Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ปุคฺคลปญฺญตฺติปาฬิ • Puggalapaññattipāḷi |
๔. จตุกฺกปุคฺคลปญฺญตฺติ
4. Catukkapuggalapaññatti
๑๓๒. กตโม จ ปุคฺคโล อสปฺปุริโส? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล ปาณาติปาตี โหติ, อทินฺนาทายี โหติ, กาเมสุมิจฺฉาจารี โหติ, มุสาวาที โหติ, สุราเมรยมชฺชปมาทฎฺฐายี โหติ – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘อสปฺปุริโส’’ฯ
132. Katamo ca puggalo asappuriso? Idhekacco puggalo pāṇātipātī hoti, adinnādāyī hoti, kāmesumicchācārī hoti, musāvādī hoti, surāmerayamajjapamādaṭṭhāyī hoti – ayaṃ vuccati puggalo ‘‘asappuriso’’.
๑๓๓. กตโม จ ปุคฺคโล อสปฺปุริเสน อสปฺปุริสตโร? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล อตฺตนา จ ปาณาติปาตี โหติ ปรญฺจ ปาณาติปาเต สมาทเปติ , อตฺตนา จ อทินฺนาทายี โหติ ปรญฺจ อทินฺนาทาเน สมาทเปติ, อตฺตนา จ กาเมสุมิจฺฉาจารี โหติ ปรญฺจ กาเมสุมิจฺฉาจาเร สมาทเปติ, อตฺตนา จ มุสาวาที โหติ ปรญฺจ มุสาวาเท สมาทเปติ, อตฺตนา จ สุราเมรยมชฺชปมาทฎฺฐายี โหติ ปรญฺจ สุราเมรยมชฺชปมาทฎฺฐาเน สมาทเปติ – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘อสปฺปุริเสน อสปฺปุริสตโร’’ฯ
133. Katamo ca puggalo asappurisena asappurisataro? Idhekacco puggalo attanā ca pāṇātipātī hoti parañca pāṇātipāte samādapeti , attanā ca adinnādāyī hoti parañca adinnādāne samādapeti, attanā ca kāmesumicchācārī hoti parañca kāmesumicchācāre samādapeti, attanā ca musāvādī hoti parañca musāvāde samādapeti, attanā ca surāmerayamajjapamādaṭṭhāyī hoti parañca surāmerayamajjapamādaṭṭhāne samādapeti – ayaṃ vuccati puggalo ‘‘asappurisena asappurisataro’’.
๑๓๔. กตโม จ ปุคฺคโล สปฺปุริโส? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล ปาณาติปาตา ปฎิวิรโต โหติ , อทินฺนาทานา ปฎิวิรโต โหติ, กาเมสุมิจฺฉาจารา ปฎิวิรโต โหติ, มุสาวาทา ปฎิวิรโต โหติ, สุราเมรยมชฺชปมาทฎฺฐานา ปฎิวิรโต โหติ – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘สปฺปุริโส’’ฯ
134. Katamo ca puggalo sappuriso? Idhekacco puggalo pāṇātipātā paṭivirato hoti , adinnādānā paṭivirato hoti, kāmesumicchācārā paṭivirato hoti, musāvādā paṭivirato hoti, surāmerayamajjapamādaṭṭhānā paṭivirato hoti – ayaṃ vuccati puggalo ‘‘sappuriso’’.
๑๓๕. กตโม จ ปุคฺคโล สปฺปุริเสน สปฺปุริสตโร? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล อตฺตนา จ ปาณาติปาตา ปฎิวิรโต โหติ ปรญฺจ ปาณาติปาตา เวรมณิยา สมาทเปติ, อตฺตนา จ อทินฺนาทานา ปฎิวิรโต โหติ ปรญฺจ อทินฺนาทานา เวรมณิยา สมาทเปติ, อตฺตนา จ กาเมสุมิจฺฉาจารา ปฎิวิรโต โหติ ปรญฺจ กาเมสุมิจฺฉาจารา เวรมณิยา สมาทเปติ, อตฺตนา จ มุสาวาทา ปฎิวิรโต โหติ ปรญฺจ มุสาวาทา เวรมณิยา สมาทเปติ, อตฺตนา จ สุราเมรยมชฺชปมาทฎฺฐานา ปฎิวิรโต โหติ ปรญฺจ สุราเมรยมชฺชปมาทฎฺฐานา เวรมณิยา สมาทเปติ – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘สปฺปุริเสน สปฺปุริสตโร’’ฯ
135. Katamo ca puggalo sappurisena sappurisataro? Idhekacco puggalo attanā ca pāṇātipātā paṭivirato hoti parañca pāṇātipātā veramaṇiyā samādapeti, attanā ca adinnādānā paṭivirato hoti parañca adinnādānā veramaṇiyā samādapeti, attanā ca kāmesumicchācārā paṭivirato hoti parañca kāmesumicchācārā veramaṇiyā samādapeti, attanā ca musāvādā paṭivirato hoti parañca musāvādā veramaṇiyā samādapeti, attanā ca surāmerayamajjapamādaṭṭhānā paṭivirato hoti parañca surāmerayamajjapamādaṭṭhānā veramaṇiyā samādapeti – ayaṃ vuccati puggalo ‘‘sappurisena sappurisataro’’.
๑๓๗. กตโม จ ปุคฺคโล ปาเปน ปาปตโร? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล อตฺตนา จ ปาณาติปาตี โหติ ปรญฺจ ปาณาติปาเต สมาทเปติ, อตฺตนา จ อทินฺนาทายี โหติ ปรญฺจ อทินฺนาทาเน สมาทเปติ, อตฺตนา จ กาเมสุมิจฺฉาจารี โหติ ปรญฺจ กาเมสุมิจฺฉาจาเร สมาทเปติ, อตฺตนา จ มุสาวาที โหติ ปรญฺจ มุสาวาเท สมาทเปติ, อตฺตนา จ ปิสุณวาโจ โหติ ปรญฺจ ปิสุณาย วาจาย สมาทเปติ, อตฺตนา จ ผรุสวาโจ โหติ ปรญฺจ ผรุสาย วาจาย สมาทเปติ, อตฺตนา จ สมฺผปฺปลาปี โหติ ปรญฺจ สมฺผปฺปลาเป สมาทเปติ, อตฺตนา จ อภิชฺฌาลุ โหติ ปรญฺจ อภิชฺฌาย สมาทเปติ, อตฺตนา จ พฺยาปนฺนจิโตฺต โหติ ปรญฺจ พฺยาปาเท สมาทเปติ, อตฺตนา จ มิจฺฉาทิฎฺฐิ โหติ ปรญฺจ มิจฺฉาทิฎฺฐิยา สมาทเปติ – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘ปาเปน ปาปตโร’’ฯ
137. Katamo ca puggalo pāpena pāpataro? Idhekacco puggalo attanā ca pāṇātipātī hoti parañca pāṇātipāte samādapeti, attanā ca adinnādāyī hoti parañca adinnādāne samādapeti, attanā ca kāmesumicchācārī hoti parañca kāmesumicchācāre samādapeti, attanā ca musāvādī hoti parañca musāvāde samādapeti, attanā ca pisuṇavāco hoti parañca pisuṇāya vācāya samādapeti, attanā ca pharusavāco hoti parañca pharusāya vācāya samādapeti, attanā ca samphappalāpī hoti parañca samphappalāpe samādapeti, attanā ca abhijjhālu hoti parañca abhijjhāya samādapeti, attanā ca byāpannacitto hoti parañca byāpāde samādapeti, attanā ca micchādiṭṭhi hoti parañca micchādiṭṭhiyā samādapeti – ayaṃ vuccati puggalo ‘‘pāpena pāpataro’’.
๑๓๘. กตโม จ ปุคฺคโล กลฺยาโณ? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล ปาณาติปาตา ปฎิวิรโต โหติ, อทินฺนาทานา ปฎิวิรโต โหติ , กาเมสุมิจฺฉาจารา ปฎิวิรโต โหติ, มุสาวาทา ปฎิวิรโต โหติ, ปิสุณาย วาจาย ปฎิวิรโต โหติ, ผรุสาย วาจาย ปฎิวิรโต โหติ, สมฺผปฺปลาปา ปฎิวิรโต โหติ, อนภิชฺฌาลุ โหติ, อพฺยาปนฺนจิโตฺต โหติ, สมฺมาทิฎฺฐิ 7 โหติ – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘กลฺยาโณ’’ฯ
138. Katamo ca puggalo kalyāṇo? Idhekacco puggalo pāṇātipātā paṭivirato hoti, adinnādānā paṭivirato hoti , kāmesumicchācārā paṭivirato hoti, musāvādā paṭivirato hoti, pisuṇāya vācāya paṭivirato hoti, pharusāya vācāya paṭivirato hoti, samphappalāpā paṭivirato hoti, anabhijjhālu hoti, abyāpannacitto hoti, sammādiṭṭhi 8 hoti – ayaṃ vuccati puggalo ‘‘kalyāṇo’’.
๑๓๙. กตโม จ ปุคฺคโล กลฺยาเณน กลฺยาณตโร? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล อตฺตนา จ ปาณาติปาตา ปฎิวิรโต โหติ ปรญฺจ ปาณาติปาตา เวรมณิยา สมาทเปติ, อตฺตนา จ อทินฺนาทานา ปฎิวิรโต โหติ ปรญฺจ อทินฺนาทานา เวรมณิยา สมาทเปติ, อตฺตนา จ กาเมสุมิจฺฉาจารา ปฎิวิรโต โหติ ปรญฺจ กาเมสุมิจฺฉาจารา เวรมณิยา สมาทเปติ, อตฺตนา จ มุสาวาทา ปฎิวิรโต โหติ ปรญฺจ มุสาวาทา เวรมณิยา สมาทเปติ, อตฺตนา จ ปิสุณาย วาจาย ปฎิวิรโต โหติ ปรญฺจ ปิสุณาย วาจาย เวรมณิยา สมาทเปติ, อตฺตนา จ ผรุสาย วาจาย ปฎิวิรโต โหติ ปรญฺจ ผรุสาย วาจาย เวรมณิยา สมาทเปติ, อตฺตนา จ สมฺผปฺปลาปา ปฎิวิรโต โหติ ปรญฺจ สมฺผปฺปลาปา เวรมณิยา สมาทเปติ, อตฺตนา จ อนภิชฺฌาลุ โหติ ปรญฺจ อนภิชฺฌาย สมาทเปติ, อตฺตนา จ อพฺยาปนฺนจิโตฺต โหติ ปรญฺจ อพฺยาปาเท สมาทเปติ, อตฺตนา จ สมฺมาทิฎฺฐิ โหติ ปรญฺจ สมฺมาทิฎฺฐิยา สมาทเปติ – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘กลฺยาเณน กลฺยาณตโร’’ฯ
139. Katamo ca puggalo kalyāṇena kalyāṇataro? Idhekacco puggalo attanā ca pāṇātipātā paṭivirato hoti parañca pāṇātipātā veramaṇiyā samādapeti, attanā ca adinnādānā paṭivirato hoti parañca adinnādānā veramaṇiyā samādapeti, attanā ca kāmesumicchācārā paṭivirato hoti parañca kāmesumicchācārā veramaṇiyā samādapeti, attanā ca musāvādā paṭivirato hoti parañca musāvādā veramaṇiyā samādapeti, attanā ca pisuṇāya vācāya paṭivirato hoti parañca pisuṇāya vācāya veramaṇiyā samādapeti, attanā ca pharusāya vācāya paṭivirato hoti parañca pharusāya vācāya veramaṇiyā samādapeti, attanā ca samphappalāpā paṭivirato hoti parañca samphappalāpā veramaṇiyā samādapeti, attanā ca anabhijjhālu hoti parañca anabhijjhāya samādapeti, attanā ca abyāpannacitto hoti parañca abyāpāde samādapeti, attanā ca sammādiṭṭhi hoti parañca sammādiṭṭhiyā samādapeti – ayaṃ vuccati puggalo ‘‘kalyāṇena kalyāṇataro’’.
๑๔๐. กตโม จ ปุคฺคโล ปาปธโมฺม? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล ปาณาติปาตี โหติ, อทินฺนาทายี โหติ…เป.… มิจฺฉาทิฎฺฐิ โหติ – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘ปาปธโมฺม’’ฯ
140. Katamo ca puggalo pāpadhammo? Idhekacco puggalo pāṇātipātī hoti, adinnādāyī hoti…pe… micchādiṭṭhi hoti – ayaṃ vuccati puggalo ‘‘pāpadhammo’’.
๑๔๑. กตโม จ ปุคฺคโล ปาปธเมฺมน ปาปธมฺมตโร? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล อตฺตนา จ ปาณาติปาตี โหติ ปรญฺจ ปาณาติปาเต สมาทเปติ, อตฺตนา จ อทินฺนาทายี โหติ ปรญฺจ อทินฺนาทาเน สมาทเปติ…เป.… อตฺตนา จ มิจฺฉาทิฎฺฐิ โหติ ปรญฺจ มิจฺฉาทิฎฺฐิยา สมาทเปติ – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘ปาปธเมฺมน ปาปธมฺมตโร’’ฯ
141. Katamo ca puggalo pāpadhammena pāpadhammataro? Idhekacco puggalo attanā ca pāṇātipātī hoti parañca pāṇātipāte samādapeti, attanā ca adinnādāyī hoti parañca adinnādāne samādapeti…pe… attanā ca micchādiṭṭhi hoti parañca micchādiṭṭhiyā samādapeti – ayaṃ vuccati puggalo ‘‘pāpadhammena pāpadhammataro’’.
๑๔๒. กตโม จ ปุคฺคโล กลฺยาณธโมฺม? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล ปาณาติปาตา ปฎิวิรโต โหติ, อทินฺนาทานา ปฎิวิรโต โหติ…เป.… สมาทิฎฺฐิ โหติ – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘กลฺยาณธโมฺม’’ฯ
142. Katamo ca puggalo kalyāṇadhammo? Idhekacco puggalo pāṇātipātā paṭivirato hoti, adinnādānā paṭivirato hoti…pe… samādiṭṭhi hoti – ayaṃ vuccati puggalo ‘‘kalyāṇadhammo’’.
๑๔๓. กตโม จ ปุคฺคโล กลฺยาณธเมฺมน กลฺยาณธมฺมตโร? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล อตฺตนา จ ปาณาติปาตา ปฎิวิรโต โหติ ปรญฺจ ปาณาติปาตา เวรมณิยา สมาทเปติ…เป.… อตฺตนา จ สมฺมาทิฎฺฐิ โหติ ปรญฺจ สมฺมาทิฎฺฐิยา สมาทเปติ – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘กลฺยาณธเมฺมน กลฺยาณธมฺมตโร’’ฯ
143. Katamo ca puggalo kalyāṇadhammena kalyāṇadhammataro? Idhekacco puggalo attanā ca pāṇātipātā paṭivirato hoti parañca pāṇātipātā veramaṇiyā samādapeti…pe… attanā ca sammādiṭṭhi hoti parañca sammādiṭṭhiyā samādapeti – ayaṃ vuccati puggalo ‘‘kalyāṇadhammena kalyāṇadhammataro’’.
๑๔๔. กตโม จ ปุคฺคโล สาวโชฺช? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล สาวเชฺชน กายกเมฺมน สมนฺนาคโต โหติ, สาวเชฺชน วจีกเมฺมน สมนฺนาคโต โหติ, สาวเชฺชน มโนกเมฺมน สมนฺนาคโต โหติ – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘สาวโชฺช’’ฯ
144. Katamo ca puggalo sāvajjo? Idhekacco puggalo sāvajjena kāyakammena samannāgato hoti, sāvajjena vacīkammena samannāgato hoti, sāvajjena manokammena samannāgato hoti – ayaṃ vuccati puggalo ‘‘sāvajjo’’.
๑๔๕. กตโม จ ปุคฺคโล วชฺชพหุโล? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล สาวเชฺชน พหุลํ กายกเมฺมน สมนฺนาคโต โหติ อปฺปํ อนวเชฺชน, สาวเชฺชน พหุลํ วจีกเมฺมน สมนฺนาคโต โหติ อปฺปํ อนวเชฺชน, สาวเชฺชน พหุลํ มโนกเมฺมน สมนฺนาคโต โหติ อปฺปํ อนวเชฺชน – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘วชฺชพหุโล’’ฯ
145. Katamo ca puggalo vajjabahulo? Idhekacco puggalo sāvajjena bahulaṃ kāyakammena samannāgato hoti appaṃ anavajjena, sāvajjena bahulaṃ vacīkammena samannāgato hoti appaṃ anavajjena, sāvajjena bahulaṃ manokammena samannāgato hoti appaṃ anavajjena – ayaṃ vuccati puggalo ‘‘vajjabahulo’’.
๑๔๖. กตโม จ ปุคฺคโล อปฺปวโชฺช? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล อนวเชฺชน พหุลํ กายกเมฺมน สมนฺนาคโต โหติ อปฺปํ สาวเชฺชน, อนวเชฺชน พหุลํ วจีกเมฺมน สมนฺนาคโต โหติ อปฺปํ สาวเชฺชน, อนวเชฺชน พหุลํ มโนกเมฺมน สมนฺนาคโต โหติ อปฺปํ สาวเชฺชน – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘อปฺปวโชฺช’’ฯ
146. Katamo ca puggalo appavajjo? Idhekacco puggalo anavajjena bahulaṃ kāyakammena samannāgato hoti appaṃ sāvajjena, anavajjena bahulaṃ vacīkammena samannāgato hoti appaṃ sāvajjena, anavajjena bahulaṃ manokammena samannāgato hoti appaṃ sāvajjena – ayaṃ vuccati puggalo ‘‘appavajjo’’.
๑๔๗. กตโม จ ปุคฺคโล อนวโชฺช? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล อนวเชฺชน กายกเมฺมน สมนฺนาคโต โหติ, อนวเชฺชน วจีกเมฺมน สมนฺนาคโต โหติ, อนวเชฺชน มโนกเมฺมน สมนฺนาคโต โหติ – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘อนวโชฺช’’ฯ
147. Katamo ca puggalo anavajjo? Idhekacco puggalo anavajjena kāyakammena samannāgato hoti, anavajjena vacīkammena samannāgato hoti, anavajjena manokammena samannāgato hoti – ayaṃ vuccati puggalo ‘‘anavajjo’’.
๑๔๘. กตโม จ ปุคฺคโล อุคฺฆฎิตญฺญู? ยสฺส ปุคฺคลสฺส สห อุทาหฎเวลาย ธมฺมาภิสมโย โหติ – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘อุคฺฆฎิตญฺญู’’ฯ
148. Katamo ca puggalo ugghaṭitaññū? Yassa puggalassa saha udāhaṭavelāya dhammābhisamayo hoti – ayaṃ vuccati puggalo ‘‘ugghaṭitaññū’’.
๑๔๙. กตโม จ ปุคฺคโล วิปญฺจิตญฺญู? ยสฺส ปุคฺคลสฺส สํขิเตฺตน ภาสิตสฺส วิตฺถาเรน อเตฺถ วิภชิยมาเน ธมฺมาภิสมโย โหติ – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘วิปญฺจิตญฺญู’’ฯ
149. Katamo ca puggalo vipañcitaññū? Yassa puggalassa saṃkhittena bhāsitassa vitthārena atthe vibhajiyamāne dhammābhisamayo hoti – ayaṃ vuccati puggalo ‘‘vipañcitaññū’’.
๑๕๐. กตโม จ ปุคฺคโล เนโยฺย? ยสฺส ปุคฺคลสฺส อุเทฺทสโต ปริปุจฺฉโต โยนิโส มนสิกโรโต กลฺยาณมิเตฺต เสวโต ภชโต ปยิรุปาสโต เอวํ อนุปุเพฺพน ธมฺมาภิสมโย โหติ – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘เนโยฺย’’ฯ
150. Katamo ca puggalo neyyo? Yassa puggalassa uddesato paripucchato yoniso manasikaroto kalyāṇamitte sevato bhajato payirupāsato evaṃ anupubbena dhammābhisamayo hoti – ayaṃ vuccati puggalo ‘‘neyyo’’.
๑๕๑. กตโม จ ปุคฺคโล ปทปรโม? ยสฺส ปุคฺคลสฺส พหุมฺปิ สุณโต พหุมฺปิ ภณโต พหุมฺปิ ธารยโต พหุมฺปิ วาจยโต น ตาย ชาติยา ธมฺมาภิสมโย โหติ – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘ปทปรโม’’ฯ
151. Katamo ca puggalo padaparamo? Yassa puggalassa bahumpi suṇato bahumpi bhaṇato bahumpi dhārayato bahumpi vācayato na tāya jātiyā dhammābhisamayo hoti – ayaṃ vuccati puggalo ‘‘padaparamo’’.
๑๕๒. กตโม จ ปุคฺคโล ยุตฺตปฺปฎิภาโน 9 โน มุตฺตปฺปฎิภาโน? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล ปญฺหํ ปุโฎฺฐ สมาโน ยุตฺตํ วทติ โน สีฆํ – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘ยุตฺตปฺปฎิภาโน โน มุตฺตปฺปฎิภาโน’’ฯ
152. Katamo ca puggalo yuttappaṭibhāno 10 no muttappaṭibhāno? Idhekacco puggalo pañhaṃ puṭṭho samāno yuttaṃ vadati no sīghaṃ – ayaṃ vuccati puggalo ‘‘yuttappaṭibhāno no muttappaṭibhāno’’.
๑๕๓. กตโม จ ปุคฺคโล มุตฺตปฺปฎิภาโน โน ยุตฺตปฺปฎิภาโน? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล ปญฺหํ ปุโฎฺฐ สมาโน สีฆํ วทติ โน ยุตฺตํ – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘มุตฺตปฺปฎิภาโน โน ยุตฺตปฺปฎิภาโน’’ฯ
153. Katamo ca puggalo muttappaṭibhāno no yuttappaṭibhāno? Idhekacco puggalo pañhaṃ puṭṭho samāno sīghaṃ vadati no yuttaṃ – ayaṃ vuccati puggalo ‘‘muttappaṭibhāno no yuttappaṭibhāno’’.
