Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / เทฺวมาติกาปาฬิ • Dvemātikāpāḷi |
๙. ฉตฺตุปาหนวโคฺค
9. Chattupāhanavaggo
๑. ฉตฺตุปาหนสิกฺขาปทวณฺณนา
1. Chattupāhanasikkhāpadavaṇṇanā
ฉตฺตวคฺคสฺส ปฐเม ฉตฺตุปาหนนฺติ ปทภาชเน (ปาจิ. ๑๑๗๘-๑๑๘๒) วุตฺตลกฺขณํ ฉตฺตญฺจ อุปาหนาโย จฯ ธาเรยฺยาติ ปริโภควเสน มคฺคคมเน เอกปฺปโยเคเนว ทิวสมฺปิ ธาเรนฺติยา เอกา อาปตฺติฯ สเจ ปน ตาทิสํ ฐานํ ปตฺวา ฉตฺตมฺปิ อปนาเมตฺวา อุปาหนาปิ โอมุญฺจิตฺวา ปุนปฺปุนํ ธาเรติ, ปโยคคณนาย ปาจิตฺติยํฯ
Chattavaggassa paṭhame chattupāhananti padabhājane (pāci. 1178-1182) vuttalakkhaṇaṃ chattañca upāhanāyo ca. Dhāreyyāti paribhogavasena maggagamane ekappayogeneva divasampi dhārentiyā ekā āpatti. Sace pana tādisaṃ ṭhānaṃ patvā chattampi apanāmetvā upāhanāpi omuñcitvā punappunaṃ dhāreti, payogagaṇanāya pācittiyaṃ.
สาวตฺถิยํ ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขุนิโย อารพฺภ ฉตฺตุปาหนธารณวตฺถุสฺมิํ ปญฺญตฺตํ, ‘‘อคิลานา’’ติ อยเมตฺถ อนุปญฺญตฺติ , ฉตฺตเสฺสว อุปาหนานํเยว วา ธารเณ ทุกฺกฎํ, อคิลานาย ติกปาจิตฺติยํ, คิลานาย ทฺวิกทุกฺกฎํฯ คิลานสญฺญาย ปน, อาราเม อารามูปจาเร ธาเรนฺติยา, อาปทาสุ, อุมฺมตฺติกาทีนญฺจ อนาปตฺติฯ อุภินฺนํ ธารณํ, อนุญฺญาตการณาภาโวติ อิมาเนตฺถ เทฺว องฺคานิฯ สมุฎฺฐานาทีนิ เอฬกโลมสทิสานีติฯ
Sāvatthiyaṃ chabbaggiyā bhikkhuniyo ārabbha chattupāhanadhāraṇavatthusmiṃ paññattaṃ, ‘‘agilānā’’ti ayamettha anupaññatti , chattasseva upāhanānaṃyeva vā dhāraṇe dukkaṭaṃ, agilānāya tikapācittiyaṃ, gilānāya dvikadukkaṭaṃ. Gilānasaññāya pana, ārāme ārāmūpacāre dhārentiyā, āpadāsu, ummattikādīnañca anāpatti. Ubhinnaṃ dhāraṇaṃ, anuññātakāraṇābhāvoti imānettha dve aṅgāni. Samuṭṭhānādīni eḷakalomasadisānīti.
ฉตฺตุปาหนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Chattupāhanasikkhāpadavaṇṇanā niṭṭhitā.
๒. ยานสิกฺขาปทวณฺณนา
2. Yānasikkhāpadavaṇṇanā
ทุติเย ยาเนนาติ วยฺหาทินาฯ เอตฺถาปิ โอโรหิตฺวา ปุนปฺปุนํ อภิรุหนฺติยา ปโยคคณนาย ปาจิตฺติยํฯ อนาปตฺติยํ ‘‘อาราเม อารามูปจาเร’’ติ นตฺถิ, เสสํ ปฐเม วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพนฺติฯ
Dutiye yānenāti vayhādinā. Etthāpi orohitvā punappunaṃ abhiruhantiyā payogagaṇanāya pācittiyaṃ. Anāpattiyaṃ ‘‘ārāme ārāmūpacāre’’ti natthi, sesaṃ paṭhame vuttanayeneva veditabbanti.
ยานสิกฺขาปทวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Yānasikkhāpadavaṇṇanā niṭṭhitā.
๓. สงฺฆาณิสิกฺขาปทวณฺณนา
3. Saṅghāṇisikkhāpadavaṇṇanā
ตติเย สงฺฆาณินฺติ ยํกิญฺจิ กฎูปคํฯ ธาเรยฺยาติ กฎิยํ ปฎิมุเญฺจยฺยฯ เอตฺถาปิ โอมุญฺจิตฺวา โอมุญฺจิตฺวา ธาเรนฺติยา ปโยคคณนาย ปาจิตฺติยํฯ
Tatiye saṅghāṇinti yaṃkiñci kaṭūpagaṃ. Dhāreyyāti kaṭiyaṃ paṭimuñceyya. Etthāpi omuñcitvā omuñcitvā dhārentiyā payogagaṇanāya pācittiyaṃ.
สาวตฺถิยํ อญฺญตรํ ภิกฺขุนิํ อารพฺภ สงฺฆาณิํ ธารณวตฺถุสฺมิํ ปญฺญตฺตํฯ อาพาธปจฺจยา กฎิสุตฺตํ ธาเรนฺติยา, อุมฺมตฺติกาทีนญฺจ อนาปตฺติฯ เสสํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ, อิทํ ปน อกุสลจิตฺตนฺติฯ
Sāvatthiyaṃ aññataraṃ bhikkhuniṃ ārabbha saṅghāṇiṃ dhāraṇavatthusmiṃ paññattaṃ. Ābādhapaccayā kaṭisuttaṃ dhārentiyā, ummattikādīnañca anāpatti. Sesaṃ vuttanayeneva veditabbaṃ, idaṃ pana akusalacittanti.
สงฺฆาณิสิกฺขาปทวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Saṅghāṇisikkhāpadavaṇṇanā niṭṭhitā.
๔. อิตฺถาลงฺการสิกฺขาปทวณฺณนา
4. Itthālaṅkārasikkhāpadavaṇṇanā
จตุเตฺถ อิตฺถาลงฺการนฺติ สีสูปคาทีสุ อญฺญตรํ ยํกิญฺจิ ปิฬนฺธนํฯ อิธ ตสฺส ตสฺส วเสน วตฺถุคณนาย อาปตฺติ เวทิตพฺพาฯ
Catutthe itthālaṅkāranti sīsūpagādīsu aññataraṃ yaṃkiñci piḷandhanaṃ. Idha tassa tassa vasena vatthugaṇanāya āpatti veditabbā.
สาวตฺถิยํ ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขุนิโย อารพฺภ อิตฺถาลงฺการํ ธารณวตฺถุสฺมิํ ปญฺญตฺตํ, อาพาธปจฺจยา กิญฺจิเทว ธาเรนฺติยา, อุมฺมตฺติกาทีนญฺจ อนาปตฺติฯ เสสํ วุตฺตสทิสเมวาติฯ
Sāvatthiyaṃ chabbaggiyā bhikkhuniyo ārabbha itthālaṅkāraṃ dhāraṇavatthusmiṃ paññattaṃ, ābādhapaccayā kiñcideva dhārentiyā, ummattikādīnañca anāpatti. Sesaṃ vuttasadisamevāti.
อิตฺถาลงฺการสิกฺขาปทวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Itthālaṅkārasikkhāpadavaṇṇanā niṭṭhitā.
๕. คนฺธวณฺณกสิกฺขาปทวณฺณนา
5. Gandhavaṇṇakasikkhāpadavaṇṇanā
ปญฺจเม คนฺธวณฺณเกนาติ เยนเกนจิ คเนฺธน จ วณฺณเกน จฯ อิธ คนฺธาทิโยชนโต ปฎฺฐาย ปุพฺพปโยเค ทุกฺกฎํ, นหานปริโยสาเน ปาจิตฺติยํฯ อาพาธปจฺจยา, อุมฺมตฺติกาทีนญฺจ อนาปตฺติฯ เสสํ จตุตฺถสทิสเมวาติฯ
Pañcame gandhavaṇṇakenāti yenakenaci gandhena ca vaṇṇakena ca. Idha gandhādiyojanato paṭṭhāya pubbapayoge dukkaṭaṃ, nahānapariyosāne pācittiyaṃ. Ābādhapaccayā, ummattikādīnañca anāpatti. Sesaṃ catutthasadisamevāti.
คนฺธวณฺณกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Gandhavaṇṇakasikkhāpadavaṇṇanā niṭṭhitā.
๖. วาสิตกสิกฺขาปทวณฺณนา
6. Vāsitakasikkhāpadavaṇṇanā
ฉเฎฺฐ วาสิตเกนาติ คนฺธวาสิตเกนฯ ปิญฺญาเกนาติ ติลปิเฎฺฐนฯ เสสํ ปญฺจมสทิสเมวาติฯ
Chaṭṭhe vāsitakenāti gandhavāsitakena. Piññākenāti tilapiṭṭhena. Sesaṃ pañcamasadisamevāti.
วาสิตกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Vāsitakasikkhāpadavaṇṇanā niṭṭhitā.
๗. ภิกฺขุนิอุมฺมทฺทาปนสิกฺขาปทวณฺณนา
7. Bhikkhuniummaddāpanasikkhāpadavaṇṇanā
สตฺตเม อุมฺมทฺทาเปยฺยาติ อุพฺพฎฺฎาเปยฺยฯ ปริมทฺทาเปยฺยาติ สมฺพาหาเปยฺยฯ เอตฺถ จ หตฺถํ อมุญฺจิตฺวา อุพฺพฎฺฎเน เอกาว อาปตฺติ, โมเจตฺวา โมเจตฺวา อุพฺพฎฺฎเน ปโยคคณนาย อาปตฺติโยฯ สมฺพาหเนปิ เอเสว นโยฯ
Sattame ummaddāpeyyāti ubbaṭṭāpeyya. Parimaddāpeyyāti sambāhāpeyya. Ettha ca hatthaṃ amuñcitvā ubbaṭṭane ekāva āpatti, mocetvā mocetvā ubbaṭṭane payogagaṇanāya āpattiyo. Sambāhanepi eseva nayo.
สาวตฺถิยํ สมฺพหุลา ภิกฺขุนิโย อารพฺภ ภิกฺขุนิยา อุมฺมทฺทาปนปริมทฺทาปนวตฺถุสฺมิํ ปญฺญตฺตํ, คิลานาย, อาปทาสุ, อุมฺมตฺติกาทีนญฺจ อนาปตฺติฯ อิธ มคฺคคมนปริสฺสโมปิ เคลญฺญํ, โจรภยาทีหิ สรีรกมฺปนาทโยปิ อาปทาฯ เสสํ จตุเตฺถ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพนฺติฯ
Sāvatthiyaṃ sambahulā bhikkhuniyo ārabbha bhikkhuniyā ummaddāpanaparimaddāpanavatthusmiṃ paññattaṃ, gilānāya, āpadāsu, ummattikādīnañca anāpatti. Idha maggagamanaparissamopi gelaññaṃ, corabhayādīhi sarīrakampanādayopi āpadā. Sesaṃ catutthe vuttanayeneva veditabbanti.
ภิกฺขุนิอุมฺมทฺทาปนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Bhikkhuniummaddāpanasikkhāpadavaṇṇanā niṭṭhitā.
๘-๙-๑๐. สิกฺขมานอุมฺมทฺทาปนาทิสิกฺขาปทวณฺณนา
8-9-10. Sikkhamānaummaddāpanādisikkhāpadavaṇṇanā
อฎฺฐมนวมทสเมสุปิ สิกฺขมานาย สามเณริยา คิหินิยาติ เอตฺตกเมว นานํฯ เสสํ สตฺตมสทิสเมวาติฯ
Aṭṭhamanavamadasamesupi sikkhamānāya sāmaṇeriyā gihiniyāti ettakameva nānaṃ. Sesaṃ sattamasadisamevāti.
สิกฺขมานอุมฺมทฺทาปนาทิสิกฺขาปทวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Sikkhamānaummaddāpanādisikkhāpadavaṇṇanā niṭṭhitā.
๑๑. อนาปุจฺฉาสิกฺขาปทวณฺณนา
11. Anāpucchāsikkhāpadavaṇṇanā
เอกาทสเม ภิกฺขุสฺส ปุรโตติ น อภิมุขเมวาติ อโตฺถ, อิทํ ปน อุปจารํ สนฺธาย กถิตนฺติ เวทิตพฺพํฯ ตสฺมา ภิกฺขุสฺส อุปจาเร อนฺตมโส ฉมายปิ ‘‘นิสีทามิ, อยฺยา’’ติ อนาปุจฺฉิตฺวา นิสีทนฺติยา ปาจิตฺติยํฯ
Ekādasame bhikkhussa puratoti na abhimukhamevāti attho, idaṃ pana upacāraṃ sandhāya kathitanti veditabbaṃ. Tasmā bhikkhussa upacāre antamaso chamāyapi ‘‘nisīdāmi, ayyā’’ti anāpucchitvā nisīdantiyā pācittiyaṃ.
สาวตฺถิยํ สมฺพหุลา ภิกฺขุนิโย อารพฺภ อนาปุจฺฉา นิสีทนวตฺถุสฺมิํ ปญฺญตฺตํ, ติกปาจิตฺติยํ, อาปุจฺฉิเต ทฺวิกทุกฺกฎํฯ ตสฺมิํ อาปุจฺฉิตสญฺญาย, คิลานาย, อาปทาสุ, อุมฺมตฺติกาทีนญฺจ อนาปตฺติฯ ภิกฺขุสฺส อนาปุจฺฉา, อุปจาเร นิสชฺชา, อนุญฺญาตการณาภาโวติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิฯ สมุฎฺฐานาทีนิ กถินสทิสานิ, อิทํ ปน กิริยากิริยนฺติฯ
Sāvatthiyaṃ sambahulā bhikkhuniyo ārabbha anāpucchā nisīdanavatthusmiṃ paññattaṃ, tikapācittiyaṃ, āpucchite dvikadukkaṭaṃ. Tasmiṃ āpucchitasaññāya, gilānāya, āpadāsu, ummattikādīnañca anāpatti. Bhikkhussa anāpucchā, upacāre nisajjā, anuññātakāraṇābhāvoti imānettha tīṇi aṅgāni. Samuṭṭhānādīni kathinasadisāni, idaṃ pana kiriyākiriyanti.
อนาปุจฺฉาสิกฺขาปทวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Anāpucchāsikkhāpadavaṇṇanā niṭṭhitā.
๑๒. ปญฺหาปุจฺฉนสิกฺขาปทวณฺณนา
12. Pañhāpucchanasikkhāpadavaṇṇanā
ทฺวาทสเม อโนกาสกตนฺติ ‘‘อสุกสฺมิํ นาม ฐาเน ปุจฺฉามี’’ติ เอวํ อกตโอกาสํ, ตสฺมา สุตฺตเนฺต โอกาสํ การาเปตฺวา วินยํ วา อภิธมฺมํ วา ปุจฺฉนฺติยา ปาจิตฺติยํฯ เสเสสุปิ เอเสว นโย, สพฺพโส อการิเต ปน วตฺตพฺพเมว นตฺถิฯ
Dvādasame anokāsakatanti ‘‘asukasmiṃ nāma ṭhāne pucchāmī’’ti evaṃ akataokāsaṃ, tasmā suttante okāsaṃ kārāpetvā vinayaṃ vā abhidhammaṃ vā pucchantiyā pācittiyaṃ. Sesesupi eseva nayo, sabbaso akārite pana vattabbameva natthi.
สาวตฺถิยํ สมฺพหุลา ภิกฺขุนิโย อารพฺภ อโนกาสกตํ ภิกฺขุํ ปญฺหํ ปุจฺฉนวตฺถุสฺมิํ ปญฺญตฺตํฯ ตตฺถ ตตฺถ โอกาสํ การาเปตฺวา ปุจฺฉนฺติยา, อโนทิสฺส โอกาสํ การาเปตฺวา ยตฺถ กตฺถจิ ปุจฺฉนฺติยา, อุมฺมตฺติกาทีนญฺจ อนาปตฺติฯ ภิกฺขุสฺส อโนกาสการาปนํ, ปญฺหํ ปุจฺฉนนฺติ อิมาเนตฺถ เทฺว องฺคานิฯ สมุฎฺฐานาทีนิ ปทโสธมฺมสทิสานิ, อิทํ ปน กิริยากิริยนฺติฯ
Sāvatthiyaṃ sambahulā bhikkhuniyo ārabbha anokāsakataṃ bhikkhuṃ pañhaṃ pucchanavatthusmiṃ paññattaṃ. Tattha tattha okāsaṃ kārāpetvā pucchantiyā, anodissa okāsaṃ kārāpetvā yattha katthaci pucchantiyā, ummattikādīnañca anāpatti. Bhikkhussa anokāsakārāpanaṃ, pañhaṃ pucchananti imānettha dve aṅgāni. Samuṭṭhānādīni padasodhammasadisāni, idaṃ pana kiriyākiriyanti.
ปญฺหาปุจฺฉนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Pañhāpucchanasikkhāpadavaṇṇanā niṭṭhitā.
๑๓. อสํกจฺจิกสิกฺขาปทวณฺณนา
13. Asaṃkaccikasikkhāpadavaṇṇanā
เตรสเม อสํกจฺจิกาติ อธกฺขกอุพฺภนาภิมณฺฑลสงฺขาตสฺส สรีรสฺส ปฎิจฺฉาทนตฺถํ อนุญฺญาตสํกจฺจิกวิรหิตาฯ คามํ ปวิเสยฺยาติ เอตฺถ ปริกฺขิตฺตสฺส คามสฺส ปริเกฺขปํ, อปริกฺขิตฺตสฺส อุปจารํ อติกฺกมนฺติยา วา โอกฺกมนฺติยา วา ปฐมปาเท ทุกฺกฎํ, ทุติเย ปาจิตฺติยํฯ
Terasame asaṃkaccikāti adhakkhakaubbhanābhimaṇḍalasaṅkhātassa sarīrassa paṭicchādanatthaṃ anuññātasaṃkaccikavirahitā. Gāmaṃ paviseyyāti ettha parikkhittassa gāmassa parikkhepaṃ, aparikkhittassa upacāraṃ atikkamantiyā vā okkamantiyā vā paṭhamapāde dukkaṭaṃ, dutiye pācittiyaṃ.
สาวตฺถิยํ อญฺญตรํ ภิกฺขุนิํ อารพฺภ อสํกจฺจิกาย คามํ ปวิสนวตฺถุสฺมิํ ปญฺญตฺตํฯ ยสฺสา ปน สํกจฺจิกจีวรํ อจฺฉินฺนํ วา นฎฺฐํ วา, ตสฺสา, คิลานาย, อาปทาสุ, อุมฺมตฺติกาทีนญฺจ อนาปตฺติฯ อสํกจฺจิกตา, วุตฺตปริเจฺฉทาติกฺกโม, อนุญฺญาตการณาภาโวติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิฯ สมุฎฺฐานาทีนิ เอฬกโลมสทิสานีติฯ
Sāvatthiyaṃ aññataraṃ bhikkhuniṃ ārabbha asaṃkaccikāya gāmaṃ pavisanavatthusmiṃ paññattaṃ. Yassā pana saṃkaccikacīvaraṃ acchinnaṃ vā naṭṭhaṃ vā, tassā, gilānāya, āpadāsu, ummattikādīnañca anāpatti. Asaṃkaccikatā, vuttaparicchedātikkamo, anuññātakāraṇābhāvoti imānettha tīṇi aṅgāni. Samuṭṭhānādīni eḷakalomasadisānīti.
อสํกจฺจิกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Asaṃkaccikasikkhāpadavaṇṇanā niṭṭhitā.
ฉตฺตุปาหนวโคฺค นวโมฯ
Chattupāhanavaggo navamo.