Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) |
๔. ฉนฺนสุตฺตวณฺณนา
4. Channasuttavaṇṇanā
๘๗. สพฺพนิมิเตฺตหิ ปฎิสลฺลียติ เอเตนาติ ปฎิสลฺลานํ, ผลสมาปตฺติฯ ชีวิตหารกสตฺถํ ชีวิตสฺส หรณโต, สตฺตานญฺจ สสนโต หิํสนโต ฯ ปริจริโตติ ปยิรุปาสิโตฯ เตน ยถานุสิฎฺฐํ ปฎิปชฺชินฺติ ทีเปติฯ
87. Sabbanimittehi paṭisallīyati etenāti paṭisallānaṃ, phalasamāpatti. Jīvitahārakasatthaṃ jīvitassa haraṇato, sattānañca sasanato hiṃsanato . Paricaritoti payirupāsito. Tena yathānusiṭṭhaṃ paṭipajjinti dīpeti.
อนุปวชฺชนฺติ ปเรหิ น อุปวทิตพฺพํฯ ตํ ปเนตฺถ อายติํ อปฺปฎิสนฺธิภาวโต โหตีติ อาห ‘‘อปฺปวตฺติก’’นฺติฯ ‘‘เนตํ มมา’’ติอาทีนิ วทโนฺต อรหเตฺต ปกฺขิปิตฺวา กเถสิฯ ปุถุชฺชนภาวเมว ทีเปโนฺต วทติ อกตกิจฺจภาวทีปเนนฯ กิญฺจาปิ เถโร ปุจฺฉิตํ ปญฺหํ อรหเตฺต ปกฺขิปิตฺวา กเถสิ, ‘‘น สมนุปสฺสามี’’ติ ปน วทโนฺต กิญฺจิ นิปฺผตฺติํ น กเถสิ, ตสฺมา ‘‘อิทมฺปิ มนสิ กาตพฺพ’’นฺติ อิทํ อาเนตฺวา สมฺพโนฺธฯ
Anupavajjanti parehi na upavaditabbaṃ. Taṃ panettha āyatiṃ appaṭisandhibhāvato hotīti āha ‘‘appavattika’’nti. ‘‘Netaṃ mamā’’tiādīni vadanto arahatte pakkhipitvā kathesi. Puthujjanabhāvameva dīpento vadati akatakiccabhāvadīpanena. Kiñcāpi thero pucchitaṃ pañhaṃ arahatte pakkhipitvā kathesi, ‘‘na samanupassāmī’’ti pana vadanto kiñci nipphattiṃ na kathesi, tasmā ‘‘idampi manasi kātabba’’nti idaṃ ānetvā sambandho.
กิเลสปสฺสทฺธีติ กิเลสปริฬาหวูปสโมฯ ภวตฺถาย ปุน ภวตฺถายฯ อาลยนิกนฺติ ปริยุฎฺฐาเนติ ภวนฺตเร อเปกฺขาสญฺญิเต อาลเย นิกนฺติยา จ ปริยุฎฺฐานปฺปตฺติยาฯ อสติ อวิชฺชมานายฯ ปฎิสนฺธิวเสน อญฺญภวโต อิธาคมนํ อาคติ นามฯ จุติวเสน คมนนฺติ จวนวเสน อิโต คติฯ อนุรูปคมนํ คติ นาม ตทุภยํ น โหติฯ จุตูปปาโต อปราปรภวนวเสน จุติ, อุปปชฺชนวเสน อุปปาโต, ตทุภยมฺปิ น โหติฯ เอวํ ปน จุตูปปาเต อสติ เนวิธ น อิธ โลเกฯ น หุรํ น ปรโลเก โหติฯ ตโต เอว น อุภยตฺถ โหติฯ อยเมว อโนฺต อยํ อิธโลเก ปรโลเก จ อภาโวเยว ทุกฺขสฺส ปริโยสานํฯ อยเมวาติ ยถาวุโตฺต เอว – เอตฺถ เอตสฺมิํ ปาเฐ ปรมฺปราคโต ปมาณภูโต อโตฺถฯ
Kilesapassaddhīti kilesapariḷāhavūpasamo. Bhavatthāya puna bhavatthāya. Ālayanikanti pariyuṭṭhāneti bhavantare apekkhāsaññite ālaye nikantiyā ca pariyuṭṭhānappattiyā. Asati avijjamānāya. Paṭisandhivasena aññabhavato idhāgamanaṃ āgati nāma. Cutivasena gamananti cavanavasena ito gati. Anurūpagamanaṃ gati nāma tadubhayaṃ na hoti. Cutūpapāto aparāparabhavanavasena cuti, upapajjanavasena upapāto, tadubhayampi na hoti. Evaṃ pana cutūpapāte asati nevidha na idha loke. Na huraṃ na paraloke hoti. Tato eva na ubhayattha hoti. Ayameva anto ayaṃ idhaloke paraloke ca abhāvoyeva dukkhassa pariyosānaṃ. Ayamevāti yathāvutto eva – ettha etasmiṃ pāṭhe paramparāgato pamāṇabhūto attho.
