Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ปริวาร-อฎฺฐกถา • Parivāra-aṭṭhakathā

    จตุกฺกวารวณฺณนา

    Catukkavāravaṇṇanā

    ๓๒๔. จตุเกฺกสุ สกวาจาย อาปชฺชติ ปรวาจาย วุฎฺฐาตีติ วจีทฺวาริกํ ปทโสธมฺมาทิเภทํ อาปตฺติํ อาปชฺชิตฺวา ติณวตฺถารกสมถฎฺฐานํ คโต ปรสฺส กมฺมวาจาย วุฎฺฐาติ ฯ ปรวาจาย อาปชฺชติ สกวาจาย วุฎฺฐาตีติ ปาปิกาย ทิฎฺฐิยา อปฺปฎินิสฺสเคฺค ปรสฺส กมฺมวาจาย อาปชฺชติ, ปุคฺคลสฺส สนฺติเก เทเสโนฺต สกวาจาย วุฎฺฐาติฯ สกวาจาย อาปชฺชติ สกวาจาย วุฎฺฐาตีติ วจีทฺวาริกํ ปทโสธมฺมาทิเภทํ อาปตฺติํ สกวาจาย อาปชฺชติ, เทเสตฺวา วุฎฺฐหโนฺตปิ สกวาจาย วุฎฺฐาติฯ ปรวาจาย อาปชฺชติ ปรวาจาย วุฎฺฐาตีติ ยาวตติยกํ สงฺฆาทิเสสํ ปรสฺส กมฺมวาจาย อาปชฺชติ, วุฎฺฐหโนฺตปิ ปรสฺส ปริวาสกมฺมวาจาทีหิ วุฎฺฐาติฯ ตโต ปเรสุ กายทฺวาริกํ กาเยน อาปชฺชติ, เทเสโนฺต วาจาย วุฎฺฐาติฯ วจีทฺวาริกํ วาจาย อาปชฺชติ, ติณวตฺถารเก กาเยน วุฎฺฐาติฯ กายทฺวาริกํ กาเยนอาปชฺชติ, ตเมว ติณวตฺถารเก กาเยน วุฎฺฐาติฯ วจีทฺวาริกํ วาจาย อาปชฺชติ, ตเมว เทเสโนฺต วาจาย วุฎฺฐาติฯ สงฺฆิกมญฺจสฺส อตฺตโน ปจฺจตฺถรเณน อนตฺถรโต กายสมฺผุสเน โลมคณนาย อาปชฺชิตพฺพาปตฺติํ สหคารเสยฺยาปตฺติญฺจ ปสุโตฺต อาปชฺชติ, ปพุชฺฌิตฺวา ปน อาปนฺนภาวํ ญตฺวา เทเสโนฺต ปฎิพุโทฺธ วุฎฺฐาติฯ ชคฺคโนฺต อาปชฺชิตฺวา ปน ติณวตฺถารกสมถฎฺฐาเน สยโนฺต ปฎิพุโทฺธ อาปชฺชติ ปสุโตฺต วุฎฺฐาติ นามฯ ปจฺฉิมปททฺวยมฺปิ วุตฺตานุสาเรเนว เวทิตพฺพํฯ

    324. Catukkesu sakavācāya āpajjati paravācāya vuṭṭhātīti vacīdvārikaṃ padasodhammādibhedaṃ āpattiṃ āpajjitvā tiṇavatthārakasamathaṭṭhānaṃ gato parassa kammavācāya vuṭṭhāti . Paravācāya āpajjati sakavācāya vuṭṭhātīti pāpikāya diṭṭhiyā appaṭinissagge parassa kammavācāya āpajjati, puggalassa santike desento sakavācāya vuṭṭhāti. Sakavācāya āpajjati sakavācāya vuṭṭhātīti vacīdvārikaṃ padasodhammādibhedaṃ āpattiṃ sakavācāya āpajjati, desetvā vuṭṭhahantopi sakavācāya vuṭṭhāti. Paravācāya āpajjati paravācāya vuṭṭhātīti yāvatatiyakaṃ saṅghādisesaṃ parassa kammavācāya āpajjati, vuṭṭhahantopi parassa parivāsakammavācādīhi vuṭṭhāti. Tato paresu kāyadvārikaṃ kāyena āpajjati, desento vācāya vuṭṭhāti. Vacīdvārikaṃ vācāya āpajjati, tiṇavatthārake kāyena vuṭṭhāti. Kāyadvārikaṃ kāyenaāpajjati, tameva tiṇavatthārake kāyena vuṭṭhāti. Vacīdvārikaṃ vācāya āpajjati, tameva desento vācāya vuṭṭhāti. Saṅghikamañcassa attano paccattharaṇena anattharato kāyasamphusane lomagaṇanāya āpajjitabbāpattiṃ sahagāraseyyāpattiñca pasutto āpajjati, pabujjhitvā pana āpannabhāvaṃ ñatvā desento paṭibuddho vuṭṭhāti. Jagganto āpajjitvā pana tiṇavatthārakasamathaṭṭhāne sayanto paṭibuddho āpajjati pasutto vuṭṭhāti nāma. Pacchimapadadvayampi vuttānusāreneva veditabbaṃ.

    อจิตฺตกาปตฺติํ อจิตฺตโก อาปชฺชติ นามฯ ปจฺฉา เทเสโนฺต สจิตฺตโก วุฎฺฐาติฯ สจิตฺตกาปตฺติํ สจิตฺตโก อาปชฺชติ นามฯ ติณวตฺถารกฎฺฐาเน สยโนฺต อจิตฺตโก วุฎฺฐาติฯ เสสปททฺวยมฺปิ วุตฺตานุสาเรเนว เวทิตพฺพํฯ โย สภาคํ อาปตฺติํ เทเสติ, อยํ เทสนาปจฺจยา ทุกฺกฎํ อาปชฺชโนฺต ปาจิตฺติยาทีสุ อญฺญตรํ เทเสติ, ตญฺจ เทเสโนฺต ทุกฺกฎํ อาปชฺชติฯ ตํ ปน ทุกฺกฎํ อาปชฺชโนฺต ปาจิตฺติยาทิโต วุฎฺฐาติฯ ปาจิตฺติยาทิโต จ วุฎฺฐหโนฺต ตํ อาปชฺชติฯ อิติ เอกสฺส ปุคฺคลสฺส เอกเมว ปโยคํ สนฺธาย ‘‘อาปตฺติํ อาปชฺชโนฺต เทเสตี’’ติ อิทํ จตุกฺกํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํฯ

    Acittakāpattiṃ acittako āpajjati nāma. Pacchā desento sacittako vuṭṭhāti. Sacittakāpattiṃ sacittako āpajjati nāma. Tiṇavatthārakaṭṭhāne sayanto acittako vuṭṭhāti. Sesapadadvayampi vuttānusāreneva veditabbaṃ. Yo sabhāgaṃ āpattiṃ deseti, ayaṃ desanāpaccayā dukkaṭaṃ āpajjanto pācittiyādīsu aññataraṃ deseti, tañca desento dukkaṭaṃ āpajjati. Taṃ pana dukkaṭaṃ āpajjanto pācittiyādito vuṭṭhāti. Pācittiyādito ca vuṭṭhahanto taṃ āpajjati. Iti ekassa puggalassa ekameva payogaṃ sandhāya ‘‘āpattiṃ āpajjanto desetī’’ti idaṃ catukkaṃ vuttanti veditabbaṃ.

    กมฺมจตุเกฺก ปาปิกาย ทิฎฺฐิยา อปฺปฎินิสฺสคฺคาปตฺติํ กเมฺมน อาปชฺชติ, เทเสโนฺต อกเมฺมน วุฎฺฐาติฯ วิสฺสฎฺฐิอาทิกํ อกเมฺมน อาปชฺชติ, ปริวาสาทินา กเมฺมน วุฎฺฐาติฯ สมนุภาสนํ กเมฺมเนว อาปชฺชติ, กเมฺมน วุฎฺฐาติฯ เสสํ อกเมฺมน อาปชฺชติ, อกเมฺมน วุฎฺฐาติฯ

    Kammacatukke pāpikāya diṭṭhiyā appaṭinissaggāpattiṃ kammena āpajjati, desento akammena vuṭṭhāti. Vissaṭṭhiādikaṃ akammena āpajjati, parivāsādinā kammena vuṭṭhāti. Samanubhāsanaṃ kammeneva āpajjati, kammena vuṭṭhāti. Sesaṃ akammena āpajjati,akammenavuṭṭhāti.

    ปริกฺขารจตุเกฺก ปฐโม สกปริกฺขาโร, ทุติโย สงฺฆิโกว ตติโย เจติยสนฺตโก, จตุโตฺถ คิหิปริกฺขาโรฯ สเจ ปน โส ปตฺตจีวรนวกมฺมเภสชฺชานํ อตฺถาย อาหโฎ โหติ, อวาปุรณํ ทาตุํ อโนฺต ฐปาเปตุญฺจ วฎฺฎติฯ

    Parikkhāracatukke paṭhamo sakaparikkhāro, dutiyo saṅghikova tatiyo cetiyasantako, catuttho gihiparikkhāro. Sace pana so pattacīvaranavakammabhesajjānaṃ atthāya āhaṭo hoti, avāpuraṇaṃ dātuṃ anto ṭhapāpetuñca vaṭṭati.

    สมฺมุขาจตุเกฺก ปาปิกาย ทิฎฺฐิยา อปฺปฎินิสฺสคฺคาปตฺติํ สงฺฆสฺส สมฺมุขา อาปชฺชติ, วุฎฺฐานกาเล ปน สเงฺฆน กิจฺจํ นตฺถีติ ปรมฺมุขา วุฎฺฐาติฯ วิสฺสฎฺฐิอาทิกํ ปรมฺมุขา อาปชฺชติ, สงฺฆสฺส สมฺมุขา วุฎฺฐาติฯ สมนุภาสนํ สงฺฆสฺส สมฺมุขา เอว อาปชฺชติ, สมฺมุขา วุฎฺฐาติฯ เสสํ สมฺปชานมุสาวาทาทิเภทํ ปรมฺมุขาว อาปชฺชติ, ปรมฺมุขาว วุฎฺฐาติฯ อชานนฺตจตุกฺกํ อจิตฺตกจตุกฺกสทิสํฯ

    Sammukhācatukke pāpikāya diṭṭhiyā appaṭinissaggāpattiṃ saṅghassa sammukhā āpajjati, vuṭṭhānakāle pana saṅghena kiccaṃ natthīti parammukhā vuṭṭhāti. Vissaṭṭhiādikaṃ parammukhā āpajjati, saṅghassa sammukhā vuṭṭhāti. Samanubhāsanaṃ saṅghassa sammukhā eva āpajjati, sammukhā vuṭṭhāti. Sesaṃ sampajānamusāvādādibhedaṃ parammukhāva āpajjati, parammukhāva vuṭṭhāti. Ajānantacatukkaṃ acittakacatukkasadisaṃ.

    ลิงฺคปาตุภาเวนาติ สยิตเสฺสว ภิกฺขุสฺส วา ภิกฺขุนิยา วา ลิงฺคปริวเตฺต ชาเต สหคารเสยฺยาปตฺติ โหติ อิทเมว ตํ ปฎิจฺจ วุตฺตํฯ อุภินฺนมฺปิ ปน อสาธารณาปตฺติ ลิงฺคปาตุภาเวน วุฎฺฐาติฯ สหปฎิลาภจตุเกฺก ยสฺส ภิกฺขุโน ลิงฺคํ ปริวตฺตติ, โส สห ลิงฺคปฎิลาเภน ปฐมํ อุปฺปนฺนวเสน เสฎฺฐภาเวน จ ปุริมํ ปุริสลิงฺคํ ชหติ, ปจฺฉิเม อิตฺถิลิเงฺค ปติฎฺฐาติ, ปุริสกุตฺตปุริสาการาทิวเสน ปวตฺตา กายวจีวิญฺญตฺติโย ปฎิปฺปสฺสมฺภนฺติ, ภิกฺขูติ วา ปุริโสติ วา เอวํ ปวตฺตา ปณฺณตฺติโย นิรุชฺฌนฺติ, ยานิ ภิกฺขุนีหิ อสาธารณานิ ฉจตฺตาลีส สิกฺขาปทานิ เตหิ อนาปตฺติเยว โหติฯ ทุติยจตุเกฺก ปน ยสฺสา ภิกฺขุนิยา ลิงฺคํ ปริวตฺตติ, สา ปจฺฉาสมุปฺปตฺติยา วา หีนภาเวน วา ปจฺฉิมนฺติ สงฺขฺยํ คตํ อิตฺถิลิงฺคํ ชหติ, วุตฺตปฺปกาเรน ปุริมนฺติ สงฺขฺยํ คเต ปุริสลิเงฺค ปติฎฺฐาติฯ วุตฺตวิปรีตา วิญฺญตฺติโย ปฎิปฺปสฺสมฺภนฺติ, ภิกฺขุนีติ วา อิตฺถีติ วา เอวํ ปวตฺตา ปณฺณตฺติโยปิ นิรุชฺฌนฺติ, ยานิ ภิกฺขูหิ อสาธารณานิ สตํ ติํสญฺจ สิกฺขาปทานิ, เตหิ อนาปตฺติเยว โหติฯ

    Liṅgapātubhāvenāti sayitasseva bhikkhussa vā bhikkhuniyā vā liṅgaparivatte jāte sahagāraseyyāpatti hoti idameva taṃ paṭicca vuttaṃ. Ubhinnampi pana asādhāraṇāpatti liṅgapātubhāvena vuṭṭhāti. Sahapaṭilābhacatukke yassa bhikkhuno liṅgaṃ parivattati, so saha liṅgapaṭilābhena paṭhamaṃ uppannavasena seṭṭhabhāvena ca purimaṃ purisaliṅgaṃ jahati, pacchime itthiliṅge patiṭṭhāti, purisakuttapurisākārādivasena pavattā kāyavacīviññattiyo paṭippassambhanti, bhikkhūti vā purisoti vā evaṃ pavattā paṇṇattiyo nirujjhanti, yāni bhikkhunīhi asādhāraṇāni chacattālīsa sikkhāpadāni tehi anāpattiyeva hoti. Dutiyacatukke pana yassā bhikkhuniyā liṅgaṃ parivattati, sā pacchāsamuppattiyā vā hīnabhāvena vā pacchimanti saṅkhyaṃ gataṃ itthiliṅgaṃ jahati, vuttappakārena purimanti saṅkhyaṃ gate purisaliṅge patiṭṭhāti. Vuttaviparītā viññattiyo paṭippassambhanti, bhikkhunīti vā itthīti vā evaṃ pavattā paṇṇattiyopi nirujjhanti, yāni bhikkhūhi asādhāraṇāni sataṃ tiṃsañca sikkhāpadāni, tehi anāpattiyeva hoti.

    จตฺตาโร สามุกฺกํสาติ จตฺตาโร มหาปเทสา, เต หิ ภควตา อนุปฺปเนฺน วตฺถุมฺหิ สยํ อุกฺกํสิตฺวา อุกฺขิปิตฺวา ฐปิตตฺตา ‘‘สามุกฺกํสา’’ติ วุจฺจนฺติฯ ปริโภคาติ อโชฺฌหรณียปริโภคา , อุทกํ ปน อกาลิกตฺตา อปฺปฎิคฺคหิตกํ วฎฺฎติฯ ยาวกาลิกาทีนิ อปฺปฎิคฺคหิตกานิ อโชฺฌหริตุํ น วฎฺฎนฺติฯ จตฺตาริ มหาวิกฎานิ กาโลทิสฺสตฺตา ยถาวุเตฺต กาเล วฎฺฎนฺติฯ อุปาสโก สีลวาติ ปญฺจ วา ทส วา สีลานิ โคปยมาโนฯ

    Cattāro sāmukkaṃsāti cattāro mahāpadesā, te hi bhagavatā anuppanne vatthumhi sayaṃ ukkaṃsitvā ukkhipitvā ṭhapitattā ‘‘sāmukkaṃsā’’ti vuccanti. Paribhogāti ajjhoharaṇīyaparibhogā , udakaṃ pana akālikattā appaṭiggahitakaṃ vaṭṭati. Yāvakālikādīni appaṭiggahitakāni ajjhoharituṃ na vaṭṭanti. Cattāri mahāvikaṭāni kālodissattā yathāvutte kāle vaṭṭanti. Upāsako sīlavāti pañca vā dasa vā sīlāni gopayamāno.

    อาคนฺตุกาทิจตุเกฺก สฉตฺตุปาหโน สสีสํ ปารุโต วิหารํ ปวิสโนฺต ตตฺถ วิจรโนฺต จ อาคนฺตุโกว อาปชฺชติ, โน อาวาสิโกฯ อาวาสิกวตฺตํ อกโรโนฺต ปน อาวาสิโก อาปชฺชติ, โน อาคนฺตุโกฯ เสสํ กายวจีทฺวาริกํ อาปตฺติํ อุโภปิ อาปชฺชนฺติ, อสาธารณํ อาปตฺติํ เนว อาคนฺตุโก อาปชฺชติ, โน อาวาสิโกฯ คมิยจตุเกฺกปิ คมิยวตฺตํ อปูเรตฺวา คจฺฉโนฺต คมิโก อาปชฺชติ, โน อาวาสิโกฯ อาวาสิกวตฺตํ อกโรโนฺต ปน อาวาสิโก อาปชฺชติ, โน คมิโกฯ เสสํ อุโภปิ อาปชฺชนฺติ, อสาธารณํ อุโภปิ นาปชฺชนฺติฯ วตฺถุนานตฺตตาทิจตุเกฺก จตุนฺนํ ปาราชิกานํ อญฺญมญฺญํ วตฺถุนานตฺตตาว โหติ,อาปตฺตินานตฺตตาฯ สพฺพาปิ หิ สา ปาราชิกาปตฺติเยวฯ สงฺฆาทิเสสาทีสุปิ เอเสว นโยฯ ภิกฺขุสฺส จ ภิกฺขุนิยา จ อญฺญมญฺญํ กายสํสเคฺค ภิกฺขุสฺส สงฺฆาทิเสโส ภิกฺขุนิยา ปาราชิกนฺติ เอวํ อาปตฺตินานตฺตตาว โหติ, น วตฺถุนานตฺตตา, อุภินฺนมฺปิ หิ กายสํสโคฺคว วตฺถุฯ ตถา ‘‘ลสุณกฺขาทเน ภิกฺขุนิยา ปาจิตฺติยํ, ภิกฺขุสฺส ทุกฺกฎ’’นฺติ เอวมาทินาเปตฺถ นเยน โยชนา เวทิตพฺพาฯ จตุนฺนํ ปาราชิกานํ เตรสหิ สงฺฆาทิเสเสหิ สทฺธิํ วตฺถุนานตฺตตา เจว อาปตฺตินานตฺตตา ฯ เอวํ สงฺฆาทิเสสาทีนํ อนิยตาทีหิฯ อาทิโต ปฎฺฐาย จตฺตาริ ปาราชิกานิ เอกโต อาปชฺชนฺตานํ ภิกฺขุภิกฺขุนีนํ เนว วตฺถุนานตฺตตา โน อาปตฺตินานตฺตตาฯ วิสุํ อาปชฺชเนฺตสุปิ เสสา สาธารณาปตฺติโย อาปชฺชเนฺตสุปิ เอเสว นโยฯ

