Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / มิลินฺทปญฺหปาฬิ • Milindapañhapāḷi

    ๖. ฉทฺทนฺตโชติปาลารพฺภปโญฺห

    6. Chaddantajotipālārabbhapañho

    . ‘‘ภเนฺต นาคเสน, ภาสิตเมฺปตํ ภควตา ฉทฺทโนฺต นาคราชา –

    6. ‘‘Bhante nāgasena, bhāsitampetaṃ bhagavatā chaddanto nāgarājā –

    ‘‘‘วธิสฺสเมตนฺติ ปรามสโนฺต, กาสาวมทฺทกฺขิ ธชํ อิสีนํ;

    ‘‘‘Vadhissametanti parāmasanto, kāsāvamaddakkhi dhajaṃ isīnaṃ;

    ทุเกฺขน ผุฎฺฐสฺสุทปาทิ สญฺญา, อรหทฺธโช สพฺภิ อวชฺฌรูโป’ติฯ

    Dukkhena phuṭṭhassudapādi saññā, arahaddhajo sabbhi avajjharūpo’ti.

    ‘‘ปุน จ ภณิตํ ‘โชติปาลมาณโว สมาโน กสฺสปํ ภควนฺตํ อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ มุณฺฑกวาเทน สมณกวาเทน อสพฺภาหิ ผรุสาหิ วาจาหิ อโกฺกสิ ปริภาสี’ติฯ ยทิ, ภเนฺต นาคเสน, โพธิสโตฺต ติรจฺฉานคโต สมาโน กาสาวํ อภิปูชยิ, เตน หิ ‘โชติปาเลน มาณเวน กสฺสโป ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุโทฺธ มุณฺฑกวาเทน สมณกวาเทน อสพฺภาหิ ผรุสาหิ วาจาหิ อกฺกุโฎฺฐ ปริภาสิโต’ติ ยํ วจนํ, ตํ มิจฺฉาฯ ยทิ โชติปาเลน มาณเวน กสฺสโป ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุโทฺธ มุณฺฑกวาเทน สมณกวาเทน อสพฺภาหิ ผรุสาหิ วาจาหิ อกฺกุโฎฺฐ ปริภาสิโต, เตน หิ ‘ฉทฺทเนฺตน นาคราเชน กาสาวํ ปูชิต’นฺติ ตมฺปิ วจนํ มิจฺฉาฯ ยทิ ติรจฺฉานคเตน โพธิสเตฺตน กกฺขฬขรกฎุกเวทนํ เวทยมาเนน ลุทฺทเกน นิวตฺถํ กาสาวํ ปูชิตํ, กิํ มนุสฺสภูโต สมาโน ปริปกฺกญาโณ ปริปกฺกาย โพธิยา กสฺสปํ ภควนฺตํ อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ ทสพลํ โลกนายกํ อุทิโตทิตํ ชลิตพฺยาโมภาสํ ปวรุตฺตมํ ปวรรุจิรกาสิกกาสาวมภิปารุตํ ทิสฺวา น ปูชยิ? อยมฺปิ อุภโต โกฎิโก ปโญฺห ตวานุปฺปโตฺต, โส ตยา นิพฺพาหิตโพฺพติฯ

    ‘‘Puna ca bhaṇitaṃ ‘jotipālamāṇavo samāno kassapaṃ bhagavantaṃ arahantaṃ sammāsambuddhaṃ muṇḍakavādena samaṇakavādena asabbhāhi pharusāhi vācāhi akkosi paribhāsī’ti. Yadi, bhante nāgasena, bodhisatto tiracchānagato samāno kāsāvaṃ abhipūjayi, tena hi ‘jotipālena māṇavena kassapo bhagavā arahaṃ sammāsambuddho muṇḍakavādena samaṇakavādena asabbhāhi pharusāhi vācāhi akkuṭṭho paribhāsito’ti yaṃ vacanaṃ, taṃ micchā. Yadi jotipālena māṇavena kassapo bhagavā arahaṃ sammāsambuddho muṇḍakavādena samaṇakavādena asabbhāhi pharusāhi vācāhi akkuṭṭho paribhāsito, tena hi ‘chaddantena nāgarājena kāsāvaṃ pūjita’nti tampi vacanaṃ micchā. Yadi tiracchānagatena bodhisattena kakkhaḷakharakaṭukavedanaṃ vedayamānena luddakena nivatthaṃ kāsāvaṃ pūjitaṃ, kiṃ manussabhūto samāno paripakkañāṇo paripakkāya bodhiyā kassapaṃ bhagavantaṃ arahantaṃ sammāsambuddhaṃ dasabalaṃ lokanāyakaṃ uditoditaṃ jalitabyāmobhāsaṃ pavaruttamaṃ pavararucirakāsikakāsāvamabhipārutaṃ disvā na pūjayi? Ayampi ubhato koṭiko pañho tavānuppatto, so tayā nibbāhitabboti.

    ‘‘ภาสิตเมฺปตํ, มหาราช, ภควตา ฉทฺทโนฺต นาคราชา ‘วธิสฺสเมตนฺติ…เป.… อวชฺฌรูโป’ติฯ โชติปาเลน จ มาณเวน กสฺสโป ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุโทฺธ มุณฺฑกวาเทน สมณกวาเทน อสพฺภาหิ ผรุสาหิ วาจาหิ อกฺกุโฎฺฐ ปริภาสิโต, ตญฺจ ปน ชาติวเสน กุลวเสนฯ โชติปาโล, มหาราช, มาณโว อสฺสเทฺธ อปฺปสเนฺน กุเล ปจฺจาชาโต, ตสฺส มาตาปิตโร ภคินิภาตโร ทาสิทาสเจฎกปริวารกมนุสฺสา พฺรหฺมเทวตา พฺรหฺมครุกา, เต ‘พฺราหฺมณา เอว อุตฺตมา ปวรา’ติ อวเสเส ปพฺพชิเต ครหนฺติ ชิคุจฺฉนฺติ, เตสํ ตํ วจนํ สุตฺวา โชติปาโล มาณโว ฆฎิกาเรน กุมฺภกาเรน สตฺถารํ ทสฺสนาย ปโกฺกสิโต เอวมาห ‘กิํ ปน เตน มุณฺฑเกน สมณเกน ทิเฎฺฐนา’ติฯ

    ‘‘Bhāsitampetaṃ, mahārāja, bhagavatā chaddanto nāgarājā ‘vadhissametanti…pe… avajjharūpo’ti. Jotipālena ca māṇavena kassapo bhagavā arahaṃ sammāsambuddho muṇḍakavādena samaṇakavādena asabbhāhi pharusāhi vācāhi akkuṭṭho paribhāsito, tañca pana jātivasena kulavasena. Jotipālo, mahārāja, māṇavo assaddhe appasanne kule paccājāto, tassa mātāpitaro bhaginibhātaro dāsidāsaceṭakaparivārakamanussā brahmadevatā brahmagarukā, te ‘brāhmaṇā eva uttamā pavarā’ti avasese pabbajite garahanti jigucchanti, tesaṃ taṃ vacanaṃ sutvā jotipālo māṇavo ghaṭikārena kumbhakārena satthāraṃ dassanāya pakkosito evamāha ‘kiṃ pana tena muṇḍakena samaṇakena diṭṭhenā’ti.

    ‘‘ยถา , มหาราช , อมตํ วิสมาสชฺช ติตฺตกํ โหติ, ยถา จ สีโตทกํ อคฺคิมาสชฺช อุณฺหํ โหติ, เอวเมว โข, มหาราช, โชติปาโล มาณโว อสฺสเทฺธ อปฺปสเนฺน กุเล ปจฺจาชาโต, โส กุลวเสน อโนฺธ หุตฺวา 1 ตถาคตํ อโกฺกสิ ปริภาสิฯ

    ‘‘Yathā , mahārāja , amataṃ visamāsajja tittakaṃ hoti, yathā ca sītodakaṃ aggimāsajja uṇhaṃ hoti, evameva kho, mahārāja, jotipālo māṇavo assaddhe appasanne kule paccājāto, so kulavasena andho hutvā 2 tathāgataṃ akkosi paribhāsi.

    ‘‘ยถา, มหาราช, ชลิตปชฺชลิโต มหาอคฺคิกฺขโนฺธ สปฺปภาโส อุทกมาสชฺช อุปหตปฺปภาเตโช สีตโล กาฬโก ภวติ ปริปกฺกนิคฺคุณฺฑิผลสทิโส, เอวเมว โข, มหาราช, โชติปาโล มาณโว ปุญฺญวา สโทฺธ ญาณวิปุลสปฺปภาโส อสฺสเทฺธ อปฺปสเนฺน กุเล ปจฺจาชาโต, โส กุลวเสน อโนฺธ หุตฺวา ตถาคตํ อโกฺกสิ ปริภาสิ, อุปคนฺตฺวา จ พุทฺธคุณมญฺญาย เจฎกภูโต วิย อโหสิ, ชินสาสเน ปพฺพชิตฺวา อภิญฺญา จ สมาปตฺติโย จ นิพฺพเตฺตตฺวา พฺรหฺมโลกูปโค อโหสี’’ติฯ ‘‘สาธุ, ภเนฺต นาคเสน, เอวเมตํ ตถา สมฺปฎิจฺฉามี’’ติฯ

    ‘‘Yathā, mahārāja, jalitapajjalito mahāaggikkhandho sappabhāso udakamāsajja upahatappabhātejo sītalo kāḷako bhavati paripakkanigguṇḍiphalasadiso, evameva kho, mahārāja, jotipālo māṇavo puññavā saddho ñāṇavipulasappabhāso assaddhe appasanne kule paccājāto, so kulavasena andho hutvā tathāgataṃ akkosi paribhāsi, upagantvā ca buddhaguṇamaññāya ceṭakabhūto viya ahosi, jinasāsane pabbajitvā abhiññā ca samāpattiyo ca nibbattetvā brahmalokūpago ahosī’’ti. ‘‘Sādhu, bhante nāgasena, evametaṃ tathā sampaṭicchāmī’’ti.

    ฉทฺทนฺตโชติปาลารพฺภปโญฺห ฉโฎฺฐฯ

    Chaddantajotipālārabbhapañho chaṭṭho.







    Footnotes:
    1. โส กุลชาติวเสน อโนฺธ ภวิตฺวา (สฺยา.)
    2. so kulajātivasena andho bhavitvā (syā.)

    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact