Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย • Aṅguttaranikāya |
๑๐. จตุตฺถอนาคตภยสุตฺตํ
10. Catutthaanāgatabhayasuttaṃ
๘๐. ‘‘ปญฺจิมานิ, ภิกฺขเว, อนาคตภยานิ เอตรหิ อสมุปฺปนฺนานิ อายติํ สมุปฺปชฺชิสฺสนฺติฯ ตานิ โว ปฎิพุชฺฌิตพฺพานิ; ปฎิพุชฺฌิตฺวา จ เตสํ ปหานาย วายมิตพฺพํฯ
80. ‘‘Pañcimāni, bhikkhave, anāgatabhayāni etarahi asamuppannāni āyatiṃ samuppajjissanti. Tāni vo paṭibujjhitabbāni; paṭibujjhitvā ca tesaṃ pahānāya vāyamitabbaṃ.
‘‘กตมานิ ปญฺจ? ภวิสฺสนฺติ, ภิกฺขเว, ภิกฺขู อนาคตมทฺธานํ จีวเร กลฺยาณกามาฯ เต จีวเร กลฺยาณกามา สมานา ริญฺจิสฺสนฺติ ปํสุกูลิกตฺตํ, ริญฺจิสฺสนฺติ อรญฺญวนปตฺถานิ ปนฺตานิ เสนาสนานิ; คามนิคมราชธานีสุ โอสริตฺวา วาสํ กเปฺปสฺสนฺติ, จีวรเหตุ จ อเนกวิหิตํ อเนสนํ อปฺปติรูปํ อาปชฺชิสฺสนฺติฯ อิทํ, ภิกฺขเว, ปฐมํ อนาคตภยํ เอตรหิ อสมุปฺปนฺนํ อายติํ สมุปฺปชฺชิสฺสติฯ ตํ โว ปฎิพุชฺฌิตพฺพํ; ปฎิพุชฺฌิตฺวา จ ตสฺส ปหานาย วายมิตพฺพํฯ
‘‘Katamāni pañca? Bhavissanti, bhikkhave, bhikkhū anāgatamaddhānaṃ cīvare kalyāṇakāmā. Te cīvare kalyāṇakāmā samānā riñcissanti paṃsukūlikattaṃ, riñcissanti araññavanapatthāni pantāni senāsanāni; gāmanigamarājadhānīsu osaritvā vāsaṃ kappessanti, cīvarahetu ca anekavihitaṃ anesanaṃ appatirūpaṃ āpajjissanti. Idaṃ, bhikkhave, paṭhamaṃ anāgatabhayaṃ etarahi asamuppannaṃ āyatiṃ samuppajjissati. Taṃ vo paṭibujjhitabbaṃ; paṭibujjhitvā ca tassa pahānāya vāyamitabbaṃ.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภวิสฺสนฺติ ภิกฺขู อนาคตมทฺธานํ ปิณฺฑปาเต กลฺยาณกามาฯ เต ปิณฺฑปาเต กลฺยาณกามา สมานา ริญฺจิสฺสนฺติ ปิณฺฑปาติกตฺตํ , ริญฺจิสฺสนฺติ อรญฺญวนปตฺถานิ ปนฺตานิ เสนาสนานิ; คามนิคมราชธานีสุ โอสริตฺวา วาสํ กเปฺปสฺสนฺติ ชิวฺหเคฺคน รสคฺคานิ ปริเยสมานา, ปิณฺฑปาตเหตุ จ อเนกวิหิตํ อเนสนํ อปฺปติรูปํ อาปชฺชิสฺสนฺติฯ อิทํ, ภิกฺขเว, ทุติยํ อนาคตภยํ เอตรหิ อสมุปฺปนฺนํ อายติํ สมุปฺปชฺชิสฺสติฯ ตํ โว ปฎิพุชฺฌิตพฺพํ; ปฎิพุชฺฌิตฺวา จ ตสฺส ปหานาย วายมิตพฺพํฯ
‘‘Puna caparaṃ, bhikkhave, bhavissanti bhikkhū anāgatamaddhānaṃ piṇḍapāte kalyāṇakāmā. Te piṇḍapāte kalyāṇakāmā samānā riñcissanti piṇḍapātikattaṃ , riñcissanti araññavanapatthāni pantāni senāsanāni; gāmanigamarājadhānīsu osaritvā vāsaṃ kappessanti jivhaggena rasaggāni pariyesamānā, piṇḍapātahetu ca anekavihitaṃ anesanaṃ appatirūpaṃ āpajjissanti. Idaṃ, bhikkhave, dutiyaṃ anāgatabhayaṃ etarahi asamuppannaṃ āyatiṃ samuppajjissati. Taṃ vo paṭibujjhitabbaṃ; paṭibujjhitvā ca tassa pahānāya vāyamitabbaṃ.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภวิสฺสนฺติ ภิกฺขู อนาคตมทฺธานํ เสนาสเน กลฺยาณกามาฯ เต เสนาสเน กลฺยาณกามา สมานา ริญฺจิสฺสนฺติ รุกฺขมูลิกตฺตํ 1, ริญฺจิสฺสนฺติ อรญฺญวนปตฺถานิ ปนฺตานิ เสนาสนานิ; คามนิคมราชธานีสุ โอสริตฺวา วาสํ กเปฺปสฺสนฺติ, เสนาสนเหตุ จ อเนกวิหิตํ อเนสนํ อปฺปติรูปํ อาปชฺชิสฺสนฺติฯ อิทํ, ภิกฺขเว, ตติยํ อนาคตภยํ เอตรหิ อสมุปฺปนฺนํ อายติํ สมุปฺปชฺชิสฺสติฯ ตํ โว ปฎิพุชฺฌิตพฺพํ; ปฎิพุชฺฌิตฺวา จ ตสฺส ปหานาย วายมิตพฺพํฯ
‘‘Puna caparaṃ, bhikkhave, bhavissanti bhikkhū anāgatamaddhānaṃ senāsane kalyāṇakāmā. Te senāsane kalyāṇakāmā samānā riñcissanti rukkhamūlikattaṃ 2, riñcissanti araññavanapatthāni pantāni senāsanāni; gāmanigamarājadhānīsu osaritvā vāsaṃ kappessanti, senāsanahetu ca anekavihitaṃ anesanaṃ appatirūpaṃ āpajjissanti. Idaṃ, bhikkhave, tatiyaṃ anāgatabhayaṃ etarahi asamuppannaṃ āyatiṃ samuppajjissati. Taṃ vo paṭibujjhitabbaṃ; paṭibujjhitvā ca tassa pahānāya vāyamitabbaṃ.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภวิสฺสนฺติ ภิกฺขู อนาคตมทฺธานํ ภิกฺขุนีสิกฺขมานาสมณุเทฺทเสหิ สํสฎฺฐา วิหริสฺสนฺติฯ ภิกฺขุนีสิกฺขมานาสมณุเทฺทเสหิ สํสเคฺค โข ปน, ภิกฺขเว, สติ เอตํ ปาฎิกงฺขํ – ‘อนภิรตา วา พฺรหฺมจริยํ จริสฺสนฺติ, อญฺญตรํ วา สํกิลิฎฺฐํ อาปตฺติํ อาปชฺชิสฺสนฺติ, สิกฺขํ วา ปจฺจกฺขาย หีนายาวตฺติสฺสนฺติ’ฯ อิทํ, ภิกฺขเว, จตุตฺถํ อนาคตภยํ เอตรหิ อสมุปฺปนฺนํ อายติํ สมุปฺปชฺชิสฺสติฯ ตํ โว ปฎิพุชฺฌิตพฺพํ; ปฎิพุชฺฌิตฺวา จ ตสฺส ปหานาย วายมิตพฺพํฯ
‘‘Puna caparaṃ, bhikkhave, bhavissanti bhikkhū anāgatamaddhānaṃ bhikkhunīsikkhamānāsamaṇuddesehi saṃsaṭṭhā viharissanti. Bhikkhunīsikkhamānāsamaṇuddesehi saṃsagge kho pana, bhikkhave, sati etaṃ pāṭikaṅkhaṃ – ‘anabhiratā vā brahmacariyaṃ carissanti, aññataraṃ vā saṃkiliṭṭhaṃ āpattiṃ āpajjissanti, sikkhaṃ vā paccakkhāya hīnāyāvattissanti’. Idaṃ, bhikkhave, catutthaṃ anāgatabhayaṃ etarahi asamuppannaṃ āyatiṃ samuppajjissati. Taṃ vo paṭibujjhitabbaṃ; paṭibujjhitvā ca tassa pahānāya vāyamitabbaṃ.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภวิสฺสนฺติ ภิกฺขู อนาคตมทฺธานํ อารามิกสมณุเทฺทเสหิ สํสฎฺฐา วิหริสฺสนฺติฯ อารามิกสมณุเทฺทเสหิ สํสเคฺค โข ปน, ภิกฺขเว, สติ เอตํ ปาฎิกงฺขํ – ‘อเนกวิหิตํ สนฺนิธิการปริโภคํ อนุยุตฺตา วิหริสฺสนฺติ, โอฬาริกมฺปิ นิมิตฺตํ กริสฺสนฺติ, ปถวิยาปิ หริตเคฺคปิ’ฯ อิทํ, ภิกฺขเว, ปญฺจมํ อนาคตภยํ เอตรหิ อสมุปฺปนฺนํ อายติํ สมุปฺปชฺชิสฺสติฯ ตํ โว ปฎิพุชฺฌิตพฺพํ; ปฎิพุชฺฌิตฺวา จ ตสฺส ปหานาย วายมิตพฺพํฯ
‘‘Puna caparaṃ, bhikkhave, bhavissanti bhikkhū anāgatamaddhānaṃ ārāmikasamaṇuddesehi saṃsaṭṭhā viharissanti. Ārāmikasamaṇuddesehi saṃsagge kho pana, bhikkhave, sati etaṃ pāṭikaṅkhaṃ – ‘anekavihitaṃ sannidhikāraparibhogaṃ anuyuttā viharissanti, oḷārikampi nimittaṃ karissanti, pathaviyāpi haritaggepi’. Idaṃ, bhikkhave, pañcamaṃ anāgatabhayaṃ etarahi asamuppannaṃ āyatiṃ samuppajjissati. Taṃ vo paṭibujjhitabbaṃ; paṭibujjhitvā ca tassa pahānāya vāyamitabbaṃ.
‘‘อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ปญฺจ อนาคตภยานิ เอตรหิ อสมุปฺปนฺนานิ อายติํ สมุปฺปชฺชิสฺสนฺติฯ ตานิ โว ปฎิพุชฺฌิตพฺพานิ; ปฎิพุชฺฌิตฺวา จ เตสํ ปหานาย วายมิตพฺพ’’นฺติฯ ทสมํฯ
‘‘Imāni kho, bhikkhave, pañca anāgatabhayāni etarahi asamuppannāni āyatiṃ samuppajjissanti. Tāni vo paṭibujjhitabbāni; paṭibujjhitvā ca tesaṃ pahānāya vāyamitabba’’nti. Dasamaṃ.
โยธาชีววโคฺค ตติโยฯ
Yodhājīvavaggo tatiyo.
ตสฺสุทฺทานํ –
Tassuddānaṃ –
เทฺว เจโตวิมุตฺติผลา, เทฺว จ ธมฺมวิหาริโน;
Dve cetovimuttiphalā, dve ca dhammavihārino;
โยธาชีวา จ เทฺว วุตฺตา, จตฺตาโร จ อนาคตาติฯ
Yodhājīvā ca dve vuttā, cattāro ca anāgatāti.
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / องฺคุตฺตรนิกาย (อฎฺฐกถา) • Aṅguttaranikāya (aṭṭhakathā) / ๑๐. จตุตฺถอนาคตภยสุตฺตวณฺณนา • 10. Catutthaanāgatabhayasuttavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / องฺคุตฺตรนิกาย (ฎีกา) • Aṅguttaranikāya (ṭīkā) / ๑๐. จตุตฺถอนาคตภยสุตฺตวณฺณนา • 10. Catutthaanāgatabhayasuttavaṇṇanā