Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā |
๕. จีวรปฎิคฺคหณสิกฺขาปทวณฺณนา
5. Cīvarapaṭiggahaṇasikkhāpadavaṇṇanā
๕๐๘-๕๑๐. อปญฺญเตฺต สิกฺขาปเทติ เอตฺถ ‘‘คณมฺหา โอหียนสิกฺขาปเท’’ติ ลิขิตํฯ อรญฺญวาสีนิเสธนสิกฺขาปเท อปญฺญเตฺตติ เอเก, ‘‘ตํ น สุนฺทร’’นฺติ วทนฺติฯ วิหตฺถตายาติ อายาเสนฯ
508-510.Apaññatte sikkhāpadeti ettha ‘‘gaṇamhā ohīyanasikkhāpade’’ti likhitaṃ. Araññavāsīnisedhanasikkhāpade apaññatteti eke, ‘‘taṃ na sundara’’nti vadanti. Vihatthatāyāti āyāsena.
๕๑๒. อุปจาโรติ ทฺวาทสหโตฺถฯ มหาปจฺจริยํ, กุรุนฺทิยญฺจ วุตฺตนฺติ เอตฺถ รตฺติภาเค ธมฺมกถิกสฺส ภิกฺขุโน พหูสุ จีวเรสุ มหาชเนน ปสาททานวเสน ปฎิกฺขิเตฺตสุ ปุนทิวเส ‘‘อุปาสกานํ ปสาททานานิ เอตานี’’ติ สุทฺธจิเตฺตน คณฺหนฺตสฺส โทโส นตฺถิ, ‘‘ภิกฺขุนีหิปิ ทินฺนานิ อิธ สนฺตี’’ติ ญตฺวา คณฺหโต โทโสฯ ตํ อจิตฺตกภาเวนาติ ภิกฺขุนีหิ ทินฺนภาวํ ญตฺวา พหูสุ ตสฺสา จีวรสฺส อชานเนนาติ อโตฺถฯ ปํสุกูลํ อธิฎฺฐหิตฺวาติ ‘‘ภิกฺขุนีหิ นุ โข ทินฺนํ สิยา’’ติ อวิกเปฺปตฺวา ‘‘ปํสุกูลํ คณฺหามี’’ติ คณฺหนฺตสฺส วฎฺฎติฯ กุรุนฺทิอาทีสุ วุโตฺตปิ อโตฺถ อยเมว, เอกํ, ‘‘อจิตฺตกภาเวนา’’ติ วจเนน ‘‘ยถา ตถา คณฺหิตุํ วฎฺฎตี’’ติ อุปฺปโถว ปฎิเสธิโตติ อปเรฯ เอวํ ธมฺมสิริเตฺถโร น วทติ, อุชุกเมว วทตีติ ปปญฺจิตํฯ ตเสฺสว วิสโย, ตสฺสายํ อธิปฺปาโย – ยถา ‘‘ปํสุกูลํ คณฺหิสฺสตีติ ฐปิตํ กามํ ภิกฺขุนิสนฺตกมฺปิ อวิกเปฺปตฺวา ปํสุกูลํ อธิฎฺฐหิตฺวา คเหตุํ วฎฺฎตี’’ติ วุตฺตํ, ตถา ธมฺมกถิกสฺส ภิกฺขุนิยา ทินฺนมฺปิ อปญฺญายมานํ วฎฺฎตีติ, ตสฺมา ตํ วุตฺตํ มหาปจฺจริยํ, กุรุนฺทิยญฺจ อจิตฺตกภาเวน น สเมตีติฯ ปฎิเกฺขโป ปน วิกปฺปคฺคหเณ เอว รุหติฯ อญฺญถา ปุพฺพาปรํ วิรุชฺฌตีติฯ ตํ น ยุตฺตํ ปํสุกูเลน อสมานตฺตาฯ ปํสุกูลภาเวน สงฺการกูฎาทีสุ ฐปิตํ ภิกฺขุนีหิ, น ตํ ตสฺสา สนฺตกํ หุตฺวา ฐิตํ โหติฯ อสฺสามิกญฺหิ ปํสุกูลํ สพฺพสาธารณญฺจ, อโญฺญปิ คเหตุํ ลภติฯ อิทํ ปุเพฺพว ‘‘ภิกฺขุนีนํ จีวร’’นฺติ ชานิตฺวาปิ ปํสุกูลิโก คเหตุํ ลภติ ตทา ตสฺสา อสนฺตกตฺตาฯ ‘‘ปํสุกูลํ อธิฎฺฐหิตฺวา’’ติ สเลฺลขกฺกมนิทสฺสนตฺถํ วุตฺตํฯ มํสํ ททเนฺตน ตถาคเตน สเลฺลขโต กปฺปิยมฺปิ ภุตฺตํ นิสฺสคฺคิยํ จีวรมาห โย มํสํ กถนฺติ สยมาทิเสยฺยาติฯ
512.Upacāroti dvādasahattho. Mahāpaccariyaṃ, kurundiyañca vuttanti ettha rattibhāge dhammakathikassa bhikkhuno bahūsu cīvaresu mahājanena pasādadānavasena paṭikkhittesu punadivase ‘‘upāsakānaṃ pasādadānāni etānī’’ti suddhacittena gaṇhantassa doso natthi, ‘‘bhikkhunīhipi dinnāni idha santī’’ti ñatvā gaṇhato doso. Taṃ acittakabhāvenāti bhikkhunīhi dinnabhāvaṃ ñatvā bahūsu tassā cīvarassa ajānanenāti attho. Paṃsukūlaṃ adhiṭṭhahitvāti ‘‘bhikkhunīhi nu kho dinnaṃ siyā’’ti avikappetvā ‘‘paṃsukūlaṃ gaṇhāmī’’ti gaṇhantassa vaṭṭati. Kurundiādīsu vuttopi attho ayameva, ekaṃ, ‘‘acittakabhāvenā’’ti vacanena ‘‘yathā tathā gaṇhituṃ vaṭṭatī’’ti uppathova paṭisedhitoti apare. Evaṃ dhammasiritthero na vadati, ujukameva vadatīti papañcitaṃ. Tasseva visayo, tassāyaṃ adhippāyo – yathā ‘‘paṃsukūlaṃ gaṇhissatīti ṭhapitaṃ kāmaṃ bhikkhunisantakampi avikappetvā paṃsukūlaṃ adhiṭṭhahitvā gahetuṃ vaṭṭatī’’ti vuttaṃ, tathā dhammakathikassa bhikkhuniyā dinnampi apaññāyamānaṃ vaṭṭatīti, tasmā taṃ vuttaṃ mahāpaccariyaṃ, kurundiyañca acittakabhāvena na sametīti. Paṭikkhepo pana vikappaggahaṇe eva ruhati. Aññathā pubbāparaṃ virujjhatīti. Taṃ na yuttaṃ paṃsukūlena asamānattā. Paṃsukūlabhāvena saṅkārakūṭādīsu ṭhapitaṃ bhikkhunīhi, na taṃ tassā santakaṃ hutvā ṭhitaṃ hoti. Assāmikañhi paṃsukūlaṃ sabbasādhāraṇañca, aññopi gahetuṃ labhati. Idaṃ pubbeva ‘‘bhikkhunīnaṃ cīvara’’nti jānitvāpi paṃsukūliko gahetuṃ labhati tadā tassā asantakattā. ‘‘Paṃsukūlaṃ adhiṭṭhahitvā’’ti sallekhakkamanidassanatthaṃ vuttaṃ. Maṃsaṃ dadantena tathāgatena sallekhato kappiyampi bhuttaṃ nissaggiyaṃ cīvaramāha yo maṃsaṃ kathanti sayamādiseyyāti.
อจิตฺตกตฺตา กถํ ปํสุกูลํ วฎฺฎตีติ เจ? ตาย ตสฺส อทินฺนตฺตา, ภิกฺขุนาปิ ตโต ภิกฺขุนิโต อคฺคหิตตฺตา จฯ อสฺสามิกมฺปิ หิ ปํสุกูลํ อญฺญิสฺสา หตฺถโต คณฺหาติ, น วฎฺฎติ ‘‘อญฺญาติกาย ภิกฺขุนิยา จีวรํ ปฎิคฺคเณฺหยฺยา’’ติ วุตฺตลกฺขณสมฺภวโตฯ อญฺญาติกาย สนฺตกํ ญาติกาย หตฺถโต คณฺหาติ, วฎฺฎตีติ เอเกฯ ยถา สิกฺขมานสามเณราทีนํ หตฺถโต ปฎิคฺคณฺหนฺตสฺส อนาปตฺติ, ตถา กงฺขาวิตรณิยญฺจ ‘‘อญฺญาติกาย หตฺถโต คหณ’’นฺติ (กงขา. อฎฺฐ. จีวรปฺปฎิคฺคหณสิกฺขาปทวณฺณนา) องฺคํ วุตฺตํฯ ตถา ญาติกาย สนฺตกํ สิกฺขมานาย, สามเณริยา, อุปาสกสฺส, อุปาสิกาย, ภิกฺขุสฺส, สามเณรสฺส สนฺตกํ อญฺญาติกาย ภิกฺขุนิยา หตฺถโต คณฺหนฺตสฺส จ อนาปตฺติ เอวํ ยถาวุตฺตลกฺขณาสมฺภวโตติ เอเก, เตเนว ‘‘เอกโตอุปสมฺปนฺนาย จีวรํ ปฎิคฺคณฺหาตี’ติ อวตฺวา ‘หตฺถโต ปฎิคฺคณฺหาติ อญฺญตฺร ปาริวตฺตกา, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสา’ติ (ปารา. ๕๑๓) วุตฺตํ, ตสฺมา อญฺญาติกาย สนฺตกมฺปิ เอกโตอุปสมฺปนฺนาย หตฺถโต ปฎิคฺคณฺหนฺตสฺส ทุกฺกฎ’’นฺติ วทนฺติ, อุโภเปเต น สารโต ทฎฺฐพฺพา, การณํ ปริเยสิตพฺพํฯ
Acittakattā kathaṃ paṃsukūlaṃ vaṭṭatīti ce? Tāya tassa adinnattā, bhikkhunāpi tato bhikkhunito aggahitattā ca. Assāmikampi hi paṃsukūlaṃ aññissā hatthato gaṇhāti, na vaṭṭati ‘‘aññātikāya bhikkhuniyā cīvaraṃ paṭiggaṇheyyā’’ti vuttalakkhaṇasambhavato. Aññātikāya santakaṃ ñātikāya hatthato gaṇhāti, vaṭṭatīti eke. Yathā sikkhamānasāmaṇerādīnaṃ hatthato paṭiggaṇhantassa anāpatti, tathā kaṅkhāvitaraṇiyañca ‘‘aññātikāya hatthato gahaṇa’’nti (kaṅakhā. aṭṭha. cīvarappaṭiggahaṇasikkhāpadavaṇṇanā) aṅgaṃ vuttaṃ. Tathā ñātikāya santakaṃ sikkhamānāya, sāmaṇeriyā, upāsakassa, upāsikāya, bhikkhussa, sāmaṇerassa santakaṃ aññātikāya bhikkhuniyā hatthato gaṇhantassa ca anāpatti evaṃ yathāvuttalakkhaṇāsambhavatoti eke, teneva ‘‘ekatoupasampannāya cīvaraṃ paṭiggaṇhātī’ti avatvā ‘hatthato paṭiggaṇhāti aññatra pārivattakā, āpatti dukkaṭassā’ti (pārā. 513) vuttaṃ, tasmā aññātikāya santakampi ekatoupasampannāya hatthato paṭiggaṇhantassa dukkaṭa’’nti vadanti, ubhopete na sārato daṭṭhabbā, kāraṇaṃ pariyesitabbaṃ.
๕๑๔. โก ปน วาโท ปตฺตตฺถวิกาทีสูติ อนธิฎฺฐาตเพฺพสุ พหูสุ ปฎเลสุฯ เตเนวาห มาติกาฎฺฐกถายํ ‘‘ปตฺตตฺถวิกาทิมฺหิ อนธิฎฺฐาตพฺพปริกฺขาเร’’ติฯ อธิฎฺฐานุปเคสุ วา เตสํ ปริกฺขารตฺตา ภิสิฉวิยา วิย อนาปตฺติฯ กิํ ปฎปริสฺสาวนํ ปริกฺขารํ น โหตีติ? โหติ, กินฺตุ ตํ กิร นิวาสนาทิจีวรสณฺฐานตฺตา น วฎฺฎติฯ ตสฺมา อิธ นิวาสนาทิจีวรสาธนํ วิกปฺปนุปคปจฺฉิมํ จีวรํ นามฯ อนนฺตราตีเต นิวาสนปารุปนุปคเมวาติ สนฺนิฎฺฐานํฯ เอวํ สเนฺต กงฺขาวิตรณิยํ (กงฺขา. อฎฺฐ. จีวรปฺปฎิคฺคหณสิกฺขาปทวณฺณนา) กปฺปนุปคปจฺฉิมตา, ปาริวตฺตกาภาโว, อญฺญาติกาย หตฺถโต คหณนฺติ ตีเณว องฺคานิ อวตฺวา อปริกฺขารตาติ จตุตฺถมงฺคํ วตฺตพฺพนฺติ เจ? น วตฺตพฺพํ, อิมสฺมิํ สิกฺขาปเท ปตฺตตฺถวิกาทิปริกฺขารสฺส อจีวรสงฺขฺยตฺตาฯ ปฐมกถินาทีสุ วิกปฺปนุปคตา ปมาณํ, อิธ กายปริโภคุปคตาติฯ ‘‘อญฺญํ ปริกฺขาร’’นฺติ อุทฺธริตฺวา ‘‘ปตฺตตฺถวิกาทิํ ยํกิญฺจี’’ติ วุตฺตตฺตา วิกปฺปนุปคมฺปิ ปตฺตตฺถวิกาทิํ คณฺหิตุํ วฎฺฎติ, ‘‘ปฎปริสฺสาวนมฺปี’’ติ วุตฺตฎฺฐาเน จ ‘‘จีวรํ นาม วิกปฺปนุปคปจฺฉิม’’นฺติ วจนโต ปฎปริสฺสาวนํ จีวรเมว, น ปริกฺขารํฯ ‘‘โก ปน วาโทติ นิคมนวจนมฺปิ สาธก’’นฺติ เกจิ วทนฺติ, ปณฺณตฺติํ อชานนโต อจิตฺตกํ, น วตฺถุํ, ‘‘อญฺญาติกาย ภิกฺขุนิยา สนฺตกภาวาชานนโต, จีวรภาวาชานนโต จ อจิตฺตก’’นฺติ อนุคณฺฐิปเท วุตฺตํฯ
514.Ko pana vādo pattatthavikādīsūti anadhiṭṭhātabbesu bahūsu paṭalesu. Tenevāha mātikāṭṭhakathāyaṃ ‘‘pattatthavikādimhi anadhiṭṭhātabbaparikkhāre’’ti. Adhiṭṭhānupagesu vā tesaṃ parikkhārattā bhisichaviyā viya anāpatti. Kiṃ paṭaparissāvanaṃ parikkhāraṃ na hotīti? Hoti, kintu taṃ kira nivāsanādicīvarasaṇṭhānattā na vaṭṭati. Tasmā idha nivāsanādicīvarasādhanaṃ vikappanupagapacchimaṃ cīvaraṃ nāma. Anantarātīte nivāsanapārupanupagamevāti sanniṭṭhānaṃ. Evaṃ sante kaṅkhāvitaraṇiyaṃ (kaṅkhā. aṭṭha. cīvarappaṭiggahaṇasikkhāpadavaṇṇanā) kappanupagapacchimatā, pārivattakābhāvo, aññātikāya hatthato gahaṇanti tīṇeva aṅgāni avatvā aparikkhāratāti catutthamaṅgaṃ vattabbanti ce? Na vattabbaṃ, imasmiṃ sikkhāpade pattatthavikādiparikkhārassa acīvarasaṅkhyattā. Paṭhamakathinādīsu vikappanupagatā pamāṇaṃ, idha kāyaparibhogupagatāti. ‘‘Aññaṃ parikkhāra’’nti uddharitvā ‘‘pattatthavikādiṃ yaṃkiñcī’’ti vuttattā vikappanupagampi pattatthavikādiṃ gaṇhituṃ vaṭṭati, ‘‘paṭaparissāvanampī’’ti vuttaṭṭhāne ca ‘‘cīvaraṃ nāma vikappanupagapacchima’’nti vacanato paṭaparissāvanaṃ cīvarameva, na parikkhāraṃ. ‘‘Ko pana vādoti nigamanavacanampi sādhaka’’nti keci vadanti, paṇṇattiṃ ajānanato acittakaṃ, na vatthuṃ, ‘‘aññātikāya bhikkhuniyā santakabhāvājānanato, cīvarabhāvājānanato ca acittaka’’nti anugaṇṭhipade vuttaṃ.
จีวรปฎิคฺคหณสิกฺขาปทวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Cīvarapaṭiggahaṇasikkhāpadavaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / วินยปิฎก • Vinayapiṭaka / มหาวิภงฺค • Mahāvibhaṅga / ๕. จีวรปฎิคฺคหณสิกฺขาปทํ • 5. Cīvarapaṭiggahaṇasikkhāpadaṃ
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / วินยปิฎก (อฎฺฐกถา) • Vinayapiṭaka (aṭṭhakathā) / มหาวิภงฺค-อฎฺฐกถา • Mahāvibhaṅga-aṭṭhakathā / ๕. จีวรปฎิคฺคหณสิกฺขาปทวณฺณนา • 5. Cīvarapaṭiggahaṇasikkhāpadavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā / ๕. จีวรปฎิคฺคหณสิกฺขาปทวณฺณนา • 5. Cīvarapaṭiggahaṇasikkhāpadavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā / ๕. จีวรปฎิคฺคหณสิกฺขาปทวณฺณนา • 5. Cīvarapaṭiggahaṇasikkhāpadavaṇṇanā