๑๕๔. กตโม จ ปุคฺคโล ยุตฺตปฺปฎิภาโน จ มุตฺตปฺปฎิภาโน จ? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล ปญฺหํ ปุโฎฺฐ สมาโน ยุตฺตญฺจ วทติ สีฆญฺจ – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘ยุตฺตปฺปฎิภาโน จ มุตฺตปฺปฎิภาโน จ’’ฯ
154. Katamo ca puggalo yuttappaṭibhāno ca muttappaṭibhāno ca? Idhekacco puggalo pañhaṃ puṭṭho samāno yuttañca vadati sīghañca – ayaṃ vuccati puggalo ‘‘yuttappaṭibhāno ca muttappaṭibhāno ca’’.
๑๕๕. กตโม จ ปุคฺคโล เนว ยุตฺตปฺปฎิภาโน โน มุตฺตปฺปฎิภาโน? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล ปญฺหํ ปุโฎฺฐ สมาโน เนว ยุตฺตํ วทติ โน สีฆํ – อยํ วุจฺจติ, ปุคฺคโล ‘‘เนว ยุตฺตปฺปฎิภาโน โน มุตฺตปฺปฎิภาโน’’ฯ
155. Katamo ca puggalo neva yuttappaṭibhāno no muttappaṭibhāno? Idhekacco puggalo pañhaṃ puṭṭho samāno neva yuttaṃ vadati no sīghaṃ – ayaṃ vuccati, puggalo ‘‘neva yuttappaṭibhāno no muttappaṭibhāno’’.
๑๕๖. ตตฺถ กตเม จตฺตาโร ธมฺมกถิกา ปุคฺคลา? อิเธกโจฺจ ธมฺมกถิโก อปฺปญฺจ ภาสติ อสหิตญฺจ, ปริสา จสฺส น กุสลา โหติ สหิตาสหิตสฺสฯ เอวรูโป ธมฺมกถิโก เอวรูปาย ปริสาย ธมฺมกถิโกเตฺวว สงฺขํ คจฺฉติฯ
156. Tattha katame cattāro dhammakathikā puggalā? Idhekacco dhammakathiko appañca bhāsati asahitañca, parisā cassa na kusalā hoti sahitāsahitassa. Evarūpo dhammakathiko evarūpāya parisāya dhammakathikotveva saṅkhaṃ gacchati.
อิธ ปเนกโจฺจ ธมฺมกถิโก อปฺปญฺจ ภาสติ สหิตญฺจ, ปริสา จสฺส กุสลา โหติ สหิตาสหิตสฺสฯ เอวรูโป ธมฺมกถิโก เอวรูปาย ปริสาย ธมฺมกถิโกเตฺวว สงฺขํ คจฺฉติฯ
Idha panekacco dhammakathiko appañca bhāsati sahitañca, parisā cassa kusalā hoti sahitāsahitassa. Evarūpo dhammakathiko evarūpāya parisāya dhammakathikotveva saṅkhaṃ gacchati.
อิธ ปเนกโจฺจ ธมฺมกถิโก พหุญฺจ ภาสติ อสหิตญฺจ, ปริสา จสฺส น กุสลา โหติ สหิตาสหิตสฺสฯ เอวรูโป ธมฺมกถิโก เอวรูปาย ปริสาย ธมฺมกถิโกเตฺวว สงฺขํ คจฺฉติฯ
Idha panekacco dhammakathiko bahuñca bhāsati asahitañca, parisā cassa na kusalā hoti sahitāsahitassa. Evarūpo dhammakathiko evarūpāya parisāya dhammakathikotveva saṅkhaṃ gacchati.
อิธ ปเนกโจฺจ ธมฺมกถิโก พหุญฺจ ภาสติ สหิตญฺจ, ปริสา จสฺส กุสลา โหติ สหิตาสหิตสฺสฯ เอวรูโป ธมฺมกถิโก เอวรูปาย ปริสาย ธมฺมกถิโกเตฺวว สงฺขํ คจฺฉติฯ อิเม จตฺตาโร ‘‘ธมฺมกถิกา ปุคฺคลา’’ฯ
Idha panekacco dhammakathiko bahuñca bhāsati sahitañca, parisā cassa kusalā hoti sahitāsahitassa. Evarūpo dhammakathiko evarūpāya parisāya dhammakathikotveva saṅkhaṃ gacchati. Ime cattāro ‘‘dhammakathikā puggalā’’.
๑๕๗. ตตฺถ กตเม จตฺตาโร วลาหกูปมา ปุคฺคลา? จตฺตาโร วลาหกา – คชฺชิตา โน วสฺสิตา, วสฺสิตา โน คชฺชิตา, คชฺชิตา จ วสฺสิตา จ, เนว คชฺชิตา โน วสฺสิตาฯ เอวเมวํ จตฺตาโรเม วลาหกูปมา ปุคฺคลา สโนฺต สํวิชฺชมานา โลกสฺมิํฯ กตเม จตฺตาโร ? คชฺชิตา โน วสฺสิตา, วสฺสิตา โน คชฺชิตา, คชฺชิตา จ วสฺสิตา จ, เนว คชฺชิตา โน วสฺสิตาฯ
157. Tattha katame cattāro valāhakūpamā puggalā? Cattāro valāhakā – gajjitā no vassitā, vassitā no gajjitā, gajjitā ca vassitā ca, neva gajjitā no vassitā. Evamevaṃ cattārome valāhakūpamā puggalā santo saṃvijjamānā lokasmiṃ. Katame cattāro ? Gajjitā no vassitā, vassitā no gajjitā, gajjitā ca vassitā ca, neva gajjitā no vassitā.
กถญฺจ ปุคฺคโล คชฺชิตา โหติ โน วสฺสิตา? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล ภาสิตา โหติ, โน กตฺตาฯ เอวํ ปุคฺคโล คชฺชิตา โหติ, โน วสฺสิตาฯ เสยฺยถาปิ โส วลาหโก คชฺชิตา โน วสฺสิตา, ตถูปโม อยํ ปุคฺคโลฯ
Kathañca puggalo gajjitā hoti no vassitā? Idhekacco puggalo bhāsitā hoti, no kattā. Evaṃ puggalo gajjitā hoti, no vassitā. Seyyathāpi so valāhako gajjitā no vassitā, tathūpamo ayaṃ puggalo.
กถญฺจ ปุคฺคโล วสฺสิตา โหติ โน คชฺชิตา? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล กตฺตา โหติ, โน ภาสิตาฯ เอวํ ปุคฺคโล วสฺสิตา โหติ โน คชฺชิตาฯ เสยฺยถาปิ โส วลาหโก วสฺสิตา โน คชฺชิตา, ตถูปโม อยํ ปุคฺคโลฯ
Kathañca puggalo vassitā hoti no gajjitā? Idhekacco puggalo kattā hoti, no bhāsitā. Evaṃ puggalo vassitā hoti no gajjitā. Seyyathāpi so valāhako vassitā no gajjitā, tathūpamo ayaṃ puggalo.
กถญฺจ ปุคฺคโล คชฺชิตา จ โหติ วสฺสิตา จ? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล ภาสิตา จ โหติ, กตฺตา จฯ เอวํ ปุคฺคโล คชฺชิตา จ โหติ วสฺสิตา จฯ เสยฺยถาปิ โส วลาหโก คชฺชิตา จ วสฺสิตา จ, ตถูปโม อยํ ปุคฺคโลฯ
Kathañca puggalo gajjitā ca hoti vassitā ca? Idhekacco puggalo bhāsitā ca hoti, kattā ca. Evaṃ puggalo gajjitā ca hoti vassitā ca. Seyyathāpi so valāhako gajjitā ca vassitā ca, tathūpamo ayaṃ puggalo.
กถญฺจ ปุคฺคโล เนว คชฺชิตา โหติ โน วสฺสิตา? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล เนว ภาสิตา โหติ โน กตฺตาฯ เอวํ ปุคฺคโล เนว คชฺชิตา โหติ โน วสฺสิตาฯ เสยฺยถาปิ โส วลาหโก เนว คชฺชิตา โน วสฺสิตา, ตถูปโม อยํ ปุคฺคโลฯ
Kathañca puggalo neva gajjitā hoti no vassitā? Idhekacco puggalo neva bhāsitā hoti no kattā. Evaṃ puggalo neva gajjitā hoti no vassitā. Seyyathāpi so valāhako neva gajjitā no vassitā, tathūpamo ayaṃ puggalo.
อิเม จตฺตาโร วลาหกูปมา ปุคฺคลา สโนฺต สํวิชฺชมานา โลกสฺมิํฯ
Ime cattāro valāhakūpamā puggalā santo saṃvijjamānā lokasmiṃ.
๑๕๘. ตตฺถ กตเม จตฺตาโร มูสิกูปมา ปุคฺคลา? จตโสฺส มูสิกา – คาธํ กตฺตา โน วสิตา, วสิตา โน คาธํ กตฺตา, คาธํ กตฺตา จ วสิตา จ, เนว คาธํ กตฺตา โน วสิตาฯ เอวเมวํ จตฺตาโรเม มูสิกูปมา ปุคฺคลา สโนฺต สํวิชฺชมานา โลกสฺมิํฯ กตเม จตฺตาโร? คาธํ กตฺตา โน วสิตา, วสิตา โน คาธํ กตฺตา, คาธํ กตฺตา จ วสิตา จ, เนว คาธํ กตฺตา โน วสิตาฯ
158. Tattha katame cattāro mūsikūpamā puggalā? Catasso mūsikā – gādhaṃ kattā no vasitā, vasitā no gādhaṃ kattā, gādhaṃ kattā ca vasitā ca, neva gādhaṃ kattā no vasitā. Evamevaṃ cattārome mūsikūpamā puggalā santo saṃvijjamānā lokasmiṃ. Katame cattāro? Gādhaṃ kattā no vasitā, vasitā no gādhaṃ kattā, gādhaṃ kattā ca vasitā ca, neva gādhaṃ kattā no vasitā.
กถญฺจ ปุคฺคโล คาธํ กตฺตา โหติ โน วสิตา? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล ธมฺมํ ปริยาปุณาติ – สุตฺตํ เคยฺยํ เวยฺยากรณํ คาถํ อุทานํ อิติวุตฺตกํ ชาตกํ อพฺภุตธมฺมํ เวทลฺลํฯ โส ‘‘อิทํ ทุกฺข’’นฺติ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ, ‘‘อยํ ทุกฺขสมุทโย’’ติ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ, ‘‘อยํ ทุกฺขนิโรโธ’’ติ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ, ‘‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฎิปทา’’ติ ยถาภูตํ นปฺปชานาติฯ เอวํ ปุคฺคโล คาธํ กตฺตา โหติ โน วสิตาฯ เสยฺยถาปิ สา มูสิกา คาธํ กตฺตา โน วสิตา, ตถูปโม อยํ ปุคฺคโลฯ
Kathañca puggalo gādhaṃ kattā hoti no vasitā? Idhekacco puggalo dhammaṃ pariyāpuṇāti – suttaṃ geyyaṃ veyyākaraṇaṃ gāthaṃ udānaṃ itivuttakaṃ jātakaṃ abbhutadhammaṃ vedallaṃ. So ‘‘idaṃ dukkha’’nti yathābhūtaṃ nappajānāti, ‘‘ayaṃ dukkhasamudayo’’ti yathābhūtaṃ nappajānāti, ‘‘ayaṃ dukkhanirodho’’ti yathābhūtaṃ nappajānāti, ‘‘ayaṃ dukkhanirodhagāminī paṭipadā’’ti yathābhūtaṃ nappajānāti. Evaṃ puggalo gādhaṃ kattā hoti no vasitā. Seyyathāpi sā mūsikā gādhaṃ kattā no vasitā, tathūpamo ayaṃ puggalo.
กถญฺจ ปุคฺคโล วสิตา โหติ โน คาธํ กตฺตา? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล ธมฺมํ น ปริยาปุณาติ – สุตฺตํ เคยฺยํ เวยฺยากรณํ คาถํ อุทานํ อิติวุตฺตกํ ชาตกํ อพฺภุตธมฺมํ เวทลฺลํฯ โส ‘‘อิทํ ทุกฺข’’นฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘‘อยํ ทุกฺขสมุทโย’’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘‘อยํ ทุกฺขนิโรโธ’’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฎิปทา’’ติ ยถาภูตํ ปชานาติฯ เอวํ ปุคฺคโล วสิตา โหติ โน คาธํ กตฺตาฯ เสยฺยถาปิ สา มูสิกา วสิตา โน คาธํ กตฺตา, ตถูปโม อยํ ปุคฺคโลฯ
Kathañca puggalo vasitā hoti no gādhaṃ kattā? Idhekacco puggalo dhammaṃ na pariyāpuṇāti – suttaṃ geyyaṃ veyyākaraṇaṃ gāthaṃ udānaṃ itivuttakaṃ jātakaṃ abbhutadhammaṃ vedallaṃ. So ‘‘idaṃ dukkha’’nti yathābhūtaṃ pajānāti, ‘‘ayaṃ dukkhasamudayo’’ti yathābhūtaṃ pajānāti, ‘‘ayaṃ dukkhanirodho’’ti yathābhūtaṃ pajānāti, ‘‘ayaṃ dukkhanirodhagāminī paṭipadā’’ti yathābhūtaṃ pajānāti. Evaṃ puggalo vasitā hoti no gādhaṃ kattā. Seyyathāpi sā mūsikā vasitā no gādhaṃ kattā, tathūpamo ayaṃ puggalo.
กถญฺจ ปุคฺคโล คาธํ กตฺตา จ โหติ วสิตา จ? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล ธมฺมํ ปริยาปุณาติ – สุตฺตํ เคยฺยํ เวยฺยากรณํ คาถํ อุทานํ อิติวุตฺตกํ ชาตกํ อพฺภุตธมฺมํ เวทลฺลํฯ โส ‘‘อิทํ ทุกฺข’’นฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘‘อยํ ทุกฺขสมุทโย’’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘‘อยํ ทุกฺขนิโรโธ’’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฎิปทา’’ติ ยถาภูตํ ปชานาติฯ เอวํ ปุคฺคโล คาธํ กตฺตา จ โหติ วสิตา จฯ เสยฺยถาปิ สา มูสิกา คาธํ กตฺตา จ วสิตา จ, ตถูปโม อยํ ปุคฺคโลฯ
Kathañca puggalo gādhaṃ kattā ca hoti vasitā ca? Idhekacco puggalo dhammaṃ pariyāpuṇāti – suttaṃ geyyaṃ veyyākaraṇaṃ gāthaṃ udānaṃ itivuttakaṃ jātakaṃ abbhutadhammaṃ vedallaṃ. So ‘‘idaṃ dukkha’’nti yathābhūtaṃ pajānāti, ‘‘ayaṃ dukkhasamudayo’’ti yathābhūtaṃ pajānāti, ‘‘ayaṃ dukkhanirodho’’ti yathābhūtaṃ pajānāti, ‘‘ayaṃ dukkhanirodhagāminī paṭipadā’’ti yathābhūtaṃ pajānāti. Evaṃ puggalo gādhaṃ kattā ca hoti vasitā ca. Seyyathāpi sā mūsikā gādhaṃ kattā ca vasitā ca, tathūpamo ayaṃ puggalo.
กถญฺจ ปุคฺคโล เนว คาธํ กตฺตา โหติ โน วสิตา? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล ธมฺมํ น ปริยาปุณาติ – สุตฺตํ เคยฺยํ เวยฺยากรณํ คาถํ อุทานํ อิติวุตฺตกํ ชาตกํ อพฺภุตธมฺมํ เวทลฺลํฯ โส ‘‘อิทํ ทุกฺข’’นฺติ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ, ‘‘อยํ ทุกฺขสมุทโย’’ติ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ, ‘‘อยํ ทุกฺขนิโรโธ’’ติ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ, ‘‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฎิปทา’’ติ ยถาภูตํ นปฺปชานาติฯ เอวํ ปุคฺคโล เนว คาธํ กตฺตา โหติ โน วสิตาฯ เสยฺยถาปิ สา มูสิกา เนว คาธํ กตฺตา โน วสิตา, ตถูปโม อยํ ปุคฺคโลฯ
Kathañca puggalo neva gādhaṃ kattā hoti no vasitā? Idhekacco puggalo dhammaṃ na pariyāpuṇāti – suttaṃ geyyaṃ veyyākaraṇaṃ gāthaṃ udānaṃ itivuttakaṃ jātakaṃ abbhutadhammaṃ vedallaṃ. So ‘‘idaṃ dukkha’’nti yathābhūtaṃ nappajānāti, ‘‘ayaṃ dukkhasamudayo’’ti yathābhūtaṃ nappajānāti, ‘‘ayaṃ dukkhanirodho’’ti yathābhūtaṃ nappajānāti, ‘‘ayaṃ dukkhanirodhagāminī paṭipadā’’ti yathābhūtaṃ nappajānāti. Evaṃ puggalo neva gādhaṃ kattā hoti no vasitā. Seyyathāpi sā mūsikā neva gādhaṃ kattā no vasitā, tathūpamo ayaṃ puggalo.
อิเม จตฺตาโร มูสิกูปมา ปุคฺคลา สโนฺต สํวิชฺชมานา โลกสฺมิํฯ
Ime cattāro mūsikūpamā puggalā santo saṃvijjamānā lokasmiṃ.
กถญฺจ ปุคฺคโล อาโม โหติ ปกฺกวณฺณี? อิเธกจฺจสฺส ปุคฺคลสฺส ปาสาทิกํ โหติ อภิกฺกนฺตํ ปฎิกฺกนฺตํ อาโลกิตํ วิโลกิตํ สมิญฺชิตํ 15 ปสาริตํ สงฺฆาฎิปตฺตจีวรธารณํฯ โส ‘‘อิทํ ทุกฺข’’นฺติ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ, ‘‘อยํ ทุกฺขสมุทโย’’ติ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ, ‘‘อยํ ทุกฺขนิโรโธ’’ติ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ, ‘‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฎิปทา’’ติ ยถาภูตํ นปฺปชานาติฯ เอวํ ปุคฺคโล อาโม โหติ ปกฺกวณฺณีฯ เสยฺยถาปิ ตํ อมฺพํ อามํ ปกฺกวณฺณิ, ตถูปโม อยํ ปุคฺคโลฯ
Kathañca puggalo āmo hoti pakkavaṇṇī? Idhekaccassa puggalassa pāsādikaṃ hoti abhikkantaṃ paṭikkantaṃ ālokitaṃ vilokitaṃ samiñjitaṃ 16 pasāritaṃ saṅghāṭipattacīvaradhāraṇaṃ. So ‘‘idaṃ dukkha’’nti yathābhūtaṃ nappajānāti, ‘‘ayaṃ dukkhasamudayo’’ti yathābhūtaṃ nappajānāti, ‘‘ayaṃ dukkhanirodho’’ti yathābhūtaṃ nappajānāti, ‘‘ayaṃ dukkhanirodhagāminī paṭipadā’’ti yathābhūtaṃ nappajānāti. Evaṃ puggalo āmo hoti pakkavaṇṇī. Seyyathāpi taṃ ambaṃ āmaṃ pakkavaṇṇi, tathūpamo ayaṃ puggalo.
กถญฺจ ปุคฺคโล ปโกฺก โหติ อามวณฺณี? อิเธกจฺจสฺส ปุคฺคลสฺส น ปาสาทิกํ โหติ อภิกฺกนฺตํ ปฎิกฺกนฺตํ อาโลกิตํ วิโลกิตํ สมิญฺชิตํ ปสาริตํ สงฺฆาฎิปตฺตจีวรธารณํฯ โส ‘‘อิทํ ทุกฺข’’นฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘‘อยํ ทุกฺขสมุทโย’’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘‘อยํ ทุกฺขนิโรโธ’’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฎิปทา’’ติ ยถาภูตํ ปชานาติฯ เอวํ ปุคฺคโล ปโกฺก โหติ อามวณฺณีฯ เสยฺยถาปิ ตํ อมฺพํ ปกฺกํ อามวณฺณิ, ตถูปโม อยํ ปุคฺคโลฯ
Kathañca puggalo pakko hoti āmavaṇṇī? Idhekaccassa puggalassa na pāsādikaṃ hoti abhikkantaṃ paṭikkantaṃ ālokitaṃ vilokitaṃ samiñjitaṃ pasāritaṃ saṅghāṭipattacīvaradhāraṇaṃ. So ‘‘idaṃ dukkha’’nti yathābhūtaṃ pajānāti, ‘‘ayaṃ dukkhasamudayo’’ti yathābhūtaṃ pajānāti, ‘‘ayaṃ dukkhanirodho’’ti yathābhūtaṃ pajānāti, ‘‘ayaṃ dukkhanirodhagāminī paṭipadā’’ti yathābhūtaṃ pajānāti. Evaṃ puggalo pakko hoti āmavaṇṇī. Seyyathāpi taṃ ambaṃ pakkaṃ āmavaṇṇi, tathūpamo ayaṃ puggalo.
กถญฺจ ปุคฺคโล อาโม โหติ อามวณฺณี? อิเธกจฺจสฺส ปุคฺคลสฺส น ปาสาทิกํ โหติ อภิกฺกนฺตํ ปฎิกฺกนฺตํ อาโลกิตํ วิโลกิตํ สมิญฺชิตํ ปสาริตํ สงฺฆาฎิปตฺตจีวรธารณํฯ โส ‘‘อิทํ ทุกฺข’’นฺติ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ…เป.… ‘‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฎิปทา’’ติ ยถาภูตํ นปฺปชานาติฯ เอวํ ปุคฺคโล อาโม โหติ อามวณฺณีฯ เสยฺยถาปิ ตํ อมฺพํ อามํ อามวณฺณิ, ตถูปโม อยํ ปุคฺคโลฯ
Kathañca puggalo āmo hoti āmavaṇṇī? Idhekaccassa puggalassa na pāsādikaṃ hoti abhikkantaṃ paṭikkantaṃ ālokitaṃ vilokitaṃ samiñjitaṃ pasāritaṃ saṅghāṭipattacīvaradhāraṇaṃ. So ‘‘idaṃ dukkha’’nti yathābhūtaṃ nappajānāti…pe… ‘‘ayaṃ dukkhanirodhagāminī paṭipadā’’ti yathābhūtaṃ nappajānāti. Evaṃ puggalo āmo hoti āmavaṇṇī. Seyyathāpi taṃ ambaṃ āmaṃ āmavaṇṇi, tathūpamo ayaṃ puggalo.