    Āgantukādicatukke sachattupāhano sasīsaṃ pāruto vihāraṃ pavisanto tattha vicaranto ca āgantukova āpajjati, no āvāsiko. Āvāsikavattaṃ akaronto pana āvāsiko āpajjati, no āgantuko. Sesaṃ kāyavacīdvārikaṃ āpattiṃ ubhopi āpajjanti, asādhāraṇaṃ āpattiṃ neva āgantuko āpajjati, no āvāsiko. Gamiyacatukkepi gamiyavattaṃ apūretvā gacchanto gamiko āpajjati, no āvāsiko. Āvāsikavattaṃ akaronto pana āvāsiko āpajjati, no gamiko. Sesaṃ ubhopi āpajjanti, asādhāraṇaṃ ubhopi nāpajjanti. Vatthunānattatādicatukke catunnaṃ pārājikānaṃ aññamaññaṃ vatthunānattatāva hoti,naāpattinānattatā. Sabbāpi hi sā pārājikāpattiyeva. Saṅghādisesādīsupi eseva nayo. Bhikkhussa ca bhikkhuniyā ca aññamaññaṃ kāyasaṃsagge bhikkhussa saṅghādiseso bhikkhuniyā pārājikanti evaṃ āpattinānattatāva hoti, na vatthunānattatā, ubhinnampi hi kāyasaṃsaggova vatthu. Tathā ‘‘lasuṇakkhādane bhikkhuniyā pācittiyaṃ, bhikkhussa dukkaṭa’’nti evamādināpettha nayena yojanā veditabbā. Catunnaṃ pārājikānaṃ terasahi saṅghādisesehi saddhiṃ vatthunānattatā ceva āpattinānattatāca. Evaṃ saṅghādisesādīnaṃ aniyatādīhi. Ādito paṭṭhāya cattāri pārājikāni ekato āpajjantānaṃ bhikkhubhikkhunīnaṃ neva vatthunānattatā no āpattinānattatā. Visuṃ āpajjantesupi sesā sādhāraṇāpattiyo āpajjantesupi eseva nayo.

    วตฺถุสภาคาทิจตุเกฺก ภิกฺขุสฺส จ ภิกฺขุนิยา จ กายสํสเคฺค วตฺถุสภาคตา, โน อาปตฺติสภาคตา, จตูสุ ปาราชิเกสุ อาปตฺติสภาคตา, โน วตฺถุสภาคตาฯ เอส นโย สงฺฆาทิเสสาทีสุฯ ภิกฺขุสฺส จ ภิกฺขุนิยา จ จตูสุ ปาราชิเกสุ วตฺถุสภาคตา เจว อาปตฺติสภาคตา จฯ เอส นโย สพฺพาสุ สาธารณาปตฺตีสุฯ อสาธารณาปตฺติยํ เนว วตฺถุสภาคตา โน อาปตฺติสภาคตาฯ โย หิ ปุริมจตุเกฺก ปฐโม ปโญฺห, โส อิธ ทุติโย; โย จ ตตฺถ ทุติโย, โส อิธ ปฐโมฯ ตติยจตุเตฺถสุ นานากรณํ นตฺถิฯ

    Vatthusabhāgādicatukke bhikkhussa ca bhikkhuniyā ca kāyasaṃsagge vatthusabhāgatā, no āpattisabhāgatā, catūsu pārājikesu āpattisabhāgatā, no vatthusabhāgatā. Esa nayo saṅghādisesādīsu. Bhikkhussa ca bhikkhuniyā ca catūsu pārājikesu vatthusabhāgatā ceva āpattisabhāgatā ca. Esa nayo sabbāsu sādhāraṇāpattīsu. Asādhāraṇāpattiyaṃ neva vatthusabhāgatā no āpattisabhāgatā. Yo hi purimacatukke paṭhamo pañho, so idha dutiyo; yo ca tattha dutiyo, so idha paṭhamo. Tatiyacatutthesu nānākaraṇaṃ natthi.

    อุปชฺฌายจตุเกฺก สทฺธิวิหาริกสฺส อุปชฺฌาเยน กตฺตพฺพวตฺตสฺส อกรเณ อาปตฺติํ อุปชฺฌาโย อาปชฺชติ, โน สทฺธิวิหาริโก อุปชฺฌายสฺส กตฺตพฺพวตฺตํ อกโรโนฺต สทฺธิวิหาริโก อาปชฺชติ, โน อุปชฺฌาโย; เสสํ อุโภปิ อาปชฺชนฺติ, อสาธารณํ อุโภปิ นาปชฺชนฺติฯ อาจริยจตุเกฺกปิ เอเสว นโยฯ

    Upajjhāyacatukke saddhivihārikassa upajjhāyena kattabbavattassa akaraṇe āpattiṃ upajjhāyoāpajjati, no saddhivihāriko upajjhāyassa kattabbavattaṃ akaronto saddhivihāriko āpajjati, no upajjhāyo; sesaṃ ubhopi āpajjanti, asādhāraṇaṃ ubhopi nāpajjanti. Ācariyacatukkepi eseva nayo.

    อาทิยนฺตจตุเกฺก ปาทํ วา อติเรกปาทํ วา สหตฺถา อาทิยโนฺต ครุกํ อาปชฺชติ, อูนกปาทํ คณฺหาหีติ อาณตฺติยา อญฺญํ ปโยเชโนฺต ลหุกํ อาปชฺชติฯ เอเตน นเยน เสสปทตฺตยํ เวทิตพฺพํฯ

    Ādiyantacatukke pādaṃ vā atirekapādaṃ vā sahatthā ādiyanto garukaṃ āpajjati, ūnakapādaṃ gaṇhāhīti āṇattiyā aññaṃ payojento lahukaṃ āpajjati. Etena nayena sesapadattayaṃ veditabbaṃ.

    อภิวาทนารหจตุเกฺก ภิกฺขุนีนํ ตาว ภตฺตเคฺค นวมภิกฺขุนิโต ปฎฺฐาย อุปชฺฌายาปิ อภิวาทนารหา โน ปจฺจุฎฺฐานารหาฯ อวิเสเสน จ วิปฺปกตโภชนสฺส ภิกฺขุสฺส โย โกจิ วุฑฺฒตโรฯ สฎฺฐิวสฺสสฺสาปิ ปาริวาสิกสฺส สมีปคโต ตทหุปสมฺปโนฺนปิ ปจฺจุฎฺฐานารโห โน อภิวาทนารโหฯ อปฺปฎิกฺขิเตฺตสุ ฐาเนสุ วุโฑฺฒ นวกสฺส อภิวาทนารโห เจว ปจฺจุฎฺฐานารโห จฯ นวโก ปน วุฑฺฒสฺส เนว อภิวาทนารโห น ปจฺจุฎฺฐานารโหฯ อาสนารหจตุกฺกสฺส ปฐมปทํ ปุริมจตุเกฺก ทุติยปเทน, ทุติยปทญฺจ ปฐมปเทน อตฺถโต สทิสํฯ

    Abhivādanārahacatukke bhikkhunīnaṃ tāva bhattagge navamabhikkhunito paṭṭhāya upajjhāyāpi abhivādanārahā no paccuṭṭhānārahā. Avisesena ca vippakatabhojanassa bhikkhussa yo koci vuḍḍhataro. Saṭṭhivassassāpi pārivāsikassa samīpagato tadahupasampannopi paccuṭṭhānāraho no abhivādanāraho. Appaṭikkhittesu ṭhānesu vuḍḍho navakassa abhivādanāraho ceva paccuṭṭhānāraho ca. Navako pana vuḍḍhassa neva abhivādanāraho na paccuṭṭhānāraho. Āsanārahacatukkassa paṭhamapadaṃ purimacatukke dutiyapadena, dutiyapadañca paṭhamapadena atthato sadisaṃ.

    กาลจตุเกฺก ปวาเรตฺวา ภุญฺชโนฺต กาเล อาปชฺชติ โน วิกาเล, วิกาลโภชนาปตฺติํ วิกาเล อาปชฺชติ โน กาเล, เสสํ กาเล เจว อาปชฺชติ วิกาเล จ, อสาธารณํ เนว กาเล โน วิกาเลฯ ปฎิคฺคหิตจตุเกฺก ปุเรภตฺตํ ปฎิคฺคหิตามิสํ กาเล กปฺปติ โน วิกาเลฯ ปานกํ วิกาเล กปฺปติ, ปุนทิวสมฺหิ โน กาเลฯ สตฺตาหกาลิกํ ยาวชีวิกํ กาเล เจว กปฺปติ วิกาเล จฯ อตฺตโน อตฺตโน กาลาตีตํ ยาวกาลิกาทิตฺตยํ อกปฺปิยมํสํ อุคฺคหิตกมปฺปฎิคฺคหิตกญฺจ เนว กาเล กปฺปติ โน วิกาเล

    Kālacatukke pavāretvā bhuñjanto kāle āpajjati no vikāle, vikālabhojanāpattiṃ vikāle āpajjati no kāle, sesaṃ kāle ceva āpajjati vikāle ca, asādhāraṇaṃ neva kāle no vikāle. Paṭiggahitacatukke purebhattaṃ paṭiggahitāmisaṃ kāle kappati no vikāle. Pānakaṃ vikāle kappati, punadivasamhi no kāle. Sattāhakālikaṃ yāvajīvikaṃ kāle ceva kappati vikāle ca. Attano attano kālātītaṃ yāvakālikādittayaṃ akappiyamaṃsaṃ uggahitakamappaṭiggahitakañca neva kāle kappati no vikāle.

