Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ธมฺมสงฺคณิ-อฎฺฐกถา • Dhammasaṅgaṇi-aṭṭhakathā

    จตุมคฺคนยสหสฺสํ

    Catumagganayasahassaṃ

    สพฺพมเคฺคสุ ปทปฎิปาฎิยา สมสฎฺฐิปทานิ, จตูหิ อปณฺณกเงฺคหิ สทฺธิํ จตุสฎฺฐิ โหนฺติฯ อสมฺภินฺนโต ปน เตตฺติํสฯ โกฎฺฐาสวารสุญฺญตวารา ปากติกา เอวฯ ยถา จ ปน ปฐมมเคฺค เอวํ ทุติยาทีสุปิ นยสหสฺสเมวาติ จตฺตาโร มเคฺค จตูหิ นยสหเสฺสหิ ภาเชตฺวา ทเสฺสสิ ธมฺมราชาฯ

    Sabbamaggesu padapaṭipāṭiyā samasaṭṭhipadāni, catūhi apaṇṇakaṅgehi saddhiṃ catusaṭṭhi honti. Asambhinnato pana tettiṃsa. Koṭṭhāsavārasuññatavārā pākatikā eva. Yathā ca pana paṭhamamagge evaṃ dutiyādīsupi nayasahassamevāti cattāro magge catūhi nayasahassehi bhājetvā dassesi dhammarājā.

    สจฺจวิภเงฺค ปน สฎฺฐิ นยสหสฺสานิ โลกุตฺตรานิ อิเมสํ เอว วเสน นิกฺขิตฺตานิฯ สติปฎฺฐานวิภเงฺค วีสติ นยสหสฺสานิ โลกุตฺตรานิ, สมฺมปฺปธานวิภเงฺค วีสติ, อิทฺธิปาทวิภเงฺค ทฺวตฺติํส, โพชฺฌงฺควิภเงฺค ทฺวตฺติํส, มคฺคงฺควิภเงฺค อฎฺฐวีสติ นยสหสฺสานิ โลกุตฺตรานิ อิเมสํ เอว วเสน นิกฺขิตฺตานิฯ

    Saccavibhaṅge pana saṭṭhi nayasahassāni lokuttarāni imesaṃ eva vasena nikkhittāni. Satipaṭṭhānavibhaṅge vīsati nayasahassāni lokuttarāni, sammappadhānavibhaṅge vīsati, iddhipādavibhaṅge dvattiṃsa, bojjhaṅgavibhaṅge dvattiṃsa, maggaṅgavibhaṅge aṭṭhavīsati nayasahassāni lokuttarāni imesaṃ eva vasena nikkhittāni.

    อิธ ปน จตูสุ มเคฺคสุ จตฺตาริเยว นยสหสฺสานิฯ เตสุ ปฐมชฺฌานิเก ปฐมมเคฺค อฎฺฐงฺคานิ ภาชิตานิ; ตถา ทุติยาทีสุฯ ตตฺถ ปฐมมเคฺค สมฺมาทิฎฺฐิ มิจฺฉาทิฎฺฐิํ ปชหตีติ สมฺมาทิฎฺฐิฯ สมฺมาสงฺกปฺปาทโยปิ มิจฺฉาสงฺกปฺปาทีนํ ปชหนเฎฺฐเนว เวทิตพฺพาฯ เอวํ สเนฺต ‘ปฐมมเคฺคเนว ทฺวาสฎฺฐิยา ทิฎฺฐิคตานํ ปหีนตฺตา อุปริมคฺคตฺตเยน ปหาตพฺพา ทิฎฺฐิ นาม นตฺถิฯ ตตฺถ สมฺมาทิฎฺฐีติ นามํ กถํ โหตี’ติ? ‘ยถา วิสํ อตฺถิ วา, โหตุ มา วา, อคโท อคโท เตฺวว วุจฺจติ, เอวํ มิจฺฉาทิฎฺฐิ อตฺถิ วา, โหตุ มา วา, อยํ สมฺมาทิฎฺฐิ เอว นาม’ฯ

    Idha pana catūsu maggesu cattāriyeva nayasahassāni. Tesu paṭhamajjhānike paṭhamamagge aṭṭhaṅgāni bhājitāni; tathā dutiyādīsu. Tattha paṭhamamagge sammādiṭṭhi micchādiṭṭhiṃ pajahatīti sammādiṭṭhi. Sammāsaṅkappādayopi micchāsaṅkappādīnaṃ pajahanaṭṭheneva veditabbā. Evaṃ sante ‘paṭhamamaggeneva dvāsaṭṭhiyā diṭṭhigatānaṃ pahīnattā uparimaggattayena pahātabbā diṭṭhi nāma natthi. Tattha sammādiṭṭhīti nāmaṃ kathaṃ hotī’ti? ‘Yathā visaṃ atthi vā, hotu mā vā, agado agado tveva vuccati, evaṃ micchādiṭṭhi atthi vā, hotu mā vā, ayaṃ sammādiṭṭhi eva nāma’.