กถญฺจ ปุคฺคโล ปโกฺก โหติ ปกฺกวณฺณี? อิเธกจฺจสฺส ปุคฺคลสฺส ปาสาทิกํ โหติ อภิกฺกนฺตํ ปฎิกฺกนฺตํ อาโลกิตํ วิโลกิตํ สมิญฺชิตํ ปสาริตํ สงฺฆาฎิปตฺตจีวรธารณํ ฯ โส ‘‘อิทํ ทุกฺข’’นฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ …เป.… ‘‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฎิปทา’’ติ ยถาภูตํ ปชานาติฯ เอวํ ปุคฺคโล ปโกฺก โหติ ปกฺกวณฺณีฯ เสยฺยถาปิ ตํ อมฺพํ ปกฺกํ ปกฺกวณฺณิ, ตถูปโม อยํ ปุคฺคโลฯ
Kathañca puggalo pakko hoti pakkavaṇṇī? Idhekaccassa puggalassa pāsādikaṃ hoti abhikkantaṃ paṭikkantaṃ ālokitaṃ vilokitaṃ samiñjitaṃ pasāritaṃ saṅghāṭipattacīvaradhāraṇaṃ . So ‘‘idaṃ dukkha’’nti yathābhūtaṃ pajānāti …pe… ‘‘ayaṃ dukkhanirodhagāminī paṭipadā’’ti yathābhūtaṃ pajānāti. Evaṃ puggalo pakko hoti pakkavaṇṇī. Seyyathāpi taṃ ambaṃ pakkaṃ pakkavaṇṇi, tathūpamo ayaṃ puggalo.
อิเม จตฺตาโร อมฺพูปมา ปุคฺคลา สโนฺต สํวิชฺชมานา โลกสฺมิํฯ
Ime cattāro ambūpamā puggalā santo saṃvijjamānā lokasmiṃ.
๑๖๐. ตตฺถ กตเม จตฺตาโร กุมฺภูปมา ปุคฺคลา? จตฺตาโร กุมฺภา – ตุโจฺฉ ปิหิโต, ปูโร วิวโฎ, ตุโจฺฉ วิวโฎ, ปูโร ปิหิโตฯ เอวเมวํ จตฺตาโรเม กุมฺภูปมา ปุคฺคลา สโนฺต สํวิชฺชมานา โลกสฺมิํฯ กตเม จตฺตาโร? ตุโจฺฉ ปิหิโต, ปูโร วิวโฎ, ตุโจฺฉ วิวโฎ, ปูโร ปิหิโตฯ
160. Tattha katame cattāro kumbhūpamā puggalā? Cattāro kumbhā – tuccho pihito, pūro vivaṭo, tuccho vivaṭo, pūro pihito. Evamevaṃ cattārome kumbhūpamā puggalā santo saṃvijjamānā lokasmiṃ. Katame cattāro? Tuccho pihito, pūro vivaṭo, tuccho vivaṭo, pūro pihito.
กถญฺจ ปุคฺคโล ตุโจฺฉ โหติ ปิหิโต? อิเธกจฺจสฺส ปุคฺคลสฺส ปาสาทิกํ โหติ อภิกฺกนฺตํ ปฎิกฺกนฺตํ อาโลกิตํ วิโลกิตํ สมิญฺชิตํ ปสาริตํ สงฺฆาฎิปตฺตจีวรธารณํฯ โส ‘‘อิทํ ทุกฺข’’นฺติ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ…เป.… ‘‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฎิปทา’’ติ ยถาภูตํ นปฺปชานาติฯ เอวํ ปุคฺคโล ตุโจฺฉ โหติ ปิหิโตฯ เสยฺยถาปิ โส กุโมฺภ ตุโจฺฉ ปิหิโต, ตถูปโม อยํ ปุคฺคโลฯ
Kathañca puggalo tuccho hoti pihito? Idhekaccassa puggalassa pāsādikaṃ hoti abhikkantaṃ paṭikkantaṃ ālokitaṃ vilokitaṃ samiñjitaṃ pasāritaṃ saṅghāṭipattacīvaradhāraṇaṃ. So ‘‘idaṃ dukkha’’nti yathābhūtaṃ nappajānāti…pe… ‘‘ayaṃ dukkhanirodhagāminī paṭipadā’’ti yathābhūtaṃ nappajānāti. Evaṃ puggalo tuccho hoti pihito. Seyyathāpi so kumbho tuccho pihito, tathūpamo ayaṃ puggalo.
กถญฺจ ปุคฺคโล ปูโร โหติ วิวโฎ? อิเธกจฺจสฺส ปุคฺคลสฺส น ปาสาทิกํ โหติ อภิกฺกนฺตํ ปฎิกฺกนฺตํ อาโลกิตํ วิโลกิตํ สมิญฺชิตํ ปสาริตํ สงฺฆาฎิปตฺตจีวรธารณํฯ โส ‘‘อิทํ ทุกฺข’’นฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ…เป.… ‘‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฎิปทา’’ติ ยถาภูตํ ปชานาติฯ เอวํ ปุคฺคโล ปูโร โหติ วิวโฎฯ เสยฺยถาปิ โส กุโมฺภ ปูโร วิวโฎ, ตถูปโม อยํ ปุคฺคโลฯ
Kathañca puggalo pūro hoti vivaṭo? Idhekaccassa puggalassa na pāsādikaṃ hoti abhikkantaṃ paṭikkantaṃ ālokitaṃ vilokitaṃ samiñjitaṃ pasāritaṃ saṅghāṭipattacīvaradhāraṇaṃ. So ‘‘idaṃ dukkha’’nti yathābhūtaṃ pajānāti…pe… ‘‘ayaṃ dukkhanirodhagāminī paṭipadā’’ti yathābhūtaṃ pajānāti. Evaṃ puggalo pūro hoti vivaṭo. Seyyathāpi so kumbho pūro vivaṭo, tathūpamo ayaṃ puggalo.
กถญฺจ ปุคฺคโล ตุโจฺฉ โหติ วิวโฎ? อิเธกจฺจสฺส ปุคฺคลสฺส น ปาสาทิกํ โหติ อภิกฺกนฺตํ ปฎิกฺกนฺตํ อาโลกิตํ วิโลกิตํ สมิญฺชิตํ ปสาริตํ สงฺฆาฎิปตฺตจีวรธารณํฯ โส ‘‘อิทํ ทุกฺข’’นฺติ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ…เป.… ‘‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฎิปทา’’ติ ยถาภูตํ นปฺปชานาติฯ เอวํ ปุคฺคโล ตุโจฺฉ โหติ วิวโฎฯ เสยฺยถาปิ โส กุโมฺภ ตุโจฺฉ วิวโฎ, ตถูปโม อยํ ปุคฺคโลฯ
Kathañca puggalo tuccho hoti vivaṭo? Idhekaccassa puggalassa na pāsādikaṃ hoti abhikkantaṃ paṭikkantaṃ ālokitaṃ vilokitaṃ samiñjitaṃ pasāritaṃ saṅghāṭipattacīvaradhāraṇaṃ. So ‘‘idaṃ dukkha’’nti yathābhūtaṃ nappajānāti…pe… ‘‘ayaṃ dukkhanirodhagāminī paṭipadā’’ti yathābhūtaṃ nappajānāti. Evaṃ puggalo tuccho hoti vivaṭo. Seyyathāpi so kumbho tuccho vivaṭo, tathūpamo ayaṃ puggalo.
กถญฺจ ปุคฺคโล ปูโร โหติ ปิหิโต? อิเธกจฺจสฺส ปุคฺคลสฺส ปาสาทิกํ โหติ อภิกฺกนฺตํ ปฎิกฺกนฺตํ อาโลกิตํ วิโลกิตํ สมิญฺชิตํ ปสาริตํ สงฺฆาฎิปตฺตจีวรธารณํฯ โส ‘‘อิทํ ทุกฺข’’นฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ…เป.… ‘‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฎิปทา’’ติ ยถาภูตํ ปชานาติฯ เอวํ ปุคฺคโล ปูโร โหติ ปิหิโตฯ เสยฺยถาปิ โส กุโมฺภ ปูโร ปิหิโต, ตถูปโม อยํ ปุคฺคโลฯ อิเม จตฺตาโร กุมฺภูปมา ปุคฺคลา สโนฺต สํวิชฺชมานา โลกสฺมิํฯ
Kathañca puggalo pūro hoti pihito? Idhekaccassa puggalassa pāsādikaṃ hoti abhikkantaṃ paṭikkantaṃ ālokitaṃ vilokitaṃ samiñjitaṃ pasāritaṃ saṅghāṭipattacīvaradhāraṇaṃ. So ‘‘idaṃ dukkha’’nti yathābhūtaṃ pajānāti…pe… ‘‘ayaṃ dukkhanirodhagāminī paṭipadā’’ti yathābhūtaṃ pajānāti. Evaṃ puggalo pūro hoti pihito. Seyyathāpi so kumbho pūro pihito, tathūpamo ayaṃ puggalo. Ime cattāro kumbhūpamā puggalā santo saṃvijjamānā lokasmiṃ.
๑๖๑. ตตฺถ กตเม จตฺตาโร อุทกรหทูปมา ปุคฺคลา? จตฺตาโร อุทกรหทา – อุตฺตาโน คมฺภีโรภาโส, คมฺภีโร อุตฺตาโนภาโส, อุตฺตาโน อุตฺตาโนภาโส, คมฺภีโร คมฺภีโรภาโสฯ เอวเมวํ จตฺตาโรเม อุทกรหทูปมา ปุคฺคลา สโนฺต สํวิชฺชมานา โลกสฺมิํฯ กตเม จตฺตาโร? อุตฺตาโน คมฺภีโรภาโส, คมฺภีโร อุตฺตาโนภาโส, อุตฺตาโน อุตฺตาโนภาโส, คมฺภีโร คมฺภีโรภาโสฯ
161. Tattha katame cattāro udakarahadūpamā puggalā? Cattāro udakarahadā – uttāno gambhīrobhāso, gambhīro uttānobhāso, uttāno uttānobhāso, gambhīro gambhīrobhāso. Evamevaṃ cattārome udakarahadūpamā puggalā santo saṃvijjamānā lokasmiṃ. Katame cattāro? Uttāno gambhīrobhāso, gambhīro uttānobhāso, uttāno uttānobhāso, gambhīro gambhīrobhāso.
กถญฺจ ปุคฺคโล อุตฺตาโน โหติ คมฺภีโรภาโส? อิเธกจฺจสฺส ปุคฺคลสฺส ปาสาทิกํ โหติ อภิกฺกนฺตํ ปฎิกฺกนฺตํ อาโลกิตํ วิโลกิตํ สมิญฺชิตํ ปสาริตํ สงฺฆาฎิปตฺตจีวรธารณํฯ โส ‘‘อิทํ ทุกฺข’’นฺติ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ…เป.… ‘‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฎิปทา’’ติ ยถาภูตํ นปฺปชานาติฯ เอวํ ปุคฺคโล อุตฺตาโน โหติ คมฺภีโรภาโสฯ เสยฺยถาปิ โส อุทกรหโท อุตฺตาโน คมฺภีโรภาโส, ตถูปโม อยํ ปุคฺคโลฯ
Kathañca puggalo uttāno hoti gambhīrobhāso? Idhekaccassa puggalassa pāsādikaṃ hoti abhikkantaṃ paṭikkantaṃ ālokitaṃ vilokitaṃ samiñjitaṃ pasāritaṃ saṅghāṭipattacīvaradhāraṇaṃ. So ‘‘idaṃ dukkha’’nti yathābhūtaṃ nappajānāti…pe… ‘‘ayaṃ dukkhanirodhagāminī paṭipadā’’ti yathābhūtaṃ nappajānāti. Evaṃ puggalo uttāno hoti gambhīrobhāso. Seyyathāpi so udakarahado uttāno gambhīrobhāso, tathūpamo ayaṃ puggalo.
กถญฺจ ปุคฺคโล คมฺภีโร โหติ อุตฺตาโนภาโส? อิเธกจฺจสฺส ปุคฺคลสฺส น ปาสาทิกํ โหติ อภิกฺกนฺตํ ปฎิกฺกนฺตํ อาโลกิตํ วิโลกิตํ สมิญฺชิตํ ปสาริตํ สงฺฆาฎิปตฺตจีวรธารณํฯ โส ‘‘อิทํ ทุกฺข’’นฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ…เป.… ‘‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฎิปทา’’ติ ยถาภูตํ ปชานาติฯ เอวํ ปุคฺคโล คมฺภีโร โหติ อุตฺตาโนภาโสฯ เสยฺยถาปิ โส อุทกรหโท คมฺภีโร อุตฺตาโนภาโส, ตถูปโม อยํ ปุคฺคโลฯ
Kathañca puggalo gambhīro hoti uttānobhāso? Idhekaccassa puggalassa na pāsādikaṃ hoti abhikkantaṃ paṭikkantaṃ ālokitaṃ vilokitaṃ samiñjitaṃ pasāritaṃ saṅghāṭipattacīvaradhāraṇaṃ. So ‘‘idaṃ dukkha’’nti yathābhūtaṃ pajānāti…pe… ‘‘ayaṃ dukkhanirodhagāminī paṭipadā’’ti yathābhūtaṃ pajānāti. Evaṃ puggalo gambhīro hoti uttānobhāso. Seyyathāpi so udakarahado gambhīro uttānobhāso, tathūpamo ayaṃ puggalo.
กถญฺจ ปุคฺคโล อุตฺตาโน โหติ อุตฺตาโนภาโส? อิเธกจฺจสฺส ปุคฺคลสฺส น ปาสาทิกํ โหติ อภิกฺกนฺตํ ปฎิกฺกนฺตํ อาโลกิตํ วิโลกิตํ สมิญฺชิตํ ปสาริตํ สงฺฆาฎิปตฺตจีวรธารณํฯ โส ‘‘อิทํ ทุกฺข’’นฺติ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ…เป.… ‘‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฎิปทา’’ติ ยถาภูตํ นปฺปชานาติฯ เอวํ ปุคฺคโล อุตฺตาโน โหติ อุตฺตาโนภาโสฯ เสยฺยถาปิ โส อุทกรหโท อุตฺตาโน อุตฺตาโนภาโส, ตถูปโม อยํ ปุคฺคโลฯ
Kathañca puggalo uttāno hoti uttānobhāso? Idhekaccassa puggalassa na pāsādikaṃ hoti abhikkantaṃ paṭikkantaṃ ālokitaṃ vilokitaṃ samiñjitaṃ pasāritaṃ saṅghāṭipattacīvaradhāraṇaṃ. So ‘‘idaṃ dukkha’’nti yathābhūtaṃ nappajānāti…pe… ‘‘ayaṃ dukkhanirodhagāminī paṭipadā’’ti yathābhūtaṃ nappajānāti. Evaṃ puggalo uttāno hoti uttānobhāso. Seyyathāpi so udakarahado uttāno uttānobhāso, tathūpamo ayaṃ puggalo.
กถญฺจ ปุคฺคโล คมฺภีโร โหติ คมฺภีโรภาโส? อิเธกจฺจสฺส ปุคฺคลสฺส ปาสาทิกํ โหติ อภิกฺกนฺตํ ปฎิกฺกนฺตํ อาโลกิตํ วิโลกิตํ สมิญฺชิตํ ปสาริตํ สงฺฆาฎิปตฺตจีวรธารณํฯ โส ‘‘อิทํ ทุกฺข’’นฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ…เป.… ‘‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฎิปทา’’ติ ยถาภูตํ ปชานาติฯ เอวํ ปุคฺคโล คมฺภีโร โหติ คมฺภีโรภาโสฯ เสยฺยถาปิ โส อุทกรหโท คมฺภีโร คมฺภีโรภาโส, ตถูปโม อยํ ปุคฺคโลฯ อิเม จตฺตาโร อุทกรหทูปมา ปุคฺคลา สโนฺต สํวิชฺชมานา โลกสฺมิํฯ
Kathañca puggalo gambhīro hoti gambhīrobhāso? Idhekaccassa puggalassa pāsādikaṃ hoti abhikkantaṃ paṭikkantaṃ ālokitaṃ vilokitaṃ samiñjitaṃ pasāritaṃ saṅghāṭipattacīvaradhāraṇaṃ. So ‘‘idaṃ dukkha’’nti yathābhūtaṃ pajānāti…pe… ‘‘ayaṃ dukkhanirodhagāminī paṭipadā’’ti yathābhūtaṃ pajānāti. Evaṃ puggalo gambhīro hoti gambhīrobhāso. Seyyathāpi so udakarahado gambhīro gambhīrobhāso, tathūpamo ayaṃ puggalo. Ime cattāro udakarahadūpamā puggalā santo saṃvijjamānā lokasmiṃ.
๑๖๒. ตตฺถ กตเม จตฺตาโร พลีพทฺทูปมา ปุคฺคลา? จตฺตาโร พลีพทฺทา 17 – สกควจโณฺฑ 18 โน ปรควจโณฺฑ, ปรควจโณฺฑ โน สกควจโณฺฑ, สกควจโณฺฑ จ ปรควจโณฺฑ จ, เนว สกควจโณฺฑ โน ปรควจโณฺฑฯ เอวเมวํ จตฺตาโรเม พลีพทฺทูปมา ปุคฺคลา สโนฺต สํวิชฺชมานา โลกสฺมิํฯ กตเม จตฺตาโร? สกควจโณฺฑ โน ปรควจโณฺฑ, ปรควจโณฺฑ โน สกควจโณฺฑ, สกควจโณฺฑ จ ปรควจโณฺฑ จ, เนว สกควจโณฺฑ โน ปรควจโณฺฑฯ
162. Tattha katame cattāro balībaddūpamā puggalā? Cattāro balībaddā 19 – sakagavacaṇḍo 20 no paragavacaṇḍo, paragavacaṇḍo no sakagavacaṇḍo, sakagavacaṇḍo ca paragavacaṇḍo ca, neva sakagavacaṇḍo no paragavacaṇḍo. Evamevaṃ cattārome balībaddūpamā puggalā santo saṃvijjamānā lokasmiṃ. Katame cattāro? Sakagavacaṇḍo no paragavacaṇḍo, paragavacaṇḍo no sakagavacaṇḍo, sakagavacaṇḍo ca paragavacaṇḍo ca, neva sakagavacaṇḍo no paragavacaṇḍo.
กถญฺจ ปุคฺคโล สกควจโณฺฑ โหติ โน ปรควจโณฺฑ? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล สกปริสํ อุเพฺพชิตา โหติ, โน ปรปริสํฯ เอวํ ปุคฺคโล สกควจโณฺฑ โหติ โน ปรควจโณฺฑฯ เสยฺยถาปิ โส พลีพโทฺท สกควจโณฺฑ โน ปรควจโณฺฑ, ตถูปโม อยํ ปุคฺคโลฯ
Kathañca puggalo sakagavacaṇḍo hoti no paragavacaṇḍo? Idhekacco puggalo sakaparisaṃ ubbejitā hoti, no paraparisaṃ. Evaṃ puggalo sakagavacaṇḍo hoti no paragavacaṇḍo. Seyyathāpi so balībaddo sakagavacaṇḍo no paragavacaṇḍo, tathūpamo ayaṃ puggalo.
กถญฺจ ปุคฺคโล ปรควจโณฺฑ โหติ โน สกควจโณฺฑ? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล ปรปริสํ อุเพฺพชิตา โหติ, โน สกปริสํฯ เอวํ ปุคฺคโล ปรควจโณฺฑ โหติ โน สกควจโณฺฑฯ เสยฺยถาปิ โส พลีพโทฺท ปรควจโณฺฑ โน สกควจโณฺฑ, ตถูปโม อยํ ปุคฺคโลฯ
Kathañca puggalo paragavacaṇḍo hoti no sakagavacaṇḍo? Idhekacco puggalo paraparisaṃ ubbejitā hoti, no sakaparisaṃ. Evaṃ puggalo paragavacaṇḍo hoti no sakagavacaṇḍo. Seyyathāpi so balībaddo paragavacaṇḍo no sakagavacaṇḍo, tathūpamo ayaṃ puggalo.
กถญฺจ ปุคฺคโล สกควจโณฺฑ จ โหติ ปรควจโณฺฑ จ? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล สกปริสญฺจ อุเพฺพชิตา โหติ, ปรปริสญฺจฯ เอวํ ปุคฺคโล สกควจโณฺฑ จ โหติ ปรควจโณฺฑ จฯ เสยฺยถาปิ โส พลีพโทฺท สกควจโณฺฑ จ ปรควจโณฺฑ จ, ตถูปโม อยํ ปุคฺคโลฯ
Kathañca puggalo sakagavacaṇḍo ca hoti paragavacaṇḍo ca? Idhekacco puggalo sakaparisañca ubbejitā hoti, paraparisañca. Evaṃ puggalo sakagavacaṇḍo ca hoti paragavacaṇḍo ca. Seyyathāpi so balībaddo sakagavacaṇḍo ca paragavacaṇḍo ca, tathūpamo ayaṃ puggalo.
กถญฺจ ปุคฺคโล เนว สกควจโณฺฑ โหติ โน ปรควจโณฺฑ? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล เนว สกปริสํ อุเพฺพชิตา โหติ โน ปรปริสํฯ เอวํ ปุคฺคโล เนว สกควจโณฺฑ โหติ โน ปรควจโณฺฑฯ เสยฺยถาปิ โส พลีพโทฺท เนว สกควจโณฺฑ โน ปรควจโณฺฑ, ตถูปโม อยํ ปุคฺคโลฯ อิเม จตฺตาโร พลีพทฺทูปมา ปุคฺคลา สโนฺต สํวิชฺชมานา โลกสฺมิํฯ
Kathañca puggalo neva sakagavacaṇḍo hoti no paragavacaṇḍo? Idhekacco puggalo neva sakaparisaṃ ubbejitā hoti no paraparisaṃ. Evaṃ puggalo neva sakagavacaṇḍo hoti no paragavacaṇḍo. Seyyathāpi so balībaddo neva sakagavacaṇḍo no paragavacaṇḍo, tathūpamo ayaṃ puggalo. Ime cattāro balībaddūpamā puggalā santo saṃvijjamānā lokasmiṃ.
๑๖๓. ตตฺถ กตเม จตฺตาโร อาสีวิสูปมา ปุคฺคลา? จตฺตาโร อาสีวิสา 21 – อาคตวิโส โน โฆรวิโส, โฆรวิโส โน อาคตวิโส, อาคตวิโส จ โฆรวิโส จ, เนว อาคตวิโส โน โฆรวิโสฯ เอวเมวํ จตฺตาโรเม อาสีวิสูปมา ปุคฺคลา สโนฺต สํวิชฺชมานา โลกสฺมิํฯ กตเม จตฺตาโร? อาคตวิโส โน โฆรวิโส, โฆรวิโส โน อาคตวิโส, อาคตวิโส จ โฆรวิโส จ, เนว อาคตวิโส โน โฆรวิโสฯ
163. Tattha katame cattāro āsīvisūpamā puggalā? Cattāro āsīvisā 22 – āgataviso no ghoraviso, ghoraviso no āgataviso, āgataviso ca ghoraviso ca, neva āgataviso no ghoraviso. Evamevaṃ cattārome āsīvisūpamā puggalā santo saṃvijjamānā lokasmiṃ. Katame cattāro? Āgataviso no ghoraviso, ghoraviso no āgataviso, āgataviso ca ghoraviso ca, neva āgataviso no ghoraviso.
กถญฺจ ปุคฺคโล อาคตวิโส โหติ โน โฆรวิโส? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล อภิณฺหํ กุชฺฌติฯ โส จ ขฺวสฺส โกโธ น จิรํ ทีฆรตฺตํ อนุเสติฯ เอวํ ปุคฺคโล อาคตวิโส โหติ, โน โฆรวิโสฯ เสยฺยถาปิ โส อาสีวิโส อาคตวิโส โน โฆรวิโส, ตถูปโม อยํ ปุคฺคโลฯ
Kathañca puggalo āgataviso hoti no ghoraviso? Idhekacco puggalo abhiṇhaṃ kujjhati. So ca khvassa kodho na ciraṃ dīgharattaṃ anuseti. Evaṃ puggalo āgataviso hoti, no ghoraviso. Seyyathāpi so āsīviso āgataviso no ghoraviso, tathūpamo ayaṃ puggalo.
กถญฺจ ปุคฺคโล โฆรวิโส โหติ โน อาคตวิโส? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล นเหว โข 23 อภิณฺหํ กุชฺฌติฯ โส จ ขฺวสฺส โกโธ จิรํ ทีฆรตฺตํ อนุเสติฯ เอวํ ปุคฺคโล โฆรวิโส โหติ, โน อาคตวิโสฯ เสยฺยถาปิ โส อาสีวิโส โฆรวิโส โน อาคตวิโส, ตถูปโม อยํ ปุคฺคโลฯ
Kathañca puggalo ghoraviso hoti no āgataviso? Idhekacco puggalo naheva kho 24 abhiṇhaṃ kujjhati. So ca khvassa kodho ciraṃ dīgharattaṃ anuseti. Evaṃ puggalo ghoraviso hoti, no āgataviso. Seyyathāpi so āsīviso ghoraviso no āgataviso, tathūpamo ayaṃ puggalo.
กถญฺจ ปุคฺคโล อาคตวิโส จ โหติ โฆรวิโส จ? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล อภิณฺหํ กุชฺฌติฯ โส จ ขฺวสฺส โกโธ จิรํ ทีฆรตฺตํ อนุเสติฯ เอวํ ปุคฺคโล อาคตวิโส จ โหติ โฆรวิโส จฯ เสยฺยถาปิ โส อาสีวิโส อาคตวิโส จ โฆรวิโส จ, ตถูปโม อยํ ปุคฺคโลฯ
Kathañca puggalo āgataviso ca hoti ghoraviso ca? Idhekacco puggalo abhiṇhaṃ kujjhati. So ca khvassa kodho ciraṃ dīgharattaṃ anuseti. Evaṃ puggalo āgataviso ca hoti ghoraviso ca. Seyyathāpi so āsīviso āgataviso ca ghoraviso ca, tathūpamo ayaṃ puggalo.
กถญฺจ ปุคฺคโล เนว อาคตวิโส โหติ โน โฆรวิโส? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล นเหว โข อภิณฺหํ กุชฺฌติฯ โส จ ขฺวสฺส โกโธ น จิรํ ทีฆรตฺตํ อนุเสติฯ เอวํ ปุคฺคโล เนว อาคตวิโส โหติ โน โฆรวิโสฯ เสยฺยถาปิ โส อาสีวิโส เนว อาคตวิโส โน โฆรวิโส, ตถูปโม อยํ ปุคฺคโลฯ อิเม จตฺตาโร อาสีวิสูปมา ปุคฺคลา สโนฺต สํวิชฺชมานา โลกสฺมิํฯ
Kathañca puggalo neva āgataviso hoti no ghoraviso? Idhekacco puggalo naheva kho abhiṇhaṃ kujjhati. So ca khvassa kodho na ciraṃ dīgharattaṃ anuseti. Evaṃ puggalo neva āgataviso hoti no ghoraviso. Seyyathāpi so āsīviso neva āgataviso no ghoraviso, tathūpamo ayaṃ puggalo. Ime cattāro āsīvisūpamā puggalā santo saṃvijjamānā lokasmiṃ.
๑๖๔. กถญฺจ ปุคฺคโล อนนุวิจฺจ อปริโยคาเหตฺวา อวณฺณารหสฺส วณฺณํ ภาสิตา โหติ? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล ทุปฺปฎิปนฺนานํ มิจฺฉาปฎิปนฺนานํ ติตฺถิยานํ ติตฺถิยสาวกานํ วณฺณํ ภาสติ – ‘‘สุปฺปฎิปนฺนา’’ อิติปิ, ‘‘สมฺมาปฎิปนฺนา’’ อิติปีติฯ เอวํ ปุคฺคโล อนนุวิจฺจ อปริโยคาเหตฺวา อวณฺณารหสฺส วณฺณํ ภาสิตา โหติฯ
164. Kathañca puggalo ananuvicca apariyogāhetvā avaṇṇārahassa vaṇṇaṃ bhāsitā hoti? Idhekacco puggalo duppaṭipannānaṃ micchāpaṭipannānaṃ titthiyānaṃ titthiyasāvakānaṃ vaṇṇaṃ bhāsati – ‘‘suppaṭipannā’’ itipi, ‘‘sammāpaṭipannā’’ itipīti. Evaṃ puggalo ananuvicca apariyogāhetvā avaṇṇārahassa vaṇṇaṃ bhāsitā hoti.
กถญฺจ ปุคฺคโล อนนุวิจฺจ อปริโยคาเหตฺวา วณฺณารหสฺส อวณฺณํ ภาสิตา โหติ? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล สุปฺปฎิปนฺนานํ สมฺมาปฎิปนฺนานํ พุทฺธานํ พุทฺธสาวกานํ อวณฺณํ ภาสติ – ‘‘ทุปฺปฎิปนฺนา’’ อิติปิ, ‘‘มิจฺฉาปฎิปนฺนา’’ อิติปีติฯ เอวํ ปุคฺคโล อนนุวิจฺจ อปริโยคาเหตฺวา วณฺณารหสฺส อวณฺณํ ภาสิตา โหติฯ
Kathañca puggalo ananuvicca apariyogāhetvā vaṇṇārahassa avaṇṇaṃ bhāsitā hoti? Idhekacco puggalo suppaṭipannānaṃ sammāpaṭipannānaṃ buddhānaṃ buddhasāvakānaṃ avaṇṇaṃ bhāsati – ‘‘duppaṭipannā’’ itipi, ‘‘micchāpaṭipannā’’ itipīti. Evaṃ puggalo ananuvicca apariyogāhetvā vaṇṇārahassa avaṇṇaṃ bhāsitā hoti.
กถญฺจ ปุคฺคโล อนนุวิจฺจ อปริโยคาเหตฺวา อปฺปสาทนีเย ฐาเน ปสาทํ อุปทํสิตา โหติ? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล ทุปฺปฎิปทาย มิจฺฉาปฎิปทาย ปสาทํ ชเนติ – ‘‘สุปฺปฎิปทา’’ อิติปิ , ‘‘สมฺมาปฎิปทา’’ อิติปีติฯ เอวํ ปุคฺคโล อนนุวิจฺจ อปริโยคาเหตฺวา อปฺปสาทนีเย ฐาเน ปสาทํ อุปทํสิตา โหติฯ
Kathañca puggalo ananuvicca apariyogāhetvā appasādanīye ṭhāne pasādaṃ upadaṃsitā hoti? Idhekacco puggalo duppaṭipadāya micchāpaṭipadāya pasādaṃ janeti – ‘‘suppaṭipadā’’ itipi , ‘‘sammāpaṭipadā’’ itipīti. Evaṃ puggalo ananuvicca apariyogāhetvā appasādanīye ṭhāne pasādaṃ upadaṃsitā hoti.
กถญฺจ ปุคฺคโล อนนุวิจฺจ อปริโยคาเหตฺวา ปสาทนีเย ฐาเน อปฺปสาทํ อุปทํสิตา โหติ? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล สุปฺปฎิปทาย สมฺมาปฎิปทาย อปฺปสาทํ ชเนติ – ‘‘ทุปฺปฎิปทา’’ อิติปิ, ‘‘มิจฺฉาปฎิปทา’’ อิติปีติฯ เอวํ ปุคฺคโล อนนุวิจฺจ อปริโยคาเหตฺวา ปสาทนีเย ฐาเน อปฺปสาทํ อุปทํสิตา โหติฯ
Kathañca puggalo ananuvicca apariyogāhetvā pasādanīye ṭhāne appasādaṃ upadaṃsitā hoti? Idhekacco puggalo suppaṭipadāya sammāpaṭipadāya appasādaṃ janeti – ‘‘duppaṭipadā’’ itipi, ‘‘micchāpaṭipadā’’ itipīti. Evaṃ puggalo ananuvicca apariyogāhetvā pasādanīye ṭhāne appasādaṃ upadaṃsitā hoti.
๑๖๕. กถญฺจ ปุคฺคโล อนุวิจฺจ ปริโยคาเหตฺวา อวณฺณารหสฺส อวณฺณํ ภาสิตา โหติ? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล ทุปฺปฎิปนฺนานํ มิจฺฉาปฎิปนฺนานํ ติตฺถิยานํ ติตฺถิยสาวกานํ อวณฺณํ ภาสติ – ‘‘ทุปฺปฎิปนฺนา’’ อิติปิ, ‘‘มิจฺฉาปฎิปนฺนา’’ อิติปีติฯ เอวํ ปุคฺคโล อนุวิจฺจ ปริโยคาเหตฺวา อวณฺณารหสฺส อวณฺณํ ภาสิตา โหติฯ
165. Kathañca puggalo anuvicca pariyogāhetvā avaṇṇārahassa avaṇṇaṃ bhāsitā hoti? Idhekacco puggalo duppaṭipannānaṃ micchāpaṭipannānaṃ titthiyānaṃ titthiyasāvakānaṃ avaṇṇaṃ bhāsati – ‘‘duppaṭipannā’’ itipi, ‘‘micchāpaṭipannā’’ itipīti. Evaṃ puggalo anuvicca pariyogāhetvā avaṇṇārahassa avaṇṇaṃ bhāsitā hoti.
กถญฺจ ปุคฺคโล อนุวิจฺจ ปริโยคาเหตฺวา วณฺณารหสฺส วณฺณํ ภาสิตา โหติ? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล สุปฺปฎิปนฺนานํ สมฺมาปฎิปนฺนานํ พุทฺธานํ พุทฺธสาวกานํ วณฺณํ ภาสติ – ‘‘สุปฺปฎิปนฺนา’’ อิติปิ, ‘‘สมฺมาปฎิปนฺนา’’ อิติปีติฯ เอวํ ปุคฺคโล อนุวิจฺจ ปริโยคาเหตฺวา วณฺณารหสฺส วณฺณํ ภาสิตา โหติฯ
Kathañca puggalo anuvicca pariyogāhetvā vaṇṇārahassa vaṇṇaṃ bhāsitā hoti? Idhekacco puggalo suppaṭipannānaṃ sammāpaṭipannānaṃ buddhānaṃ buddhasāvakānaṃ vaṇṇaṃ bhāsati – ‘‘suppaṭipannā’’ itipi, ‘‘sammāpaṭipannā’’ itipīti. Evaṃ puggalo anuvicca pariyogāhetvā vaṇṇārahassa vaṇṇaṃ bhāsitā hoti.
กถญฺจ ปุคฺคโล อนุวิจฺจ ปริโยคาเหตฺวา อปฺปสาทนีเย ฐาเน อปฺปสาทํ อุปทํสิตา โหติ? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล ทุปฺปฎิปทาย มิจฺฉาปฎิปทาย อปฺปสาทํ ชเนติ – ‘‘ทุปฺปฎิปทา’’ อิติปิ, ‘‘มิจฺฉาปฎิปทา’’ อิติปีติฯ เอวํ ปุคฺคโล อนุวิจฺจ ปริโยคาเหตฺวา อปฺปสาทนีเย ฐาเน อปฺปสาทํ อุปทํสิตา โหติฯ
Kathañca puggalo anuvicca pariyogāhetvā appasādanīye ṭhāne appasādaṃ upadaṃsitā hoti? Idhekacco puggalo duppaṭipadāya micchāpaṭipadāya appasādaṃ janeti – ‘‘duppaṭipadā’’ itipi, ‘‘micchāpaṭipadā’’ itipīti. Evaṃ puggalo anuvicca pariyogāhetvā appasādanīye ṭhāne appasādaṃ upadaṃsitā hoti.
กถญฺจ ปุคฺคโล อนุวิจฺจ ปริโยคาเหตฺวา ปสาทนีเย ฐาเน ปสาทํ อุปทํสิตา โหติ? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล สุปฺปฎิปทาย สมฺมาปฎิปทาย ปสาทํ ชเนติ – ‘‘สุปฺปฎิปทา’’ อิติปิ, ‘‘สมฺมาปฎิปทา’’ อิติปีติฯ เอวํ ปุคฺคโล อนุวิจฺจ ปริโยคาเหตฺวา ปสาทนีเย ฐาเน ปสาทํ อุปทํสิตา โหติฯ
Kathañca puggalo anuvicca pariyogāhetvā pasādanīye ṭhāne pasādaṃ upadaṃsitā hoti? Idhekacco puggalo suppaṭipadāya sammāpaṭipadāya pasādaṃ janeti – ‘‘suppaṭipadā’’ itipi, ‘‘sammāpaṭipadā’’ itipīti. Evaṃ puggalo anuvicca pariyogāhetvā pasādanīye ṭhāne pasādaṃ upadaṃsitā hoti.
๑๖๖. กถญฺจ ปุคฺคโล อวณฺณารหสฺส อวณฺณํ ภาสิตา โหติ ภูตํ ตจฺฉํ กาเลน, โน จ โข วณฺณารหสฺส วณฺณํ ภาสิตา โหติ ภูตํ ตจฺฉํ กาเลน? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล วโณฺณปิ สํวิชฺชติ อวโณฺณปิ สํวิชฺชติ ฯ โย ตตฺถ อวโณฺณ ตํ ภณติ ภูตํ ตจฺฉํ กาเลน, โย ตตฺถ วโณฺณ ตํ น ภณติ ภูตํ ตจฺฉํ กาเลนฯ เอวํ ปุคฺคโล อวณฺณารหสฺส อวณฺณํ ภาสิตา โหติ ภูตํ ตจฺฉํ กาเลน, โน จ โข วณฺณารหสฺส วณฺณํ ภาสิตา โหติ ภูตํ ตจฺฉํ กาเลนฯ
166. Kathañca puggalo avaṇṇārahassa avaṇṇaṃ bhāsitā hoti bhūtaṃ tacchaṃ kālena, no ca kho vaṇṇārahassa vaṇṇaṃ bhāsitā hoti bhūtaṃ tacchaṃ kālena? Idhekacco puggalo vaṇṇopi saṃvijjati avaṇṇopi saṃvijjati . Yo tattha avaṇṇo taṃ bhaṇati bhūtaṃ tacchaṃ kālena, yo tattha vaṇṇo taṃ na bhaṇati bhūtaṃ tacchaṃ kālena. Evaṃ puggalo avaṇṇārahassa avaṇṇaṃ bhāsitā hoti bhūtaṃ tacchaṃ kālena, no ca kho vaṇṇārahassa vaṇṇaṃ bhāsitā hoti bhūtaṃ tacchaṃ kālena.
กถญฺจ ปุคฺคโล วณฺณารหสฺส วณฺณํ ภาสิตา โหติ ภูตํ ตจฺฉํ กาเลน, โน จ โข อวณฺณารหสฺส อวณฺณํ ภาสิตา โหติ ภูตํ ตจฺฉํ กาเลน? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล วโณฺณปิ สํวิชฺชติ อวโณฺณปิ สํวิชฺชติ ฯ โย ตตฺถ วโณฺณ ตํ ภณติ ภูตํ ตจฺฉํ กาเลน, โย ตตฺถ อวโณฺณ ตํ น ภณติ ภูตํ ตจฺฉํ กาเลนฯ เอวํ ปุคฺคโล วณฺณารหสฺส วณฺณํ ภาสิตา โหติ ภูตํ ตจฺฉํ กาเลน, โน จ โข อวณฺณารหสฺส อวณฺณํ ภาสิตา โหติ ภูตํ ตจฺฉํ กาเลนฯ
Kathañca puggalo vaṇṇārahassa vaṇṇaṃ bhāsitā hoti bhūtaṃ tacchaṃ kālena, no ca kho avaṇṇārahassa avaṇṇaṃ bhāsitā hoti bhūtaṃ tacchaṃ kālena? Idhekacco puggalo vaṇṇopi saṃvijjati avaṇṇopi saṃvijjati . Yo tattha vaṇṇo taṃ bhaṇati bhūtaṃ tacchaṃ kālena, yo tattha avaṇṇo taṃ na bhaṇati bhūtaṃ tacchaṃ kālena. Evaṃ puggalo vaṇṇārahassa vaṇṇaṃ bhāsitā hoti bhūtaṃ tacchaṃ kālena, no ca kho avaṇṇārahassa avaṇṇaṃ bhāsitā hoti bhūtaṃ tacchaṃ kālena.
กถญฺจ ปุคฺคโล อวณฺณารหสฺส จ อวณฺณํ ภาสิตา โหติ ภูตํ ตจฺฉํ กาเลน, วณฺณารหสฺส จ วณฺณํ ภาสิตา โหติ ภูตํ ตจฺฉํ กาเลน? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล วโณฺณปิ สํวิชฺชติ อวโณฺณปิ สํวิชฺชติฯ โย ตตฺถ อวโณฺณ ตํ ภณติ ภูตํ ตจฺฉํ กาเลน, โยปิ ตตฺถ วโณฺณ ตมฺปิ ภณติ ภูตํ ตจฺฉํ กาเลนฯ ตตฺร กาลญฺญู โหติ ตสฺส ปญฺหสฺส เวยฺยากรณายฯ เอวํ ปุคฺคโล อวณฺณารหสฺส จ อวณฺณํ ภาสิตา โหติ ภูตํ ตจฺฉํ กาเลน, วณฺณารหสฺส จ วณฺณํ ภาสิตา โหติ ภูตํ ตจฺฉํ กาเลนฯ
Kathañca puggalo avaṇṇārahassa ca avaṇṇaṃ bhāsitā hoti bhūtaṃ tacchaṃ kālena, vaṇṇārahassa ca vaṇṇaṃ bhāsitā hoti bhūtaṃ tacchaṃ kālena? Idhekacco puggalo vaṇṇopi saṃvijjati avaṇṇopi saṃvijjati. Yo tattha avaṇṇo taṃ bhaṇati bhūtaṃ tacchaṃ kālena, yopi tattha vaṇṇo tampi bhaṇati bhūtaṃ tacchaṃ kālena. Tatra kālaññū hoti tassa pañhassa veyyākaraṇāya. Evaṃ puggalo avaṇṇārahassa ca avaṇṇaṃ bhāsitā hoti bhūtaṃ tacchaṃ kālena, vaṇṇārahassa ca vaṇṇaṃ bhāsitā hoti bhūtaṃ tacchaṃ kālena.
กถญฺจ ปุคฺคโล เนว อวณฺณารหสฺส อวณฺณํ ภาสิตา โหติ ภูตํ ตจฺฉํ กาเลน, โนปิ วณฺณารหสฺส วณฺณํ ภาสิตา โหติ ภูตํ ตจฺฉํ กาเลน? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล วโณฺณปิ สํวิชฺชติ อวโณฺณปิ สํวิชฺชติฯ โย ตตฺถ อวโณฺณ ตํ น ภณติ ภูตํ ตจฺฉํ กาเลน, โยปิ ตตฺถ วโณฺณ ตมฺปิ น ภณติ ภูตํ ตจฺฉํ กาเลนฯ อุเปกฺขโก วิหรติ สโต สมฺปชาโนฯ เอวํ ปุคฺคโล เนว อวณฺณารหสฺส อวณฺณํ ภาสิตา โหติ ภูตํ ตจฺฉํ กาเลน, โนปิ วณฺณารหสฺส วณฺณํ ภาสิตา โหติ ภูตํ ตจฺฉํ กาเลนฯ
Kathañca puggalo neva avaṇṇārahassa avaṇṇaṃ bhāsitā hoti bhūtaṃ tacchaṃ kālena, nopi vaṇṇārahassa vaṇṇaṃ bhāsitā hoti bhūtaṃ tacchaṃ kālena? Idhekacco puggalo vaṇṇopi saṃvijjati avaṇṇopi saṃvijjati. Yo tattha avaṇṇo taṃ na bhaṇati bhūtaṃ tacchaṃ kālena, yopi tattha vaṇṇo tampi na bhaṇati bhūtaṃ tacchaṃ kālena. Upekkhako viharati sato sampajāno. Evaṃ puggalo neva avaṇṇārahassa avaṇṇaṃ bhāsitā hoti bhūtaṃ tacchaṃ kālena, nopi vaṇṇārahassa vaṇṇaṃ bhāsitā hoti bhūtaṃ tacchaṃ kālena.
๑๖๗. กตโม จ ปุคฺคโล อุฎฺฐานผลูปชีวี โน ปุญฺญผลูปชีวี? ยสฺส ปุคฺคลสฺส อุฎฺฐหโต ฆฎโต วายมโต อาชีโว อภินิพฺพตฺตติ, โน ปุญฺญโต – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘อุฎฺฐานผลูปชีวี, โน ปุญฺญผลูปชีวี’’ฯ
167. Katamo ca puggalo uṭṭhānaphalūpajīvī no puññaphalūpajīvī? Yassa puggalassa uṭṭhahato ghaṭato vāyamato ājīvo abhinibbattati, no puññato – ayaṃ vuccati puggalo ‘‘uṭṭhānaphalūpajīvī, no puññaphalūpajīvī’’.
กตโม จ ปุคฺคโล ปุญฺญผลูปชีวี โน อุฎฺฐานผลูปชีวี? ปรนิมฺมิตวสวตฺตี เทเว 25 อุปาทาย ตตูปริ เทวา ปุญฺญผลูปชีวิโน น อุฎฺฐานผลูปชีวิโนฯ
Katamo ca puggalo puññaphalūpajīvī no uṭṭhānaphalūpajīvī? Paranimmitavasavattī deve 26 upādāya tatūpari devā puññaphalūpajīvino na uṭṭhānaphalūpajīvino.
กตโม จ ปุคฺคโล อุฎฺฐานผลูปชีวี จ ปุญฺญผลูปชีวี จ? ยสฺส ปุคฺคลสฺส อุฎฺฐหโต ฆฎโต วายมโต อาชีโว อภินิพฺพตฺตติ ปุญฺญโต จ – อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘อุฎฺฐานผลูปชีวี จ ปุญฺญผลูปชีวี จ’’ฯ
Katamo ca puggalo uṭṭhānaphalūpajīvī ca puññaphalūpajīvī ca? Yassa puggalassa uṭṭhahato ghaṭato vāyamato ājīvo abhinibbattati puññato ca – ayaṃ vuccati puggalo ‘‘uṭṭhānaphalūpajīvī ca puññaphalūpajīvī ca’’.
กตโม จ ปุคฺคโล เนว อุฎฺฐานผลูปชีวี โน ปุญฺญผลูปชีวี? เนรยิกา เนว อุฎฺฐานผลูปชีวิโน โน ปุญฺญผลูปชีวิโนฯ
Katamo ca puggalo neva uṭṭhānaphalūpajīvī no puññaphalūpajīvī? Nerayikā neva uṭṭhānaphalūpajīvino no puññaphalūpajīvino.
๑๖๘. กถญฺจ ปุคฺคโล ตโม โหติ ตมปรายโน? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล นีเจ กุเล ปจฺจาชาโต โหติ – จณฺฑาลกุเล วา เนสาทกุเล วา เวนกุเล 27 วา รถการกุเล วา ปุกฺกุสกุเล วา ทลิเทฺท 28 อปฺปนฺนปานโภชเน กสิรวุตฺติเก, ยตฺถ กสิเรน ฆาสจฺฉาโท ลพฺภติฯ โส จ โหติ ทุพฺพโณฺณ ทุทฺทสิโก โอโกฎิมโก พหฺวาพาโธ กาโณ วา กุณี วา ขโญฺช วา ปกฺขหโต วา, น ลาภี อนฺนสฺส ปานสฺส วตฺถสฺส ยานสฺส มาลาคนฺธวิเลปนสฺส เสยฺยาวสถปทีเปยฺยสฺสฯ โส กาเยน ทุจฺจริตํ จรติ, วาจาย ทุจฺจริตํ จรติ, มนสา ทุจฺจริตํ จรติฯ โส กาเยน ทุจฺจริตํ จริตฺวา วาจาย ทุจฺจริตํ จริตฺวา มนสา ทุจฺจริตํ จริตฺวา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคติํ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชติฯ เอวํ ปุคฺคโล ตโม โหติ ตมปรายโนฯ
168. Kathañca puggalo tamo hoti tamaparāyano? Idhekacco puggalo nīce kule paccājāto hoti – caṇḍālakule vā nesādakule vā venakule 29 vā rathakārakule vā pukkusakule vā dalidde 30 appannapānabhojane kasiravuttike, yattha kasirena ghāsacchādo labbhati. So ca hoti dubbaṇṇo duddasiko okoṭimako bahvābādho kāṇo vā kuṇī vā khañjo vā pakkhahato vā, na lābhī annassa pānassa vatthassa yānassa mālāgandhavilepanassa seyyāvasathapadīpeyyassa. So kāyena duccaritaṃ carati, vācāya duccaritaṃ carati, manasā duccaritaṃ carati. So kāyena duccaritaṃ caritvā vācāya duccaritaṃ caritvā manasā duccaritaṃ caritvā kāyassa bhedā paraṃ maraṇā apāyaṃ duggatiṃ vinipātaṃ nirayaṃ upapajjati. Evaṃ puggalo tamo hoti tamaparāyano.
กถญฺจ ปุคฺคโล ตโม โหติ โชติปรายโน? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล นีเจ กุเล ปจฺจาชาโต โหติ – จณฺฑาลกุเล วา เนสาทกุเล วา เวนกุเล วา รถการกุเล วา ปุกฺกุสกุเล วา ทลิเทฺท อปฺปนฺนปานโภชเน กสิรวุตฺติเก, ยตฺถ กสิเรน ฆาสจฺฉาโท ลพฺภติฯ โส จ โหติ ทุพฺพโณฺณ ทุทฺทสิโก โอโกฎิมโก พหฺวาพาโธ กาโณ วา กุณี วา ขโญฺช วา ปกฺขหโต วา, น ลาภี อนฺนสฺส ปานสฺส วตฺถสฺส ยานสฺส มาลาคนฺธวิเลปนสฺส เสยฺยาวสถปทีเปยฺยสฺสฯ โส กาเยน สุจริตํ จรติ, วาจาย สุจริตํ จรติ , มนสา สุจริตํ จรติฯ โส กาเยน สุจริตํ จริตฺวา วาจาย สุจริตํ จริตฺวา มนสา สุจริตํ จริตฺวา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคติํ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชติฯ เอวํ ปุคฺคโล ตโม โหติ โชติปรายโนฯ
Kathañca puggalo tamo hoti jotiparāyano? Idhekacco puggalo nīce kule paccājāto hoti – caṇḍālakule vā nesādakule vā venakule vā rathakārakule vā pukkusakule vā dalidde appannapānabhojane kasiravuttike, yattha kasirena ghāsacchādo labbhati. So ca hoti dubbaṇṇo duddasiko okoṭimako bahvābādho kāṇo vā kuṇī vā khañjo vā pakkhahato vā, na lābhī annassa pānassa vatthassa yānassa mālāgandhavilepanassa seyyāvasathapadīpeyyassa. So kāyena sucaritaṃ carati, vācāya sucaritaṃ carati , manasā sucaritaṃ carati. So kāyena sucaritaṃ caritvā vācāya sucaritaṃ caritvā manasā sucaritaṃ caritvā kāyassa bhedā paraṃ maraṇā sugatiṃ saggaṃ lokaṃ upapajjati. Evaṃ puggalo tamo hoti jotiparāyano.
กถญฺจ ปุคฺคโล โชติ โหติ ตมปรายโน? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล อุเจฺจ กุเล ปจฺจาชาโต โหติ – ขตฺติยมหาสาลกุเล วา พฺราหฺมณมหาสาลกุเล วา คหปติมหาสาลกุเล วา อเฑฺฒ มหทฺธเน มหาโภเค ปหูตชาตรูปรชเต ปหูตวิตฺตูปกรเณ ปหูตธนธเญฺญฯ โส จ โหติ อภิรูโป ทสฺสนีโย ปาสาทิโก ปรมาย วณฺณโปกฺขรตาย สมนฺนาคโต, ลาภี อนฺนสฺส ปานสฺส วตฺถสฺส ยานสฺส มาลาคนฺธวิเลปนสฺส เสยฺยาวสถปทีเปยฺยสฺสฯ โส กาเยน ทุจฺจริตํ จรติ, วาจาย ทุจฺจริตํ จรติ, มนสา ทุจฺจริตํ จรติฯ โส กาเยน ทุจฺจริตํ จริตฺวา วาจาย ทุจฺจริตํ จริตฺวา มนสา ทุจฺจริตํ จริตฺวา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคติํ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชติฯ เอวํ ปุคฺคโล โชติ โหติ ตมปรายโนฯ
Kathañca puggalo joti hoti tamaparāyano? Idhekacco puggalo ucce kule paccājāto hoti – khattiyamahāsālakule vā brāhmaṇamahāsālakule vā gahapatimahāsālakule vā aḍḍhe mahaddhane mahābhoge pahūtajātarūparajate pahūtavittūpakaraṇe pahūtadhanadhaññe. So ca hoti abhirūpo dassanīyo pāsādiko paramāya vaṇṇapokkharatāya samannāgato, lābhī annassa pānassa vatthassa yānassa mālāgandhavilepanassa seyyāvasathapadīpeyyassa. So kāyena duccaritaṃ carati, vācāya duccaritaṃ carati, manasā duccaritaṃ carati. So kāyena duccaritaṃ caritvā vācāya duccaritaṃ caritvā manasā duccaritaṃ caritvā kāyassa bhedā paraṃ maraṇā apāyaṃ duggatiṃ vinipātaṃ nirayaṃ upapajjati. Evaṃ puggalo joti hoti tamaparāyano.
กถญฺจ ปุคฺคโล โชติ โหติ โชติปรายโน? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล อุเจฺจ กุเล ปจฺจาชาโต โหติ – ขตฺติยมหาสาลกุเล วา พฺราหฺมณมหาสาลกุเล วา คหปติมหาสาลกุเล วา อเฑฺฒ มหทฺธเน มหาโภเค ปหูตชาตรูปรชเต ปหูตวิตฺตูปกรเณ ปหูตธนธเญฺญฯ โส จ โหติ อภิรูโป ทสฺสนีโย ปาสาทิโก ปรมาย วณฺณโปกฺขรตาย สมนฺนาคโต, ลาภี อนฺนสฺส ปานสฺส วตฺถสฺส ยานสฺส มาลาคนฺธวิเลปนสฺส เสยฺยาวสถปทีเปยฺยสฺสฯ โส กาเยน สุจริตํ จรติ, วาจาย สุจริตํ จรติ, มนสา สุจริตํ จรติฯ โส กาเยน สุจริตํ จริตฺวา วาจาย สุจริตํ จริตฺวา มนสา สุจริตํ จริตฺวา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคติํ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชติฯ เอวํ ปุคฺคโล โชติ โหติ โชติปรายโนฯ
Kathañca puggalo joti hoti jotiparāyano? Idhekacco puggalo ucce kule paccājāto hoti – khattiyamahāsālakule vā brāhmaṇamahāsālakule vā gahapatimahāsālakule vā aḍḍhe mahaddhane mahābhoge pahūtajātarūparajate pahūtavittūpakaraṇe pahūtadhanadhaññe. So ca hoti abhirūpo dassanīyo pāsādiko paramāya vaṇṇapokkharatāya samannāgato, lābhī annassa pānassa vatthassa yānassa mālāgandhavilepanassa seyyāvasathapadīpeyyassa. So kāyena sucaritaṃ carati, vācāya sucaritaṃ carati, manasā sucaritaṃ carati. So kāyena sucaritaṃ caritvā vācāya sucaritaṃ caritvā manasā sucaritaṃ caritvā kāyassa bhedā paraṃ maraṇā sugatiṃ saggaṃ lokaṃ upapajjati. Evaṃ puggalo joti hoti jotiparāyano.
๑๖๙. กถญฺจ ปุคฺคโล โอณโตณโต โหติ…เป.… เอวํ ปุคฺคโล โอณโตณโต โหติฯ
169. Kathañca puggalo oṇatoṇato hoti…pe… evaṃ puggalo oṇatoṇato hoti.
กถญฺจ ปุคฺคโล โอณตุณฺณโต โหติ…เป.… เอวํ ปุคฺคโล โอณตุณฺณโต โหติฯ
Kathañca puggalo oṇatuṇṇato hoti…pe… evaṃ puggalo oṇatuṇṇato hoti.
กถญฺจ ปุคฺคโล อุณฺณโตณโต โหติ…เป.… เอวํ ปุคฺคโล อุณฺณโตณโต โหติฯ
Kathañca puggalo uṇṇatoṇato hoti…pe… evaṃ puggalo uṇṇatoṇato hoti.
กถญฺจ ปุคฺคโล อุณฺณตุณฺณโต โหติ…เป.… เอวํ ปุคฺคโล อุณฺณตุณฺณโต โหติฯ
Kathañca puggalo uṇṇatuṇṇato hoti…pe… evaṃ puggalo uṇṇatuṇṇato hoti.
๑๗๐. ตตฺถ กตเม จตฺตาโร รุกฺขูปมา ปุคฺคลา? จตฺตาโร รุกฺขา – เผคฺคุ สารปริวาโร, สาโร เผคฺคุปริวาโร, เผคฺคุ เผคฺคุปริวาโร, สาโร สารปริวาโรฯ เอวเมวํ จตฺตาโรเม รุกฺขูปมา ปุคฺคลา สโนฺต สํวิชฺชมานา โลกสฺมิํฯ กตเม จตฺตาโร? เผคฺคุ สารปริวาโร, สาโร เผคฺคุปริวาโร, เผคฺคุ เผคฺคุปริวาโร, สาโร สารปริวาโรฯ
170. Tattha katame cattāro rukkhūpamā puggalā? Cattāro rukkhā – pheggu sāraparivāro, sāro phegguparivāro, pheggu phegguparivāro, sāro sāraparivāro. Evamevaṃ cattārome rukkhūpamā puggalā santo saṃvijjamānā lokasmiṃ. Katame cattāro? Pheggu sāraparivāro, sāro phegguparivāro, pheggu phegguparivāro, sāro sāraparivāro.
กถญฺจ ปุคฺคโล เผคฺคุ โหติ สารปริวาโร? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล ทุสฺสีโล โหติ ปาปธโมฺม, ปริสา จ ขฺวสฺส โหติ สีลวตี กลฺยาณธมฺมาฯ เอวํ ปุคฺคโล เผคฺคุ โหติ สารปริวาโรฯ เสยฺยถาปิ โส รุโกฺข เผคฺคุ สารปริวาโร, ตถูปโม อยํ ปุคฺคโลฯ
Kathañca puggalo pheggu hoti sāraparivāro? Idhekacco puggalo dussīlo hoti pāpadhammo, parisā ca khvassa hoti sīlavatī kalyāṇadhammā. Evaṃ puggalo pheggu hoti sāraparivāro. Seyyathāpi so rukkho pheggu sāraparivāro, tathūpamo ayaṃ puggalo.
กถญฺจ ปุคฺคโล สาโร โหติ เผคฺคุปริวาโร? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล สีลวา โหติ กลฺยาณธโมฺม, ปริสา จ ขฺวสฺส โหติ ทุสฺสีลา ปาปธมฺมาฯ เอวํ ปุคฺคโล สาโร โหติ เผคฺคุปริวาโรฯ เสยฺยถาปิ โส รุโกฺข สาโร เผคฺคุปริวาโร, ตถูปโม อยํ ปุคฺคโลฯ
Kathañca puggalo sāro hoti phegguparivāro? Idhekacco puggalo sīlavā hoti kalyāṇadhammo, parisā ca khvassa hoti dussīlā pāpadhammā. Evaṃ puggalo sāro hoti phegguparivāro. Seyyathāpi so rukkho sāro phegguparivāro, tathūpamo ayaṃ puggalo.
กถญฺจ ปุคฺคโล เผคฺคุ โหติ เผคฺคุปริวาโร? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล ทุสฺสีโล โหติ ปาปธโมฺม, ปริสาปิสฺส โหติ ทุสฺสีลา ปาปธมฺมาฯ เอวํ ปุคฺคโล เผคฺคุ โหติ เผคฺคุปริวาโรฯ เสยฺยถาปิ โส รุโกฺข เผคฺคุ เผคฺคุปริวาโร, ตถูปโม อยํ ปุคฺคโลฯ
Kathañca puggalo pheggu hoti phegguparivāro? Idhekacco puggalo dussīlo hoti pāpadhammo, parisāpissa hoti dussīlā pāpadhammā. Evaṃ puggalo pheggu hoti phegguparivāro. Seyyathāpi so rukkho pheggu phegguparivāro, tathūpamo ayaṃ puggalo.
กถญฺจ ปุคฺคโล สาโร โหติ สารปริวาโร? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล สีลวา โหติ กลฺยาณธโมฺม, ปริสาปิสฺส โหติ สีลวตี กลฺยาณธมฺมาฯ เอวํ ปุคฺคโล สาโร โหติ สารปริวาโรฯ เสยฺยถาปิ โส รุโกฺข สาโร สารปริวาโร, ตถูปโม อยํ ปุคฺคโลฯ อิเม จตฺตาโร รุกฺขูปมา ปุคฺคลา สโนฺต สํวิชฺชมานา โลกสฺมิํฯ
Kathañca puggalo sāro hoti sāraparivāro? Idhekacco puggalo sīlavā hoti kalyāṇadhammo, parisāpissa hoti sīlavatī kalyāṇadhammā. Evaṃ puggalo sāro hoti sāraparivāro. Seyyathāpi so rukkho sāro sāraparivāro, tathūpamo ayaṃ puggalo. Ime cattāro rukkhūpamā puggalā santo saṃvijjamānā lokasmiṃ.
๑๗๑. กตโม จ ปุคฺคโล รูปปฺปมาโณ รูปปฺปสโนฺน? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล อาโรหํ วา ปสฺสิตฺวา ปริณาหํ วา ปสฺสิตฺวา สณฺฐานํ วา ปสฺสิตฺวา ปาริปูริํ วา ปสฺสิตฺวา ตตฺถ ปมาณํ คเหตฺวา ปสาทํ ชเนติฯ อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล รูปปฺปมาโณ รูปปฺปสโนฺนฯ
171. Katamo ca puggalo rūpappamāṇo rūpappasanno? Idhekacco puggalo ārohaṃ vā passitvā pariṇāhaṃ vā passitvā saṇṭhānaṃ vā passitvā pāripūriṃ vā passitvā tattha pamāṇaṃ gahetvā pasādaṃ janeti. Ayaṃ vuccati puggalo rūpappamāṇo rūpappasanno.
กตโม จ ปุคฺคโล โฆสปฺปมาโณ โฆสปฺปสโนฺน? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล ปรวณฺณนาย ปรโถมนาย ปรปสํสนาย ปรวณฺณหาริกาย 31 ตตฺถ ปมาณํ คเหตฺวา ปสาทํ ชเนติฯ อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล โฆสปฺปมาโณ โฆสปฺปสโนฺนฯ
Katamo ca puggalo ghosappamāṇo ghosappasanno? Idhekacco puggalo paravaṇṇanāya parathomanāya parapasaṃsanāya paravaṇṇahārikāya 32 tattha pamāṇaṃ gahetvā pasādaṃ janeti. Ayaṃ vuccati puggalo ghosappamāṇo ghosappasanno.
๑๗๒. กตโม จ ปุคฺคโล ลูขปฺปมาโณ ลูขปฺปสโนฺน? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล จีวรลูขํ วา ปสฺสิตฺวา ปตฺตลูขํ วา ปสฺสิตฺวา เสนาสนลูขํ วา ปสฺสิตฺวา วิวิธํ วา ทุกฺกรการิกํ ปสฺสิตฺวา ตตฺถ ปมาณํ คเหตฺวา ปสาทํ ชเนติฯ อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ลูขปฺปมาโณ ลูขปฺปสโนฺนฯ
172. Katamo ca puggalo lūkhappamāṇo lūkhappasanno? Idhekacco puggalo cīvaralūkhaṃ vā passitvā pattalūkhaṃ vā passitvā senāsanalūkhaṃ vā passitvā vividhaṃ vā dukkarakārikaṃ passitvā tattha pamāṇaṃ gahetvā pasādaṃ janeti. Ayaṃ vuccati puggalo lūkhappamāṇo lūkhappasanno.
กตโม จ ปุคฺคโล ธมฺมปฺปมาโณ ธมฺมปฺปสโนฺน? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล สีลํ วา ปสฺสิตฺวา สมาธิํ วา ปสฺสิตฺวา ปญฺญํ วา ปสฺสิตฺวา ตตฺถ ปมาณํ คเหตฺวา ปสาทํ ชเนติฯ อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ธมฺมปฺปมาโณ ธมฺมปฺปสโนฺนฯ
Katamo ca puggalo dhammappamāṇo dhammappasanno? Idhekacco puggalo sīlaṃ vā passitvā samādhiṃ vā passitvā paññaṃ vā passitvā tattha pamāṇaṃ gahetvā pasādaṃ janeti. Ayaṃ vuccati puggalo dhammappamāṇo dhammappasanno.
๑๗๓. กถญฺจ ปุคฺคโล อตฺตหิตาย ปฎิปโนฺน โหติ โน ปรหิตาย? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล อตฺตนา สีลสมฺปโนฺน โหติ, โน ปรํ สีลสมฺปทาย สมาทเปติ; อตฺตนา สมาธิสมฺปโนฺน โหติ, โน ปรํ สมาธิสมฺปทาย สมาทเปติ; อตฺตนา ปญฺญาสมฺปโนฺน โหติ, โน ปรํ ปญฺญาสมฺปทาย สมาทเปติ; อตฺตนา วิมุตฺติสมฺปโนฺน โหติ, โน ปรํ วิมุตฺติสมฺปทาย สมาทเปติ; อตฺตนา วิมุตฺติญาณทสฺสนสมฺปโนฺน โหติ, โน ปรํ วิมุตฺติญาณทสฺสนสมฺปทาย สมาทเปติฯ เอวํ ปุคฺคโล อตฺตหิตาย ปฎิปโนฺน โหติ โน ปรหิตายฯ
173. Kathañca puggalo attahitāya paṭipanno hoti no parahitāya? Idhekacco puggalo attanā sīlasampanno hoti, no paraṃ sīlasampadāya samādapeti; attanā samādhisampanno hoti, no paraṃ samādhisampadāya samādapeti; attanā paññāsampanno hoti, no paraṃ paññāsampadāya samādapeti; attanā vimuttisampanno hoti, no paraṃ vimuttisampadāya samādapeti; attanā vimuttiñāṇadassanasampanno hoti, no paraṃ vimuttiñāṇadassanasampadāya samādapeti. Evaṃ puggalo attahitāya paṭipanno hoti no parahitāya.
กถญฺจ ปุคฺคโล ปรหิตาย ปฎิปโนฺน โหติ โน อตฺตหิตาย? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล อตฺตนา น สีลสมฺปโนฺน โหติ, ปรํ สีลสมฺปทาย สมาทเปติ; อตฺตนา น สมาธิสมฺปโนฺน โหติ, ปรํ สมาธิสมฺปทาย สมาทเปติ; อตฺตนา น ปญฺญาสมฺปโนฺน โหติ, ปรํ ปญฺญาสมฺปทาย สมาทเปติ; อตฺตนา น วิมุตฺติสมฺปโนฺน โหติ, ปรํ วิมุตฺติสมฺปทาย สมาทเปติ; อตฺตนา น วิมุตฺติญาณทสฺสนสมฺปโนฺน โหติ, ปรํ วิมุตฺติญาณทสฺสนสมฺปทาย สมาทเปติฯ เอวํ ปุคฺคโล ปรหิตาย ปฎิปโนฺน โหติ โน อตฺตหิตายฯ
Kathañca puggalo parahitāya paṭipanno hoti no attahitāya? Idhekacco puggalo attanā na sīlasampanno hoti, paraṃ sīlasampadāya samādapeti; attanā na samādhisampanno hoti, paraṃ samādhisampadāya samādapeti; attanā na paññāsampanno hoti, paraṃ paññāsampadāya samādapeti; attanā na vimuttisampanno hoti, paraṃ vimuttisampadāya samādapeti; attanā na vimuttiñāṇadassanasampanno hoti, paraṃ vimuttiñāṇadassanasampadāya samādapeti. Evaṃ puggalo parahitāya paṭipanno hoti no attahitāya.
กถญฺจ ปุคฺคโล อตฺตหิตาย เจว ปฎิปโนฺน โหติ ปรหิตาย จ? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล อตฺตนา จ สีลสมฺปโนฺน โหติ, ปรญฺจ สีลสมฺปทาย สมาทเปติ; อตฺตนา จ สมาธิสมฺปโนฺน โหติ, ปรญฺจ สมาธิสมฺปทาย สมาทเปติ; อตฺตนา จ ปญฺญาสมฺปโนฺน โหติ, ปรญฺจ ปญฺญาสมฺปทาย สมาทเปติ; อตฺตนา จ วิมุตฺติสมฺปโนฺน โหติ, ปรญฺจ วิมุตฺติสมฺปทาย สมาทเปติ; อตฺตนา จ วิมุตฺติญาณทสฺสนสมฺปโนฺน โหติ, ปรญฺจ วิมุตฺติญาณทสฺสนสมฺปทาย สมาทเปติฯ เอวํ ปุคฺคโล อตฺตหิตาย เจว ปฎิปโนฺน โหติ ปรหิตาย จฯ
Kathañca puggalo attahitāya ceva paṭipanno hoti parahitāya ca? Idhekacco puggalo attanā ca sīlasampanno hoti, parañca sīlasampadāya samādapeti; attanā ca samādhisampanno hoti, parañca samādhisampadāya samādapeti; attanā ca paññāsampanno hoti, parañca paññāsampadāya samādapeti; attanā ca vimuttisampanno hoti, parañca vimuttisampadāya samādapeti; attanā ca vimuttiñāṇadassanasampanno hoti, parañca vimuttiñāṇadassanasampadāya samādapeti. Evaṃ puggalo attahitāya ceva paṭipanno hoti parahitāya ca.
กถญฺจ ปุคฺคโล เนว อตฺตหิตาย ปฎิปโนฺน โหติ โน ปรหิตาย? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล อตฺตนา น สีลสมฺปโนฺน โหติ, โน ปรํ สีลสมฺปทาย สมาทเปติ; อตฺตนา น สมาธิสมฺปโนฺน โหติ, โน ปรํ สมาธิสมฺปทาย สมาทเปติ; อตฺตนา น ปญฺญาสมฺปโนฺน โหติ, โน ปรํ ปญฺญาสมฺปทาย สมาทเปติ; อตฺตนา น วิมุตฺติสมฺปโนฺน โหติ, โน ปรํ วิมุตฺติสมฺปทาย สมาทเปติ; อตฺตนา น วิมุตฺติญาณทสฺสนสมฺปโนฺน โหติ, โน ปรํ วิมุตฺติญาณทสฺสนสมฺปทาย สมาทเปติฯ เอวํ ปุคฺคโล เนว อตฺตหิตาย ปฎิปโนฺน โหติ โน ปรหิตายฯ
Kathañca puggalo neva attahitāya paṭipanno hoti no parahitāya? Idhekacco puggalo attanā na sīlasampanno hoti, no paraṃ sīlasampadāya samādapeti; attanā na samādhisampanno hoti, no paraṃ samādhisampadāya samādapeti; attanā na paññāsampanno hoti, no paraṃ paññāsampadāya samādapeti; attanā na vimuttisampanno hoti, no paraṃ vimuttisampadāya samādapeti; attanā na vimuttiñāṇadassanasampanno hoti, no paraṃ vimuttiñāṇadassanasampadāya samādapeti. Evaṃ puggalo neva attahitāya paṭipanno hoti no parahitāya.
๑๗๔. กถญฺจ ปุคฺคโล อตฺตนฺตโป โหติ อตฺตปริตาปนานุโยคมนุยุโตฺต? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล อเจลโก โหติ มุตฺตาจาโร หตฺถาปเลขโน 33, นเอหิภทฺทนฺติโก นติฎฺฐภทฺทนฺติโก นาภิหฎํ น อุทฺทิสฺสกตํ น นิมนฺตนํ สาทิยติ, โส น กุมฺภิมุขา ปฎิคฺคณฺหาติ น กโฬปิมุขา 34 ปฎิคฺคณฺหาติ, น เอฬกมนฺตรํ น ทณฺฑมนฺตรํ น มุสลมนฺตรํ น ทฺวินฺนํ ภุญฺชมานานํ น คพฺภินิยา น ปายมานาย น ปุริสนฺตรคตาย, น สงฺกิตฺตีสุ น ยตฺถ สา อุปฎฺฐิโต โหติ น ยตฺถ มกฺขิกา สณฺฑสณฺฑจารินี, น มจฺฉํ น มํสํ น สุรํ น เมรยํ น ถุโสทกํ ปิวติฯ โส เอกาคาริโก วา โหติ เอกาโลปิโก, ทฺวาคาริโก วา โหติ ทฺวาโลปิโก…เป.… สตฺตาคาริโก วา โหติ สตฺตาโลปิโก; เอกิสฺสาปิ ทตฺติยา ยาเปติ, ทฺวีหิปิ ทตฺตีหิ ยาเปติ…เป.… สตฺตหิปิ ทตฺตีหิ ยาเปติ; เอกาหิกมฺปิ อาหารํ อาหาเรติ, ทฺวีหิกมฺปิ 35 อาหารํ อาหาเรติ…เป.… สตฺตาหิกมฺปิ อาหารํ อาหาเรติฯ อิติ เอวรูปํ อฑฺฒมาสิกมฺปิ ปริยายภตฺตโภชนานุโยคมนุยุโตฺต วิหรติฯ โส สากภโกฺข วา โหติ สามากภโกฺข วา โหติ นีวารภโกฺข วา โหติ ททฺทุลภโกฺข วา โหติ หฎภโกฺข วา โหติ กณภโกฺข วา โหติ อาจามภโกฺข วา โหติ ปิญฺญากภโกฺข วา โหติ ติณภโกฺข วา โหติ โคมยภโกฺข วา โหติ, วนมูลผลาหาโร ยาเปติ ปวตฺตผลโภชีฯ โส สาณานิปิ ธาเรติ มสาณานิปิ ธาเรติ ฉวทุสฺสานิปิ ธาเรติ ปํสุกูลานิปิ ธาเรติ ติรีฎานิปิ ธาเรติ อชินมฺปิ ธาเรติ อชินกฺขิปมฺปิ ธาเรติ กุสจีรมฺปิ ธาเรติ วากจีรมฺปิ ธาเรติ ผลกจีรมฺปิ ธาเรติ เกสกมฺพลมฺปิ ธาเรติ วาฬกมฺพลมฺปิ ธาเรติ อุลูกปกฺขมฺปิ 36 ธาเรติ, เกสมสฺสุโลจโกปิ โหติ เกสมสฺสุโลจนานุโยคมนุยุโตฺต, อุพฺภฎฺฐโกปิ โหติ อาสนปฎิกฺขิโตฺต, อุกฺกุฎิโกปิ โหติ อุกฺกุฎิกปฺปธานมนุยุโตฺต, กณฺฎกาปสฺสยิโกปิ โหติ กณฺฎกาปสฺสเย เสยฺยํ กเปฺปติ, สายตติยกมฺปิ 37 อุทโกโรหนานุโยคมนุยุโตฺต วิหรติฯ อิติ เอวรูปํ อเนกวิหิตํ กายสฺส อาตาปนปริตาปนานุโยคมนุยุโตฺต วิหรติ ฯ เอวํ ปุคฺคโล อตฺตนฺตโป โหติ อตฺตปริตาปนานุโยคมนุยุโตฺตฯ
174. Kathañca puggalo attantapo hoti attaparitāpanānuyogamanuyutto? Idhekacco puggalo acelako hoti muttācāro hatthāpalekhano 38, naehibhaddantiko natiṭṭhabhaddantiko nābhihaṭaṃ na uddissakataṃ na nimantanaṃ sādiyati, so na kumbhimukhā paṭiggaṇhāti na kaḷopimukhā 39 paṭiggaṇhāti, na eḷakamantaraṃ na daṇḍamantaraṃ na musalamantaraṃ na dvinnaṃ bhuñjamānānaṃ na gabbhiniyā na pāyamānāya na purisantaragatāya, na saṅkittīsu na yattha sā upaṭṭhito hoti na yattha makkhikā saṇḍasaṇḍacārinī, na macchaṃ na maṃsaṃ na suraṃ na merayaṃ na thusodakaṃ pivati. So ekāgāriko vā hoti ekālopiko, dvāgāriko vā hoti dvālopiko…pe… sattāgāriko vā hoti sattālopiko; ekissāpi dattiyā yāpeti, dvīhipi dattīhi yāpeti…pe… sattahipi dattīhi yāpeti; ekāhikampi āhāraṃ āhāreti, dvīhikampi 40 āhāraṃ āhāreti…pe… sattāhikampi āhāraṃ āhāreti. Iti evarūpaṃ aḍḍhamāsikampi pariyāyabhattabhojanānuyogamanuyutto viharati. So sākabhakkho vā hoti sāmākabhakkho vā hoti nīvārabhakkho vā hoti daddulabhakkho vā hoti haṭabhakkho vā hoti kaṇabhakkho vā hoti ācāmabhakkho vā hoti piññākabhakkho vā hoti tiṇabhakkho vā hoti gomayabhakkho vā hoti, vanamūlaphalāhāro yāpeti pavattaphalabhojī. So sāṇānipi dhāreti masāṇānipi dhāreti chavadussānipi dhāreti paṃsukūlānipi dhāreti tirīṭānipi dhāreti ajinampi dhāreti ajinakkhipampi dhāreti kusacīrampi dhāreti vākacīrampi dhāreti phalakacīrampi dhāreti kesakambalampi dhāreti vāḷakambalampi dhāreti ulūkapakkhampi 41 dhāreti, kesamassulocakopi hoti kesamassulocanānuyogamanuyutto, ubbhaṭṭhakopi hoti āsanapaṭikkhitto, ukkuṭikopi hoti ukkuṭikappadhānamanuyutto, kaṇṭakāpassayikopi hoti kaṇṭakāpassaye seyyaṃ kappeti, sāyatatiyakampi 42 udakorohanānuyogamanuyutto viharati. Iti evarūpaṃ anekavihitaṃ kāyassa ātāpanaparitāpanānuyogamanuyutto viharati . Evaṃ puggalo attantapo hoti attaparitāpanānuyogamanuyutto.
๑๗๕. กถญฺจ ปุคฺคโล ปรนฺตโป โหติ ปรปริตาปนานุโยคมนุยุโตฺต? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล โอรพฺภิโก โหติ สูกริโก สากุณิโก มาควิโก ลุโทฺท มจฺฉฆาตโก โจโร โจรฆาตโก โคฆาตโก พนฺธนาคาริโก, เย วา ปนเญฺญปิ เกจิ กุรูรกมฺมนฺตาฯ เอวํ ปุคฺคโล ปรนฺตโป โหติ ปรปริตาปนานุโยคมนุยุโตฺตฯ
175. Kathañca puggalo parantapo hoti paraparitāpanānuyogamanuyutto? Idhekacco puggalo orabbhiko hoti sūkariko sākuṇiko māgaviko luddo macchaghātako coro coraghātako goghātako bandhanāgāriko, ye vā panaññepi keci kurūrakammantā. Evaṃ puggalo parantapo hoti paraparitāpanānuyogamanuyutto.
๑๗๖. กถญฺจ ปุคฺคโล อตฺตนฺตโป จ โหติ อตฺตปริตาปนานุโยคมนุยุโตฺต, ปรนฺตโป จ ปรปริตาปนานุโยคมนุยุโตฺต? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล ราชา วา โหติ ขตฺติโย มุทฺธาวสิโตฺต 43 พฺราหฺมโณ วา มหาสาโลฯ โส ปุรตฺถิเมน นรสฺส นวํ สนฺธาคารํ 44 การาเปตฺวา เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา ขราชินํ 45 นิวาเสตฺวา สปฺปิเตเลน กายํ อพฺภญฺชิตฺวา มิควิสาเณน ปิฎฺฐิํ กณฺฑุวมาโน 46 สนฺธาคารํ ปวิสติ สทฺธิํ มเหสิยา พฺราหฺมเณน จ ปุโรหิเตนฯ โส ตตฺถ อนนฺตรหิตาย ภูมิยา หริตุปลิตฺตาย เสยฺยํ กเปฺปติฯ เอกิสฺสา คาวิยา สรูปวจฺฉาย ยํ เอกสฺมิํ ถเน ขีรํ โหติ เตน ราชา ยาเปติ, ยํ ทุติยสฺมิํ ถเน ขีรํ โหติ เตน มเหสี ยาเปติ, ยํ ตติยสฺมิํ ถเน ขีรํ โหติ เตน พฺราหฺมโณ ปุโรหิโต ยาเปติ, ยํ จตุตฺถสฺมิํ ถเน ขีรํ โหติ เตน อคฺคิํ ชุหติ, อวเสเสน วจฺฉโก ยาเปติฯ โส เอวมาห – ‘‘เอตฺตกา อุสภา หญฺญนฺตุ ยญฺญตฺถาย, เอตฺตกา วจฺฉตรา หญฺญนฺตุ ยญฺญตฺถาย, เอตฺตกา วจฺฉตริโย หญฺญนฺตุ ยญฺญตฺถาย, เอตฺตกา อชา หญฺญนฺตุ ยญฺญตฺถาย, เอตฺตกา อุรพฺภา หญฺญนฺตุ ยญฺญตฺถาย, (เอตฺตกา อสฺสา หญฺญนฺตุ ยญฺญตฺถาย) 47 เอตฺตกา รุกฺขา ฉิชฺชนฺตุ ยูปตฺถาย, เอตฺตกา ทพฺภา ลูยนฺตุ พริหิสตฺถายา’’ติ 48ฯ เยปิสฺส เต โหนฺติ ทาสาติ วา เปสฺสาติ วา กมฺมกราติ วา, เตปิ ทณฺฑตชฺชิตา ภยตชฺชิตา อสฺสุมุขา รุทมานา ปริกมฺมานิ กโรนฺติฯ เอวํ ปุคฺคโล อตฺตนฺตโป จ โหติ อตฺตปริตาปนานุโยคมนุยุโตฺต, ปรนฺตโป จ ปรปริตาปนานุโยคมนุยุโตฺตฯ
176. Kathañca puggalo attantapo ca hoti attaparitāpanānuyogamanuyutto, parantapo ca paraparitāpanānuyogamanuyutto? Idhekacco puggalo rājā vā hoti khattiyo muddhāvasitto 49 brāhmaṇo vā mahāsālo. So puratthimena narassa navaṃ sandhāgāraṃ 50 kārāpetvā kesamassuṃ ohāretvā kharājinaṃ 51 nivāsetvā sappitelena kāyaṃ abbhañjitvā migavisāṇena piṭṭhiṃ kaṇḍuvamāno 52 sandhāgāraṃ pavisati saddhiṃ mahesiyā brāhmaṇena ca purohitena. So tattha anantarahitāya bhūmiyā haritupalittāya seyyaṃ kappeti. Ekissā gāviyā sarūpavacchāya yaṃ ekasmiṃ thane khīraṃ hoti tena rājā yāpeti, yaṃ dutiyasmiṃ thane khīraṃ hoti tena mahesī yāpeti, yaṃ tatiyasmiṃ thane khīraṃ hoti tena brāhmaṇo purohito yāpeti, yaṃ catutthasmiṃ thane khīraṃ hoti tena aggiṃ juhati, avasesena vacchako yāpeti. So evamāha – ‘‘ettakā usabhā haññantu yaññatthāya, ettakā vacchatarā haññantu yaññatthāya, ettakā vacchatariyo haññantu yaññatthāya, ettakā ajā haññantu yaññatthāya, ettakā urabbhā haññantu yaññatthāya, (ettakā assā haññantu yaññatthāya) 53 ettakā rukkhā chijjantu yūpatthāya, ettakā dabbhā lūyantu barihisatthāyā’’ti 54. Yepissa te honti dāsāti vā pessāti vā kammakarāti vā, tepi daṇḍatajjitā bhayatajjitā assumukhā rudamānā parikammāni karonti. Evaṃ puggalo attantapo ca hoti attaparitāpanānuyogamanuyutto, parantapo ca paraparitāpanānuyogamanuyutto.
๑๗๗. กถญฺจ ปุคฺคโล เนว อตฺตนฺตโป จ โหติ น อตฺตปริตาปนานุโยคมนุยุโตฺต, น ปรนฺตโป น ปรปริตาปนานุโยคมนุยุโตฺต? โส อนตฺตนฺตโป อปรนฺตโป ทิเฎฺฐว ธเมฺม นิจฺฉาโต นิพฺพุโต สีตีภูโต สุขปฺปฎิสํเวที พฺรหฺมภูเตน อตฺตนา วิหรติฯ
177. Kathañca puggalo neva attantapo ca hoti na attaparitāpanānuyogamanuyutto, na parantapo na paraparitāpanānuyogamanuyutto? So anattantapo aparantapo diṭṭheva dhamme nicchāto nibbuto sītībhūto sukhappaṭisaṃvedī brahmabhūtena attanā viharati.
อิธ ตถาคโต โลเก อุปฺปชฺชติ อรหํ สมฺมาสมฺพุโทฺธ วิชฺชาจรณสมฺปโนฺน สุคโต โลกวิทู อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุโทฺธ ภควาฯ โส อิมํ โลกํ สเทวกํ สมารกํ สพฺรหฺมกํ สสฺสมณพฺราหฺมณิํ ปชํ สเทวมนุสฺสํ สยํ อภิญฺญา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทติฯ โส ธมฺมํ เทเสติ อาทิกลฺยาณํ มเชฺฌกลฺยาณํ ปริโยสานกลฺยาณํ สาตฺถํ สพฺยญฺชนํ, เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ ปกาเสติฯ ตํ ธมฺมํ สุณาติ คหปติ วา คหปติปุโตฺต วา อญฺญตรสฺมิํ วา กุเล ปจฺจาชาโต ฯ โส ตํ ธมฺมํ สุตฺวา ตถาคเต สทฺธํ ปฎิลภติฯ โส เตน สทฺธาปฎิลาเภน สมนฺนาคโต อิติ ปฎิสญฺจิกฺขติ – ‘‘สมฺพาโธ ฆราวาโส รชาปโถ, อโพฺภกาโส ปพฺพชฺชาฯ นยิทํ สุกรํ อคารํ อชฺฌาวสตา เอกนฺตปริปุณฺณํ เอกนฺตปริสุทฺธํ สงฺขลิขิตํ พฺรหฺมจริยํ จริตุํฯ ยํนูนาหํ เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพเชยฺย’’นฺติ! โส อปเรน สมเยน อปฺปํ วา โภคกฺขนฺธํ ปหาย มหนฺตํ วา โภคกฺขนฺธํ ปหาย อปฺปํ วา ญาติปริวฎฺฎํ ปหาย มหนฺตํ วา ญาติปริวฎฺฎํ ปหาย เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชติฯ
Idha tathāgato loke uppajjati arahaṃ sammāsambuddho vijjācaraṇasampanno sugato lokavidū anuttaro purisadammasārathi satthā devamanussānaṃ buddho bhagavā. So imaṃ lokaṃ sadevakaṃ samārakaṃ sabrahmakaṃ sassamaṇabrāhmaṇiṃ pajaṃ sadevamanussaṃ sayaṃ abhiññā sacchikatvā pavedeti. So dhammaṃ deseti ādikalyāṇaṃ majjhekalyāṇaṃ pariyosānakalyāṇaṃ sātthaṃ sabyañjanaṃ, kevalaparipuṇṇaṃ parisuddhaṃ brahmacariyaṃ pakāseti. Taṃ dhammaṃ suṇāti gahapati vā gahapatiputto vā aññatarasmiṃ vā kule paccājāto . So taṃ dhammaṃ sutvā tathāgate saddhaṃ paṭilabhati. So tena saddhāpaṭilābhena samannāgato iti paṭisañcikkhati – ‘‘sambādho gharāvāso rajāpatho, abbhokāso pabbajjā. Nayidaṃ sukaraṃ agāraṃ ajjhāvasatā ekantaparipuṇṇaṃ ekantaparisuddhaṃ saṅkhalikhitaṃ brahmacariyaṃ carituṃ. Yaṃnūnāhaṃ kesamassuṃ ohāretvā kāsāyāni vatthāni acchādetvā agārasmā anagāriyaṃ pabbajeyya’’nti! So aparena samayena appaṃ vā bhogakkhandhaṃ pahāya mahantaṃ vā bhogakkhandhaṃ pahāya appaṃ vā ñātiparivaṭṭaṃ pahāya mahantaṃ vā ñātiparivaṭṭaṃ pahāya kesamassuṃ ohāretvā kāsāyāni vatthāni acchādetvā agārasmā anagāriyaṃ pabbajati.
๑๗๘. โส เอวํ ปพฺพชิโต สมาโน ภิกฺขูนํ สิกฺขาสาชีวสมาปโนฺน ปาณาติปาตํ ปหาย ปาณาติปาตา ปฎิวิรโต โหติ นิหิตทโณฺฑ นิหิตสโตฺถ ลชฺชี ทยาปโนฺน สพฺพปาณภูตหิตานุกมฺปี วิหรติฯ
178. So evaṃ pabbajito samāno bhikkhūnaṃ sikkhāsājīvasamāpanno pāṇātipātaṃ pahāya pāṇātipātā paṭivirato hoti nihitadaṇḍo nihitasattho lajjī dayāpanno sabbapāṇabhūtahitānukampī viharati.