    ปจฺจนฺติมจตุเกฺก สมุเทฺท สีมํ พนฺธโนฺต ปจฺจนฺติเมสุ ชนปเทสุ อาปชฺชติ, โน มชฺฌิเมสุ; ปญฺจวเคฺคน คเณน อุปสมฺปาเทโนฺต คุณงฺคุณูปาหนํ ธุวนหานํ จมฺมตฺถรณานิ จ มชฺฌิเมสุ ชนปเทสุ อาปชฺชติ โน ปจฺจนฺติเมสุฯ อิมานิ จตฺตาริ ‘‘อิธ น กปฺปนฺตี’’ติ วทโนฺตปิ ปจฺจนฺติเมสุ อาปชฺชติ, ‘‘อิธ กปฺปนฺตี’’ติ วทโนฺต ปน มชฺฌิเมสุ อาปชฺชติฯ เสสาปตฺติํ อุภยตฺถ อาปชฺชติ, อสาธารณํ น กตฺถจิ อาปชฺชติฯ ทุติยจตุเกฺก ปญฺจวเคฺคน คเณน อุปสมฺปทาทิ จตุพฺพิธมฺปิ วตฺถุ ปจฺจนฺติเมสุ ชนปเทสุ กปฺปติฯ ‘‘อิทํ กปฺปตี’’ติ ทีเปตุมฺปิ ตเตฺถว กปฺปติ โน มชฺฌิเมสุฯ ‘‘อิทํ น กปฺปตี’’ติ ทีเปตุํ ปน มชฺฌิเมสุ ชนปเทสุ กปฺปติ โน ปจฺจนฺติเมสุ ฯ เสสํ ‘‘อนุชานามิ ภิกฺขเว ปญฺจ โลณานี’’ติอาทิ อนุญฺญาตกํ อุภยตฺถ กปฺปติฯ ยํ ปน อกปฺปิยนฺติ ปฎิกฺขิตฺตํ, ตํ อุภยตฺถาปิ น กปฺปติฯ

    Paccantimacatukke samudde sīmaṃ bandhanto paccantimesu janapadesu āpajjati, no majjhimesu; pañcavaggena gaṇena upasampādento guṇaṅguṇūpāhanaṃ dhuvanahānaṃ cammattharaṇāni ca majjhimesu janapadesu āpajjati no paccantimesu. Imāni cattāri ‘‘idha na kappantī’’ti vadantopi paccantimesu āpajjati, ‘‘idha kappantī’’ti vadanto pana majjhimesu āpajjati. Sesāpattiṃ ubhayattha āpajjati, asādhāraṇaṃ na katthaci āpajjati. Dutiyacatukke pañcavaggena gaṇena upasampadādi catubbidhampi vatthu paccantimesu janapadesu kappati. ‘‘Idaṃ kappatī’’ti dīpetumpi tattheva kappati no majjhimesu. ‘‘Idaṃ na kappatī’’ti dīpetuṃ pana majjhimesu janapadesu kappati no paccantimesu. Sesaṃ ‘‘anujānāmi bhikkhave pañca loṇānī’’tiādi anuññātakaṃ ubhayattha kappati. Yaṃ pana akappiyanti paṭikkhittaṃ, taṃ ubhayatthāpi na kappati.

    อโนฺตอาทิจตุเกฺก อนุปขชฺช เสยฺยาทิํ อโนฺต อาปชฺชติ โน พหิ, อโชฺฌกาเส สงฺฆิกมญฺจาทีนิ นิกฺขิปิตฺวา ปกฺกมโนฺต พหิ อาปชฺชติ โน อโนฺต, เสสํ อโนฺต เจว พหิ จ, อสาธารณํ เนว อโนฺต น พหิฯ อโนฺตสีมาทิจตุเกฺก อาคนฺตุโก วตฺตํ อปูเรโนฺต อโนฺตสีมาย อาปชฺชติ, คมิโย พหิสีมาย มุสาวาทาทิํ อโนฺตสีมาย จ พหิสีมาย จ อาปชฺชติ,อสาธารณํ น กตฺถจิฯคามจตุเกฺก อนฺตรฆรปฎิสํยุตฺตํ เสขิยปญฺญตฺติํ คาเม อาปชฺชติ โน อรเญฺญฯ ภิกฺขุนี อรุณํ อุฎฺฐาปยมานา อรเญฺญ อาปชฺชติ โน คาเมฯ มุสาวาทาทิํ คาเม เจว อาปชฺชติ อรเญฺญ จ, อสาธารณํ น กตฺถจิฯ

    Antoādicatukke anupakhajja seyyādiṃ anto āpajjati no bahi, ajjhokāse saṅghikamañcādīni nikkhipitvā pakkamanto bahi āpajjati no anto, sesaṃ anto ceva bahi ca, asādhāraṇaṃ neva anto na bahi. Antosīmādicatukke āgantuko vattaṃ apūrento antosīmāya āpajjati, gamiyo bahisīmāya musāvādādiṃ antosīmāya ca bahisīmāya ca āpajjati,asādhāraṇaṃ na katthaci.Gāmacatukke antaragharapaṭisaṃyuttaṃ sekhiyapaññattiṃ gāme āpajjati no araññe. Bhikkhunī aruṇaṃ uṭṭhāpayamānā araññe āpajjati no gāme. Musāvādādiṃ gāme ceva āpajjati araññe ca, asādhāraṇaṃ na katthaci.

    จตฺตาโร ปุพฺพกิจฺจาติ ‘‘สมฺมชฺชนี ปทีโป จ อุทกํ อาสเนน จา’’ติ อิทํ จตุพฺพิธํ ปุพฺพกรณนฺติ วุจฺจตีติ วุตฺตํฯ ‘‘ฉนฺทปาริสุทฺธิอุตุกฺขานํ ภิกฺขุคณนา จ โอวาโท’’ติ อิเม ปน ‘‘จตฺตาโร ปุพฺพกิจฺจา’’ติ เวทิตพฺพาฯ จตฺตาโร ปตฺตกลฺลาติ อุโปสโถ ยาวติกา จ ภิกฺขู กมฺมปฺปตฺตา เต อาคตา โหนฺติ, สภาคาปตฺติโย น วิชฺชนฺติ, วชฺชนียา จ ปุคฺคลา ตสฺมิํ น โหนฺติ, ปตฺตกลฺลนฺติ วุจฺจตีติฯ จตฺตาริ อนญฺญปาจิตฺติยานีติ ‘‘เอตเทว ปจฺจยํ กริตฺวา อนญฺญํ ปาจิตฺติย’’นฺติ เอวํ วุตฺตานิ อนุปขชฺชเสยฺยากปฺปนสิกฺขาปทํ ‘‘เอหาวุโส คามํ วา นิคมํ วา’’ติ สิกฺขาปทํ, สญฺจิจฺจ กุกฺกุจฺจอุปทหนํ, อุปสฺสุติติฎฺฐนนฺติ อิมานิ จตฺตาริฯ จตโสฺส ภิกฺขุสมฺมุติโยติ ‘‘เอกรตฺตมฺปิ เจ ภิกฺขุ ติจีวเรน วิปฺปวเสยฺย อญฺญตฺร ภิกฺขุสมฺมุติยา, อญฺญํ นวํ สนฺถตํ การาเปยฺย อญฺญตฺร ภิกฺขุสมฺมุติยา, ตโต เจ อุตฺตริ วิปฺปวเสยฺย อญฺญตฺร ภิกฺขุสมฺมุติยา, ทุฎฺฐุลฺลํ อาปตฺติํ อนุปสมฺปนฺนสฺส อาโรเจยฺย อญฺญตฺร ภิกฺขุสมฺมุติยา’’ติ เอวํ อาคตา เตรสหิ สมฺมุตีหิ มุตฺตา สมฺมุติโยฯ คิลานจตุเกฺก อญฺญเภสเชฺชน กรณีเยน โลลตาย อญฺญํ วิญฺญาเปโนฺต คิลาโน อาปชฺชติ, อเภสชฺชกรณีเยน เภสชฺชํ วิญฺญาเปโนฺต อคิลาโน อาปชฺชติ, มุสาวาทาทิํ อุโภปิ อาปชฺชนฺติ, อสาธารณํ อุโภปิ นาปชฺชนฺติฯ เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติฯ

    Cattāropubbakiccāti ‘‘sammajjanī padīpo ca udakaṃ āsanena cā’’ti idaṃ catubbidhaṃ pubbakaraṇanti vuccatīti vuttaṃ. ‘‘Chandapārisuddhiutukkhānaṃ bhikkhugaṇanā ca ovādo’’ti ime pana ‘‘cattāro pubbakiccā’’ti veditabbā. Cattāro pattakallāti uposatho yāvatikā ca bhikkhū kammappattā te āgatā honti, sabhāgāpattiyo na vijjanti, vajjanīyā ca puggalā tasmiṃ na honti, pattakallanti vuccatīti. Cattāri anaññapācittiyānīti ‘‘etadeva paccayaṃ karitvā anaññaṃ pācittiya’’nti evaṃ vuttāni anupakhajjaseyyākappanasikkhāpadaṃ ‘‘ehāvuso gāmaṃ vā nigamaṃ vā’’ti sikkhāpadaṃ, sañcicca kukkuccaupadahanaṃ, upassutitiṭṭhananti imāni cattāri. Catasso bhikkhusammutiyoti ‘‘ekarattampi ce bhikkhu ticīvarena vippavaseyya aññatra bhikkhusammutiyā, aññaṃ navaṃ santhataṃ kārāpeyya aññatra bhikkhusammutiyā, tato ce uttari vippavaseyya aññatra bhikkhusammutiyā, duṭṭhullaṃ āpattiṃ anupasampannassa āroceyya aññatra bhikkhusammutiyā’’ti evaṃ āgatā terasahi sammutīhi muttā sammutiyo. Gilānacatukke aññabhesajjena karaṇīyena lolatāya aññaṃ viññāpento gilāno āpajjati, abhesajjakaraṇīyena bhesajjaṃ viññāpento agilāno āpajjati, musāvādādiṃ ubhopi āpajjanti, asādhāraṇaṃ ubhopi nāpajjanti. Sesaṃ sabbattha uttānamevāti.

    จตุกฺกวารวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Catukkavāravaṇṇanā niṭṭhitā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / วินยปิฎก • Vinayapiṭaka / ปริวารปาฬิ • Parivārapāḷi / ๔. จตุกฺกวาโร • 4. Catukkavāro

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā / จตุกฺกวารวณฺณนา • Catukkavāravaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā / จตุกฺกวารวณฺณนา • Catukkavāravaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā / จตุกฺกวารวณฺณนา • Catukkavāravaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / ปาจิตฺยาทิโยชนาปาฬิ • Pācityādiyojanāpāḷi / เอกุตฺตริกนโย จตุกฺกวารวณฺณนา • Ekuttarikanayo catukkavāravaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact