Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / มหาวิภงฺค • Mahāvibhaṅga

    ๔. ฉพฺพสฺสสิกฺขาปทํ

    4. Chabbassasikkhāpadaṃ

    ๕๕๗. เตน สมเยน พุโทฺธ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเมฯ เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขู อนุวสฺสํ สนฺถตํ การาเปนฺติฯ เต ยาจนพหุลา วิญฺญตฺติพหุลา วิหรนฺติ – ‘‘เอฬกโลมานิ เทถฯ เอฬกโลเมหิ อโตฺถ’’ติฯ มนุสฺสา อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘กถญฺหิ นาม สมณา สกฺยปุตฺติยา อนุวสฺสํ สนฺถตํ การาเปสฺสนฺติ, ยาจนพหุลา วิญฺญตฺติพหุลา วิหริสฺสนฺติ – ‘เอฬกโลมานิ เทถ, เอฬกโลเมหิ อโตฺถ’’’ติ! อมฺหากํ ปน สกิํ กตานิ สนฺถตานิ ปญฺจปิ ฉปิ วสฺสานิ โหนฺติ, เยสํ โน ทารกา อุหทนฺติปิ อุมฺมิหนฺติปิ อุนฺทูเรหิปิ ขชฺชนฺติฯ อิเม ปน สมณา สกฺยปุตฺติยา อนุวสฺสํ สนฺถตํ การาเปนฺติ, ยาจนพหุลา วิญฺญตฺติพหุลา วิหรนฺติ – ‘‘เอฬกโลมานิ เทถ, เอฬกโลเมหิ อโตฺถ’’ติ!

    557. Tena samayena buddho bhagavā sāvatthiyaṃ viharati jetavane anāthapiṇḍikassa ārāme. Tena kho pana samayena bhikkhū anuvassaṃ santhataṃ kārāpenti. Te yācanabahulā viññattibahulā viharanti – ‘‘eḷakalomāni detha. Eḷakalomehi attho’’ti. Manussā ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – ‘‘kathañhi nāma samaṇā sakyaputtiyā anuvassaṃ santhataṃ kārāpessanti, yācanabahulā viññattibahulā viharissanti – ‘eḷakalomāni detha, eḷakalomehi attho’’’ti! Amhākaṃ pana sakiṃ katāni santhatāni pañcapi chapi vassāni honti, yesaṃ no dārakā uhadantipi ummihantipi undūrehipi khajjanti. Ime pana samaṇā sakyaputtiyā anuvassaṃ santhataṃ kārāpenti, yācanabahulā viññattibahulā viharanti – ‘‘eḷakalomāni detha, eḷakalomehi attho’’ti!

    อโสฺสสุํ โข ภิกฺขู เตสํ มนุสฺสานํ อุชฺฌายนฺตานํ ขิยฺยนฺตานํ วิปาเจนฺตานํฯ เย เต ภิกฺขู อปฺปิจฺฉา…เป.… เต อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘กถญฺหิ นาม ภิกฺขู อนุวสฺสํ สนฺถตํ การาเปสฺสนฺติ, ยาจนพหุลา วิญฺญตฺติพหุลา วิหริสฺสนฺติ – ‘เอฬกโลมานิ เทถ, เอฬกโลเมหิ อโตฺถ’’’ติ! อถ โข เต ภิกฺขู เต อเนกปริยาเยน วิครหิตฺวา ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ…เป.… สจฺจํ กิร, ภิกฺขเว, ภิกฺขู อนุวสฺสํ สนฺถตํ การาเปนฺติ, ยาจนพหุลา วิญฺญตฺติพหุลา วิหรนฺติ – ‘เอฬกโลมานิ เทถ, เอฬกโลเมหิ อโตฺถ’ติ? ‘‘สจฺจํ, ภควา’’ติฯ วิครหิ พุโทฺธ ภควา…เป.… กถญฺหิ นาม เต, ภิกฺขเว, โมฆปุริสา อนุวสฺสํ สนฺถตํ การาเปสฺสนฺติ, ยาจนพหุลา วิญฺญตฺติพหุลา วิหริสฺสนฺติ – ‘เอฬกโลมานิ เทถ, เอฬกโลเมหิ อโตฺถ’ติ! เนตํ, ภิกฺขเว, อปฺปสนฺนานํ วา ปสาทาย…เป.… เอวญฺจ ปน, ภิกฺขเว, อิมํ สิกฺขาปทํ อุทฺทิเสยฺยาถ –

    Assosuṃ kho bhikkhū tesaṃ manussānaṃ ujjhāyantānaṃ khiyyantānaṃ vipācentānaṃ. Ye te bhikkhū appicchā…pe… te ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – ‘‘kathañhi nāma bhikkhū anuvassaṃ santhataṃ kārāpessanti, yācanabahulā viññattibahulā viharissanti – ‘eḷakalomāni detha, eḷakalomehi attho’’’ti! Atha kho te bhikkhū te anekapariyāyena vigarahitvā bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ…pe… saccaṃ kira, bhikkhave, bhikkhū anuvassaṃ santhataṃ kārāpenti, yācanabahulā viññattibahulā viharanti – ‘eḷakalomāni detha, eḷakalomehi attho’ti? ‘‘Saccaṃ, bhagavā’’ti. Vigarahi buddho bhagavā…pe… kathañhi nāma te, bhikkhave, moghapurisā anuvassaṃ santhataṃ kārāpessanti, yācanabahulā viññattibahulā viharissanti – ‘eḷakalomāni detha, eḷakalomehi attho’ti! Netaṃ, bhikkhave, appasannānaṃ vā pasādāya…pe… evañca pana, bhikkhave, imaṃ sikkhāpadaṃ uddiseyyātha –

    ๕๕๘. ‘‘นวํ ปน ภิกฺขุนา สนฺถตํ การาเปตฺวา ฉพฺพสฺสานิ ธาเรตพฺพํฯ โอเรน เจ ฉนฺนํ วสฺสานํ ตํ สนฺถตํ วิสฺสเชฺชตฺวา วา อวิสฺสเชฺชตฺวา วา อญฺญํ นวํ สนฺถตํ การาเปยฺย, นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติย’’นฺติฯ

    558.‘‘Navaṃ pana bhikkhunā santhataṃ kārāpetvā chabbassāni dhāretabbaṃ. Orena ce channaṃ vassānaṃ taṃ santhataṃ vissajjetvā vā avissajjetvā vā aññaṃ navaṃ santhataṃ kārāpeyya, nissaggiyaṃ pācittiya’’nti.

    เอวญฺจิทํ ภควตา ภิกฺขูนํ สิกฺขาปทํ ปญฺญตฺตํ โหติฯ

    Evañcidaṃ bhagavatā bhikkhūnaṃ sikkhāpadaṃ paññattaṃ hoti.

    ๕๕๙. เตน โข ปน สมเยน อญฺญตโร ภิกฺขุ โกสมฺพิยํ คิลาโน โหติฯ ญาตกา ตสฺส ภิกฺขุโน สนฺติเก ทูตํ ปาเหสุํ – ‘‘อาคจฺฉตุ, ภทโนฺต มยํ อุปฎฺฐหิสฺสามา’’ติฯ ภิกฺขูปิ เอวมาหํสุ – ‘‘คจฺฉาวุโส, ญาตกา ตํ อุปฎฺฐหิสฺสนฺตี’’ติฯ โส เอวมาห – ‘‘ภควตา, อาวุโส, สิกฺขาปทํ ปญฺญตฺตํ – ‘นวํ ปน ภิกฺขุนา สนฺถตํ การาเปตฺวา ฉพฺพสฺสานิ ธาเรตพฺพ’นฺติฯ อหญฺจมฺหิ คิลาโน, น สโกฺกมิ สนฺถตํ อาทาย ปกฺกมิตุํฯ มยฺหญฺจ วินา สนฺถตา น ผาสุ โหติฯ นาหํ คมิสฺสามี’’ติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ อถ โข ภควา เอตสฺมิํ นิทาเน เอตสฺมิํ ปกรเณ ธมฺมิํ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามเนฺตสิ – ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, คิลานสฺส ภิกฺขุโน สนฺถตสมฺมุติํ ทาตุํฯ เอวญฺจ ปน , ภิกฺขเว, ทาตพฺพาฯ เตน คิลาเนน ภิกฺขุนา สงฺฆํ อุปสงฺกมิตฺวา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา วุฑฺฒานํ ภิกฺขูนํ ปาเท วนฺทิตฺวา อุกฺกุฎิกํ นิสีทิตฺวา อญฺชลิํ ปคฺคเหตฺวา เอวมสฺส วจนีโย – ‘อหํ, ภเนฺต, คิลาโนฯ น สโกฺกมิ สนฺถตํ อาทาย ปกฺกมิตุํฯ โสหํ, ภเนฺต, สงฺฆํ สนฺถตสมฺมุติํ ยาจามี’ติฯ ทุติยมฺปิ ยาจิตพฺพาฯ ตติยมฺปิ ยาจิตพฺพาฯ พฺยเตฺตน ภิกฺขุนา ปฎิพเลน สโงฺฆ ญาเปตโพฺพ –

    559. Tena kho pana samayena aññataro bhikkhu kosambiyaṃ gilāno hoti. Ñātakā tassa bhikkhuno santike dūtaṃ pāhesuṃ – ‘‘āgacchatu, bhadanto mayaṃ upaṭṭhahissāmā’’ti. Bhikkhūpi evamāhaṃsu – ‘‘gacchāvuso, ñātakā taṃ upaṭṭhahissantī’’ti. So evamāha – ‘‘bhagavatā, āvuso, sikkhāpadaṃ paññattaṃ – ‘navaṃ pana bhikkhunā santhataṃ kārāpetvā chabbassāni dhāretabba’nti. Ahañcamhi gilāno, na sakkomi santhataṃ ādāya pakkamituṃ. Mayhañca vinā santhatā na phāsu hoti. Nāhaṃ gamissāmī’’ti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. Atha kho bhagavā etasmiṃ nidāne etasmiṃ pakaraṇe dhammiṃ kathaṃ katvā bhikkhū āmantesi – ‘‘anujānāmi, bhikkhave, gilānassa bhikkhuno santhatasammutiṃ dātuṃ. Evañca pana , bhikkhave, dātabbā. Tena gilānena bhikkhunā saṅghaṃ upasaṅkamitvā ekaṃsaṃ uttarāsaṅgaṃ karitvā vuḍḍhānaṃ bhikkhūnaṃ pāde vanditvā ukkuṭikaṃ nisīditvā añjaliṃ paggahetvā evamassa vacanīyo – ‘ahaṃ, bhante, gilāno. Na sakkomi santhataṃ ādāya pakkamituṃ. Sohaṃ, bhante, saṅghaṃ santhatasammutiṃ yācāmī’ti. Dutiyampi yācitabbā. Tatiyampi yācitabbā. Byattena bhikkhunā paṭibalena saṅgho ñāpetabbo –

    ๕๖๐. ‘‘สุณาตุ เม, ภเนฺต, สโงฺฆฯ อยํ อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ คิลาโนฯ น สโกฺกติ สนฺถตํ อาทาย ปกฺกมิตุํฯ โส สงฺฆํ สนฺถตสมฺมุติํ ยาจติฯ ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สโงฺฆ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน สนฺถตสมฺมุติํ ทเทยฺยฯ เอสา ญตฺติฯ

    560. ‘‘Suṇātu me, bhante, saṅgho. Ayaṃ itthannāmo bhikkhu gilāno. Na sakkoti santhataṃ ādāya pakkamituṃ. So saṅghaṃ santhatasammutiṃ yācati. Yadi saṅghassa pattakallaṃ, saṅgho itthannāmassa bhikkhuno santhatasammutiṃ dadeyya. Esā ñatti.

    ‘‘สุณาตุ เม, ภเนฺต, สโงฺฆ ฯ อยํ อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ คิลาโนฯ น สโกฺกติ สนฺถตํ อาทาย ปกฺกมิตุํฯ โส สงฺฆํ สนฺถตสมฺมุติํ ยาจติฯ สโงฺฆ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน สนฺถตสมฺมุติํ เทติฯ ยสฺสายสฺมโต ขมติ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน สนฺถตสมฺมุติยา ทานํ, โส ตุณฺหสฺส; ยสฺส นกฺขมติ, โส ภาเสยฺยฯ

    ‘‘Suṇātu me, bhante, saṅgho . Ayaṃ itthannāmo bhikkhu gilāno. Na sakkoti santhataṃ ādāya pakkamituṃ. So saṅghaṃ santhatasammutiṃ yācati. Saṅgho itthannāmassa bhikkhuno santhatasammutiṃ deti. Yassāyasmato khamati itthannāmassa bhikkhuno santhatasammutiyā dānaṃ, so tuṇhassa; yassa nakkhamati, so bhāseyya.

    ‘‘ทินฺนา สเงฺฆน อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน สนฺถตสมฺมุติฯ ขมติ สงฺฆสฺส, ตสฺมา ตุณฺหี, เอวเมตํ ธารยามี’’ติฯ

    ‘‘Dinnā saṅghena itthannāmassa bhikkhuno santhatasammuti. Khamati saṅghassa, tasmā tuṇhī, evametaṃ dhārayāmī’’ti.

    เอวญฺจ ปน, ภิกฺขเว, อิมํ สิกฺขาปทํ อุทฺทิเสยฺยาถ –

    Evañca pana, bhikkhave, imaṃ sikkhāpadaṃ uddiseyyātha –

    ๕๖๑. ‘‘นวํ ปน ภิกฺขุนา สนฺถตํ การาเปตฺวา ฉพฺพสฺสานิ ธาเรตพฺพํฯ โอเรน เจ ฉนฺนํ วสฺสานํ ตํ สนฺถตํ วิสฺสเชฺชตฺวา วา อวิสฺสเชฺชตฺวา วา อญฺญํ นวํ สนฺถตํ การาเปยฺย, อญฺญตฺร ภิกฺขุสมฺมุติยา , นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติย’’นฺติฯ

    561.‘‘Navaṃ pana bhikkhunā santhataṃ kārāpetvā chabbassāni dhāretabbaṃ. Orena ce channaṃ vassānaṃ taṃ santhataṃ vissajjetvā vā avissajjetvā vā aññaṃ navaṃ santhataṃ kārāpeyya, aññatra bhikkhusammutiyā , nissaggiyaṃ pācittiya’’nti.

    ๕๖๒. นวํ นาม กรณํ อุปาทาย วุจฺจติฯ

    562.Navaṃ nāma karaṇaṃ upādāya vuccati.

    สนฺถตํ นาม สนฺถริตฺวา กตํ โหติ อวายิมํฯ

    Santhataṃ nāma santharitvā kataṃ hoti avāyimaṃ.

    การาเปตฺวาติ กริตฺวา วา การาเปตฺวา วาฯ

    Kārāpetvāti karitvā vā kārāpetvā vā.

    ฉพฺพสฺสานิ ธาเรตพฺพนฺติ ฉพฺพสฺสปรมตา ธาเรตพฺพํฯ

    Chabbassāni dhāretabbanti chabbassaparamatā dhāretabbaṃ.

    โอเรน เจ ฉนฺนํ วสฺสานนฺติ อูนกฉพฺพสฺสานิฯ

    Orena ce channaṃ vassānanti ūnakachabbassāni.

    ตํ สนฺถตํ วิสฺสเชฺชตฺวาติ อเญฺญสํ ทตฺวาฯ

    Taṃ santhataṃ vissajjetvāti aññesaṃ datvā.

    อวิสฺสเชฺชตฺวาติ น กสฺสจิ ทตฺวาฯ

    Avissajjetvāti na kassaci datvā.

    อญฺญตฺร ภิกฺขุสมฺมุติยาติ ฐเปตฺวา ภิกฺขุสมฺมุติํ อญฺญํ นวํ สนฺถตํ กโรติ วา การาเปติ วา, ปโยเค ทุกฺกฎํฯ ปฎิลาเภน นิสฺสคฺคิยํ โหติฯ นิสฺสชฺชิตพฺพํ สงฺฆสฺส วา คณสฺส วา ปุคฺคลสฺส วาฯ เอวญฺจ ปน, ภิกฺขเว, นิสฺสชฺชิตพฺพํ…เป.… อิทํ เม, ภเนฺต, สนฺถตํ อูนกฉพฺพสฺสานิ การาปิตํ, อญฺญตฺร ภิกฺขุสมฺมุติยา, นิสฺสคฺคิยํฯ อิมาหํ สงฺฆสฺส นิสฺสชฺชามีติ…เป.… ทเทยฺยาติ…เป.… ทเทยฺยุนฺติ…เป.… อายสฺมโต ทมฺมีติฯ

    Aññatra bhikkhusammutiyāti ṭhapetvā bhikkhusammutiṃ aññaṃ navaṃ santhataṃ karoti vā kārāpeti vā, payoge dukkaṭaṃ. Paṭilābhena nissaggiyaṃ hoti. Nissajjitabbaṃ saṅghassa vā gaṇassa vā puggalassa vā. Evañca pana, bhikkhave, nissajjitabbaṃ…pe… idaṃ me, bhante, santhataṃ ūnakachabbassāni kārāpitaṃ, aññatra bhikkhusammutiyā, nissaggiyaṃ. Imāhaṃ saṅghassa nissajjāmīti…pe… dadeyyāti…pe… dadeyyunti…pe… āyasmato dammīti.

    ๕๖๓. อตฺตนา วิปฺปกตํ อตฺตนา ปริโยสาเปติ, นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํฯ อตฺตนา วิปฺปกตํ ปเรหิ ปริโยสาเปติ, นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํ ฯ ปเรหิ วิปฺปกตํ อตฺตนา ปริโยสาเปติ, นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํฯ ปเรหิ วิปฺปกตํ ปเรหิ ปริโยสาเปติ, นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํฯ

    563. Attanā vippakataṃ attanā pariyosāpeti, nissaggiyaṃ pācittiyaṃ. Attanā vippakataṃ parehi pariyosāpeti, nissaggiyaṃ pācittiyaṃ . Parehi vippakataṃ attanā pariyosāpeti, nissaggiyaṃ pācittiyaṃ. Parehi vippakataṃ parehi pariyosāpeti, nissaggiyaṃ pācittiyaṃ.

    ๕๖๔. อนาปตฺติ ฉพฺพสฺสานิ กโรติ, อติเรกฉพฺพสฺสานิ กโรติ, อญฺญสฺสตฺถาย กโรติ วา การาเปติ วา, อเญฺญน กตํ ปฎิลภิตฺวา ปริภุญฺชติ , วิตานํ วา ภูมตฺถรณํ วา สาณิปาการํ วา ภิสิํ วา พิโพฺพหนํ วา กโรติ, ภิกฺขุสมฺมุติยา, อุมฺมตฺตกสฺส, อาทิกมฺมิกสฺสาติฯ

    564. Anāpatti chabbassāni karoti, atirekachabbassāni karoti, aññassatthāya karoti vā kārāpeti vā, aññena kataṃ paṭilabhitvā paribhuñjati , vitānaṃ vā bhūmattharaṇaṃ vā sāṇipākāraṃ vā bhisiṃ vā bibbohanaṃ vā karoti, bhikkhusammutiyā, ummattakassa, ādikammikassāti.

    ฉพฺพสฺสสิกฺขาปทํ นิฎฺฐิตํ จตุตฺถํฯ

    Chabbassasikkhāpadaṃ niṭṭhitaṃ catutthaṃ.







    Related texts:



    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / วินยปิฎก (อฎฺฐกถา) • Vinayapiṭaka (aṭṭhakathā) / มหาวิภงฺค-อฎฺฐกถา • Mahāvibhaṅga-aṭṭhakathā / ๔. ฉพฺพสฺสสิกฺขาปทวณฺณนา • 4. Chabbassasikkhāpadavaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā / ๔. ฉพฺพสฺสสิกฺขาปทวณฺณนา • 4. Chabbassasikkhāpadavaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā / ๔. ฉพฺพสฺสสิกฺขาปทวณฺณนา • 4. Chabbassasikkhāpadavaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā / ๔. ฉพฺพสฺสสิกฺขาปทวณฺณนา • 4. Chabbassasikkhāpadavaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact