Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ปญฺจปกรณ-อฎฺฐกถา • Pañcapakaraṇa-aṭṭhakathā

    ๘. จิตฺตยมกํ

    8. Cittayamakaṃ

    อุเทฺทสวารวณฺณนา

    Uddesavāravaṇṇanā

    ๑-๖๒. อิทานิ เตสเญฺญว มูลยมเก เทสิตานํ กุสลาทิธมฺมานํ ลพฺภมานวเสน เอกเทสเมว สงฺคณฺหิตฺวา อนุสยยมกานนฺตรํ เทสิตสฺส จิตฺตยมกสฺส อตฺถวณฺณนา โหติฯ ตตฺถ ปาฬิววตฺถานํ ตาว เวทิตพฺพํฯ อิมสฺมิญฺหิ จิตฺตยมเก มาติกาฐปนํ, ฐปิตมาติกาย วิสฺสชฺชนนฺติ เทฺว วารา โหนฺติฯ ตตฺถ มาติกาฐปเน ปุคฺคลวาโร, ธมฺมวาโร, ปุคฺคลธมฺมวาโรติ อาทิโตว ตโย สุทฺธิกมหาวารา โหนฺติฯ

    1-62. Idāni tesaññeva mūlayamake desitānaṃ kusalādidhammānaṃ labbhamānavasena ekadesameva saṅgaṇhitvā anusayayamakānantaraṃ desitassa cittayamakassa atthavaṇṇanā hoti. Tattha pāḷivavatthānaṃ tāva veditabbaṃ. Imasmiñhi cittayamake mātikāṭhapanaṃ, ṭhapitamātikāya vissajjananti dve vārā honti. Tattha mātikāṭhapane puggalavāro, dhammavāro, puggaladhammavāroti āditova tayo suddhikamahāvārā honti.

    ตตฺถ ‘‘ยสฺส จิตฺตํ อุปฺปชฺชติ, น นิรุชฺฌตี’’ติ เอวํ ปุคฺคลวเสน จิตฺตสฺส อุปฺปชฺชนนิรุชฺฌนาทิเภทํ ทีเปโนฺต คโต ปุคฺคลวาโร นามฯ ‘‘ยํ จิตฺตํ อุปฺปชฺชติ, น นิรุชฺฌตี’’ติ เอวํ ธมฺมวเสเนว จิตฺตสฺส อุปฺปชฺชนนิรุชฺฌนาทิเภทํ ทีเปโนฺต คโต ธมฺมวาโร นามฯ ‘‘ยสฺส ยํ จิตฺตํ อุปฺปชฺชติ, น นิรุชฺฌตี’’ติ เอวํ อุภยวเสน จิตฺตสฺส อุปฺปชฺชนนิรุชฺฌนาทิเภทํ ทีเปโนฺต คโต ปุคฺคลธมฺมวาโร นามฯ ตโต ‘‘ยสฺส สราคํ จิตฺต’’นฺติ โสฬสนฺนํ ปทานํ วเสน อปเร สราคาทิปทวิเสสิตา โสฬส ปุคฺคลวารา, โสฬส ธมฺมวารา, โสฬส ปุคฺคลธมฺมวาราติ อฎฺฐจตฺตาลีสํ มิสฺสกวารา โหนฺติฯ เต สราคาทิปทมตฺตํ ทเสฺสตฺวา สงฺขิตฺตาฯ ตโต ‘‘ยสฺส กุสลํ จิตฺต’’นฺติอาทินา นเยน ฉสฎฺฐิทฺวิสตสงฺขานํ อภิธมฺมมาติกาปทานํ วเสน อปเร กุสลาทิปทวิเสสิตา ฉสฎฺฐิทฺวิสตปุคฺคลวารา, ฉสฎฺฐิทฺวิสตธมฺมวารา ฉสฎฺฐิทฺวิสตปุคฺคลธมฺมวาราติ อฎฺฐนวุติสตฺตสตา มิสฺสกวารา โหนฺติฯ เตปิ กุสลาทิปทมตฺตํ ทเสฺสตฺวา สงฺขิตฺตาเยวฯ ยานิเปตฺถ สนิทสฺสนาทีนิ ปทานิ จิเตฺตน สทฺธิํ น ยุชฺชนฺติ, ตานิ โมฆปุจฺฉาวเสน ฐปิตานิฯ

    Tattha ‘‘yassa cittaṃ uppajjati, na nirujjhatī’’ti evaṃ puggalavasena cittassa uppajjananirujjhanādibhedaṃ dīpento gato puggalavāro nāma. ‘‘Yaṃ cittaṃ uppajjati, na nirujjhatī’’ti evaṃ dhammavaseneva cittassa uppajjananirujjhanādibhedaṃ dīpento gato dhammavāro nāma. ‘‘Yassa yaṃ cittaṃ uppajjati, na nirujjhatī’’ti evaṃ ubhayavasena cittassa uppajjananirujjhanādibhedaṃ dīpento gato puggaladhammavāro nāma. Tato ‘‘yassa sarāgaṃ citta’’nti soḷasannaṃ padānaṃ vasena apare sarāgādipadavisesitā soḷasa puggalavārā, soḷasa dhammavārā, soḷasa puggaladhammavārāti aṭṭhacattālīsaṃ missakavārā honti. Te sarāgādipadamattaṃ dassetvā saṅkhittā. Tato ‘‘yassa kusalaṃ citta’’ntiādinā nayena chasaṭṭhidvisatasaṅkhānaṃ abhidhammamātikāpadānaṃ vasena apare kusalādipadavisesitā chasaṭṭhidvisatapuggalavārā, chasaṭṭhidvisatadhammavārā chasaṭṭhidvisatapuggaladhammavārāti aṭṭhanavutisattasatā missakavārā honti. Tepi kusalādipadamattaṃ dassetvā saṅkhittāyeva. Yānipettha sanidassanādīni padāni cittena saddhiṃ na yujjanti, tāni moghapucchāvasena ṭhapitāni.

    เตสุ ปน ตีสุ วาเรสุ สพฺพปฐเม สุทฺธิกปุคฺคลมหาวาเร อุปฺปาทนิโรธกาลสเมฺภทวาโร, อุปฺปาทุปฺปนฺนวาโร, นิโรธุปฺปนฺนวาโร, อุปฺปาทวาโร, นิโรธวาโร, อุปฺปาทนิโรธวาโร อุปฺปชฺชมานนิโรธวาโร, อุปฺปชฺชมานุปฺปนฺนวาโร, นิรุชฺฌมานุปฺปนฺนวาโร, อุปฺปนฺนุปฺปาทวาโร, อตีตานาคตวาโร, อุปฺปนฺนุปฺปชฺชมานวาโร, นิรุทฺธนิรุชฺฌมานวาโร, อติกฺกนฺตกาลวาโรติ จุทฺทส อนฺตรวาราฯ เตสุ อุปฺปาทวาโร, นิโรธวาโร, อุปฺปาทนิโรธวาโรติ อิเมสุ ตีสุ วาเรสุ อนุโลมปฎิโลมวเสน ฉ ฉ กตฺวา อฎฺฐารส ยมกานิฯ อุปฺปนฺนุปฺปาทวาเร อตีตานาคตกาลวเสน อนุโลมโต เทฺว, ปฎิโลมโต เทฺวติ จตฺตาริ ยมกานิฯ เสเสสุ อาทิโต นิทฺทิเฎฺฐสุ ตีสุ, อนนฺตเร นิทฺทิเฎฺฐสุ ตีสุ; อวสาเน นิทฺทิเฎฺฐสุ จตูสูติ ทสสุ วาเรสุ อนุโลมโต เอกํ, ปฎิโลมโต เอกนฺติ เทฺว เทฺว กตฺวา วีสติ ยมกานิฯ เอวํ สเพฺพสุปิ จุทฺทสสุ อนฺตรวาเรสุ ทฺวาจตฺตาลีส ยมกานิ, จตุราสีติ ปุจฺฉา อฎฺฐสฎฺฐิอตฺถสตํ โหติฯ ยถา จ เอกสฺมิํ สุทฺธิกปุคฺคลมหาวาเร, ตถา สุทฺธิกธมฺมวาเรปิ สุทฺธิกปุคฺคลธมฺมวาเรปีติ ตีสุ มหาวาเรสุ ฉพฺพีสติยมกสตํ, ตโต ทิคุณา ปุจฺฉา, ตโต ทิคุณา อตฺถา จ เวทิตพฺพาฯ อิทํ ปน วารตฺตยํ สราคาทิวเสน โสฬสคุณํ, กุสลาทิวเสน ฉสฎฺฐิทฺวิสตคุณํ กตฺวา อิมสฺมิํ จิตฺตยมเก อเนกานิ ยมกสหสฺสานิ, ตโต ทิคุณา ปุจฺฉา, ตโต ทิคุณา อตฺถา จ โหนฺตีติ ฯ ปาโฐ ปน สํขิโตฺตติฯ เอวํ ตาว อิมสฺมิํ จิตฺตยมเก ปาฬิววตฺถานํ เวทิตพฺพํฯ

    Tesu pana tīsu vāresu sabbapaṭhame suddhikapuggalamahāvāre uppādanirodhakālasambhedavāro, uppāduppannavāro, nirodhuppannavāro, uppādavāro, nirodhavāro, uppādanirodhavāro uppajjamānanirodhavāro, uppajjamānuppannavāro, nirujjhamānuppannavāro, uppannuppādavāro, atītānāgatavāro, uppannuppajjamānavāro, niruddhanirujjhamānavāro, atikkantakālavāroti cuddasa antaravārā. Tesu uppādavāro, nirodhavāro, uppādanirodhavāroti imesu tīsu vāresu anulomapaṭilomavasena cha cha katvā aṭṭhārasa yamakāni. Uppannuppādavāre atītānāgatakālavasena anulomato dve, paṭilomato dveti cattāri yamakāni. Sesesu ādito niddiṭṭhesu tīsu, anantare niddiṭṭhesu tīsu; avasāne niddiṭṭhesu catūsūti dasasu vāresu anulomato ekaṃ, paṭilomato ekanti dve dve katvā vīsati yamakāni. Evaṃ sabbesupi cuddasasu antaravāresu dvācattālīsa yamakāni, caturāsīti pucchā aṭṭhasaṭṭhiatthasataṃ hoti. Yathā ca ekasmiṃ suddhikapuggalamahāvāre, tathā suddhikadhammavārepi suddhikapuggaladhammavārepīti tīsu mahāvāresu chabbīsatiyamakasataṃ, tato diguṇā pucchā, tato diguṇā atthā ca veditabbā. Idaṃ pana vārattayaṃ sarāgādivasena soḷasaguṇaṃ, kusalādivasena chasaṭṭhidvisataguṇaṃ katvā imasmiṃ cittayamake anekāni yamakasahassāni, tato diguṇā pucchā, tato diguṇā atthā ca hontīti . Pāṭho pana saṃkhittoti. Evaṃ tāva imasmiṃ cittayamake pāḷivavatthānaṃ veditabbaṃ.

    มาติกาฐปนวณฺณนาฯ

    Mātikāṭhapanavaṇṇanā.

    นิเทฺทโส

    Niddeso

    ๑. ปุคฺคลวารวณฺณนา

    1. Puggalavāravaṇṇanā

    ๖๓. อิทานิ ฐปิตานุกฺกเมน มาติกํ วิสฺสเชฺชตุํ ยสฺส จิตฺตํ อุปฺปชฺชติ น นิรุชฺฌตีติอาทิ อารทฺธํฯ ตตฺถ อุปฺปชฺชตีติ อุปฺปาทกฺขณสมงฺคิตาย อุปฺปชฺชติ น นิรุชฺฌตีติ นิโรธกฺขณํ อปฺปตฺตตาย น นิรุชฺฌติฯ ตสฺส จิตฺตนฺติ ตสฺส ปุคฺคลสฺส ตโต ปฎฺฐาย จิตฺตํ นิรุชฺฌิสฺสติ นุปฺปชฺชิสฺสตีติ ปุจฺฉติฯ เตสํ จิตฺตนฺติ เยสํ ปริจฺฉินฺนวฎฺฎทุกฺขานํ ขีณาสวานํ สพฺพปจฺฉิมสฺส จุติจิตฺตสฺส อุปฺปาทกฺขโณ วตฺตติ, เอเตสํ ตเทว จุติจิตฺตํ อุปฺปาทปฺปตฺตตาย อุปฺปชฺชติ นาม, ภงฺคํ อปฺปตฺตตาย น นิรุชฺฌติฯ อิทานิ ปน ภงฺคํ ปตฺวา ตํ เตสํ จิตฺตํ นิรุชฺฌิสฺสติ, ตโต อปฺปฎิสนฺธิกตฺตา อญฺญํ นุปฺปชฺชิสฺสติฯ อิตเรสนฺติ ปจฺฉิมจิตฺตสมงฺคิํ ขีณาสวํ ฐเปตฺวา อวเสสานํ เสกฺขาเสกฺขปุถุชฺชนานํ นิรุชฺฌิสฺสติ เจว อุปฺปชฺชิสฺสติ จาติ ยํ ตํ อุปฺปาทกฺขณปฺปตฺตํ ตํ นิรุชฺฌิสฺสเตวฯ อญฺญํ ปน ตสฺมิํ วา อญฺญสฺมิํ วา อตฺตภาเว อุปฺปชฺชิสฺสติ เจว นิรุชฺฌิสฺสติ จฯ ทุติยปุจฺฉาวิสฺสชฺชเนปิ ตถารูปเสฺสว ขีณาสวสฺส จิตฺตํ สนฺธาย ‘อามนฺตา’ติ วุตฺตํฯ นุปฺปชฺชติ นิรุชฺฌตีติ ภงฺคกฺขเณ อรหโต ปจฺฉิมจิตฺตมฺปิ เสสานํ ภิชฺชมานจิตฺตมฺปิฯ ตโต ปฎฺฐาย ปน อรหโต จิตฺตํ น นิรุชฺฌิสฺสตีติ สกฺกา วตฺตุํ อุปฺปชฺชิสฺสตีติ ปน น สกฺกาฯ เสสานํ อุปฺปชฺชิสฺสตีติ สกฺกา วตฺตุํ, น นิรุชฺฌิสฺสตีติ น สกฺกาฯ ตสฺมา ‘โน’ติ ปฎิเสโธ กโตฯ ทุติยปเญฺห ยสฺส จิตฺตํ น นิรุชฺฌิสฺสติ, อุปฺปชฺชิสฺสตีติ โส ปุคฺคโลเยว นตฺถิ, ตสฺมา นตฺถีติ ปฎิเกฺขโป กโตฯ

    63. Idāni ṭhapitānukkamena mātikaṃ vissajjetuṃ yassa cittaṃ uppajjati na nirujjhatītiādi āraddhaṃ. Tattha uppajjatīti uppādakkhaṇasamaṅgitāya uppajjati na nirujjhatīti nirodhakkhaṇaṃ appattatāya na nirujjhati. Tassa cittanti tassa puggalassa tato paṭṭhāya cittaṃ nirujjhissati nuppajjissatīti pucchati. Tesaṃ cittanti yesaṃ paricchinnavaṭṭadukkhānaṃ khīṇāsavānaṃ sabbapacchimassa cuticittassa uppādakkhaṇo vattati, etesaṃ tadeva cuticittaṃ uppādappattatāya uppajjati nāma, bhaṅgaṃ appattatāya na nirujjhati. Idāni pana bhaṅgaṃ patvā taṃ tesaṃ cittaṃ nirujjhissati, tato appaṭisandhikattā aññaṃ nuppajjissati. Itaresanti pacchimacittasamaṅgiṃ khīṇāsavaṃ ṭhapetvā avasesānaṃ sekkhāsekkhaputhujjanānaṃ nirujjhissati ceva uppajjissati cāti yaṃ taṃ uppādakkhaṇappattaṃ taṃ nirujjhissateva. Aññaṃ pana tasmiṃ vā aññasmiṃ vā attabhāve uppajjissati ceva nirujjhissati ca. Dutiyapucchāvissajjanepi tathārūpasseva khīṇāsavassa cittaṃ sandhāya ‘āmantā’ti vuttaṃ. Nuppajjati nirujjhatīti bhaṅgakkhaṇe arahato pacchimacittampi sesānaṃ bhijjamānacittampi. Tato paṭṭhāya pana arahato cittaṃ na nirujjhissatīti sakkā vattuṃ uppajjissatīti pana na sakkā. Sesānaṃ uppajjissatīti sakkā vattuṃ, na nirujjhissatīti na sakkā. Tasmā ‘no’ti paṭisedho kato. Dutiyapañhe yassa cittaṃ na nirujjhissati, uppajjissatīti so puggaloyeva natthi, tasmā natthīti paṭikkhepo kato.

    ๖๕-๘๒. อุปฺปนฺนนฺติ อุปฺปาทสมงฺคิโนเปตํ นามํฯ อุปฺปาทํ ปตฺวา อนิรุทฺธสฺสาปิฯ ตตฺถ อุปฺปาทสมงฺคิตํ สนฺธาย ‘อามนฺตา’ติ, อุปฺปาทํ ปตฺวา อนิรุทฺธภาวํ สนฺธาย ‘‘เตสํ จิตฺตํ อุปฺปนฺน’’นฺติ วุตฺตํฯ อนุปฺปนฺนนฺติ อุปฺปาทํ อปฺปตฺตํฯ เตสํ จิตฺตํ อุปฺปชฺชิตฺถาติ เอตฺถาปิ สเพฺพสํ ตาว จิตฺตํ ขณปจฺจุปฺปนฺนเมว หุตฺวา อุปฺปาทกฺขณํ อตีตตฺตา อุปฺปชฺชิตฺถ นาม, นิโรธสมาปนฺนานํ นิโรธโต ปุเพฺพ อุปฺปนฺนปุพฺพตฺตา, อสญฺญสตฺตานํ สญฺญีภเว อุปฺปนฺนปุพฺพตฺตาฯ อุปฺปชฺชิตฺถ เจว อุปฺปชฺชติ จาติ อุปฺปาทํ ปตฺตตฺตา อุปฺปชฺชิตฺถ, อนตีตตฺตา อุปฺปชฺชติ นามาติ อโตฺถฯ

    65-82. Uppannanti uppādasamaṅginopetaṃ nāmaṃ. Uppādaṃ patvā aniruddhassāpi. Tattha uppādasamaṅgitaṃ sandhāya ‘āmantā’ti, uppādaṃ patvā aniruddhabhāvaṃ sandhāya ‘‘tesaṃ cittaṃ uppanna’’nti vuttaṃ. Anuppannanti uppādaṃ appattaṃ. Tesaṃ cittaṃ uppajjitthāti etthāpi sabbesaṃ tāva cittaṃ khaṇapaccuppannameva hutvā uppādakkhaṇaṃ atītattā uppajjittha nāma, nirodhasamāpannānaṃ nirodhato pubbe uppannapubbattā, asaññasattānaṃ saññībhave uppannapubbattā. Uppajjittha ceva uppajjati cāti uppādaṃ pattattā uppajjittha, anatītattā uppajjati nāmāti attho.

    อุปฺปาทกฺขเณ อนาคตญฺจาติ อุปฺปาทกฺขเณ จ จิตฺตํ อนาคตญฺจ จิตฺตนฺติ อโตฺถฯ

    Uppādakkhaṇeanāgatañcāti uppādakkhaṇe ca cittaṃ anāgatañca cittanti attho.

    ๘๓. อติกฺกนฺตกาลวาเร อุปฺปชฺชมานํ ขณนฺติ อุปฺปาทกฺขณํฯ ตตฺถ กิญฺจาปิ อุปฺปาทกฺขโณ อุปฺปชฺชมาโน นาม น โหติ, อุปฺปชฺชมานสฺส ปน ขณตฺตา เอวํ วุโตฺตฯ ขณํ วีติกฺกนฺตํ อติกฺกนฺตกาลนฺติ น จิรํ วีติกฺกนฺตํ ตเมว ปน อุปฺปาทกฺขณํ วีติกฺกนฺตํ หุตฺวา อติกฺกนฺตกาลนฺติ สงฺขํ คจฺฉติฯ นิรุชฺฌมานํ ขณนฺติ นิโรธกฺขณํฯ ตตฺถ กิญฺจาปิ นิโรธกฺขโณ นิรุชฺฌมาโน นาม น โหติ, นิรุชฺฌมานสฺส ปน ขณตฺตา เอวํ วุโตฺตฯ ขณํ วีติกฺกนฺตํ อติกฺกนฺตกาลนฺติ กิํ ตสฺส จิตฺตํ เอวํ นิโรธกฺขณมฺปิ วีติกฺกนฺตํ หุตฺวา อติกฺกนฺตกาลํ นาม โหตีติ ปุจฺฉติฯ ตตฺถ ยสฺมา ภงฺคกฺขเณ จิตฺตํ อุปฺปาทกฺขณํ ขณํ วีติกฺกนฺตํ หุตฺวา อติกฺกนฺตกาลํ โหติ, นิโรธกฺขณํ ขณํ วีติกฺกนฺตํ หุตฺวา อติกฺกนฺตกาลํ นาม น โหติฯ อตีตํ ปน จิตฺตํ อุโภปิ ขเณ ขณํ วีติกฺกนฺตํ หุตฺวา อติกฺกนฺตกาลํ นาม, ตสฺมา ‘‘ภงฺคกฺขเณ จิตฺตํ อุปฺปาทกฺขณํ วีติกฺกนฺตํ, ภงฺคกฺขณํ อวีติกฺกนฺตํ, อตีตํ จิตฺตํ อุปฺปาทกฺขณญฺจ วีติกฺกนฺตํ ภงฺคกฺขณญฺจ วีติกฺกนฺตนฺติ วิสฺสชฺชนมาหฯ ทุติยปญฺหสฺส วิสฺสชฺชเน ยสฺมา อตีตํ จิตฺตํ อุโภปิ ขเณ วีติกฺกนฺตํ หุตฺวา อติกฺกนฺตกาลํ นาม โหติ, ตสฺมา อตีตํ จิตฺตนฺติ วุตฺตํฯ ปฎิโลมปญฺหสฺส วิสฺสชฺชเน ยสฺมา อุปฺปาทกฺขเณ จ จิตฺตํ อนาคตญฺจ จิตฺตํ อุโภปิ ขเณ ขณํ วีติกฺกนฺตํ หุตฺวา อติกฺกนฺตกาลํ นาม น โหติ, เตสํ ขณานํ อวีติกฺกนฺตตฺตาฯ ตสฺมา ‘‘อุปฺปาทกฺขเณ จิตฺตํ อนาคตํ จิตฺต’’นฺติ วุตฺตํฯ ทุติยวิสฺสชฺชนํ ปากฎเมวฯ

    83. Atikkantakālavāre uppajjamānaṃ khaṇanti uppādakkhaṇaṃ. Tattha kiñcāpi uppādakkhaṇo uppajjamāno nāma na hoti, uppajjamānassa pana khaṇattā evaṃ vutto. Khaṇaṃ vītikkantaṃ atikkantakālanti na ciraṃ vītikkantaṃ tameva pana uppādakkhaṇaṃ vītikkantaṃ hutvā atikkantakālanti saṅkhaṃ gacchati. Nirujjhamānaṃ khaṇanti nirodhakkhaṇaṃ. Tattha kiñcāpi nirodhakkhaṇo nirujjhamāno nāma na hoti, nirujjhamānassa pana khaṇattā evaṃ vutto. Khaṇaṃ vītikkantaṃ atikkantakālanti kiṃ tassa cittaṃ evaṃ nirodhakkhaṇampi vītikkantaṃ hutvā atikkantakālaṃ nāma hotīti pucchati. Tattha yasmā bhaṅgakkhaṇe cittaṃ uppādakkhaṇaṃ khaṇaṃ vītikkantaṃ hutvā atikkantakālaṃ hoti, nirodhakkhaṇaṃ khaṇaṃ vītikkantaṃ hutvā atikkantakālaṃ nāma na hoti. Atītaṃ pana cittaṃ ubhopi khaṇe khaṇaṃ vītikkantaṃ hutvā atikkantakālaṃ nāma, tasmā ‘‘bhaṅgakkhaṇe cittaṃ uppādakkhaṇaṃ vītikkantaṃ, bhaṅgakkhaṇaṃ avītikkantaṃ, atītaṃ cittaṃ uppādakkhaṇañca vītikkantaṃ bhaṅgakkhaṇañca vītikkantanti vissajjanamāha. Dutiyapañhassa vissajjane yasmā atītaṃ cittaṃ ubhopi khaṇe vītikkantaṃ hutvā atikkantakālaṃ nāma hoti, tasmā atītaṃ cittanti vuttaṃ. Paṭilomapañhassa vissajjane yasmā uppādakkhaṇe ca cittaṃ anāgatañca cittaṃ ubhopi khaṇe khaṇaṃ vītikkantaṃ hutvā atikkantakālaṃ nāma na hoti, tesaṃ khaṇānaṃ avītikkantattā. Tasmā ‘‘uppādakkhaṇe cittaṃ anāgataṃ citta’’nti vuttaṃ. Dutiyavissajjanaṃ pākaṭameva.

    ๘๔-๑๑๓. ธมฺมวาเรปิ อิมินาวุปาเยน สพฺพวิสฺสชฺชเนสุ อโตฺถ เวทิตโพฺพฯ ปุคฺคลธมฺมวาโร ธมฺมวารคติโกเยวฯ

    84-113. Dhammavārepi imināvupāyena sabbavissajjanesu attho veditabbo. Puggaladhammavāro dhammavāragatikoyeva.

    ๑๑๔-๑๑๖. สเพฺพปิ มิสฺสกวารา ยสฺส สราคํ จิตฺตนฺติอาทินา นเยน มุขมตฺตํ ทเสฺสตฺวา สงฺขิตฺตาฯ วิตฺถาโร ปน เนสํ เหฎฺฐา วุตฺตนเยเนว เวทิตโพฺพฯ เตสุ ปน ‘‘ยสฺส สราคํ จิตฺตํ อุปฺปชฺชติ, น นิรุชฺฌติ; ตสฺส จิตฺตํ นิรุชฺฌิสฺสติ, นุปฺปชฺชิสฺสตี’’ติ เอวํ วิตฺถาเรตพฺพตาย ปุจฺฉาว สทิสา โหติฯ ยสฺมา ปน สราคํ จิตฺตํ ปจฺฉิมจิตฺตํ น โหติ, ตสฺมา ‘‘ยสฺส สราคํ จิตฺตํ อุปฺปชฺชติ, น นิรุชฺฌติ; ตสฺส จิตฺตํ นิรุชฺฌิสฺสติ, นุปฺปชฺชิสฺสตีติ โน’’ติ เอวํ วิสฺสชฺชิตพฺพตฺตา วิสฺสชฺชนํ อสทิสํ โหติฯ ตํ ตํ ตสฺสา ตสฺสา ปุจฺฉาย อนุรูปวเสน เวทิตพฺพนฺติฯ

    114-116. Sabbepi missakavārā yassa sarāgaṃ cittantiādinā nayena mukhamattaṃ dassetvā saṅkhittā. Vitthāro pana nesaṃ heṭṭhā vuttanayeneva veditabbo. Tesu pana ‘‘yassa sarāgaṃ cittaṃ uppajjati, na nirujjhati; tassa cittaṃ nirujjhissati, nuppajjissatī’’ti evaṃ vitthāretabbatāya pucchāva sadisā hoti. Yasmā pana sarāgaṃ cittaṃ pacchimacittaṃ na hoti, tasmā ‘‘yassa sarāgaṃ cittaṃ uppajjati, na nirujjhati; tassa cittaṃ nirujjhissati, nuppajjissatīti no’’ti evaṃ vissajjitabbattā vissajjanaṃ asadisaṃ hoti. Taṃ taṃ tassā tassā pucchāya anurūpavasena veditabbanti.

    จิตฺตยมกวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Cittayamakavaṇṇanā niṭṭhitā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / อภิธมฺมปิฎก • Abhidhammapiṭaka / ยมกปาฬิ • Yamakapāḷi / ๘. จิตฺตยมกํ • 8. Cittayamakaṃ


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact