Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย • Aṅguttaranikāya |
๒. เจตนากรณียสุตฺตํ
2. Cetanākaraṇīyasuttaṃ
๒. 1 ‘‘สีลวโต, ภิกฺขเว, สีลสมฺปนฺนสฺส น เจตนาย กรณียํ – ‘อวิปฺปฎิสาโร เม อุปฺปชฺชตู’ติฯ ธมฺมตา เอสา, ภิกฺขเว, ยํ สีลวโต สีลสมฺปนฺนสฺส อวิปฺปฎิสาโร อุปฺปชฺชติฯ อวิปฺปฎิสาริสฺส, ภิกฺขเว, น เจตนาย กรณียํ – ‘ปาโมชฺชํ เม อุปฺปชฺชตู’ติฯ ธมฺมตา เอสา, ภิกฺขเว, ยํ อวิปฺปฎิสาริสฺส ปาโมชฺชํ ชายติฯ ปมุทิตสฺส, ภิกฺขเว, น เจตนาย กรณียํ – ‘ปีติ เม อุปฺปชฺชตู’ติฯ ธมฺมตา เอสา, ภิกฺขเว, ยํ ปมุทิตสฺส ปีติ อุปฺปชฺชติฯ ปีติมนสฺส, ภิกฺขเว, น เจตนาย กรณียํ – ‘กาโย เม ปสฺสมฺภตู’ติฯ ธมฺมตา เอสา, ภิกฺขเว, ยํ ปีติมนสฺส กาโย ปสฺสมฺภติฯ ปสฺสทฺธกายสฺส, ภิกฺขเว, น เจตนาย กรณียํ – ‘สุขํ เวทิยามี’ติฯ ธมฺมตา เอสา, ภิกฺขเว, ยํ ปสฺสทฺธกาโย สุขํ เวทิยติฯ สุขิโน, ภิกฺขเว, น เจตนาย กรณียํ – ‘จิตฺตํ เม สมาธิยตู’ติฯ ธมฺมตา เอสา, ภิกฺขเว, ยํ สุขิโน จิตฺตํ สมาธิยติฯ สมาหิตสฺส, ภิกฺขเว, น เจตนาย กรณียํ – ‘ยถาภูตํ ชานามิ ปสฺสามี’ติฯ ธมฺมตา เอสา, ภิกฺขเว, ยํ สมาหิโต ยถาภูตํ ชานาติ ปสฺสติฯ ยถาภูตํ, ภิกฺขเว, ชานโต ปสฺสโต น เจตนาย กรณียํ – ‘นิพฺพินฺทามิ วิรชฺชามี’ติฯ ธมฺมตา เอสา, ภิกฺขเว, ยํ ยถาภูตํ ชานํ ปสฺสํ นิพฺพินฺทติ วิรชฺชติฯ นิพฺพินฺนสฺส 2, ภิกฺขเว, วิรตฺตสฺส น เจตนาย กรณียํ – ‘วิมุตฺติญาณทสฺสนํ สจฺฉิกโรมี’ติฯ ธมฺมตา เอสา, ภิกฺขเว, ยํ นิพฺพิโนฺน 3 วิรโตฺต วิมุตฺติญาณทสฺสนํ สจฺฉิกโรติฯ
2.4 ‘‘Sīlavato, bhikkhave, sīlasampannassa na cetanāya karaṇīyaṃ – ‘avippaṭisāro me uppajjatū’ti. Dhammatā esā, bhikkhave, yaṃ sīlavato sīlasampannassa avippaṭisāro uppajjati. Avippaṭisārissa, bhikkhave, na cetanāya karaṇīyaṃ – ‘pāmojjaṃ me uppajjatū’ti. Dhammatā esā, bhikkhave, yaṃ avippaṭisārissa pāmojjaṃ jāyati. Pamuditassa, bhikkhave, na cetanāya karaṇīyaṃ – ‘pīti me uppajjatū’ti. Dhammatā esā, bhikkhave, yaṃ pamuditassa pīti uppajjati. Pītimanassa, bhikkhave, na cetanāya karaṇīyaṃ – ‘kāyo me passambhatū’ti. Dhammatā esā, bhikkhave, yaṃ pītimanassa kāyo passambhati. Passaddhakāyassa, bhikkhave, na cetanāya karaṇīyaṃ – ‘sukhaṃ vediyāmī’ti. Dhammatā esā, bhikkhave, yaṃ passaddhakāyo sukhaṃ vediyati. Sukhino, bhikkhave, na cetanāya karaṇīyaṃ – ‘cittaṃ me samādhiyatū’ti. Dhammatā esā, bhikkhave, yaṃ sukhino cittaṃ samādhiyati. Samāhitassa, bhikkhave, na cetanāya karaṇīyaṃ – ‘yathābhūtaṃ jānāmi passāmī’ti. Dhammatā esā, bhikkhave, yaṃ samāhito yathābhūtaṃ jānāti passati. Yathābhūtaṃ, bhikkhave, jānato passato na cetanāya karaṇīyaṃ – ‘nibbindāmi virajjāmī’ti. Dhammatā esā, bhikkhave, yaṃ yathābhūtaṃ jānaṃ passaṃ nibbindati virajjati. Nibbinnassa 5, bhikkhave, virattassa na cetanāya karaṇīyaṃ – ‘vimuttiñāṇadassanaṃ sacchikaromī’ti. Dhammatā esā, bhikkhave, yaṃ nibbinno 6 viratto vimuttiñāṇadassanaṃ sacchikaroti.
‘‘อิติ โข, ภิกฺขเว, นิพฺพิทาวิราโค วิมุตฺติญาณทสฺสนโตฺถ วิมุตฺติญาณทสฺสนานิสํโส; ยถาภูตญาณทสฺสนํ นิพฺพิทาวิราคตฺถํ นิพฺพิทาวิราคานิสํสํ; สมาธิ ยถาภูตญาณทสฺสนโตฺถ ยถาภูตญาณทสฺสนานิสํโส; สุขํ สมาธตฺถํ สมาธานิสํสํ; ปสฺสทฺธิ สุขตฺถา สุขานิสํสา; ปีติ ปสฺสทฺธตฺถา ปสฺสทฺธานิสํสา; ปาโมชฺชํ ปีตตฺถํ ปีตานิสํสํ; อวิปฺปฎิสาโร ปาโมชฺชโตฺถ ปาโมชฺชานิสํโส; กุสลานิ สีลานิ อวิปฺปฎิสารตฺถานิ อวิปฺปฎิสารานิสํสานิ ฯ อิติ โข, ภิกฺขเว, ธมฺมา ธเมฺม อภิสเนฺทนฺติ, ธมฺมา ธเมฺม ปริปูเรนฺติ อปารา ปารํ คมนายา’’ติฯ ทุติยํฯ
‘‘Iti kho, bhikkhave, nibbidāvirāgo vimuttiñāṇadassanattho vimuttiñāṇadassanānisaṃso; yathābhūtañāṇadassanaṃ nibbidāvirāgatthaṃ nibbidāvirāgānisaṃsaṃ; samādhi yathābhūtañāṇadassanattho yathābhūtañāṇadassanānisaṃso; sukhaṃ samādhatthaṃ samādhānisaṃsaṃ; passaddhi sukhatthā sukhānisaṃsā; pīti passaddhatthā passaddhānisaṃsā; pāmojjaṃ pītatthaṃ pītānisaṃsaṃ; avippaṭisāro pāmojjattho pāmojjānisaṃso; kusalāni sīlāni avippaṭisāratthāni avippaṭisārānisaṃsāni . Iti kho, bhikkhave, dhammā dhamme abhisandenti, dhammā dhamme paripūrenti apārā pāraṃ gamanāyā’’ti. Dutiyaṃ.
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / องฺคุตฺตรนิกาย (อฎฺฐกถา) • Aṅguttaranikāya (aṭṭhakathā) / ๒. เจตนากรณียสุตฺตวณฺณนา • 2. Cetanākaraṇīyasuttavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / องฺคุตฺตรนิกาย (ฎีกา) • Aṅguttaranikāya (ṭīkā) / ๑-๗. อวิชฺชาสุตฺตาทิวณฺณนา • 1-7. Avijjāsuttādivaṇṇanā