Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ปญฺจปกรณ-อฎฺฐกถา • Pañcapakaraṇa-aṭṭhakathā |
๖. ฉฎฺฐนโย สมฺปโยควิปฺปโยคปทวณฺณนา
6. Chaṭṭhanayo sampayogavippayogapadavaṇṇanā
๒๒๘. อิทานิ สมฺปโยควิปฺปโยคปทํ ภาเชตุํ รูปกฺขโนฺธติอาทิ อารทฺธํฯ ตตฺถ ยํ ลพฺภติ ยญฺจ น ลพฺภติ ตํ สพฺพํ ปุจฺฉาย คหิตํฯ วิสฺสชฺชเน ปน ยํ น ลพฺภติ, ตํ นตฺถีติ ปฎิกฺขิตฺตํฯ จตูหิ สมฺปโยโค, จตูหิ วิปฺปโยโค; สภาโค วิสภาโคติ หิ วจนโต จตูหิ อรูปกฺขเนฺธเหว สภาคานํ เอกสนฺตานสฺมิํ เอกกฺขเณ อุปฺปนฺนานํ อรูปกฺขนฺธานํเยว อญฺญมญฺญํ สมฺปโยโค ลพฺภติฯ รูปธมฺมานํ ปน รูเปน นิพฺพาเนน วา, นิพฺพานสฺส จ รูเปน สทฺธิํ สมฺปโยโค นาม นตฺถิฯ ตถา รูปนิพฺพานานํ อรูปกฺขเนฺธหิ, วิสภาคา หิ เต เตสํฯ ยถา จ อรูปกฺขนฺธานํ รูปนิพฺพาเนหิ, เอวํ ภินฺนสนฺตาเนหิ นานากฺขณิเกหิ อรูปธเมฺมหิปิ สทฺธิํ นตฺถิเยวฯ เตปิ หิ เตสํ สนฺตานกฺขณวิสภาคตาย วิสภาคาเยวฯ อยํ ปน วิสภาคตา สงฺคหเฎฺฐน วิรุชฺฌนโต สงฺคหนเย นตฺถิฯ คณนูปคมตฺตญฺหิ สงฺคหโฎฺฐฯ สมฺปโยคนเย ปน อตฺถิ, เอกุปฺปาทตาทิลกฺขณญฺหิ สมฺปโยคโฎฺฐติฯ เอวเมตฺถ ยสฺส เอกธเมฺมนปิ สมฺปโยคลกฺขณํ น ยุชฺฌติ, ตสฺส ปุจฺฉาย สงฺคหํ กตฺวาปิ นตฺถีติ ปฎิเกฺขโป กโตฯ ยสฺส วิปฺปโยคลกฺขณํ ยุชฺชติ, ตสฺส วิปฺปโยโค ทสฺสิโตฯ ยานิ ปน ปทานิ สตฺตสุ วิญฺญาณธาตูสุ เอกายปิ อวิปฺปยุเตฺต รูเปน นิพฺพาเนน วา มิสฺสกธเมฺม ทีเปนฺติ, ตานิ สพฺพถาปิ อิธ น ยุชฺชนฺตีติ น คหิตานิฯ เตสํ อิทมุทฺทานํ –
228. Idāni sampayogavippayogapadaṃ bhājetuṃ rūpakkhandhotiādi āraddhaṃ. Tattha yaṃ labbhati yañca na labbhati taṃ sabbaṃ pucchāya gahitaṃ. Vissajjane pana yaṃ na labbhati, taṃ natthīti paṭikkhittaṃ. Catūhi sampayogo, catūhi vippayogo; sabhāgo visabhāgoti hi vacanato catūhi arūpakkhandheheva sabhāgānaṃ ekasantānasmiṃ ekakkhaṇe uppannānaṃ arūpakkhandhānaṃyeva aññamaññaṃ sampayogo labbhati. Rūpadhammānaṃ pana rūpena nibbānena vā, nibbānassa ca rūpena saddhiṃ sampayogo nāma natthi. Tathā rūpanibbānānaṃ arūpakkhandhehi, visabhāgā hi te tesaṃ. Yathā ca arūpakkhandhānaṃ rūpanibbānehi, evaṃ bhinnasantānehi nānākkhaṇikehi arūpadhammehipi saddhiṃ natthiyeva. Tepi hi tesaṃ santānakkhaṇavisabhāgatāya visabhāgāyeva. Ayaṃ pana visabhāgatā saṅgahaṭṭhena virujjhanato saṅgahanaye natthi. Gaṇanūpagamattañhi saṅgahaṭṭho. Sampayoganaye pana atthi, ekuppādatādilakkhaṇañhi sampayogaṭṭhoti. Evamettha yassa ekadhammenapi sampayogalakkhaṇaṃ na yujjhati, tassa pucchāya saṅgahaṃ katvāpi natthīti paṭikkhepo kato. Yassa vippayogalakkhaṇaṃ yujjati, tassa vippayogo dassito. Yāni pana padāni sattasu viññāṇadhātūsu ekāyapi avippayutte rūpena nibbānena vā missakadhamme dīpenti, tāni sabbathāpi idha na yujjantīti na gahitāni. Tesaṃ idamuddānaṃ –
‘‘ธมฺมายตนํ ธมฺมธาตุ, ทุกฺขสจฺจญฺจ ชีวิตํ;
‘‘Dhammāyatanaṃ dhammadhātu, dukkhasaccañca jīvitaṃ;
สฬายตนํ นามรูปํ, จตฺตาโร จ มหาภวาฯ
Saḷāyatanaṃ nāmarūpaṃ, cattāro ca mahābhavā.
‘‘ชาติชรา จ มรณํ, ติเกเสฺวกูนวีสติ;
‘‘Jātijarā ca maraṇaṃ, tikesvekūnavīsati;
โคจฺฉเกสุ จ ปญฺญาส, อฎฺฐ จูฬนฺตเร ปทาฯ
Gocchakesu ca paññāsa, aṭṭha cūḷantare padā.
‘‘มหนฺตเร ปนฺนรส, อฎฺฐารส ตโต ปเร;
‘‘Mahantare pannarasa, aṭṭhārasa tato pare;
เตวีส ปทสตํ เอตํ, สมฺปโยเค น ลพฺภตี’’ติฯ
Tevīsa padasataṃ etaṃ, sampayoge na labbhatī’’ti.
ธมฺมายตนญฺหิ รูปนิพฺพานมิสฺสกตฺตา ตสฺมิํ อปริยาปเนฺนน วิญฺญาเณนปิ น สกฺกา สมฺปยุตฺตนฺติ วตฺตุํฯ ยสฺมา ปเนตฺถ เวทนาทโย วิญฺญาเณน สมฺปยุตฺตา, ตสฺมา วิปฺปยุตฺตนฺติปิ น สกฺกา วตฺตุํฯ เสเสสุปิ เอเสว นโยฯ เอวํ สพฺพตฺถาปิ เอตานิ น ยุชฺชนฺตีติ อิธ น คหิตานิฯ เสสานิ ขนฺธาทีนิ ยุชฺชนฺตีติ ตานิ คเหตฺวา เอเกกวเสน จ สโมธาเนน จ ปญฺหวิสฺสชฺชนํ กตํฯ เตสุ ปเญฺหสุ, ปฐเม – เอเกนายตเนนาติ มนายตเนนฯ เกหิจีติ ธมฺมายตนธมฺมธาตุปริยาปเนฺนหิ เวทนาสญฺญาสงฺขาเรหิฯ
Dhammāyatanañhi rūpanibbānamissakattā tasmiṃ apariyāpannena viññāṇenapi na sakkā sampayuttanti vattuṃ. Yasmā panettha vedanādayo viññāṇena sampayuttā, tasmā vippayuttantipi na sakkā vattuṃ. Sesesupi eseva nayo. Evaṃ sabbatthāpi etāni na yujjantīti idha na gahitāni. Sesāni khandhādīni yujjantīti tāni gahetvā ekekavasena ca samodhānena ca pañhavissajjanaṃ kataṃ. Tesu pañhesu, paṭhame – ekenāyatanenāti manāyatanena. Kehicīti dhammāyatanadhammadhātupariyāpannehi vedanāsaññāsaṅkhārehi.
๒๒๙. ทุติเย – ตีหีติ ปุจฺฉิตํ ปุจฺฉิตํ ฐเปตฺวา เสเสหิฯ เกหิจิ สมฺปยุโตฺตติ เวทนากฺขโนฺธ สญฺญาสงฺขาเรหิฯ อิตเรปิ อตฺตานํ ฐเปตฺวา อิตเรหิฯ เกหิจิ วิปฺปยุโตฺตติ รูปนิพฺพาเนหิฯ เอวํ สพฺพตฺถ รูปสฺส วิปฺปโยเค ธมฺมายตนธมฺมธาตูสุ อรูปํ, อรูปสฺส วิปฺปโยเค รูปํ ทฎฺฐพฺพํฯ ตติยปโญฺห อุตฺตานโตฺถวฯ
229. Dutiye – tīhīti pucchitaṃ pucchitaṃ ṭhapetvā sesehi. Kehici sampayuttoti vedanākkhandho saññāsaṅkhārehi. Itarepi attānaṃ ṭhapetvā itarehi. Kehici vippayuttoti rūpanibbānehi. Evaṃ sabbattha rūpassa vippayoge dhammāyatanadhammadhātūsu arūpaṃ, arūpassa vippayoge rūpaṃ daṭṭhabbaṃ. Tatiyapañho uttānatthova.
๒๓๑. จตุเตฺถ – ‘กติหิ ขเนฺธหี’ติอาทิํ อวตฺวา สมฺปยุตฺตนฺติ นตฺถีติ วุตฺตํฯ ตํ ปน ขนฺธาทีนํเยว วเสน เวทิตพฺพํฯ ปรโตปิ เอวรูเปสุ ปเญฺหสุ เอเสว นโยฯ อาทิปญฺหสฺมิญฺหิ สรูปโต ทเสฺสตฺวา ปรโต ปาฬิ สํขิตฺตาฯ อิมินา นเยน สพฺพตฺถ อตฺถโยชนา เวทิตพฺพาฯ ยตฺถ ปน นาติปากฎา ภวิสฺสติ, ตตฺถ นํ ปากฎํ กตฺวาว คมิสฺสามฯ
231. Catutthe – ‘katihi khandhehī’tiādiṃ avatvā sampayuttanti natthīti vuttaṃ. Taṃ pana khandhādīnaṃyeva vasena veditabbaṃ. Paratopi evarūpesu pañhesu eseva nayo. Ādipañhasmiñhi sarūpato dassetvā parato pāḷi saṃkhittā. Iminā nayena sabbattha atthayojanā veditabbā. Yattha pana nātipākaṭā bhavissati, tattha naṃ pākaṭaṃ katvāva gamissāma.
๒๓๔. โสฬสหิ ธาตูหีติ จกฺขุวิญฺญาณธาตุ ตาว อตฺตานํ ฐเปตฺวา ฉหิ วิญฺญาณธาตูหิ, ทสหิ จ รูปธาตูหิฯ เสสาสุปิ เอเสว นโยฯ
234. Soḷasahi dhātūhīti cakkhuviññāṇadhātu tāva attānaṃ ṭhapetvā chahi viññāṇadhātūhi, dasahi ca rūpadhātūhi. Sesāsupi eseva nayo.
๒๓๕. ตีหิ ขเนฺธหีติ สงฺขารกฺขนฺธํ ฐเปตฺวา เสเสหิฯ เอกาย ธาตุยาติ มโนวิญฺญาณธาตุยาฯ สมุทยมคฺคานญฺหิ อญฺญาย ธาตุยา สมฺปโยโค นตฺถิฯ เอเกน ขเนฺธนาติ สงฺขารกฺขเนฺธนฯ เอเกนายตเนนาติ ธมฺมายตเนนฯ เอกาย ธาตุยาติ ธมฺมธาตุยาฯ เอเตสุ หิ ตํ สจฺจทฺวยํ เกหิจิ สมฺปยุตฺตํฯ
235. Tīhikhandhehīti saṅkhārakkhandhaṃ ṭhapetvā sesehi. Ekāya dhātuyāti manoviññāṇadhātuyā. Samudayamaggānañhi aññāya dhātuyā sampayogo natthi. Ekena khandhenāti saṅkhārakkhandhena. Ekenāyatanenāti dhammāyatanena. Ekāyadhātuyāti dhammadhātuyā. Etesu hi taṃ saccadvayaṃ kehici sampayuttaṃ.
๒๓๘. สุขินฺทฺริยาทิปเญฺห – ตีหีติ สญฺญาสงฺขารวิญฺญาเณหิฯ เอกาย ธาตุยาติ กายวิญฺญาณธาตุยา, มโนวิญฺญาณธาตุยา จฯ ฉหิ ธาตูหีติ กายวิญฺญาณธาตุวชฺชาหิฯ
238. Sukhindriyādipañhe – tīhīti saññāsaṅkhāraviññāṇehi. Ekāya dhātuyāti kāyaviññāṇadhātuyā, manoviññāṇadhātuyā ca. Chahi dhātūhīti kāyaviññāṇadhātuvajjāhi.
๒๔๕. รูปภวปเญฺห – สเพฺพสมฺปิ อรูปกฺขนฺธานํ อรูปายตนานญฺจ อตฺถิตาย น เกหิจีติ วุตฺตํฯ ฆานชิวฺหากายวิญฺญาณธาตูนํ ปน นตฺถิตาย ตีหิ ธาตูหิ วิปฺปยุโตฺตติ วุตฺตํฯ
245. Rūpabhavapañhe – sabbesampi arūpakkhandhānaṃ arūpāyatanānañca atthitāya na kehicīti vuttaṃ. Ghānajivhākāyaviññāṇadhātūnaṃ pana natthitāya tīhi dhātūhi vippayuttoti vuttaṃ.
๒๕๖. อธิโมกฺขปเญฺห – ทฺวีหิ ธาตูหีติ มโนธาตุมโนวิญฺญาณธาตูหิฯ ปนฺนรสหีติ เสสาหิ ทสหิ รูปธาตูหิ, ปญฺจหิ จ จกฺขุวิญฺญาณาทีหิฯ
256. Adhimokkhapañhe – dvīhi dhātūhīti manodhātumanoviññāṇadhātūhi. Pannarasahīti sesāhi dasahi rūpadhātūhi, pañcahi ca cakkhuviññāṇādīhi.
๒๕๗. กุสลปเญฺห – กุสเลหิ จตุนฺนมฺปิ ขนฺธานํ คหิตตฺตา สมฺปโยโค ปฎิกฺขิโตฺตฯ
257. Kusalapañhe – kusalehi catunnampi khandhānaṃ gahitattā sampayogo paṭikkhitto.
๒๕๘. เวทนาตฺติกปเญฺห – เอเกน ขเนฺธนาติ เวทนากฺขเนฺธเนวฯ ปนฺนรสหีติ จกฺขุโสตฆานชิวฺหาวิญฺญาณธาตุมโนธาตูหิ เจว รูปธาตูหิ จฯ เอกาทสหีติ กายวิญฺญาณธาตุยา สทฺธิํ รูปธาตูหิฯ
258. Vedanāttikapañhe – ekena khandhenāti vedanākkhandheneva. Pannarasahīti cakkhusotaghānajivhāviññāṇadhātumanodhātūhi ceva rūpadhātūhi ca. Ekādasahīti kāyaviññāṇadhātuyā saddhiṃ rūpadhātūhi.
๒๖๒. เนววิปากนวิปากธมฺมธมฺมปเญฺห – ปญฺจหีติ จกฺขุวิญฺญาณาทีหิฯ อนุปาทินฺนอนุปาทานิยปเญฺห – ฉหีติ มโนวิญฺญาณธาตุวชฺชาหิฯ สวิตกฺกสวิจารปเญฺห – ปนฺนรสหีติ ปญฺจหิ วิญฺญาเณหิ สทฺธิํ รูปธาตูหิฯ อวิตกฺกวิจารมตฺตปเญฺห – เอเกน ขเนฺธนาติอาทิ สงฺขารกฺขนฺธวเสเนว เวทิตพฺพํฯ ทุติยชฺฌานวิจารญฺหิ ฐเปตฺวา เสสา อวิตกฺกวิจารมตฺตา นามฯ ปีติํ ฐเปตฺวา เสสา ปีติสหคตาฯ ตตฺถ วิจาโร วิจาเรน, ปีติ จ ปีติยา น สมฺปยุตฺตาติ สงฺขารกฺขนฺธธมฺมายตนธมฺมธาตูสุ เกหิจิ สมฺปยุตฺตา นามฯ โสฬสหีติ ธมฺมธาตุมโนวิญฺญาณธาตุวชฺชาเหวฯ อวิตกฺกอวิจารปเญฺห – เอกาย ธาตุยาติ มโนธาตุยาฯ สุขสหคตา อุเปกฺขาสหคตา จ เวทนาตฺติเก วุตฺตาวฯ ทสฺสเนนปหาตพฺพาทโย กุสลสทิสาวฯ
262. Nevavipākanavipākadhammadhammapañhe – pañcahīti cakkhuviññāṇādīhi. Anupādinnaanupādāniyapañhe – chahīti manoviññāṇadhātuvajjāhi. Savitakkasavicārapañhe – pannarasahīti pañcahi viññāṇehi saddhiṃ rūpadhātūhi. Avitakkavicāramattapañhe – ekena khandhenātiādi saṅkhārakkhandhavaseneva veditabbaṃ. Dutiyajjhānavicārañhi ṭhapetvā sesā avitakkavicāramattā nāma. Pītiṃ ṭhapetvā sesā pītisahagatā. Tattha vicāro vicārena, pīti ca pītiyā na sampayuttāti saṅkhārakkhandhadhammāyatanadhammadhātūsu kehici sampayuttā nāma. Soḷasahīti dhammadhātumanoviññāṇadhātuvajjāheva. Avitakkaavicārapañhe – ekāya dhātuyāti manodhātuyā. Sukhasahagatā upekkhāsahagatā ca vedanāttike vuttāva. Dassanenapahātabbādayo kusalasadisāva.
๒๗๑. ปริตฺตารมฺมณํ วิปากธมฺมสทิสํฯ เอกาย ธาตุยาติ ธมฺมธาตุยาฯ เกหิจีติ เย ตตฺถ ปริตฺตารมฺมณา น โหนฺติ, เตหิฯ ธมฺมธาตุ ปน ปริตฺตารมฺมณานํ ฉนฺนํ จิตฺตุปฺปาทานํ วเสน จตูหิ ขเนฺธหิ สงฺคหิตตฺตา ปฐมปฎิเกฺขปเมว ภชติฯ มหคฺคตารมฺมณาทโย กุสลสทิสาวฯ
271. Parittārammaṇaṃ vipākadhammasadisaṃ. Ekāya dhātuyāti dhammadhātuyā. Kehicīti ye tattha parittārammaṇā na honti, tehi. Dhammadhātu pana parittārammaṇānaṃ channaṃ cittuppādānaṃ vasena catūhi khandhehi saṅgahitattā paṭhamapaṭikkhepameva bhajati. Mahaggatārammaṇādayo kusalasadisāva.
๒๗๓. อนุปฺปเนฺนสุ – ปญฺจหิ ธาตูหีติ จกฺขุวิญฺญาณาทีหิฯ ตานิ หิ เอกเนฺตน อุปฺปาทิธมฺมภูตาเนว, อุปฺปนฺนโกฎฺฐาสมฺปิ ปน ภชนฺติฯ ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณาทโย ปริตฺตารมฺมณสทิสาว ฯ เหตุอาทโย สมุทยสทิสาวฯ สเหตุกา เจว น จ เหตูปิ ปีติสหคตสทิสาวฯ ตถา ปรามาสสมฺปยุตฺตาฯ อนุปาทินฺนา อนุปฺปนฺนสทิสาวฯ เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติฯ
273. Anuppannesu – pañcahi dhātūhīti cakkhuviññāṇādīhi. Tāni hi ekantena uppādidhammabhūtāneva, uppannakoṭṭhāsampi pana bhajanti. Paccuppannārammaṇādayo parittārammaṇasadisāva . Hetuādayo samudayasadisāva. Sahetukā ceva na ca hetūpi pītisahagatasadisāva. Tathā parāmāsasampayuttā. Anupādinnā anuppannasadisāva. Sesaṃ sabbattha uttānatthamevāti.
สมฺปโยควิปฺปโยคปทวณฺณนาฯ
Sampayogavippayogapadavaṇṇanā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / อภิธมฺมปิฎก • Abhidhammapiṭaka / ธาตุกถาปาฬิ • Dhātukathāpāḷi / ๖. สมฺปโยควิปฺปโยคปทนิเทฺทโส • 6. Sampayogavippayogapadaniddeso
ฎีกา • Tīkā / อภิธมฺมปิฎก (ฎีกา) • Abhidhammapiṭaka (ṭīkā) / ปญฺจปกรณ-มูลฎีกา • Pañcapakaraṇa-mūlaṭīkā / ๖. ฉฎฺฐนโย สมฺปโยควิปฺปโยคปทวณฺณนา • 6. Chaṭṭhanayo sampayogavippayogapadavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / อภิธมฺมปิฎก (ฎีกา) • Abhidhammapiṭaka (ṭīkā) / ปญฺจปกรณ-อนุฎีกา • Pañcapakaraṇa-anuṭīkā / ๖. ฉฎฺฐนโย สมฺปโยควิปฺปโยคปทวณฺณนา • 6. Chaṭṭhanayo sampayogavippayogapadavaṇṇanā