Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / เถรีคาถา-อฎฺฐกถา • Therīgāthā-aṭṭhakathā |
๕. จิตฺตาเถรีคาถาวณฺณนา
5. Cittātherīgāthāvaṇṇanā
กิญฺจาปิ โขมฺหิ กิสิกาติอาทิกา จิตฺตาย เถริยา คาถาฯ อยมฺปิ ปุริมพุเทฺธสุ กตาธิการา ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฎฺฎูปนิสฺสยํ กุสลํ อุปจินนฺตี อิโต จตุนฺนวุติกเปฺป จนฺทภาคาย นทิยา ตีเร กินฺนรโยนิยํ นิพฺพตฺติฯ สา เอกทิวสํ เอกํ ปเจฺจกพุทฺธํ รุกฺขมูเล นิสินฺนํ ทิสฺวา ปสนฺนมานสา นฬปุเปฺผหิ ปูชํ กตฺวา วนฺทิตฺวา อญฺชลิํ ปคฺคเหตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกามิฯ สา เตน ปุญฺญกเมฺมน เทวมนุเสฺสสุ สํสรนฺตี อิมสฺมิํ พุทฺธุปฺปาเท ราชคเห คหปติมหาสาลกุเล นิพฺพตฺติตฺวา วิญฺญุตํ ปตฺวา สตฺถุ ราชคหปฺปเวสเน ปฎิลทฺธสทฺธา ปจฺฉา มหาปชาปติโคตมิยา สนฺติเก ปพฺพชิตฺวา มหลฺลิกากาเล คิชฺฌกูฎปพฺพตํ อภิรุหิตฺวา สมณธมฺมํ กโรนฺตี วิปสฺสนํ วเฑฺฒตฺวา สห ปฎิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ปาปุณิฯ เตน วุตฺตํ อปทาเน –
Kiñcāpi khomhi kisikātiādikā cittāya theriyā gāthā. Ayampi purimabuddhesu katādhikārā tattha tattha bhave vivaṭṭūpanissayaṃ kusalaṃ upacinantī ito catunnavutikappe candabhāgāya nadiyā tīre kinnarayoniyaṃ nibbatti. Sā ekadivasaṃ ekaṃ paccekabuddhaṃ rukkhamūle nisinnaṃ disvā pasannamānasā naḷapupphehi pūjaṃ katvā vanditvā añjaliṃ paggahetvā padakkhiṇaṃ katvā pakkāmi. Sā tena puññakammena devamanussesu saṃsarantī imasmiṃ buddhuppāde rājagahe gahapatimahāsālakule nibbattitvā viññutaṃ patvā satthu rājagahappavesane paṭiladdhasaddhā pacchā mahāpajāpatigotamiyā santike pabbajitvā mahallikākāle gijjhakūṭapabbataṃ abhiruhitvā samaṇadhammaṃ karontī vipassanaṃ vaḍḍhetvā saha paṭisambhidāhi arahattaṃ pāpuṇi. Tena vuttaṃ apadāne –
‘‘จนฺทภาคานทีตีเร , อโหสิํ กินฺนรี ตทา;
‘‘Candabhāgānadītīre , ahosiṃ kinnarī tadā;
อทฺทสํ วิรชํ พุทฺธํ, สยมฺภุํ อปราชิตํฯ
Addasaṃ virajaṃ buddhaṃ, sayambhuṃ aparājitaṃ.
‘‘ปสนฺนจิตฺตา สุมนา, เวทชาตา กตญฺชลี;
‘‘Pasannacittā sumanā, vedajātā katañjalī;
นฬมาลํ คเหตฺวาน, สยมฺภุํ อภิปูชยิํฯ
Naḷamālaṃ gahetvāna, sayambhuṃ abhipūjayiṃ.
‘‘เตน กเมฺมน สุกเตน, เจตนาปณิธีหิ จ;
‘‘Tena kammena sukatena, cetanāpaṇidhīhi ca;
ชหิตฺวา กินฺนรีเทหํ, อคจฺฉิํ ติทสํ คติํฯ
Jahitvā kinnarīdehaṃ, agacchiṃ tidasaṃ gatiṃ.
‘‘ฉตฺติํสเทวราชูนํ, มเหสิตฺตมการยิํ;
‘‘Chattiṃsadevarājūnaṃ, mahesittamakārayiṃ;
ทสนฺนํ จกฺกวตฺตีนํ, มเหสิตฺตมการยิํ;
Dasannaṃ cakkavattīnaṃ, mahesittamakārayiṃ;
สํเวเชตฺวาน เม จิตฺตํ, ปพฺพชิํ อนคาริยํฯ
Saṃvejetvāna me cittaṃ, pabbajiṃ anagāriyaṃ.
‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ, ภวา สเพฺพ สมูหตา;
‘‘Kilesā jhāpitā mayhaṃ, bhavā sabbe samūhatā;
สพฺพาสวปริกฺขีณา, นตฺถิ ทานิ ปุนพฺภโวฯ
Sabbāsavaparikkhīṇā, natthi dāni punabbhavo.
‘‘จตุนฺนวุติโต กเปฺป, ยํ ปุปฺผมภิปูชยิํ;
‘‘Catunnavutito kappe, yaṃ pupphamabhipūjayiṃ;
ทุคฺคติํ นาภิชานามิ, ปุปฺผปูชายิทํ ผลํฯ
Duggatiṃ nābhijānāmi, pupphapūjāyidaṃ phalaṃ.
‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ…เป.… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติฯ
‘‘Kilesā jhāpitā mayhaṃ…pe… kataṃ buddhassa sāsana’’nti.
สา ปน อรหตฺตํ ปตฺวา อตฺตโน ปฎิปตฺติํ ปจฺจเวกฺขิตฺวา –
Sā pana arahattaṃ patvā attano paṭipattiṃ paccavekkhitvā –
๒๗.
27.
‘‘กิญฺจาปิ โขมฺหิ กิสิกา, คิลานา พาฬฺหทุพฺพลา;
‘‘Kiñcāpi khomhi kisikā, gilānā bāḷhadubbalā;
ทณฺฑโมลุพฺภ คจฺฉามิ, ปพฺพตํ อภิรูหิยฯ
Daṇḍamolubbha gacchāmi, pabbataṃ abhirūhiya.
๒๘.
28.
‘‘สงฺฆาฎิํ นิกฺขิปิตฺวาน, ปตฺตกญฺจ นิกุชฺชิย;
‘‘Saṅghāṭiṃ nikkhipitvāna, pattakañca nikujjiya;
เสเล ขเมฺภสิมตฺตานํ, ตโมขนฺธํ ปทาลิยา’’ติฯ –
Sele khambhesimattānaṃ, tamokhandhaṃ padāliyā’’ti. –
อิมา เทฺว คาถา อภาสิฯ
Imā dve gāthā abhāsi.
ตตฺถ กิญฺจาปิ โขมฺหิ กิสิกาติ ยทิปิ อหํ ชราชิณฺณา อปฺปมํสโลหิตภาเวน กิสสรีรา อมฺหิฯ คิลานา พาฬฺหทุพฺพลาติ ธาตฺวาทิวิกาเรน คิลานา, เตเนว เคลเญฺญน อติวิย ทุพฺพลาฯ ทณฺฑโมลุพฺภ คจฺฉามีติ ยตฺถ กตฺถจิ คจฺฉนฺตี กตฺตรยฎฺฐิํ อาลมฺพิตฺวาว คจฺฉามิฯ ปพฺพตํ อภิรูหิยาติ เอวํ ภูตาปิ วิเวกกามตาย คิชฺฌกูฎปพฺพตํ อภิรุหิตฺวาฯ
Tattha kiñcāpi khomhi kisikāti yadipi ahaṃ jarājiṇṇā appamaṃsalohitabhāvena kisasarīrā amhi. Gilānā bāḷhadubbalāti dhātvādivikārena gilānā, teneva gelaññena ativiya dubbalā. Daṇḍamolubbha gacchāmīti yattha katthaci gacchantī kattarayaṭṭhiṃ ālambitvāva gacchāmi. Pabbataṃ abhirūhiyāti evaṃ bhūtāpi vivekakāmatāya gijjhakūṭapabbataṃ abhiruhitvā.
สงฺฆาฎิํ นิกฺขิปิตฺวานาติ สนฺตรุตฺตรา เอว หุตฺวา ยถาสํหตํ อํเส ฐปิตํ สงฺฆาฎิํ หตฺถปาเส ฐเปตฺวาฯ ปตฺตกญฺจ นิกุชฺชิยาติ มยฺหํ วลญฺชนมตฺติกาปตฺตํ อโธมุขํ กตฺวา เอกมเนฺต ฐเปตฺวาฯ เสเล ขเมฺภสิมตฺตานํ, ตโมขนฺธํ ปทาลิยาติ ปพฺพเต นิสินฺนา อิมินา ทีเฆน อทฺธุนา อปทาลิตปุพฺพํ โมหกฺขนฺธํ ปทาเลตฺวา, เตเนว จ โมหกฺขนฺธปทาลเนน อตฺตานํ อตฺตภาวํ ขเมฺภสิํ, มม สนฺตานํ อายติํ อนุปฺปตฺติธมฺมตาปาทเนน วิกฺขเมฺภสินฺติ อโตฺถฯ
Saṅghāṭiṃnikkhipitvānāti santaruttarā eva hutvā yathāsaṃhataṃ aṃse ṭhapitaṃ saṅghāṭiṃ hatthapāse ṭhapetvā. Pattakañca nikujjiyāti mayhaṃ valañjanamattikāpattaṃ adhomukhaṃ katvā ekamante ṭhapetvā. Sele khambhesimattānaṃ, tamokhandhaṃ padāliyāti pabbate nisinnā iminā dīghena addhunā apadālitapubbaṃ mohakkhandhaṃ padāletvā, teneva ca mohakkhandhapadālanena attānaṃ attabhāvaṃ khambhesiṃ, mama santānaṃ āyatiṃ anuppattidhammatāpādanena vikkhambhesinti attho.
จิตฺตาเถรีคาถาวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Cittātherīgāthāvaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / เถรีคาถาปาฬิ • Therīgāthāpāḷi / ๕. จิตฺตาเถรีคาถา • 5. Cittātherīgāthā