อทินฺนาทานํ ปหาย อทินฺนาทานา ปฎิวิรโต โหติ ทินฺนาทายี ทินฺนปาฎิกงฺขี, อเถเนน สุจิภูเตน อตฺตนา วิหรติฯ
Adinnādānaṃ pahāya adinnādānā paṭivirato hoti dinnādāyī dinnapāṭikaṅkhī, athenena sucibhūtena attanā viharati.
อพฺรหฺมจริยํ ปหาย พฺรหฺมจารี โหติ อาราจารี 55 ปฎิวิรโต เมถุนา คามธมฺมาฯ
Abrahmacariyaṃ pahāya brahmacārī hoti ārācārī 56 paṭivirato methunā gāmadhammā.
มุสาวาทํ ปหาย มุสาวาทา ปฎิวิรโต โหติ สจฺจวาที สจฺจสโนฺธ เถโต ปจฺจยิโก อวิสํวาทโก โลกสฺสฯ
Musāvādaṃ pahāya musāvādā paṭivirato hoti saccavādī saccasandho theto paccayiko avisaṃvādako lokassa.
ปิสุณํ วาจํ ปหาย ปิสุณาย วาจาย ปฎิวิรโต โหติ, อิโต สุตฺวา น อมุตฺร อกฺขาตา อิเมสํ เภทาย, อมุตฺร วา สุตฺวา น อิเมสํ อกฺขาตา อมูสํ เภทายฯ อิติ ภินฺนานํ วา สนฺธาตา สหิตานํ วา อนุปฺปทาตา สมคฺคาราโม สมคฺครโต สมคฺคนนฺที สมคฺคกรณิํ วาจํ ภาสิตา โหติฯ
Pisuṇaṃ vācaṃ pahāya pisuṇāya vācāya paṭivirato hoti, ito sutvā na amutra akkhātā imesaṃ bhedāya, amutra vā sutvā na imesaṃ akkhātā amūsaṃ bhedāya. Iti bhinnānaṃ vā sandhātā sahitānaṃ vā anuppadātā samaggārāmo samaggarato samagganandī samaggakaraṇiṃ vācaṃ bhāsitā hoti.
ผรุสํ วาจํ ปหาย ผรุสาย วาจาย ปฎิวิรโต โหติฯ ยา สา วาจา เนลา กณฺณสุขา เปมนียา หทยงฺคมา โปรี พหุชนกนฺตา พหุชนมนาปา ตถารูปิํ วาจํ ภาสิตา โหติฯ
Pharusaṃ vācaṃ pahāya pharusāya vācāya paṭivirato hoti. Yā sā vācā nelā kaṇṇasukhā pemanīyā hadayaṅgamā porī bahujanakantā bahujanamanāpā tathārūpiṃ vācaṃ bhāsitā hoti.
สมฺผปฺปลาปํ ปหาย สมฺผปฺปลาปา ปฎิวิรโต โหติ, กาลวาที ภูตวาที อตฺถวาที ธมฺมวาที วินยวาที นิธานวติํ วาจํ ภาสิตา กาเลน สาปเทสํ ปริยนฺตวติํ อตฺถสํหิตํฯ
Samphappalāpaṃ pahāya samphappalāpā paṭivirato hoti, kālavādī bhūtavādī atthavādī dhammavādī vinayavādī nidhānavatiṃ vācaṃ bhāsitā kālena sāpadesaṃ pariyantavatiṃ atthasaṃhitaṃ.
๑๗๙. โส พีชคามภูตคามสมารมฺภา ปฎิวิรโต โหติ, เอกภตฺติโก โหติ รตฺตูปรโต วิรโต วิกาลโภชนา, นจฺจคีตวาทิตวิสูกทสฺสนา ปฎิวิรโต โหติ, มาลาคนฺธวิเลปนธารณมณฺฑนวิภูสนฎฺฐานา ปฎิวิรโต โหติ, อุจฺจาสยนมหาสยนา ปฎิวิรโต โหติ, ชาตรูปรชตปฎิคฺคหณา ปฎิวิรโต โหติฯ
179. So bījagāmabhūtagāmasamārambhā paṭivirato hoti, ekabhattiko hoti rattūparato virato vikālabhojanā, naccagītavāditavisūkadassanā paṭivirato hoti, mālāgandhavilepanadhāraṇamaṇḍanavibhūsanaṭṭhānā paṭivirato hoti, uccāsayanamahāsayanā paṭivirato hoti, jātarūparajatapaṭiggahaṇā paṭivirato hoti.
อามกธญฺญปฎิคฺคหณา ปฎิวิรโต โหติ, อามกมํสปฎิคฺคหณา ปฎิวิรโต โหติ, อิตฺถิกุมาริกาปฎิคฺคหณา ปฎิวิรโต โหติ, ทาสิทาสปฎิคฺคหณา ปฎิวิรโต โหติ, อเชฬกปฎิคฺคหณา ปฎิวิรโต โหติ, กุกฺกุฎสูกรปฎิคฺคหณา ปฎิวิรโต โหติ, หตฺถิควาสฺสวฬวปฎิคฺคหณา ปฎิวิรโต โหติ, เขตฺตวตฺถุปฎิคฺคหณา ปฎิวิรโต โหติ, ทูเตยฺยปหิณคมนานุโยคา ปฎิวิรโต โหติ, กยวิกฺกยา ปฎิวิรโต โหติ, ตุลากูฎกํสกูฎมานกูฎา ปฎิวิรโต โหติ, อุโกฺกฎนวญฺจนนิกติสาจิโยคา 57 ปฎิวิรโต โหติ, เฉทนวธพนฺธนวิปราโมสอาโลปสหสาการา ปฎิวิรโต โหติฯ
Āmakadhaññapaṭiggahaṇā paṭivirato hoti, āmakamaṃsapaṭiggahaṇā paṭivirato hoti, itthikumārikāpaṭiggahaṇā paṭivirato hoti, dāsidāsapaṭiggahaṇā paṭivirato hoti, ajeḷakapaṭiggahaṇā paṭivirato hoti, kukkuṭasūkarapaṭiggahaṇā paṭivirato hoti, hatthigavāssavaḷavapaṭiggahaṇā paṭivirato hoti, khettavatthupaṭiggahaṇā paṭivirato hoti, dūteyyapahiṇagamanānuyogā paṭivirato hoti, kayavikkayā paṭivirato hoti, tulākūṭakaṃsakūṭamānakūṭā paṭivirato hoti, ukkoṭanavañcananikatisāciyogā 58 paṭivirato hoti, chedanavadhabandhanaviparāmosaālopasahasākārā paṭivirato hoti.
๑๘๐. โส สนฺตุโฎฺฐ โหติ กายปริหาริเกน จีวเรน กุจฺฉิปริหาริเกน ปิณฺฑปาเตนฯ โส เยน เยเนว ปกฺกมติ สมาทาเยว ปกฺกมติ, เสยฺยถาปิ นาม ปกฺขี สกุโณ เยน เยเนว เฑติ สปตฺตภาโรว เฑติฯ เอวเมวํ ภิกฺขุ สนฺตุโฎฺฐ โหติ กายปริหาริเกน จีวเรน กุจฺฉิปริหาริเกน ปิณฺฑปาเตนฯ โส เยน เยเนว ปกฺกมติ สมาทาเยว ปกฺกมติฯ โส อิมินา อริเยน สีลกฺขเนฺธน สมนฺนาคโต อชฺฌตฺตํ อนวชฺชสุขํ ปฎิสํเวเทติฯ
180. So santuṭṭho hoti kāyaparihārikena cīvarena kucchiparihārikena piṇḍapātena. So yena yeneva pakkamati samādāyeva pakkamati, seyyathāpi nāma pakkhī sakuṇo yena yeneva ḍeti sapattabhārova ḍeti. Evamevaṃ bhikkhu santuṭṭho hoti kāyaparihārikena cīvarena kucchiparihārikena piṇḍapātena. So yena yeneva pakkamati samādāyeva pakkamati. So iminā ariyena sīlakkhandhena samannāgato ajjhattaṃ anavajjasukhaṃ paṭisaṃvedeti.
๑๘๑. โส จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา น นิมิตฺตคฺคาหี โหติ นานุพฺยญฺชนคฺคาหีฯ ยตฺวาธิกรณเมนํ จกฺขุนฺทฺริยํ อสํวุตํ วิหรนฺตํ อภิชฺฌาโทมนสฺสา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อนฺวาสฺสเวยฺยุํ, ตสฺส สํวราย ปฎิปชฺชติ, รกฺขติ จกฺขุนฺทฺริยํ, จกฺขุนฺทฺริเย สํวรํ อาปชฺชติ; โสเตน สทฺทํ สุตฺวา…เป.… ฆาเนน คนฺธํ ฆายิตฺวา…เป.… ชิวฺหาย รสํ สายิตฺวา…เป.… กาเยน โผฎฺฐพฺพํ ผุสิตฺวา…เป.… มนสา ธมฺมํ วิญฺญาย น นิมิตฺตคฺคาหี โหติ นานุพฺยญฺชนคฺคาหีฯ ยตฺวาธิกรณเมนํ มนินฺทฺริยํ อสํวุตํ วิหรนฺตํ อภิชฺฌาโทมนสฺสา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อนฺวาสฺสเวยฺยุํ, ตสฺส สํวราย ปฎิปชฺชติ, รกฺขติ มนินฺทฺริยํ, มนินฺทฺริเย สํวรํ อาปชฺชติฯ โส อิมินา อริเยน อินฺทฺริยสํวเรน สมนฺนาคโต อชฺฌตฺตํ อพฺยาเสกสุขํ ปฎิสํเวเทติฯ
181. So cakkhunā rūpaṃ disvā na nimittaggāhī hoti nānubyañjanaggāhī. Yatvādhikaraṇamenaṃ cakkhundriyaṃ asaṃvutaṃ viharantaṃ abhijjhādomanassā pāpakā akusalā dhammā anvāssaveyyuṃ, tassa saṃvarāya paṭipajjati, rakkhati cakkhundriyaṃ, cakkhundriye saṃvaraṃ āpajjati; sotena saddaṃ sutvā…pe… ghānena gandhaṃ ghāyitvā…pe… jivhāya rasaṃ sāyitvā…pe… kāyena phoṭṭhabbaṃ phusitvā…pe… manasā dhammaṃ viññāya na nimittaggāhī hoti nānubyañjanaggāhī. Yatvādhikaraṇamenaṃ manindriyaṃ asaṃvutaṃ viharantaṃ abhijjhādomanassā pāpakā akusalā dhammā anvāssaveyyuṃ, tassa saṃvarāya paṭipajjati, rakkhati manindriyaṃ, manindriye saṃvaraṃ āpajjati. So iminā ariyena indriyasaṃvarena samannāgato ajjhattaṃ abyāsekasukhaṃ paṭisaṃvedeti.
๑๘๒. โส อภิกฺกเนฺต ปฎิกฺกเนฺต สมฺปชานการี โหติ, อาโลกิเต วิโลกิเต สมฺปชานการี โหติ, สมิญฺชิเต ปสาริเต สมฺปชานการี โหติ, สงฺฆาฎิปตฺตจีวรธารเณ สมฺปชานการี โหติ, อสิเต ปีเต ขายิเต สายิเต สมฺปชานการี โหติ, อุจฺจารปสฺสาวกเมฺม สมฺปชานการี โหติ, คเต ฐิเต นิสิเนฺน สุเตฺต ชาคริเต ภาสิเต ตุณฺหีภาเว สมฺปชานการี โหติฯ
182. So abhikkante paṭikkante sampajānakārī hoti, ālokite vilokite sampajānakārī hoti, samiñjite pasārite sampajānakārī hoti, saṅghāṭipattacīvaradhāraṇe sampajānakārī hoti, asite pīte khāyite sāyite sampajānakārī hoti, uccārapassāvakamme sampajānakārī hoti, gate ṭhite nisinne sutte jāgarite bhāsite tuṇhībhāve sampajānakārī hoti.
โส อิมินา จ อริเยน สีลกฺขเนฺธน สมนฺนาคโต อิมินา จ อริเยน อินฺทฺริยสํวเรน สมนฺนาคโต อิมินา จ อริเยน สติสมฺปชเญฺญน สมนฺนาคโต อิมาย จ อริยาย สนฺตุฎฺฐิยา สมนฺนาคโต 59 วิวิตฺตํ เสนาสนํ ภชติ อรญฺญํ รุกฺขมูลํ ปพฺพตํ กนฺทรํ คิริคุหํ สุสานํ วนปตฺถํ อโพฺภกาสํ ปลาลปุญฺชํฯ โส ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฎิกฺกโนฺต นิสีทติ ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา อุชุํ กายํ ปณิธาย ปริมุขํ สติํ อุปฎฺฐเปตฺวาฯ โส อภิชฺฌํ โลเก ปหาย วิคตาภิเชฺฌน เจตสา วิหรติ, อภิชฺฌาย จิตฺตํ ปริโสเธติ; พฺยาปาทปโทสํ ปหาย อพฺยาปนฺนจิโตฺต วิหรติ สพฺพปาณภูตหิตานุกมฺปี, พฺยาปาทปโทสา จิตฺตํ ปริโสเธติ; ถินมิทฺธํ 60 ปหาย วิคตถินมิโทฺธ วิหรติ อาโลกสญฺญี สโต สมฺปชาโน, ถินมิทฺธา จิตฺตํ ปริโสเธติ; อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํ ปหาย อนุทฺธโต วิหรติ อชฺฌตฺตํ วูปสนฺตจิโตฺต, อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจา จิตฺตํ ปริโสเธติ; วิจิกิจฺฉํ ปหาย ติณฺณวิจิกิโจฺฉ วิหรติ อกถํกถี กุสเลสุ ธเมฺมสุ, วิจิกิจฺฉาย จิตฺตํ ปริโสเธติฯ
So iminā ca ariyena sīlakkhandhena samannāgato iminā ca ariyena indriyasaṃvarena samannāgato iminā ca ariyena satisampajaññena samannāgato imāya ca ariyāya santuṭṭhiyā samannāgato 61 vivittaṃ senāsanaṃ bhajati araññaṃ rukkhamūlaṃ pabbataṃ kandaraṃ giriguhaṃ susānaṃ vanapatthaṃ abbhokāsaṃ palālapuñjaṃ. So pacchābhattaṃ piṇḍapātapaṭikkanto nisīdati pallaṅkaṃ ābhujitvā ujuṃ kāyaṃ paṇidhāya parimukhaṃ satiṃ upaṭṭhapetvā. So abhijjhaṃ loke pahāya vigatābhijjhena cetasā viharati, abhijjhāya cittaṃ parisodheti; byāpādapadosaṃ pahāya abyāpannacitto viharati sabbapāṇabhūtahitānukampī, byāpādapadosā cittaṃ parisodheti; thinamiddhaṃ 62 pahāya vigatathinamiddho viharati ālokasaññī sato sampajāno, thinamiddhā cittaṃ parisodheti; uddhaccakukkuccaṃ pahāya anuddhato viharati ajjhattaṃ vūpasantacitto, uddhaccakukkuccā cittaṃ parisodheti; vicikicchaṃ pahāya tiṇṇavicikiccho viharati akathaṃkathī kusalesu dhammesu, vicikicchāya cittaṃ parisodheti.
๑๘๓. โส อิเม ปญฺจ นีวรเณ ปหาย เจตโส อุปกฺกิเลเส ปญฺญาย ทุพฺพลีกรเณ วิวิเจฺจว กาเมหิ วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธเมฺมหิ สวิตกฺกํ สวิจารํ วิเวกชํ ปีติสุขํ ปฐมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ; วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา อชฺฌตฺตํ สมฺปสาทนํ เจตโส เอโกทิภาวํ อวิตกฺกํ อวิจารํ สมาธิชํ ปีติสุขํ ทุติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ; ปีติยา จ วิราคา อุเปกฺขโก จ วิหรติ สโต จ สมฺปชาโน สุขญฺจ กาเยน ปฎิสํเวเทติ, ยํ ตํ อริยา อาจิกฺขนฺติ – ‘‘อุเปกฺขโก สติมา สุขวิหารี’’ติ ตติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ; สุขสฺส จ ปหานา ทุกฺขสฺส จ ปหานา ปุเพฺพว โสมนสฺสโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมา อทุกฺขมสุขํ อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธิํ จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ
183. So ime pañca nīvaraṇe pahāya cetaso upakkilese paññāya dubbalīkaraṇe vivicceva kāmehi vivicca akusalehi dhammehi savitakkaṃ savicāraṃ vivekajaṃ pītisukhaṃ paṭhamaṃ jhānaṃ upasampajja viharati; vitakkavicārānaṃ vūpasamā ajjhattaṃ sampasādanaṃ cetaso ekodibhāvaṃ avitakkaṃ avicāraṃ samādhijaṃ pītisukhaṃ dutiyaṃ jhānaṃ upasampajja viharati; pītiyā ca virāgā upekkhako ca viharati sato ca sampajāno sukhañca kāyena paṭisaṃvedeti, yaṃ taṃ ariyā ācikkhanti – ‘‘upekkhako satimā sukhavihārī’’ti tatiyaṃ jhānaṃ upasampajja viharati; sukhassa ca pahānā dukkhassa ca pahānā pubbeva somanassadomanassānaṃ atthaṅgamā adukkhamasukhaṃ upekkhāsatipārisuddhiṃ catutthaṃ jhānaṃ upasampajja viharati.
โส เอวํ สมาหิเต จิเตฺต ปริสุเทฺธ ปริโยทาเต อนงฺคเณ วิคตูปกฺกิเลเส มุทุภูเต กมฺมนิเย ฐิเต อาเนญฺชปฺปเตฺต ปุเพฺพนิวาสานุสฺสติญาณาย จิตฺตํ อภินินฺนาเมติฯ โส อเนกวิหิตํ ปุเพฺพนิวาสํ อนุสฺสรติ, เสยฺยถิทํ – เอกมฺปิ ชาติํ เทฺวปิ ชาติโย ติโสฺสปิ ชาติโย จตโสฺสปิ ชาติโย ปญฺจปิ ชาติโย ทสปิ ชาติโย วีสมฺปิ ชาติโย ติํสมฺปิ ชาติโย จตฺตาลีสมฺปิ ชาติโย ปญฺญาสมฺปิ ชาติโย ชาติสตมฺปิ ชาติสหสฺสมฺปิ ชาติสตสหสฺสมฺปิ อเนเกปิ สํวฎฺฎกเปฺป อเนเกปิ วิวฎฺฎกเปฺป อเนเกปิ สํวฎฺฎวิวฎฺฎกเปฺป – ‘‘อมุตฺราสิํ เอวํนาโม เอวํโคโตฺต เอวํวโณฺณ เอวมาหาโร เอวํสุขทุกฺขปฎิสํเวที เอวมายุปริยโนฺต, โส ตโต จุโต อมุตฺร อุทปาทิํ; ตตฺราปาสิํ เอวํนาโม เอวํโคโตฺต เอวํวโณฺณ เอวมาหาโร เอวํสุขทุกฺขปฎิสํเวที เอวมายุปริยโนฺต, โส ตโต จุโต อิธูปปโนฺน’’ติฯ อิติ สาการํ สอุเทฺทสํ อเนกวิหิตํ ปุเพฺพนิวาสํ อนุสฺสรติฯ
So evaṃ samāhite citte parisuddhe pariyodāte anaṅgaṇe vigatūpakkilese mudubhūte kammaniye ṭhite āneñjappatte pubbenivāsānussatiñāṇāya cittaṃ abhininnāmeti. So anekavihitaṃ pubbenivāsaṃ anussarati, seyyathidaṃ – ekampi jātiṃ dvepi jātiyo tissopi jātiyo catassopi jātiyo pañcapi jātiyo dasapi jātiyo vīsampi jātiyo tiṃsampi jātiyo cattālīsampi jātiyo paññāsampi jātiyo jātisatampi jātisahassampi jātisatasahassampi anekepi saṃvaṭṭakappe anekepi vivaṭṭakappe anekepi saṃvaṭṭavivaṭṭakappe – ‘‘amutrāsiṃ evaṃnāmo evaṃgotto evaṃvaṇṇo evamāhāro evaṃsukhadukkhapaṭisaṃvedī evamāyupariyanto, so tato cuto amutra udapādiṃ; tatrāpāsiṃ evaṃnāmo evaṃgotto evaṃvaṇṇo evamāhāro evaṃsukhadukkhapaṭisaṃvedī evamāyupariyanto, so tato cuto idhūpapanno’’ti. Iti sākāraṃ sauddesaṃ anekavihitaṃ pubbenivāsaṃ anussarati.
