Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) |
๔. ฉนฺนสุตฺตวณฺณนา
4. Channasuttavaṇṇanā
๘๗. จตุเตฺถ ฉโนฺนติ เอวํนามโก เถโร, น อภินิกฺขมนํ นิกฺขนฺตเถโรฯ ปฎิสลฺลานาติ ผลสมาปตฺติโตฯ คิลานปุจฺฉกาติ คิลานุปฎฺฐากาฯ คิลานุปฎฺฐานํ นาม พุทฺธปสตฺถํ พุทฺธวณฺณิตํ, ตสฺมา เอวมาหฯ สีสเวฐํ ทเทยฺยาติ สีเส เวฐนํ สีสเวฐํ, ตญฺจ ทเทยฺยฯ สตฺถนฺติ ชีวิตหารกสตฺถํฯ นาวกงฺขามีติ น อิจฺฉามิฯ ปริจิโณฺณติ ปริจริโตฯ มนาเปนาติ มนวฑฺฒนเกน กายกมฺมาทินาฯ เอตฺถ จ สตฺต เสขา ปริจรนฺติ นาม, อรหา ปริจารี นาม, ภควา ปริจิโณฺณ นามฯ
87. Catutthe channoti evaṃnāmako thero, na abhinikkhamanaṃ nikkhantathero. Paṭisallānāti phalasamāpattito. Gilānapucchakāti gilānupaṭṭhākā. Gilānupaṭṭhānaṃ nāma buddhapasatthaṃ buddhavaṇṇitaṃ, tasmā evamāha. Sīsaveṭhaṃ dadeyyāti sīse veṭhanaṃ sīsaveṭhaṃ, tañca dadeyya. Satthanti jīvitahārakasatthaṃ. Nāvakaṅkhāmīti na icchāmi. Pariciṇṇoti paricarito. Manāpenāti manavaḍḍhanakena kāyakammādinā. Ettha ca satta sekhā paricaranti nāma, arahā paricārī nāma, bhagavā pariciṇṇo nāma.
เอตญฺหิ, อาวุโส, สาวกสฺส ปติรูปนฺติ, อาวุโส, สาวกสฺส นาม เอตํ อนุจฺฉวิกํฯ อนุปวชฺชนฺติ อปฺปวตฺติกํ อปฺปฎิสนฺธิกํฯ ปุจฺฉาวุโส สาริปุตฺต, สุตฺวา เวทิสฺสามาติ อยํ สาวกปวารณา นามฯ เอตํ มมาติอาทีนิ ตณฺหามานทิฎฺฐิคฺคาหวเสน วุตฺตานิฯ นิโรธํ ทิสฺวาติ ขยวยํ ญตฺวาฯ เนตํ มม, เนโสหมสฺมิ, น เมโส อตฺตาติ สมนุปสฺสามีติ อนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตาติ สมนุปสฺสามิฯ เอตฺตเกสุ ฐาเนสุ ฉนฺนเตฺถโร สาริปุตฺตเตฺถเรน ปุจฺฉิตํ ปญฺหํ อรหเตฺต ปกฺขิปิตฺวา กเถสิฯ สาริปุตฺตเตฺถโร ปน ตสฺส ปุถุชฺชนภาวํ ญตฺวาปิ ตํ ‘‘ปุถุชฺชโน’’ติ วา ‘‘ขีณาสโว’’ติ วา อวตฺวา ตุณฺหีเยว อโหสิฯ จุนฺทเตฺถโร ปนสฺส ปุถุชฺชนภาวํ สญฺญาเปสฺสามีติ จิเนฺตตฺวา โอวาทํ อทาสิฯ
Etañhi, āvuso, sāvakassa patirūpanti, āvuso, sāvakassa nāma etaṃ anucchavikaṃ. Anupavajjanti appavattikaṃ appaṭisandhikaṃ. Pucchāvuso sāriputta, sutvā vedissāmāti ayaṃ sāvakapavāraṇā nāma. Etaṃmamātiādīni taṇhāmānadiṭṭhiggāhavasena vuttāni. Nirodhaṃ disvāti khayavayaṃ ñatvā. Netaṃ mama, nesohamasmi, na meso attāti samanupassāmīti aniccaṃ dukkhaṃ anattāti samanupassāmi. Ettakesu ṭhānesu channatthero sāriputtattherena pucchitaṃ pañhaṃ arahatte pakkhipitvā kathesi. Sāriputtatthero pana tassa puthujjanabhāvaṃ ñatvāpi taṃ ‘‘puthujjano’’ti vā ‘‘khīṇāsavo’’ti vā avatvā tuṇhīyeva ahosi. Cundatthero panassa puthujjanabhāvaṃ saññāpessāmīti cintetvā ovādaṃ adāsi.
ตตฺถ ตสฺมาติ ยสฺมา มารณนฺติกํ เวทนํ อธิวาเสตุํ อสโกฺกโนฺต สตฺถํ อาหรามีติ วทติ, ตสฺมา ปุถุชฺชโน อายสฺมา, เตน อิทมฺปิ มนสิกโรหีติ ทีเปติฯ ยสฺมา วา ฉนฺนํ อายตนานํ นิโรธํ ทิสฺวา จกฺขาทีนิ ติณฺณํ คาหานํ วเสน น สมนุปสฺสามีติ วทสิฯ ตสฺมา อิทมฺปิ ตสฺส ภควโต สาสนํ อายสฺมตา มนสิกาตพฺพนฺติปิ ปุถุชฺชนภาวเมว ทีเปโนฺต วทติฯ นิจฺจกปฺปนฺติ นิจฺจกาลํฯ นิสฺสิตสฺสาติ ตณฺหามานทิฎฺฐีหิ นิสฺสิตสฺสฯ จลิตนฺติ วิปฺผนฺทิตํ โหติฯ ยถยิทํ อายสฺมโต อุปฺปนฺนํ เวทนํ อธิวาเสตุํ อสโกฺกนฺตสฺส ‘‘อหํ เวทยามิ, มม เวทนา’’ติ อปฺปหีนคฺคาหสฺส อิทานิ วิปฺผนฺทิตํ โหติ, อิมินาปิ นํ ‘‘ปุถุชฺชโนว ตฺว’’นฺติ วทติฯ
Tattha tasmāti yasmā māraṇantikaṃ vedanaṃ adhivāsetuṃ asakkonto satthaṃ āharāmīti vadati, tasmā puthujjano āyasmā, tena idampi manasikarohīti dīpeti. Yasmā vā channaṃ āyatanānaṃ nirodhaṃ disvā cakkhādīni tiṇṇaṃ gāhānaṃ vasena na samanupassāmīti vadasi. Tasmā idampi tassa bhagavato sāsanaṃ āyasmatā manasikātabbantipi puthujjanabhāvameva dīpento vadati. Niccakappanti niccakālaṃ. Nissitassāti taṇhāmānadiṭṭhīhi nissitassa. Calitanti vipphanditaṃ hoti. Yathayidaṃ āyasmato uppannaṃ vedanaṃ adhivāsetuṃ asakkontassa ‘‘ahaṃ vedayāmi, mama vedanā’’ti appahīnaggāhassa idāni vipphanditaṃ hoti, imināpi naṃ ‘‘puthujjanova tva’’nti vadati.
ปสฺสทฺธีติ กายจิตฺตปสฺสทฺธิ, กิเลสปสฺสทฺธิ นาม โหตีติ อโตฺถฯ นติยาติ ตณฺหานติยาฯ อสตีติ ภวตฺถาย อาลยนิกนฺติปริยุฎฺฐาเน อสติฯ อาคติคติ น โหตีติ ปฎิสนฺธิวเสน อาคติ นาม, จุติวเสน คมนํ นาม น โหติฯ จุตูปปาโตติ จวนวเสน จุติ, อุปปชฺชนวเสน อุปปาโตฯ เนวิธ น หุรํ น อุภยมนฺตเรนาติ น อิธโลเก น ปรโลเก น อุภยตฺถ โหติฯ เอเสวโนฺต ทุกฺขสฺสาติ วฎฺฎทุกฺขกิเลสทุกฺขสฺส อยเมว อโนฺต อยํ ปริเจฺฉโท ปริวฎุมภาโว โหติฯ อยเมว หิ เอตฺถ อโตฺถฯ เย ปน ‘‘อุภยมนฺตเรนา’’ติ วจนํ คเหตฺวา อนฺตราภวํ อิจฺฉนฺติ, เตสํ วจนํ นิรตฺถกํฯ อนฺตราภวสฺส หิ ภาโว อภิธเมฺม ปฎิกฺขิโตฺตเยวฯ ‘‘อนฺตเรนา’’ติ วจนํ ปน วิกปฺปนฺตรทีปนํฯ ตสฺมา อยเมตฺถ อโตฺถ – เนว อิธ น หุรํ, อปโร วิกโปฺป น อุภยนฺติฯ
Passaddhīti kāyacittapassaddhi, kilesapassaddhi nāma hotīti attho. Natiyāti taṇhānatiyā. Asatīti bhavatthāya ālayanikantipariyuṭṭhāne asati. Āgatigati na hotīti paṭisandhivasena āgati nāma, cutivasena gamanaṃ nāma na hoti. Cutūpapātoti cavanavasena cuti, upapajjanavasena upapāto. Nevidha na huraṃ na ubhayamantarenāti na idhaloke na paraloke na ubhayattha hoti. Esevanto dukkhassāti vaṭṭadukkhakilesadukkhassa ayameva anto ayaṃ paricchedo parivaṭumabhāvo hoti. Ayameva hi ettha attho. Ye pana ‘‘ubhayamantarenā’’ti vacanaṃ gahetvā antarābhavaṃ icchanti, tesaṃ vacanaṃ niratthakaṃ. Antarābhavassa hi bhāvo abhidhamme paṭikkhittoyeva. ‘‘Antarenā’’ti vacanaṃ pana vikappantaradīpanaṃ. Tasmā ayamettha attho – neva idha na huraṃ, aparo vikappo na ubhayanti.
สตฺถํ อาหเรสีติ ชีวิตหารกสตฺถํ อาหริ, อาหริตฺวา กณฺฐนาฬํ ฉินฺทิฯ อถสฺส ตสฺมิํ ขเณ มรณภยํ โอกฺกมิ, คตินิมิตฺตํ อุปฎฺฐาสิฯ โส อตฺตโน ปุถุชฺชนภาวํ ญตฺวา, สํวิคฺคจิโตฺต วิปสฺสนํ ปฎฺฐเปตฺวา, สงฺขาเร ปริคฺคณฺหโนฺต อรหตฺตํ ปตฺวา, สมสีสี หุตฺวา ปรินิพฺพุโตฯ สมฺมุขาเยว อนุปวชฺชตา พฺยากตาติ กิญฺจาปิ อิทํ เถรสฺส ปุถุชฺชนกาเล พฺยากรณํ โหติ; เอเตน ปน พฺยากรเณน อนนฺตรายมสฺส ปรินิพฺพานํ อโหสิฯ ตสฺมา ภควา ตเทว พฺยากรณํ คเหตฺวา กเถสิฯ
Satthaṃ āharesīti jīvitahārakasatthaṃ āhari, āharitvā kaṇṭhanāḷaṃ chindi. Athassa tasmiṃ khaṇe maraṇabhayaṃ okkami, gatinimittaṃ upaṭṭhāsi. So attano puthujjanabhāvaṃ ñatvā, saṃviggacitto vipassanaṃ paṭṭhapetvā, saṅkhāre pariggaṇhanto arahattaṃ patvā, samasīsī hutvā parinibbuto. Sammukhāyeva anupavajjatā byākatāti kiñcāpi idaṃ therassa puthujjanakāle byākaraṇaṃ hoti; etena pana byākaraṇena anantarāyamassa parinibbānaṃ ahosi. Tasmā bhagavā tadeva byākaraṇaṃ gahetvā kathesi.
อุปวชฺชกุลานีติ อุปสงฺกมิตพฺพกุลานิฯ อิมินา เถโร, ‘‘ภเนฺต, เอวํ อุปฎฺฐาเกสุ จ อุปฎฺฐายิกาสุ จ วิชฺชมานาสุ โส ภิกฺขุ ตุมฺหากํ สาสเน ปรินิพฺพายิสฺสตี’’ติ ปุพฺพภาคปฎิปตฺติยํ กุลสํสคฺคโทสํ ทเสฺสโนฺต ปุจฺฉติฯ อถสฺส ภควา กุเลสุ สํสคฺคาภาวํ ทีเปโนฺต โหนฺติ เหเต สาริปุตฺตาติอาทิมาหฯ อิมสฺมิํ กิร ฐาเน เถรสฺส กุเลสุ อสํสฎฺฐภาโว ปากโฎ อโหสิฯ เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวฯ
Upavajjakulānīti upasaṅkamitabbakulāni. Iminā thero, ‘‘bhante, evaṃ upaṭṭhākesu ca upaṭṭhāyikāsu ca vijjamānāsu so bhikkhu tumhākaṃ sāsane parinibbāyissatī’’ti pubbabhāgapaṭipattiyaṃ kulasaṃsaggadosaṃ dassento pucchati. Athassa bhagavā kulesu saṃsaggābhāvaṃ dīpento honti hete sāriputtātiādimāha. Imasmiṃ kira ṭhāne therassa kulesu asaṃsaṭṭhabhāvo pākaṭo ahosi. Sesaṃ sabbattha uttānameva.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya / ๔. ฉนฺนสุตฺตํ • 4. Channasuttaṃ
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) / ๔. ฉนฺนสุตฺตวณฺณนา • 4. Channasuttavaṇṇanā