Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / เทฺวมาติกาปาฬิ • Dvemātikāpāḷi |
๕. จิตฺตาคารวโคฺค
5. Cittāgāravaggo
๑. ราชาคารสิกฺขาปทวณฺณนา
1. Rājāgārasikkhāpadavaṇṇanā
จิตฺตาคารวคฺคสฺส ปฐเม ราชาคารนฺติ รโญฺญ กีฬนฆรํฯ จิตฺตาคารนฺติ กีฬนจิตฺตสาลํฯ อารามนฺติ กีฬนอุปวนํฯ อุยฺยานนฺติ กีฬนุยฺยานํฯ โปกฺขรณินฺติ กีฬนโปกฺขรณิํฯ ทสฺสนายาติ ‘‘เอเตสุ ยํกิญฺจิ ปสฺสิสฺสามี’’ติ คจฺฉนฺติยา ปเท ปเท ทุกฺกฎํ, ยตฺถ ฐตฺวา ปสฺสติ, ตตฺถ ปทํ อนุทฺธริตฺวา ปญฺจาปิ ปสฺสนฺติยา เอกาว อาปตฺติฯ สเจ ปน ตํ ตํ วิโลเกตฺวา ปสฺสติ, คีวํ ปริวตฺตนปฺปโยคคณนาย อาปตฺติโย, น อุมฺมีลนคณนายฯ
Cittāgāravaggassa paṭhame rājāgāranti rañño kīḷanagharaṃ. Cittāgāranti kīḷanacittasālaṃ. Ārāmanti kīḷanaupavanaṃ. Uyyānanti kīḷanuyyānaṃ. Pokkharaṇinti kīḷanapokkharaṇiṃ. Dassanāyāti ‘‘etesu yaṃkiñci passissāmī’’ti gacchantiyā pade pade dukkaṭaṃ, yattha ṭhatvā passati, tattha padaṃ anuddharitvā pañcāpi passantiyā ekāva āpatti. Sace pana taṃ taṃ viloketvā passati, gīvaṃ parivattanappayogagaṇanāya āpattiyo, na ummīlanagaṇanāya.
สาวตฺถิยํ ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขุนิโย อารพฺภ จิตฺตาคารํ ทสฺสนาย คมนวตฺถุสฺมิํ ปญฺญตฺตํ, ภิกฺขุสฺส สพฺพตฺถ ทุกฺกฎํ, อวเสโส วินิจฺฉโย นจฺจทสฺสนสิกฺขาปเท วุตฺตนเยเนว เวทิตโพฺพติฯ
Sāvatthiyaṃ chabbaggiyā bhikkhuniyo ārabbha cittāgāraṃ dassanāya gamanavatthusmiṃ paññattaṃ, bhikkhussa sabbattha dukkaṭaṃ, avaseso vinicchayo naccadassanasikkhāpade vuttanayeneva veditabboti.
ราชาคารสิกฺขาปทวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Rājāgārasikkhāpadavaṇṇanā niṭṭhitā.
๒. อาสนฺทิปริภุญฺชนสิกฺขาปทวณฺณนา
2. Āsandiparibhuñjanasikkhāpadavaṇṇanā
ทุติเย อาสนฺที นาม อติกฺกนฺตปฺปมาณา วุจฺจติฯ ปลฺลโงฺก นาม สํหาริเมน วาเฬน กโตติ วุโตฺตฯ ปริภุเญฺชยฺยาติ เอตฺถ ปน นิสีทนนิปชฺชนปฺปโยคคณนาย ปาจิตฺติยํ เวทิตพฺพํฯ
Dutiye āsandī nāma atikkantappamāṇā vuccati. Pallaṅko nāma saṃhārimena vāḷena katoti vutto. Paribhuñjeyyāti ettha pana nisīdananipajjanappayogagaṇanāya pācittiyaṃ veditabbaṃ.
