Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / มชฺฌิมนิกาย • Majjhimanikāya |
๖. ฉฉกฺกสุตฺตํ
6. Chachakkasuttaṃ
๔๒๐. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเมฯ ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามเนฺตสิ – ‘‘ภิกฺขโว’’ติฯ ‘‘ภทเนฺต’’ติ เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจโสฺสสุํฯ ภควา เอตทโวจ – ‘‘ธมฺมํ โว, ภิกฺขเว, เทเสสฺสามิ อาทิกลฺยาณํ มเชฺฌกลฺยาณํ ปริโยสานกลฺยาณํ สาตฺถํ สพฺยญฺชนํ, เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ ปกาเสสฺสามิ, ยทิทํ – ฉ ฉกฺกานิฯ ตํ สุณาถ, สาธุกํ มนสิ กโรถ; ภาสิสฺสามี’’ติฯ ‘‘เอวํ, ภเนฺต’’ติ โข เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจโสฺสสุํฯ ภควา เอตทโวจ –
420. Evaṃ me sutaṃ – ekaṃ samayaṃ bhagavā sāvatthiyaṃ viharati jetavane anāthapiṇḍikassa ārāme. Tatra kho bhagavā bhikkhū āmantesi – ‘‘bhikkhavo’’ti. ‘‘Bhadante’’ti te bhikkhū bhagavato paccassosuṃ. Bhagavā etadavoca – ‘‘dhammaṃ vo, bhikkhave, desessāmi ādikalyāṇaṃ majjhekalyāṇaṃ pariyosānakalyāṇaṃ sātthaṃ sabyañjanaṃ, kevalaparipuṇṇaṃ parisuddhaṃ brahmacariyaṃ pakāsessāmi, yadidaṃ – cha chakkāni. Taṃ suṇātha, sādhukaṃ manasi karotha; bhāsissāmī’’ti. ‘‘Evaṃ, bhante’’ti kho te bhikkhū bhagavato paccassosuṃ. Bhagavā etadavoca –
‘‘ฉ อชฺฌตฺติกานิ อายตนานิ เวทิตพฺพานิ, ฉ พาหิรานิ อายตนานิ เวทิตพฺพานิ, ฉ วิญฺญาณกายา เวทิตพฺพา, ฉ ผสฺสกายา เวทิตพฺพา, ฉ เวทนากายา เวทิตพฺพา, ฉ ตณฺหากายา เวทิตพฺพาฯ
‘‘Cha ajjhattikāni āyatanāni veditabbāni, cha bāhirāni āyatanāni veditabbāni, cha viññāṇakāyā veditabbā, cha phassakāyā veditabbā, cha vedanākāyā veditabbā, cha taṇhākāyā veditabbā.
๔๒๑. ‘‘‘ฉ อชฺฌตฺติกานิ อายตนานิ เวทิตพฺพานี’ติ – อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํฯ กิเญฺจตํ ปฎิจฺจ วุตฺตํ? จกฺขายตนํ, โสตายตนํ, ฆานายตนํ, ชิวฺหายตนํ , กายายตนํ, มนายตนํฯ ‘ฉ อชฺฌตฺติกานิ อายตนานิ เวทิตพฺพานี’ติ – อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ, อิทเมตํ ปฎิจฺจ วุตฺตํฯ อิทํ ปฐมํ ฉกฺกํฯ
421. ‘‘‘Cha ajjhattikāni āyatanāni veditabbānī’ti – iti kho panetaṃ vuttaṃ. Kiñcetaṃ paṭicca vuttaṃ? Cakkhāyatanaṃ, sotāyatanaṃ, ghānāyatanaṃ, jivhāyatanaṃ , kāyāyatanaṃ, manāyatanaṃ. ‘Cha ajjhattikāni āyatanāni veditabbānī’ti – iti yaṃ taṃ vuttaṃ, idametaṃ paṭicca vuttaṃ. Idaṃ paṭhamaṃ chakkaṃ.
‘‘‘ฉ พาหิรานิ อายตนานิ เวทิตพฺพานี’ติ – อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ ฯ กิเญฺจตํ ปฎิจฺจ วุตฺตํ? รูปายตนํ, สทฺทายตนํ, คนฺธายตนํ, รสายตนํ, โผฎฺฐพฺพายตนํ, ธมฺมายตนํฯ ‘ฉ พาหิรานิ อายตนานิ เวทิตพฺพานี’ติ – อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ, อิทเมตํ ปฎิจฺจ วุตฺตํฯ อิทํ ทุติยํ ฉกฺกํฯ
‘‘‘Cha bāhirāni āyatanāni veditabbānī’ti – iti kho panetaṃ vuttaṃ . Kiñcetaṃ paṭicca vuttaṃ? Rūpāyatanaṃ, saddāyatanaṃ, gandhāyatanaṃ, rasāyatanaṃ, phoṭṭhabbāyatanaṃ, dhammāyatanaṃ. ‘Cha bāhirāni āyatanāni veditabbānī’ti – iti yaṃ taṃ vuttaṃ, idametaṃ paṭicca vuttaṃ. Idaṃ dutiyaṃ chakkaṃ.
‘‘‘ฉ วิญฺญาณกายา เวทิตพฺพา’ติ – อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํฯ กิเญฺจตํ ปฎิจฺจ วุตฺตํ? จกฺขุญฺจ ปฎิจฺจ รูเป จ อุปฺปชฺชติ จกฺขุวิญฺญาณํ, โสตญฺจ ปฎิจฺจ สเทฺท จ อุปฺปชฺชติ โสตวิญฺญาณํ, ฆานญฺจ ปฎิจฺจ คเนฺธ จ อุปฺปชฺชติ ฆานวิญฺญาณํ, ชิวฺหญฺจ ปฎิจฺจ รเส จ อุปฺปชฺชติ ชิวฺหาวิญฺญาณํ, กายญฺจ ปฎิจฺจ โผฎฺฐเพฺพ จ อุปฺปชฺชติ กายวิญฺญาณํ, มนญฺจ ปฎิจฺจ ธเมฺม จ อุปฺปชฺชติ มโนวิญฺญาณํฯ ‘ฉ วิญฺญาณกายา เวทิตพฺพา’ติ – อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ, อิทเมตํ ปฎิจฺจ วุตฺตํฯ อิทํ ตติยํ ฉกฺกํฯ
‘‘‘Cha viññāṇakāyā veditabbā’ti – iti kho panetaṃ vuttaṃ. Kiñcetaṃ paṭicca vuttaṃ? Cakkhuñca paṭicca rūpe ca uppajjati cakkhuviññāṇaṃ, sotañca paṭicca sadde ca uppajjati sotaviññāṇaṃ, ghānañca paṭicca gandhe ca uppajjati ghānaviññāṇaṃ, jivhañca paṭicca rase ca uppajjati jivhāviññāṇaṃ, kāyañca paṭicca phoṭṭhabbe ca uppajjati kāyaviññāṇaṃ, manañca paṭicca dhamme ca uppajjati manoviññāṇaṃ. ‘Cha viññāṇakāyā veditabbā’ti – iti yaṃ taṃ vuttaṃ, idametaṃ paṭicca vuttaṃ. Idaṃ tatiyaṃ chakkaṃ.
‘‘‘ฉ ผสฺสกายา เวทิตพฺพา’ติ – อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํฯ กิเญฺจตํ ปฎิจฺจ วุตฺตํ? จกฺขุญฺจ ปฎิจฺจ รูเป จ อุปฺปชฺชติ จกฺขุวิญฺญาณํ, ติณฺณํ สงฺคติ ผโสฺส; โสตญฺจ ปฎิจฺจ สเทฺท จ อุปฺปชฺชติ โสตวิญฺญาณํ, ติณฺณํ สงฺคติ ผโสฺส; ฆานญฺจ ปฎิจฺจ คเนฺธ จ อุปฺปชฺชติ ฆานวิญฺญาณํ, ติณฺณํ สงฺคติ ผโสฺส; ชิวฺหญฺจ ปฎิจฺจ รเส จ อุปฺปชฺชติ ชิวฺหาวิญฺญาณํ, ติณฺณํ สงฺคติ ผโสฺส; กายญฺจ ปฎิจฺจ โผฎฺฐเพฺพ จ อุปฺปชฺชติ กายวิญฺญาณํ, ติณฺณํ สงฺคติ ผโสฺส; มนญฺจ ปฎิจฺจ ธเมฺม จ อุปฺปชฺชติ มโนวิญฺญาณํ, ติณฺณํ สงฺคติ ผโสฺสฯ ‘ฉ ผสฺสกายา เวทิตพฺพา’ติ – อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ, อิทเมตํ ปฎิจฺจ วุตฺตํฯ อิทํ จตุตฺถํ ฉกฺกํฯ
‘‘‘Cha phassakāyā veditabbā’ti – iti kho panetaṃ vuttaṃ. Kiñcetaṃ paṭicca vuttaṃ? Cakkhuñca paṭicca rūpe ca uppajjati cakkhuviññāṇaṃ, tiṇṇaṃ saṅgati phasso; sotañca paṭicca sadde ca uppajjati sotaviññāṇaṃ, tiṇṇaṃ saṅgati phasso; ghānañca paṭicca gandhe ca uppajjati ghānaviññāṇaṃ, tiṇṇaṃ saṅgati phasso; jivhañca paṭicca rase ca uppajjati jivhāviññāṇaṃ, tiṇṇaṃ saṅgati phasso; kāyañca paṭicca phoṭṭhabbe ca uppajjati kāyaviññāṇaṃ, tiṇṇaṃ saṅgati phasso; manañca paṭicca dhamme ca uppajjati manoviññāṇaṃ, tiṇṇaṃ saṅgati phasso. ‘Cha phassakāyā veditabbā’ti – iti yaṃ taṃ vuttaṃ, idametaṃ paṭicca vuttaṃ. Idaṃ catutthaṃ chakkaṃ.
‘‘‘ฉ เวทนากายา เวทิตพฺพา’ติ – อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํฯ กิเญฺจตํ ปฎิจฺจ วุตฺตํ? จกฺขุญฺจ ปฎิจฺจ รูเป จ อุปฺปชฺชติ จกฺขุวิญฺญาณํ, ติณฺณํ สงฺคติ ผโสฺส, ผสฺสปจฺจยา เวทนา; โสตญฺจ ปฎิจฺจ สเทฺท จ อุปฺปชฺชติ โสตวิญฺญาณํ, ติณฺณํ สงฺคติ ผโสฺส, ผสฺสปจฺจยา เวทนา; ฆานญฺจ ปฎิจฺจ คเนฺธ จ อุปฺปชฺชติ ฆานวิญฺญาณํ, ติณฺณํ สงฺคติ ผโสฺส, ผสฺสปจฺจยา เวทนา; ชิวฺหญฺจ ปฎิจฺจ รเส จ อุปฺปชฺชติ ชิวฺหาวิญฺญาณํ, ติณฺณํ สงฺคติ ผโสฺส, ผสฺสปจฺจยา เวทนา; กายญฺจ ปฎิจฺจ โผฎฺฐเพฺพ จ อุปฺปชฺชติ กายวิญฺญาณํ, ติณฺณํ สงฺคติ ผโสฺส, ผสฺสปจฺจยา เวทนา; มนญฺจ ปฎิจฺจ ธเมฺม จ อุปฺปชฺชติ มโนวิญฺญาณํ, ติณฺณํ สงฺคติ ผโสฺส, ผสฺสปจฺจยา เวทนาฯ ‘ฉ เวทนากายา เวทิตพฺพา’ติ – อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ, อิทเมตํ ปฎิจฺจ วุตฺตํฯ อิทํ ปญฺจมํ ฉกฺกํฯ
‘‘‘Cha vedanākāyā veditabbā’ti – iti kho panetaṃ vuttaṃ. Kiñcetaṃ paṭicca vuttaṃ? Cakkhuñca paṭicca rūpe ca uppajjati cakkhuviññāṇaṃ, tiṇṇaṃ saṅgati phasso, phassapaccayā vedanā; sotañca paṭicca sadde ca uppajjati sotaviññāṇaṃ, tiṇṇaṃ saṅgati phasso, phassapaccayā vedanā; ghānañca paṭicca gandhe ca uppajjati ghānaviññāṇaṃ, tiṇṇaṃ saṅgati phasso, phassapaccayā vedanā; jivhañca paṭicca rase ca uppajjati jivhāviññāṇaṃ, tiṇṇaṃ saṅgati phasso, phassapaccayā vedanā; kāyañca paṭicca phoṭṭhabbe ca uppajjati kāyaviññāṇaṃ, tiṇṇaṃ saṅgati phasso, phassapaccayā vedanā; manañca paṭicca dhamme ca uppajjati manoviññāṇaṃ, tiṇṇaṃ saṅgati phasso, phassapaccayā vedanā. ‘Cha vedanākāyā veditabbā’ti – iti yaṃ taṃ vuttaṃ, idametaṃ paṭicca vuttaṃ. Idaṃ pañcamaṃ chakkaṃ.
‘‘‘ฉ ตณฺหากายา เวทิตพฺพา’ติ – อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํฯ กิเญฺจตํ ปฎิจฺจ วุตฺตํ? จกฺขุญฺจ ปฎิจฺจ รูเป จ อุปฺปชฺชติ จกฺขุวิญฺญาณํ, ติณฺณํ สงฺคติ ผโสฺส, ผสฺสปจฺจยา เวทนา, เวทนาปจฺจยา ตณฺหา; โสตญฺจ ปฎิจฺจ สเทฺท จ อุปฺปชฺชติ โสตวิญฺญาณํ…เป.… ฆานญฺจ ปฎิจฺจ คเนฺธ จ อุปฺปชฺชติ ฆานวิญฺญาณํ… ชิวฺหญฺจ ปฎิจฺจ รเส จ อุปฺปชฺชติ ชิวฺหาวิญฺญาณํ… กายญฺจ ปฎิจฺจ โผฎฺฐเพฺพ จ อุปฺปชฺชติ กายวิญฺญาณํ… มนญฺจ ปฎิจฺจ ธเมฺม จ อุปฺปชฺชติ มโนวิญฺญาณํ, ติณฺณํ สงฺคติ ผโสฺส, ผสฺสปจฺจยา เวทนา, เวทนาปจฺจยา ตณฺหาฯ ‘ฉ ตณฺหากายา เวทิตพฺพา’ติ – อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ, อิทเมตํ ปฎิจฺจ วุตฺตํฯ อิทํ ฉฎฺฐํ ฉกฺกํฯ
‘‘‘Cha taṇhākāyā veditabbā’ti – iti kho panetaṃ vuttaṃ. Kiñcetaṃ paṭicca vuttaṃ? Cakkhuñca paṭicca rūpe ca uppajjati cakkhuviññāṇaṃ, tiṇṇaṃ saṅgati phasso, phassapaccayā vedanā, vedanāpaccayā taṇhā; sotañca paṭicca sadde ca uppajjati sotaviññāṇaṃ…pe… ghānañca paṭicca gandhe ca uppajjati ghānaviññāṇaṃ… jivhañca paṭicca rase ca uppajjati jivhāviññāṇaṃ… kāyañca paṭicca phoṭṭhabbe ca uppajjati kāyaviññāṇaṃ… manañca paṭicca dhamme ca uppajjati manoviññāṇaṃ, tiṇṇaṃ saṅgati phasso, phassapaccayā vedanā, vedanāpaccayā taṇhā. ‘Cha taṇhākāyā veditabbā’ti – iti yaṃ taṃ vuttaṃ, idametaṃ paṭicca vuttaṃ. Idaṃ chaṭṭhaṃ chakkaṃ.
๔๒๒. ‘‘‘จกฺขุ อตฺตา’ติ โย วเทยฺย ตํ น อุปปชฺชติฯ จกฺขุสฺส อุปฺปาโทปิ วโยปิ ปญฺญายติฯ ยสฺส โข ปน อุปฺปาโทปิ วโยปิ ปญฺญายติ, ‘อตฺตา เม อุปฺปชฺชติ จ เวติ จา’ติ อิจฺจสฺส เอวมาคตํ โหติฯ ตสฺมา ตํ น อุปปชฺชติ – ‘จกฺขุ อตฺตา’ติ โย วเทยฺยฯ อิติ จกฺขุ อนตฺตาฯ
422. ‘‘‘Cakkhu attā’ti yo vadeyya taṃ na upapajjati. Cakkhussa uppādopi vayopi paññāyati. Yassa kho pana uppādopi vayopi paññāyati, ‘attā me uppajjati ca veti cā’ti iccassa evamāgataṃ hoti. Tasmā taṃ na upapajjati – ‘cakkhu attā’ti yo vadeyya. Iti cakkhu anattā.
‘‘‘รูปา อตฺตา’ติ โย วเทยฺย ตํ น อุปปชฺชติฯ รูปานํ อุปฺปาโทปิ วโยปิ ปญฺญายติฯ ยสฺส โข ปน อุปฺปาโทปิ วโยปิ ปญฺญายติ, ‘อตฺตา เม อุปฺปชฺชติ จ เวติ จา’ติ อิจฺจสฺส เอวมาคตํ โหติฯ ตสฺมา ตํ น อุปปชฺชติ – ‘รูปา อตฺตา’ติ โย วเทยฺยฯ อิติ จกฺขุ อนตฺตา, รูปา อนตฺตาฯ
‘‘‘Rūpā attā’ti yo vadeyya taṃ na upapajjati. Rūpānaṃ uppādopi vayopi paññāyati. Yassa kho pana uppādopi vayopi paññāyati, ‘attā me uppajjati ca veti cā’ti iccassa evamāgataṃ hoti. Tasmā taṃ na upapajjati – ‘rūpā attā’ti yo vadeyya. Iti cakkhu anattā, rūpā anattā.
‘‘‘จกฺขุวิญฺญาณํ อตฺตา’ติ โย วเทยฺย ตํ น อุปปชฺชติฯ จกฺขุวิญฺญาณสฺส อุปฺปาโทปิ วโยปิ ปญฺญายติฯ ยสฺส โข ปน อุปฺปาโทปิ วโยปิ ปญฺญายติ, ‘อตฺตา เม อุปฺปชฺชติ จ เวติ จา’ติ อิจฺจสฺส เอวมาคตํ โหติฯ ตสฺมา ตํ น อุปปชฺชติ – ‘จกฺขุวิญฺญาณํ อตฺตา’ติ โย วเทยฺยฯ อิติ จกฺขุ อนตฺตา, รูปา อนตฺตา, จกฺขุวิญฺญาณํ อนตฺตาฯ
‘‘‘Cakkhuviññāṇaṃ attā’ti yo vadeyya taṃ na upapajjati. Cakkhuviññāṇassa uppādopi vayopi paññāyati. Yassa kho pana uppādopi vayopi paññāyati, ‘attā me uppajjati ca veti cā’ti iccassa evamāgataṃ hoti. Tasmā taṃ na upapajjati – ‘cakkhuviññāṇaṃ attā’ti yo vadeyya. Iti cakkhu anattā, rūpā anattā, cakkhuviññāṇaṃ anattā.
‘‘‘จกฺขุสมฺผโสฺส อตฺตา’ติ โย วเทยฺย ตํ น อุปปชฺชติฯ จกฺขุสมฺผสฺสสฺส อุปฺปาโทปิ วโยปิ ปญฺญายติ ฯ ยสฺส โข ปน อุปฺปาโทปิ วโยปิ ปญฺญายติ, ‘อตฺตา เม อุปฺปชฺชติ จ เวติ จา’ติ อิจฺจสฺส เอวมาคตํ โหติฯ ตสฺมา ตํ น อุปปชฺชติ – ‘จกฺขุสมฺผโสฺส อตฺตา’ติ โย วเทยฺยฯ อิติ จกฺขุ อนตฺตา, รูปา อนตฺตา, จกฺขุวิญฺญาณํ อนตฺตา, จกฺขุสมฺผโสฺส อนตฺตาฯ
‘‘‘Cakkhusamphasso attā’ti yo vadeyya taṃ na upapajjati. Cakkhusamphassassa uppādopi vayopi paññāyati . Yassa kho pana uppādopi vayopi paññāyati, ‘attā me uppajjati ca veti cā’ti iccassa evamāgataṃ hoti. Tasmā taṃ na upapajjati – ‘cakkhusamphasso attā’ti yo vadeyya. Iti cakkhu anattā, rūpā anattā, cakkhuviññāṇaṃ anattā, cakkhusamphasso anattā.
‘‘‘เวทนา อตฺตา’ติ โย วเทยฺย ตํ น อุปปชฺชติฯ เวทนาย อุปฺปาโทปิ วโยปิ ปญฺญายติฯ ยสฺส โข ปน อุปฺปาโทปิ วโยปิ ปญฺญายติ, ‘อตฺตา เม อุปฺปชฺชติ จ เวติ จา’ติ อิจฺจสฺส เอวมาคตํ โหติฯ ตสฺมา ตํ น อุปปชฺชติ – ‘เวทนา อตฺตา’ติ โย วเทยฺยฯ อิติ จกฺขุ อนตฺตา, รูปา อนตฺตา, จกฺขุวิญฺญาณํ อนตฺตา, จกฺขุสมฺผโสฺส อนตฺตา, เวทนา อนตฺตาฯ
‘‘‘Vedanā attā’ti yo vadeyya taṃ na upapajjati. Vedanāya uppādopi vayopi paññāyati. Yassa kho pana uppādopi vayopi paññāyati, ‘attā me uppajjati ca veti cā’ti iccassa evamāgataṃ hoti. Tasmā taṃ na upapajjati – ‘vedanā attā’ti yo vadeyya. Iti cakkhu anattā, rūpā anattā, cakkhuviññāṇaṃ anattā, cakkhusamphasso anattā, vedanā anattā.
‘‘‘ตณฺหา อตฺตา’ติ โย วเทยฺย ตํ น อุปปชฺชติฯ ตณฺหาย อุปฺปาโทปิ วโยปิ ปญฺญายติฯ ยสฺส โข ปน อุปฺปาโทปิ วโยปิ ปญฺญายติ, ‘อตฺตา เม อุปฺปชฺชติ จ เวติ จา’ติ อิจฺจสฺส เอวมาคตํ โหติฯ ตสฺมา ตํ น อุปปชฺชติ – ‘ตณฺหา อตฺตา’ติ โย วเทยฺยฯ อิติ จกฺขุ อนตฺตา, รูปา อนตฺตา, จกฺขุวิญฺญาณํ อนตฺตา, จกฺขุสมฺผโสฺส อนตฺตา, เวทนา อนตฺตา, ตณฺหา อนตฺตาฯ
‘‘‘Taṇhā attā’ti yo vadeyya taṃ na upapajjati. Taṇhāya uppādopi vayopi paññāyati. Yassa kho pana uppādopi vayopi paññāyati, ‘attā me uppajjati ca veti cā’ti iccassa evamāgataṃ hoti. Tasmā taṃ na upapajjati – ‘taṇhā attā’ti yo vadeyya. Iti cakkhu anattā, rūpā anattā, cakkhuviññāṇaṃ anattā, cakkhusamphasso anattā, vedanā anattā, taṇhā anattā.
๔๒๓. ‘‘‘โสตํ อตฺตา’ติ โย วเทยฺย…เป.… ‘ฆานํ อตฺตา’ติ โย วเทยฺย… ‘ชิวฺหา อตฺตา’ติ โย วเทยฺย… ‘กาโย อตฺตา’ติ โย วเทยฺย… ‘มโน อตฺตา’ติ โย วเทยฺย ตํ น อุปปชฺชติฯ มนสฺส อุปฺปาโทปิ วโยปิ ปญฺญายติฯ ยสฺส โข ปน อุปฺปาโทปิ วโยปิ ปญฺญายติ, ‘อตฺตา เม อุปฺปชฺชติ จ เวติ จา’ติ อิจฺจสฺส เอวมาคตํ โหติฯ ตสฺมา ตํ น อุปปชฺชติ – ‘มโน อตฺตา’ติ โย วเทยฺยฯ อิติ มโน อนตฺตาฯ
423. ‘‘‘Sotaṃ attā’ti yo vadeyya…pe… ‘ghānaṃ attā’ti yo vadeyya… ‘jivhā attā’ti yo vadeyya… ‘kāyo attā’ti yo vadeyya… ‘mano attā’ti yo vadeyya taṃ na upapajjati. Manassa uppādopi vayopi paññāyati. Yassa kho pana uppādopi vayopi paññāyati, ‘attā me uppajjati ca veti cā’ti iccassa evamāgataṃ hoti. Tasmā taṃ na upapajjati – ‘mano attā’ti yo vadeyya. Iti mano anattā.
‘‘‘ธมฺมา อตฺตา’ติ โย วเทยฺย ตํ น อุปปชฺชติฯ ธมฺมานํ อุปฺปาโทปิ วโยปิ ปญฺญายติฯ ยสฺส โข ปน อุปฺปาโทปิ วโยปิ ปญฺญายติ, ‘อตฺตา เม อุปฺปชฺชติ จ เวติ จา’ติ อิจฺจสฺส เอวมาคตํ โหติฯ ตสฺมา ตํ น อุปปชฺชติ – ‘ธมฺมา อตฺตา’ติ โย วเทยฺยฯ อิติ มโน อนตฺตา, ธมฺมา อนตฺตาฯ
‘‘‘Dhammā attā’ti yo vadeyya taṃ na upapajjati. Dhammānaṃ uppādopi vayopi paññāyati. Yassa kho pana uppādopi vayopi paññāyati, ‘attā me uppajjati ca veti cā’ti iccassa evamāgataṃ hoti. Tasmā taṃ na upapajjati – ‘dhammā attā’ti yo vadeyya. Iti mano anattā, dhammā anattā.
‘‘‘มโนวิญฺญาณํ อตฺตา’ติ โย วเทยฺย ตํ น อุปปชฺชติฯ มโนวิญฺญาณสฺส อุปฺปาโทปิ วโยปิ ปญฺญายติฯ ยสฺส โข ปน อุปฺปาโทปิ วโยปิ ปญฺญายติ, ‘อตฺตา เม อุปฺปชฺชติ จ เวติ จา’ติ อิจฺจสฺส เอวมาคตํ โหติฯ ตสฺมา ตํ น อุปปชฺชติ – ‘มโนวิญฺญาณํ อตฺตา’ติ โย วเทยฺยฯ อิติ มโน อนตฺตา, ธมฺมา อนตฺตา, มโนวิญฺญาณํ อนตฺตาฯ
‘‘‘Manoviññāṇaṃ attā’ti yo vadeyya taṃ na upapajjati. Manoviññāṇassa uppādopi vayopi paññāyati. Yassa kho pana uppādopi vayopi paññāyati, ‘attā me uppajjati ca veti cā’ti iccassa evamāgataṃ hoti. Tasmā taṃ na upapajjati – ‘manoviññāṇaṃ attā’ti yo vadeyya. Iti mano anattā, dhammā anattā, manoviññāṇaṃ anattā.
‘‘‘มโนสมฺผโสฺส อตฺตา’ติ โย วเทยฺย ตํ น อุปปชฺชติฯ มโนสมฺผสฺสสฺส อุปฺปาโทปิ วโยปิ ปญฺญายติฯ ยสฺส โข ปน อุปฺปาโทปิ วโยปิ ปญฺญายติ, ‘อตฺตา เม อุปฺปชฺชติ จ เวติ จา’ติ อิจฺจสฺส เอวมาคตํ โหติฯ ตสฺมา ตํ น อุปปชฺชติ – ‘มโนสมฺผโสฺส อตฺตา’ติ โย วเทยฺยฯ อิติ มโน อนตฺตา, ธมฺมา อนตฺตา, มโนวิญฺญาณํ อนตฺตา, มโนสมฺผโสฺส อนตฺตาฯ
‘‘‘Manosamphasso attā’ti yo vadeyya taṃ na upapajjati. Manosamphassassa uppādopi vayopi paññāyati. Yassa kho pana uppādopi vayopi paññāyati, ‘attā me uppajjati ca veti cā’ti iccassa evamāgataṃ hoti. Tasmā taṃ na upapajjati – ‘manosamphasso attā’ti yo vadeyya. Iti mano anattā, dhammā anattā, manoviññāṇaṃ anattā, manosamphasso anattā.
‘‘‘เวทนา อตฺตา’ติ โย วเทยฺย ตํ น อุปปชฺชติฯ เวทนาย อุปฺปาโทปิ วโยปิ ปญฺญายติฯ ยสฺส โข ปน อุปฺปาโทปิ วโยปิ ปญฺญายติ, ‘อตฺตา เม อุปฺปชฺชติ จ เวติ จา’ติ อิจฺจสฺส เอวมาคตํ โหติฯ ตสฺมา ตํ น อุปปชฺชติ – ‘เวทนา อตฺตา’ติ โย วเทยฺยฯ อิติ มโน อนตฺตา, ธมฺมา อนตฺตา, มโนวิญฺญาณํ อนตฺตา, มโนสมฺผโสฺส อนตฺตา, เวทนา อนตฺตาฯ
‘‘‘Vedanā attā’ti yo vadeyya taṃ na upapajjati. Vedanāya uppādopi vayopi paññāyati. Yassa kho pana uppādopi vayopi paññāyati, ‘attā me uppajjati ca veti cā’ti iccassa evamāgataṃ hoti. Tasmā taṃ na upapajjati – ‘vedanā attā’ti yo vadeyya. Iti mano anattā, dhammā anattā, manoviññāṇaṃ anattā, manosamphasso anattā, vedanā anattā.
‘‘‘ตณฺหา อตฺตา’ติ โย วเทยฺย ตํ น อุปปชฺชติฯ ตณฺหาย อุปฺปาโทปิ วโยปิ ปญฺญายติฯ ยสฺส โข ปน อุปฺปาโทปิ วโยปิ ปญฺญายติ, ‘อตฺตา เม อุปฺปชฺชติ จ เวติ จา’ติ อิจฺจสฺส เอวมาคตํ โหติฯ ตสฺมา ตํ น อุปปชฺชติ – ‘ตณฺหา อตฺตา’ติ โย วเทยฺยฯ อิติ มโน อนตฺตา, ธมฺมา อนตฺตา, มโนวิญฺญาณํ อนตฺตา, มโนสมฺผโสฺส อนตฺตา, เวทนา อนตฺตา, ตณฺหา อนตฺตาฯ
‘‘‘Taṇhā attā’ti yo vadeyya taṃ na upapajjati. Taṇhāya uppādopi vayopi paññāyati. Yassa kho pana uppādopi vayopi paññāyati, ‘attā me uppajjati ca veti cā’ti iccassa evamāgataṃ hoti. Tasmā taṃ na upapajjati – ‘taṇhā attā’ti yo vadeyya. Iti mano anattā, dhammā anattā, manoviññāṇaṃ anattā, manosamphasso anattā, vedanā anattā, taṇhā anattā.
๔๒๔. ‘‘อยํ โข ปน, ภิกฺขเว, สกฺกายสมุทยคามินี ปฎิปทา – จกฺขุํ ‘เอตํ มม, เอโสหมสฺมิ, เอโส เม อตฺตา’ติ สมนุปสฺสติ; รูเป ‘เอตํ มม, เอโสหมสฺมิ, เอโส เม อตฺตา’ติ สมนุปสฺสติ; จกฺขุวิญฺญาณํ ‘เอตํ มม, เอโสหมสฺมิ, เอโส เม อตฺตา’ติ สมนุปสฺสติ; จกฺขุสมฺผสฺสํ ‘เอตํ มม, เอโสหมสฺมิ, เอโส เม อตฺตา’ติ สมนุปสฺสติ; เวทนํ ‘เอตํ มม , เอโสหมสฺมิ, เอโส เม อตฺตา’ติ สมนุปสฺสติ; ตณฺหํ ‘เอตํ มม, เอโสหมสฺมิ, เอโส เม อตฺตา’ติ สมนุปสฺสติ; โสตํ ‘เอตํ มม, เอโสหมสฺมิ, เอโส เม อตฺตา’ติ สมนุปสฺสติ…เป.… ฆานํ ‘เอตํ มม, เอโสหมสฺมิ, เอโส เม อตฺตา’ติ สมนุปสฺสติ…เป.… ชิวฺหํ ‘เอตํ มม, เอโสหมสฺมิ, เอโส เม อตฺตา’ติ สมนุปสฺสติ…เป.… กายํ ‘เอตํ มม, เอโสหมสฺมิ, เอโส เม อตฺตา’ติ สมนุปสฺสติ…เป.… มนํ ‘เอตํ มม, เอโสหมสฺมิ, เอโส เม อตฺตา’ติ สมนุปสฺสติ, ธเมฺม ‘เอตํ มม, เอโสหมสฺมิ, เอโส เม อตฺตา’ติ สมนุปสฺสติ, มโนวิญฺญาณํ ‘เอตํ มม, เอโสหมสฺมิ, เอโส เม อตฺตา’ติ สมนุปสฺสติ, มโนสมฺผสฺสํ ‘เอตํ มม, เอโสหมสฺมิ, เอโส เม อตฺตา’ติ สมนุปสฺสติ, เวทนํ ‘เอตํ มม, เอโสหมสฺมิ, เอโส เม อตฺตา’ติ สมนุปสฺสติ, ตณฺหํ ‘เอตํ มม, เอโสหมสฺมิ, เอโส เม อตฺตา’ติ สมนุปสฺสติฯ
424. ‘‘Ayaṃ kho pana, bhikkhave, sakkāyasamudayagāminī paṭipadā – cakkhuṃ ‘etaṃ mama, esohamasmi, eso me attā’ti samanupassati; rūpe ‘etaṃ mama, esohamasmi, eso me attā’ti samanupassati; cakkhuviññāṇaṃ ‘etaṃ mama, esohamasmi, eso me attā’ti samanupassati; cakkhusamphassaṃ ‘etaṃ mama, esohamasmi, eso me attā’ti samanupassati; vedanaṃ ‘etaṃ mama , esohamasmi, eso me attā’ti samanupassati; taṇhaṃ ‘etaṃ mama, esohamasmi, eso me attā’ti samanupassati; sotaṃ ‘etaṃ mama, esohamasmi, eso me attā’ti samanupassati…pe… ghānaṃ ‘etaṃ mama, esohamasmi, eso me attā’ti samanupassati…pe… jivhaṃ ‘etaṃ mama, esohamasmi, eso me attā’ti samanupassati…pe… kāyaṃ ‘etaṃ mama, esohamasmi, eso me attā’ti samanupassati…pe… manaṃ ‘etaṃ mama, esohamasmi, eso me attā’ti samanupassati, dhamme ‘etaṃ mama, esohamasmi, eso me attā’ti samanupassati, manoviññāṇaṃ ‘etaṃ mama, esohamasmi, eso me attā’ti samanupassati, manosamphassaṃ ‘etaṃ mama, esohamasmi, eso me attā’ti samanupassati, vedanaṃ ‘etaṃ mama, esohamasmi, eso me attā’ti samanupassati, taṇhaṃ ‘etaṃ mama, esohamasmi, eso me attā’ti samanupassati.
‘‘อยํ โข ปน, ภิกฺขเว, สกฺกายนิโรธคามินี ปฎิปทา – จกฺขุํ ‘เนตํ มม, เนโสหมสฺมิ, น เมโส อตฺตา’ติ สมนุปสฺสติฯ รูเป ‘เนตํ มม, เนโสหมสฺมิ, น เมโส อตฺตา’ติ สมนุปสฺสติฯ จกฺขุวิญฺญาณํ ‘เนตํ มม, เนโสหมสฺมิ, น เมโส อตฺตา’ติ สมนุปสฺสติฯ จกฺขุสมฺผสฺสํ ‘เนตํ มม, เนโสหมสฺมิ, น เมโส อตฺตา’ติ สมนุปสฺสติฯ เวทนํ ‘เนตํ มม, เนโสหมสฺมิ, น เมโส อตฺตา’ติ สมนุปสฺสติฯ ตณฺหํ ‘เนตํ มม, เนโสหมสฺมิ, น เมโส อตฺตา’ติ สมนุปสฺสติฯ โสตํ ‘เนตํ มม, เนโสหมสฺมิ, น เมโส อตฺตา’ติ สมนุปสฺสติ…เป.… ฆานํ ‘เนตํ มม, เนโสหมสฺมิ, น เมโส อตฺตา’ติ สมนุปสฺสติ… ชิวฺหํ ‘เนตํ มม, เนโสหมสฺมิ, น เมโส อตฺตา’ติ สมนุปสฺสติ… กายํ ‘เนตํ มม, เนโสหมสฺมิ, น เมโส อตฺตา’ติ สมนุปสฺสติ… มนํ ‘เนตํ มม, เนโสหมสฺมิ, น เมโส อตฺตา’ติ สมนุปสฺสติฯ ธเมฺม ‘เนตํ มม, เนโสหมสฺมิ, น เมโส อตฺตา’ติ สมนุปสฺสติฯ มโนวิญฺญาณํ ‘เนตํ มม, เนโสหมสฺมิ, น เมโส อตฺตา’ติ สมนุปสฺสติฯ มโนสมฺผสฺสํ ‘เนตํ มม, เนโสหมสฺมิ, น เมโส อตฺตา’ติ สมนุปสฺสติฯ เวทนํ ‘เนตํ มม, เนโสหมสฺมิ, น เมโส อตฺตา’ติ สมนุปสฺสติฯ ตณฺหํ ‘เนตํ มม, เนโสหมสฺมิ, น เมโส อตฺตา’ติ สมนุปสฺสติฯ
‘‘Ayaṃ kho pana, bhikkhave, sakkāyanirodhagāminī paṭipadā – cakkhuṃ ‘netaṃ mama, nesohamasmi, na meso attā’ti samanupassati. Rūpe ‘netaṃ mama, nesohamasmi, na meso attā’ti samanupassati. Cakkhuviññāṇaṃ ‘netaṃ mama, nesohamasmi, na meso attā’ti samanupassati. Cakkhusamphassaṃ ‘netaṃ mama, nesohamasmi, na meso attā’ti samanupassati. Vedanaṃ ‘netaṃ mama, nesohamasmi, na meso attā’ti samanupassati. Taṇhaṃ ‘netaṃ mama, nesohamasmi, na meso attā’ti samanupassati. Sotaṃ ‘netaṃ mama, nesohamasmi, na meso attā’ti samanupassati…pe… ghānaṃ ‘netaṃ mama, nesohamasmi, na meso attā’ti samanupassati… jivhaṃ ‘netaṃ mama, nesohamasmi, na meso attā’ti samanupassati… kāyaṃ ‘netaṃ mama, nesohamasmi, na meso attā’ti samanupassati… manaṃ ‘netaṃ mama, nesohamasmi, na meso attā’ti samanupassati. Dhamme ‘netaṃ mama, nesohamasmi, na meso attā’ti samanupassati. Manoviññāṇaṃ ‘netaṃ mama, nesohamasmi, na meso attā’ti samanupassati. Manosamphassaṃ ‘netaṃ mama, nesohamasmi, na meso attā’ti samanupassati. Vedanaṃ ‘netaṃ mama, nesohamasmi, na meso attā’ti samanupassati. Taṇhaṃ ‘netaṃ mama, nesohamasmi, na meso attā’ti samanupassati.
๔๒๕. ‘‘จกฺขุญฺจ, ภิกฺขเว, ปฎิจฺจ รูเป จ อุปฺปชฺชติ จกฺขุวิญฺญาณํ, ติณฺณํ สงฺคติ ผโสฺส, ผสฺสปจฺจยา อุปฺปชฺชติ เวทยิตํ สุขํ วา ทุกฺขํ วา อทุกฺขมสุขํ วาฯ โส สุขาย เวทนาย ผุโฎฺฐ สมาโน อภินนฺทติ อภิวทติ อโชฺฌสาย ติฎฺฐติฯ ตสฺส ราคานุสโย อนุเสติฯ ทุกฺขาย เวทนาย ผุโฎฺฐ สมาโน โสจติ กิลมติ ปริเทวติ อุรตฺตาฬิํ กนฺทติ สโมฺมหํ อาปชฺชติฯ ตสฺส ปฎิฆานุสโย อนุเสติฯ อทุกฺขมสุขาย เวทนาย ผุโฎฺฐ สมาโน ตสฺสา เวทนาย สมุทยญฺจ อตฺถงฺคมญฺจ อสฺสาทญฺจ อาทีนวญฺจ นิสฺสรณญฺจ ยถาภูตํ นปฺปชานาติฯ ตสฺส อวิชฺชานุสโย อนุเสติฯ โส วต, ภิกฺขเว, สุขาย เวทนาย ราคานุสยํ อปฺปหาย ทุกฺขาย เวทนาย ปฎิฆานุสยํ อปฺปฎิวิโนเทตฺวา อทุกฺขมสุขาย เวทนาย อวิชฺชานุสยํ อสมูหนิตฺวา อวิชฺชํ อปฺปหาย วิชฺชํ อนุปฺปาเทตฺวา ทิเฎฺฐว ธเมฺม ทุกฺขสฺสนฺตกโร ภวิสฺสตีติ – เนตํ ฐานํ วิชฺชติฯ
425. ‘‘Cakkhuñca, bhikkhave, paṭicca rūpe ca uppajjati cakkhuviññāṇaṃ, tiṇṇaṃ saṅgati phasso, phassapaccayā uppajjati vedayitaṃ sukhaṃ vā dukkhaṃ vā adukkhamasukhaṃ vā. So sukhāya vedanāya phuṭṭho samāno abhinandati abhivadati ajjhosāya tiṭṭhati. Tassa rāgānusayo anuseti. Dukkhāya vedanāya phuṭṭho samāno socati kilamati paridevati urattāḷiṃ kandati sammohaṃ āpajjati. Tassa paṭighānusayo anuseti. Adukkhamasukhāya vedanāya phuṭṭho samāno tassā vedanāya samudayañca atthaṅgamañca assādañca ādīnavañca nissaraṇañca yathābhūtaṃ nappajānāti. Tassa avijjānusayo anuseti. So vata, bhikkhave, sukhāya vedanāya rāgānusayaṃ appahāya dukkhāya vedanāya paṭighānusayaṃ appaṭivinodetvā adukkhamasukhāya vedanāya avijjānusayaṃ asamūhanitvā avijjaṃ appahāya vijjaṃ anuppādetvā diṭṭheva dhamme dukkhassantakaro bhavissatīti – netaṃ ṭhānaṃ vijjati.
‘‘โสตญฺจ, ภิกฺขเว, ปฎิจฺจ สเทฺท จ อุปฺปชฺชติ โสตวิญฺญาณํ…เป.… ฆานญฺจ, ภิกฺขเว, ปฎิจฺจ คเนฺธ จ อุปฺปชฺชติ ฆานวิญฺญาณํ…เป.… ชิวฺหญฺจ, ภิกฺขเว, ปฎิจฺจ รเส จ อุปฺปชฺชติ ชิวฺหาวิญฺญาณํ…เป.… กายญฺจ, ภิกฺขเว, ปฎิจฺจ โผฎฺฐเพฺพ จ อุปฺปชฺชติ กายวิญฺญาณํ…เป.… มนญฺจ, ภิกฺขเว, ปฎิจฺจ ธเมฺม จ อุปฺปชฺชติ มโนวิญฺญาณํ, ติณฺณํ สงฺคติ ผโสฺส, ผสฺสปจฺจยา อุปฺปชฺชติ เวทยิตํ สุขํ วา ทุกฺขํ วา อทุกฺขมสุขํ วาฯ โส สุขาย เวทนาย ผุโฎฺฐ สมาโน อภินนฺทติ อภิวทติ อโชฺฌสาย ติฎฺฐติฯ ตสฺส ราคานุสโย อนุเสติฯ ทุกฺขาย เวทนาย ผุโฎฺฐ สมาโน โสจติ กิลมติ ปริเทวติ อุรตฺตาฬิํ กนฺทติ สโมฺมหํ อาปชฺชติฯ ตสฺส ปฎิฆานุสโย อนุเสติฯ อทุกฺขมสุขาย เวทนาย ผุโฎฺฐ สมาโน ตสฺสา เวทนาย สมุทยญฺจ อตฺถงฺคมญฺจ อสฺสาทญฺจ อาทีนวญฺจ นิสฺสรณญฺจ ยถาภูตํ นปฺปชานาติฯ ตสฺส อวิชฺชานุสโย อนุเสติฯ โส วต, ภิกฺขเว, สุขาย เวทนาย ราคานุสยํ อปฺปหาย ทุกฺขาย เวทนาย ปฎิฆานุสยํ อปฺปฎิวิโนเทตฺวา อทุกฺขมสุขาย เวทนาย อวิชฺชานุสยํ อสมูหนิตฺวา อวิชฺชํ อปฺปหาย วิชฺชํ อนุปฺปาเทตฺวา ทิเฎฺฐว ธเมฺม ทุกฺขสฺสนฺตกโร ภวิสฺสตีติ – เนตํ ฐานํ วิชฺชติฯ
‘‘Sotañca, bhikkhave, paṭicca sadde ca uppajjati sotaviññāṇaṃ…pe… ghānañca, bhikkhave, paṭicca gandhe ca uppajjati ghānaviññāṇaṃ…pe… jivhañca, bhikkhave, paṭicca rase ca uppajjati jivhāviññāṇaṃ…pe… kāyañca, bhikkhave, paṭicca phoṭṭhabbe ca uppajjati kāyaviññāṇaṃ…pe… manañca, bhikkhave, paṭicca dhamme ca uppajjati manoviññāṇaṃ, tiṇṇaṃ saṅgati phasso, phassapaccayā uppajjati vedayitaṃ sukhaṃ vā dukkhaṃ vā adukkhamasukhaṃ vā. So sukhāya vedanāya phuṭṭho samāno abhinandati abhivadati ajjhosāya tiṭṭhati. Tassa rāgānusayo anuseti. Dukkhāya vedanāya phuṭṭho samāno socati kilamati paridevati urattāḷiṃ kandati sammohaṃ āpajjati. Tassa paṭighānusayo anuseti. Adukkhamasukhāya vedanāya phuṭṭho samāno tassā vedanāya samudayañca atthaṅgamañca assādañca ādīnavañca nissaraṇañca yathābhūtaṃ nappajānāti. Tassa avijjānusayo anuseti. So vata, bhikkhave, sukhāya vedanāya rāgānusayaṃ appahāya dukkhāya vedanāya paṭighānusayaṃ appaṭivinodetvā adukkhamasukhāya vedanāya avijjānusayaṃ asamūhanitvā avijjaṃ appahāya vijjaṃ anuppādetvā diṭṭheva dhamme dukkhassantakaro bhavissatīti – netaṃ ṭhānaṃ vijjati.
๔๒๖. ‘‘จกฺขุญฺจ , ภิกฺขเว, ปฎิจฺจ รูเป จ อุปฺปชฺชติ จกฺขุวิญฺญาณํ, ติณฺณํ สงฺคติ ผโสฺส, ผสฺสปจฺจยา อุปฺปชฺชติ เวทยิตํ สุขํ วา ทุกฺขํ วา อทุกฺขมสุขํ วาฯ โส สุขาย เวทนาย ผุโฎฺฐ สมาโน นาภินนฺทติ นาภิวทติ นาโชฺฌสาย ติฎฺฐติฯ ตสฺส ราคานุสโย นานุเสติฯ ทุกฺขาย เวทนาย ผุโฎฺฐ สมาโน น โสจติ น กิลมติ ปริเทวติ น อุรตฺตาฬิํ กนฺทติ น สโมฺมหํ อาปชฺชติฯ ตสฺส ปฎิฆานุสโย นานุเสติฯ อทุกฺขมสุขาย เวทนาย ผุโฎฺฐ สมาโน ตสฺสา เวทนาย สมุทยญฺจ อตฺถงฺคมญฺจ อสฺสาทญฺจ อาทีนวญฺจ นิสฺสรณญฺจ ยถาภูตํ ปชานาติฯ ตสฺส อวิชฺชานุสโย นานุเสติฯ โส วต, ภิกฺขเว, สุขาย เวทนาย ราคานุสยํ ปหาย ทุกฺขาย เวทนาย ปฎิฆานุสยํ ปฎิวิโนเทตฺวา อทุกฺขมสุขาย เวทนาย อวิชฺชานุสยํ สมูหนิตฺวา อวิชฺชํ ปหาย วิชฺชํ อุปฺปาเทตฺวา ทิเฎฺฐว ธเมฺม ทุกฺขสฺสนฺตกโร ภวิสฺสตีติ – ฐานเมตํ วิชฺชติฯ
426. ‘‘Cakkhuñca , bhikkhave, paṭicca rūpe ca uppajjati cakkhuviññāṇaṃ, tiṇṇaṃ saṅgati phasso, phassapaccayā uppajjati vedayitaṃ sukhaṃ vā dukkhaṃ vā adukkhamasukhaṃ vā. So sukhāya vedanāya phuṭṭho samāno nābhinandati nābhivadati nājjhosāya tiṭṭhati. Tassa rāgānusayo nānuseti. Dukkhāya vedanāya phuṭṭho samāno na socati na kilamati paridevati na urattāḷiṃ kandati na sammohaṃ āpajjati. Tassa paṭighānusayo nānuseti. Adukkhamasukhāya vedanāya phuṭṭho samāno tassā vedanāya samudayañca atthaṅgamañca assādañca ādīnavañca nissaraṇañca yathābhūtaṃ pajānāti. Tassa avijjānusayo nānuseti. So vata, bhikkhave, sukhāya vedanāya rāgānusayaṃ pahāya dukkhāya vedanāya paṭighānusayaṃ paṭivinodetvā adukkhamasukhāya vedanāya avijjānusayaṃ samūhanitvā avijjaṃ pahāya vijjaṃ uppādetvā diṭṭheva dhamme dukkhassantakaro bhavissatīti – ṭhānametaṃ vijjati.
‘‘โสตญฺจ, ภิกฺขเว, ปฎิจฺจ สเทฺท จ อุปฺปชฺชติ โสตวิญฺญาณํ…เป.…ฯ
‘‘Sotañca, bhikkhave, paṭicca sadde ca uppajjati sotaviññāṇaṃ…pe….
‘‘ฆานญฺจ, ภิกฺขเว, ปฎิจฺจ คเนฺธ จ อุปฺปชฺชติ ฆานวิญฺญาณํ…เป.…ฯ
‘‘Ghānañca, bhikkhave, paṭicca gandhe ca uppajjati ghānaviññāṇaṃ…pe….
‘‘ชิวฺหญฺจ, ภิกฺขเว, ปฎิจฺจ รเส จ อุปฺปชฺชติ ชิวฺหาวิญฺญาณํ…เป.… ฯ
‘‘Jivhañca, bhikkhave, paṭicca rase ca uppajjati jivhāviññāṇaṃ…pe… .
‘‘กายญฺจ, ภิกฺขเว, ปฎิจฺจ โผฎฺฐเพฺพ จ อุปฺปชฺชติ กายวิญฺญาณํ…เป.…ฯ
‘‘Kāyañca, bhikkhave, paṭicca phoṭṭhabbe ca uppajjati kāyaviññāṇaṃ…pe….
‘‘มนญฺจ, ภิกฺขเว, ปฎิจฺจ ธเมฺม จ อุปฺปชฺชติ มโนวิญฺญาณํ ติณฺณํ สงฺคติ ผโสฺส, ผสฺสปจฺจยา อุปฺปชฺชติ เวทยิตํ สุขํ วา ทุกฺขํ วา อทุกฺขมสุขํ วาฯ โส สุขาย เวทนาย ผุโฎฺฐ สมาโน นาภินนฺทติ นาภิวทติ นาโชฺฌสาย ติฎฺฐติฯ ตสฺส ราคานุสโย นานุเสติฯ ทุกฺขาย เวทนาย ผุโฎฺฐ สมาโน น โสจติ น กิลมติ น ปริเทวติ น อุรตฺตาฬิํ กนฺทติ น สโมฺมหํ อาปชฺชติฯ ตสฺส ปฎิฆานุสโย นานุเสติฯ อทุกฺขมสุขาย เวทนาย ผุโฎฺฐ สมาโน ตสฺสา เวทนาย สมุทยญฺจ อตฺถงฺคมญฺจ อสฺสาทญฺจ อาทีนวญฺจ นิสฺสรณญฺจ ยถาภูตํ ปชานาติฯ ตสฺส อวิชฺชานุสโย นานุเสติฯ โส วต, ภิกฺขเว, สุขาย เวทนาย ราคานุสยํ ปหาย ทุกฺขาย เวทนาย ปฎิฆานุสยํ ปฎิวิโนเทตฺวา อทุกฺขมสุขาย เวทนาย อวิชฺชานุสยํ สมูหนิตฺวา อวิชฺชํ ปหาย วิชฺชํ อุปฺปาเทตฺวา ทิเฎฺฐว ธเมฺม ทุกฺขสฺสนฺตกโร ภวิสฺสตีติ – ฐานเมตํ วิชฺชติฯ
‘‘Manañca, bhikkhave, paṭicca dhamme ca uppajjati manoviññāṇaṃ tiṇṇaṃ saṅgati phasso, phassapaccayā uppajjati vedayitaṃ sukhaṃ vā dukkhaṃ vā adukkhamasukhaṃ vā. So sukhāya vedanāya phuṭṭho samāno nābhinandati nābhivadati nājjhosāya tiṭṭhati. Tassa rāgānusayo nānuseti. Dukkhāya vedanāya phuṭṭho samāno na socati na kilamati na paridevati na urattāḷiṃ kandati na sammohaṃ āpajjati. Tassa paṭighānusayo nānuseti. Adukkhamasukhāya vedanāya phuṭṭho samāno tassā vedanāya samudayañca atthaṅgamañca assādañca ādīnavañca nissaraṇañca yathābhūtaṃ pajānāti. Tassa avijjānusayo nānuseti. So vata, bhikkhave, sukhāya vedanāya rāgānusayaṃ pahāya dukkhāya vedanāya paṭighānusayaṃ paṭivinodetvā adukkhamasukhāya vedanāya avijjānusayaṃ samūhanitvā avijjaṃ pahāya vijjaṃ uppādetvā diṭṭheva dhamme dukkhassantakaro bhavissatīti – ṭhānametaṃ vijjati.
๔๒๗. ‘‘เอวํ ปสฺสํ, ภิกฺขเว, สุตวา อริยสาวโก จกฺขุสฺมิํ 1 นิพฺพินฺทติ, รูเปสุ นิพฺพินฺทติ, จกฺขุวิญฺญาเณ นิพฺพินฺทติ, จกฺขุสมฺผเสฺส นิพฺพินฺทติ, เวทนาย นิพฺพินฺทติ, ตณฺหาย นิพฺพินฺทติฯ โสตสฺมิํ นิพฺพินฺทติ, สเทฺทสุ นิพฺพินฺทติ…เป.… ฆานสฺมิํ นิพฺพินฺทติ, คเนฺธสุ นิพฺพินฺทติ… ชิวฺหาย นิพฺพินฺทติ, รเสสุ นิพฺพินฺทติ… กายสฺมิํ นิพฺพินฺทติ, โผฎฺฐเพฺพสุ นิพฺพินฺทติ… มนสฺมิํ นิพฺพินฺทติ, ธเมฺมสุ นิพฺพินฺทติ, มโนวิญฺญาเณ นิพฺพินฺทติ, มโนสมฺผเสฺส นิพฺพินฺทติ, เวทนาย นิพฺพินฺทติ, ตณฺหาย นิพฺพินฺทติฯ นิพฺพินฺทํ วิรชฺชติ , วิราคา วิมุจฺจติฯ วิมุตฺตสฺมิํ วิมุตฺตมิติ ญาณํ โหติฯ ‘ขีณา ชาติ, วุสิตํ พฺรหฺมจริยํ, กตํ กรณียํ, นาปรํ อิตฺถตฺตายา’ติ ปชานาตี’’ติฯ
427. ‘‘Evaṃ passaṃ, bhikkhave, sutavā ariyasāvako cakkhusmiṃ 2 nibbindati, rūpesu nibbindati, cakkhuviññāṇe nibbindati, cakkhusamphasse nibbindati, vedanāya nibbindati, taṇhāya nibbindati. Sotasmiṃ nibbindati, saddesu nibbindati…pe… ghānasmiṃ nibbindati, gandhesu nibbindati… jivhāya nibbindati, rasesu nibbindati… kāyasmiṃ nibbindati, phoṭṭhabbesu nibbindati… manasmiṃ nibbindati, dhammesu nibbindati, manoviññāṇe nibbindati, manosamphasse nibbindati, vedanāya nibbindati, taṇhāya nibbindati. Nibbindaṃ virajjati , virāgā vimuccati. Vimuttasmiṃ vimuttamiti ñāṇaṃ hoti. ‘Khīṇā jāti, vusitaṃ brahmacariyaṃ, kataṃ karaṇīyaṃ, nāparaṃ itthattāyā’ti pajānātī’’ti.
อิทมโวจ ภควาฯ อตฺตมนา เต ภิกฺขู ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทุนฺติฯ อิมสฺมิํ โข ปน เวยฺยากรณสฺมิํ ภญฺญมาเน สฎฺฐิมตฺตานํ ภิกฺขูนํ อนุปาทาย อาสเวหิ จิตฺตานิ วิมุจฺจิํสูติฯ
Idamavoca bhagavā. Attamanā te bhikkhū bhagavato bhāsitaṃ abhinandunti. Imasmiṃ kho pana veyyākaraṇasmiṃ bhaññamāne saṭṭhimattānaṃ bhikkhūnaṃ anupādāya āsavehi cittāni vimucciṃsūti.
ฉฉกฺกสุตฺตํ นิฎฺฐิตํ ฉฎฺฐํฯ
Chachakkasuttaṃ niṭṭhitaṃ chaṭṭhaṃ.
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / มชฺฌิมนิกาย (อฎฺฐกถา) • Majjhimanikāya (aṭṭhakathā) / ๖. ฉฉกฺกสุตฺตวณฺณนา • 6. Chachakkasuttavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / มชฺฌิมนิกาย (ฎีกา) • Majjhimanikāya (ṭīkā) / ๖. ฉฉกฺกสุตฺตวณฺณนา • 6. Chachakkasuttavaṇṇanā