Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / มชฺฌิมนิกาย • Majjhimanikāya |
๒. ฉโนฺนวาทสุตฺตํ
2. Channovādasuttaṃ
๓๘๙. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา ราชคเห วิหรติ เวฬุวเน กลนฺทกนิวาเปฯ เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา จ สาริปุโตฺต อายสฺมา จ มหาจุโนฺท อายสฺมา จ ฉโนฺน คิชฺฌกูเฎ ปพฺพเต วิหรนฺติฯ เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา ฉโนฺน อาพาธิโก โหติ ทุกฺขิโต พาฬฺหคิลาโนฯ อถ โข อายสฺมา สาริปุโตฺต สายนฺหสมยํ ปฎิสลฺลานา วุฎฺฐิโต เยนายสฺมา มหาจุโนฺท เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ มหาจุนฺทํ เอตทโวจ – ‘‘อายามาวุโส จุนฺท, เยนายสฺมา ฉโนฺน เตนุปสงฺกมิสฺสาม คิลานปุจฺฉกา’’ติฯ ‘‘เอวมาวุโส’’ติ โข อายสฺมา มหาจุโนฺท อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส ปจฺจโสฺสสิฯ
389. Evaṃ me sutaṃ – ekaṃ samayaṃ bhagavā rājagahe viharati veḷuvane kalandakanivāpe. Tena kho pana samayena āyasmā ca sāriputto āyasmā ca mahācundo āyasmā ca channo gijjhakūṭe pabbate viharanti. Tena kho pana samayena āyasmā channo ābādhiko hoti dukkhito bāḷhagilāno. Atha kho āyasmā sāriputto sāyanhasamayaṃ paṭisallānā vuṭṭhito yenāyasmā mahācundo tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā āyasmantaṃ mahācundaṃ etadavoca – ‘‘āyāmāvuso cunda, yenāyasmā channo tenupasaṅkamissāma gilānapucchakā’’ti. ‘‘Evamāvuso’’ti kho āyasmā mahācundo āyasmato sāriputtassa paccassosi.
อถ โข อายสฺมา จ สาริปุโตฺต อายสฺมา จ มหาจุโนฺท เยนายสฺมา ฉโนฺน เตนุปสงฺกมิํสุ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมตา ฉเนฺนน สทฺธิํ สโมฺมทิํสุฯ สโมฺมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิํสุฯ เอกมนฺตํ นิสิโนฺน โข อายสฺมา สาริปุโตฺต อายสฺมนฺตํ ฉนฺนํ เอตทโวจ – ‘‘กจฺจิ เต, อาวุโส ฉนฺน, ขมนียํ, กจฺจิ ยาปนียํ? กจฺจิ เต ทุกฺขา เวทนา ปฎิกฺกมนฺติ, โน อภิกฺกมนฺติ; ปฎิกฺกโมสานํ ปญฺญายติ, โน อภิกฺกโม’’ติ?
Atha kho āyasmā ca sāriputto āyasmā ca mahācundo yenāyasmā channo tenupasaṅkamiṃsu; upasaṅkamitvā āyasmatā channena saddhiṃ sammodiṃsu. Sammodanīyaṃ kathaṃ sāraṇīyaṃ vītisāretvā ekamantaṃ nisīdiṃsu. Ekamantaṃ nisinno kho āyasmā sāriputto āyasmantaṃ channaṃ etadavoca – ‘‘kacci te, āvuso channa, khamanīyaṃ, kacci yāpanīyaṃ? Kacci te dukkhā vedanā paṭikkamanti, no abhikkamanti; paṭikkamosānaṃ paññāyati, no abhikkamo’’ti?
‘‘น เม, อาวุโส สาริปุตฺต, ขมนียํ น ยาปนียํฯ พาฬฺหา เม ทุกฺขา เวทนา อภิกฺกมนฺติ, โน ปฎิกฺกมนฺติ; อภิกฺกโมสานํ ปญฺญายติ, โน ปฎิกฺกโมฯ เสยฺยถาปิ , อาวุโส สาริปุตฺต, พลวา ปุริโส ติเณฺหน สิขเรน มุทฺธนิ อภิมเตฺถยฺย; เอวเมว โข เม, อาวุโส สาริปุตฺต, อธิมตฺตา วาตา มุทฺธนิ อูหนนฺติฯ น เม, อาวุโส สาริปุตฺต, ขมนียํ น ยาปนียํฯ พาฬฺหา เม ทุกฺขา เวทนา อภิกฺกมนฺติ, โน ปฎิกฺกมนฺติ; อภิกฺกโมสานํ ปญฺญายติ โน ปฎิกฺกโมฯ เสยฺยถาปิ, อาวุโส สาริปุตฺต, พลวา ปุริโส ทเฬฺหน วรตฺตกฺขเณฺฑน สีเส สีสเวฐํ ทเทยฺย; เอวเมว โข เม, อาวุโส สาริปุตฺต, อธิมตฺตา สีเส สีสเวทนาฯ น เม, อาวุโส สาริปุตฺต, ขมนียํ น ยาปนียํฯ พาฬฺหา เม ทุกฺขา เวทนา อภิกฺกมนฺติ, โน ปฎิกฺกมนฺติ; อภิกฺกโมสานํ ปญฺญายติ, โน ปฎิกฺกโมฯ เสยฺยถาปิ, อาวุโส สาริปุตฺต, ทโกฺข โคฆาตโก วา โคฆาตกเนฺตวาสี วา ติเณฺหน โควิกนฺตเนน กุจฺฉิํ ปริกเนฺตยฺย; เอวเมว โข เม, อาวุโส สาริปุตฺต, อธิมตฺตา วาตา กุจฺฉิํ ปริกนฺตนฺติฯ น เม, อาวุโส สาริปุตฺต, ขมนียํ น ยาปนียํฯ พาฬฺหา เม ทุกฺขา เวทนา อภิกฺกมนฺติ, โน ปฎิกฺกมนฺติ; อภิกฺกโมสานํ ปญฺญายติ, โน ปฎิกฺกโมฯ เสยฺยถาปิ, อาวุโส สาริปุตฺต, เทฺว พลวโนฺต ปุริสา ทุพฺพลตรํ ปุริสํ นานาพาหาสุ คเหตฺวา องฺคารกาสุยา สนฺตาเปยฺยุํ สมฺปริตาเปยฺยุํ; เอวเมว โข เม, อาวุโส สาริปุตฺต, อธิมโตฺต กายสฺมิํ ฑาโหฯ น เม, อาวุโส สาริปุตฺต, ขมนียํ น ยาปนียํฯ พาฬฺหา เม ทุกฺขา เวทนา อภิกฺกมนฺติ, โน ปฎิกฺกมนฺติ; อภิกฺกโมสานํ ปญฺญายติ, โน ปฎิกฺกโมฯ สตฺถํ, อาวุโส สาริปุตฺต, อาหริสฺสามิ, นาวกงฺขามิ ชีวิต’’นฺติฯ
‘‘Na me, āvuso sāriputta, khamanīyaṃ na yāpanīyaṃ. Bāḷhā me dukkhā vedanā abhikkamanti, no paṭikkamanti; abhikkamosānaṃ paññāyati, no paṭikkamo. Seyyathāpi , āvuso sāriputta, balavā puriso tiṇhena sikharena muddhani abhimattheyya; evameva kho me, āvuso sāriputta, adhimattā vātā muddhani ūhananti. Na me, āvuso sāriputta, khamanīyaṃ na yāpanīyaṃ. Bāḷhā me dukkhā vedanā abhikkamanti, no paṭikkamanti; abhikkamosānaṃ paññāyati no paṭikkamo. Seyyathāpi, āvuso sāriputta, balavā puriso daḷhena varattakkhaṇḍena sīse sīsaveṭhaṃ dadeyya; evameva kho me, āvuso sāriputta, adhimattā sīse sīsavedanā. Na me, āvuso sāriputta, khamanīyaṃ na yāpanīyaṃ. Bāḷhā me dukkhā vedanā abhikkamanti, no paṭikkamanti; abhikkamosānaṃ paññāyati, no paṭikkamo. Seyyathāpi, āvuso sāriputta, dakkho goghātako vā goghātakantevāsī vā tiṇhena govikantanena kucchiṃ parikanteyya; evameva kho me, āvuso sāriputta, adhimattā vātā kucchiṃ parikantanti. Na me, āvuso sāriputta, khamanīyaṃ na yāpanīyaṃ. Bāḷhā me dukkhā vedanā abhikkamanti, no paṭikkamanti; abhikkamosānaṃ paññāyati, no paṭikkamo. Seyyathāpi, āvuso sāriputta, dve balavanto purisā dubbalataraṃ purisaṃ nānābāhāsu gahetvā aṅgārakāsuyā santāpeyyuṃ samparitāpeyyuṃ; evameva kho me, āvuso sāriputta, adhimatto kāyasmiṃ ḍāho. Na me, āvuso sāriputta, khamanīyaṃ na yāpanīyaṃ. Bāḷhā me dukkhā vedanā abhikkamanti, no paṭikkamanti; abhikkamosānaṃ paññāyati, no paṭikkamo. Satthaṃ, āvuso sāriputta, āharissāmi, nāvakaṅkhāmi jīvita’’nti.
๓๙๐. ‘‘มายสฺมา ฉโนฺน สตฺถํ อาหเรสิฯ ยาเปตายสฺมา ฉโนฺนฯ ยาเปนฺตํ มยํ อายสฺมนฺตํ ฉนฺนํ อิจฺฉามฯ สเจ อายสฺมโต ฉนฺนสฺส นตฺถิ สปฺปายานิ โภชนานิ, อหํ อายสฺมโต ฉนฺนสฺส สปฺปายานิ โภชนานิ ปริเยสิสฺสามิฯ สเจ อายสฺมโต ฉนฺนสฺส นตฺถิ สปฺปายานิ เภสชฺชานิ, อหํ อายสฺมโต ฉนฺนสฺส สปฺปายานิ เภสชฺชานิ ปริเยสิสฺสามิฯ สเจ อายสฺมโต ฉนฺนสฺส นตฺถิ ปติรูปา อุปฎฺฐากา, อหํ อายสฺมนฺตํ ฉนฺนํ อุปฎฺฐหิสฺสามิฯ มายสฺมา ฉโนฺน สตฺถํ อาหเรสิฯ ยาเปตายสฺมา ฉโนฺนฯ ยาเปนฺตํ มยํ อายสฺมนฺตํ ฉนฺนํ อิจฺฉามา’’ติฯ
390. ‘‘Māyasmā channo satthaṃ āharesi. Yāpetāyasmā channo. Yāpentaṃ mayaṃ āyasmantaṃ channaṃ icchāma. Sace āyasmato channassa natthi sappāyāni bhojanāni, ahaṃ āyasmato channassa sappāyāni bhojanāni pariyesissāmi. Sace āyasmato channassa natthi sappāyāni bhesajjāni, ahaṃ āyasmato channassa sappāyāni bhesajjāni pariyesissāmi. Sace āyasmato channassa natthi patirūpā upaṭṭhākā, ahaṃ āyasmantaṃ channaṃ upaṭṭhahissāmi. Māyasmā channo satthaṃ āharesi. Yāpetāyasmā channo. Yāpentaṃ mayaṃ āyasmantaṃ channaṃ icchāmā’’ti.
‘‘นปิ เม, อาวุโส สาริปุตฺต, นตฺถิ สปฺปายานิ โภชนานิ; นปิ เม นตฺถิ สปฺปายานิ เภสชฺชานิ; นปิ เม นตฺถิ ปติรูปา อุปฎฺฐากา; อปิ จาวุโส สาริปุตฺต , ปริจิโณฺณ เม สตฺถา ทีฆรตฺตํ มนาเปเนว โน อมนาเปนฯ เอตญฺหิ, อาวุโส สาริปุตฺต, สาวกสฺส ปติรูปํ ยํ สตฺถารํ ปริจเรยฺย มนาเปเนว โน อมนาเปนฯ ‘อนุปวชฺชํ ฉโนฺน ภิกฺขุ สตฺถํ อาหริสฺสตี’ติ เอวเมตํ 1, อาวุโส สาริปุตฺต, ธาเรหี’’ติฯ ‘‘ปุเจฺฉยฺยาม มยํ อายสฺมนฺตํ ฉนฺนํ กญฺจิเทว เทสํ, สเจ อายสฺมา ฉโนฺน โอกาสํ กโรติ ปญฺหสฺส เวยฺยากรณายา’’ติฯ ‘‘ปุจฺฉาวุโส สาริปุตฺต, สุตฺวา เวทิสฺสามี’’ติฯ
‘‘Napi me, āvuso sāriputta, natthi sappāyāni bhojanāni; napi me natthi sappāyāni bhesajjāni; napi me natthi patirūpā upaṭṭhākā; api cāvuso sāriputta , pariciṇṇo me satthā dīgharattaṃ manāpeneva no amanāpena. Etañhi, āvuso sāriputta, sāvakassa patirūpaṃ yaṃ satthāraṃ paricareyya manāpeneva no amanāpena. ‘Anupavajjaṃ channo bhikkhu satthaṃ āharissatī’ti evametaṃ 2, āvuso sāriputta, dhārehī’’ti. ‘‘Puccheyyāma mayaṃ āyasmantaṃ channaṃ kañcideva desaṃ, sace āyasmā channo okāsaṃ karoti pañhassa veyyākaraṇāyā’’ti. ‘‘Pucchāvuso sāriputta, sutvā vedissāmī’’ti.
๓๙๑. ‘‘จกฺขุํ, อาวุโส ฉนฺน, จกฺขุวิญฺญาณํ จกฺขุวิญฺญาณวิญฺญาตเพฺพ ธเมฺม ‘เอตํ มม, เอโสหมสฺมิ, เอโส เม อตฺตา’ติ สมนุปสฺสสิ? โสตํ, อาวุโส ฉนฺน, โสตวิญฺญาณํ…เป.… ฆานํ, อาวุโส ฉนฺน, ฆานวิญฺญาณํ… ชิวฺหํ, อาวุโส ฉนฺน, ชิวฺหาวิญฺญาณํ … กายํ, อาวุโส ฉนฺน, กายวิญฺญาณํ… มนํ, อาวุโส ฉนฺน, มโนวิญฺญาณํ มโนวิญฺญาณวิญฺญาตเพฺพ ธเมฺม ‘เอตํ มม, เอโสหมสฺมิ, เอโส เม อตฺตา’ติ สมนุปสฺสสี’’ติ?
391. ‘‘Cakkhuṃ, āvuso channa, cakkhuviññāṇaṃ cakkhuviññāṇaviññātabbe dhamme ‘etaṃ mama, esohamasmi, eso me attā’ti samanupassasi? Sotaṃ, āvuso channa, sotaviññāṇaṃ…pe… ghānaṃ, āvuso channa, ghānaviññāṇaṃ… jivhaṃ, āvuso channa, jivhāviññāṇaṃ … kāyaṃ, āvuso channa, kāyaviññāṇaṃ… manaṃ, āvuso channa, manoviññāṇaṃ manoviññāṇaviññātabbe dhamme ‘etaṃ mama, esohamasmi, eso me attā’ti samanupassasī’’ti?
‘‘จกฺขุํ, อาวุโส สาริปุตฺต, จกฺขุวิญฺญาณํ จกฺขุวิญฺญาณวิญฺญาตเพฺพ ธเมฺม ‘เนตํ มม, เนโสหมสฺมิ, น เมโส อตฺตา’ติ สมนุปสฺสามิฯ โสตํ, อาวุโส สาริปุตฺต…เป.… ฆานํ, อาวุโส สาริปุตฺต… ชิวฺหํ, อาวุโส สาริปุตฺต… กายํ, อาวุโส สาริปุตฺต… มนํ, อาวุโส สาริปุตฺต, มโนวิญฺญาณํ มโนวิญฺญาณวิญฺญาตเพฺพ ธเมฺม ‘เนตํ มม, เนโสหมสฺมิ, น เมโส อตฺตา’ติ สมนุปสฺสามี’’ติฯ
‘‘Cakkhuṃ, āvuso sāriputta, cakkhuviññāṇaṃ cakkhuviññāṇaviññātabbe dhamme ‘netaṃ mama, nesohamasmi, na meso attā’ti samanupassāmi. Sotaṃ, āvuso sāriputta…pe… ghānaṃ, āvuso sāriputta… jivhaṃ, āvuso sāriputta… kāyaṃ, āvuso sāriputta… manaṃ, āvuso sāriputta, manoviññāṇaṃ manoviññāṇaviññātabbe dhamme ‘netaṃ mama, nesohamasmi, na meso attā’ti samanupassāmī’’ti.
๓๙๒. ‘‘จกฺขุสฺมิํ, อาวุโส ฉนฺน, จกฺขุวิญฺญาเณ จกฺขุวิญฺญาณวิญฺญาตเพฺพสุ ธเมฺมสุ กิํ ทิสฺวา กิํ อภิญฺญาย จกฺขุํ จกฺขุวิญฺญาณํ จกฺขุวิญฺญาณวิญฺญาตเพฺพ ธเมฺม ‘เนตํ มม, เนโสหมสฺมิ, น เมโส อตฺตา’ติ สมนุปสฺสสิ? โสตสฺมิํ, อาวุโส ฉนฺน, โสตวิญฺญาเณ … ฆานสฺมิํ, อาวุโส ฉนฺน, ฆานวิญฺญาเณ… ชิวฺหาย, อาวุโส ฉนฺน, ชิวฺหาวิญฺญาเณ… กายสฺมิํ, อาวุโส ฉนฺน, กายวิญฺญาเณ… มนสฺมิํ, อาวุโส ฉนฺน, มโนวิญฺญาเณ มโนวิญฺญาณวิญฺญาตเพฺพสุ ธเมฺมสุ กิํ ทิสฺวา กิํ อภิญฺญาย มนํ มโนวิญฺญาณํ มโนวิญฺญาณวิญฺญาตเพฺพ ธเมฺม ‘เนตํ มม, เนโสหมสฺมิ, น เมโส อตฺตา’ติ สมนุปสฺสสี’’ติ?
392. ‘‘Cakkhusmiṃ, āvuso channa, cakkhuviññāṇe cakkhuviññāṇaviññātabbesu dhammesu kiṃ disvā kiṃ abhiññāya cakkhuṃ cakkhuviññāṇaṃ cakkhuviññāṇaviññātabbe dhamme ‘netaṃ mama, nesohamasmi, na meso attā’ti samanupassasi? Sotasmiṃ, āvuso channa, sotaviññāṇe … ghānasmiṃ, āvuso channa, ghānaviññāṇe… jivhāya, āvuso channa, jivhāviññāṇe… kāyasmiṃ, āvuso channa, kāyaviññāṇe… manasmiṃ, āvuso channa, manoviññāṇe manoviññāṇaviññātabbesu dhammesu kiṃ disvā kiṃ abhiññāya manaṃ manoviññāṇaṃ manoviññāṇaviññātabbe dhamme ‘netaṃ mama, nesohamasmi, na meso attā’ti samanupassasī’’ti?
‘‘จกฺขุสฺมิํ , อาวุโส สาริปุตฺต, จกฺขุวิญฺญาเณ จกฺขุวิญฺญาณวิญฺญาตเพฺพสุ ธเมฺมสุ นิโรธํ ทิสฺวา นิโรธํ อภิญฺญาย จกฺขุํ จกฺขุวิญฺญาณํ จกฺขุวิญฺญาณวิญฺญาตเพฺพ ธเมฺม ‘เนตํ มม, เนโสหมสฺมิ, น เมโส อตฺตา’ติ สมนุปสฺสามิฯ โสตสฺมิํ, อาวุโส สาริปุตฺต, โสตวิญฺญาเณ… ฆานสฺมิํ, อาวุโส สาริปุตฺต, ฆานวิญฺญาเณ… ชิวฺหาย, อาวุโส สาริปุตฺต, ชิวฺหาวิญฺญาเณ… กายสฺมิํ, อาวุโส สาริปุตฺต, กายวิญฺญาเณ… มนสฺมิํ, อาวุโส สาริปุตฺต, มโนวิญฺญาเณ มโนวิญฺญาณวิญฺญาตเพฺพสุ ธเมฺมสุ นิโรธํ ทิสฺวา นิโรธํ อภิญฺญา มนํ มโนวิญฺญาณํ มโนวิญฺญาณวิญฺญาตเพฺพ ธเมฺม ‘เนตํ มม, เนโสหมสฺมิ, น เมโส อตฺตา’ติ สมนุปสฺสามี’’ติฯ
‘‘Cakkhusmiṃ , āvuso sāriputta, cakkhuviññāṇe cakkhuviññāṇaviññātabbesu dhammesu nirodhaṃ disvā nirodhaṃ abhiññāya cakkhuṃ cakkhuviññāṇaṃ cakkhuviññāṇaviññātabbe dhamme ‘netaṃ mama, nesohamasmi, na meso attā’ti samanupassāmi. Sotasmiṃ, āvuso sāriputta, sotaviññāṇe… ghānasmiṃ, āvuso sāriputta, ghānaviññāṇe… jivhāya, āvuso sāriputta, jivhāviññāṇe… kāyasmiṃ, āvuso sāriputta, kāyaviññāṇe… manasmiṃ, āvuso sāriputta, manoviññāṇe manoviññāṇaviññātabbesu dhammesu nirodhaṃ disvā nirodhaṃ abhiññā manaṃ manoviññāṇaṃ manoviññāṇaviññātabbe dhamme ‘netaṃ mama, nesohamasmi, na meso attā’ti samanupassāmī’’ti.
๓๙๓. เอวํ วุเตฺต, อายสฺมา มหาจุโนฺท อายสฺมนฺตํ ฉนฺนํ เอตทโวจ – ‘‘ตสฺมาติห, อาวุโส ฉนฺน, อิทมฺปิ ตสฺส ภควโต สาสนํ 3, นิจฺจกปฺปํ มนสิ กาตพฺพํ – ‘นิสฺสิตสฺส จลิตํ, อนิสฺสิตสฺส จลิตํ นตฺถิฯ จลิเต อสติ ปสฺสทฺธิ, ปสฺสทฺธิยา สติ นติ น โหติฯ นติยา อสติ อาคติคติ น โหติฯ อาคติคติยา อสติ จุตูปปาโต น โหติฯ จุตูปปาเต อสติ เนวิธ น หุรํ น อุภยมนฺตเรนฯ เอเสวโนฺต ทุกฺขสฺสา’’’ติฯ อถ โข อายสฺมา จ สาริปุโตฺต อายสฺมา จ มหาจุโนฺท อายสฺมนฺตํ ฉนฺนํ อิมินา โอวาเทน โอวทิตฺวา อุฎฺฐายาสนา ปกฺกมิํสุฯ
393. Evaṃ vutte, āyasmā mahācundo āyasmantaṃ channaṃ etadavoca – ‘‘tasmātiha, āvuso channa, idampi tassa bhagavato sāsanaṃ 4, niccakappaṃ manasi kātabbaṃ – ‘nissitassa calitaṃ, anissitassa calitaṃ natthi. Calite asati passaddhi, passaddhiyā sati nati na hoti. Natiyā asati āgatigati na hoti. Āgatigatiyā asati cutūpapāto na hoti. Cutūpapāte asati nevidha na huraṃ na ubhayamantarena. Esevanto dukkhassā’’’ti. Atha kho āyasmā ca sāriputto āyasmā ca mahācundo āyasmantaṃ channaṃ iminā ovādena ovaditvā uṭṭhāyāsanā pakkamiṃsu.
๓๙๔. อถ โข อายสฺมา ฉโนฺน อจิรปกฺกเนฺต อายสฺมเนฺต จ สาริปุเตฺต อายสฺมเนฺต จ มหาจุเนฺท สตฺถํ อาหเรสิฯ อถ โข อายสฺมา สาริปุโตฺต เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสิโนฺน โข อายสฺมา สาริปุโตฺต ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อายสฺมตา, ภเนฺต, ฉเนฺนน สตฺถํ อาหริตํฯ ตสฺส กา คติ, โก อภิสมฺปราโย’’ติ? ‘‘นนุ เต, สาริปุตฺต, ฉเนฺนน ภิกฺขุนา สมฺมุขาเยว อนุปวชฺชตา พฺยากตา’’ติ? ‘‘อตฺถิ, ภเนฺต, ปุพฺพชิรํ 5 นาม วชฺชิคาโมฯ ตตฺถายสฺมโต ฉนฺนสฺส มิตฺตกุลานิ สุหชฺชกุลานิ อุปวชฺชกุลานี’’ติฯ ‘‘โหนฺติ 6 เหเต, สาริปุตฺต, ฉนฺนสฺส ภิกฺขุโน มิตฺตกุลานิ สุหชฺชกุลานิ อุปวชฺชกุลานิฯ นาหํ, สาริปุตฺต, เอตฺตาวตา ‘สอุปวโชฺช’ติ วทามิฯ โย โข, สาริปุตฺต, อิมญฺจ กายํ นิกฺขิปติ อญฺญญฺจ กายํ อุปาทิยติ ตมหํ ‘สอุปวโชฺช’ติ วทามิฯ ตํ ฉนฺนสฺส ภิกฺขุโน นตฺถิฯ ‘อนุปวโชฺช ฉโนฺน ภิกฺขุ สตฺถํ อาหเรสี’ติ เอวเมตํ, สาริปุตฺต, ธาเรหี’’ติฯ
394. Atha kho āyasmā channo acirapakkante āyasmante ca sāriputte āyasmante ca mahācunde satthaṃ āharesi. Atha kho āyasmā sāriputto yena bhagavā tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā bhagavantaṃ abhivādetvā ekamantaṃ nisīdi. Ekamantaṃ nisinno kho āyasmā sāriputto bhagavantaṃ etadavoca – ‘‘āyasmatā, bhante, channena satthaṃ āharitaṃ. Tassa kā gati, ko abhisamparāyo’’ti? ‘‘Nanu te, sāriputta, channena bhikkhunā sammukhāyeva anupavajjatā byākatā’’ti? ‘‘Atthi, bhante, pubbajiraṃ 7 nāma vajjigāmo. Tatthāyasmato channassa mittakulāni suhajjakulāni upavajjakulānī’’ti. ‘‘Honti 8 hete, sāriputta, channassa bhikkhuno mittakulāni suhajjakulāni upavajjakulāni. Nāhaṃ, sāriputta, ettāvatā ‘saupavajjo’ti vadāmi. Yo kho, sāriputta, imañca kāyaṃ nikkhipati aññañca kāyaṃ upādiyati tamahaṃ ‘saupavajjo’ti vadāmi. Taṃ channassa bhikkhuno natthi. ‘Anupavajjo channo bhikkhu satthaṃ āharesī’ti evametaṃ, sāriputta, dhārehī’’ti.
อิทมโวจ ภควาฯ อตฺตมโน อายสฺมา สาริปุโตฺต ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทีติฯ
Idamavoca bhagavā. Attamano āyasmā sāriputto bhagavato bhāsitaṃ abhinandīti.
ฉโนฺนวาทสุตฺตํ นิฎฺฐิตํ ทุติยํฯ
Channovādasuttaṃ niṭṭhitaṃ dutiyaṃ.
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / มชฺฌิมนิกาย (อฎฺฐกถา) • Majjhimanikāya (aṭṭhakathā) / ๒. ฉโนฺนวาทสุตฺตวณฺณนา • 2. Channovādasuttavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / มชฺฌิมนิกาย (ฎีกา) • Majjhimanikāya (ṭīkā) / ๒. ฉโนฺนวาทสุตฺตวณฺณนา • 2. Channovādasuttavaṇṇanā