Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / เถรคาถา-อฎฺฐกถา • Theragāthā-aṭṭhakathā |
๙. ฉนฺนเตฺถรคาถาวณฺณนา
9. Channattheragāthāvaṇṇanā
สุตฺวาน ธมฺมํ มหโต มหารสนฺติ อายสฺมโต ฉนฺนเตฺถรสฺส คาถาฯ กา อุปฺปตฺติ? อยมฺปิ ปุริมพุเทฺธสุ กตาธิกาโร ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฎฺฎูปนิสฺสยํ ปุญฺญํ อุปจินโนฺต สิทฺธตฺถสฺส ภควโต กาเล กุลเคเห นิพฺพตฺติตฺวา วิญฺญุตํ ปโตฺต เอกทิวสํ สิทฺธตฺถํ ภควนฺตํ อญฺญตรํ รุกฺขมูลํ อุปคจฺฉนฺตํ ทิสฺวา ปสนฺนจิโตฺต มุทุสมฺผสฺสํ ปณฺณสนฺถรํ สนฺถริตฺวา อทาสิฯ ปุเปฺผหิ จ สมนฺตโต โอกิริตฺวา ปูชํ อกาสิฯ โส เตน ปุญฺญกเมฺมน เทวโลเก นิพฺพตฺติตฺวา ปุนปิ อปราปรํ ปุญฺญานิ กตฺวา สุคตีสุเยว สํสรโนฺต อมฺหากํ ภควโต กาเล สุโทฺธทนมหาราชสฺส เคเห ทาสิยา กุจฺฉิมฺหิ นิพฺพตฺติ, ฉโนฺนติสฺส นามํ อโหสิ, โพธิสเตฺตน สหชาโตฯ โส สตฺถุ ญาติสมาคเม ปฎิลทฺธสโทฺธ ปพฺพชิตฺวา ภควติ เปเมน, ‘‘อมฺหากํ พุโทฺธ, อมฺหากํ ธโมฺม’’ติ มมตฺตํ อุปฺปาเทตฺวา สิเนหํ ฉินฺทิตุํ อสโกฺกโนฺต สมณธมฺมํ อกตฺวา สตฺถริ ปรินิพฺพุเต สตฺถารา อาณตฺตวิธินา กเตน พฺรหฺมทเณฺฑน สนฺตชฺชิโต สํเวคปฺปโตฺต หุตฺวา สิเนหํ ฉินฺทิตฺวา วิปสฺสโนฺต นจิเรเนว อรหตฺตํ ปาปุณิฯ เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถร ๑.๑๐.๔๕-๕๐) –
Sutvānadhammaṃ mahato mahārasanti āyasmato channattherassa gāthā. Kā uppatti? Ayampi purimabuddhesu katādhikāro tattha tattha bhave vivaṭṭūpanissayaṃ puññaṃ upacinanto siddhatthassa bhagavato kāle kulagehe nibbattitvā viññutaṃ patto ekadivasaṃ siddhatthaṃ bhagavantaṃ aññataraṃ rukkhamūlaṃ upagacchantaṃ disvā pasannacitto mudusamphassaṃ paṇṇasantharaṃ santharitvā adāsi. Pupphehi ca samantato okiritvā pūjaṃ akāsi. So tena puññakammena devaloke nibbattitvā punapi aparāparaṃ puññāni katvā sugatīsuyeva saṃsaranto amhākaṃ bhagavato kāle suddhodanamahārājassa gehe dāsiyā kucchimhi nibbatti, channotissa nāmaṃ ahosi, bodhisattena sahajāto. So satthu ñātisamāgame paṭiladdhasaddho pabbajitvā bhagavati pemena, ‘‘amhākaṃ buddho, amhākaṃ dhammo’’ti mamattaṃ uppādetvā sinehaṃ chindituṃ asakkonto samaṇadhammaṃ akatvā satthari parinibbute satthārā āṇattavidhinā katena brahmadaṇḍena santajjito saṃvegappatto hutvā sinehaṃ chinditvā vipassanto nacireneva arahattaṃ pāpuṇi. Tena vuttaṃ apadāne (apa. thera 1.10.45-50) –
‘‘สิทฺธตฺถสฺส ภควโต, อทาสิํ ปณฺณสนฺถรํ;
‘‘Siddhatthassa bhagavato, adāsiṃ paṇṇasantharaṃ;
สมนฺตา อุปหารญฺจ, กุสุมํ โอกิริํ อหํฯ
Samantā upahārañca, kusumaṃ okiriṃ ahaṃ.
‘‘ปาสาเทวํ คุณํ รมฺมํ, อนุโภมิ มหารหํ;
‘‘Pāsādevaṃ guṇaṃ rammaṃ, anubhomi mahārahaṃ;
มหคฺฆานิ จ ปุปฺผานิ, สยเนภิสวนฺติ เมฯ
Mahagghāni ca pupphāni, sayanebhisavanti me.
‘‘สยเนหํ ตุวฎฺฎามิ, วิจิเตฺต ปุปฺผสนฺถเต;
‘‘Sayanehaṃ tuvaṭṭāmi, vicitte pupphasanthate;
ปุปฺผวุฎฺฐิ จ สยเน, อภิวสฺสติ ตาวเทฯ
Pupphavuṭṭhi ca sayane, abhivassati tāvade.
‘‘จตุนฺนวุติโต กเปฺป, อทาสิํ ปณฺณสนฺถรํ;
‘‘Catunnavutito kappe, adāsiṃ paṇṇasantharaṃ;
ทุคฺคติํ นาภิชานามิ, สนฺถรสฺส อิทํ ผลํฯ
Duggatiṃ nābhijānāmi, santharassa idaṃ phalaṃ.
‘‘ติณสนฺถรกา นาม, สเตฺตเต จกฺกวตฺติโน;
‘‘Tiṇasantharakā nāma, sattete cakkavattino;
อิโต เต ปญฺจเม กเปฺป, อุปฺปชฺชิํสุ ชนาธิปาฯ
Ito te pañcame kappe, uppajjiṃsu janādhipā.
‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ…เป.… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติฯ
‘‘Kilesā jhāpitā mayhaṃ…pe… kataṃ buddhassa sāsana’’nti.
อรหตฺตํ ปน ปตฺวา วิมุตฺติสุขสนฺตปฺปิโต ปีติเวควิสฺสฎฺฐํ อุทานํ อุทาเนโนฺต –
Arahattaṃ pana patvā vimuttisukhasantappito pītivegavissaṭṭhaṃ udānaṃ udānento –
๖๙.
69.
‘‘สุตฺวาน ธมฺมํ มหโต มหารสํ,
‘‘Sutvāna dhammaṃ mahato mahārasaṃ,
สพฺพญฺญุตญฺญาณวเรน เทสิตํ;
Sabbaññutaññāṇavarena desitaṃ;
มคฺคํ ปปชฺชิํ อมตสฺส ปตฺติยา,
Maggaṃ papajjiṃ amatassa pattiyā,
โส โยคเกฺขมสฺส ปถสฺส โกวิโท’’ติฯ – คาถํ อภาสิ;
So yogakkhemassa pathassa kovido’’ti. – gāthaṃ abhāsi;
ตตฺถ สุตฺวานาติ สุณิตฺวา, โสเตน คเหตฺวา โอหิตโสโต โสตทฺวารานุสาเรน อุปธาเรตฺวาฯ ธมฺมนฺติ จตุสจฺจธมฺมํฯ มหโตติ ภควโตฯ ภควา หิ มหเนฺตหิ อุฬารตเมหิ สีลาทิคุเณหิ สมนฺนาคตตฺตา, สเทวเกน โลเกน วิเสสโต มหนียตาย จ ‘‘มหา’’ติ วุจฺจติ, ยา ตสฺส มหาสมโณติ สมญฺญา ชาตาฯ นิสฺสกฺกวจนเญฺจตํ ‘‘มหโต ธมฺมํ สุตฺวานา’’ติฯ มหารสนฺติ วิมุตฺติรสสฺส ทายกตฺตา อุฬารรสํฯ สพฺพญฺญุตญฺญาณวเรน เทสิตนฺติ สพฺพํ ชานาตีติ สพฺพญฺญู, ตสฺส ภาโว สพฺพญฺญุตาฯ ญาณเมว วรํ, ญาเณสุ วา วรนฺติ ญาณวรํ, สพฺพญฺญุตา ญาณวรํ เอตสฺสาติ สพฺพญฺญุตญฺญาณวโร, ภควาฯ เตน สพฺพญฺญุตญฺญาณสงฺขาตอคฺคญาเณน วา กรณภูเตน เทสิตํ กถิตํ ธมฺมํ สุตฺวานาติ โยชนาฯ ยํ ปเนตฺถ วตฺตพฺพํ, ตํ ปรมตฺถทีปนิยํ อิติวุตฺตกวณฺณนายํ วุตฺตนเยน เวทิตพฺพํฯ มคฺคนฺติ อฎฺฐงฺคิกํ อริยมคฺคํฯ ปปชฺชินฺติ ปฎิปชฺชิํฯ อมตสฺส ปตฺติยาติ นิพฺพานสฺส อธิคมาย อุปายภูตํ ปฎิปชฺชินฺติ โยชนาฯ โสติ โส ภควาฯ โยคเกฺขมสฺส ปถสฺส โกวิโทติ จตูหิ โยเคหิ อนุปทฺทุตสฺส นิพฺพานสฺส โย ปโถ, ตสฺส โกวิโท ตตฺถ สุกุสโลฯ อยเญฺหตฺถ อโตฺถ – ภควโต จตุสจฺจเทสนํ สุตฺวา อมตาธิคมูปายมคฺคํ อหํ ปฎิปชฺชิํ ปฎิปชฺชนมคฺคํ มยา กตํ, โส เอว ปน ภควา สพฺพถา โยคเกฺขมสฺส ปถสฺส โกวิโท, ปรสนฺตาเน วา ปรมเนสุ กุสโล, ยสฺส สํวิธานมาคมฺม อหมฺปิ มคฺคํ ปฎิปชฺชินฺติฯ อยเมว จ เถรสฺส อญฺญาพฺยากรณคาถา อโหสีติฯ
Tattha sutvānāti suṇitvā, sotena gahetvā ohitasoto sotadvārānusārena upadhāretvā. Dhammanti catusaccadhammaṃ. Mahatoti bhagavato. Bhagavā hi mahantehi uḷāratamehi sīlādiguṇehi samannāgatattā, sadevakena lokena visesato mahanīyatāya ca ‘‘mahā’’ti vuccati, yā tassa mahāsamaṇoti samaññā jātā. Nissakkavacanañcetaṃ ‘‘mahato dhammaṃ sutvānā’’ti. Mahārasanti vimuttirasassa dāyakattā uḷārarasaṃ. Sabbaññutaññāṇavarena desitanti sabbaṃ jānātīti sabbaññū, tassa bhāvo sabbaññutā. Ñāṇameva varaṃ, ñāṇesu vā varanti ñāṇavaraṃ, sabbaññutā ñāṇavaraṃ etassāti sabbaññutaññāṇavaro, bhagavā. Tena sabbaññutaññāṇasaṅkhātaaggañāṇena vā karaṇabhūtena desitaṃ kathitaṃ dhammaṃ sutvānāti yojanā. Yaṃ panettha vattabbaṃ, taṃ paramatthadīpaniyaṃ itivuttakavaṇṇanāyaṃ vuttanayena veditabbaṃ. Magganti aṭṭhaṅgikaṃ ariyamaggaṃ. Papajjinti paṭipajjiṃ. Amatassa pattiyāti nibbānassa adhigamāya upāyabhūtaṃ paṭipajjinti yojanā. Soti so bhagavā. Yogakkhemassa pathassa kovidoti catūhi yogehi anupaddutassa nibbānassa yo patho, tassa kovido tattha sukusalo. Ayañhettha attho – bhagavato catusaccadesanaṃ sutvā amatādhigamūpāyamaggaṃ ahaṃ paṭipajjiṃ paṭipajjanamaggaṃ mayā kataṃ, so eva pana bhagavā sabbathā yogakkhemassa pathassa kovido, parasantāne vā paramanesu kusalo, yassa saṃvidhānamāgamma ahampi maggaṃ paṭipajjinti. Ayameva ca therassa aññābyākaraṇagāthā ahosīti.
ฉนฺนเตฺถรคาถาวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Channattheragāthāvaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / เถรคาถาปาฬิ • Theragāthāpāḷi / ๙. ฉนฺนเตฺถรคาถา • 9. Channattheragāthā