Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สโมฺมหวิโนทนี-อฎฺฐกถา • Sammohavinodanī-aṭṭhakathā |
(๔.) จตุกฺกนิเทฺทสวณฺณนา
(4.) Catukkaniddesavaṇṇanā
๙๓๙. จตุกฺกนิเทฺทเส ตณฺหุปฺปาเทสุ จีวรเหตูติ ‘กตฺถ มนาปํ จีวรํ ลภิสฺสามี’ติ จีวรการณา อุปฺปชฺชติฯ อิติภวาภวเหตูติ เอตฺถ อิตีติ นิทสฺสนเตฺถ นิปาโต; ยถา จีวราทิเหตุ เอวํ ภวาภวเหตูติปิ อโตฺถฯ ภวาภโวติ เจตฺถ ปณีตปณีตตรานิ เตลมธุผาณิตาทีนิ อธิเปฺปตานิฯ อิเมสํ ปน จตุนฺนํ ตณฺหุปฺปาทานํ ปหานตฺถาย ปฎิปาฎิยาว จตฺตาโร อริยวํสา เทสิตาติ เวทิตพฺพาฯ
939. Catukkaniddese taṇhuppādesu cīvarahetūti ‘kattha manāpaṃ cīvaraṃ labhissāmī’ti cīvarakāraṇā uppajjati. Itibhavābhavahetūti ettha itīti nidassanatthe nipāto; yathā cīvarādihetu evaṃ bhavābhavahetūtipi attho. Bhavābhavoti cettha paṇītapaṇītatarāni telamadhuphāṇitādīni adhippetāni. Imesaṃ pana catunnaṃ taṇhuppādānaṃ pahānatthāya paṭipāṭiyāva cattāro ariyavaṃsā desitāti veditabbā.
อคติคมเนสุ ฉนฺทาคติํ คจฺฉตีติ ฉเนฺทน เปเมน อคติํ คจฺฉติ, อกตฺตพฺพํ กโรติฯ ปรปเทสุปิ เอเสว นโยฯ ตตฺถ โย ‘อยํ เม มิโตฺต วา สนฺทิโฎฺฐ วา สมฺภโตฺต วา ญาตโก วา ลญฺชํ วา ปน เม เทตี’ติ ฉนฺทวเสน อสฺสามิกํ สามิกํ กโรติ – อยํ ฉนฺทาคติํ คจฺฉติ นามฯ โย ‘อยํ เม เวรี’ติ ปกติเวรวเสน วา ตงฺขณุปฺปนฺนโกธวเสน วา สามิกํ อสฺสามิกํ กโรติ – อยํ โทสาคติํ คจฺฉติ นามฯ โย ปน มนฺทตฺตา โมมูหตฺตา ยํ วา ตํ วา วตฺวา อสฺสามิกํ สามิกํ กโรติ – อยํ โมหาคติํ คจฺฉติ นามฯ โย ปน ‘อยํ ราชวลฺลโภ วา วิสมนิสฺสิโต วา อนตฺถมฺปิ เม กเรยฺยา’ติ ภีโต อสฺสามิกํ สามิกํ กโรติ – อยํ ภยาคติํ คจฺฉติ นามฯ โย วา ปน ภาชิยฎฺฐาเน กิญฺจิ ภาเชโนฺต ‘อยํ เม มิโตฺต วา สนฺทิโฎฺฐ วา สมฺภโตฺต วา’ติ เปมวเสน อติเรกํ เทติ, ‘อยํ เม เวรี’ติ โทสวเสน อูนกํ เทติ, โมมูหตฺตา ทินฺนาทินฺนํ อชานมาโน กสฺสจิ อูนกํ กสฺสจิ อธิกํ เทติ, ‘อยํ อิมสฺมิํ อทียมาเน มยฺหํ อนตฺถมฺปิ กเรยฺยา’ติ ภีโต กสฺสจิ อติเรกํ เทติ, โส จตุพฺพิโธปิ ยถานุกฺกเมน ฉนฺทาคติอาทีนิ คจฺฉติ นามฯ อริยา เอตาย น คจฺฉนฺตีติ อคติ, อนริยา อิมินา อคติํ คจฺฉนฺตีติ อคติคมนํฯ อิมํ ทฺวยํ จตุนฺนมฺปิ สาธารณวเสน วุตฺตํฯ ฉเนฺทน คมนํ ฉนฺทคมนํฯ อิทํ โทสาทีนํ อสาธารณวเสน วุตฺตํฯ สกปกฺขราคญฺจ ปรปกฺขโทสญฺจ ปุรกฺขตฺวา อสมคฺคภาเวน คมนํ วคฺคคมนํฯ อิทํ ฉนฺทโทสสาธารณวเสน วุตฺตํฯ วาริโน วิย ยถานินฺนํ คมนนฺติ วาริคมนํฯ อิทํ จตุนฺนมฺปิ สาธารณวเสน วุตฺตํฯ
Agatigamanesu chandāgatiṃ gacchatīti chandena pemena agatiṃ gacchati, akattabbaṃ karoti. Parapadesupi eseva nayo. Tattha yo ‘ayaṃ me mitto vā sandiṭṭho vā sambhatto vā ñātako vā lañjaṃ vā pana me detī’ti chandavasena assāmikaṃ sāmikaṃ karoti – ayaṃ chandāgatiṃ gacchati nāma. Yo ‘ayaṃ me verī’ti pakativeravasena vā taṅkhaṇuppannakodhavasena vā sāmikaṃ assāmikaṃ karoti – ayaṃ dosāgatiṃ gacchati nāma. Yo pana mandattā momūhattā yaṃ vā taṃ vā vatvā assāmikaṃ sāmikaṃ karoti – ayaṃ mohāgatiṃ gacchati nāma. Yo pana ‘ayaṃ rājavallabho vā visamanissito vā anatthampi me kareyyā’ti bhīto assāmikaṃ sāmikaṃ karoti – ayaṃ bhayāgatiṃ gacchati nāma. Yo vā pana bhājiyaṭṭhāne kiñci bhājento ‘ayaṃ me mitto vā sandiṭṭho vā sambhatto vā’ti pemavasena atirekaṃ deti, ‘ayaṃ me verī’ti dosavasena ūnakaṃ deti, momūhattā dinnādinnaṃ ajānamāno kassaci ūnakaṃ kassaci adhikaṃ deti, ‘ayaṃ imasmiṃ adīyamāne mayhaṃ anatthampi kareyyā’ti bhīto kassaci atirekaṃ deti, so catubbidhopi yathānukkamena chandāgatiādīni gacchati nāma. Ariyā etāya na gacchantīti agati, anariyā iminā agatiṃ gacchantīti agatigamanaṃ. Imaṃ dvayaṃ catunnampi sādhāraṇavasena vuttaṃ. Chandena gamanaṃ chandagamanaṃ. Idaṃ dosādīnaṃ asādhāraṇavasena vuttaṃ. Sakapakkharāgañca parapakkhadosañca purakkhatvā asamaggabhāvena gamanaṃ vaggagamanaṃ. Idaṃ chandadosasādhāraṇavasena vuttaṃ. Vārino viya yathāninnaṃ gamananti vārigamanaṃ. Idaṃ catunnampi sādhāraṇavasena vuttaṃ.
วิปริยาเสสุ อนิจฺจาทีนิ วตฺถูนิ นิจฺจนฺติอาทินา นเยน วิปรีตโต เอสนฺตีติ วิปริยาสา, สญฺญาย วิปริยาโส สญฺญาวิปริยาโสฯ อิตเรสุปิ ทฺวีสุ เอเสว นโยฯ เอวเมเต จตุนฺนํ วตฺถูนํ วเสน จตฺตาโร, เยสุ วตฺถูสุ สญฺญาทีนํ วเสน ทฺวาทส โหนฺติฯ เตสุ อฎฺฐ โสตาปตฺติมเคฺคน ปหียนฺติฯ อสุเภ สุภนฺติ สญฺญาจิตฺตวิปลฺลาสา สกทาคามิมเคฺคน ตนุกา โหนฺติ, อนาคามิมเคฺคน ปหียนฺติฯ ทุเกฺข สุขนฺติ สญฺญาจิตฺตวิปลฺลาสา อรหตฺตมเคฺคน ปหียนฺตีติ เวทิตพฺพาฯ
Vipariyāsesu aniccādīni vatthūni niccantiādinā nayena viparītato esantīti vipariyāsā, saññāya vipariyāso saññāvipariyāso. Itaresupi dvīsu eseva nayo. Evamete catunnaṃ vatthūnaṃ vasena cattāro, yesu vatthūsu saññādīnaṃ vasena dvādasa honti. Tesu aṭṭha sotāpattimaggena pahīyanti. Asubhe subhanti saññācittavipallāsā sakadāgāmimaggena tanukā honti, anāgāmimaggena pahīyanti. Dukkhe sukhanti saññācittavipallāsā arahattamaggena pahīyantīti veditabbā.
อนริยโวหาเรสุ อนริยโวหาราติ อนริยานํ ลามกานํ โวหาราฯ ทิฎฺฐวาทิตาติ ‘ทิฎฺฐํ มยา’ติ เอวํ วาทิตาฯ เอตฺถ จ ตํ ตํ สมุฎฺฐาปิกเจตนาวเสน อโตฺถ เวทิตโพฺพฯ สห สเทฺทน เจตนา กถิตาติปิ วุตฺตเมวฯ ทุติยจตุเกฺกปิ เอเสว นโยฯ อริโย หิ อทิสฺวา วา ‘ทิฎฺฐํ มยา’ติ ทิสฺวา วา ‘น ทิฎฺฐํ มยา’ติ วตฺตา นาม นตฺถิ; อนริโยว เอวํ วทติฯ ตสฺมา เอวํ วทนฺตสฺส เอตา สห สเทฺทน อฎฺฐ เจตนา อนริยโวหาราติ เวทิตพฺพาฯ
Anariyavohāresu anariyavohārāti anariyānaṃ lāmakānaṃ vohārā. Diṭṭhavāditāti ‘diṭṭhaṃ mayā’ti evaṃ vāditā. Ettha ca taṃ taṃ samuṭṭhāpikacetanāvasena attho veditabbo. Saha saddena cetanā kathitātipi vuttameva. Dutiyacatukkepi eseva nayo. Ariyo hi adisvā vā ‘diṭṭhaṃ mayā’ti disvā vā ‘na diṭṭhaṃ mayā’ti vattā nāma natthi; anariyova evaṃ vadati. Tasmā evaṃ vadantassa etā saha saddena aṭṭha cetanā anariyavohārāti veditabbā.
ทุจฺจริเตสุ ปฐมจตุกฺกํ เวรเจตนาวเสน วุตฺตํ, ทุติยํ วจีทุจฺจริตวเสนฯ
Duccaritesu paṭhamacatukkaṃ veracetanāvasena vuttaṃ, dutiyaṃ vacīduccaritavasena.
ภเยสุ ปฐมจตุเกฺก ชาติํ ปฎิจฺจ อุปฺปนฺนํ ภยํ ชาติภยํฯ เสเสสุปิ เอเสว นโยฯ ทุติยจตุเกฺก ราชโต อุปฺปนฺนํ ภยํ ราชภยํฯ เสเสสุปิ เอเสว นโยฯ
Bhayesu paṭhamacatukke jātiṃ paṭicca uppannaṃ bhayaṃ jātibhayaṃ. Sesesupi eseva nayo. Dutiyacatukke rājato uppannaṃ bhayaṃ rājabhayaṃ. Sesesupi eseva nayo.
ตติยจตุเกฺก จตฺตาริ ภยานีติ มหาสมุเทฺท อุทกํ โอโรหนฺตสฺส วุตฺตภยานิฯ มหาสมุเทฺท กิร มหินฺทวีจิ นาม สฎฺฐิ โยชนานิ อุคฺคจฺฉติฯ คงฺคาวีจิ นาม ปณฺณาสฯ โรหณวีจิ นาม จตฺตาลีส โยชนานิ อุคฺคจฺฉติฯ เอวรูปา อูมิโย ปฎิจฺจ อุปฺปนฺนํ ภยํ อูมิภยํ นามฯ กุมฺภีลโต อุปฺปนฺนํ ภยํ กุมฺภีลภยํฯ อุทกาวฎฺฎโต ภยํ อาวฎฺฎภยํฯ สุสุกา วุจฺจติ จณฺฑมโจฺฉ; ตโต ภยํ สุสุกาภยํฯ
Tatiyacatukke cattāri bhayānīti mahāsamudde udakaṃ orohantassa vuttabhayāni. Mahāsamudde kira mahindavīci nāma saṭṭhi yojanāni uggacchati. Gaṅgāvīci nāma paṇṇāsa. Rohaṇavīci nāma cattālīsa yojanāni uggacchati. Evarūpā ūmiyo paṭicca uppannaṃ bhayaṃ ūmibhayaṃ nāma. Kumbhīlato uppannaṃ bhayaṃ kumbhīlabhayaṃ. Udakāvaṭṭato bhayaṃ āvaṭṭabhayaṃ. Susukā vuccati caṇḍamaccho; tato bhayaṃ susukābhayaṃ.
จตุตฺถจตุเกฺก อตฺตานุวาทภยนฺติ ปาปกมฺมิโน อตฺตานํ อนุวทนฺตสฺส อุปฺปชฺชนกภยํฯ ปรานุวาทภยนฺติ ปรสฺส อนุวาทโต อุปฺปชฺชนกภยํฯ ทณฺฑภยนฺติ อคาริกสฺส รญฺญา ปวตฺติตทณฺฑํ, อนคาริกสฺส วินยทณฺฑํ ปฎิจฺจ อุปฺปชฺชนกภยํฯ ทุคฺคติภยนฺติ จตฺตาโร อปาเย ปฎิจฺจ อุปฺปชฺชนกภยํฯ อิติ อิเมหิ จตูหิ จตุเกฺกหิ โสฬส มหาภยานิ นาม กถิตานิฯ
Catutthacatukke attānuvādabhayanti pāpakammino attānaṃ anuvadantassa uppajjanakabhayaṃ. Parānuvādabhayanti parassa anuvādato uppajjanakabhayaṃ. Daṇḍabhayanti agārikassa raññā pavattitadaṇḍaṃ, anagārikassa vinayadaṇḍaṃ paṭicca uppajjanakabhayaṃ. Duggatibhayanti cattāro apāye paṭicca uppajjanakabhayaṃ. Iti imehi catūhi catukkehi soḷasa mahābhayāni nāma kathitāni.
ทิฎฺฐิจตุเกฺก ติมฺพรุกทิฎฺฐิ (สํ. นิ. ๒.๑๘) นาม กถิตาฯ ตตฺถ สยํกตํ สุขทุกฺขนฺติ เวทนํ อตฺตโต สมนุปสฺสโต เวทนาย เอว เวทนา กตาติ อุปฺปนฺนา ทิฎฺฐิฯ เอวญฺจ สติ ตสฺสา เวทนาย ปุเพฺพปิ อตฺถิตา อาปชฺชตีติ อยํ สสฺสตทิฎฺฐิ นาม โหติฯ สจฺจโต เถตโตติ สจฺจโต ถิรโตฯ ปรํกตนฺติ ปจฺจุปฺปนฺนเวทนโต อญฺญํ เวทนาการณํ เวทนตฺตานํ สมนุปสฺสโต ‘อญฺญาย เวทนาย อยํ เวทนา กตา’ติ อุปฺปนฺนา ทิฎฺฐิฯ เอวํ สติ ปุริมาย การณเวทนาย อุเจฺฉโท อาปชฺชตีติ อยํ อุเจฺฉททิฎฺฐิ นาม โหติฯ สยํกตญฺจ ปรํกตญฺจาติ ยถาวุเตฺตเนว อเตฺถน ‘อุปฑฺฒํ สยํกตํ, อุปฑฺฒํ ปเรน กต’นฺติ คณฺหโต อุปฺปนฺนา ทิฎฺฐิ – อยํ สสฺสตุเจฺฉททิฎฺฐิ นามฯ จตุตฺถา อการณา เอว สุขทุกฺขํ โหตีติ คณฺหโต อุปฺปนฺนา ทิฎฺฐิฯ เอวํ สติ อยํ อเหตุกทิฎฺฐิ นามฯ เสสเมตฺถ เหฎฺฐา วุตฺตนยตฺตา อุตฺตานตฺถเมวาติฯ
Diṭṭhicatukke timbarukadiṭṭhi (saṃ. ni. 2.18) nāma kathitā. Tattha sayaṃkataṃ sukhadukkhanti vedanaṃ attato samanupassato vedanāya eva vedanā katāti uppannā diṭṭhi. Evañca sati tassā vedanāya pubbepi atthitā āpajjatīti ayaṃ sassatadiṭṭhi nāma hoti. Saccato thetatoti saccato thirato. Paraṃkatanti paccuppannavedanato aññaṃ vedanākāraṇaṃ vedanattānaṃ samanupassato ‘aññāya vedanāya ayaṃ vedanā katā’ti uppannā diṭṭhi. Evaṃ sati purimāya kāraṇavedanāya ucchedo āpajjatīti ayaṃ ucchedadiṭṭhi nāma hoti. Sayaṃkatañca paraṃkatañcāti yathāvutteneva atthena ‘upaḍḍhaṃ sayaṃkataṃ, upaḍḍhaṃ parena kata’nti gaṇhato uppannā diṭṭhi – ayaṃ sassatucchedadiṭṭhi nāma. Catutthā akāraṇā eva sukhadukkhaṃ hotīti gaṇhato uppannā diṭṭhi. Evaṃ sati ayaṃ ahetukadiṭṭhi nāma. Sesamettha heṭṭhā vuttanayattā uttānatthamevāti.
จตุกฺกนิเทฺทสวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Catukkaniddesavaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / อภิธมฺมปิฎก • Abhidhammapiṭaka / วิภงฺคปาฬิ • Vibhaṅgapāḷi / ๑๗. ขุทฺทกวตฺถุวิภโงฺค • 17. Khuddakavatthuvibhaṅgo
ฎีกา • Tīkā / อภิธมฺมปิฎก (ฎีกา) • Abhidhammapiṭaka (ṭīkā) / วิภงฺค-มูลฎีกา • Vibhaṅga-mūlaṭīkā / ๑๗. ขุทฺทกวตฺถุวิภโงฺค • 17. Khuddakavatthuvibhaṅgo
ฎีกา • Tīkā / อภิธมฺมปิฎก (ฎีกา) • Abhidhammapiṭaka (ṭīkā) / วิภงฺค-อนุฎีกา • Vibhaṅga-anuṭīkā / ๑๗. ขุทฺทกวตฺถุวิภโงฺค • 17. Khuddakavatthuvibhaṅgo