สาวตฺถิยํ สมฺพหุลา ภิกฺขุนิโย อารพฺภ อาสนฺทิปลฺลงฺกปริโภควตฺถุสฺมิํ ปญฺญตฺตํ, อาสนฺทิยา ปาเท ฉินฺทิตฺวา, ปลฺลงฺกสฺส วาเฬ ภินฺทิตฺวา ปริภุญฺชนฺติยา, อุมฺมตฺติกาทีนญฺจ อนาปตฺติฯ อาสนฺทิปลฺลงฺกตา, นิสีทนํ นิปชฺชนํ วาติ อิมาเนตฺถ เทฺว องฺคานิฯ สมุฎฺฐานาทีนิ เอฬกโลมสทิสานีติฯ
Sāvatthiyaṃ sambahulā bhikkhuniyo ārabbha āsandipallaṅkaparibhogavatthusmiṃ paññattaṃ, āsandiyā pāde chinditvā, pallaṅkassa vāḷe bhinditvā paribhuñjantiyā, ummattikādīnañca anāpatti. Āsandipallaṅkatā, nisīdanaṃ nipajjanaṃ vāti imānettha dve aṅgāni. Samuṭṭhānādīni eḷakalomasadisānīti.
อาสนฺทิปริภุญฺชนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Āsandiparibhuñjanasikkhāpadavaṇṇanā niṭṭhitā.
๓. สุตฺตกนฺตนสิกฺขาปทวณฺณนา
3. Suttakantanasikkhāpadavaṇṇanā
ตติเย สุตฺตนฺติ ฉนฺนํ อญฺญตรํฯ กเนฺตยฺยาติ เอตฺถ ยตฺตกํ หเตฺถน อญฺฉิตํ โหติ, ตสฺมิํ ตกฺกมฺหิ เวฐิเต เอกา อาปตฺติฯ อิทญฺหิ สนฺธาย ปทภาชนีเย (ปาจิ. ๙๘๘) ‘‘อุชฺชวุชฺชเว’’ติ วุตฺตํฯ
Tatiye suttanti channaṃ aññataraṃ. Kanteyyāti ettha yattakaṃ hatthena añchitaṃ hoti, tasmiṃ takkamhi veṭhite ekā āpatti. Idañhi sandhāya padabhājanīye (pāci. 988) ‘‘ujjavujjave’’ti vuttaṃ.
สาวตฺถิยํ ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขุนิโย อารพฺภ สุตฺตํ กนฺตนวตฺถุสฺมิํ ปญฺญตฺตํ, กนฺตนโต ปุเพฺพ กปฺปาสวิจินนํ อาทิํ กตฺวา สพฺพปฺปโยเคสุ หตฺถวารคณนาย ทุกฺกฎํฯ กนฺติตสุตฺตํ กนฺตนฺติยา, อุมฺมตฺติกาทีนญฺจ อนาปตฺติฯ อกนฺติตตา, กนฺตนนฺติ อิมาเนตฺถ เทฺว องฺคานิฯ สมุฎฺฐานาทีนิ เอฬกโลมสทิสานีติฯ
Sāvatthiyaṃ chabbaggiyā bhikkhuniyo ārabbha suttaṃ kantanavatthusmiṃ paññattaṃ, kantanato pubbe kappāsavicinanaṃ ādiṃ katvā sabbappayogesu hatthavāragaṇanāya dukkaṭaṃ. Kantitasuttaṃ kantantiyā, ummattikādīnañca anāpatti. Akantitatā, kantananti imānettha dve aṅgāni. Samuṭṭhānādīni eḷakalomasadisānīti.
สุตฺตกนฺตนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Suttakantanasikkhāpadavaṇṇanā niṭṭhitā.
๔. คิหิเวยฺยาวจฺจสิกฺขาปทวณฺณนา
4. Gihiveyyāvaccasikkhāpadavaṇṇanā
จตุเตฺถ คิหิเวยฺยาวจฺจนฺติ คิหีนํ เวยฺยาวจฺจํฯ สเจปิ หิ มาตาปิตโร อตฺตโน กิญฺจิ กมฺมํ อการาเปตฺวา เตสํ ยาคุปจนาทีนิ กโรนฺติ, ปุพฺพปฺปโยเคสุ ปโยคคณนาย ทุกฺกฎานิ อาปชฺชิตฺวา ยาคุอาทีสุ ภาชนคณนาย, ขาทนียาทีสุ ปูวคณนาย ปาจิตฺติยํ อาปชฺชติฯ
Catutthe gihiveyyāvaccanti gihīnaṃ veyyāvaccaṃ. Sacepi hi mātāpitaro attano kiñci kammaṃ akārāpetvā tesaṃ yāgupacanādīni karonti, pubbappayogesu payogagaṇanāya dukkaṭāni āpajjitvā yāguādīsu bhājanagaṇanāya, khādanīyādīsu pūvagaṇanāya pācittiyaṃ āpajjati.
สาวตฺถิยํ สมฺพหุลา ภิกฺขุนิโย อารพฺภ คิหีนํ เวยฺยาวจฺจกรณวตฺถุสฺมิํ ปญฺญตฺตํ, มนุเสฺสหิ สงฺฆสฺส ยาคุปาเน วา ภเตฺต วา เจติยปูชาย วา กรียมานาย เตสํ สหายภาเวน ยาคุปจนาทีนิ, อตฺตโน เวยฺยาวจฺจกรสฺส จ ตานิเยว กโรนฺติยา, อุมฺมตฺติกาทีนญฺจ อนาปตฺติฯ คิหิเวยฺยาวจฺจกรณํ, อนุญฺญาตการณาภาโวติ อิมาเนตฺถ เทฺว องฺคานิฯ สมุฎฺฐานาทีนิ เอฬกโลมสทิสาเนวาติฯ
Sāvatthiyaṃ sambahulā bhikkhuniyo ārabbha gihīnaṃ veyyāvaccakaraṇavatthusmiṃ paññattaṃ, manussehi saṅghassa yāgupāne vā bhatte vā cetiyapūjāya vā karīyamānāya tesaṃ sahāyabhāvena yāgupacanādīni, attano veyyāvaccakarassa ca tāniyeva karontiyā, ummattikādīnañca anāpatti. Gihiveyyāvaccakaraṇaṃ, anuññātakāraṇābhāvoti imānettha dve aṅgāni. Samuṭṭhānādīni eḷakalomasadisānevāti.
คิหิเวยฺยาวจฺจสิกฺขาปทวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Gihiveyyāvaccasikkhāpadavaṇṇanā niṭṭhitā.
๕. อธิกรณสิกฺขาปทวณฺณนา
5. Adhikaraṇasikkhāpadavaṇṇanā
ปญฺจเม อธิกรณนฺติ จตุนฺนํ อญฺญตรํฯ ปาจิตฺติยนฺติ อิธ จีวรสิพฺพเน วิย ธุรํ นิกฺขิตฺตมเตฺต ปาจิตฺติยํ, เอกาหมฺปิ ปริหาโร นตฺถิฯ
Pañcame adhikaraṇanti catunnaṃ aññataraṃ. Pācittiyanti idha cīvarasibbane viya dhuraṃ nikkhittamatte pācittiyaṃ, ekāhampi parihāro natthi.
สาวตฺถิยํ ถุลฺลนนฺทํ อารพฺภ อธิกรณํ นวูปสมนวตฺถุสฺมิํ ปญฺญตฺตํ, เสสเมตฺถ จีวรสิพฺพนสิกฺขาปเท วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพนฺติฯ
Sāvatthiyaṃ thullanandaṃ ārabbha adhikaraṇaṃ navūpasamanavatthusmiṃ paññattaṃ, sesamettha cīvarasibbanasikkhāpade vuttanayeneva veditabbanti.
อธิกรณสิกฺขาปทวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Adhikaraṇasikkhāpadavaṇṇanā niṭṭhitā.
๖. โภชนทานสิกฺขาปทวณฺณนา
6. Bhojanadānasikkhāpadavaṇṇanā
ฉเฎฺฐ สหตฺถาติ กาเยน วา กายปฺปฎิพเทฺธน วา นิสฺสคฺคิเยน วา ฐเปตฺวา ปญฺจสหธมฺมิเก อวเสสานํ อญฺญตฺร อุทกทนฺตโปนา ยํกิญฺจิ อโชฺฌหรณียํ ททนฺติยา ปาจิตฺติยํฯ
Chaṭṭhe sahatthāti kāyena vā kāyappaṭibaddhena vā nissaggiyena vā ṭhapetvā pañcasahadhammike avasesānaṃ aññatra udakadantaponā yaṃkiñci ajjhoharaṇīyaṃ dadantiyā pācittiyaṃ.
สาวตฺถิยํ ถุลฺลนนฺทํ อารพฺภ อคาริกสฺส ขาทนียโภชนียทานวตฺถุสฺมิํ ปญฺญตฺตํ, อุทกทนฺตโปเน ทุกฺกฎํฯ ยา ปน ทาเปติ น เทติ, อุปนิกฺขิปิตฺวา เทติ, พาหิรเลปํ เทติ, ตสฺสา, อุมฺมตฺติกาทีนญฺจ อนาปตฺติฯ อญฺญตฺร อุทกทนฺตโปนา อโชฺฌหรณิยํ, ฐเปตฺวา ปญฺจ สหธมฺมิเก อญฺญสฺส สหตฺถา ทานนฺติ อิมาเนตฺถ เทฺว องฺคานิฯ สมุฎฺฐานาทีนิ เอฬกโลมสทิสานีติฯ
Sāvatthiyaṃ thullanandaṃ ārabbha agārikassa khādanīyabhojanīyadānavatthusmiṃ paññattaṃ, udakadantapone dukkaṭaṃ. Yā pana dāpeti na deti, upanikkhipitvā deti, bāhiralepaṃ deti, tassā, ummattikādīnañca anāpatti. Aññatra udakadantaponā ajjhoharaṇiyaṃ, ṭhapetvā pañca sahadhammike aññassa sahatthā dānanti imānettha dve aṅgāni. Samuṭṭhānādīni eḷakalomasadisānīti.
โภชนทานสิกฺขาปทวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Bhojanadānasikkhāpadavaṇṇanā niṭṭhitā.
๗. อาวสถจีวรสิกฺขาปทวณฺณนา
7. Āvasathacīvarasikkhāpadavaṇṇanā
สตฺตเม อาวสถจีวรนฺติ ‘‘อุตุนิโย ภิกฺขุนิโย ปริภุญฺชนฺตู’’ติ ทินฺนจีวรํฯ อนิสฺสชฺชิตฺวาติ จตุเตฺถ ทิวเส โธวิตฺวา อญฺญิสฺสา อนฺตมโส สามเณริยาปิ อุตุนิยา อทตฺวาฯ ปาจิตฺติยนฺติ เอวํ อนิสฺสชฺชิตฺวา ปริภุญฺชนฺติยา ปาจิตฺติยํฯ
Sattame āvasathacīvaranti ‘‘utuniyo bhikkhuniyo paribhuñjantū’’ti dinnacīvaraṃ. Anissajjitvāti catutthe divase dhovitvā aññissā antamaso sāmaṇeriyāpi utuniyā adatvā. Pācittiyanti evaṃ anissajjitvā paribhuñjantiyā pācittiyaṃ.
สาวตฺถิยํ ถุลฺลนนฺทํ อารพฺภ อาวสถจีวรํ อนิสฺสชฺชิตฺวา ปริภุญฺชนวตฺถุสฺมิํ ปญฺญตฺตํ, ติกปาจิตฺติยํ, นิสฺสชฺชิเต ทฺวิกทุกฺกฎํฯ ตสฺมิํ ปน นิสฺสชฺชิตสญฺญาย, ปุน ปริยาเยน วา, อญฺญาสํ อุตุนีนํ อภาเวน วา, อจฺฉินฺนนฎฺฐจีวริกาย วา, อาปทาสุ วา ปริภุญฺชนฺติยา, อุมฺมตฺติกาทีนญฺจ อนาปตฺติฯ อาวสถจีวรตา, จตุตฺถทิวสตา, โธวิตฺวา อนิสฺสชฺชนํ, อนุญฺญาตการณาภาโวติ อิมาเนตฺถ จตฺตาริ องฺคานิฯ สมุฎฺฐานาทีนิ กถินสทิสานิ, อิทํ ปน กิริยากิริยนฺติฯ
Sāvatthiyaṃ thullanandaṃ ārabbha āvasathacīvaraṃ anissajjitvā paribhuñjanavatthusmiṃ paññattaṃ, tikapācittiyaṃ, nissajjite dvikadukkaṭaṃ. Tasmiṃ pana nissajjitasaññāya, puna pariyāyena vā, aññāsaṃ utunīnaṃ abhāvena vā, acchinnanaṭṭhacīvarikāya vā, āpadāsu vā paribhuñjantiyā, ummattikādīnañca anāpatti. Āvasathacīvaratā, catutthadivasatā, dhovitvā anissajjanaṃ, anuññātakāraṇābhāvoti imānettha cattāri aṅgāni. Samuṭṭhānādīni kathinasadisāni, idaṃ pana kiriyākiriyanti.
อาวสถจีวรสิกฺขาปทวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Āvasathacīvarasikkhāpadavaṇṇanā niṭṭhitā.
๘. อาวสถวิหารสิกฺขาปทวณฺณนา
8. Āvasathavihārasikkhāpadavaṇṇanā
อฎฺฐเม อาวสถนฺติ กวาฎพทฺธวิหารํฯ อนิสฺสชฺชิตฺวาติ รกฺขณตฺถาย อทตฺวา, ‘‘อิทํ ชเคฺคยฺยาสี’’ติ เอวํ อนาปุจฺฉิตฺวาติ อโตฺถฯ จาริกํ ปกฺกเมยฺย ปาจิตฺติยนฺติ เอตฺถ สกคามโต อญฺญํ คามํ เอกรตฺติวาสตฺถายปิ ปกฺกมนฺติยา ปริกฺขิตฺตสฺส อาวสถสฺส ปริเกฺขปํ, อปริกฺขิตฺตสฺส อุปจารํ ปฐมปาเทน อติกฺกนฺตมเตฺต ทุกฺกฎํ, ทุติเยน ปาจิตฺติยํฯ
Aṭṭhame āvasathanti kavāṭabaddhavihāraṃ. Anissajjitvāti rakkhaṇatthāya adatvā, ‘‘idaṃ jaggeyyāsī’’ti evaṃ anāpucchitvāti attho. Cārikaṃ pakkameyya pācittiyanti ettha sakagāmato aññaṃ gāmaṃ ekarattivāsatthāyapi pakkamantiyā parikkhittassa āvasathassa parikkhepaṃ, aparikkhittassa upacāraṃ paṭhamapādena atikkantamatte dukkaṭaṃ, dutiyena pācittiyaṃ.
สาวตฺถิยํ ถุลฺลนนฺทํ อารพฺภ อาวสถํ อนิสฺสชฺชิตฺวา จาริกํ ปกฺกมนวตฺถุสฺมิํ ปญฺญตฺตํ, ติกปาจิตฺติยํ, อกวาฎพเทฺธ ทุกฺกฎํ, นิสฺสชฺชิเต ทฺวิกทุกฺกฎํฯ ตสฺมิํ ปน นิสฺสชฺชิตสญฺญาย, สติ อนฺตราเย, ปฎิชคฺคิกํ ปริเยสิตฺวา อลภนฺติยา, คิลานาย, อาปทาสุ, อุมฺมตฺติกาทีนญฺจ อนาปตฺติฯ สกวาฎพทฺธตา, วุตฺตนเยน ปกฺกมนํ, อนุญฺญาตการณาภาโวติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิฯ สมุฎฺฐานาทีนิ กถินสทิสานีติ, อิทํ ปน กิริยากิริยนฺติฯ
Sāvatthiyaṃ thullanandaṃ ārabbha āvasathaṃ anissajjitvā cārikaṃ pakkamanavatthusmiṃ paññattaṃ, tikapācittiyaṃ, akavāṭabaddhe dukkaṭaṃ, nissajjite dvikadukkaṭaṃ. Tasmiṃ pana nissajjitasaññāya, sati antarāye, paṭijaggikaṃ pariyesitvā alabhantiyā, gilānāya, āpadāsu, ummattikādīnañca anāpatti. Sakavāṭabaddhatā, vuttanayena pakkamanaṃ, anuññātakāraṇābhāvoti imānettha tīṇi aṅgāni. Samuṭṭhānādīni kathinasadisānīti, idaṃ pana kiriyākiriyanti.
อาวสถวิหารสิกฺขาปทวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Āvasathavihārasikkhāpadavaṇṇanā niṭṭhitā.
๙. ติรจฺฉานวิชฺชาปริยาปุณนสิกฺขาปทวณฺณนา
9. Tiracchānavijjāpariyāpuṇanasikkhāpadavaṇṇanā
นวเม ติรจฺฉานวิชฺชนฺติ ยํกิญฺจิ พาหิรกํ อนตฺถสํหิตํ หตฺถิอสฺสรถธนุถรุสิปฺปอาถพฺพณขิลนวสีกรณโสสาปนมนฺตาคทปฺปโยคาทิเภทํ ปรูปฆาตกรํ วิชฺชํฯ ปริยาปุเณยฺยาติ เอตฺถ ยสฺส กสฺสจิ สนฺติเก ตํ ปทาทิวเสน ปริยาปุณนฺติยา ปทคณนาย เจว อกฺขรคณนาย จ ปาจิตฺติยนฺติฯ
Navame tiracchānavijjanti yaṃkiñci bāhirakaṃ anatthasaṃhitaṃ hatthiassarathadhanutharusippaāthabbaṇakhilanavasīkaraṇasosāpanamantāgadappayogādibhedaṃ parūpaghātakaraṃ vijjaṃ. Pariyāpuṇeyyāti ettha yassa kassaci santike taṃ padādivasena pariyāpuṇantiyā padagaṇanāya ceva akkharagaṇanāya ca pācittiyanti.
ติรจฺฉานวิชฺชาปริยาปุณนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Tiracchānavijjāpariyāpuṇanasikkhāpadavaṇṇanā niṭṭhitā.
๑๐. ติรจฺฉานวิชฺชาวาจนสิกฺขาปทวณฺณนา
10. Tiracchānavijjāvācanasikkhāpadavaṇṇanā
ทสเม วาเจยฺยาติ ปทํ วิเสโสฯ อุภยมฺปิ สาวตฺถิยํ ฉพฺพคฺคิยา เจว สมฺพหุลา ภิกฺขุนิโย จ อารพฺภ ติรจฺฉานวิชฺชํ ปริยาปุณนวาจนวตฺถุสฺมิํ ปญฺญตฺตํฯ เลเข, ธารณาย จ, คุตฺตตฺถาย จ ยกฺขปริตฺตนาคมณฺฑลาทิเก สพฺพปริเตฺต, อุมฺมตฺติกาทีนญฺจ อนาปตฺติฯ ติรจฺฉานวิชฺชตา, ปริยาปุณนวาจนา, อนุญฺญาตการณาภาโวติ อิมาเนตฺถ ทฺวีสุปิ ตีณิ องฺคานิฯ สมุฎฺฐานาทีนิ ปทโสธมฺมสทิสานีติฯ
Dasame vāceyyāti padaṃ viseso. Ubhayampi sāvatthiyaṃ chabbaggiyā ceva sambahulā bhikkhuniyo ca ārabbha tiracchānavijjaṃ pariyāpuṇanavācanavatthusmiṃ paññattaṃ. Lekhe, dhāraṇāya ca, guttatthāya ca yakkhaparittanāgamaṇḍalādike sabbaparitte, ummattikādīnañca anāpatti. Tiracchānavijjatā, pariyāpuṇanavācanā, anuññātakāraṇābhāvoti imānettha dvīsupi tīṇi aṅgāni. Samuṭṭhānādīni padasodhammasadisānīti.
ติรจฺฉานวิชฺชาวาจนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Tiracchānavijjāvācanasikkhāpadavaṇṇanā niṭṭhitā.
จิตฺตาคารวโคฺค ปญฺจโมฯ
Cittāgāravaggo pañcamo.