เย ปนาติ สมฺมวาทิโน สนฺธาย วทติฯ อนฺตราภวํ อิจฺฉนฺติ ‘‘เอวํ ภเวน ภวนฺตรสมฺพโนฺธ ยุเชฺชยฺยา’’ติฯ นิรตฺถกํ อนฺตราภวสฺส นาม กสฺสจิ อภาวโตฯ จุติกฺขนฺธานนฺตรญฺหิ ปฎิสนฺธิกฺขนฺธานํเยว ปาตุภาโวฯ เตนาห ‘‘อนฺตราภวสฺส…เป.… ปฎิกฺขิโตฺตเยวา’’ติฯ ตตฺถ ภาโวติ อตฺถิตาฯ อภิธเมฺม กถาวตฺถุปฺปกรเณ (กถา. ๕๐๕-๕๐๗) ปฎิกฺขิโตฺตเยวฯ ยทิ เอวํ ‘‘อนฺตเรนา’’ติ อิทํ กถนฺติ อาห ‘‘อนฺตเรนา’’ติอาทิฯ วิกปฺปโต อญฺญํ วิกปฺปนฺตรํ, ตสฺส ทีปนํ ‘‘อนฺตเรนา’’ติ วจนํฯ น อนฺตราภวทีปนํ ตาทิสสฺส อนุปลพฺภนโต ปโยชนาภาวโต จฯ ยตฺถ หิ วิปากวิญฺญาณสฺส ปจฺจโย, ตตฺถสฺส นิสฺสยภูตสฺส วตฺถุสฺส สหภาวีนญฺจ ขนฺธานํ สมฺภโวติ สทฺธิํ อตฺตโน นิสฺสเยน วิญฺญาณํ อุปฺปชฺชเตวาติ นาสฺส อุปฺปตฺติยา เทสทูรตา เวทิตพฺพาฯ ‘‘เนว อิธ น หุร’’นฺติ วุตฺตทฺวยโต อปรํ วิกเปฺปน ‘‘น อุภย’’นฺติ, ตตฺถปิ น โหติเยวาติ อธิปฺปาโยฯ ‘‘อนฺตเรนา’’ติ วา ‘‘วินา’’ติ อิมินา สมานโตฺถ นิปาโต, ตสฺมา เนวิธ, น หุรํ, อุภยํ วินาปิ เนวาติ อโตฺถฯ
Ye panāti sammavādino sandhāya vadati. Antarābhavaṃ icchanti ‘‘evaṃ bhavena bhavantarasambandho yujjeyyā’’ti. Niratthakaṃ antarābhavassa nāma kassaci abhāvato. Cutikkhandhānantarañhi paṭisandhikkhandhānaṃyeva pātubhāvo. Tenāha ‘‘antarābhavassa…pe… paṭikkhittoyevā’’ti. Tattha bhāvoti atthitā. Abhidhamme kathāvatthuppakaraṇe (kathā. 505-507) paṭikkhittoyeva. Yadi evaṃ ‘‘antarenā’’ti idaṃ kathanti āha ‘‘antarenā’’tiādi. Vikappato aññaṃ vikappantaraṃ, tassa dīpanaṃ ‘‘antarenā’’ti vacanaṃ. Na antarābhavadīpanaṃ tādisassa anupalabbhanato payojanābhāvato ca. Yattha hi vipākaviññāṇassa paccayo, tatthassa nissayabhūtassa vatthussa sahabhāvīnañca khandhānaṃ sambhavoti saddhiṃ attano nissayena viññāṇaṃ uppajjatevāti nāssa uppattiyā desadūratā veditabbā. ‘‘Neva idha na hura’’nti vuttadvayato aparaṃ vikappena ‘‘na ubhaya’’nti, tatthapi na hotiyevāti adhippāyo. ‘‘Antarenā’’ti vā ‘‘vinā’’ti iminā samānattho nipāto, tasmā nevidha, na huraṃ, ubhayaṃ vināpi nevāti attho.
อาหรีติ ฉินฺนวเสน คณฺหิฯ เตนาห ‘‘กณฺฐนาฬํ ฉินฺที’’ติฯ ปริคฺคณฺหโนฺตติ สมฺมสโนฺตฯ ปรินิพฺพุโต ทีฆรตฺตํ วิปสฺสนายํ ยุตฺตปยุตฺตภาวโตฯ ‘‘อนุปวชฺชํ ฉเนฺนน ภิกฺขุนา สตฺถํ อาหริต’’นฺติ, กเถสีติ อเสกฺขกาเล พฺยากรณํ วิย กตฺวา กเถสิฯ
Āharīti chinnavasena gaṇhi. Tenāha ‘‘kaṇṭhanāḷaṃ chindī’’ti. Pariggaṇhantoti sammasanto. Parinibbuto dīgharattaṃ vipassanāyaṃ yuttapayuttabhāvato. ‘‘Anupavajjaṃ channena bhikkhunā satthaṃ āharita’’nti, kathesīti asekkhakāle byākaraṇaṃ viya katvā kathesi.
อิมินาติ ‘‘อุปวชฺชกุลานี’’ติ อิมินา วจเนนฯ เถโรติ สาริปุตฺตเตฺถโรฯ เอวนฺติ เอวํ ปุพฺพกาเลสุ สํสฎฺฐวิหารี หุตฺวา ฐิโต ปจฺฉา อรหตฺตํ ปาปุณิสฺสตีติ อาสงฺกโนฺต ปุจฺฉติฯ เสสํ อุตฺตานเมวฯ
Imināti ‘‘upavajjakulānī’’ti iminā vacanena. Theroti sāriputtatthero. Evanti evaṃ pubbakālesu saṃsaṭṭhavihārī hutvā ṭhito pacchā arahattaṃ pāpuṇissatīti āsaṅkanto pucchati. Sesaṃ uttānameva.
ฉนฺนสุตฺตวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Channasuttavaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya / ๔. ฉนฺนสุตฺตํ • 4. Channasuttaṃ
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) / ๔. ฉนฺนสุตฺตวณฺณนา • 4. Channasuttavaṇṇanā