    ‘ยทิ เอวํ นามมตฺตเมเวตํ โหติ, อุปริมคฺคตฺตเย ปน สมฺมาทิฎฺฐิยา กิจฺจาภาโว อาปชฺชติ, มคฺคงฺคานิ น ปริปูเรนฺติ, ตสฺมา สมฺมาทิฎฺฐิ สกิจฺจกา กาตพฺพา มคฺคงฺคานิ ปูเรตพฺพานี’ติฯ สกิจฺจกา เจตฺถ สมฺมาทิฎฺฐิ ยถาลาภนิยเมน ทีเปตพฺพาฯ อุปริมคฺคตฺตยวโชฺฌ หิ เอโก มาโน อตฺถิ, โส ทิฎฺฐิฎฺฐาเน ติฎฺฐติฯ สา ตํ มานํ ปชหตีติ สมฺมาทิฎฺฐิฯ โสตาปตฺติมคฺคสฺมิญฺหิ สมฺมาทิฎฺฐิ มิจฺฉาทิฎฺฐิํ ปชหติฯ โสตาปนฺนสฺส ปน สกทาคามิมคฺควโชฺฌ มาโน อตฺถิ, โส ทิฎฺฐิฎฺฐาเน ติฎฺฐติ สา ตํ มานํ ปชหตีติ สมฺมาทิฎฺฐิฯ ตเสฺสว สตฺตอกุสลจิตฺตสหชาโต สงฺกโปฺป อตฺถิฯ เตเหว จิเตฺตหิ วาจงฺคโจปนํ อตฺถิ, กายงฺคโจปนํ อตฺถิ , ปจฺจยปริโภโค อตฺถิ, สหชาตวายาโม อตฺถิ, อสติภาโว อตฺถิ, สหชาตจิเตฺตกคฺคตา อตฺถิฯ เอเต มิจฺฉาสงฺกปฺปาทโย นาม สกทาคามิมเคฺค สมฺมาสงฺกปฺปาทโยฯ เตสํ ปหาเนน สมฺมาสงฺกปฺปาทโยติ เวทิตพฺพาฯ เอวํ สกทาคามิมเคฺค อฎฺฐงฺคานิ สกิจฺจกานิ กตฺวา อาคตานิฯ สกทาคามิสฺส อนาคามิมคฺควโชฺฌ มาโน อตฺถิฯ โส ทิฎฺฐิฎฺฐาเน ติฎฺฐติฯ ตเสฺสว สตฺตหิ จิเตฺตหิ สหชาตา สงฺกปฺปาทโยฯ เตสํ ปหาเนน อนาคามิมเคฺค อฎฺฐนฺนํ องฺคานํ สกิจฺจกตา เวทิตพฺพาฯ อนาคามิสฺส อรหตฺตมคฺควโชฺฌ มาโน อตฺถิฯ โส ทิฎฺฐิฎฺฐาเน ติฎฺฐติฯ ยานิ ปนสฺส ปญฺจ อกุสลจิตฺตานิ, เตหิ สหชาตา สงฺกปฺปาทโยฯ เตสํ ปหาเนน อรหตฺตมเคฺค อฎฺฐนฺนํ องฺคานํ สกิจฺจกตา เวทิตพฺพาฯ

    ‘Yadi evaṃ nāmamattamevetaṃ hoti, uparimaggattaye pana sammādiṭṭhiyā kiccābhāvo āpajjati, maggaṅgāni na paripūrenti, tasmā sammādiṭṭhi sakiccakā kātabbā maggaṅgāni pūretabbānī’ti. Sakiccakā cettha sammādiṭṭhi yathālābhaniyamena dīpetabbā. Uparimaggattayavajjho hi eko māno atthi, so diṭṭhiṭṭhāne tiṭṭhati. Sā taṃ mānaṃ pajahatīti sammādiṭṭhi. Sotāpattimaggasmiñhi sammādiṭṭhi micchādiṭṭhiṃ pajahati. Sotāpannassa pana sakadāgāmimaggavajjho māno atthi, so diṭṭhiṭṭhāne tiṭṭhati sā taṃ mānaṃ pajahatīti sammādiṭṭhi. Tasseva sattaakusalacittasahajāto saṅkappo atthi. Teheva cittehi vācaṅgacopanaṃ atthi, kāyaṅgacopanaṃ atthi , paccayaparibhogo atthi, sahajātavāyāmo atthi, asatibhāvo atthi, sahajātacittekaggatā atthi. Ete micchāsaṅkappādayo nāma sakadāgāmimagge sammāsaṅkappādayo. Tesaṃ pahānena sammāsaṅkappādayoti veditabbā. Evaṃ sakadāgāmimagge aṭṭhaṅgāni sakiccakāni katvā āgatāni. Sakadāgāmissa anāgāmimaggavajjho māno atthi. So diṭṭhiṭṭhāne tiṭṭhati. Tasseva sattahi cittehi sahajātā saṅkappādayo. Tesaṃ pahānena anāgāmimagge aṭṭhannaṃ aṅgānaṃ sakiccakatā veditabbā. Anāgāmissa arahattamaggavajjho māno atthi. So diṭṭhiṭṭhāne tiṭṭhati. Yāni panassa pañca akusalacittāni, tehi sahajātā saṅkappādayo. Tesaṃ pahānena arahattamagge aṭṭhannaṃ aṅgānaṃ sakiccakatā veditabbā.

    อิเมสุ จตูสุ มเคฺคสุ ปฐมมเคฺคน จตฺตาริ สจฺจานิ ทิฎฺฐานิฯ ‘อุปริมคฺคตฺตยํ ทิฎฺฐกเมว ปสฺสติ, อทิฎฺฐกํ ปสฺสตี’ติ ทิฎฺฐกเมว ปสฺสตีติ อยํ อาจริยานํ สมานตฺถกถาฯ วิตณฺฑวาที ปนาห ‘อทิฎฺฐํ ปสฺสตี’ติฯ โส วตฺตโพฺพ – ‘ปฐมมเคฺค กตมํ อินฺทฺริยํ ภาเชสี’ติ? ชานมาโน ‘อนญฺญาตญฺญสฺสามีตินฺทฺริย’นฺติ วกฺขติฯ ‘อุปริมเคฺคสุ กตร’นฺติ? วุเตฺตปิ ‘อญฺญินฺทฺริย’นฺติ วกฺขติฯ โส วตฺตโพฺพ – ‘อทิฎฺฐสจฺจทสฺสเน สติ อุปริมเคฺคสุปิ อนญฺญาตญฺญสฺสามีตินฺทฺริยเมว ภาเชหิฯ เอวํ เต ปโญฺห สเมสฺสตี’ติฯ ‘กิเลเส ปน อเญฺญ อโญฺญ ปชหติ; ปหีเน เอว ปชหตี’ติ? ‘อเญฺญ อโญฺญ ปชหตี’ติฯ ‘ยทิ อเญฺญ อโญฺญ, อปฺปหีเน กิเลเส ปชหติฯ สจฺจานิปิ อทิฎฺฐาเนว ปสฺสตี’ติ เอวํวาที ปุคฺคโล ปุจฺฉิตโพฺพ – ‘สจฺจานิ นาม กตี’ติ? ชานโนฺต ‘จตฺตารี’ติ วกฺขติฯ โส วตฺตโพฺพ – ‘ตว วาเท โสฬส สจฺจานิ อาปชฺชนฺติฯ ตฺวํ พุเทฺธหิปิ อทิฎฺฐํ ปสฺสสิฯ พหุสจฺจโก นาม ตฺวํฯ เอวํ มา คณฺหฯ สจฺจทสฺสนํ นาม อปุพฺพํ นตฺถิ, กิเลเส ปน อปฺปหีเน ปชหตี’ติฯ

    Imesu catūsu maggesu paṭhamamaggena cattāri saccāni diṭṭhāni. ‘Uparimaggattayaṃ diṭṭhakameva passati, adiṭṭhakaṃ passatī’ti diṭṭhakameva passatīti ayaṃ ācariyānaṃ samānatthakathā. Vitaṇḍavādī panāha ‘adiṭṭhaṃ passatī’ti. So vattabbo – ‘paṭhamamagge katamaṃ indriyaṃ bhājesī’ti? Jānamāno ‘anaññātaññassāmītindriya’nti vakkhati. ‘Uparimaggesu katara’nti? Vuttepi ‘aññindriya’nti vakkhati. So vattabbo – ‘adiṭṭhasaccadassane sati uparimaggesupi anaññātaññassāmītindriyameva bhājehi. Evaṃ te pañho samessatī’ti. ‘Kilese pana aññe añño pajahati; pahīne eva pajahatī’ti? ‘Aññe añño pajahatī’ti. ‘Yadi aññe añño, appahīne kilese pajahati. Saccānipi adiṭṭhāneva passatī’ti evaṃvādī puggalo pucchitabbo – ‘saccāni nāma katī’ti? Jānanto ‘cattārī’ti vakkhati. So vattabbo – ‘tava vāde soḷasa saccāni āpajjanti. Tvaṃ buddhehipi adiṭṭhaṃ passasi. Bahusaccako nāma tvaṃ. Evaṃ mā gaṇha. Saccadassanaṃ nāma apubbaṃ natthi, kilese pana appahīne pajahatī’ti.

    ตตฺถ สจฺจทสฺสนสฺส อปุพฺพาภาเว เปโฬปมํ นาม คหิตํ – เอกสฺส กิร จตฺตาโร รตนเปฬา สารคเพฺภ ฐปิตาฯ โส รตฺติภาเค เปฬาสุ อุปฺปนฺนกิโจฺจ ทฺวารํ วิวริตฺวา, ทีปํ ชาเลตฺวา, ทีเปน วิหเต อนฺธกาเร, เปฬาสุ ปากฎภาวํ คตาสุ, ตาสุ กิจฺจํ กตฺวา ทฺวารํ ปิทหิตฺวา คโตฯ ปุน อนฺธการํ อวตฺถริฯ ทุติยวาเรปิ ตติยวาเรปิ ตเถว อกาสิฯ จตุตฺถวาเร ทฺวาเร วิวเฎ อนฺธกาเร เปฬา น ปญฺญายนฺตีติ วีมํสนฺตเสฺสว สูริโย อุคฺคญฺฉิ, สูริโยภาเสน วิหเต อนฺธกาเร เปฬาสุ กิจฺจํ กตฺวา ปกฺกามิฯ

    Tattha saccadassanassa apubbābhāve peḷopamaṃ nāma gahitaṃ – ekassa kira cattāro ratanapeḷā sāragabbhe ṭhapitā. So rattibhāge peḷāsu uppannakicco dvāraṃ vivaritvā, dīpaṃ jāletvā, dīpena vihate andhakāre, peḷāsu pākaṭabhāvaṃ gatāsu, tāsu kiccaṃ katvā dvāraṃ pidahitvā gato. Puna andhakāraṃ avatthari. Dutiyavārepi tatiyavārepi tatheva akāsi. Catutthavāre dvāre vivaṭe andhakāre peḷā na paññāyantīti vīmaṃsantasseva sūriyo uggañchi, sūriyobhāsena vihate andhakāre peḷāsu kiccaṃ katvā pakkāmi.

    ตตฺถ จตฺตาโร เปฬา วิย จตฺตาริ สจฺจานิฯ ตาสุ กิเจฺจ อุปฺปเนฺน ทฺวารวิวรณกาโล วิย โสตาปตฺติมคฺคสฺส วิปสฺสนาภินีหรณกาโลฯ อนฺธการํ วิย สจฺจปฎิจฺฉาทกตมํฯ ทีโป ภาโส วิย โสตาปตฺติมโคฺคภาโสฯ วิหเต อนฺธกาเร ตสฺส ปุริสสฺส เปฬานํ ปากฎภาโว วิย มคฺคญาณสฺส สจฺจานํ ปากฎภาโวฯ มคฺคญาณสฺส ปากฎานิ ปน มคฺคสมงฺคิสฺส ปุคฺคลสฺส ปากฎาเนว โหนฺติฯ เปฬาสุ กิจฺจํ กตฺวา คตกาโล วิย โสตาปตฺติมคฺคสฺส อตฺตนา ปหาตพฺพกิเลเส ปชหิตฺวา นิรุทฺธกาโลฯ ปุน อนฺธการาวตฺถรณํ วิย อุปริมคฺคตฺตยวชฺฌสจฺจปฎิจฺฉาทกตมํฯ

    Tattha cattāro peḷā viya cattāri saccāni. Tāsu kicce uppanne dvāravivaraṇakālo viya sotāpattimaggassa vipassanābhinīharaṇakālo. Andhakāraṃ viya saccapaṭicchādakatamaṃ. Dīpo bhāso viya sotāpattimaggobhāso. Vihate andhakāre tassa purisassa peḷānaṃ pākaṭabhāvo viya maggañāṇassa saccānaṃ pākaṭabhāvo. Maggañāṇassa pākaṭāni pana maggasamaṅgissa puggalassa pākaṭāneva honti. Peḷāsu kiccaṃ katvā gatakālo viya sotāpattimaggassa attanā pahātabbakilese pajahitvā niruddhakālo. Puna andhakārāvattharaṇaṃ viya uparimaggattayavajjhasaccapaṭicchādakatamaṃ.

