Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya |
๖. จตุตฺถสาริปุตฺตโกฎฺฐิกสุตฺตํ
6. Catutthasāriputtakoṭṭhikasuttaṃ
๔๑๕. เอกํ สมยํ อายสฺมา จ สาริปุโตฺต, อายสฺมา จ มหาโกฎฺฐิโก พาราณสิยํ วิหรนฺติ อิสิปตเน มิคทาเยฯ อถ โข อายสฺมา สาริปุโตฺต สายนฺหสมยํ ปฎิสลฺลานา วุฎฺฐิโต เยนายสฺมา มหาโกฎฺฐิโก เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมตา มหาโกฎฺฐิเกน สทฺธิํ สโมฺมทิฯ สโมฺมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสิโนฺน โข อายสฺมา สาริปุโตฺต อายสฺมนฺตํ มหาโกฎฺฐิกํ เอตทโวจ – ‘‘‘กิํ นุ โข, อาวุโส โกฎฺฐิก, โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติ…เป.… ‘กิํ ปนาวุโส, เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติ อิติ ปุโฎฺฐ สมาโน – ‘เอตมฺปิ โข, อาวุโส, อพฺยากตํ ภควตา – เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติ วเทสิ’’ฯ ‘‘โก นุ โข, อาวุโส, เหตุ, โก ปจฺจโย, เยเนตํ อพฺยากตํ ภควตา’’ติ?
415. Ekaṃ samayaṃ āyasmā ca sāriputto, āyasmā ca mahākoṭṭhiko bārāṇasiyaṃ viharanti isipatane migadāye. Atha kho āyasmā sāriputto sāyanhasamayaṃ paṭisallānā vuṭṭhito yenāyasmā mahākoṭṭhiko tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā āyasmatā mahākoṭṭhikena saddhiṃ sammodi. Sammodanīyaṃ kathaṃ sāraṇīyaṃ vītisāretvā ekamantaṃ nisīdi. Ekamantaṃ nisinno kho āyasmā sāriputto āyasmantaṃ mahākoṭṭhikaṃ etadavoca – ‘‘‘kiṃ nu kho, āvuso koṭṭhika, hoti tathāgato paraṃ maraṇā’ti…pe… ‘kiṃ panāvuso, neva hoti na na hoti tathāgato paraṃ maraṇā’ti iti puṭṭho samāno – ‘etampi kho, āvuso, abyākataṃ bhagavatā – neva hoti na na hoti tathāgato paraṃ maraṇā’ti vadesi’’. ‘‘Ko nu kho, āvuso, hetu, ko paccayo, yenetaṃ abyākataṃ bhagavatā’’ti?
‘‘รูปารามสฺส โข, อาวุโส, รูปรตสฺส รูปสมฺมุทิตสฺส รูปนิโรธํ อชานโต อปสฺสโต ยถาภูตํ, ‘โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติปิสฺส โหติ; ‘น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติปิสฺส โหติ; ‘โหติ จ น จ โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติปิสฺส โหติ; ‘เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติปิสฺส โหติฯ เวทนารามสฺส โข, อาวุโส, เวทนารตสฺส เวทนาสมฺมุทิตสฺส, เวทนานิโรธํ อชานโต อปสฺสโต ยถาภูตํ, ‘โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติปิสฺส โหติ…เป.… สญฺญารามสฺส โข, อาวุโส…เป.… สงฺขารารามสฺส โข อาวุโส…เป.… วิญฺญาณารามสฺส โข, อาวุโส, วิญฺญาณรตสฺส วิญฺญาณสมฺมุทิตสฺส วิญฺญาณนิโรธํ อชานโต อปสฺสโต ยถาภูตํ, ‘โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติปิสฺส โหติ…เป.… ‘เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติปิสฺส โหติ’’ฯ
‘‘Rūpārāmassa kho, āvuso, rūparatassa rūpasammuditassa rūpanirodhaṃ ajānato apassato yathābhūtaṃ, ‘hoti tathāgato paraṃ maraṇā’tipissa hoti; ‘na hoti tathāgato paraṃ maraṇā’tipissa hoti; ‘hoti ca na ca hoti tathāgato paraṃ maraṇā’tipissa hoti; ‘neva hoti na na hoti tathāgato paraṃ maraṇā’tipissa hoti. Vedanārāmassa kho, āvuso, vedanāratassa vedanāsammuditassa, vedanānirodhaṃ ajānato apassato yathābhūtaṃ, ‘hoti tathāgato paraṃ maraṇā’tipissa hoti…pe… saññārāmassa kho, āvuso…pe… saṅkhārārāmassa kho āvuso…pe… viññāṇārāmassa kho, āvuso, viññāṇaratassa viññāṇasammuditassa viññāṇanirodhaṃ ajānato apassato yathābhūtaṃ, ‘hoti tathāgato paraṃ maraṇā’tipissa hoti…pe… ‘neva hoti na na hoti tathāgato paraṃ maraṇā’tipissa hoti’’.
