Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย • Aṅguttaranikāya |
๗. โจทนาสุตฺตํ
7. Codanāsuttaṃ
๑๖๗. ตตฺร โข อายสฺมา สาริปุโตฺต ภิกฺขู อามเนฺตสิ – ‘‘โจทเกน, อาวุโส, ภิกฺขุนา ปรํ โจเทตุกาเมน ปญฺจ ธเมฺม อชฺฌตฺตํ อุปฎฺฐาเปตฺวา ปโร โจเทตโพฺพ’’ฯ
167. Tatra kho āyasmā sāriputto bhikkhū āmantesi – ‘‘codakena, āvuso, bhikkhunā paraṃ codetukāmena pañca dhamme ajjhattaṃ upaṭṭhāpetvā paro codetabbo’’.
‘‘อิธาหํ , อาวุโส, เอกจฺจํ ปุคฺคลํ ปสฺสามิ อกาเลน โจทิยมานํ โน กาเลน กุปิตํ, อภูเตน โจทิยมานํ โน ภูเตน กุปิตํ, ผรุเสน โจทิยมานํ โน สเณฺหน กุปิตํ, อนตฺถสํหิเตน โจทิยมานํ โน อตฺถสํหิเตน กุปิตํ, โทสนฺตเรน โจทิยมานํ โน เมตฺตจิเตฺตน กุปิตํฯ
‘‘Idhāhaṃ , āvuso, ekaccaṃ puggalaṃ passāmi akālena codiyamānaṃ no kālena kupitaṃ, abhūtena codiyamānaṃ no bhūtena kupitaṃ, pharusena codiyamānaṃ no saṇhena kupitaṃ, anatthasaṃhitena codiyamānaṃ no atthasaṃhitena kupitaṃ, dosantarena codiyamānaṃ no mettacittena kupitaṃ.
‘‘อธมฺมจุทิตสฺส, อาวุโส, ภิกฺขุโน ปญฺจหากาเรหิ อวิปฺปฎิสาโร อุปทหาตโพฺพ 5 – ‘อกาเลนายสฺมา จุทิโต โน กาเลน , อลํ เต อวิปฺปฎิสาราย; อภูเตนายสฺมา จุทิโต โน ภูเตน , อลํ เต อวิปฺปฎิสาราย; ผรุเสนายสฺมา จุทิโต โน สเณฺหน, อลํ เต อวิปฺปฎิสาราย ; อนตฺถสํหิเตนายสฺมา จุทิโต โน อตฺถสํหิเตน, อลํ เต อวิปฺปฎิสาราย; โทสนฺตเรนายสฺมา จุทิโต โน เมตฺตจิเตฺตน, อลํ เต อวิปฺปฎิสารายา’ติฯ อธมฺมจุทิตสฺส, อาวุโส, ภิกฺขุโน อิเมหิ ปญฺจหากาเรหิ อวิปฺปฎิสาโร อุปทหาตโพฺพฯ
‘‘Adhammacuditassa, āvuso, bhikkhuno pañcahākārehi avippaṭisāro upadahātabbo 6 – ‘akālenāyasmā cudito no kālena , alaṃ te avippaṭisārāya; abhūtenāyasmā cudito no bhūtena , alaṃ te avippaṭisārāya; pharusenāyasmā cudito no saṇhena, alaṃ te avippaṭisārāya ; anatthasaṃhitenāyasmā cudito no atthasaṃhitena, alaṃ te avippaṭisārāya; dosantarenāyasmā cudito no mettacittena, alaṃ te avippaṭisārāyā’ti. Adhammacuditassa, āvuso, bhikkhuno imehi pañcahākārehi avippaṭisāro upadahātabbo.
‘‘อธมฺมโจทกสฺส, อาวุโส, ภิกฺขุโน ปญฺจหากาเรหิ วิปฺปฎิสาโร อุปทหาตโพฺพ – ‘อกาเลน เต, อาวุโส, โจทิโต 7 โน กาเลน, อลํ เต วิปฺปฎิสาราย; อภูเตน เต, อาวุโส, โจทิโต โน ภูเตน, อลํ เต วิปฺปฎิสาราย; ผรุเสน เต, อาวุโส, โจทิโต โน สเณฺหน, อลํ เต วิปฺปฎิสาราย; อนตฺถสํหิเตน เต, อาวุโส, โจทิโต โน อตฺถสํหิเตน, อลํ เต วิปฺปฎิสาราย; โทสนฺตเรน เต, อาวุโส, โจทิโต โน เมตฺตจิเตฺตน, อลํ เต วิปฺปฎิสารายา’ติฯ อธมฺมโจทกสฺส, อาวุโส, ภิกฺขุโน อิเมหิ ปญฺจหากาเรหิ วิปฺปฎิสาโร อุปทหาตโพฺพฯ ตํ กิสฺส เหตุ? ยถา น อโญฺญปิ ภิกฺขุ อภูเตน โจเทตพฺพํ มเญฺญยฺยาติฯ
‘‘Adhammacodakassa, āvuso, bhikkhuno pañcahākārehi vippaṭisāro upadahātabbo – ‘akālena te, āvuso, codito 8 no kālena, alaṃ te vippaṭisārāya; abhūtena te, āvuso, codito no bhūtena, alaṃ te vippaṭisārāya; pharusena te, āvuso, codito no saṇhena, alaṃ te vippaṭisārāya; anatthasaṃhitena te, āvuso, codito no atthasaṃhitena, alaṃ te vippaṭisārāya; dosantarena te, āvuso, codito no mettacittena, alaṃ te vippaṭisārāyā’ti. Adhammacodakassa, āvuso, bhikkhuno imehi pañcahākārehi vippaṭisāro upadahātabbo. Taṃ kissa hetu? Yathā na aññopi bhikkhu abhūtena codetabbaṃ maññeyyāti.
‘‘อิธ ปนาหํ, อาวุโส, เอกจฺจํ ปุคฺคลํ ปสฺสามิ กาเลน โจทิยมานํ โน อกาเลน กุปิตํ, ภูเตน โจทิยมานํ โน อภูเตน กุปิตํ, สเณฺหน โจทิยมานํ โน ผรุเสน กุปิตํ, อตฺถสํหิเตน โจทิยมานํ โน อนตฺถสํหิเตน กุปิตํ, เมตฺตจิเตฺตน โจทิยมานํ โน โทสนฺตเรน กุปิตํฯ
‘‘Idha panāhaṃ, āvuso, ekaccaṃ puggalaṃ passāmi kālena codiyamānaṃ no akālena kupitaṃ, bhūtena codiyamānaṃ no abhūtena kupitaṃ, saṇhena codiyamānaṃ no pharusena kupitaṃ, atthasaṃhitena codiyamānaṃ no anatthasaṃhitena kupitaṃ, mettacittena codiyamānaṃ no dosantarena kupitaṃ.
‘‘ธมฺมจุทิตสฺส, อาวุโส, ภิกฺขุโน ปญฺจหากาเรหิ วิปฺปฎิสาโร อุปทหาตโพฺพ – ‘กาเลนายสฺมา จุทิโต โน อกาเลน, อลํ เต วิปฺปฎิสาราย; ภูเตนายสฺมา จุทิโต โน อภูเตน, อลํ เต วิปฺปฎิสาราย; สเณฺหนายสฺมา จุทิโต โน ผรุเสน, อลํ เต วิปฺปฎิสาราย; อตฺถสํหิเตนายสฺมา จุทิโต โน อนตฺถสํหิเตน, อลํ เต วิปฺปฎิสาราย; เมตฺตจิเตฺตนายสฺมา จุทิโต โน โทสนฺตเรน, อลํ เต วิปฺปฎิสารายา’ติฯ ธมฺมจุทิตสฺส , อาวุโส, ภิกฺขุโน อิเมหิ ปญฺจหากาเรหิ วิปฺปฎิสาโร อุปทหาตโพฺพฯ
‘‘Dhammacuditassa, āvuso, bhikkhuno pañcahākārehi vippaṭisāro upadahātabbo – ‘kālenāyasmā cudito no akālena, alaṃ te vippaṭisārāya; bhūtenāyasmā cudito no abhūtena, alaṃ te vippaṭisārāya; saṇhenāyasmā cudito no pharusena, alaṃ te vippaṭisārāya; atthasaṃhitenāyasmā cudito no anatthasaṃhitena, alaṃ te vippaṭisārāya; mettacittenāyasmā cudito no dosantarena, alaṃ te vippaṭisārāyā’ti. Dhammacuditassa , āvuso, bhikkhuno imehi pañcahākārehi vippaṭisāro upadahātabbo.
‘‘ธมฺมโจทกสฺส, อาวุโส, ภิกฺขุโน ปญฺจหากาเรหิ อวิปฺปฎิสาโร อุปทหาตโพฺพ – ‘กาเลน เต, อาวุโส, โจทิโต โน อกาเลน, อลํ เต อวิปฺปฎิสาราย; ภูเตน เต, อาวุโส, โจทิโต โน อภูเตน, อลํ เต อวิปฺปฎิสาราย; สเณฺหน เต, อาวุโส, โจทิโต โน ผรุเสน, อลํ เต อวิปฺปฎิสาราย; อตฺถสํหิเตน เต, อาวุโส, โจทิโต โน อนตฺถสํหิเตน, อลํ เต อวิปฺปฎิสาราย; เมตฺตจิเตฺตน เต, อาวุโส, โจทิโต โน โทสนฺตเรน, อลํ เต อวิปฺปฎิสารายา’ติฯ ธมฺมโจทกสฺส, อาวุโส, ภิกฺขุโน อิเมหิ ปญฺจหากาเรหิ อวิปฺปฎิสาโร อุปทหาตโพฺพฯ ตํ กิสฺส เหตุ? ยถา อโญฺญปิ ภิกฺขุ ภูเตน โจทิตพฺพํ มเญฺญยฺยาติฯ
‘‘Dhammacodakassa, āvuso, bhikkhuno pañcahākārehi avippaṭisāro upadahātabbo – ‘kālena te, āvuso, codito no akālena, alaṃ te avippaṭisārāya; bhūtena te, āvuso, codito no abhūtena, alaṃ te avippaṭisārāya; saṇhena te, āvuso, codito no pharusena, alaṃ te avippaṭisārāya; atthasaṃhitena te, āvuso, codito no anatthasaṃhitena, alaṃ te avippaṭisārāya; mettacittena te, āvuso, codito no dosantarena, alaṃ te avippaṭisārāyā’ti. Dhammacodakassa, āvuso, bhikkhuno imehi pañcahākārehi avippaṭisāro upadahātabbo. Taṃ kissa hetu? Yathā aññopi bhikkhu bhūtena coditabbaṃ maññeyyāti.
‘‘จุทิเตน, อาวุโส, ปุคฺคเลน ทฺวีสุ ธเมฺมสุ ปติฎฺฐาตพฺพํ – สเจฺจ จ, อกุเปฺป จฯ มํ เจปิ 9, อาวุโส, ปเร โจเทยฺยุํ กาเลน วา อกาเลน วา ภูเตน วา อภูเตน วา สเณฺหน วา ผรุเสน วา อตฺถสํหิเตน วา อนตฺถสํหิเตน วา เมตฺตจิตฺตา 10 วา โทสนฺตรา 11 วา, อหมฺปิ ทฺวีสุเยว ธเมฺมสุ ปติฎฺฐเหยฺยํ – สเจฺจ จ, อกุเปฺป จฯ สเจ ชาเนยฺยํ – ‘อเตฺถโส มยิ ธโมฺม’ติ, ‘อตฺถี’ติ นํ วเทยฺยํ – ‘สํวิชฺชเตโส มยิ ธโมฺม’ติฯ สเจ ชาเนยฺยํ – ‘นเตฺถโส มยิ ธโมฺม’ติ, ‘นตฺถี’ติ นํ วเทยฺยํ – ‘เนโส ธโมฺม มยิ สํวิชฺชตี’ติฯ
‘‘Cuditena, āvuso, puggalena dvīsu dhammesu patiṭṭhātabbaṃ – sacce ca, akuppe ca. Maṃ cepi 12, āvuso, pare codeyyuṃ kālena vā akālena vā bhūtena vā abhūtena vā saṇhena vā pharusena vā atthasaṃhitena vā anatthasaṃhitena vā mettacittā 13 vā dosantarā 14 vā, ahampi dvīsuyeva dhammesu patiṭṭhaheyyaṃ – sacce ca, akuppe ca. Sace jāneyyaṃ – ‘attheso mayi dhammo’ti, ‘atthī’ti naṃ vadeyyaṃ – ‘saṃvijjateso mayi dhammo’ti. Sace jāneyyaṃ – ‘nattheso mayi dhammo’ti, ‘natthī’ti naṃ vadeyyaṃ – ‘neso dhammo mayi saṃvijjatī’ti.
‘‘เอวมฺปิ โข เต 15, สาริปุตฺต, วุจฺจมานา อถ จ ปนิเธกเจฺจ โมฆปุริสา น ปทกฺขิณํ คณฺหนฺตี’’ติฯ
‘‘Evampi kho te 16, sāriputta, vuccamānā atha ca panidhekacce moghapurisā na padakkhiṇaṃ gaṇhantī’’ti.
‘‘เย เต, ภเนฺต, ปุคฺคลา อสฺสทฺธา ชีวิกตฺถา น สทฺธา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิตา สฐา มายาวิโน เกตพิโน 17 อุทฺธตา อุนฺนฬา จปลา มุขรา วิกิณฺณวาจา อินฺทฺริเยสุ อคุตฺตทฺวารา โภชเน อมตฺตญฺญุโน ชาคริยํ อนนุยุตฺตา สามเญฺญ อนเปกฺขวโนฺต สิกฺขาย น ติพฺพคารวา พาหุลิกา สาถลิกา โอกฺกมเน ปุพฺพงฺคมา ปวิเวเก นิกฺขิตฺตธุรา กุสีตา หีนวีริยา มุฎฺฐสฺสติโน อสมฺปชานา อสมาหิตา วิพฺภนฺตจิตฺตา ทุปฺปญฺญา เอฬมูคา, เต มยา เอวํ วุจฺจมานา น ปทกฺขิณํ คณฺหนฺติฯ
‘‘Ye te, bhante, puggalā assaddhā jīvikatthā na saddhā agārasmā anagāriyaṃ pabbajitā saṭhā māyāvino ketabino 18 uddhatā unnaḷā capalā mukharā vikiṇṇavācā indriyesu aguttadvārā bhojane amattaññuno jāgariyaṃ ananuyuttā sāmaññe anapekkhavanto sikkhāya na tibbagāravā bāhulikā sāthalikā okkamane pubbaṅgamā paviveke nikkhittadhurā kusītā hīnavīriyā muṭṭhassatino asampajānā asamāhitā vibbhantacittā duppaññā eḷamūgā, te mayā evaṃ vuccamānā na padakkhiṇaṃ gaṇhanti.
‘‘เย ปน เต, ภเนฺต, กุลปุตฺตา สทฺธา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิตา อสฐา อมายาวิโน อเกตพิโน อนุทฺธตา อนุนฺนฬา อจปลา อมุขรา อวิกิณฺณวาจา อินฺทฺริเยสุ คุตฺตทฺวารา โภชเน มตฺตญฺญุโน ชาคริยํ อนุยุตฺตา สามเญฺญ อเปกฺขวโนฺต สิกฺขาย ติพฺพคารวา น พาหุลิกา น สาถลิกา โอกฺกมเน นิกฺขิตฺตธุรา ปวิเวเก ปุพฺพงฺคมา อารทฺธวีริยา ปหิตตฺตา อุปฎฺฐิตสฺสติโน สมฺปชานา สมาหิตา เอกคฺคจิตฺตา ปญฺญวโนฺต อเนฬมูคา, เต มยา เอวํ วุจฺจมานา ปทกฺขิณํ คณฺหนฺตีติฯ
‘‘Ye pana te, bhante, kulaputtā saddhā agārasmā anagāriyaṃ pabbajitā asaṭhā amāyāvino aketabino anuddhatā anunnaḷā acapalā amukharā avikiṇṇavācā indriyesu guttadvārā bhojane mattaññuno jāgariyaṃ anuyuttā sāmaññe apekkhavanto sikkhāya tibbagāravā na bāhulikā na sāthalikā okkamane nikkhittadhurā paviveke pubbaṅgamā āraddhavīriyā pahitattā upaṭṭhitassatino sampajānā samāhitā ekaggacittā paññavanto aneḷamūgā, te mayā evaṃ vuccamānā padakkhiṇaṃ gaṇhantīti.
‘‘เย เต, สาริปุตฺต, ปุคฺคลา อสฺสทฺธา ชีวิกตฺถา น สทฺธา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิตา สฐา มายาวิโน เกตพิโน อุทฺธตา อุนฺนฬา จปลา มุขรา วิกิณฺณวาจา อินฺทฺริเยสุ อคุตฺตทฺวารา โภชเน อมตฺตญฺญุโน ชาคริยํ อนนุยุตฺตา สามเญฺญ อนเปกฺขวโนฺต สิกฺขาย น ติพฺพคารวา พาหุลิกา สาถลิกา โอกฺกมเน ปุพฺพงฺคมา ปวิเวเก นิกฺขิตฺตธุรา กุสีตา หีนวีริยา มุฎฺฐสฺสติโน อสมฺปชานา อสมาหิตา วิพฺภนฺตจิตฺตา ทุปฺปญฺญา เอฬมูคา, ติฎฺฐนฺตุ เตฯ
‘‘Ye te, sāriputta, puggalā assaddhā jīvikatthā na saddhā agārasmā anagāriyaṃ pabbajitā saṭhā māyāvino ketabino uddhatā unnaḷā capalā mukharā vikiṇṇavācā indriyesu aguttadvārā bhojane amattaññuno jāgariyaṃ ananuyuttā sāmaññe anapekkhavanto sikkhāya na tibbagāravā bāhulikā sāthalikā okkamane pubbaṅgamā paviveke nikkhittadhurā kusītā hīnavīriyā muṭṭhassatino asampajānā asamāhitā vibbhantacittā duppaññā eḷamūgā, tiṭṭhantu te.
‘‘เย ปน, เต สาริปุตฺต, กุลปุตฺตา สทฺธา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิตา อสฐา อมายาวิโน อเกตพิโน อนุทฺธตา อนุนฺนฬา อจปลา อมุขรา อวิกิณฺณวาจา อินฺทฺริเยสุ คุตฺตทฺวารา โภชเน มตฺตญฺญุโน ชาคริยํ อนุยุตฺตา สามเญฺญ อเปกฺขวโนฺต สิกฺขาย ติพฺพคารวา น พาหุลิกา น สาถลิกา โอกฺกมเน นิกฺขิตฺตธุรา ปวิเวเก ปุพฺพงฺคมา อารทฺธวีริยา ปหิตตฺตา อุปฎฺฐิตสฺสติโน สมฺปชานา สมาหิตา เอกคฺคจิตฺตา ปญฺญวโนฺต อเนฬมูคา, เต ตฺวํ, สาริปุตฺต, วเทยฺยาสิ ฯ โอวท, สาริปุตฺต , สพฺรหฺมจารี; อนุสาส, สาริปุตฺต, สพฺรหฺมจารี – ‘อสทฺธมฺมา วุฎฺฐาเปตฺวา สทฺธเมฺม ปติฎฺฐาเปสฺสามิ สพฺรหฺมจารี’ติฯ เอวญฺหิ เต, สาริปุตฺต, สิกฺขิตพฺพ’’นฺติฯ สตฺตมํฯ
‘‘Ye pana, te sāriputta, kulaputtā saddhā agārasmā anagāriyaṃ pabbajitā asaṭhā amāyāvino aketabino anuddhatā anunnaḷā acapalā amukharā avikiṇṇavācā indriyesu guttadvārā bhojane mattaññuno jāgariyaṃ anuyuttā sāmaññe apekkhavanto sikkhāya tibbagāravā na bāhulikā na sāthalikā okkamane nikkhittadhurā paviveke pubbaṅgamā āraddhavīriyā pahitattā upaṭṭhitassatino sampajānā samāhitā ekaggacittā paññavanto aneḷamūgā, te tvaṃ, sāriputta, vadeyyāsi . Ovada, sāriputta , sabrahmacārī; anusāsa, sāriputta, sabrahmacārī – ‘asaddhammā vuṭṭhāpetvā saddhamme patiṭṭhāpessāmi sabrahmacārī’ti. Evañhi te, sāriputta, sikkhitabba’’nti. Sattamaṃ.
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / องฺคุตฺตรนิกาย (อฎฺฐกถา) • Aṅguttaranikāya (aṭṭhakathā) / ๗. โจทนาสุตฺตวณฺณนา • 7. Codanāsuttavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / องฺคุตฺตรนิกาย (ฎีกา) • Aṅguttaranikāya (ṭīkā) / ๗-๙. โจทนาสุตฺตาทิวณฺณนา • 7-9. Codanāsuttādivaṇṇanā