    ทุติยวาเร ทฺวารวิวรณกาโล วิย สกทาคามิมคฺคสฺส วิปสฺสนาภินีหรณกาโลฯ ทีโปภาโส วิย สกทาคามิมโคฺคภาโสฯ เปฬาสุ กิจฺจํ กตฺวา คตกาโล วิย สกทาคามิมคฺคสฺส อตฺตนา ปหาตพฺพกิเลเส ปชหิตฺวา นิรุทฺธกาโลฯ ปุน อนฺธการาวตฺถรณํ วิย อุปริมคฺคทฺวยวชฺฌสจฺจปฎิจฺฉาทกตมํฯ

    Dutiyavāre dvāravivaraṇakālo viya sakadāgāmimaggassa vipassanābhinīharaṇakālo. Dīpobhāso viya sakadāgāmimaggobhāso. Peḷāsu kiccaṃ katvā gatakālo viya sakadāgāmimaggassa attanā pahātabbakilese pajahitvā niruddhakālo. Puna andhakārāvattharaṇaṃ viya uparimaggadvayavajjhasaccapaṭicchādakatamaṃ.

    ตติยวาเร ทฺวารวิวรณกาโล วิย อนาคามิมคฺคสฺส วิปสฺสนาภินีหรณกาโลฯ ทีโปภาโส วิย อนาคามิมโคฺคภาโสฯ เปฬาสุ กิจฺจํ กตฺวา คตกาโล วิย อนาคามิมคฺคสฺส อตฺตนา ปหาตพฺพกิเลเส ปชหิตฺวา นิรุทฺธกาโลฯ ปุน อนฺธการาวตฺถรณํ วิย อุปริอรหตฺตมคฺควชฺฌสจฺจปฎิจฺฉาทกตมํฯ

    Tatiyavāre dvāravivaraṇakālo viya anāgāmimaggassa vipassanābhinīharaṇakālo. Dīpobhāso viya anāgāmimaggobhāso. Peḷāsu kiccaṃ katvā gatakālo viya anāgāmimaggassa attanā pahātabbakilese pajahitvā niruddhakālo. Puna andhakārāvattharaṇaṃ viya upariarahattamaggavajjhasaccapaṭicchādakatamaṃ.

    จตุตฺถวาเร ทฺวารวิวรณกาโล วิย อรหตฺตมคฺคสฺส วิปสฺสนาภินีหรณกาโลฯ สูริยุคฺคมนํ วิย อรหตฺตมคฺคุปฺปาโทฯ อนฺธการวิธมนํ วิย อรหตฺตมคฺคสฺส สจฺจปฎิจฺฉาทกตมวิโนทนํ ฯ วิหเต อนฺธกาเร ตสฺส เปฬานํ ปากฎภาโว วิย อรหตฺตมคฺคญาณสฺส จตุนฺนํ สจฺจานํ ปากฎภาโวฯ ญาณสฺส ปากฎานิ ปน ปุคฺคลสฺส ปากฎาเนว โหนฺติฯ เปฬาสุ กิจฺจํ กตฺวา คตกาโล วิย อรหตฺตมคฺคสฺส สพฺพกิเลสเขปนํฯ สูริยุคฺคมนโต ปฎฺฐาย อาโลกเสฺสว ปวตฺติกาโล วิย อรหตฺตมคฺคสฺส อุปฺปนฺนกาลโต ปฎฺฐาย ปุน สจฺจปฎิจฺฉาทกตมาภาโว ฯ อิทํ ตาว สจฺจทสฺสนสฺส อปุพฺพาภาเว โอปมฺมํฯ

    Catutthavāre dvāravivaraṇakālo viya arahattamaggassa vipassanābhinīharaṇakālo. Sūriyuggamanaṃ viya arahattamagguppādo. Andhakāravidhamanaṃ viya arahattamaggassa saccapaṭicchādakatamavinodanaṃ . Vihate andhakāre tassa peḷānaṃ pākaṭabhāvo viya arahattamaggañāṇassa catunnaṃ saccānaṃ pākaṭabhāvo. Ñāṇassa pākaṭāni pana puggalassa pākaṭāneva honti. Peḷāsu kiccaṃ katvā gatakālo viya arahattamaggassa sabbakilesakhepanaṃ. Sūriyuggamanato paṭṭhāya ālokasseva pavattikālo viya arahattamaggassa uppannakālato paṭṭhāya puna saccapaṭicchādakatamābhāvo . Idaṃ tāva saccadassanassa apubbābhāve opammaṃ.

    ทิฎฺฐกเมว หิ ปสฺสติฯ ‘กิเลเส ปน อเญฺญ อโญฺญ ปชหตี’ติ เอตฺถ ขาโรปมํ นาม คหิตํฯ เอโก ปุริโส กิลิฎฺฐํ วตฺถํ รชกสฺส อทาสิฯ รชโก อูสขารํ ฉาริกขารํ โคมยขารนฺติ ตโย ขาเร ทตฺวา ขาเรหิ ขาทิตภาวํ ญตฺวา อุทเก วิกฺขาเลตฺวา โอฬาริโกฬาริกํ มลํ ปวาเหสิฯ ตโต น ตาว ปริสุทฺธนฺติ ทุติยมฺปิ ตเถว ขาเร ทตฺวา, อุทเก วิกฺขาเลตฺวา, ตโต นาติสณฺหตรํ มลํ ปวาเหสิฯ ตโต น ตาว ปริสุทฺธนฺติ ตติยมฺปิ เต ขาเร ทตฺวา อุทเก วิกฺขาเลตฺวา ตโต สณฺหตรํ มลํ ปวาเหสิฯ ตโต น ตาว ปริสุทฺธนฺติ จตุตฺถมฺปิ เต ขาเร ทตฺวา, อุทเก วิกฺขาเลตฺวา อํสุอพฺภนฺตรคตมฺปิ นิเสฺสสํ มลํ ปวาเหตฺวา สามิกสฺส อทาสิฯ โส คนฺธกรณฺฑเก ปกฺขิปิตฺวา อิจฺฉิติจฺฉิตกาเล ปริทหติฯ

    Diṭṭhakameva hi passati. ‘Kilese pana aññe añño pajahatī’ti ettha khāropamaṃ nāma gahitaṃ. Eko puriso kiliṭṭhaṃ vatthaṃ rajakassa adāsi. Rajako ūsakhāraṃ chārikakhāraṃ gomayakhāranti tayo khāre datvā khārehi khāditabhāvaṃ ñatvā udake vikkhāletvā oḷārikoḷārikaṃ malaṃ pavāhesi. Tato na tāva parisuddhanti dutiyampi tatheva khāre datvā, udake vikkhāletvā, tato nātisaṇhataraṃ malaṃ pavāhesi. Tato na tāva parisuddhanti tatiyampi te khāre datvā udake vikkhāletvā tato saṇhataraṃ malaṃ pavāhesi. Tato na tāva parisuddhanti catutthampi te khāre datvā, udake vikkhāletvā aṃsuabbhantaragatampi nissesaṃ malaṃ pavāhetvā sāmikassa adāsi. So gandhakaraṇḍake pakkhipitvā icchiticchitakāle paridahati.

    ตตฺถ กิลิฎฺฐวตฺถํ วิย กิเลสานุคตํ จิตฺตํฯ ติวิธขารทานกาโล วิย ตีสุ อนุปสฺสนาสุ กมฺมสฺส ปวตฺตนกาโลฯ อุทเก วิกฺขาเลตฺวา โอฬาริโกฬาริกมลปฺปวาหนํ วิย โสตาปตฺติมเคฺคน ปญฺจกิเลสเขปนํฯ ทุติยมฺปิ เตสํ ขารานํ อนุปฺปทานํ วิย ‘น ตาว ปริสุทฺธํ อิทํ จิตฺต’นฺติ ตาสุเยว ตีสุ อนุปสฺสนาสุ กมฺมปฺปวตฺตนํฯ ตโต นาติสณฺหตรมลปฺปวาหนํ วิย สกทาคามิมเคฺคน โอฬาริกสํโยชนทฺวยเขปนํฯ ตโต ‘น ตาว ปริสุทฺธํ วตฺถ’นฺติ ปุน ขารตฺตยทานํ วิย ‘น ตาว ปริสุทฺธํ อิทํ จิตฺต’นฺติ ตาสุเยว ตีสุ อนุปสฺสนาสุ กมฺมปฺปวตฺตนํฯ ตโต สณฺหตรมลปฺปวาหนํ วิย อนาคามิมเคฺคน อณุสหคตสํโยชนทฺวยเขปนํฯ ‘น ตาว ปริสุทฺธํ วตฺถ’นฺติ ปุน ขารตฺตยทานํ วิย ‘น ตาว ปริสุทฺธํ อิทํ จิตฺต’นฺติ ตาสุเยว ตีสุ อนุปสฺสนาสุ กมฺมปฺปวตฺตนํฯ ตโต วิกฺขาลเนน อํสุอพฺภนฺตรคเต มเล ปวาเหตฺวา ปริสุทฺธสฺส รชตปฎฺฎสทิสสฺส คนฺธกรณฺฑเก นิกฺขิตฺตสฺส วตฺถสฺส อิจฺฉิติจฺฉิตกฺขเณ ปริทหนํ วิย อรหตฺตมเคฺคน อฎฺฐนฺนํ กิเลสานํ เขปิตตฺตา ปริสุทฺธสฺส ขีณาสวจิตฺตสฺส อิจฺฉิติจฺฉิตกฺขเณ ผลสมาปตฺติวิหาเรน วีตินามนํฯ อิทํ ‘อเญฺญ อโญฺญ กิเลเส ปชหตี’ติ เอตฺถ โอปมฺมํฯ วุตฺตมฺปิ เจตํ –

    Tattha kiliṭṭhavatthaṃ viya kilesānugataṃ cittaṃ. Tividhakhāradānakālo viya tīsu anupassanāsu kammassa pavattanakālo. Udake vikkhāletvā oḷārikoḷārikamalappavāhanaṃ viya sotāpattimaggena pañcakilesakhepanaṃ. Dutiyampi tesaṃ khārānaṃ anuppadānaṃ viya ‘na tāva parisuddhaṃ idaṃ citta’nti tāsuyeva tīsu anupassanāsu kammappavattanaṃ. Tato nātisaṇhataramalappavāhanaṃ viya sakadāgāmimaggena oḷārikasaṃyojanadvayakhepanaṃ. Tato ‘na tāva parisuddhaṃ vattha’nti puna khārattayadānaṃ viya ‘na tāva parisuddhaṃ idaṃ citta’nti tāsuyeva tīsu anupassanāsu kammappavattanaṃ. Tato saṇhataramalappavāhanaṃ viya anāgāmimaggena aṇusahagatasaṃyojanadvayakhepanaṃ. ‘Na tāva parisuddhaṃ vattha’nti puna khārattayadānaṃ viya ‘na tāva parisuddhaṃ idaṃ citta’nti tāsuyeva tīsu anupassanāsu kammappavattanaṃ. Tato vikkhālanena aṃsuabbhantaragate male pavāhetvā parisuddhassa rajatapaṭṭasadisassa gandhakaraṇḍake nikkhittassa vatthassa icchiticchitakkhaṇe paridahanaṃ viya arahattamaggena aṭṭhannaṃ kilesānaṃ khepitattā parisuddhassa khīṇāsavacittassa icchiticchitakkhaṇe phalasamāpattivihārena vītināmanaṃ. Idaṃ ‘aññe añño kilese pajahatī’ti ettha opammaṃ. Vuttampi cetaṃ –

    ‘‘เสยฺยถาปิ , อาวุโส, วตฺถํ สํกิลิฎฺฐํ มลคฺคหิตํ, ตเมนํ สามิกา รชกสฺส อนุปทเชฺชยฺยุํฯ ตเมนํ รชโก อูเส วา ขาเร วา โคมเย วา สมฺมทฺทิตฺวา อเจฺฉ อุทเก วิกฺขาเลติฯ กิญฺจาปิ ตํ โหติ วตฺถํ ปริสุทฺธํ ปริโยทาตํ, อถ ขฺวสฺส โหติเยว ‘อณุสหคโต อูสคโนฺธ วา ขารคโนฺธ วา โคมยคโนฺธ วา อสมูหโต’ฯ ตเมนํ รชโก สามิกานํ เทติฯ ตเมนํ สามิกา คนฺธปริภาวิเต กรณฺฑเก นิกฺขิปนฺติฯ โยปิสฺส โหติ อณุสหคโต อูสคโนฺธ วา ขารคโนฺธ วา โคมยคโนฺธ วา อสมูหโต, โสปิ สมุคฺฆาตํ คจฺฉติฯ เอวเมว โข, อาวุโส, กิญฺจาปิ อริยสาวกสฺส ปโญฺจรมฺภาคิยานิ สํโยชนานิ ปหีนานิ ภวนฺติ, อถ ขฺวสฺส โหติเยว ปญฺจสุ อุปาทานกฺขเนฺธสุ อณุสหคโต ‘อสฺมี’ติ มาโน, ‘อสฺมี’ติ ฉโนฺท, ‘อสฺมี’ติ อนุสโย อสมูหโต, โส อปเรน สมเยน ปญฺจสุ อุปาทานกฺขเนฺธสุ อุทยพฺพยานุปสฺสี วิหรติ – ‘อิติ รูปํ, อิติ รูปสฺส สมุทโย, อิติ รูปสฺส อตฺถงฺคโม; อิติ เวทนา อิติ สญฺญา อิติ สงฺขารา อิติ วิญฺญาณํ, อิติ วิญฺญาณสฺส สมุทโย, อิติ วิญฺญาณสฺส อตฺถงฺคโม’ติฯ ตสฺสิเมสุ ปญฺจสุ อุปาทานกฺขเนฺธสุ อุทยพฺพยานุปสฺสิโน วิหรโต โยปิสฺส โหติ ปญฺจสุ อุปาทานกฺขเนฺธสุ อณุสหคโต ‘อสฺมี’ติ มาโน, ‘อสฺมี’ติ ฉโนฺท, ‘อสฺมี’ติ อนุสโย อสมูหโต, โสปิ สมุคฺฆาตํ คจฺฉตี’’ติ (สํ. นิ. ๓.๘๙)ฯ

    ‘‘Seyyathāpi , āvuso, vatthaṃ saṃkiliṭṭhaṃ malaggahitaṃ, tamenaṃ sāmikā rajakassa anupadajjeyyuṃ. Tamenaṃ rajako ūse vā khāre vā gomaye vā sammadditvā acche udake vikkhāleti. Kiñcāpi taṃ hoti vatthaṃ parisuddhaṃ pariyodātaṃ, atha khvassa hotiyeva ‘aṇusahagato ūsagandho vā khāragandho vā gomayagandho vā asamūhato’. Tamenaṃ rajako sāmikānaṃ deti. Tamenaṃ sāmikā gandhaparibhāvite karaṇḍake nikkhipanti. Yopissa hoti aṇusahagato ūsagandho vā khāragandho vā gomayagandho vā asamūhato, sopi samugghātaṃ gacchati. Evameva kho, āvuso, kiñcāpi ariyasāvakassa pañcorambhāgiyāni saṃyojanāni pahīnāni bhavanti, atha khvassa hotiyeva pañcasu upādānakkhandhesu aṇusahagato ‘asmī’ti māno, ‘asmī’ti chando, ‘asmī’ti anusayo asamūhato, so aparena samayena pañcasu upādānakkhandhesu udayabbayānupassī viharati – ‘iti rūpaṃ, iti rūpassa samudayo, iti rūpassa atthaṅgamo; iti vedanā iti saññā iti saṅkhārā iti viññāṇaṃ, iti viññāṇassa samudayo, iti viññāṇassa atthaṅgamo’ti. Tassimesu pañcasu upādānakkhandhesu udayabbayānupassino viharato yopissa hoti pañcasu upādānakkhandhesu aṇusahagato ‘asmī’ti māno, ‘asmī’ti chando, ‘asmī’ti anusayo asamūhato, sopi samugghātaṃ gacchatī’’ti (saṃ. ni. 3.89).

    ตตฺถ โสตาปตฺติมเคฺคน ปญฺจ อกุสลจิตฺตานิ ปหียนฺติ สทฺธิํ จิตฺตงฺควเสน อุปฺปชฺชนกปาปธเมฺมหิฯ สกทาคามิมเคฺคน เทฺว โทมนสฺสสหคตจิตฺตานิ ตนุกานิ ภวนฺติ สทฺธิํ จิตฺตงฺควเสน อุปฺปชฺชนกปาปธเมฺมหิฯ อนาคามิมเคฺคน ตานิเยว ปหียนฺติ สทฺธิํ สมฺปยุตฺตธเมฺมหิฯ อรหตฺตมเคฺคน ปญฺจ อกุสลจิตฺตานิ ปหียนฺติ สทฺธิํ จิตฺตงฺควเสน อุปฺปชฺชนกปาปธเมฺมหิฯ อิเมสํ ทฺวาทสนฺนํ อกุสลจิตฺตานํ ปหีนกาลโต ปฎฺฐาย ขีณาสวสฺส จิตฺตงฺควเสน ปุน ปจฺฉโตปวตฺตนกกิเลโส นาม น โหติฯ

    Tattha sotāpattimaggena pañca akusalacittāni pahīyanti saddhiṃ cittaṅgavasena uppajjanakapāpadhammehi. Sakadāgāmimaggena dve domanassasahagatacittāni tanukāni bhavanti saddhiṃ cittaṅgavasena uppajjanakapāpadhammehi. Anāgāmimaggena tāniyeva pahīyanti saddhiṃ sampayuttadhammehi. Arahattamaggena pañca akusalacittāni pahīyanti saddhiṃ cittaṅgavasena uppajjanakapāpadhammehi. Imesaṃ dvādasannaṃ akusalacittānaṃ pahīnakālato paṭṭhāya khīṇāsavassa cittaṅgavasena puna pacchatopavattanakakileso nāma na hoti.

    ตตฺริทํ โอปมฺมํ – เอโก กิร มหาราชา ปจฺจเนฺต อารกฺขํ ทตฺวา มหานคเร อิสฺสริยํ อนุภวโนฺต วสติฯ อถสฺส ปจฺจโนฺต กุปฺปิฯ ตสฺมิํ สมเย ทฺวาทส โจรเชฎฺฐกา อเนเกหิ ปุริสสหเสฺสหิ สทฺธิํ รฎฺฐํ วิลุมฺปนฺติฯ ปจฺจนฺตวาสิโน มหามตฺตา ‘ปจฺจโนฺต กุปิโต’ติ รโญฺญ ปหิณิํสุฯ ราชา ‘วิสฺสฎฺฐา คณฺหถ, อหํ ตุมฺหากํ กตฺตพฺพํ กริสฺสามี’ติ สาสนํ ปหิณิ ฯ เต ปฐมสมฺปหาเรเนว อเนเกหิ ปุริสสหเสฺสหิ สทฺธิํ ปญฺจ โจรเชฎฺฐเก ฆาตยิํสุฯ เสสา สตฺต ชนา อตฺตโน อตฺตโน ปริวาเร คเหตฺวา ปพฺพตํ ปวิสิํสุฯ อมจฺจา ตํ ปวตฺติํ รโญฺญ เปสยิํสุฯ

    Tatridaṃ opammaṃ – eko kira mahārājā paccante ārakkhaṃ datvā mahānagare issariyaṃ anubhavanto vasati. Athassa paccanto kuppi. Tasmiṃ samaye dvādasa corajeṭṭhakā anekehi purisasahassehi saddhiṃ raṭṭhaṃ vilumpanti. Paccantavāsino mahāmattā ‘paccanto kupito’ti rañño pahiṇiṃsu. Rājā ‘vissaṭṭhā gaṇhatha, ahaṃ tumhākaṃ kattabbaṃ karissāmī’ti sāsanaṃ pahiṇi . Te paṭhamasampahāreneva anekehi purisasahassehi saddhiṃ pañca corajeṭṭhake ghātayiṃsu. Sesā satta janā attano attano parivāre gahetvā pabbataṃ pavisiṃsu. Amaccā taṃ pavattiṃ rañño pesayiṃsu.

    ราชา ‘ตุมฺหากํ กตฺตพฺพยุตฺตํ อหํ ชานิสฺสามิ, เตปิ คณฺหถา’ติ ธนํ ปหิณิฯ เต ทุติยสมฺปหาเรน เทฺว โจรเชฎฺฐเก ปหริํสุ, ปริวาเรปิ เตสํ ทุพฺพเล อกํสุฯ เต สเพฺพปิ ปลายิตฺวา ปพฺพตํ ปวิสิํสุฯ ตมฺปิ ปวตฺติํ อมจฺจา รโญฺญ เปสยิํสุฯ

    Rājā ‘tumhākaṃ kattabbayuttaṃ ahaṃ jānissāmi, tepi gaṇhathā’ti dhanaṃ pahiṇi. Te dutiyasampahārena dve corajeṭṭhake pahariṃsu, parivārepi tesaṃ dubbale akaṃsu. Te sabbepi palāyitvā pabbataṃ pavisiṃsu. Tampi pavattiṃ amaccā rañño pesayiṃsu.

    ปุน ราชา ‘วิสฺสฎฺฐา คณฺหนฺตู’ติ ธนํ ปหิณิฯ เต ตติยสมฺปหาเรน สทฺธิํ สหายปุริเสหิ เทฺว โจรเชฎฺฐเก ฆาตยิตฺวา ตํ ปวตฺติํ รโญฺญ เปสยิํสุฯ

    Puna rājā ‘vissaṭṭhā gaṇhantū’ti dhanaṃ pahiṇi. Te tatiyasampahārena saddhiṃ sahāyapurisehi dve corajeṭṭhake ghātayitvā taṃ pavattiṃ rañño pesayiṃsu.

    ปุน ราชา ‘อวเสเส วิสฺสฎฺฐา คณฺหนฺตู’ติ ธนํ ปหิณิฯ เต จตุตฺถสมฺปหาเรน สปริวาเร ปญฺจ โจรเชฎฺฐเก ฆาตยิํสุฯ ทฺวาทสนฺนํ โจรเชฎฺฐกานํ ฆาติตกาลโต ปฎฺฐาย โกจิ โจโร นาม นตฺถิฯ เขมา ชนปทา อุเร ปุเตฺต นเจฺจนฺตา มเญฺญ วิหรนฺติฯ ราชา วิชิตสงฺคาเมหิ โยเธหิ ปริวุโต วรปาสาทคโต มหาสมฺปตฺติํ อนุภวิฯ

    Puna rājā ‘avasese vissaṭṭhā gaṇhantū’ti dhanaṃ pahiṇi. Te catutthasampahārena saparivāre pañca corajeṭṭhake ghātayiṃsu. Dvādasannaṃ corajeṭṭhakānaṃ ghātitakālato paṭṭhāya koci coro nāma natthi. Khemā janapadā ure putte naccentā maññe viharanti. Rājā vijitasaṅgāmehi yodhehi parivuto varapāsādagato mahāsampattiṃ anubhavi.

    ตตฺถ มหโนฺต ราชา วิย ธมฺมราชาฯ ปจฺจนฺตวาสิโน อมจฺจา วิย โยคาวจรา กุลปุตฺตาฯ ทฺวาทส โจรเชฎฺฐกา วิย ทฺวาทส อกุสลจิตฺตานิฯ เตสํ สหายา อเนกสหสฺสปุริสา วิย จิตฺตงฺควเสน อุปฺปชฺชนกปาปธมฺมาฯ รโญฺญ ปจฺจโนฺต กุปิโตติ ปหิตกาโล วิย อารมฺมเณ กิเลเสสุ อุปฺปเนฺนสุ ‘ภเนฺต, กิเลโส เม อุปฺปโนฺน’ติ สตฺถุ อาโรจนกาโลฯ ‘วิสฺสฎฺฐา คณฺหนฺตู’ติ ธนทานํ วิย ‘กิเลเส นิคฺคณฺห ภิกฺขู’ติ ธมฺมรโญฺญ กมฺมฎฺฐานาจิกฺขนํฯ สปริวารานํ ปญฺจนฺนํ โจรเชฎฺฐกานํ ฆาติตกาโล วิย โสตาปตฺติมเคฺคน สมฺปยุตฺตานํ ปญฺจนฺนํ อกุสลจิตฺตานํ ปหานํฯ

