Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā |
๗. สงฺฆเภทกกฺขนฺธกวณฺณนา
7. Saṅghabhedakakkhandhakavaṇṇanā
ฉสกฺยปพฺพชฺชากถาวณฺณนา
Chasakyapabbajjākathāvaṇṇanā
๓๓๐. ‘‘อนุปิยํ นามา’’ติ เอกวจเนน ทิสฺสติ, สตฺตมิยํ ปน ‘‘อนุปิยาย’’นฺติฯ ‘‘กาฬุทายิปฺปภุตโย ทส ทูตา’’ติ ปาโฐฯ ‘‘น เหฎฺฐาปาสาทา น เหฎฺฐาปาสาทํ วา’’ติ ลิขิตํฯ
330. ‘‘Anupiyaṃ nāmā’’ti ekavacanena dissati, sattamiyaṃ pana ‘‘anupiyāya’’nti. ‘‘Kāḷudāyippabhutayo dasa dūtā’’ti pāṭho. ‘‘Na heṭṭhāpāsādā na heṭṭhāpāsādaṃ vā’’ti likhitaṃ.
๓๓๒. ปุเพฺพ ปุพฺพกาเลฯ ‘‘รโญฺญ สโต’’ติ จ ‘‘รโญฺญวสโต’’ติ จ ปาโฐฯ
332.Pubbe pubbakāle. ‘‘Rañño sato’’ti ca ‘‘raññovasato’’ti ca pāṭho.
๓๓๓. น ลาภตณฺหา อิธ กามตณฺหา, ฌานสฺส เนสา ปริหานิ เหตุฯ พุทฺธตฺตสีลํ ปน ปตฺถยโนฺต ฌานาปิ นโฎฺฐติฯ นนุ ปตฺตภาวนาฯ มโนมยนฺติ ฌานมโนมยํฯ
333. Na lābhataṇhā idha kāmataṇhā, jhānassa nesā parihāni hetu. Buddhattasīlaṃ pana patthayanto jhānāpi naṭṭhoti. Nanu pattabhāvanā. Manomayanti jhānamanomayaṃ.
๓๓๔. สตฺถาโรติ คณสตฺถาโรฯ
334.Satthāroti gaṇasatthāro.
๓๓๙. โปตฺถนิกนฺติ ฉุริกํฯ
339.Potthanikanti churikaṃ.
๓๔๐. มนุเสฺสติ ปุริเสฯ
340.Manusseti purise.
๓๔๑. เอกรตฺตาธิกาเรน รกฺขํ ปจฺจาสีสนฺตา อีทิสาติ ทสฺสนตฺถํ ‘‘ปญฺจิเม’’ติอาทิ วุตฺตํฯ ‘‘ปุเพฺพ รกฺขเสฺสต’’นฺติ วุตฺตตฺตา มยฺหํ ปน รกฺขเณ กิจฺจํ นตฺถีติ ทสฺสนตฺถํ วุตฺตํฯ ปรูปกฺกเมน ตถาคตํ ชีวิตา โวโรเปยฺยาติ อิทํ อาณตฺติยา อาคตตฺตา เอวํ วุตฺตํฯ
341. Ekarattādhikārena rakkhaṃ paccāsīsantā īdisāti dassanatthaṃ ‘‘pañcime’’tiādi vuttaṃ. ‘‘Pubbe rakkhasseta’’nti vuttattā mayhaṃ pana rakkhaṇe kiccaṃ natthīti dassanatthaṃ vuttaṃ. Parūpakkamena tathāgataṃ jīvitā voropeyyāti idaṃ āṇattiyā āgatattā evaṃ vuttaṃ.
๓๔๒. มา อาสโทติ มา วธกจิเตฺตน อุปคจฺฉฯ อิโตติ อิมมฺหา ชีวิตมฺหาฯ ‘‘ยโตติ ยสฺมา, ยโตติ วา คตสฺสา’’ติ ลิขิตํฯ ‘‘ปฎิกุฎิโตติ อปสกฺกิตฺวา สงฺกุจิโต หุตฺวา วา ปฎิสกฺกตี’’ติ ลิขิตํฯ
342.Mā āsadoti mā vadhakacittena upagaccha. Itoti imamhā jīvitamhā. ‘‘Yatoti yasmā, yatoti vā gatassā’’ti likhitaṃ. ‘‘Paṭikuṭitoti apasakkitvā saṅkucito hutvā vā paṭisakkatī’’ti likhitaṃ.
๓๔๓. ติกโภชนนฺติ ตีหิ ภุญฺชิตพฺพโภชนํฯ ‘‘ติกโภชนีย’’นฺติปิ ปาโฐฯ ปริกปฺปโต หิ ติณฺณํ ภุญฺชิตุํ อนุชานามิ, ตโต อุทฺธํ คณโภชนเมว โหติ, ตสฺสาปิ อิทเมว วุตฺตํฯ อิธ อปุพฺพํ นตฺถิฯ ‘‘อกตวิญฺญตฺติลทฺธํ ติณฺณํ ภุญฺชนฺตานํ กิญฺจาปิ ตํ คณโภชนํ นาม น โหติ, วิญฺญตฺติวเสน ปน น วฎฺฎตี’’ติ ลิขิตํฯ ตโย อตฺถวเส ปฎิจฺจาติ เอตฺถาปิ ‘‘มา ปาปิจฺฉาปกฺขํ นิสฺสาย สงฺฆํ ภิเนฺทยฺยุ’’นฺติ เปสลานํ ภิกฺขูนํ ผาสุวิหารายาติ โยเชตพฺพํฯ กุลานุทฺทยตาย จาติ กุลานํ ปสาทรกฺขณตฺถํฯ วชฺชนฺติ วชฺชเมวฯ ‘‘วชฺชมิมํ ผุเสยฺยา’’ติ ลิขิตํฯ ‘‘วชฺชนียํ ปุคฺคลํ ผุเสยฺยา’’ติ วุตฺตํฯ ‘‘อิมสฺส มโน น ผุเสยฺยา’’ติ วตฺตพฺพมฺปิ สิยาฯ จกฺกเภทนฺติ สาสนเภทํฯ อายุกปฺปนฺติ เอตฺถ กิญฺจาปิ อวีจิมฺหิ อายุปริมาณํ นตฺถิ, เยน ปน กเมฺมน ยตฺตกํ อนุภวิตพฺพํ, ตสฺส อายุกปฺปนฺติ เวทิตพฺพํฯ
343.Tikabhojananti tīhi bhuñjitabbabhojanaṃ. ‘‘Tikabhojanīya’’ntipi pāṭho. Parikappato hi tiṇṇaṃ bhuñjituṃ anujānāmi, tato uddhaṃ gaṇabhojanameva hoti, tassāpi idameva vuttaṃ. Idha apubbaṃ natthi. ‘‘Akataviññattiladdhaṃ tiṇṇaṃ bhuñjantānaṃ kiñcāpi taṃ gaṇabhojanaṃ nāma na hoti, viññattivasena pana na vaṭṭatī’’ti likhitaṃ. Tayo atthavase paṭiccāti etthāpi ‘‘mā pāpicchāpakkhaṃ nissāya saṅghaṃ bhindeyyu’’nti pesalānaṃ bhikkhūnaṃ phāsuvihārāyāti yojetabbaṃ. Kulānuddayatāya cāti kulānaṃ pasādarakkhaṇatthaṃ. Vajjanti vajjameva. ‘‘Vajjamimaṃ phuseyyā’’ti likhitaṃ. ‘‘Vajjanīyaṃ puggalaṃ phuseyyā’’ti vuttaṃ. ‘‘Imassa mano na phuseyyā’’ti vattabbampi siyā. Cakkabhedanti sāsanabhedaṃ. Āyukappanti ettha kiñcāpi avīcimhi āyuparimāṇaṃ natthi, yena pana kammena yattakaṃ anubhavitabbaṃ, tassa āyukappanti veditabbaṃ.
๓๔๕. ‘‘อญฺญตรํ อาสนํ คเหตฺวา นิสีที’’ติ วจนโต วิสภาคฎฺฐานํ คตสฺส เปสลสฺสปิ ภิกฺขุโน เตสํ อาสเน นิสีทิตุํ วฎฺฎตีติ สิทฺธํฯ อาคิลายตีติ รุชฺชติฯ อาเทสนาปาฎิหาริยานุสาสนิยาติ ตสฺส ตสฺส จิตฺตาจารํ อาทิสฺส อาทิสฺส เทสนา, อาเทสนาปาฎิหาริยานุสาสนีฯ อิทฺธิ เอว ปาฎิหาริยํ อิทฺธิปาฎิหาริยํ, อิทฺธิปาฎิหาริยสํยุตฺตาย อนุสาสนิยา โอวทตีติ อโตฺถฯ นนุ ตํ อาวุโสติ เอตฺถ ตํ วจนํ นนุ มยา วุโตฺตสีติ อโตฺถฯ
345. ‘‘Aññataraṃ āsanaṃ gahetvā nisīdī’’ti vacanato visabhāgaṭṭhānaṃ gatassa pesalassapi bhikkhuno tesaṃ āsane nisīdituṃ vaṭṭatīti siddhaṃ. Āgilāyatīti rujjati. Ādesanāpāṭihāriyānusāsaniyāti tassa tassa cittācāraṃ ādissa ādissa desanā, ādesanāpāṭihāriyānusāsanī. Iddhi eva pāṭihāriyaṃ iddhipāṭihāriyaṃ, iddhipāṭihāriyasaṃyuttāya anusāsaniyā ovadatīti attho. Nanu taṃ āvusoti ettha taṃ vacanaṃ nanu mayā vuttosīti attho.
๓๔๖-๙. สุวิกฺขาลิตนฺติ สุโธตํฯ สํขาทิตฺวาติ สุฎฺฐุ ขาทิตฺวาฯ ‘‘มหิํ วิกุพฺพโตติ มหาวิสาโล’’ติ ลิขิตํฯ ตสฺส ภิสํ ฆสมานสฺสฯ ตตฺถ นทีสุ ชคฺคโตติ ปาเลนฺตสฺสฯ ‘‘กิํ? หตฺถิยูถํ คนฺตุ’’นฺติ วทนฺติฯ ‘‘อสํปาโต’ติ ปาโฐ, อปโตฺต หุตฺวาติ อโตฺถ’’ติ ลิขิตํฯ ‘‘อปายพหุตฺตา ปุน ทสฺสิโต’’ติ วุตฺตํฯ ‘‘เอวํสเตติ เอวํ อสฺส เต อาสวา’’ติ ลิขิตํฯ
346-9.Suvikkhālitanti sudhotaṃ. Saṃkhāditvāti suṭṭhu khāditvā. ‘‘Mahiṃ vikubbatoti mahāvisālo’’ti likhitaṃ. Tassa bhisaṃ ghasamānassa. Tattha nadīsu jaggatoti pālentassa. ‘‘Kiṃ? Hatthiyūthaṃ gantu’’nti vadanti. ‘‘Asaṃpāto’ti pāṭho, apatto hutvāti attho’’ti likhitaṃ. ‘‘Apāyabahuttā puna dassito’’ti vuttaṃ. ‘‘Evaṃsateti evaṃ assa te āsavā’’ti likhitaṃ.
๓๕๐. ‘‘โวสานํ ปรินิฎฺฐานํ วา’’ติ จ ลิขิตํฯ ชาตูติ ทฬฺหเตฺถ นิปาโตฯ มา อุทปชฺชถาติ มา อุปฺปเชฺชยฺยฯ ‘‘โส ปมาทมนุยุญฺชโนฺต’’ติ ปาโฐฯ อนาทรํ กุสเลสุฯ อุทธิ มหาติ กิตฺตโก มหา? เภสฺมา ยาว ภยานโก, ตาว มหาติ วุตฺตํ โหติฯ
350.‘‘Vosānaṃ pariniṭṭhānaṃ vā’’ti ca likhitaṃ. Jātūti daḷhatthe nipāto. Mā udapajjathāti mā uppajjeyya. ‘‘So pamādamanuyuñjanto’’ti pāṭho. Anādaraṃ kusalesu. Udadhi mahāti kittako mahā? Bhesmā yāva bhayānako, tāva mahāti vuttaṃ hoti.
๓๕๑. น โข, อุปาลิ, ภิกฺขุนี สงฺฆํ ภินฺทตีติ เอตฺถ ภิกฺขุ สงฺฆํ น ภินฺทติ, ภิกฺขุนี สงฺฆํ ภินฺทตีติ เกจิ, เนตํ คเหตพฺพํฯ เกวลํ ‘‘สโงฺฆ’’ติ วุเตฺต ภิกฺขุสโงฺฆว อธิเปฺปโตฯ ‘‘สงฺฆสฺส เทติ, อุภโตสงฺฆสฺส เทติ จา’’ติ (มหาว. ๓๗๙) มาติกาวจนมฺปิ สาเธติฯ ตสฺมิํ อธมฺมทิฎฺฐิเภเท ธมฺมทิฎฺฐิ สิยาฯ ‘‘สีลสติเภเทสุปิ สมาโน ธมฺมํ กาตุนฺติ สงฺฆเภเท เวมติโกปิ ตาทิโส วา’’ติ ลิขิตํฯ วินิธายาติ อตฺตโน วญฺจนาธิปฺปายตํ ฉาเทตฺวาฯ
351.Na kho, upāli, bhikkhunī saṅghaṃ bhindatīti ettha bhikkhu saṅghaṃ na bhindati, bhikkhunī saṅghaṃ bhindatīti keci, netaṃ gahetabbaṃ. Kevalaṃ ‘‘saṅgho’’ti vutte bhikkhusaṅghova adhippeto. ‘‘Saṅghassa deti, ubhatosaṅghassa deti cā’’ti (mahāva. 379) mātikāvacanampi sādheti. Tasmiṃ adhammadiṭṭhibhede dhammadiṭṭhi siyā. ‘‘Sīlasatibhedesupi samāno dhammaṃ kātunti saṅghabhede vematikopi tādiso vā’’ti likhitaṃ. Vinidhāyāti attano vañcanādhippāyataṃ chādetvā.
สงฺฆเภทกกฺขนฺธกวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Saṅghabhedakakkhandhakavaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / วินยปิฎก • Vinayapiṭaka / จูฬวคฺคปาฬิ • Cūḷavaggapāḷi
ฉสกฺยปพฺพชฺชากถา • Chasakyapabbajjākathā
เทวทตฺตวตฺถุ • Devadattavatthu
ปญฺจสตฺถุกถา • Pañcasatthukathā
อชาตสตฺตุกุมารวตฺถุ • Ajātasattukumāravatthu
อภิมารเปสนํ • Abhimārapesanaṃ
โลหิตุปฺปาทกกมฺมํ • Lohituppādakakammaṃ
นาฬาคิริเปสนํ • Nāḷāgiripesanaṃ
ปญฺจวตฺถุยาจนกถา • Pañcavatthuyācanakathā
สงฺฆเภทกถา • Saṅghabhedakathā
อุปาลิปญฺหา • Upālipañhā
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / วินยปิฎก (อฎฺฐกถา) • Vinayapiṭaka (aṭṭhakathā) / จูฬวคฺค-อฎฺฐกถา • Cūḷavagga-aṭṭhakathā
ฉสกฺยปพฺพชฺชากถา • Chasakyapabbajjākathā
ปกาสนียกมฺมาทิกถา • Pakāsanīyakammādikathā
สงฺฆเภทกกถา • Saṅghabhedakakathā
อุปาลิปญฺหากถา • Upālipañhākathā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā
ฉสกฺยปพฺพชฺชากถาวณฺณนา • Chasakyapabbajjākathāvaṇṇanā
ปญฺจสตฺถุกถาวณฺณนา • Pañcasatthukathāvaṇṇanā
นาฬาคิริเปสนกถาวณฺณนา • Nāḷāgiripesanakathāvaṇṇanā
ปญฺจวตฺถุยาจนกถาวณฺณนา • Pañcavatthuyācanakathāvaṇṇanā
สงฺฆเภทกถาวณฺณนา • Saṅghabhedakathāvaṇṇanā
อุปาลิปญฺหกถาวณฺณนา • Upālipañhakathāvaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā
ฉสกฺยปพฺพชฺชากถาทิวณฺณนา • Chasakyapabbajjākathādivaṇṇanā
สงฺฆเภทกกถาวณฺณนา • Saṅghabhedakakathāvaṇṇanā
อุปาลิปญฺหากถาวณฺณนา • Upālipañhākathāvaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / ปาจิตฺยาทิโยชนาปาฬิ • Pācityādiyojanāpāḷi
ฉสกฺยปพฺพชฺชากถา • Chasakyapabbajjākathā
ปกาสนียกมฺมาทิกถา • Pakāsanīyakammādikathā
สงฺฆเภทกถา • Saṅghabhedakathā
อุปาลิปญฺหากถา • Upālipañhākathā