๑๘๔. โส เอวํ สมาหิเต จิเตฺต ปริสุเทฺธ ปริโยทาเต อนงฺคเณ วิคตูปกฺกิเลเส มุทุภูเต กมฺมนิเย ฐิเต อาเนญฺชปฺปเตฺต สตฺตานํ จุตูปปาตญาณาย จิตฺตํ อภินินฺนาเมติฯ โส ทิเพฺพน จกฺขุนา วิสุเทฺธน อติกฺกนฺตมานุสเกน สเตฺต ปสฺสติ จวมาเน อุปปชฺชมาเน หีเน ปณีเต สุวเณฺณ ทุพฺพเณฺณ, สุคเต ทุคฺคเต ยถากมฺมูปเค สเตฺต ปชานาติ – ‘‘อิเม วต โภโนฺต สตฺตา กายทุจฺจริเตน สมนฺนาคตา, วจีทุจฺจริเตน สมนฺนาคตา, มโนทุจฺจริเตน สมนฺนาคตา, อริยานํ อุปวาทกา, มิจฺฉาทิฎฺฐิกา มิจฺฉาทิฎฺฐิกมฺมสมาทานาฯ เต กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคติํ วินิปาตํ นิรยํ อุปปนฺนาฯ อิเม วา ปน โภโนฺต สตฺตา กายสุจริเตน สมนฺนาคตา วจีสุจริเตน สมนฺนาคตา มโนสุจริเตน สมนฺนาคตา อริยานํ อนุปวาทกา สมฺมาทิฎฺฐิกา สมฺมาทิฎฺฐิกมฺมสมาทานาฯ เต กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคติํ สคฺคํ โลกํ อุปปนฺนา’’ติฯ โส อิติ ทิเพฺพน จกฺขุนา วิสุเทฺธน อติกฺกนฺตมานุสเกน สเตฺต ปสฺสติ จวมาเน อุปปชฺชมาเน หีเน ปณีเต สุวเณฺณ ทุพฺพเณฺณ, สุคเต ทุคฺคเต ยถากมฺมูปเค สเตฺต ปชานาติฯ
184. So evaṃ samāhite citte parisuddhe pariyodāte anaṅgaṇe vigatūpakkilese mudubhūte kammaniye ṭhite āneñjappatte sattānaṃ cutūpapātañāṇāya cittaṃ abhininnāmeti. So dibbena cakkhunā visuddhena atikkantamānusakena satte passati cavamāne upapajjamāne hīne paṇīte suvaṇṇe dubbaṇṇe, sugate duggate yathākammūpage satte pajānāti – ‘‘ime vata bhonto sattā kāyaduccaritena samannāgatā, vacīduccaritena samannāgatā, manoduccaritena samannāgatā, ariyānaṃ upavādakā, micchādiṭṭhikā micchādiṭṭhikammasamādānā. Te kāyassa bhedā paraṃ maraṇā apāyaṃ duggatiṃ vinipātaṃ nirayaṃ upapannā. Ime vā pana bhonto sattā kāyasucaritena samannāgatā vacīsucaritena samannāgatā manosucaritena samannāgatā ariyānaṃ anupavādakā sammādiṭṭhikā sammādiṭṭhikammasamādānā. Te kāyassa bhedā paraṃ maraṇā sugatiṃ saggaṃ lokaṃ upapannā’’ti. So iti dibbena cakkhunā visuddhena atikkantamānusakena satte passati cavamāne upapajjamāne hīne paṇīte suvaṇṇe dubbaṇṇe, sugate duggate yathākammūpage satte pajānāti.
๑๘๕. โส เอวํ สมาหิเต จิเตฺต ปริสุเทฺธ ปริโยทาเต อนงฺคเณ วิคตูปกฺกิเลเส มุทุภูเต กมฺมนิเย ฐิเต อาเนญฺชปฺปเตฺต อาสวานํ ขยญาณาย จิตฺตํ อภินินฺนาเมติฯ โส ‘‘อิทํ ทุกฺข’’นฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘‘อยํ ทุกฺขสมุทโย’’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘‘อยํ ทุกฺขนิโรโธ’’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฎิปทา’’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘‘อิเม อาสวา’’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘‘อยํ อาสวสมุทโย’’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘‘อยํ อาสวนิโรโธ’’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘‘อยํ อาสวนิโรธคามินี ปฎิปทา’’ติ ยถาภูตํ ปชานาติฯ ตสฺส เอวํ ชานโต เอวํ ปสฺสโต กามาสวาปิ จิตฺตํ วิมุจฺจติ, ภวาสวาปิ จิตฺตํ วิมุจฺจติ, อวิชฺชาสวาปิ จิตฺตํ วิมุจฺจติฯ วิมุตฺตสฺมิํ วิมุตฺตมิติ ญาณํ โหติฯ ‘‘ขีณา ชาติ, วุสิตํ พฺรหฺมจริยํ, กตํ กรณียํ, นาปรํ อิตฺถตฺตายา’’ติ ปชานาติฯ เอวํ ปุคฺคโล เนว อตฺตนฺตโป จ โหติ น อตฺตปริตาปนานุโยคมนุยุโตฺต, น ปรนฺตโป น ปรปริตาปนานุโยคมนุยุโตฺตฯ โส อนตฺตนฺตโป อปรนฺตโป ทิเฎฺฐว ธเมฺม นิจฺฉาโต นิพฺพุโต สีตีภูโต สุขปฺปฎิสํเวที พฺรหฺมภูเตน อตฺตนา วิหรติฯ
185. So evaṃ samāhite citte parisuddhe pariyodāte anaṅgaṇe vigatūpakkilese mudubhūte kammaniye ṭhite āneñjappatte āsavānaṃ khayañāṇāya cittaṃ abhininnāmeti. So ‘‘idaṃ dukkha’’nti yathābhūtaṃ pajānāti, ‘‘ayaṃ dukkhasamudayo’’ti yathābhūtaṃ pajānāti, ‘‘ayaṃ dukkhanirodho’’ti yathābhūtaṃ pajānāti, ‘‘ayaṃ dukkhanirodhagāminī paṭipadā’’ti yathābhūtaṃ pajānāti, ‘‘ime āsavā’’ti yathābhūtaṃ pajānāti, ‘‘ayaṃ āsavasamudayo’’ti yathābhūtaṃ pajānāti, ‘‘ayaṃ āsavanirodho’’ti yathābhūtaṃ pajānāti, ‘‘ayaṃ āsavanirodhagāminī paṭipadā’’ti yathābhūtaṃ pajānāti. Tassa evaṃ jānato evaṃ passato kāmāsavāpi cittaṃ vimuccati, bhavāsavāpi cittaṃ vimuccati, avijjāsavāpi cittaṃ vimuccati. Vimuttasmiṃ vimuttamiti ñāṇaṃ hoti. ‘‘Khīṇā jāti, vusitaṃ brahmacariyaṃ, kataṃ karaṇīyaṃ, nāparaṃ itthattāyā’’ti pajānāti. Evaṃ puggalo neva attantapo ca hoti na attaparitāpanānuyogamanuyutto, na parantapo na paraparitāpanānuyogamanuyutto. So anattantapo aparantapo diṭṭheva dhamme nicchāto nibbuto sītībhūto sukhappaṭisaṃvedī brahmabhūtena attanā viharati.
๑๘๖. กตโม จ ปุคฺคโล สราโค? ยสฺส ปุคฺคลสฺส ราโค อปฺปหีโน, อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘สราโค’’ฯ
186. Katamo ca puggalo sarāgo? Yassa puggalassa rāgo appahīno, ayaṃ vuccati puggalo ‘‘sarāgo’’.
กตโม จ ปุคฺคโล สโทโส? ยสฺส ปุคฺคลสฺส โทโส อปฺปหีโน, อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘สโทโส’’ฯ
Katamo ca puggalo sadoso? Yassa puggalassa doso appahīno, ayaṃ vuccati puggalo ‘‘sadoso’’.
กตโม จ ปุคฺคโล สโมโห? ยสฺส ปุคฺคลสฺส โมโห อปฺปหีโน, อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘สโมโห’’ฯ
Katamo ca puggalo samoho? Yassa puggalassa moho appahīno, ayaṃ vuccati puggalo ‘‘samoho’’.
กตโม จ ปุคฺคโล สมาโน? ยสฺส ปุคฺคลสฺส มาโน อปฺปหีโน, อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘สมาโน’’ฯ
Katamo ca puggalo samāno? Yassa puggalassa māno appahīno, ayaṃ vuccati puggalo ‘‘samāno’’.
๑๘๗. กถญฺจ ปุคฺคโล ลาภี โหติ อชฺฌตฺตํ เจโตสมถสฺส, น ลาภี อธิปญฺญาธมฺมวิปสฺสนาย? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล ลาภี โหติ รูปสหคตานํ วา อรูปสหคตานํ วา สมาปตฺตีนํ, น ลาภี โลกุตฺตรมคฺคสฺส วา ผลสฺส วาฯ เอวํ ปุคฺคโล ลาภี โหติ อชฺฌตฺตํ เจโตสมถสฺส, น ลาภี อธิปญฺญาธมฺมวิปสฺสนายฯ
187. Kathañca puggalo lābhī hoti ajjhattaṃ cetosamathassa, na lābhī adhipaññādhammavipassanāya? Idhekacco puggalo lābhī hoti rūpasahagatānaṃ vā arūpasahagatānaṃ vā samāpattīnaṃ, na lābhī lokuttaramaggassa vā phalassa vā. Evaṃ puggalo lābhī hoti ajjhattaṃ cetosamathassa, na lābhī adhipaññādhammavipassanāya.
กถญฺจ ปุคฺคโล ลาภี โหติ อธิปญฺญาธมฺมวิปสฺสนาย, น ลาภี อชฺฌตฺตํ เจโตสมถสฺส? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล ลาภี โหติ โลกุตฺตรมคฺคสฺส วา ผลสฺส วา, น ลาภี รูปสหคตานํ วา อรูปสหคตานํ วา สมาปตฺตีนํฯ เอวํ ปุคฺคโล ลาภี โหติ อธิปญฺญาธมฺมวิปสฺสนาย, น ลาภี อชฺฌตฺตํ เจโตสมถสฺสฯ
Kathañca puggalo lābhī hoti adhipaññādhammavipassanāya, na lābhī ajjhattaṃ cetosamathassa? Idhekacco puggalo lābhī hoti lokuttaramaggassa vā phalassa vā, na lābhī rūpasahagatānaṃ vā arūpasahagatānaṃ vā samāpattīnaṃ. Evaṃ puggalo lābhī hoti adhipaññādhammavipassanāya, na lābhī ajjhattaṃ cetosamathassa.
กถญฺจ ปุคฺคโล ลาภี เจว โหติ อชฺฌตฺตํ เจโตสมถสฺส, ลาภี จ อธิปญฺญาธมฺมวิปสฺสนาย? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล ลาภี โหติ รูปสหคตานํ วา อรูปสหคตานํ วา สมาปตฺตีนํ, ลาภี โลกุตฺตรมคฺคสฺส วา ผลสฺส วาฯ เอวํ ปุคฺคโล ลาภี เจว โหติ อชฺฌตฺตํ เจโตสมถสฺส, ลาภี จ อธิปญฺญาธมฺมวิปสฺสนายฯ
Kathañca puggalo lābhī ceva hoti ajjhattaṃ cetosamathassa, lābhī ca adhipaññādhammavipassanāya? Idhekacco puggalo lābhī hoti rūpasahagatānaṃ vā arūpasahagatānaṃ vā samāpattīnaṃ, lābhī lokuttaramaggassa vā phalassa vā. Evaṃ puggalo lābhī ceva hoti ajjhattaṃ cetosamathassa, lābhī ca adhipaññādhammavipassanāya.
กถญฺจ ปุคฺคโล เนว ลาภี โหติ อชฺฌตฺตํ เจโตสมถสฺส, น ลาภี อธิปญฺญาธมฺมวิปสฺสนาย? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล เนว ลาภี โหติ รูปสหคตานํ วา อรูปสหคตานํ วา สมาปตฺตีนํ, น ลาภี โลกุตฺตรมคฺคสฺส วา ผลสฺส วาฯ เอวํ ปุคฺคโล เนว ลาภี โหติ อชฺฌตฺตํ เจโตสมถสฺส, น ลาภี อธิปญฺญาธมฺมวิปสฺสนายฯ
Kathañca puggalo neva lābhī hoti ajjhattaṃ cetosamathassa, na lābhī adhipaññādhammavipassanāya? Idhekacco puggalo neva lābhī hoti rūpasahagatānaṃ vā arūpasahagatānaṃ vā samāpattīnaṃ, na lābhī lokuttaramaggassa vā phalassa vā. Evaṃ puggalo neva lābhī hoti ajjhattaṃ cetosamathassa, na lābhī adhipaññādhammavipassanāya.
๑๘๘. กตโม จ ปุคฺคโล อนุโสตคามี? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล กาเม จ ปฎิเสวติ ปาปญฺจ กมฺมํ กโรติฯ อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘อนุโสตคามี’’ฯ
188. Katamo ca puggalo anusotagāmī? Idhekacco puggalo kāme ca paṭisevati pāpañca kammaṃ karoti. Ayaṃ vuccati puggalo ‘‘anusotagāmī’’.
กตโม จ ปุคฺคโล ปฎิโสตคามี? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล กาเม จ น ปฎิเสวติ ปาปญฺจ กมฺมํ น กโรติฯ โส สหาปิ ทุเกฺขน สหาปิ โทมนเสฺสน อสฺสุมุเขนปิ รุทมาโน ปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ จรติฯ อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘ปฎิโสตคามี’’ฯ
Katamo ca puggalo paṭisotagāmī? Idhekacco puggalo kāme ca na paṭisevati pāpañca kammaṃ na karoti. So sahāpi dukkhena sahāpi domanassena assumukhenapi rudamāno paripuṇṇaṃ parisuddhaṃ brahmacariyaṃ carati. Ayaṃ vuccati puggalo ‘‘paṭisotagāmī’’.
กตโม จ ปุคฺคโล ฐิตโตฺต? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล ปญฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โอปปาติโก โหติ ตตฺถ ปรินิพฺพายี อนาวตฺติธโมฺม ตสฺมา โลกาฯ อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘ฐิตโตฺต’’ฯ
Katamo ca puggalo ṭhitatto? Idhekacco puggalo pañcannaṃ orambhāgiyānaṃ saṃyojanānaṃ parikkhayā opapātiko hoti tattha parinibbāyī anāvattidhammo tasmā lokā. Ayaṃ vuccati puggalo ‘‘ṭhitatto’’.
กตโม จ ปุคฺคโล ติโณฺณ ปารงฺคโต ถเล ติฎฺฐติ พฺราหฺมโณ? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺติํ ปญฺญาวิมุตฺติํ ทิเฎฺฐว ธเมฺม สยํ อภิญฺญา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ติโณฺณ ปารงฺคโต ถเล ติฎฺฐติ พฺราหฺมโณฯ
Katamo ca puggalo tiṇṇo pāraṅgato thale tiṭṭhati brāhmaṇo? Idhekacco puggalo āsavānaṃ khayā anāsavaṃ cetovimuttiṃ paññāvimuttiṃ diṭṭheva dhamme sayaṃ abhiññā sacchikatvā upasampajja viharati. Ayaṃ vuccati puggalo tiṇṇo pāraṅgato thale tiṭṭhati brāhmaṇo.
๑๘๙. กถญฺจ ปุคฺคโล อปฺปสฺสุโต โหติ สุเตน อนุปปโนฺน? อิเธกจฺจสฺส ปุคฺคลสฺส อปฺปกํ สุตํ โหติ สุตฺตํ เคยฺยํ เวยฺยากรณํ คาถํ อุทานํ อิติวุตฺตกํ ชาตกํ อพฺภุตธมฺมํ เวทลฺลํฯ โส ตสฺส อปฺปกสฺส สุตสฺส น อตฺถมญฺญาย ธมฺมมญฺญาย ธมฺมานุธมฺมปฺปฎิปโนฺน 63 โหติฯ เอวํ ปุคฺคโล อปฺปสฺสุโต โหติ สุเตน อนุปปโนฺนฯ
189. Kathañca puggalo appassuto hoti sutena anupapanno? Idhekaccassa puggalassa appakaṃ sutaṃ hoti suttaṃ geyyaṃ veyyākaraṇaṃ gāthaṃ udānaṃ itivuttakaṃ jātakaṃ abbhutadhammaṃ vedallaṃ. So tassa appakassa sutassa na atthamaññāya dhammamaññāya dhammānudhammappaṭipanno 64 hoti. Evaṃ puggalo appassuto hoti sutena anupapanno.
กถญฺจ ปุคฺคโล อปฺปสฺสุโต โหติ สุเตน อุปปโนฺน? อิเธกจฺจสฺส ปุคฺคลสฺส อปฺปกํ สุตํ โหติ สุตฺตํ เคยฺยํ เวยฺยากรณํ คาถํ อุทานํ อิติวุตฺตกํ ชาตกํ อพฺภุตธมฺมํ เวทลฺลํฯ โส ตสฺส อปฺปกสฺส สุตสฺส อตฺถมญฺญาย ธมฺมมญฺญาย ธมฺมานุธมฺมปฺปฎิปโนฺน โหติฯ เอวํ ปุคฺคโล อปฺปสฺสุโต โหติ สุเตน อุปปโนฺนฯ
Kathañca puggalo appassuto hoti sutena upapanno? Idhekaccassa puggalassa appakaṃ sutaṃ hoti suttaṃ geyyaṃ veyyākaraṇaṃ gāthaṃ udānaṃ itivuttakaṃ jātakaṃ abbhutadhammaṃ vedallaṃ. So tassa appakassa sutassa atthamaññāya dhammamaññāya dhammānudhammappaṭipanno hoti. Evaṃ puggalo appassuto hoti sutena upapanno.
กถญฺจ ปุคฺคโล พหุสฺสุโต โหติ สุเตน อนุปปโนฺน? อิเธกจฺจสฺส ปุคฺคลสฺส พหุกํ สุตํ โหติ สุตฺตํ เคยฺยํ เวยฺยากรณํ คาถํ อุทานํ อิติวุตฺตกํ ชาตกํ อพฺภุตธมฺมํ เวทลฺลํฯ โส ตสฺส พหุกสฺส สุตสฺส น อตฺถมญฺญาย ธมฺมมญฺญาย ธมฺมานุธมฺมปฺปฎิปโนฺน โหติฯ เอวํ ปุคฺคโล พหุสฺสุโต โหติ สุเตน อนุปปโนฺนฯ
Kathañca puggalo bahussuto hoti sutena anupapanno? Idhekaccassa puggalassa bahukaṃ sutaṃ hoti suttaṃ geyyaṃ veyyākaraṇaṃ gāthaṃ udānaṃ itivuttakaṃ jātakaṃ abbhutadhammaṃ vedallaṃ. So tassa bahukassa sutassa na atthamaññāya dhammamaññāya dhammānudhammappaṭipanno hoti. Evaṃ puggalo bahussuto hoti sutena anupapanno.
กถญฺจ ปุคฺคโล พหุสฺสุโต โหติ สุเตน อุปปโนฺน? อิเธกจฺจสฺส ปุคฺคลสฺส พหุกํ สุตํ โหติ สุตฺตํ เคยฺยํ เวยฺยากรณํ คาถํ อุทานํ อิติวุตฺตกํ ชาตกํ อพฺภุตธมฺมํ เวทลฺลํฯ โส ตสฺส พหุกสฺส สุตสฺส อตฺถมญฺญาย ธมฺมมญฺญาย ธมฺมานุธมฺมปฺปฎิปโนฺน โหติฯ เอวํ ปุคฺคโล พหุสฺสุโต โหติ สุเตน อุปปโนฺนฯ
Kathañca puggalo bahussuto hoti sutena upapanno? Idhekaccassa puggalassa bahukaṃ sutaṃ hoti suttaṃ geyyaṃ veyyākaraṇaṃ gāthaṃ udānaṃ itivuttakaṃ jātakaṃ abbhutadhammaṃ vedallaṃ. So tassa bahukassa sutassa atthamaññāya dhammamaññāya dhammānudhammappaṭipanno hoti. Evaṃ puggalo bahussuto hoti sutena upapanno.
๑๙๐. กตโม จ ปุคฺคโล สมณมจโล? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล ติณฺณํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โสตาปโนฺน โหติ อวินิปาตธโมฺม นิยโต สโมฺพธิปรายโนฯ อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘สมณมจโล’’ฯ
190. Katamo ca puggalo samaṇamacalo? Idhekacco puggalo tiṇṇaṃ saṃyojanānaṃ parikkhayā sotāpanno hoti avinipātadhammo niyato sambodhiparāyano. Ayaṃ vuccati puggalo ‘‘samaṇamacalo’’.
กตโม จ ปุคฺคโล สมณปทุโม? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล ติณฺณํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา ราคโทสโมหานํ ตนุตฺตา สกทาคามี โหติ, สกิเทว อิมํ โลกํ อาคนฺตฺวา ทุกฺขสฺสนฺตํ กโรติฯ อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘สมณปทุโม’’ฯ
Katamo ca puggalo samaṇapadumo? Idhekacco puggalo tiṇṇaṃ saṃyojanānaṃ parikkhayā rāgadosamohānaṃ tanuttā sakadāgāmī hoti, sakideva imaṃ lokaṃ āgantvā dukkhassantaṃ karoti. Ayaṃ vuccati puggalo ‘‘samaṇapadumo’’.
กตโม จ ปุคฺคโล สมณปุณฺฑรีโก? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล ปญฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โอปปาติโก โหติ ตตฺถ ปรินิพฺพายี อนาวตฺติธโมฺม ตสฺมา โลกาฯ อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘สมณปุณฺฑรีโก’’ฯ
Katamo ca puggalo samaṇapuṇḍarīko? Idhekacco puggalo pañcannaṃ orambhāgiyānaṃ saṃyojanānaṃ parikkhayā opapātiko hoti tattha parinibbāyī anāvattidhammo tasmā lokā. Ayaṃ vuccati puggalo ‘‘samaṇapuṇḍarīko’’.
กตโม จ ปุคฺคโล สมเณสุ สมณสุขุมาโล? อิเธกโจฺจ ปุคฺคโล อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺติํ ปญฺญาวิมุตฺติํ ทิเฎฺฐว ธเมฺม สยํ อภิญฺญา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล ‘‘สมเณสุ สมณสุขุมาโล’’ติฯ
Katamo ca puggalo samaṇesu samaṇasukhumālo? Idhekacco puggalo āsavānaṃ khayā anāsavaṃ cetovimuttiṃ paññāvimuttiṃ diṭṭheva dhamme sayaṃ abhiññā sacchikatvā upasampajja viharati. Ayaṃ vuccati puggalo ‘‘samaṇesu samaṇasukhumālo’’ti.
จตุกฺกนิเทฺทโสฯ
Catukkaniddeso.
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / อภิธมฺมปิฎก (อฎฺฐกถา) • Abhidhammapiṭaka (aṭṭhakathā) / ปญฺจปกรณ-อฎฺฐกถา • Pañcapakaraṇa-aṭṭhakathā / ๔. จตุกฺกนิเทฺทสวณฺณนา • 4. Catukkaniddesavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / อภิธมฺมปิฎก (ฎีกา) • Abhidhammapiṭaka (ṭīkā) / ปญฺจปกรณ-มูลฎีกา • Pañcapakaraṇa-mūlaṭīkā / ๔. จตุกฺกนิเทฺทสวณฺณนา • 4. Catukkaniddesavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / อภิธมฺมปิฎก (ฎีกา) • Abhidhammapiṭaka (ṭīkā) / ปญฺจปกรณ-อนุฎีกา • Pañcapakaraṇa-anuṭīkā / ๔. จตุกฺกนิเทฺทสวณฺณนา • 4. Catukkaniddesavaṇṇanā