    Tattha mahanto rājā viya dhammarājā. Paccantavāsino amaccā viya yogāvacarā kulaputtā. Dvādasa corajeṭṭhakā viya dvādasa akusalacittāni. Tesaṃ sahāyā anekasahassapurisā viya cittaṅgavasena uppajjanakapāpadhammā. Rañño paccanto kupitoti pahitakālo viya ārammaṇe kilesesu uppannesu ‘bhante, kileso me uppanno’ti satthu ārocanakālo. ‘Vissaṭṭhā gaṇhantū’ti dhanadānaṃ viya ‘kilese niggaṇha bhikkhū’ti dhammarañño kammaṭṭhānācikkhanaṃ. Saparivārānaṃ pañcannaṃ corajeṭṭhakānaṃ ghātitakālo viya sotāpattimaggena sampayuttānaṃ pañcannaṃ akusalacittānaṃ pahānaṃ.

    ปุน รโญฺญ ปวตฺติเปสนํ วิย สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ปฎิลทฺธคุณาโรจนํฯ ‘เสสเก จ คณฺหนฺตู’ติ ปุน ธนทานํ วิย ภควโต สกทาคามิมคฺคสฺส วิปสฺสนาจิกฺขนํฯ ทุติยสมฺปหาเรน สปริวารานํ ทฺวินฺนํ โจรเชฎฺฐกานํ ทุพฺพลีกรณํ วิย สกทาคามิมเคฺคน สสมฺปยุตฺตานํ ทฺวินฺนํ โทมนสฺสจิตฺตานํ ตนุภาวกรณํฯ

    Puna rañño pavattipesanaṃ viya sammāsambuddhassa paṭiladdhaguṇārocanaṃ. ‘Sesake ca gaṇhantū’ti puna dhanadānaṃ viya bhagavato sakadāgāmimaggassa vipassanācikkhanaṃ. Dutiyasampahārena saparivārānaṃ dvinnaṃ corajeṭṭhakānaṃ dubbalīkaraṇaṃ viya sakadāgāmimaggena sasampayuttānaṃ dvinnaṃ domanassacittānaṃ tanubhāvakaraṇaṃ.

    ปุน รโญฺญ ปวตฺติเปสนํ วิย สตฺถุ ปฎิลทฺธคุณาโรจนํฯ ‘วิสฺสฎฺฐา คณฺหนฺตู’ติ ปุน ธนทานํ วิย ภควโต อนาคามิมคฺคสฺส วิปสฺสนาจิกฺขนํฯ ตติยสมฺปหาเรน สปริวารานํ ทฺวินฺนํ โจรเชฎฺฐกานํ ฆาตนํ วิย อนาคามิมเคฺคน สสมฺปยุตฺตานํ ทฺวินฺนํ โทมนสฺสจิตฺตานํ ปหานํฯ

    Puna rañño pavattipesanaṃ viya satthu paṭiladdhaguṇārocanaṃ. ‘Vissaṭṭhā gaṇhantū’ti puna dhanadānaṃ viya bhagavato anāgāmimaggassa vipassanācikkhanaṃ. Tatiyasampahārena saparivārānaṃ dvinnaṃ corajeṭṭhakānaṃ ghātanaṃ viya anāgāmimaggena sasampayuttānaṃ dvinnaṃ domanassacittānaṃ pahānaṃ.

    ปุน รโญฺญ ปวตฺติเปสนํ วิย ตถาคตสฺส ปฎิลทฺธคุณาโรจนํฯ ‘วิสฺสฎฺฐา คณฺหนฺตู’ติ ปุน ธนทานํ วิย ภควโต อรหตฺตมคฺคสฺส วิปสฺสนาจิกฺขนํฯ จตุตฺถสมฺปหาเรน สปริวารานํ ปญฺจนฺนํ โจรเชฎฺฐกานํ ฆาติตกาลโต ปฎฺฐาย ชนปทสฺส เขมกาโล วิย อรหตฺตมเคฺคน สสมฺปยุเตฺตสุ ปญฺจสุ อกุสลจิเตฺตสุ ปหีเนสุ ทฺวาทสนฺนํ อกุสลจิตฺตานํ ปหีนกาลโต ปฎฺฐาย ปุน จิตฺตงฺควเสน อุปฺปชฺชนกสฺส อกุสลธมฺมสฺส อภาโวฯ รโญฺญ วิชิตสงฺคามสฺส อมจฺจคณปริวุตสฺส วรปาสาเท มหาสมฺปตฺติอนุภวนํ วิย ขีณาสวปริวุตสฺส ธมฺมรโญฺญ สุญฺญตอนิมิตฺตอปฺปณิหิตเภเทสุ สมาปตฺติสุเขสุ อิจฺฉิติจฺฉิตผลสมาปตฺติสุขานุภวนํ เวทิตพฺพนฺติฯ

    Puna rañño pavattipesanaṃ viya tathāgatassa paṭiladdhaguṇārocanaṃ. ‘Vissaṭṭhā gaṇhantū’ti puna dhanadānaṃ viya bhagavato arahattamaggassa vipassanācikkhanaṃ. Catutthasampahārena saparivārānaṃ pañcannaṃ corajeṭṭhakānaṃ ghātitakālato paṭṭhāya janapadassa khemakālo viya arahattamaggena sasampayuttesu pañcasu akusalacittesu pahīnesu dvādasannaṃ akusalacittānaṃ pahīnakālato paṭṭhāya puna cittaṅgavasena uppajjanakassa akusaladhammassa abhāvo. Rañño vijitasaṅgāmassa amaccagaṇaparivutassa varapāsāde mahāsampattianubhavanaṃ viya khīṇāsavaparivutassa dhammarañño suññataanimittaappaṇihitabhedesu samāpattisukhesu icchiticchitaphalasamāpattisukhānubhavanaṃ veditabbanti.

    กุสลา ธมฺมาติปทสฺส วณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Kusalā dhammātipadassa vaṇṇanā niṭṭhitā.





    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact