตฺตวินิจฺฉยการเณหีติ พหูหิ สุเตฺตหิ เจว ตโต อานีตวินิจฺฉยการเณหิ จฯ อตฺตโน คหณํ น วิสฺสเชฺชตพฺพนฺติ สกวาทินา อตฺตโน อกปฺปิยนฺติ คหณํ น วิสฺสเชฺชตพฺพํฯ อิทานิ วุตฺตเมวตฺถํ นิคเมโนฺต ‘‘เอว’’นฺติอาทิมาหฯ ตตฺถ โยติ สกวาทีปรวาทีสุ โย โกจิฯ เกจิ ปน ‘‘สกวาทีสุเยว โย โกจิ อิธาธิเปฺปโต’’ติ วทนฺติ, เอวํ สเนฺต ‘‘อถ ปนายํ กปฺปิยนฺติ คเหตฺวา กเถตี’’ติอาทีสุ สพฺพตฺถ อุโภปิ สกวาทิโนเยว สิยุํ เหฎฺฐา วุตฺตเสฺสว นิคมนวเสน ‘‘เอว’’นฺติอาทีนํ วุตฺตตฺตา, ตสฺมา ตํ น คเหตพฺพํฯ อติเรกการณํ ลภตีติ เอตฺถ สุตฺตาทีสุ ปุริมํ ปุริมํ อติเรกการณํ นาม, โย วา สุตฺตาทีสุ จตูสุ พหุตรํ การณํ ลภติ, โส อติเรกการณํ ลภติ นามฯ
Bahūhi suttavinicchayakāraṇehīti bahūhi suttehi ceva tato ānītavinicchayakāraṇehi ca. Attano gahaṇaṃ na vissajjetabbanti sakavādinā attano akappiyanti gahaṇaṃ na vissajjetabbaṃ. Idāni vuttamevatthaṃ nigamento ‘‘eva’’ntiādimāha. Tattha yoti sakavādīparavādīsu yo koci. Keci pana ‘‘sakavādīsuyeva yo koci idhādhippeto’’ti vadanti, evaṃ sante ‘‘atha panāyaṃ kappiyanti gahetvā kathetī’’tiādīsu sabbattha ubhopi sakavādinoyeva siyuṃ heṭṭhā vuttasseva nigamanavasena ‘‘eva’’ntiādīnaṃ vuttattā, tasmā taṃ na gahetabbaṃ. Atirekakāraṇaṃ labhatīti ettha suttādīsu purimaṃ purimaṃ atirekakāraṇaṃ nāma, yo vā suttādīsu catūsu bahutaraṃ kāraṇaṃ labhati, so atirekakāraṇaṃ labhati nāma.
สุฎฺฐุ ปวตฺติ เอตสฺสาติ สุปฺปวตฺติ, สุฎฺฐุ ปวตฺตติ สีเลนาติ วา สุปฺปวตฺติฯ เตนาห ‘‘สุปฺปวตฺตีติ สุฎฺฐุ ปวตฺต’’นฺติฯ วาจาย อุคฺคตํ วาจุคฺคตํ, วจสา สุคฺคหิตนฺติ วุตฺตํ โหติฯ สุตฺตโตติ อิมสฺส วิวรณํ ‘‘ปาฬิโต’’ติฯ เอตฺถ จ ‘‘สุตฺตํ นาม สกลํ วินยปิฎก’’นฺติ วุตฺตตฺตา ปาฬิโตติ ตทตฺถทีปิกา อญฺญาเยว ปาฬิ เวทิตพฺพาฯ อนุพฺยญฺชนโสติ อิมสฺส วิวรณํ ‘‘ปริปุจฺฉโต จ อฎฺฐกถาโต จา’’ติฯ ปาฬิํ อนุคนฺตฺวา อตฺถสฺส พฺยญฺชนโต ปกาสนโต อนุพฺยญฺชนนฺติ หิ ปริปุจฺฉา อฎฺฐกถา จ วุจฺจติฯ เอตฺถ จ อฎฺฐกถาย วิสุํ คหิตตฺตา ปริปุจฺฉาติ เถรวาโท วุโตฺตฯ สงฺฆเภทสฺส ปุพฺพภาเค ปวตฺตกลหเสฺสตํ อธิวจนํ สงฺฆราชีติฯ กุกฺกุจฺจโกติ อณุมเตฺตสุปิ วเชฺชสุ ภยทสฺสนวเสน กุกฺกุจฺจํ อุปฺปาเทโนฺตฯ ตนฺติํ อวิสํวาเทตฺวาติ ปาฬิํ อญฺญถา อกตฺวาฯ อโวกฺกมโนฺตติ อนติกฺกมโนฺตฯ
Suṭṭhu pavatti etassāti suppavatti, suṭṭhu pavattati sīlenāti vā suppavatti. Tenāha ‘‘suppavattīti suṭṭhu pavatta’’nti. Vācāya uggataṃ vācuggataṃ, vacasā suggahitanti vuttaṃ hoti. Suttatoti imassa vivaraṇaṃ ‘‘pāḷito’’ti. Ettha ca ‘‘suttaṃ nāma sakalaṃ vinayapiṭaka’’nti vuttattā pāḷitoti tadatthadīpikā aññāyeva pāḷi veditabbā. Anubyañjanasoti imassa vivaraṇaṃ ‘‘paripucchato ca aṭṭhakathāto cā’’ti. Pāḷiṃ anugantvā atthassa byañjanato pakāsanato anubyañjananti hi paripucchā aṭṭhakathā ca vuccati. Ettha ca aṭṭhakathāya visuṃ gahitattā paripucchāti theravādo vutto. Saṅghabhedassa pubbabhāge pavattakalahassetaṃ adhivacanaṃ saṅgharājīti. Kukkuccakoti aṇumattesupi vajjesu bhayadassanavasena kukkuccaṃ uppādento. Tantiṃ avisaṃvādetvāti pāḷiṃ aññathā akatvā. Avokkamantoti anatikkamanto.
วิตฺถุนตีติ อตฺถํ อทิสฺวา นิตฺถุนติฯ วิปฺผนฺทตีติ กมฺปติฯ สนฺติฎฺฐิตุํ น สโกฺกตีติ เอกสฺมิํเยว อเตฺถ ปติฎฺฐาตุํ น สโกฺกติฯ เตนาห ‘‘ยํ ยํ ปเรน วุจฺจติ, ตํ ตํ อนุชานาตี’’ติฯ ปรวาทํ คณฺหาตีติ ‘‘อุจฺฉุมฺหิ กสฎํ ยาวชีวิกํ, รโส สตฺตาหกาลิโก, ตทุภยวินิมุโตฺต จ อุจฺฉุ นาม วิสุํ นตฺถิ, ตสฺมา อุจฺฉุปิ วิกาเล วฎฺฎตี’’ติ ปรวาทินา วุเตฺต ตมฺปิ คณฺหาติฯ เอเกกโลมนฺติ ปลิตํ สนฺธาย วุตฺตํฯ ยมฺหีติ ยสฺมิํ ปุคฺคเลฯ ปริกฺขยํ ปริยาทานนฺติ อตฺถโต เอกํฯ
Vitthunatīti atthaṃ adisvā nitthunati. Vipphandatīti kampati. Santiṭṭhituṃ na sakkotīti ekasmiṃyeva atthe patiṭṭhātuṃ na sakkoti. Tenāha ‘‘yaṃyaṃ parena vuccati, taṃ taṃ anujānātī’’ti. Paravādaṃ gaṇhātīti ‘‘ucchumhi kasaṭaṃ yāvajīvikaṃ, raso sattāhakāliko, tadubhayavinimutto ca ucchu nāma visuṃ natthi, tasmā ucchupi vikāle vaṭṭatī’’ti paravādinā vutte tampi gaṇhāti. Ekekalomanti palitaṃ sandhāya vuttaṃ. Yamhīti yasmiṃ puggale. Parikkhayaṃ pariyādānanti atthato ekaṃ.
อาจริยปรมฺปรา โข ปนสฺส สุคฺคหิตา โหตีติ เอตฺถ อาจริยปรมฺปราติ อาจริยานํ วินิจฺฉยปรมฺปราฯ เตเนว วกฺขติ ‘‘ยถา อาจริโย จ อาจริยาจริโย จ ปาฬิญฺจ ปริปุจฺฉญฺจ วทนฺติ, ตถา ญาตุํ วฎฺฎตี’’ติฯ ปุพฺพาปรานุสนฺธิโตติ ‘‘อิทํ ปุพฺพวจนํ, อิทํ ปรวจนํ, อยมนุสนฺธี’’ติ เอวํ ปุพฺพาปรานุสนฺธิโตฯ อาจริยปรมฺปรนฺติ อิมเสฺสว เววจนํ เถรวาทงฺคนฺติ, เถรปฎิปาฎินฺติ อโตฺถฯ เทฺว ตโย ปริวฎฺฎาติ เทฺว ติโสฺส ปรมฺปราฯ
Ācariyaparamparā kho panassa suggahitā hotīti ettha ācariyaparamparāti ācariyānaṃ vinicchayaparamparā. Teneva vakkhati ‘‘yathā ācariyo ca ācariyācariyo ca pāḷiñca paripucchañca vadanti, tathā ñātuṃ vaṭṭatī’’ti. Pubbāparānusandhitoti ‘‘idaṃ pubbavacanaṃ, idaṃ paravacanaṃ, ayamanusandhī’’ti evaṃ pubbāparānusandhito. Ācariyaparamparanti imasseva vevacanaṃ theravādaṅganti, therapaṭipāṭinti attho. Dve tayo parivaṭṭāti dve tisso paramparā.
อิเมหิ จ ปน ตีหิ ลกฺขเณหีติ ‘‘สุตฺตมสฺส สฺวาคตํ โหตี’’ติอาทินา เหฎฺฐา วุเตฺตหิ ตีหิ ลกฺขเณหิฯ เอตฺถ จ ปฐเมน ลกฺขเณน วินยสฺส สุฎฺฐุ อุคฺคหิตภาโว วุโตฺต, ทุติเยน อุคฺคหิเตน อจลตา สุปฺปติฎฺฐิตตา วุตฺตา, ตติเยน ยํ ปาฬิยา อฎฺฐกถาย จ นตฺถิ, ตมฺปิ อาจริยวจเนน วินิจฺฉินิตุํ สมตฺถตา วุตฺตาฯ โอติเณฺณ วตฺถุสฺมินฺติ โจทนาสงฺขาเต วีติกฺกมสงฺขาเต วา วตฺถุสฺมิํ สงฺฆมเชฺฌ โอติเณฺณ, โอสเฎติ อโตฺถฯ วุตฺตเมว วิภาเวโนฺต ‘‘โจทเกน จ จุทิตเกน จ วุเตฺต วตฺตเพฺพ’’ติ อาหฯ เกจิ ปน ‘‘โจทเกน โอติเณฺณ วตฺถุสฺมิํ จุทิตเกน จ วุเตฺต วตฺตเพฺพ’’ติ เอวํ โยเชนฺติฯ อปเร ปน ‘‘โจทเกน จ จุทิตเกน จ วุเตฺต วินยธเรน จ วตฺตเพฺพ’’ติ เอวมฺปิ โยเชนฺติฯ ‘‘โจทเกน จ จุทิตเกน จ วุเตฺต วตฺตเพฺพ’’ติ อยเมว ปน โยชนา สุนฺทรตราติ เวทิตพฺพาฯ วตฺถุ โอโลเกตพฺพนฺติ ตสฺส ตสฺส สิกฺขาปทสฺส วตฺถุ โอโลเกตพฺพํฯ ‘‘ติเณน วา ปเณฺณน วา…เป.… โย อาคเจฺฉยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสา’’ติ (ปารา. ๕๑๗) หิ อิทํ นิสฺสคฺคิเย อญฺญาตกวิญฺญตฺติสิกฺขาปทสฺส วตฺถุสฺมิํ ปญฺญตฺตํ, ถุลฺลจฺจยทุพฺภาสิตาปตฺตีนํ มาติกาย อนาคตตฺตา ‘‘ปญฺจนฺนํ อาปตฺตีนํ อญฺญตร’’นฺติ วุตฺตํฯ อญฺญตรํ วา อาปตฺตินฺติ ‘‘กาเล วิกาลสญฺญี อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺส, กาเล เวมติโก อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสา’’ติ เอวมาทินา (ปาจิ. ๒๕๐) อาคตํ ทุกฺกฎํ สนฺธาย วุตฺตํฯ สิกฺขาปทนฺตเรสูติ วินีตวตฺถุํ อโนฺตกตฺวา เอเกกสฺมิํ สิกฺขาปทนฺตเรฯ
Imehi ca pana tīhi lakkhaṇehīti ‘‘suttamassa svāgataṃ hotī’’tiādinā heṭṭhā vuttehi tīhi lakkhaṇehi. Ettha ca paṭhamena lakkhaṇena vinayassa suṭṭhu uggahitabhāvo vutto, dutiyena uggahitena acalatā suppatiṭṭhitatā vuttā, tatiyena yaṃ pāḷiyā aṭṭhakathāya ca natthi, tampi ācariyavacanena vinicchinituṃ samatthatā vuttā. Otiṇṇe vatthusminti codanāsaṅkhāte vītikkamasaṅkhāte vā vatthusmiṃ saṅghamajjhe otiṇṇe, osaṭeti attho. Vuttameva vibhāvento ‘‘codakena ca cuditakena ca vutte vattabbe’’ti āha. Keci pana ‘‘codakena otiṇṇe vatthusmiṃ cuditakena ca vutte vattabbe’’ti evaṃ yojenti. Apare pana ‘‘codakena ca cuditakena ca vutte vinayadharena ca vattabbe’’ti evampi yojenti. ‘‘Codakena ca cuditakena ca vutte vattabbe’’ti ayameva pana yojanā sundaratarāti veditabbā. Vatthu oloketabbanti tassa tassa sikkhāpadassa vatthu oloketabbaṃ. ‘‘Tiṇena vā paṇṇena vā…pe… yo āgaccheyya, āpatti dukkaṭassā’’ti (pārā. 517) hi idaṃ nissaggiye aññātakaviññattisikkhāpadassa vatthusmiṃ paññattaṃ, thullaccayadubbhāsitāpattīnaṃ mātikāya anāgatattā ‘‘pañcannaṃ āpattīnaṃ aññatara’’nti vuttaṃ. Aññataraṃ vā āpattinti ‘‘kāle vikālasaññī āpatti dukkaṭassa, kāle vematiko āpatti dukkaṭassā’’ti evamādinā (pāci. 250) āgataṃ dukkaṭaṃ sandhāya vuttaṃ. Sikkhāpadantaresūti vinītavatthuṃ antokatvā ekekasmiṃ sikkhāpadantare.
สุขุมาติ อตฺตโนปิ ทุวิเญฺญยฺยสภาวสฺส ลหุปริวตฺติโน จิตฺตสฺส สีฆปริวตฺติตาย วุตฺตํฯ เตนาห ‘‘จิตฺตลหุกา’’ติฯ จิตฺตํ ลหุ สีฆปริวตฺติ เอเตสนฺติ จิตฺตลหุกาฯ เตติ เต วีติกฺกเมฯ ตํวตฺถุกนฺติ เต อทินฺนาทานมนุสฺสวิคฺคหวีติกฺกมา วตฺถุ อธิฎฺฐานํ การณเมตสฺสาติ ตํวตฺถุกํฯ สีลานิ โสเธตฺวาติ ยํวตฺถุกํ กุกฺกุจฺจํ อุปฺปนฺนํ, ตํ อมนสิกริตฺวา อวเสสสีลานิ โสเธตฺวาฯ ปากฎภาวโต สุขวฬญฺชนตาย จ ‘‘ทฺวตฺติํสาการํ ตาว มนสิ กโรหี’’ติ วุตฺตํฯ อญฺญสฺมิํ ปน กมฺมฎฺฐาเน กตปริจเยน ตเทว มนสิ กาตพฺพํฯ กมฺมฎฺฐานํ ฆฎยตีติ อนฺตรนฺตรา ขณฺฑํ อทเสฺสตฺวา จิเตฺตน สทฺธิํ อาลมฺพนภาเวน จิรกาลํ ฆฎยติฯ สงฺขารา ปากฎา หุตฺวา อุปฎฺฐหนฺตีติ วิปสฺสนากมฺมฎฺฐานิโก เจ, ตสฺส สงฺขารา ปากฎา หุตฺวา อุปฎฺฐหนฺติฯ สเจ กตปาราชิกวีติกฺกโม ภเวยฺย, ตสฺส สติปิ อสริตุกามตาย วิปฺปฎิสารวตฺถุวเสน ปุนปฺปุนํ ตํ อุปฎฺฐหตีติ จิเตฺตกคฺคตํ น วินฺทติฯ เตน วุตฺตํ ‘‘กมฺมฎฺฐานํ น ฆฎยตี’’ติอาทิฯ อตฺตนา ชานาตีติ สยเมว ชานาติฯ ปจฺจเตฺต เจตํ กรณวจนํ, อตฺตา ชานาตีติ วุตฺตํ โหติฯ อญฺญา จ เทวตา ชานนฺตีติ อารกฺขเทวตาหิ อญฺญา ปรจิตฺตวิทุนิโย เทวตา จ ชานนฺติฯ
Sukhumāti attanopi duviññeyyasabhāvassa lahuparivattino cittassa sīghaparivattitāya vuttaṃ. Tenāha ‘‘cittalahukā’’ti. Cittaṃ lahu sīghaparivatti etesanti cittalahukā. Teti te vītikkame. Taṃvatthukanti te adinnādānamanussaviggahavītikkamā vatthu adhiṭṭhānaṃ kāraṇametassāti taṃvatthukaṃ. Sīlāni sodhetvāti yaṃvatthukaṃ kukkuccaṃ uppannaṃ, taṃ amanasikaritvā avasesasīlāni sodhetvā. Pākaṭabhāvato sukhavaḷañjanatāya ca ‘‘dvattiṃsākāraṃ tāva manasi karohī’’ti vuttaṃ. Aññasmiṃ pana kammaṭṭhāne kataparicayena tadeva manasi kātabbaṃ. Kammaṭṭhānaṃ ghaṭayatīti antarantarā khaṇḍaṃ adassetvā cittena saddhiṃ ālambanabhāvena cirakālaṃ ghaṭayati. Saṅkhārā pākaṭā hutvā upaṭṭhahantīti vipassanākammaṭṭhāniko ce, tassa saṅkhārā pākaṭā hutvā upaṭṭhahanti. Sace katapārājikavītikkamo bhaveyya, tassa satipi asaritukāmatāya vippaṭisāravatthuvasena punappunaṃ taṃ upaṭṭhahatīti cittekaggataṃ na vindati. Tena vuttaṃ ‘‘kammaṭṭhānaṃ na ghaṭayatī’’tiādi. Attanā jānātīti sayameva jānāti. Paccatte cetaṃ karaṇavacanaṃ, attā jānātīti vuttaṃ hoti. Aññā ca devatā jānantīti ārakkhadevatāhi aññā paracittaviduniyo devatā ca jānanti.
นิฎฺฐิตา จตุพฺพิธวินยกถาวณฺณนา
Niṭṭhitā catubbidhavinayakathāvaṇṇanā
วินยธรสฺส จ ลกฺขณาทิกถาวณฺณนาฯ
Vinayadharassa ca lakkhaṇādikathāvaṇṇanā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / วินยปิฎก • Vinayapiṭaka / มหาวิภงฺค • Mahāvibhaṅga / ๑. ปฐมปาราชิกํ • 1. Paṭhamapārājikaṃ
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / วินยปิฎก (อฎฺฐกถา) • Vinayapiṭaka (aṭṭhakathā) / มหาวิภงฺค-อฎฺฐกถา • Mahāvibhaṅga-aṭṭhakathā / ๑. ปฐมปาราชิกํ • 1. Paṭhamapārājikaṃ
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā / จตุพฺพิธวินยกถาวณฺณนา • Catubbidhavinayakathāvaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā / จตุพฺพิธวินยาทิกถาวณฺณนา • Catubbidhavinayādikathāvaṇṇanā