Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ขุทฺทสิกฺขา-มูลสิกฺขา • Khuddasikkhā-mūlasikkhā |
๓. จีวรนิเทฺทสวณฺณนา
3. Cīvaraniddesavaṇṇanā
๓๐. ‘‘โขมญฺจ โกเสยฺยญฺจา’’ติอาทินา นปุํสกวิคฺคเหน ทฺวเนฺท กเต โขม…เป.… ภงฺคานิฯ ตตฺถ โขมนฺติ คจฺฉชาติฯ อุปจารโต ปน โขเมน โขมสุเตฺตน วายิตนฺติ ตทฺธิเตน อุปจาเรน วา โขมํ โขมปฎจีวรํ, ตถา อวเสสานิฯ สาณํ สาณวากสุเตฺตหิ วายิตํ จีวรํฯ ภงฺคํ โขมสุตฺตาทีนิ สพฺพานิ เอกจฺจานิ วา โวมิเสฺสตฺวา วายิตจีวรํฯ วากมยเมว วาติ เกจิฯ กมฺพลนฺติ มนุสฺสโลมํ วาฬโลมญฺจ ฐเปตฺวา เสสโลเมหิ วายิตํฯ เอตานีติ โขมาทีนิ ยถาวุตฺตานิฯ สห อนุโลเมหีติ สานุโลมานิฯ ชาติโต กปฺปิยานิ ฉ จีวรานิ ภวนฺติฯ
30. ‘‘Khomañca koseyyañcā’’tiādinā napuṃsakaviggahena dvande kate khoma…pe… bhaṅgāni. Tattha khomanti gacchajāti. Upacārato pana khomena khomasuttena vāyitanti taddhitena upacārena vā khomaṃ khomapaṭacīvaraṃ, tathā avasesāni. Sāṇaṃ sāṇavākasuttehi vāyitaṃ cīvaraṃ. Bhaṅgaṃ khomasuttādīni sabbāni ekaccāni vā vomissetvā vāyitacīvaraṃ. Vākamayameva vāti keci. Kambalanti manussalomaṃ vāḷalomañca ṭhapetvā sesalomehi vāyitaṃ. Etānīti khomādīni yathāvuttāni. Saha anulomehīti sānulomāni. Jātito kappiyāni cha cīvarāni bhavanti.
๓๑. อิทานิ ‘‘ทุกูล’’นฺติอาทินา เตสํ อนุโลมานิ ทเสฺสติฯ ตตฺถ ทุกูลนฺติ ทุกูลสงฺขาเตน เกนจิ วากวิเสเสน วายิตํ จีวรํฯ เจวาติ สมุจฺจเย, โส อุปริ อากฑฺฒิตโพฺพฯ ปฎฺฎุณฺณนฺติ ปฎฺฎุเณฺณสุ ชาตํ ปฎฺฎุณฺณํฯ เทสวาจิโน พหุวจนนฺตาติ พหุวจเนน วิคฺคโหฯ ตถา โสมารา จ จีนา จ, เตสุ ชาตํ โสมารจีนชํฯ อิมานิ ตีณิ ปาณเกหิ กตสุตฺตมยานิฯ เอหิภิกฺขูนํ ปุญฺญิทฺธิยา ชาตํ อิทฺธิชํ, ตํ ปน โขมาทีนํ อญฺญตรํฯ เทวทินฺนนฺติ เทเวหิ ทินฺนํ กปฺปรุเกฺข นิพฺพตฺตํ จีวรํฯ ตเทตํ ทุกูลาทิ ตสฺส ตสฺส ยถาวุตฺตสฺส โขมาทิโน อนุโลมิกํ โหติฯ ตตฺถ โลมานิ อนุคตํ อนุโลมํ, ยถา เสสโลมานิ อนุคตํ โลมํ ตทนุกูลตฺตา ‘‘อนุโลม’’นฺติ วุจฺจติ, ตถา ตํชาติยกํ เยสํ เกสญฺจิ อนุกูลํ สพฺพมฺปิ รุฬฺหีวเสน ‘‘อนุโลม’’นฺติ วุจฺจติฯ ตเมว อนุโลมิกํ, อนุกูลนฺติ อโตฺถฯ กถํ? ทุกูลํ สาณสฺส อนุโลมํ, ปฎฺฎุณฺณาทีนิ ตีณิ โกเสยฺยสฺส อนุโลมานิ, อิทฺธิชํ เทวทินฺนญฺจ โขมาทีนมนุโลมนฺติฯ
31. Idāni ‘‘dukūla’’ntiādinā tesaṃ anulomāni dasseti. Tattha dukūlanti dukūlasaṅkhātena kenaci vākavisesena vāyitaṃ cīvaraṃ. Cevāti samuccaye, so upari ākaḍḍhitabbo. Paṭṭuṇṇanti paṭṭuṇṇesu jātaṃ paṭṭuṇṇaṃ. Desavācino bahuvacanantāti bahuvacanena viggaho. Tathā somārā ca cīnā ca, tesu jātaṃ somāracīnajaṃ. Imāni tīṇi pāṇakehi katasuttamayāni. Ehibhikkhūnaṃ puññiddhiyā jātaṃ iddhijaṃ, taṃ pana khomādīnaṃ aññataraṃ. Devadinnanti devehi dinnaṃ kapparukkhe nibbattaṃ cīvaraṃ. Tadetaṃ dukūlādi tassa tassa yathāvuttassa khomādino anulomikaṃ hoti. Tattha lomāni anugataṃ anulomaṃ, yathā sesalomāni anugataṃ lomaṃ tadanukūlattā ‘‘anuloma’’nti vuccati, tathā taṃjātiyakaṃ yesaṃ kesañci anukūlaṃ sabbampi ruḷhīvasena ‘‘anuloma’’nti vuccati. Tameva anulomikaṃ, anukūlanti attho. Kathaṃ? Dukūlaṃ sāṇassa anulomaṃ, paṭṭuṇṇādīni tīṇi koseyyassa anulomāni, iddhijaṃ devadinnañca khomādīnamanulomanti.
๓๒-๓. เอวํ สานุโลมานิ จีวรานิ ทเสฺสตฺวา อิทานิ อธิฎฺฐานาทิกํ ทเสฺสตุํ ‘‘ติจีวร’’นฺติอาทิมาหฯ ตตฺถ อวุเตฺตปิ อวสฺสํ วตฺตพฺพตาย สพฺพตฺถ จ-สโทฺท อชฺฌาหริตโพฺพ, ติจีวรญฺจ…เป.… กณฺฑุจฺฉาทิญฺจ อธิเฎฺฐยฺย น วิกเปฺปยฺยาติ สมฺพโนฺธฯ ตตฺถ ติณฺณํ จีวรานํ สมาหาโร ติจีวรํฯ ปริกฺขารญฺจ ตํ โจฬญฺจาติ ปริกฺขารโจฬํฯ วสฺสสฺส โยคฺคา วสฺสิกา, สาว สาฎิกา วสฺสิกสาฎิกาฯ ปุญฺฉติ อเนนาติ ปุญฺฉนํ, มุขสฺส ปุญฺฉนํ มุขปุญฺฉนํฯ นิสีทนฺติ เอตฺถาติ นิสีทนํ, มุขปุญฺฉนญฺจ นิสีทนญฺจ มุขปุญฺฉนนิสีทนํ ฯ สยนสุขาทิํ ปฎิจฺจ อตฺถรียตีติ ปจฺจตฺถรณํ, ตเทว ปจฺจตฺถรณกํฯ กณฺฑุํ ฉาเทตีติ กณฺฑุจฺฉาทิฯ อธิฎฺฐเหติ ‘‘อิมํ สงฺฆาฎิํ อธิฎฺฐามี’’ติอาทินา นวนฺนํ นามํ คเหตฺวา อธิเฎฺฐยฺยฯ น วิกเปฺปยฺยาติ ตสฺส ตสฺส นามํ คเหตฺวา น วิกเปฺปยฺย, ตสฺส ตสฺส ปน นามํ อคฺคเหตฺวา ‘‘อิมํ จีวรํ ตุยฺหํ วิกเปฺปมี’’ติ วิกเปฺปยฺยาติ อธิปฺปาโยฯ เอตฺถาติ อิเมสุ นวสุ จีวเรสุฯ ติจีวรนฺติ ติจีวรนาเมน อธิฎฺฐิตํฯ ตถา หิ อธิฎฺฐานโต ปุเพฺพ วิสุํ ติจีวรํ นาม นตฺถิ สงฺฆาฎิอาทิปฺปโหนกสฺส ปจฺจตฺถรณาทิวเสนาปิ อธิฎฺฐาตุํ อนุญฺญาตตฺตาฯ ตํ วินา เอกาหํ เอกทิวสมฺปิฯ น วเสยฺยาติ อลทฺธสมฺมุติโก ภิกฺขุ อวิปฺปวาสสีมโต อญฺญตฺถ วาสํ น กเรยฺยาติ อโตฺถฯ เอวํ สติ ติจีวรญฺจ นิสฺสชฺชิตพฺพํ โหติ, ปาจิตฺติยญฺจ อาปตฺติํ อาปชฺชตีติ ทีเปติฯ นิสีทนํ วินา จาตุมาสํ น วเสยฺยาติ สมฺพโนฺธฯ จตุนฺนํ มาสานํ สมาหาโร จตุมาสํ, ตเมว จาตุมาสํฯ ตํ อจฺจนฺตสํโยควเสนฯ
32-3. Evaṃ sānulomāni cīvarāni dassetvā idāni adhiṭṭhānādikaṃ dassetuṃ ‘‘ticīvara’’ntiādimāha. Tattha avuttepi avassaṃ vattabbatāya sabbattha ca-saddo ajjhāharitabbo, ticīvarañca…pe… kaṇḍucchādiñca adhiṭṭheyya na vikappeyyāti sambandho. Tattha tiṇṇaṃ cīvarānaṃ samāhāro ticīvaraṃ. Parikkhārañca taṃ coḷañcāti parikkhāracoḷaṃ. Vassassa yoggā vassikā, sāva sāṭikā vassikasāṭikā. Puñchati anenāti puñchanaṃ, mukhassa puñchanaṃ mukhapuñchanaṃ. Nisīdanti etthāti nisīdanaṃ, mukhapuñchanañca nisīdanañca mukhapuñchananisīdanaṃ. Sayanasukhādiṃ paṭicca attharīyatīti paccattharaṇaṃ, tadeva paccattharaṇakaṃ. Kaṇḍuṃ chādetīti kaṇḍucchādi. Adhiṭṭhaheti ‘‘imaṃ saṅghāṭiṃ adhiṭṭhāmī’’tiādinā navannaṃ nāmaṃ gahetvā adhiṭṭheyya. Na vikappeyyāti tassa tassa nāmaṃ gahetvā na vikappeyya, tassa tassa pana nāmaṃ aggahetvā ‘‘imaṃ cīvaraṃ tuyhaṃ vikappemī’’ti vikappeyyāti adhippāyo. Etthāti imesu navasu cīvaresu. Ticīvaranti ticīvaranāmena adhiṭṭhitaṃ. Tathā hi adhiṭṭhānato pubbe visuṃ ticīvaraṃ nāma natthi saṅghāṭiādippahonakassa paccattharaṇādivasenāpi adhiṭṭhātuṃ anuññātattā. Taṃ vinā ekāhaṃ ekadivasampi. Na vaseyyāti aladdhasammutiko bhikkhu avippavāsasīmato aññattha vāsaṃ na kareyyāti attho. Evaṃ sati ticīvarañca nissajjitabbaṃ hoti, pācittiyañca āpattiṃ āpajjatīti dīpeti. Nisīdanaṃ vinā cātumāsaṃ na vaseyyāti sambandho. Catunnaṃ māsānaṃ samāhāro catumāsaṃ, tameva cātumāsaṃ. Taṃ accantasaṃyogavasena.
๓๔. อิทานิ ‘‘อิม’’นฺติอาทินา ‘‘อธิเฎฺฐยฺยา’’ติ วุตฺตมธิฎฺฐานํ ทเสฺสติฯ สงฺฆาฎิํ ‘‘อิมํ สงฺฆาฎิํ อธิฎฺฐามี’’ติ อธิฎฺฐเหติ สมฺพโนฺธฯ ตตฺถ อธิฎฺฐเหติ หตฺถปาเส ฐิตํ เอวํ อธิเฎฺฐยฺยฯ อหตฺถปาสนฺติ หตฺถสฺส ปาโส สมีโป หตฺถปาโส, อฑฺฒเตยฺยหตฺถพฺภนฺตโรฯ ทฺวาทสหตฺถพฺภนฺตโรติปิ วทนฺติฯ นตฺถิ หตฺถปาโส เอติสฺสาติ อหตฺถปาสา, ตํ เอตนฺติ อธิฎฺฐเหติ สมฺพโนฺธฯ กิํ วุตฺตํ โหติ? อโนฺตคเพฺภ วา อุปริปาสาเท วา ตทเหว คนฺตฺวา นิวตฺตนโยเคฺค ปเทเส วา ฐิตํ จีวรํ สลฺลเกฺขตฺวา ‘‘เอตํ สงฺฆาฎิํ อธิฎฺฐามี’’ติ อธิเฎฺฐยฺยาติ วุตฺตํ โหติฯ ตโต ทูเร ฐิตมฺปิ อธิฎฺฐาตพฺพนฺติปิ วทนฺติฯ เสเสสุปีติ อุตฺตราสงฺคาทิกณฺฑุปฺปฎิจฺฉาทิปริยเนฺตสุปิ อวเสสจีวเรสุฯ อยํ นโยติ อยเมว นโยฯ ยถา สงฺฆาฎิยา, เอวํ ‘‘อิมํ อุตฺตราสงฺคํ อธิฎฺฐามี’’ติอาทิ วุตฺตนโยวาติ วุตฺตํ โหติฯ อธิฎฺฐหเนฺตน ปน หเตฺถน คเหตฺวา กายวิการํ กโรเนฺตน ‘‘อิมํ สงฺฆาฎิํ อธิฎฺฐามี’’ติ จิเตฺตน อาโภคํ กตฺวา กาเยน วา อธิฎฺฐาตพฺพํ, วจีเภทมตฺตํ กตฺวา วาจาย วาฯ ปริกฺขารโจฬํ นาม ปาเฎกฺกํ นิธานมุขนฺติ ติจีวรํ ปริกฺขารโจฬมฺปิ อธิฎฺฐาตุํ วฎฺฎตีติฯ
34. Idāni ‘‘ima’’ntiādinā ‘‘adhiṭṭheyyā’’ti vuttamadhiṭṭhānaṃ dasseti. Saṅghāṭiṃ ‘‘imaṃ saṅghāṭiṃ adhiṭṭhāmī’’ti adhiṭṭhaheti sambandho. Tattha adhiṭṭhaheti hatthapāse ṭhitaṃ evaṃ adhiṭṭheyya. Ahatthapāsanti hatthassa pāso samīpo hatthapāso, aḍḍhateyyahatthabbhantaro. Dvādasahatthabbhantarotipi vadanti. Natthi hatthapāso etissāti ahatthapāsā, taṃ etanti adhiṭṭhaheti sambandho. Kiṃ vuttaṃ hoti? Antogabbhe vā uparipāsāde vā tadaheva gantvā nivattanayogge padese vā ṭhitaṃ cīvaraṃ sallakkhetvā ‘‘etaṃ saṅghāṭiṃ adhiṭṭhāmī’’ti adhiṭṭheyyāti vuttaṃ hoti. Tato dūre ṭhitampi adhiṭṭhātabbantipi vadanti. Sesesupīti uttarāsaṅgādikaṇḍuppaṭicchādipariyantesupi avasesacīvaresu. Ayaṃ nayoti ayameva nayo. Yathā saṅghāṭiyā, evaṃ ‘‘imaṃ uttarāsaṅgaṃ adhiṭṭhāmī’’tiādi vuttanayovāti vuttaṃ hoti. Adhiṭṭhahantena pana hatthena gahetvā kāyavikāraṃ karontena ‘‘imaṃ saṅghāṭiṃ adhiṭṭhāmī’’ti cittena ābhogaṃ katvā kāyena vā adhiṭṭhātabbaṃ, vacībhedamattaṃ katvā vācāya vā. Parikkhāracoḷaṃ nāma pāṭekkaṃ nidhānamukhanti ticīvaraṃ parikkhāracoḷampi adhiṭṭhātuṃ vaṭṭatīti.
๓๕. อิทานิ เอวํ อธิฎฺฐหโต อญฺญํ ลทฺธา อธิฎฺฐาตุกาเมน ปจฺจุทฺธริตฺวา อธิฎฺฐาตพฺพนฺติ ทเสฺสตุํ ‘‘อธิฎฺฐหโนฺต’’ติอาทิมาหฯ ตตฺถ สงฺฆาฎิ ปภุติ อาทิ ยสฺส ตํ สงฺฆาฎิปฺปภุติฯ เอตํ ‘‘อธิฎฺฐหโนฺต’’ติ เอตฺถาปิ ‘‘อธิเฎฺฐยฺยา’’ติ เอตฺถาปิ กมฺมปทํ, ‘‘ปุพฺพจีวร’’นฺติ เอตฺถ ปน วิเสสนํ หุตฺวา ติฎฺฐติฯ ปจฺจุทฺธริตฺวาติ ปริจฺจชิตฺวาฯ ปริกฺขารโจฬนาเมน อธิฎฺฐหิตฺวา ฐปิตวเตฺถหิ สงฺฆาฎิอาทีนิ กโรติ, นิฎฺฐิเต รชเน จ กเปฺป จ อิมํ ปริกฺขารโจฬํ ปจฺจุทฺธริตฺวา ปุน อธิฎฺฐาตพฺพานิฯ ปตฺตาธิฎฺฐหเนติ ปตฺตสฺส อธิฎฺฐาเนฯ ตถาติ จ ยถา จีวเร, ตถา ปเตฺตปิ อธิฎฺฐานาทิกํ สพฺพนฺติ อโตฺถฯ เอตฺถ ปน ‘‘อิมํ ปตฺตํ, เอตํ ปตฺต’’นฺติ วา วิเสโสฯ
35. Idāni evaṃ adhiṭṭhahato aññaṃ laddhā adhiṭṭhātukāmena paccuddharitvā adhiṭṭhātabbanti dassetuṃ ‘‘adhiṭṭhahanto’’tiādimāha. Tattha saṅghāṭi pabhuti ādi yassa taṃ saṅghāṭippabhuti. Etaṃ ‘‘adhiṭṭhahanto’’ti etthāpi ‘‘adhiṭṭheyyā’’ti etthāpi kammapadaṃ, ‘‘pubbacīvara’’nti ettha pana visesanaṃ hutvā tiṭṭhati. Paccuddharitvāti pariccajitvā. Parikkhāracoḷanāmena adhiṭṭhahitvā ṭhapitavatthehi saṅghāṭiādīni karoti, niṭṭhite rajane ca kappe ca imaṃ parikkhāracoḷaṃ paccuddharitvā puna adhiṭṭhātabbāni. Pattādhiṭṭhahaneti pattassa adhiṭṭhāne. Tathāti ca yathā cīvare, tathā pattepi adhiṭṭhānādikaṃ sabbanti attho. Ettha pana ‘‘imaṃ pattaṃ, etaṃ patta’’nti vā viseso.
๓๖. อิทานิ ปจฺจุทฺธารวิธิํ ทเสฺสตุํ ‘‘เอต’’นฺติอาทิมาหฯ ตตฺถ อิมํ ว อิติ วา-สโทฺท รสฺสํ กตฺวา นิทฺทิโฎฺฐ, โส อิติ-สทฺทโต ปรํ โยเชตโพฺพ, ตสฺมา ‘‘เอตํ สงฺฆาฎิํ ปจฺจุทฺธรามี’’ติ วา ‘‘อิมํ สงฺฆาฎิํ ปจฺจุทฺธรามี’’ติ วา สํเสติ สมฺพโนฺธ เวทิตโพฺพฯ สํเสติ วเทยฺยฯ เอวนฺติ ยถา นาเมน สงฺฆาฎิ ปจฺจุทฺธริตพฺพา, ตถา อุตฺตราสงฺคาทีนีติ อโตฺถฯ วิทูติ ปจฺจุทฺธเรติมสฺส กตฺตุปทํ, ปญฺญวาติ อโตฺถฯ สพฺพตฺถาปิ ทูราสนฺนตาที วุตฺตนเยน เวทิตพฺพาฯ
36. Idāni paccuddhāravidhiṃ dassetuṃ ‘‘eta’’ntiādimāha. Tattha imaṃ va iti vā-saddo rassaṃ katvā niddiṭṭho, so iti-saddato paraṃ yojetabbo, tasmā ‘‘etaṃ saṅghāṭiṃ paccuddharāmī’’ti vā ‘‘imaṃ saṅghāṭiṃ paccuddharāmī’’ti vā saṃseti sambandho veditabbo. Saṃseti vadeyya. Evanti yathā nāmena saṅghāṭi paccuddharitabbā, tathā uttarāsaṅgādīnīti attho. Vidūti paccuddharetimassa kattupadaṃ, paññavāti attho. Sabbatthāpi dūrāsannatādī vuttanayena veditabbā.
๓๗-๘. อิทานิ สงฺฆาฎิอาทีนํ ฉนฺนํ ปมาณปริเจฺฉทํ ทเสฺสติ ‘‘สงฺฆาฎี’’ติอาทินาฯ ปจฺฉิโม อโนฺต ปจฺฉิมโนฺต, เตน, ปจฺฉิมโกฎิยาติ อโตฺถฯ ทีฆโสติ ทีฆโตฯ มุฎฺฐิยา สหิตํ ปญฺจกํ ยสฺสา สา มุฎฺฐิปญฺจกา, ลิงฺควิปลฺลาสวเสน ปน มุฎฺฐิปญฺจโกฯ มุฎฺฐิ-สเทฺทเนตฺถ อุปจารวเสน กตมุฎฺฐิโก หโตฺถว วุโตฺตฯ สุคตสฺส จีวรโต อูนาติ สมาโสฯ อปีติ วุตฺตสมุจฺจเย, เตน ยถาวุตฺตปจฺฉิมปฺปมาณา จ อยญฺจ อุตฺตมปฺปมาณาติ อโตฺถฯ ‘‘ปจฺฉิมเนฺตนา’’ติ อิทํ มุฎฺฐิตฺติกญฺจ ติริยนฺติ เอตฺถาปิ อนุวเตฺตตฺวา อโตฺถ เวทิตโพฺพฯ จ-สโทฺท ‘‘อุตฺตมเนฺตน สุคตจีวรูนาปิ วฎฺฎตี’’ติ อิทํ สมุจฺจิโนติฯ ตตฺถ อิทานิ มชฺฌิมสฺส ปุริสสฺส ติโสฺส วิทตฺถิโย เอกา สุคตวิทตฺถิ, ตาย วิทตฺถิยา นว วิทตฺถิโย ทีฆโต สุคตจีวรปฺปมาณํ, ติริยํ ฉ วิทตฺถิโย, ตํ ปน วฑฺฒกิหเตฺถน ทีฆโต เตรส หตฺถา เอกา จ วิทตฺถิ, ติริยโต นว หตฺถา โหนฺติฯ ตํวเสน อุภยตฺถ อูนตา วิญฺญาตพฺพาฯ
37-8. Idāni saṅghāṭiādīnaṃ channaṃ pamāṇaparicchedaṃ dasseti ‘‘saṅghāṭī’’tiādinā. Pacchimo anto pacchimanto, tena, pacchimakoṭiyāti attho. Dīghasoti dīghato. Muṭṭhiyā sahitaṃ pañcakaṃ yassā sā muṭṭhipañcakā, liṅgavipallāsavasena pana muṭṭhipañcako. Muṭṭhi-saddenettha upacāravasena katamuṭṭhiko hatthova vutto. Sugatassa cīvarato ūnāti samāso. Apīti vuttasamuccaye, tena yathāvuttapacchimappamāṇā ca ayañca uttamappamāṇāti attho. ‘‘Pacchimantenā’’ti idaṃ muṭṭhittikañca tiriyanti etthāpi anuvattetvā attho veditabbo. Ca-saddo ‘‘uttamantena sugatacīvarūnāpi vaṭṭatī’’ti idaṃ samuccinoti. Tattha idāni majjhimassa purisassa tisso vidatthiyo ekā sugatavidatthi, tāya vidatthiyā nava vidatthiyo dīghato sugatacīvarappamāṇaṃ, tiriyaṃ cha vidatthiyo, taṃ pana vaḍḍhakihatthena dīghato terasa hatthā ekā ca vidatthi, tiriyato nava hatthā honti. Taṃvasena ubhayattha ūnatā viññātabbā.
อุตฺตราสโงฺคปิ ตตฺตโกวาติ ทเสฺสตุํ ‘‘ตถา เอกํสิกสฺสปี’’ติ อาหฯ เอโก อํโส เอกํโส, ตตฺถ กาตพฺพนฺติ ตทฺธิเต เอกํสิกํฯ ‘‘อนฺตรวาสโก’’จฺจาทินา นิวาสนํ ทเสฺสติฯ ตตฺถ อนฺตรํ มชฺฌปเทโส, อนฺตเร มเชฺฌ กฎิปฺปเทเส วาโส วตฺถํ อนฺตรวาโส, โสเยว อนฺตรวาสโกฯ จาปีติ สมุทาโย, เอโก วา สมุจฺจโยฯ อเฑฺฒน ตติโย ภาโค อฑฺฒเตโยฺยฯ เอตฺถ ทฺวินฺนํ หตฺถโกฎฺฐาสานํ สมฺปุณฺณานํ ตติยโกฎฺฐาสสํสิชฺฌเน กรณภูตา อฑฺฒ-สทฺทนิทฺทิฎฺฐา ยา วิทตฺถิ , สาว ตติโยติ นิทฺทิโฎฺฐติ อุปฑฺฒหตฺถสงฺขาโต ตติโย ภาโค อฑฺฒเตโยฺยฯ โส จ นานนฺตเรน ทฺวิหตฺถตติยตา ลพฺภตีติ เทฺว หตฺถา, เอกา จ วิทตฺถิ อฑฺฒเตโยฺยฯ ตํสนฺนิโยเคน ปเนตฺถ อนฺตรวาสโกว อฑฺฒเตโยฺยติ เวทิตโพฺพฯ เทฺว หตฺถา ยสฺสาติ พาหิรตฺถสมาโสฯ ปารุปเนนาปิ สกฺกา นาภิํ ปฎิจฺฉาเทตุนฺติ ‘‘ทฺวิหโตฺถ’’ติ วุตฺตํฯ วา-สโทฺท อฑฺฒเตยฺยํ วิกเปฺปติฯ ติริยสฺส อโนฺตติ ฉฎฺฐีตปฺปุริโส, ติริยเมว อโนฺตติ วา กมฺมธารโย ‘‘คามโนฺต’’ติอาทีสุ วิยฯ
Uttarāsaṅgopi tattakovāti dassetuṃ ‘‘tathā ekaṃsikassapī’’ti āha. Eko aṃso ekaṃso, tattha kātabbanti taddhite ekaṃsikaṃ. ‘‘Antaravāsako’’ccādinā nivāsanaṃ dasseti. Tattha antaraṃ majjhapadeso, antare majjhe kaṭippadese vāso vatthaṃ antaravāso, soyeva antaravāsako. Cāpīti samudāyo, eko vā samuccayo. Aḍḍhena tatiyo bhāgo aḍḍhateyyo. Ettha dvinnaṃ hatthakoṭṭhāsānaṃ sampuṇṇānaṃ tatiyakoṭṭhāsasaṃsijjhane karaṇabhūtā aḍḍha-saddaniddiṭṭhā yā vidatthi , sāva tatiyoti niddiṭṭhoti upaḍḍhahatthasaṅkhāto tatiyo bhāgo aḍḍhateyyo. So ca nānantarena dvihatthatatiyatā labbhatīti dve hatthā, ekā ca vidatthi aḍḍhateyyo. Taṃsanniyogena panettha antaravāsakova aḍḍhateyyoti veditabbo. Dve hatthā yassāti bāhiratthasamāso. Pārupanenāpi sakkā nābhiṃ paṭicchādetunti ‘‘dvihattho’’ti vuttaṃ. Vā-saddo aḍḍhateyyaṃ vikappeti. Tiriyassa antoti chaṭṭhītappuriso, tiriyameva antoti vā kammadhārayo ‘‘gāmanto’’tiādīsu viya.
๓๙. ‘‘นิสีทนสฺสา’’ติอาทินา นิสีทนจีวรํ ทเสฺสติฯ เอตฺถ นิสีทนํ นาม สเม ภูมิภาเค เอฬกโลมานิ อุปรูปริ สนฺถริตฺวา กญฺชิกาทีหิ สิญฺจิตฺวา กโต ทฺวีสุ ฐาเนสุ ผาลิตตฺตา ตีหิ ทสาหิ ยุโตฺต ปริกฺขารวิเสโสฯ วิทตฺถี เทฺวติ เทฺว วิทตฺถีฯ วิสาลโต ปุถุลโตฯ
39.‘‘Nisīdanassā’’tiādinā nisīdanacīvaraṃ dasseti. Ettha nisīdanaṃ nāma same bhūmibhāge eḷakalomāni uparūpari santharitvā kañjikādīhi siñcitvā kato dvīsu ṭhānesu phālitattā tīhi dasāhi yutto parikkhāraviseso. Vidatthī dveti dve vidatthī. Visālato puthulato.
๔๐. ‘‘กณฺฑุปฺปฎิจฺฉาที’’ติอาทินา กณฺฑุปฺปฎิจฺฉาทิํ ทเสฺสติฯ ตตฺถ กณฺฑูติ หิ น อตฺถโต นานํ, ตคฺคหเณน ปเนตฺถ ปิฬกสฺสาวถุลฺลกจฺฉาพาธํ คยฺหติฯ กณฺฑุํ ยถาวุตฺตํ ปิฬกาทิํ ปฎิจฺฉาเทตีติ กณฺฑุปฺปฎิจฺฉาทิฯ ปฎิจฺฉทนํ วา ปฎิจฺฉาโท, ยถาวุตฺตกณฺฑุยา ปฎิจฺฉาโท กณฺฑุปฺปฎิจฺฉาโท, โส อสฺส อตฺถีติ กณฺฑุปฺปฎิจฺฉาที, ตสฺสฯ ติริยนฺติ ติริยโตฯ
40.‘‘Kaṇḍuppaṭicchādī’’tiādinā kaṇḍuppaṭicchādiṃ dasseti. Tattha kaṇḍūti hi na atthato nānaṃ, taggahaṇena panettha piḷakassāvathullakacchābādhaṃ gayhati. Kaṇḍuṃ yathāvuttaṃ piḷakādiṃ paṭicchādetīti kaṇḍuppaṭicchādi. Paṭicchadanaṃ vā paṭicchādo, yathāvuttakaṇḍuyā paṭicchādo kaṇḍuppaṭicchādo, so assa atthīti kaṇḍuppaṭicchādī, tassa. Tiriyanti tiriyato.
๔๑. ‘‘วสฺสิกา’’ติอาทินา วสฺสิกสาฎิกํ ทเสฺสติ, ตํ สุวิเญฺญยฺยํฯ
41.‘‘Vassikā’’tiādinā vassikasāṭikaṃ dasseti, taṃ suviññeyyaṃ.
๔๒. เอวํ ปมาณวนฺตานํ ปมาณํ ทเสฺสตฺวา วุตฺตปฺปมาณาติกฺกเม โทสํ, เกสญฺจิ ปมาณาภาวคณนาภาวญฺจ ทเสฺสตุํ ‘‘เอตฺถา’’ติอาทิมาหฯ ตตฺถ เอตฺถาติ วุตฺตปฺปมาณวเนฺตสุ จีวเรสุฯ ตทุตฺตริ ตโต วุตฺตปฺปมาณโต อุตฺตริ นิปาเตน อุตฺตริ-สเทฺทน ตปฺปุริโสฯ กโรนฺตสฺส สมฺปาเทนฺตสฺสฯ เฉทนปาจิตฺตีติ เฉทเนน สหิตา ปาจิตฺติ, อติเรกํ ฉินฺทิตฺวา ปาจิตฺติยํ เทเสตพฺพนฺติ วุตฺตํ โหติฯ วุตฺตปฺปมาณโต ปน อติเรกญฺจ อูนกญฺจ ‘‘ปริกฺขารโจฬ’’นฺติ อธิฎฺฐาตพฺพํฯ เยน มุขํ ปุญฺฉนฺติ, ตํ มุขสมฺพนฺธีติ มุขสฺส โจฬนฺติ สมาเส ทฺวโนฺทฯ อากงฺขิตํ อิจฺฉิตํ ปมาณนฺติ กมฺมธารโยฯ ตเมเตสมตฺถีติ อากงฺขิตปฺปมาณิกาฯ เอตฺถ จ ติจีวราทีสุ อวุเตฺตปิ คณนวิภาเค ปจฺจตฺถรณมุขปุญฺฉนปริกฺขารโจเฬ ฐเปตฺวา อาทิโต ปฎฺฐาย ฉกฺกเมเกกเมว วฎฺฎติฯ มุขปุญฺฉนโจฬานิ ปจฺจตฺถรณานิ จ พหูนิปีติ วิญฺญาตพฺพํฯ
42. Evaṃ pamāṇavantānaṃ pamāṇaṃ dassetvā vuttappamāṇātikkame dosaṃ, kesañci pamāṇābhāvagaṇanābhāvañca dassetuṃ ‘‘etthā’’tiādimāha. Tattha etthāti vuttappamāṇavantesu cīvaresu. Taduttari tato vuttappamāṇato uttari nipātena uttari-saddena tappuriso. Karontassa sampādentassa. Chedanapācittīti chedanena sahitā pācitti, atirekaṃ chinditvā pācittiyaṃ desetabbanti vuttaṃ hoti. Vuttappamāṇato pana atirekañca ūnakañca ‘‘parikkhāracoḷa’’nti adhiṭṭhātabbaṃ. Yena mukhaṃ puñchanti, taṃ mukhasambandhīti mukhassa coḷanti samāse dvando. Ākaṅkhitaṃ icchitaṃ pamāṇanti kammadhārayo. Tametesamatthīti ākaṅkhitappamāṇikā. Ettha ca ticīvarādīsu avuttepi gaṇanavibhāge paccattharaṇamukhapuñchanaparikkhāracoḷe ṭhapetvā ādito paṭṭhāya chakkamekekameva vaṭṭati. Mukhapuñchanacoḷāni paccattharaṇāni ca bahūnipīti viññātabbaṃ.
๔๓. คณนาติ เอตฺถ นปุํสกสฺส อิตฺถิวจเนน โยคาภาวา ‘‘น ทีปิตา’’ติ ลิงฺคํ วิปริณาเมตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ, อฎฺฐกถายํ น ปกาสิตาติ อโตฺถฯ ติณฺณํ ปเนเตสํ อุกฺกฎฺฐปริเจฺฉทวเสเนว วุตฺตํ, วิกปฺปนูปคปจฺฉิเมน ปจฺฉิมปฺปมาณํ อตฺถิเยวฯ อิทานิ ยสฺมา ตตฺถ ตํ สพฺพํ น ทีปิตํ, ตสฺมา วิกปฺปนูปคถวิกาทิ สพฺพํ เอกํ ‘‘ปริกฺขารโจฬ’’นฺติ, พหูนิ เอกโต กตฺวา ‘‘ปริกฺขารโจฬานี’’ติปิ วตฺวา อธิฎฺฐาตพฺพนฺติ ทเสฺสโนฺต ‘‘ตถา’’ติอาทิมาหฯ อิมินา ปริกฺขารโจฬํ นาม ปาเฎกฺกํ นิธานมุขนฺติ ทเสฺสติฯ ถวิกาทิํ ถวิกา อาทิ ยสฺส ปริสฺสาวนาทิโนติ สมาโสฯ วิกปฺปสฺส อุปคํ วิกปฺปิยํ, ตญฺจ อุปริ วกฺขติฯ
43.Gaṇanāti ettha napuṃsakassa itthivacanena yogābhāvā ‘‘na dīpitā’’ti liṅgaṃ vipariṇāmetvā sambandhitabbaṃ, aṭṭhakathāyaṃ na pakāsitāti attho. Tiṇṇaṃ panetesaṃ ukkaṭṭhaparicchedavaseneva vuttaṃ, vikappanūpagapacchimena pacchimappamāṇaṃ atthiyeva. Idāni yasmā tattha taṃ sabbaṃ na dīpitaṃ, tasmā vikappanūpagathavikādi sabbaṃ ekaṃ ‘‘parikkhāracoḷa’’nti, bahūni ekato katvā ‘‘parikkhāracoḷānī’’tipi vatvā adhiṭṭhātabbanti dassento ‘‘tathā’’tiādimāha. Iminā parikkhāracoḷaṃ nāma pāṭekkaṃ nidhānamukhanti dasseti. Thavikādiṃ thavikā ādi yassa parissāvanādinoti samāso. Vikappassa upagaṃ vikappiyaṃ, tañca upari vakkhati.
๔๔. อิทานิ ติณฺณํ จีวรานํ ปฎิภาคํ ทเสฺสตุํ ‘‘อหตา’’ติอาทิ อารทฺธํฯ ตตฺถ อหเตน นเวน อโธเตน กปฺปํ สทิสํ อหตกปฺปํ, เอกวารโธตํฯ อหตญฺจ อหตกปฺปญฺจ อหตาหตกปฺปานิ, วตฺถานิ, เตสํฯ เทฺว คุณา ปฎลานิ ยสฺส สาติ ทุคุณาฯ ‘‘คุโณ ปฎลราสีสู’’ติ หิ อภิธานปฺปทีปิกาฯ ทุคุณา ทุปฎฺฎา, อุตฺตรสฺมิํ เทหภาเค อาสญฺชียตีติ อุกฺกราสโงฺคฯ เอกจฺจํ เอกปฎฺฎํ อสฺส อตฺถีติ เอกจฺจี, เอกปโฎฺฎติ อโตฺถฯ นิปาโต วา เอกจฺจีติฯ ตถาติ สมุจฺจเย, อนฺตรวาสโก จาติ วุตฺตํ โหติฯ อุปมายํ วา, ยถา อุตฺตราสโงฺค เอกจฺจิโย, เอวํ อนฺตรวาสโกติ อโตฺถฯ
44. Idāni tiṇṇaṃ cīvarānaṃ paṭibhāgaṃ dassetuṃ ‘‘ahatā’’tiādi āraddhaṃ. Tattha ahatena navena adhotena kappaṃ sadisaṃ ahatakappaṃ, ekavāradhotaṃ. Ahatañca ahatakappañca ahatāhatakappāni, vatthāni, tesaṃ. Dve guṇā paṭalāni yassa sāti duguṇā. ‘‘Guṇo paṭalarāsīsū’’ti hi abhidhānappadīpikā. Duguṇā dupaṭṭā, uttarasmiṃ dehabhāge āsañjīyatīti ukkarāsaṅgo. Ekaccaṃ ekapaṭṭaṃ assa atthīti ekaccī, ekapaṭṭoti attho. Nipāto vā ekaccīti. Tathāti samuccaye, antaravāsako cāti vuttaṃ hoti. Upamāyaṃ vā, yathā uttarāsaṅgo ekacciyo, evaṃ antaravāsakoti attho.
๔๕. ‘‘อุตู’’ติ อเนกอุตุ คหิตาติ อุตุโต ทีฆกาลโต อุทฺธฎา อุตุทฺธฎา, เตสํ ปิโลติกานนฺติ อโตฺถฯ เสสาติ อุตฺตราสงฺคอนฺตรวาสกาฯ ปํสุ วิย กุจฺฉิตํ อุลติ ปวตฺตตีติ ปํสุกูลํ, รถิกาสุสานสงฺการกูฎาทีนํ ยตฺถ กตฺถจิ ฐิตํ โจฬขณฺฑํ, ตสฺมิํฯ ยา ยา รุจีติ อพฺยยีภาเว ยถารุจิ, ยาวทตฺถํ สตปฎฺฎมฺปิ วฎฺฎตีติ อธิปฺปาโยฯ
45. ‘‘Utū’’ti anekautu gahitāti ututo dīghakālato uddhaṭā utuddhaṭā, tesaṃ pilotikānanti attho. Sesāti uttarāsaṅgaantaravāsakā. Paṃsu viya kucchitaṃ ulati pavattatīti paṃsukūlaṃ, rathikāsusānasaṅkārakūṭādīnaṃ yattha katthaci ṭhitaṃ coḷakhaṇḍaṃ, tasmiṃ. Yā yā rucīti abyayībhāve yathāruci, yāvadatthaṃ satapaṭṭampi vaṭṭatīti adhippāyo.
๔๖. อิทานิ ตีสุ ฉินฺทิตฺวา กาตุํ อปฺปโหเนฺตสุ กาตพฺพวิธิํ ทเสฺสตุํ ‘‘ตีสู’’ติอาทิมาหฯ ตตฺถ ติจีวรสมุทายโต เอกเทสภูตานํ ทฺวินฺนเมกสฺส จ สงฺขาคุเณน นิทฺธาริยมานตฺตา ตีสูติ นิทฺธารเณ ภุมฺมํฯ เอกวจนสฺส พหฺวเตฺถน โยคาภาวโต ทฺวิจีวรสงฺขาตพหฺวตฺถวเสน วจนํ วิปริณาเมตฺวา ยานิ ปโหนฺติ, ตานิ เทฺว วาปิ ฉินฺทิตพฺพานิ, ยํ ปโหติ, ตํ เอกํ วา ฉินฺทิตพฺพนฺติ โยเชตพฺพํฯ ปโหนฺตีติ ปจฺฉิมจีวรปฺปมาณฉินฺนกานิ ปโหนฺติฯ อปีติ สมฺภาวเน, ตีสุ กา กถาติ อโตฺถฯ อนฺวาธินฺติ อาคนฺตุกปตฺตํฯ อนุ ปจฺฉา อาธียตีติ อนฺวาธิ, ยํ จีวรโสฺสปริ สงฺฆาฎิอากาเรน อาโรเปตพฺพํฯ อนาทิณฺณนฺติ อนาโรปิตํ อนฺวาธิกํฯ น ธาเรยฺยาติ อิมินา ยทิ ธาเรยฺย, ทุกฺกฎนฺติ ทีเปติฯ
46. Idāni tīsu chinditvā kātuṃ appahontesu kātabbavidhiṃ dassetuṃ ‘‘tīsū’’tiādimāha. Tattha ticīvarasamudāyato ekadesabhūtānaṃ dvinnamekassa ca saṅkhāguṇena niddhāriyamānattā tīsūti niddhāraṇe bhummaṃ. Ekavacanassa bahvatthena yogābhāvato dvicīvarasaṅkhātabahvatthavasena vacanaṃ vipariṇāmetvā yāni pahonti, tāni dve vāpi chinditabbāni, yaṃ pahoti, taṃ ekaṃ vā chinditabbanti yojetabbaṃ. Pahontīti pacchimacīvarappamāṇachinnakāni pahonti. Apīti sambhāvane, tīsu kā kathāti attho. Anvādhinti āgantukapattaṃ. Anu pacchā ādhīyatīti anvādhi, yaṃ cīvarassopari saṅghāṭiākārena āropetabbaṃ. Anādiṇṇanti anāropitaṃ anvādhikaṃ. Na dhāreyyāti iminā yadi dhāreyya, dukkaṭanti dīpeti.
๔๗-๘. อิทานิ ‘‘ติจีวรํ น วเสยฺย วิเนกาห’’นฺติ วุตฺตานํ ติณฺณํ อวิปฺปวาสลกฺขณํ ทเสฺสตุํ ‘‘คาเม’’ติอาทินา อุโทสิตสิกฺขาปเท (ปารา. ๔๗๑ อาทโย) วุตฺตปริหารมาหฯ ตตฺถ คาเม วา…เป.… วิหาเร วา ติจีวรํ นิกฺขิปิตฺวาติ สมฺพโนฺธฯ ตตฺถ ‘‘ปโฎ ทโฑฺฒ’’ติอาทีสุ วิย อวยเวปิ สมุทายโวหารวเสน ตีสุ เอกมฺปิ ‘‘ติจีวร’’นฺติ วุตฺตํฯ ภิกฺขุสมฺมุติยญฺญตฺราติ สเงฺฆน คิลานสฺส ภิกฺขุโน ทียมานํ จีวเรน วิปฺปวาสสมฺมุติํ วินาฯ วิปฺปวตฺถุนฺติ เอกูปจารนานูปจารคามาทิโต พหิ, อถ วา นิเวสนาทีนํ, ตตฺถ จ คโพฺภวรกานํ จีวรสฺส วา หตฺถปาสํ อติกฺกมฺม จีวเรน วิปฺปยุโตฺต หุตฺวา วสิตุํฯ เอตฺถ จ คามาทีนํ เอกูปจารนานูปจารตา เอกกุลนานากุลสนฺตกสฺส คามาทิโน ปริเกฺขปสฺส, ปริเกฺขโปกาสสฺส จ วเสน สตฺถอโพฺภกาสานํ สตฺตพฺภนฺตรวเสน จ เวทิตพฺพาฯ ตตฺถ เอโก อพฺภนฺตโร อฎฺฐวีสติหโตฺถ โหติฯ เอตฺถ จ นิเวสนาทีนิ คามโต พหิ สนฺนิวิฎฺฐานีติ ทฎฺฐพฺพํ วิสุํ คามสฺส คหิตตฺตา, ตถา อุโทสิตาทีหิ อญฺญํ นิเวสนํฯ
47-8. Idāni ‘‘ticīvaraṃ na vaseyya vinekāha’’nti vuttānaṃ tiṇṇaṃ avippavāsalakkhaṇaṃ dassetuṃ ‘‘gāme’’tiādinā udositasikkhāpade (pārā. 471 ādayo) vuttaparihāramāha. Tattha gāme vā…pe… vihāre vā ticīvaraṃ nikkhipitvāti sambandho. Tattha ‘‘paṭo daḍḍho’’tiādīsu viya avayavepi samudāyavohāravasena tīsu ekampi ‘‘ticīvara’’nti vuttaṃ. Bhikkhusammutiyaññatrāti saṅghena gilānassa bhikkhuno dīyamānaṃ cīvarena vippavāsasammutiṃ vinā. Vippavatthunti ekūpacāranānūpacāragāmādito bahi, atha vā nivesanādīnaṃ, tattha ca gabbhovarakānaṃ cīvarassa vā hatthapāsaṃ atikkamma cīvarena vippayutto hutvā vasituṃ. Ettha ca gāmādīnaṃ ekūpacāranānūpacāratā ekakulanānākulasantakassa gāmādino parikkhepassa, parikkhepokāsassa ca vasena satthaabbhokāsānaṃ sattabbhantaravasena ca veditabbā. Tattha eko abbhantaro aṭṭhavīsatihattho hoti. Ettha ca nivesanādīni gāmato bahi sanniviṭṭhānīti daṭṭhabbaṃ visuṃ gāmassa gahitattā, tathā udositādīhi aññaṃ nivesanaṃ.
ตตฺถ อุโทสิโต นาม ยานาทีนํ ภณฺฑานํ สาลาฯ ปาสาโท ทีฆปาสาโทฯ หมฺมิยํ มุณฺฑจฺฉทนปาสาโทฯ นาวา จ อโฎฺฎ จ มาโฬ จ อาราโม จ นาวา…เป.… อารามํ, ตสฺมิํฯ อโฎฺฎ นาม ปฎิราชาทีนํ ปฎิพาหนตฺถํ อิฎฺฐกาหิ กโต พหลภิตฺติโก จตุปญฺจภูมิโก ปติสฺสยวิเสโสฯ มาโฬ เอกกูฎสงฺคหิโต จตุรสฺสปาสาโทฯ อาราโม ปุปฺผาราโม วา ผลาราโม วาฯ สโตฺถ จ เขตฺตญฺจ ขลญฺจาติ ทฺวโนฺทฯ สโตฺถ นาม ชงฺฆสโตฺถ วา สกฎสโตฺถ วาฯ ขลํ วุจฺจติ ธญฺญกรณํฯ ทุโม นาม ทุมมูลํ ฉายาย ผุโฎฺฐกาโส อุปจารวเสนฯ อโพฺภกาโส ปน อคามเก อรเญฺญว อธิเปฺปโตฯ
Tattha udosito nāma yānādīnaṃ bhaṇḍānaṃ sālā. Pāsādo dīghapāsādo. Hammiyaṃ muṇḍacchadanapāsādo. Nāvā ca aṭṭo ca māḷo ca ārāmo ca nāvā…pe… ārāmaṃ, tasmiṃ. Aṭṭo nāma paṭirājādīnaṃ paṭibāhanatthaṃ iṭṭhakāhi kato bahalabhittiko catupañcabhūmiko patissayaviseso. Māḷo ekakūṭasaṅgahito caturassapāsādo. Ārāmo pupphārāmo vā phalārāmo vā. Sattho ca khettañca khalañcāti dvando. Sattho nāma jaṅghasattho vā sakaṭasattho vā. Khalaṃ vuccati dhaññakaraṇaṃ. Dumo nāma dumamūlaṃ chāyāya phuṭṭhokāso upacāravasena. Abbhokāso pana agāmake araññeva adhippeto.
๔๙. อิทานิ ‘‘เอตํ…เป.… สงฺฆาฎิ’’นฺติอาทินา นวนฺนเมว ปจฺจุทฺธาโร วุโตฺต, น ปน เตสํ กาลปริเจฺฉโทติ ตํ ทเสฺสตุํ ‘‘โรคา’’ติอาทิ อารทฺธํฯ ตตฺถ เทวทโตฺต ทโตฺตติ นาเมกเทเสนาปิ นามโวหารโต วสฺสิกสาฎิกาว ‘‘สาฎิกา’’ติ ปกรณวเสน คมฺมมานตฺถตฺตา วุตฺตาฯ กณฺฑุปฺปฎิจฺฉาทิกา จ โรควสฺสานปริยนฺตาฯ โรคา จ วสฺสานา จ มาสา โรควสฺสานา, เต ตทติกฺกเมน ปจฺจุทฺธริตพฺพตาย ปริยนฺตา ยาสนฺติ วิคฺคโหฯ
49. Idāni ‘‘etaṃ…pe… saṅghāṭi’’ntiādinā navannameva paccuddhāro vutto, na pana tesaṃ kālaparicchedoti taṃ dassetuṃ ‘‘rogā’’tiādi āraddhaṃ. Tattha devadatto dattoti nāmekadesenāpi nāmavohārato vassikasāṭikāva ‘‘sāṭikā’’ti pakaraṇavasena gammamānatthattā vuttā. Kaṇḍuppaṭicchādikā ca rogavassānapariyantā. Rogā ca vassānā ca māsā rogavassānā, te tadatikkamena paccuddharitabbatāya pariyantā yāsanti viggaho.
กิํ วุตฺตํ โหติ? วสฺสิกสาฎิกา วสฺสานมาสาติกฺกเม กตฺติกปุณฺณมาย เอว ปจฺจุทฺธริตพฺพาฯ ตถา กณฺฑุปฺปฎิจฺฉาทิกา อาพาเธสุ วูปสเนฺตสูติ วุตฺตํ โหติฯ ‘‘ปจฺจุทฺธริตฺวา วิกเปฺปตพฺพา’’ติ หิ อฎฺฐกถายํ (ปารา. อฎฺฐ. ๒.๔๖๙) วุตฺตํฯ เอตฺถ ปน เกจิ อาจริยา ‘‘ปจฺจุทฺธริตฺวาติ วสฺสิกสาฎิกภาวโต อปเนตฺวา’’ติ วทิํสุ, ตํ น ยุชฺชติฯ ปจฺจุทฺธารวินยกมฺมวิสเยเยว ปจฺจุทฺธาร-สทฺทสฺส ทิฎฺฐตฺตา, ‘‘จาตุมาสํ อธิฎฺฐาตุํ ตโต ปรํ วิกเปฺปตุ’’นฺติ (มหาว. ๓๕๘) ปาฬิวจนโต จฯ ‘‘จาตุมาสํ อธิฎฺฐาตุ’’นฺติ จ จตุนฺนํ มาสานํ อธิฎฺฐาเนน สห อจฺจนฺตสํโยโค ทสฺสิโตติ น เตน อธิฎฺฐานเภโท วิญฺญายติฯ เตเนว กุรุนฺทฎฺฐกถายมฺปิ ‘‘วสฺสานํ จาตุมาสํ อธิฎฺฐาตุํ, ตโต ปรํ วิกเปฺปตุ’’นฺติ (มหาว. ๓๕๘) วจนโต กตฺติกปุณฺณมาย เอว ปจฺจุทฺธริตฺวา เหมเนฺต วิกเปฺปตพฺพาติ วุตฺตํฯ ตสฺมา ‘‘วสฺสิกสาฎิกา วสฺสานมาสาติกฺกเมนาปิ กณฺฑุปฺปฎิจฺฉาทิ อาพาธวูปสเมนาปิ อธิฎฺฐานํ วิชหตี’’ติ (กงฺกา. อฎฺฐ. กถินสิกฺขาปทวณฺณนา) วุตฺตํฯ มาติกาฎฺฐกถายมฺปิ ปจฺจุทฺธารวเสนาปิ อธิฎฺฐานํ วิชหตีติ เอวมโตฺถ คเหตโพฺพฯ เอวญฺหิ สติ สพฺพฎฺฐกถาโย สเมนฺติ, ยุตฺติ จ อวิรุทฺธา โหนฺตีติฯ ตโต ปรนฺติ ปจฺจุทฺธารโต อุปริฯ วิกเปฺปยฺยาติ กณฺฑุปฺปฎิจฺฉาทิํ ปจฺจุทฺธริตฺวา วิกเปฺปยฺยฯ วสฺสิกสาฎิกํ กตฺติกปุณฺณมายํ ปจฺจุทฺธริตฺวา เหมนฺตสฺส ปฐมทิวเส วิกเปฺปยฺย, เอวํ อสติ ทุกฺกฎนฺติ อธิปฺปาโยฯ เสสาติ อปเร สตฺต จีวรานิ เสสาฯ นตฺถิ ปริยนฺตํ วุตฺตสทิโส กาลปริเจฺฉโท เอเตสนฺติ อปริยนฺติกาฯ
Kiṃ vuttaṃ hoti? Vassikasāṭikā vassānamāsātikkame kattikapuṇṇamāya eva paccuddharitabbā. Tathā kaṇḍuppaṭicchādikā ābādhesu vūpasantesūti vuttaṃ hoti. ‘‘Paccuddharitvā vikappetabbā’’ti hi aṭṭhakathāyaṃ (pārā. aṭṭha. 2.469) vuttaṃ. Ettha pana keci ācariyā ‘‘paccuddharitvāti vassikasāṭikabhāvato apanetvā’’ti vadiṃsu, taṃ na yujjati. Paccuddhāravinayakammavisayeyeva paccuddhāra-saddassa diṭṭhattā, ‘‘cātumāsaṃ adhiṭṭhātuṃ tato paraṃ vikappetu’’nti (mahāva. 358) pāḷivacanato ca. ‘‘Cātumāsaṃ adhiṭṭhātu’’nti ca catunnaṃ māsānaṃ adhiṭṭhānena saha accantasaṃyogo dassitoti na tena adhiṭṭhānabhedo viññāyati. Teneva kurundaṭṭhakathāyampi ‘‘vassānaṃ cātumāsaṃ adhiṭṭhātuṃ, tato paraṃ vikappetu’’nti (mahāva. 358) vacanato kattikapuṇṇamāya eva paccuddharitvā hemante vikappetabbāti vuttaṃ. Tasmā ‘‘vassikasāṭikā vassānamāsātikkamenāpi kaṇḍuppaṭicchādi ābādhavūpasamenāpi adhiṭṭhānaṃ vijahatī’’ti (kaṅkā. aṭṭha. kathinasikkhāpadavaṇṇanā) vuttaṃ. Mātikāṭṭhakathāyampi paccuddhāravasenāpi adhiṭṭhānaṃ vijahatīti evamattho gahetabbo. Evañhi sati sabbaṭṭhakathāyo samenti, yutti ca aviruddhā hontīti. Tato paranti paccuddhārato upari. Vikappeyyāti kaṇḍuppaṭicchādiṃ paccuddharitvā vikappeyya. Vassikasāṭikaṃ kattikapuṇṇamāyaṃ paccuddharitvā hemantassa paṭhamadivase vikappeyya, evaṃ asati dukkaṭanti adhippāyo. Sesāti apare satta cīvarāni sesā. Natthi pariyantaṃ vuttasadiso kālaparicchedo etesanti apariyantikā.
๕๐. อิทานิ ปจฺจตฺถรณาทิกํ จีวรจตุกฺกํ สทสาทิกํ วฎฺฎติ, นาปรนฺติ ทเสฺสตุํ ‘‘ปจฺจตฺถรณา’’ติอาทิมาหฯ ตตฺถ ปริกฺขาโร จ มุขปุญฺฉนญฺจาติ ทฺวโนฺทฯ ปริกฺขารมุขปุญฺฉนเมว โจฬกนฺติ กมฺมธารโยฯ ทฺวนฺทสมาสเนฺต สุยฺยมานตฺตา ปน โจฬก-สโทฺท ปริกฺขาร-สทฺทโต จ ปรํ ทฎฺฐโพฺพ ‘‘ปริกฺขารโจฬก’’นฺติฯ ตํ ปน สามญฺญโชตนาย วิเสเสปิ อวฎฺฐานโต ฐเปตฺวา ปญฺจ จีวรานิ ปริกฺขารโจฬนาเมนาธิฎฺฐิตานิ อวเสสํ ทฎฺฐพฺพํฯ ปจฺจตฺถรณญฺจ ปริกฺขารมุขปุญฺฉนโจฬกญฺจ ปจฺจตฺถรณ…เป.… โจฬกญฺจ นิสีทนญฺจาติ เอตํ จีวรจตุกฺกํ สทสมฺปิ อรตฺตมฺปิ อนาทิณฺณกปฺปมฺปิ ลพฺภนฺติ สมฺพโนฺธฯ สทสนฺติ สห ยาหิ กาหิจิ ทสาหีติ สทสํฯ สทสเก ลพฺภมาเน อทสมฺปิ ลพฺภเตวาติ สทสมฺปิ อทสมฺปิ ปุปฺผทสมฺปีติ เอตฺถ อโตฺถฯ ปิ-สโทฺท วุตฺตาวุตฺตสมฺปิณฺฑนโตฺถฯ อรตฺตนฺติ นีลปีตาทิรชเนน อรญฺชิตมฺปิฯ ปิ-สเทฺทน รญฺชิตนีลปีตาทิกมฺปิ อนาทิณฺณกปฺปมฺปีติฯ อาทิโณฺณ กโปฺป ยสฺส นตฺถีติ ตํ อนาทิณฺณกปฺปมฺปิฯ ปิ-สเทฺทน อาทิณฺณกปฺปมฺปิฯ
50. Idāni paccattharaṇādikaṃ cīvaracatukkaṃ sadasādikaṃ vaṭṭati, nāparanti dassetuṃ ‘‘paccattharaṇā’’tiādimāha. Tattha parikkhāro ca mukhapuñchanañcāti dvando. Parikkhāramukhapuñchanameva coḷakanti kammadhārayo. Dvandasamāsante suyyamānattā pana coḷaka-saddo parikkhāra-saddato ca paraṃ daṭṭhabbo ‘‘parikkhāracoḷaka’’nti. Taṃ pana sāmaññajotanāya visesepi avaṭṭhānato ṭhapetvā pañca cīvarāni parikkhāracoḷanāmenādhiṭṭhitāni avasesaṃ daṭṭhabbaṃ. Paccattharaṇañca parikkhāramukhapuñchanacoḷakañca paccattharaṇa…pe… coḷakañca nisīdanañcāti etaṃ cīvaracatukkaṃ sadasampi arattampi anādiṇṇakappampi labbhanti sambandho. Sadasanti saha yāhi kāhici dasāhīti sadasaṃ. Sadasake labbhamāne adasampi labbhatevāti sadasampi adasampi pupphadasampīti ettha attho. Pi-saddo vuttāvuttasampiṇḍanattho. Arattanti nīlapītādirajanena arañjitampi. Pi-saddena rañjitanīlapītādikampi anādiṇṇakappampīti. Ādiṇṇo kappo yassa natthīti taṃ anādiṇṇakappampi. Pi-saddena ādiṇṇakappampi.
นนุ จ ‘‘น ภิกฺขเว สพฺพนีลกานิ จีวรานิ ธาเรตพฺพานี’’ติอาทินา (มหาว. ๓๗๒) สพฺพนีลกสพฺพปีตกสพฺพโลหิตกจีวรานิ สามเญฺญน ปฎิกฺขิตฺตานีติ กถมิทํ จีวรจตุกฺกํ สทสาทิกํ วฎฺฎติ, กถญฺจ อนาทิณฺณกปฺปมฺปิ วฎฺฎตีติ? วุจฺจเต – ‘‘เตน โข ปน สมเยน อญฺญตโร ภิกฺขุ กุสจีรํ นิวาเสตฺวา’’ติอาทินา อุปฺปนฺนวตฺถูสุ (มหาว. ๓๗๑) ‘‘น ภิกฺขเว กุสจีรํ…เป.… ติตฺถิยทฺธโช ธาเรตโพฺพฯ โย ธาเรยฺย, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสา’’ติอาทินา (มหาว. ๓๗๑) อุปฺปนฺนวตฺถุวเสเนว นิวาสนปารุปนสงฺขาตธารณสฺส ปฎิกฺขิตฺตตฺตา จ ตเตฺถว อฎฺฐกถายญฺจ (มหาว. อฎฺฐ. ๓๗๒) ‘‘สพฺพนีลกาทีนิ รชนํ โธวิตฺวา ปุน รชิตฺวา ธาเรตพฺพานิ, น สกฺกา เจ โหนฺติ โธวิตุํ, ปจฺจตฺถรณานิ วา กาตพฺพานิ, ทุปฎฺฎจีวรสฺส วา มเชฺฌ ทาตพฺพานิ, อจฺฉินฺนทสทีฆทสานิ ทสา ฉินฺทิตฺวา ธาเรตพฺพานิ, กญฺจุกํ ลภิตฺวา ผาเลตฺวา รชิตฺวา ปริภุญฺชิตุํ วฎฺฎติ, เวฐเนปิ เอเสว นโย’’ติ นิวาสนปารุปนวเสเนว ธารณปริโภคานํ วุตฺตตฺตา จ ทุพฺพณฺณกรณสิกฺขาปเท (ปาจิ. อฎฺฐ. ๓๖๘) ‘‘ยํ นิวาเสตุํ วา ปารุปิตุํ วา สกฺกา โหติ, ตเทว จีวรนฺติ เวทิตพฺพ’’นฺติ ปญฺจนฺนํเยว กปฺปพินฺทุโน อนุญฺญาตตฺตา จ ติจีวรกณฺฑุปฺปฎิจฺฉาทิวสฺสิกสาฎิกสงฺขาตานิ ปญฺจ จีวรานิ กายปริหาริยาเนว อทสานิ อสพฺพนีลกาทีนิ กปฺปิยรชนรชิตานิ อาทิณฺณกปฺปานิเยว โหนฺติ, น นิยเมน นิวตฺติตานิ ปรานิ จตฺตารีติ จีวรจตุกฺกเมว สทสาทิกํ อนาทิณฺณกปฺปมฺปิ วฎฺฎตีติฯ
Nanu ca ‘‘na bhikkhave sabbanīlakāni cīvarāni dhāretabbānī’’tiādinā (mahāva. 372) sabbanīlakasabbapītakasabbalohitakacīvarāni sāmaññena paṭikkhittānīti kathamidaṃ cīvaracatukkaṃ sadasādikaṃ vaṭṭati, kathañca anādiṇṇakappampi vaṭṭatīti? Vuccate – ‘‘tena kho pana samayena aññataro bhikkhu kusacīraṃ nivāsetvā’’tiādinā uppannavatthūsu (mahāva. 371) ‘‘na bhikkhave kusacīraṃ…pe… titthiyaddhajo dhāretabbo. Yo dhāreyya, āpatti thullaccayassā’’tiādinā (mahāva. 371) uppannavatthuvaseneva nivāsanapārupanasaṅkhātadhāraṇassa paṭikkhittattā ca tattheva aṭṭhakathāyañca (mahāva. aṭṭha. 372) ‘‘sabbanīlakādīni rajanaṃ dhovitvā puna rajitvā dhāretabbāni, na sakkā ce honti dhovituṃ, paccattharaṇāni vā kātabbāni, dupaṭṭacīvarassa vā majjhe dātabbāni, acchinnadasadīghadasāni dasā chinditvā dhāretabbāni, kañcukaṃ labhitvā phāletvā rajitvā paribhuñjituṃ vaṭṭati, veṭhanepi eseva nayo’’ti nivāsanapārupanavaseneva dhāraṇaparibhogānaṃ vuttattā ca dubbaṇṇakaraṇasikkhāpade (pāci. aṭṭha. 368) ‘‘yaṃ nivāsetuṃ vā pārupituṃ vā sakkā hoti, tadeva cīvaranti veditabba’’nti pañcannaṃyeva kappabinduno anuññātattā ca ticīvarakaṇḍuppaṭicchādivassikasāṭikasaṅkhātāni pañca cīvarāni kāyaparihāriyāneva adasāni asabbanīlakādīni kappiyarajanarajitāni ādiṇṇakappāniyeva honti, na niyamena nivattitāni parāni cattārīti cīvaracatukkameva sadasādikaṃ anādiṇṇakappampi vaṭṭatīti.
๕๑. เสสจีวรปญฺจกํ อทสํเยว รชิตํเยว อาทิณฺณกปฺปํว กปฺปตีติ โยชนาฯ รชิตนฺติ กปฺปิยรชเนน รชิตํฯ นิสีทนสฺส ยถาวุเตฺตนเตฺถน สพฺพตฺถ อทสตฺถํ นิเสเธตุํ ‘‘สทสํว นิสีทน’’นฺติ วุตฺตํฯ สติ หิ สมฺภเว พฺยภิจาเร จ วิเสสนํ สาตฺถกํ โหติฯ
51. Sesacīvarapañcakaṃ adasaṃyeva rajitaṃyeva ādiṇṇakappaṃva kappatīti yojanā. Rajitanti kappiyarajanena rajitaṃ. Nisīdanassa yathāvuttenatthena sabbattha adasatthaṃ nisedhetuṃ ‘‘sadasaṃva nisīdana’’nti vuttaṃ. Sati hi sambhave byabhicāre ca visesanaṃ sātthakaṃ hoti.
๕๒. อิทานิ อนธิฎฺฐิเต อนิสฺสเฎฺฐ จ กา ปวตฺตีติ ตํ ทเสฺสตุํ ‘‘อนธิฎฺฐิต’’นฺติอาทิมาหฯ ตตฺถ อนธิฎฺฐิตนฺติ ติจีวราทิวเสน อนธิฎฺฐิตํฯ อนิสฺสฎฺฐนฺติ ยสฺส กสฺสจิ ทานลกฺขเณน อทินฺนํฯ วิกเปฺปตฺวา ปริภุญฺชเยติ วกฺขมานนเยน เอกพหุภาวํ, สนฺนิหิตาสนฺนิหิตภาวญฺจ สลฺลเกฺขตฺวา วิกเปฺปตฺวา ปจฺจุทฺธริตฺวา ปริภุเญฺชยฺยฯ วกฺขมานนเยน ปน วิญฺญายตีติ ‘‘ปจฺจุทฺธริตฺวา’’ติ น วุตฺตํฯ
52. Idāni anadhiṭṭhite anissaṭṭhe ca kā pavattīti taṃ dassetuṃ ‘‘anadhiṭṭhita’’ntiādimāha. Tattha anadhiṭṭhitanti ticīvarādivasena anadhiṭṭhitaṃ. Anissaṭṭhanti yassa kassaci dānalakkhaṇena adinnaṃ. Vikappetvā paribhuñjayeti vakkhamānanayena ekabahubhāvaṃ, sannihitāsannihitabhāvañca sallakkhetvā vikappetvā paccuddharitvā paribhuñjeyya. Vakkhamānanayena pana viññāyatīti ‘‘paccuddharitvā’’ti na vuttaṃ.
อิทานิ ‘‘วิกเปฺปตฺวา’’ติ วุตฺตํ กีทิสํ ตํ เหฎฺฐิมเนฺตน วิกปฺปิยนฺติ อาห ‘‘หตฺถา’’ติอาทิฯ ตตฺถ หโตฺถ ทีเฆน ยสฺส ตํ หตฺถทีฆํฯ ตโตติ ตสฺมา หตฺถโตฯ อุปโฑฺฒ หตฺถสฺส ทุติโย ภาโค วิทตฺถิสงฺขาโต วิตฺถาเรน ยสฺส ตํ อุปฑฺฒวิตฺถารํฯ
Idāni ‘‘vikappetvā’’ti vuttaṃ kīdisaṃ taṃ heṭṭhimantena vikappiyanti āha ‘‘hatthā’’tiādi. Tattha hattho dīghena yassa taṃ hatthadīghaṃ. Tatoti tasmā hatthato. Upaḍḍho hatthassa dutiyo bhāgo vidatthisaṅkhāto vitthārena yassa taṃ upaḍḍhavitthāraṃ.
๕๓. อิทานิ ยถาวุตฺตวิธานํ เตจีวริกเสฺสว วเสน, อปโร ปน อญฺญถา ปฎิปชฺชตีติ ตํ ทเสฺสตุํ ‘‘ติจีวรสฺสา’’ติอาทิมาห ฯ ตตฺถ นาเมนาธิฎฺฐิตานิ ตีณิ จีวรานิ เอตสฺสาติ ติจีวโรฯ ตสฺส วินยเตจีวริกสฺสาติ อโตฺถ, น ปริกฺขารโจฬนาเมน อธิฎฺฐิตจีวรสฺสฯ วินยเตจีวริกสฺส ปน อุโทสิตสิกฺขาปเท วุตฺตปริหาโร นตฺถิฯ ปริกฺขารโจฬิโยติ ปริกฺขารโจฬมสฺส อตฺถีติ ณิเกน ย-กาโรฯ สพฺพนฺติ สกลํ นววิธมฺปิ จีวรํฯ ตถา วตฺวาติ เอกพหุภาวํ, สนฺนิหิตาสนฺนิหิตภาวญฺจ ญตฺวา ‘‘อิมํ ปริกฺขารโจฬํ อธิฎฺฐามี’’ติอาทินา วตฺวาฯ อธิฎฺฐตีติ อธิฎฺฐาติฯ
53. Idāni yathāvuttavidhānaṃ tecīvarikasseva vasena, aparo pana aññathā paṭipajjatīti taṃ dassetuṃ ‘‘ticīvarassā’’tiādimāha . Tattha nāmenādhiṭṭhitāni tīṇi cīvarāni etassāti ticīvaro. Tassa vinayatecīvarikassāti attho, na parikkhāracoḷanāmena adhiṭṭhitacīvarassa. Vinayatecīvarikassa pana udositasikkhāpade vuttaparihāro natthi. Parikkhāracoḷiyoti parikkhāracoḷamassa atthīti ṇikena ya-kāro. Sabbanti sakalaṃ navavidhampi cīvaraṃ. Tathā vatvāti ekabahubhāvaṃ, sannihitāsannihitabhāvañca ñatvā ‘‘imaṃ parikkhāracoḷaṃ adhiṭṭhāmī’’tiādinā vatvā. Adhiṭṭhatīti adhiṭṭhāti.
๕๔. อธิฎฺฐิตจีวรํ ปน ปริภุญฺชโต กถํ อธิฎฺฐานํ วิชหตีติ ตํ ทเสฺสโนฺต ‘‘อเจฺฉทา’’ติอาทิมาหฯ ตตฺถ อเจฺฉโท จ วิสฺสชฺชนญฺจ คาโห จ วิพฺภโม จาติ ทฺวโนฺทฯ อเจฺฉโท นาม โจราทีหิ อจฺฉินฺทิตฺวา คหณํฯ วิสฺสชฺชนํ ปเรสํ ทานํฯ คาโห วิสฺสาเสน คหณํฯ วิพฺภโม สิกฺขํ อปฺปจฺจกฺขาย คิหิภาวูปคมนํฯ ตทาปิ ตสฺส อญฺญสฺส ทาเน วิย จีวรสฺส นิราลยภาเวน ปน ปริจฺจาโคติฯ ฎีกายํ ปน ภาทิโส ภิกฺขุเยวาติ อธิฎฺฐานํ น วิชหตีติ อตฺถํ วิกเปฺปตฺวา ภิกฺขุนิยา คิหิภาวูปคมนํ วุตฺตํ, ตํ น คเหตพฺพํ, การณํ ปเนตฺถ อมฺหากํ ครูหิเยว สารตฺถทีปนิยํ (สารตฺถ. ฎี. ๒.๔๖๙) ‘‘ภิกฺขุนิยา ‘หีนายาวตฺตเนนา’ติ วิเสเสตฺวา อวุตฺตตฺตา ภิกฺขุนิยา หิ คิหิภาวูปคมเน อธิฎฺฐานวิชหนํ วิสุํ วตฺตพฺพํ นตฺถิ ตสฺสา วิพฺภมเนเนว อสฺสมณีภาวโต’’ติ วุตฺตํฯ นนุ จ ภิกฺขุโน อปฺปจฺจกฺขาตสิกฺขสฺส คิหิภาวูปคมเนน อธิฎฺฐานวิชหเนน นิราลยภาโว การณภาเวน วุโตฺต, เอวํ สติ ปริวตฺตลิงฺคสฺส นตฺถิ นิราลยภาโวติ กถมสฺส อธิฎฺฐานํ วิชหตีติ? สจฺจเมตํ, ตถาปิ พุทฺธมตญฺญูหิ อฎฺฐกถาจริเยหิ อฎฺฐกถายํ (ปารา. อฎฺฐ. ๑.๖๙) ‘‘ยํ ปนสฺส ภิกฺขุภาเว อธิฎฺฐิตํ ติจีวรญฺจ ปโตฺต จ, ตํ อธิฎฺฐานํ วิชหติ, ปุน อธิฎฺฐาตพฺพ’’นฺติ วุตฺตตฺตา นเตฺถตฺถ โทโสติฯ
54. Adhiṭṭhitacīvaraṃ pana paribhuñjato kathaṃ adhiṭṭhānaṃ vijahatīti taṃ dassento ‘‘acchedā’’tiādimāha. Tattha acchedo ca vissajjanañca gāho ca vibbhamo cāti dvando. Acchedo nāma corādīhi acchinditvā gahaṇaṃ. Vissajjanaṃ paresaṃ dānaṃ. Gāho vissāsena gahaṇaṃ. Vibbhamo sikkhaṃ appaccakkhāya gihibhāvūpagamanaṃ. Tadāpi tassa aññassa dāne viya cīvarassa nirālayabhāvena pana pariccāgoti. Ṭīkāyaṃ pana bhādiso bhikkhuyevāti adhiṭṭhānaṃ na vijahatīti atthaṃ vikappetvā bhikkhuniyā gihibhāvūpagamanaṃ vuttaṃ, taṃ na gahetabbaṃ, kāraṇaṃ panettha amhākaṃ garūhiyeva sāratthadīpaniyaṃ (sārattha. ṭī. 2.469) ‘‘bhikkhuniyā ‘hīnāyāvattanenā’ti visesetvā avuttattā bhikkhuniyā hi gihibhāvūpagamane adhiṭṭhānavijahanaṃ visuṃ vattabbaṃ natthi tassā vibbhamaneneva assamaṇībhāvato’’ti vuttaṃ. Nanu ca bhikkhuno appaccakkhātasikkhassa gihibhāvūpagamanena adhiṭṭhānavijahanena nirālayabhāvo kāraṇabhāvena vutto, evaṃ sati parivattaliṅgassa natthi nirālayabhāvoti kathamassa adhiṭṭhānaṃ vijahatīti? Saccametaṃ, tathāpi buddhamataññūhi aṭṭhakathācariyehi aṭṭhakathāyaṃ (pārā. aṭṭha. 1.69) ‘‘yaṃ panassa bhikkhubhāve adhiṭṭhitaṃ ticīvarañca patto ca, taṃ adhiṭṭhānaṃ vijahati, puna adhiṭṭhātabba’’nti vuttattā natthettha dosoti.
มารณลิงฺคสิกฺขาติ อุตฺตรปทโลเปน อุปจาเรน วา ลิงฺคปริวตฺตนํ สิกฺขาปจฺจกฺขานญฺจ ‘‘ลิงฺคสิกฺขา’’ติ จ วุตฺตํฯ อิติ เอเต อฎฺฐ สเพฺพสุ นวสุ จีวเรสุ อธิฎฺฐานสฺส วิโยโค วิปฺปวาโส, ตสฺส การณา โหนฺตีติ ปาฐเสโสฯ ติจีวรสฺส ปน น เกวลํ อิเมเยว อฎฺฐ, วินิวิทฺธฉิทฺทญฺจ อธิฎฺฐานวิโยคการณนฺติ ลิงฺควจนญฺจ ปริวเตฺตตฺวา โยเชตพฺพํฯ ตตฺถ อพฺภนฺตเร เอกสฺสปิ ตนฺตุโน อภาเวน วินิวิทฺธํ วินิวิชฺฌิตฺวา คตฉิทฺทํกนิฎฺฐงฺคุลินขปิฎฺฐิปฺปมาณํ วินิวิทฺธฉิทฺทํฯ ตตฺถ สงฺฆาฎิยา จ อุตฺตราสงฺคสฺส จ ทีฆนฺตโต วิทตฺถิปฺปมาณสฺส, ติริยนฺตโต อฎฺฐงฺคุลปฺปมาณสฺส, อนฺตรวาสกสฺส ปน ทีฆนฺตโต วิทตฺถิปฺปมาณเสฺสว ติริยนฺตโต จตุรงฺคุลปฺปมาณสฺส ปเทสสฺส โอรโต ฉิทฺทํ อธิฎฺฐานํ ภินฺทติ, สูจิกมฺมํ กตฺวา ปุน อธิฎฺฐาตพฺพํฯ สูจิกมฺมํ กโรเนฺตน จ ฉินฺทิตฺวา ทุพฺพลฎฺฐานาปนยเนน ฉิทฺทํ อทเสฺสตฺวา กาตพฺพํฯ
Māraṇaliṅgasikkhāti uttarapadalopena upacārena vā liṅgaparivattanaṃ sikkhāpaccakkhānañca ‘‘liṅgasikkhā’’ti ca vuttaṃ. Iti ete aṭṭha sabbesu navasu cīvaresu adhiṭṭhānassa viyogo vippavāso, tassa kāraṇā hontīti pāṭhaseso. Ticīvarassa pana na kevalaṃ imeyeva aṭṭha, vinividdhachiddañca adhiṭṭhānaviyogakāraṇanti liṅgavacanañca parivattetvā yojetabbaṃ. Tattha abbhantare ekassapi tantuno abhāvena vinividdhaṃ vinivijjhitvā gatachiddaṃkaniṭṭhaṅgulinakhapiṭṭhippamāṇaṃ vinividdhachiddaṃ. Tattha saṅghāṭiyā ca uttarāsaṅgassa ca dīghantato vidatthippamāṇassa, tiriyantato aṭṭhaṅgulappamāṇassa, antaravāsakassa pana dīghantato vidatthippamāṇasseva tiriyantato caturaṅgulappamāṇassa padesassa orato chiddaṃ adhiṭṭhānaṃ bhindati, sūcikammaṃ katvā puna adhiṭṭhātabbaṃ. Sūcikammaṃ karontena ca chinditvā dubbalaṭṭhānāpanayanena chiddaṃ adassetvā kātabbaṃ.
๕๕. อิทานิ อกปฺปิยานิ ทเสฺสตุํ ‘‘กุสา’’ติอาทิ วุตฺตํฯ ตตฺถ กุสา จ วากา จ ผลกานิ จ, เตสํ จีรานิ กุส…เป.… จีรานิฯ ตตฺถ กุเสน คเนฺถตฺวา กตํ กุสจีรํฯ ตถา วาเกน คเนฺถตฺวา กตํ วากจีรํ, ตาปสานํ วกฺกลํฯ ผลกสณฺฐานานิ ผลกานิ สิพฺพิตฺวา กตํ ผลกจีรํฯ เกสวาลชนฺติ เกเสหิ จ วาเลหิ จ ชาตํ วายิตํ กมฺพลนฺติ สมฺพโนฺธฯ อุลูกปกฺขาชินกฺขิเปติ อุลูกานํ โกสิยสกุณานํ ปกฺขํ ปเกฺขน กตํ นิวาสนญฺจ อชินกฺขิปํ สโลมํ สขุรํ อชินมิคานํ จมฺมญฺจ ธารยโต ถุลฺลจฺจยนฺติ สมฺพโนฺธฯ
55. Idāni akappiyāni dassetuṃ ‘‘kusā’’tiādi vuttaṃ. Tattha kusā ca vākā ca phalakāni ca, tesaṃ cīrāni kusa…pe… cīrāni. Tattha kusena ganthetvā kataṃ kusacīraṃ. Tathā vākena ganthetvā kataṃ vākacīraṃ, tāpasānaṃ vakkalaṃ. Phalakasaṇṭhānāni phalakāni sibbitvā kataṃ phalakacīraṃ. Kesavālajanti kesehi ca vālehi ca jātaṃ vāyitaṃ kambalanti sambandho. Ulūkapakkhājinakkhipeti ulūkānaṃ kosiyasakuṇānaṃ pakkhaṃ pakkhena kataṃ nivāsanañca ajinakkhipaṃ salomaṃ sakhuraṃ ajinamigānaṃ cammañca dhārayato thullaccayanti sambandho.
๕๖. กทเลรกกฺกทุเสฺสสูติ กทลิโย จ เอรโก จ อโกฺก จ, เตสํ ทุสฺสานิ วตฺถานิ, เตสุ เจว มกจิวาเกหิ กเต โปตฺถเก จาปิ ทุกฺกฎํฯ นิมิตฺตเตฺถ เจตํ ภุมฺมํฯ กทลิทุสฺสาทิสเทฺทน ตํธารณมธิเปฺปตํ, ตสฺมา ตํธารณนิมิตฺตํ ทุกฺกฎํ โหตีติ อโตฺถฯ เอวํ สพฺพตฺถฯ ‘‘นีลโก จา’’ติอาทินา ทฺวโนฺทฯ สพฺพา นีลก…เป.… กณฺหกาติ กมฺมธารโยฯ นีลาทิวณฺณโยเคน วตฺถํ นีลาทิฯ นีลกํ อุมาปุปฺผวณฺณํฯ มเญฺชฎฺฐํ มเญฺชฎฺฐิกวณฺณํฯ ปีตํ กณิการปุปฺผวณฺณํฯ โลหิตํ ชยสุมนปุปฺผวณฺณํฯ กณฺหกํ อทฺทาริฎฺฐกวณฺณํฯ สพฺพ-สโทฺท ปเนตฺถ ปเจฺจกํ โยเชตโพฺพฯ
56.Kadalerakakkadussesūti kadaliyo ca erako ca akko ca, tesaṃ dussāni vatthāni, tesu ceva makacivākehi kate potthake cāpi dukkaṭaṃ. Nimittatthe cetaṃ bhummaṃ. Kadalidussādisaddena taṃdhāraṇamadhippetaṃ, tasmā taṃdhāraṇanimittaṃ dukkaṭaṃ hotīti attho. Evaṃ sabbattha. ‘‘Nīlako cā’’tiādinā dvando. Sabbā nīlaka…pe… kaṇhakāti kammadhārayo. Nīlādivaṇṇayogena vatthaṃ nīlādi. Nīlakaṃ umāpupphavaṇṇaṃ. Mañjeṭṭhaṃ mañjeṭṭhikavaṇṇaṃ. Pītaṃ kaṇikārapupphavaṇṇaṃ. Lohitaṃ jayasumanapupphavaṇṇaṃ. Kaṇhakaṃ addāriṭṭhakavaṇṇaṃ. Sabba-saddo panettha paccekaṃ yojetabbo.
๕๗. มหา…เป.… รเตฺตติ มหารโงฺค จ มหานามรโงฺค จ, เตหิ รเตฺตฯ เอตฺถาปิ ปุน สุยฺยมานํ สพฺพสทฺทมนุวตฺติยํ, ‘‘สพฺพมหารงฺครเตฺต’’ติอาทินา อโตฺถ เวทิตโพฺพฯ อิมินา จ อสพฺพนีลกาทิ กปฺปิยรชนรชิตํ ปริภุญฺชนฺตสฺส นตฺถิ โทโสติ ทีเปติฯ ตตฺถ มหารโงฺค สตปทิปิฎฺฐิวโณฺณฯ มหานามรโงฺค สมฺภินฺนวโณฺณ, โส ปน ปณฺฑุปลาสวโณฺณ โหติ, ปทุมวโณฺณติปิ วทนฺติฯ ติรีฎเกติ ตํ นามก รุกฺขตเจฯ อจฺฉินฺนทีฆทสเกติ สพฺพโส อจฺฉินฺนตฺตา อจฺฉินฺนา จ มเชฺฌ ฉินฺนตฺตา ทีฆา จ สา ทสา จ วตฺถโกฎิ ยสฺสาติ อญฺญปทตฺถสมาโสฯ ผลปุปฺผทเสติ อญฺญมญฺญํ สํสิพฺพิตฺวา กตา ผลสทิสา ทสา ‘‘ผลา’’ติ วุจฺจนฺติ, เกตกาทิ ปุปฺผสทิสานิ ‘‘ปุปฺผานี’’ติ จ, ผลา จ ปุปฺผา จ ทสา ยสฺส, ผลสทิเส ทเส, ปุปฺผสทิเส ทเส จาติ อโตฺถฯ เวฐเนติ สีสเวฐเนฯ ตถาติ อิมินา สพฺพนีลกาทีสุ ทุกฺกฎํ อติทิสติฯ สพฺพนฺติ กุสจีราทิกํ สกลํฯ อจฺฉินฺนํ จีวรํ ยสฺส โส ลภตีติ สมฺพโนฺธฯ
57.Mahā…pe… ratteti mahāraṅgo ca mahānāmaraṅgo ca, tehi ratte. Etthāpi puna suyyamānaṃ sabbasaddamanuvattiyaṃ, ‘‘sabbamahāraṅgaratte’’tiādinā attho veditabbo. Iminā ca asabbanīlakādi kappiyarajanarajitaṃ paribhuñjantassa natthi dosoti dīpeti. Tattha mahāraṅgo satapadipiṭṭhivaṇṇo. Mahānāmaraṅgo sambhinnavaṇṇo, so pana paṇḍupalāsavaṇṇo hoti, padumavaṇṇotipi vadanti. Tirīṭaketi taṃ nāmaka rukkhatace. Acchinnadīghadasaketi sabbaso acchinnattā acchinnā ca majjhe chinnattā dīghā ca sā dasā ca vatthakoṭi yassāti aññapadatthasamāso. Phalapupphadaseti aññamaññaṃ saṃsibbitvā katā phalasadisā dasā ‘‘phalā’’ti vuccanti, ketakādi pupphasadisāni ‘‘pupphānī’’ti ca, phalā ca pupphā ca dasā yassa, phalasadise dase, pupphasadise dase cāti attho. Veṭhaneti sīsaveṭhane. Tathāti iminā sabbanīlakādīsu dukkaṭaṃ atidisati. Sabbanti kusacīrādikaṃ sakalaṃ. Acchinnaṃ cīvaraṃ yassa so labhatīti sambandho.
จีวรนิเทฺทสวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Cīvaraniddesavaṇṇanā niṭṭhitā.