Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā |
๕. จีวรอจฺฉินฺทนสิกฺขาปทวณฺณนา
5. Cīvaraacchindanasikkhāpadavaṇṇanā
๖๓๒. สามนฺติ สกสญฺญิตานิยมนตฺถํ วุตฺตํฯ สกสญฺญิตาเยว หิ อจฺฉินฺทาปนอจฺฉินฺทเนสุ นิสฺสคฺคิยํ, ตสฺมา นิสฺสคฺคิยมูลงฺคนิทสฺสนเมตํฯ ‘‘จีวร’’นฺติ วุตฺตตฺตา ‘‘อจีวรํ อจฺฉินฺทนฺตสฺส น นิสฺสคฺคิย’’นฺติ วุตฺตเมว โหติฯ ‘‘ทตฺวาติ ทตฺวา วา ทาเปตฺวา วา’’ติ กิญฺจาปิ ปทภาชนํ ยุชฺชติ, อญฺญสฺส ปน สนฺตกํ อญฺญสฺส ภิกฺขุโน ทาเปตฺวา ตํ สยํ วา อจฺฉิเนฺทยฺย, เตเนว วา อจฺฉินฺทาเปยฺยาติ อนิฎฺฐปฺปสงฺคภยา น วุตฺตํ, อตฺถโต ปน อตฺตโน สนฺตกํ อเญฺญน สทฺธิวิหาริกาทินา ทาเปตฺวา, อญฺญสฺส สนฺตกํ วา ตสฺส วิสฺสาสา ทาเปตฺวา ตํ อจฺฉิเนฺทยฺย วา อจฺฉินฺทาเปยฺย วา นิสฺสคฺคิยนฺติ เวทิตพฺพํ, ตญฺจ โข อนเปโกฺข ทตฺวาฯ ยทิ เอวํ ‘‘จชิตฺวา ทินฺนํ อจฺฉินฺทิตฺวา คณฺหโนฺต ภณฺฑเคฺฆน กาเรตโพฺพ’’ติ อิทํ กินฺติ เจ? สกสญฺญาย อคฺคเหตฺวา อญฺญาย เถยฺยาย คณฺหนฺตํ สนฺธาย วุตฺตํ, เตเนว วุตฺตํ ‘‘สกสญฺญาย คหิตตฺตา ปนสฺส ปาราชิกํ นตฺถี’’ติ, อปิจ ‘‘อนาปตฺติ โส วา เทติ, ตสฺส วา วิสฺสสโนฺต คณฺหาตี’’ติ วจนโตปิ ตํ สิทฺธเมวฯ เอตฺตาวตา ตาวกาลิกํ กตฺวา ทินฺนํ อจฺฉินฺทนฺตสฺส อนาปตฺติ สาธิตา โหติฯ ‘‘อมฺหากํ สนฺติเก อุปชฺฌํ คณฺหิสฺสตี’’ติอาทิวจนํ สามเณรสฺส ทานํ ทีเปติ, ตญฺจ อิธ นาธิเปฺปตํฯ ปาฬิยํ (ปารา. ๖๓๓-๖๓๔) อุปสมฺปเนฺน ติกปาจิตฺติยํ วิย อนุปสมฺปเนฺน ติกทุกฺกฎมฺปิ อาคตนฺติ เจ? น, ตทธิปฺปายาชานนโตฯ อนุปสมฺปนฺนกาเล เอวํ ทตฺวา อญฺญสฺส สนฺติเก อุปสมฺปนฺนํ ทิสฺวา กุปิโต เจ อจฺฉินฺทติ, อุปสมฺปนฺนเสฺสว วา ‘‘สิกฺขํ ปจฺจกฺขาย ตุมฺหากํ สนฺติเก อุปสมฺปชฺชิสฺสามี’’ติ วทนฺตสฺส ทตฺวา ปุน อจฺฉินฺทติ เจ, นิสฺสคฺคิยนฺติ อยเมตฺถ อธิปฺปาโยฯ
632.Sāmanti sakasaññitāniyamanatthaṃ vuttaṃ. Sakasaññitāyeva hi acchindāpanaacchindanesu nissaggiyaṃ, tasmā nissaggiyamūlaṅganidassanametaṃ. ‘‘Cīvara’’nti vuttattā ‘‘acīvaraṃ acchindantassa na nissaggiya’’nti vuttameva hoti. ‘‘Datvāti datvā vā dāpetvā vā’’ti kiñcāpi padabhājanaṃ yujjati, aññassa pana santakaṃ aññassa bhikkhuno dāpetvā taṃ sayaṃ vā acchindeyya, teneva vā acchindāpeyyāti aniṭṭhappasaṅgabhayā na vuttaṃ, atthato pana attano santakaṃ aññena saddhivihārikādinā dāpetvā, aññassa santakaṃ vā tassa vissāsā dāpetvā taṃ acchindeyya vā acchindāpeyya vā nissaggiyanti veditabbaṃ, tañca kho anapekkho datvā. Yadi evaṃ ‘‘cajitvā dinnaṃ acchinditvā gaṇhanto bhaṇḍagghena kāretabbo’’ti idaṃ kinti ce? Sakasaññāya aggahetvā aññāya theyyāya gaṇhantaṃ sandhāya vuttaṃ, teneva vuttaṃ ‘‘sakasaññāya gahitattā panassa pārājikaṃ natthī’’ti, apica ‘‘anāpatti so vā deti, tassa vā vissasanto gaṇhātī’’ti vacanatopi taṃ siddhameva. Ettāvatā tāvakālikaṃ katvā dinnaṃ acchindantassa anāpatti sādhitā hoti. ‘‘Amhākaṃ santike upajjhaṃ gaṇhissatī’’tiādivacanaṃ sāmaṇerassa dānaṃ dīpeti, tañca idha nādhippetaṃ. Pāḷiyaṃ (pārā. 633-634) upasampanne tikapācittiyaṃ viya anupasampanne tikadukkaṭampi āgatanti ce? Na, tadadhippāyājānanato. Anupasampannakāle evaṃ datvā aññassa santike upasampannaṃ disvā kupito ce acchindati, upasampannasseva vā ‘‘sikkhaṃ paccakkhāya tumhākaṃ santike upasampajjissāmī’’ti vadantassa datvā puna acchindati ce, nissaggiyanti ayamettha adhippāyo.
๖๓๓. สกิํ อาณโตฺต พหุกมฺปิ อจฺฉินฺทติ, นิสฺสคฺคิยนฺติ เอกพทฺธตฺตา เอกํ ปาจิตฺติยํ, ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ ‘‘อาณโตฺต พหูนิ คณฺหาติ, เอกํ ปาจิตฺติย’’นฺติฯ มาติกาฎฺฐกถายํ ปน ‘‘วตฺถุคณนาย อาปตฺติโย’’ติ วุตฺตํ, ตํ อาณตฺติยา พหุตฺตา ‘‘สพฺพานิ คณฺหา’’ติ วทนฺตสฺส คาหํ สนฺธาย วุตฺตํ, เตเนว ตตฺถ วุตฺตํ ‘‘เอกวาจาย สมฺพหุลา อาปตฺติโย’’ติฯ เอวํ สเนฺต ปาฬิวจนํ, อฎฺฐกถาวจนทฺวยญฺจ อญฺญมญฺญํ สเมติ, ปรสนฺตกมฺปิ นิสฺสคฺคิยํ โหติ ปํสุกูลญฺจ, เตน ‘‘ทุสฺสเนฺต พทฺธรูปิยํ วิยา’’ติ วุตฺตํ, ตํ ตทตฺถนิยมทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ, ยถาวฉาทิตํ อจฺฉินฺทนจิเตฺตน สจิตฺตกํ, วจีกมฺมํ ปน เกวลํ อจฺฉินฺทาเปนฺตเสฺสว ‘‘เทหี’’ติ พลกฺกาเรน คณฺหโตปิ เวทิตพฺพํ, ตํ น ยุตฺตํ ‘‘อนาปตฺติ โส วา เทตี’’ติ วจนโตฯ ‘‘ตุโฎฺฐ วา ทุโฎฺฐ วา เทติ, อนาปตฺติเยวา’’ติ มาติกาฎฺฐกถาวจนโต วาติ เจ? น, อุภยตฺถ อตฺตโน รุจิยา ทานํ สนฺธาย วุตฺตตฺตา, ปสยฺหาวหาเร อนาปตฺติปฺปสงฺคโต จฯ ‘‘ภิกฺขุสฺส สามํ จีวรํ ทตฺวา’ติ ปาฬิวจนโต จ มาติกาฎฺฐกถาย องฺคววตฺถาเน ‘อุปสมฺปนฺนตา’ติ วุตฺตตฺตา จ อุภยตฺถ ทานหรเณสุ ภิกฺขุภาโว อิจฺฉิตโพฺพติ ทีเปตี’’ติ วทนฺติ, อิทมยุตฺตนฺติ โน ตโกฺกติ อาจริโยฯ กสฺมา? อนุปสมฺปนฺนสฺส จีวรํ ทตฺวา ตํ อุปสมฺปนฺนกาเล อจฺฉินฺทนฺตสฺส อนาปตฺติปฺปสงฺคโตฯ ‘‘อนุปสมฺปนฺนสฺส จีวรํ วา อญฺญํ วา ปริกฺขารํ ทตฺวา…เป.… อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสา’’ติ วจนโต ทุกฺกฎํ ตตฺถ โหตีติ เจ? นาสิทฺธตฺตา, ทานกาเล เอว อุปสมฺปนฺนตา ปมาณนฺติ อสิทฺธเมตํ อฎฺฐกถาย วา ปาฬิยา วา ยุตฺติโต วา, ตสฺมา ตํ น ยุตฺตนฺติ อโตฺถฯ อนุปสมฺปนฺนสฺส จีวรํ ทตฺวา ตเสฺสว อนุปสมฺปนฺนกาเลเยว จีวรํ อจฺฉินฺทนฺตสฺส ทุกฺกฎํ, อุปสมฺปนฺนกาเล วา ทตฺวา อนุปสมฺปนฺนกาเล อจฺฉินฺทนฺตสฺส ทุกฺกฎนฺติ ตสฺส วจนสฺส อิทํ วิกปฺปนฺตรญฺจ สมฺภวติ, ตสฺมา (ปารา. ๖๓๑ อาทโย) วิกปฺปนฺตรสฺส สมฺภวโต จ น ยุตฺตํ, ยสฺมา อนุปสมฺปนฺนกาเล ทตฺวา อุปสมฺปนฺนกาเล อจฺฉินฺทนฺตสฺส วิสุํ ทุกฺกฎํ น ปญฺญตฺตํ, ตสฺมา ปุราณจีวรโธวาปนาทิสิกฺขาปเทสุ วิย อปรภาเค อุปสมฺปนฺนตา เจตฺถ ปมาณํ, ตสฺมา ‘‘อุปสมฺปนฺนตา’’ติ อเงฺคสุ วุตฺตตฺตา จ ตํ น ยุตฺตนฺติ อโตฺถฯ เอตฺถ ‘‘ปจฺจาสีสนฺตเสฺสว ทานมธิเปฺปตํ, น นิสฺสฎฺฐทาน’’นฺติ ธมฺมสิริเตฺถโร วทติ กิร, วีมํสิตพฺพํฯ
633. Sakiṃ āṇatto bahukampi acchindati, nissaggiyanti ekabaddhattā ekaṃ pācittiyaṃ, taṃ sandhāyetaṃ vuttaṃ ‘‘āṇatto bahūni gaṇhāti, ekaṃ pācittiya’’nti. Mātikāṭṭhakathāyaṃ pana ‘‘vatthugaṇanāya āpattiyo’’ti vuttaṃ, taṃ āṇattiyā bahuttā ‘‘sabbāni gaṇhā’’ti vadantassa gāhaṃ sandhāya vuttaṃ, teneva tattha vuttaṃ ‘‘ekavācāya sambahulā āpattiyo’’ti. Evaṃ sante pāḷivacanaṃ, aṭṭhakathāvacanadvayañca aññamaññaṃ sameti, parasantakampi nissaggiyaṃ hoti paṃsukūlañca, tena ‘‘dussante baddharūpiyaṃ viyā’’ti vuttaṃ, taṃ tadatthaniyamadassanatthaṃ vuttaṃ, yathāvachāditaṃ acchindanacittena sacittakaṃ, vacīkammaṃ pana kevalaṃ acchindāpentasseva ‘‘dehī’’ti balakkārena gaṇhatopi veditabbaṃ, taṃ na yuttaṃ ‘‘anāpatti so vā detī’’ti vacanato. ‘‘Tuṭṭho vā duṭṭho vā deti, anāpattiyevā’’ti mātikāṭṭhakathāvacanato vāti ce? Na, ubhayattha attano ruciyā dānaṃ sandhāya vuttattā, pasayhāvahāre anāpattippasaṅgato ca. ‘‘Bhikkhussa sāmaṃ cīvaraṃ datvā’ti pāḷivacanato ca mātikāṭṭhakathāya aṅgavavatthāne ‘upasampannatā’ti vuttattā ca ubhayattha dānaharaṇesu bhikkhubhāvo icchitabboti dīpetī’’ti vadanti, idamayuttanti no takkoti ācariyo. Kasmā? Anupasampannassa cīvaraṃ datvā taṃ upasampannakāle acchindantassa anāpattippasaṅgato. ‘‘Anupasampannassa cīvaraṃ vā aññaṃ vā parikkhāraṃ datvā…pe… āpatti dukkaṭassā’’ti vacanato dukkaṭaṃ tattha hotīti ce? Nāsiddhattā, dānakāle eva upasampannatā pamāṇanti asiddhametaṃ aṭṭhakathāya vā pāḷiyā vā yuttito vā, tasmā taṃ na yuttanti attho. Anupasampannassa cīvaraṃ datvā tasseva anupasampannakāleyeva cīvaraṃ acchindantassa dukkaṭaṃ, upasampannakāle vā datvā anupasampannakāle acchindantassa dukkaṭanti tassa vacanassa idaṃ vikappantarañca sambhavati, tasmā (pārā. 631 ādayo) vikappantarassa sambhavato ca na yuttaṃ, yasmā anupasampannakāle datvā upasampannakāle acchindantassa visuṃ dukkaṭaṃ na paññattaṃ, tasmā purāṇacīvaradhovāpanādisikkhāpadesu viya aparabhāge upasampannatā cettha pamāṇaṃ, tasmā ‘‘upasampannatā’’ti aṅgesu vuttattā ca taṃ na yuttanti attho. Ettha ‘‘paccāsīsantasseva dānamadhippetaṃ, na nissaṭṭhadāna’’nti dhammasiritthero vadati kira, vīmaṃsitabbaṃ.
จีวรอจฺฉินฺทนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Cīvaraacchindanasikkhāpadavaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / วินยปิฎก • Vinayapiṭaka / มหาวิภงฺค • Mahāvibhaṅga / ๕. จีวรอจฺฉินฺทนสิกฺขาปทํ • 5. Cīvaraacchindanasikkhāpadaṃ
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / วินยปิฎก (อฎฺฐกถา) • Vinayapiṭaka (aṭṭhakathā) / มหาวิภงฺค-อฎฺฐกถา • Mahāvibhaṅga-aṭṭhakathā / ๕. จีวรอจฺฉินฺทนสิกฺขาปทวณฺณนา • 5. Cīvaraacchindanasikkhāpadavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā / ๕. จีวรอจฺฉินฺทนสิกฺขาปทวณฺณนา • 5. Cīvaraacchindanasikkhāpadavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā / ๕. จีวรอจฺฉินฺทนสิกฺขาปทวณฺณนา • 5. Cīvaraacchindanasikkhāpadavaṇṇanā