‘‘น รูปารามสฺส โข, อาวุโส, น รูปรตสฺส น รูปสมฺมุทิตสฺส, รูปนิโรธํ ชานโต ปสฺสโต ยถาภูตํ, ‘โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติปิสฺส น โหติ…เป.… ‘เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติปิสฺส น โหติฯ น เวทนารามสฺส โข, อาวุโส…เป.… น สญฺญารามสฺส โข, อาวุโส…เป.… น สงฺขารารามสฺส โข, อาวุโส…เป.… น วิญฺญาณารามสฺส โข, อาวุโส, น วิญฺญาณรตสฺส น วิญฺญาณสมฺมุทิตสฺส, วิญฺญาณนิโรธํ ชานโต ปสฺสโต ยถาภูตํ, ‘โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติปิสฺส น โหติ…เป.… ‘เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติปิสฺส น โหติฯ อยํ โข, อาวุโส, เหตุ, อยํ ปจฺจโย, เยเนตํ อพฺยากตํ ภควตา’’ติฯ
‘‘Na rūpārāmassa kho, āvuso, na rūparatassa na rūpasammuditassa, rūpanirodhaṃ jānato passato yathābhūtaṃ, ‘hoti tathāgato paraṃ maraṇā’tipissa na hoti…pe… ‘neva hoti na na hoti tathāgato paraṃ maraṇā’tipissa na hoti. Na vedanārāmassa kho, āvuso…pe… na saññārāmassa kho, āvuso…pe… na saṅkhārārāmassa kho, āvuso…pe… na viññāṇārāmassa kho, āvuso, na viññāṇaratassa na viññāṇasammuditassa, viññāṇanirodhaṃ jānato passato yathābhūtaṃ, ‘hoti tathāgato paraṃ maraṇā’tipissa na hoti…pe… ‘neva hoti na na hoti tathāgato paraṃ maraṇā’tipissa na hoti. Ayaṃ kho, āvuso, hetu, ayaṃ paccayo, yenetaṃ abyākataṃ bhagavatā’’ti.
‘‘สิยา ปนาวุโส, อโญฺญปิ ปริยาโย, เยเนตํ อพฺยากตํ ภควตา’’ติ? ‘‘สิยา, อาวุโสฯ ภวารามสฺส โข, อาวุโส, ภวรตสฺส ภวสมฺมุทิตสฺส, ภวนิโรธํ อชานโต อปสฺสโต ยถาภูตํ, ‘โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติปิสฺส โหติ…เป.… ‘เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติปิสฺส โหติฯ น ภวารามสฺส โข, อาวุโส, น ภวรตสฺส น ภวสมฺมุทิตสฺส, ภวนิโรธํ ชานโต ปสฺสโต ยถาภูตํ, ‘โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติปิสฺส น โหติ…เป.… ‘เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติปิสฺส น โหติฯ อยมฺปิ โข, อาวุโส, ปริยาโย, เยเนตํ อพฺยากตํ ภควตา’’ติฯ
‘‘Siyā panāvuso, aññopi pariyāyo, yenetaṃ abyākataṃ bhagavatā’’ti? ‘‘Siyā, āvuso. Bhavārāmassa kho, āvuso, bhavaratassa bhavasammuditassa, bhavanirodhaṃ ajānato apassato yathābhūtaṃ, ‘hoti tathāgato paraṃ maraṇā’tipissa hoti…pe… ‘neva hoti na na hoti tathāgato paraṃ maraṇā’tipissa hoti. Na bhavārāmassa kho, āvuso, na bhavaratassa na bhavasammuditassa, bhavanirodhaṃ jānato passato yathābhūtaṃ, ‘hoti tathāgato paraṃ maraṇā’tipissa na hoti…pe… ‘neva hoti na na hoti tathāgato paraṃ maraṇā’tipissa na hoti. Ayampi kho, āvuso, pariyāyo, yenetaṃ abyākataṃ bhagavatā’’ti.
‘‘สิยา ปนาวุโส, อโญฺญปิ ปริยาโย, เยเนตํ อพฺยากตํ ภควตา’’ติ? ‘‘สิยา, อาวุโสฯ อุปาทานารามสฺส โข, อาวุโส, อุปาทานรตสฺส อุปาทานสมฺมุทิตสฺส, อุปาทานนิโรธํ อชานโต อปสฺสโต ยถาภูตํ, ‘โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติปิสฺส โหติ…เป.… ‘เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติปิสฺส โหติฯ น อุปาทานารามสฺส โข, อาวุโส, น อุปาทานรตสฺส น อุปาทานสมฺมุทิตสฺส, อุปาทานนิโรธํ ชานโต ปสฺสโต ยถาภูตํ, ‘โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติปิสฺส น โหติ…เป.… ‘เนว, โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติปิสฺส น โหติฯ อยมฺปิ โข อาวุโส, ปริยาโย, เยเนตํ อพฺยากตํ ภควตา’’ติฯ
‘‘Siyā panāvuso, aññopi pariyāyo, yenetaṃ abyākataṃ bhagavatā’’ti? ‘‘Siyā, āvuso. Upādānārāmassa kho, āvuso, upādānaratassa upādānasammuditassa, upādānanirodhaṃ ajānato apassato yathābhūtaṃ, ‘hoti tathāgato paraṃ maraṇā’tipissa hoti…pe… ‘neva hoti na na hoti tathāgato paraṃ maraṇā’tipissa hoti. Na upādānārāmassa kho, āvuso, na upādānaratassa na upādānasammuditassa, upādānanirodhaṃ jānato passato yathābhūtaṃ, ‘hoti tathāgato paraṃ maraṇā’tipissa na hoti…pe… ‘neva, hoti na na hoti tathāgato paraṃ maraṇā’tipissa na hoti. Ayampi kho āvuso, pariyāyo, yenetaṃ abyākataṃ bhagavatā’’ti.
‘‘สิยา ปนาวุโส, อโญฺญปิ ปริยาโย, เยเนตํ อพฺยากตํ ภควตา’’ติ? ‘‘สิยา, อาวุโสฯ ตณฺหารามสฺส โข, อาวุโส, ตณฺหารตสฺส ตณฺหาสมฺมุทิตสฺส, ตณฺหานิโรธํ อชานโต อปสฺสโต ยถาภูตํ, ‘โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติปิสฺส โหติ…เป.… ‘เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติปิสฺส โหติฯ น ตณฺหารามสฺส โข, อาวุโส, น ตณฺหารตสฺส น ตณฺหาสมฺมุทิตสฺส, ตณฺหานิโรธํ ชานโต ปสฺสโต ยถาภูตํ, ‘โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติปิสฺส น โหติ…เป. … ‘เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติปิสฺส น โหติฯ อยมฺปิ โข, อาวุโส, ปริยาโย, เยเนตํ อพฺยากตํ ภควตา’’ติฯ
‘‘Siyā panāvuso, aññopi pariyāyo, yenetaṃ abyākataṃ bhagavatā’’ti? ‘‘Siyā, āvuso. Taṇhārāmassa kho, āvuso, taṇhāratassa taṇhāsammuditassa, taṇhānirodhaṃ ajānato apassato yathābhūtaṃ, ‘hoti tathāgato paraṃ maraṇā’tipissa hoti…pe… ‘neva hoti na na hoti tathāgato paraṃ maraṇā’tipissa hoti. Na taṇhārāmassa kho, āvuso, na taṇhāratassa na taṇhāsammuditassa, taṇhānirodhaṃ jānato passato yathābhūtaṃ, ‘hoti tathāgato paraṃ maraṇā’tipissa na hoti…pe. … ‘neva hoti na na hoti tathāgato paraṃ maraṇā’tipissa na hoti. Ayampi kho, āvuso, pariyāyo, yenetaṃ abyākataṃ bhagavatā’’ti.
‘‘สิยา ปนาวุโส, อโญฺญปิ ปริยาโย, เยเนตํ อพฺยากตํ ภควตา’’ติ? ‘‘เอตฺถ ทานิ, อาวุโส สาริปุตฺต, อิโต อุตฺตริ กิํ อิจฺฉสิ? ตณฺหาสงฺขยวิมุตฺตสฺส, อาวุโส สาริปุตฺต, ภิกฺขุโน วฎฺฎํ 1 นตฺถิ ปญฺญาปนายา’’ติฯ ฉฎฺฐํฯ
‘‘Siyā panāvuso, aññopi pariyāyo, yenetaṃ abyākataṃ bhagavatā’’ti? ‘‘Ettha dāni, āvuso sāriputta, ito uttari kiṃ icchasi? Taṇhāsaṅkhayavimuttassa, āvuso sāriputta, bhikkhuno vaṭṭaṃ 2 natthi paññāpanāyā’’ti. Chaṭṭhaṃ.
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) / ๓-๘. ปฐมสาริปุตฺตโกฎฺฐิกสุตฺตาทิวณฺณนา • 3-8. Paṭhamasāriputtakoṭṭhikasuttādivaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) / ๓-๘. ปฐมสาริปุตฺตโกฎฺฐิกสุตฺตาทิวณฺณนา • 3-8. Paṭhamasāriputtakoṭṭhikasuttādivaṇṇanā