Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / มชฺฌิมนิกาย • Majjhimanikāya

    ๑๐. จูฬอสฺสปุรสุตฺตํ

    10. Cūḷaassapurasuttaṃ

    ๔๓๕. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา อเงฺคสุ วิหรติ อสฺสปุรํ นาม องฺคานํ นิคโมฯ ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามเนฺตสิ – ‘‘ภิกฺขโว’’ติฯ ‘‘ภทเนฺต’’ติ เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจโสฺสสุํฯ ภควา เอตทโวจ – ‘‘สมณา สมณาติ โว, ภิกฺขเว, ชโน สญฺชานาติฯ ตุเมฺห จ ปน ‘เก ตุเมฺห’ติ ปุฎฺฐา สมานา ‘สมณามฺหา’ติ ปฎิชานาถฯ เตสํ โว, ภิกฺขเว, เอวํสมญฺญานํ สตํ เอวํปฎิญฺญานํ สตํ – ‘ยา สมณสามีจิปฺปฎิปทา ตํ ปฎิปชฺชิสฺสาม; เอวํ โน อยํ อมฺหากํ สมญฺญา จ สจฺจา ภวิสฺสติ ปฎิญฺญา จ ภูตา; เยสญฺจ มยํ จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปฺปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารํ ปริภุญฺชาม, เตสํ เต การา อเมฺหสุ มหปฺผลา ภวิสฺสนฺติ มหานิสํสา, อมฺหากเญฺจวายํ ปพฺพชฺชา อวญฺฌา ภวิสฺสติ สผลา สอุทฺรยา’ติฯ เอวญฺหิ โว, ภิกฺขเว, สิกฺขิตพฺพํฯ

    435. Evaṃ me sutaṃ – ekaṃ samayaṃ bhagavā aṅgesu viharati assapuraṃ nāma aṅgānaṃ nigamo. Tatra kho bhagavā bhikkhū āmantesi – ‘‘bhikkhavo’’ti. ‘‘Bhadante’’ti te bhikkhū bhagavato paccassosuṃ. Bhagavā etadavoca – ‘‘samaṇā samaṇāti vo, bhikkhave, jano sañjānāti. Tumhe ca pana ‘ke tumhe’ti puṭṭhā samānā ‘samaṇāmhā’ti paṭijānātha. Tesaṃ vo, bhikkhave, evaṃsamaññānaṃ sataṃ evaṃpaṭiññānaṃ sataṃ – ‘yā samaṇasāmīcippaṭipadā taṃ paṭipajjissāma; evaṃ no ayaṃ amhākaṃ samaññā ca saccā bhavissati paṭiññā ca bhūtā; yesañca mayaṃ cīvarapiṇḍapātasenāsanagilānappaccayabhesajjaparikkhāraṃ paribhuñjāma, tesaṃ te kārā amhesu mahapphalā bhavissanti mahānisaṃsā, amhākañcevāyaṃ pabbajjā avañjhā bhavissati saphalā saudrayā’ti. Evañhi vo, bhikkhave, sikkhitabbaṃ.

    ๔๓๖. ‘‘กถญฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ น สมณสามีจิปฺปฎิปทํ ปฎิปโนฺน โหติ? ยสฺส กสฺสจิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน อภิชฺฌาลุสฺส อภิชฺฌา อปฺปหีนา โหติ, พฺยาปนฺนจิตฺตสฺส พฺยาปาโท อปฺปหีโน โหติ, โกธนสฺส โกโธ อปฺปหีโน โหติ, อุปนาหิสฺส อุปนาโห อปฺปหีโน โหติ, มกฺขิสฺส มโกฺข อปฺปหีโน โหติ, ปฬาสิสฺส ปฬาโส อปฺปหีโน โหติ, อิสฺสุกิสฺส อิสฺสา อปฺปหีนา โหติ, มจฺฉริสฺส มจฺฉริยํ อปฺปหีนํ โหติ , สฐสฺส สาเฐยฺยํ อปฺปหีนํ โหติ, มายาวิสฺส มายา อปฺปหีนา โหติ, ปาปิจฺฉสฺส ปาปิกา อิจฺฉา อปฺปหีนา โหติ, มิจฺฉาทิฎฺฐิกสฺส มิจฺฉาทิฎฺฐิ อปฺปหีนา โหติ – อิเมสํ โข อหํ, ภิกฺขเว, สมณมลานํ สมณโทสานํ สมณกสฎานํ อาปายิกานํ ฐานานํ ทุคฺคติเวทนิยานํ อปฺปหานา ‘น สมณสามีจิปฺปฎิปทํ ปฎิปโนฺน’ติ วทามิฯ เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, มตชํ นาม อาวุธชาตํ อุภโตธารํ ปีตนิสิตํฯ ตทสฺส สงฺฆาฎิยา สมฺปารุตํ สมฺปลิเวฐิตํฯ ตถูปมาหํ, ภิกฺขเว, อิมสฺส ภิกฺขุโน ปพฺพชฺชํ วทามิฯ

    436. ‘‘Kathañca, bhikkhave, bhikkhu na samaṇasāmīcippaṭipadaṃ paṭipanno hoti? Yassa kassaci, bhikkhave, bhikkhuno abhijjhālussa abhijjhā appahīnā hoti, byāpannacittassa byāpādo appahīno hoti, kodhanassa kodho appahīno hoti, upanāhissa upanāho appahīno hoti, makkhissa makkho appahīno hoti, paḷāsissa paḷāso appahīno hoti, issukissa issā appahīnā hoti, maccharissa macchariyaṃ appahīnaṃ hoti , saṭhassa sāṭheyyaṃ appahīnaṃ hoti, māyāvissa māyā appahīnā hoti, pāpicchassa pāpikā icchā appahīnā hoti, micchādiṭṭhikassa micchādiṭṭhi appahīnā hoti – imesaṃ kho ahaṃ, bhikkhave, samaṇamalānaṃ samaṇadosānaṃ samaṇakasaṭānaṃ āpāyikānaṃ ṭhānānaṃ duggativedaniyānaṃ appahānā ‘na samaṇasāmīcippaṭipadaṃ paṭipanno’ti vadāmi. Seyyathāpi, bhikkhave, matajaṃ nāma āvudhajātaṃ ubhatodhāraṃ pītanisitaṃ. Tadassa saṅghāṭiyā sampārutaṃ sampaliveṭhitaṃ. Tathūpamāhaṃ, bhikkhave, imassa bhikkhuno pabbajjaṃ vadāmi.

    ๔๓๗. ‘‘นาหํ, ภิกฺขเว, สงฺฆาฎิกสฺส สงฺฆาฎิธารณมเตฺตน สามญฺญํ วทามิฯ นาหํ, ภิกฺขเว, อเจลกสฺส อเจลกมเตฺตน สามญฺญํ วทามิฯ นาหํ, ภิกฺขเว, รโชชลฺลิกสฺส รโชชลฺลิกมเตฺตน สามญฺญํ วทามิฯ นาหํ, ภิกฺขเว , อุทโกโรหกสฺส อุทโกโรหณมเตฺตน 1 สามญฺญํ วทามิฯ นาหํ, ภิกฺขเว, รุกฺขมูลิกสฺส รุกฺขมูลิกมเตฺตน สามญฺญํ วทามิฯ นาหํ, ภิกฺขเว, อโพฺภกาสิกสฺส อโพฺภกาสิกมเตฺตน สามญฺญํ วทามิฯ นาหํ, ภิกฺขเว, อุพฺภฎฺฐกสฺส อุพฺภฎฺฐกมเตฺตน สามญฺญํ วทามิฯ นาหํ, ภิกฺขเว, ปริยายภตฺติกสฺส ปริยายภตฺติกมเตฺตน สามญฺญํ วทามิฯ นาหํ, ภิกฺขเว, มนฺตชฺฌายกสฺส มนฺตชฺฌายกมเตฺตน สามญฺญํ วทามิฯ นาหํ, ภิกฺขเว, ชฎิลกสฺส ชฎาธารณมเตฺตน สามญฺญํ วทามิฯ

    437. ‘‘Nāhaṃ, bhikkhave, saṅghāṭikassa saṅghāṭidhāraṇamattena sāmaññaṃ vadāmi. Nāhaṃ, bhikkhave, acelakassa acelakamattena sāmaññaṃ vadāmi. Nāhaṃ, bhikkhave, rajojallikassa rajojallikamattena sāmaññaṃ vadāmi. Nāhaṃ, bhikkhave , udakorohakassa udakorohaṇamattena 2 sāmaññaṃ vadāmi. Nāhaṃ, bhikkhave, rukkhamūlikassa rukkhamūlikamattena sāmaññaṃ vadāmi. Nāhaṃ, bhikkhave, abbhokāsikassa abbhokāsikamattena sāmaññaṃ vadāmi. Nāhaṃ, bhikkhave, ubbhaṭṭhakassa ubbhaṭṭhakamattena sāmaññaṃ vadāmi. Nāhaṃ, bhikkhave, pariyāyabhattikassa pariyāyabhattikamattena sāmaññaṃ vadāmi. Nāhaṃ, bhikkhave, mantajjhāyakassa mantajjhāyakamattena sāmaññaṃ vadāmi. Nāhaṃ, bhikkhave, jaṭilakassa jaṭādhāraṇamattena sāmaññaṃ vadāmi.

    ‘‘สงฺฆาฎิกสฺส เจ, ภิกฺขเว, สงฺฆาฎิธารณมเตฺตน อภิชฺฌาลุสฺส อภิชฺฌา ปหีเยถ, พฺยาปนฺนจิตฺตสฺส พฺยาปาโท ปหีเยถ, โกธนสฺส โกโธ ปหีเยถ, อุปนาหิสฺส อุปนาโห ปหีเยถ, มกฺขิสฺส มโกฺข ปหีเยถ, ปฬาสิสฺส ปฬาโส ปหีเยถ, อิสฺสุกิสฺส อิสฺสา ปหีเยถ, มจฺฉริสฺส มจฺฉริยํ ปหีเยถ, สฐสฺส สาเฐยฺยํ ปหีเยถ, มายาวิสฺส มายา ปหีเยถ, ปาปิจฺฉสฺส ปาปิกา อิจฺฉา ปหีเยถ, มิจฺฉาทิฎฺฐิกสฺส มิจฺฉาทิฎฺฐิ ปหีเยถ, ตเมนํ มิตฺตามจฺจา ญาติสาโลหิตา ชาตเมว นํ สงฺฆาฎิกํ กเรยฺยุํ, สงฺฆาฎิกตฺตเมว 3 สมาทเปยฺยุํ – ‘เอหิ ตฺวํ, ภทฺรมุข, สงฺฆาฎิโก โหหิ, สงฺฆาฎิกสฺส เต สโต สงฺฆาฎิธารณมเตฺตน อภิชฺฌาลุสฺส อภิชฺฌา ปหียิสฺสติ, พฺยาปนฺนจิตฺตสฺส พฺยาปาโท ปหียิสฺสติ, โกธนสฺส โกโธ ปหียิสฺสติ, อุปนาหิสฺส อุปนาโห ปหียิสฺสติ, มกฺขิสฺส มโกฺข ปหียิสฺสติ, ปฬาสิสฺส ปฬาโส ปหียิสฺสติ, อิสฺสุกิสฺส อิสฺสา ปหียิสฺสติ, มจฺฉริสฺส มจฺฉริยํ ปหียิสฺสติ, สฐสฺส สาเฐยฺยํ ปหียิสฺสติ, มายาวิสฺส มายา ปหียิสฺสติ, ปาปิจฺฉสฺส ปาปิกา อิจฺฉา ปหียิสฺสติ, มิจฺฉาทิฎฺฐิกสฺส มิจฺฉาทิฎฺฐิ ปหียิสฺสตี’ติฯ ยสฺมา จ โข อหํ, ภิกฺขเว, สงฺฆาฎิกมฺปิ อิเธกจฺจํ ปสฺสามิ อภิชฺฌาลุํ พฺยาปนฺนจิตฺตํ โกธนํ อุปนาหิํ มกฺขิํ ปฬาสิํ อิสฺสุกิํ มจฺฉริํ สฐํ มายาวิํ ปาปิจฺฉํ มิจฺฉาทิฎฺฐิกํ, ตสฺมา น สงฺฆาฎิกสฺส สงฺฆาฎิธารณมเตฺตน สามญฺญํ วทามิฯ

    ‘‘Saṅghāṭikassa ce, bhikkhave, saṅghāṭidhāraṇamattena abhijjhālussa abhijjhā pahīyetha, byāpannacittassa byāpādo pahīyetha, kodhanassa kodho pahīyetha, upanāhissa upanāho pahīyetha, makkhissa makkho pahīyetha, paḷāsissa paḷāso pahīyetha, issukissa issā pahīyetha, maccharissa macchariyaṃ pahīyetha, saṭhassa sāṭheyyaṃ pahīyetha, māyāvissa māyā pahīyetha, pāpicchassa pāpikā icchā pahīyetha, micchādiṭṭhikassa micchādiṭṭhi pahīyetha, tamenaṃ mittāmaccā ñātisālohitā jātameva naṃ saṅghāṭikaṃ kareyyuṃ, saṅghāṭikattameva 4 samādapeyyuṃ – ‘ehi tvaṃ, bhadramukha, saṅghāṭiko hohi, saṅghāṭikassa te sato saṅghāṭidhāraṇamattena abhijjhālussa abhijjhā pahīyissati, byāpannacittassa byāpādo pahīyissati, kodhanassa kodho pahīyissati, upanāhissa upanāho pahīyissati, makkhissa makkho pahīyissati, paḷāsissa paḷāso pahīyissati, issukissa issā pahīyissati, maccharissa macchariyaṃ pahīyissati, saṭhassa sāṭheyyaṃ pahīyissati, māyāvissa māyā pahīyissati, pāpicchassa pāpikā icchā pahīyissati, micchādiṭṭhikassa micchādiṭṭhi pahīyissatī’ti. Yasmā ca kho ahaṃ, bhikkhave, saṅghāṭikampi idhekaccaṃ passāmi abhijjhāluṃ byāpannacittaṃ kodhanaṃ upanāhiṃ makkhiṃ paḷāsiṃ issukiṃ macchariṃ saṭhaṃ māyāviṃ pāpicchaṃ micchādiṭṭhikaṃ, tasmā na saṅghāṭikassa saṅghāṭidhāraṇamattena sāmaññaṃ vadāmi.

    ‘‘อเจลกสฺส เจ, ภิกฺขเว…เป.… รโชชลฺลิกสฺส เจ, ภิกฺขเว…เป.… อุทโกโรหกสฺส เจ, ภิกฺขเว…เป.… รุกฺขมูลิกสฺส เจ, ภิกฺขเว…เป.… อโพฺภกาสิกสฺส เจ, ภิกฺขเว…เป.… อุพฺภฎฺฐกสฺส เจ, ภิกฺขเว…เป.… ปริยายภตฺติกสฺส เจ, ภิกฺขเว…เป.… มนฺตชฺฌายกสฺส เจ, ภิกฺขเว…เป.… ชฎิลกสฺส เจ, ภิกฺขเว, ชฎาธารณมเตฺตน อภิชฺฌาลุสฺส อภิชฺฌา ปหีเยถ, พฺยาปนฺนจิตฺตสฺส พฺยาปาโท ปหีเยถ , โกธนสฺส โกโธ ปหีเยถ, อุปนาหิสฺส อุปนาโห ปหีเยถ, มกฺขิสฺส มโกฺข ปหีเยถ, ปฬาสิสฺส ปฬาโส ปหีเยถ, อิสฺสุกิสฺส อิสฺสา ปหีเยถ, มจฺฉริสฺส มจฺฉริยํ ปหีเยถ, สฐสฺส สาเฐยฺยํ ปหีเยถ, มายาวิสฺส มายา ปหีเยถ, ปาปิจฺฉสฺส ปาปิกา อิจฺฉา ปหีเยถ, มิจฺฉาทิฎฺฐิกสฺส มิจฺฉาทิฎฺฐิ ปหีเยถ, ตเมนํ มิตฺตามจฺจา ญาติสาโลหิตา ชาตเมว นํ ชฎิลกํ กเรยฺยุํ, ชฎิลกตฺตเมว 5 สมาทเปยฺยุํ – ‘เอหิ ตฺวํ, ภทฺรมุข, ชฎิลโก โหหิ, ชฎิลกสฺส เต สโต ชฎาธารณมเตฺตน อภิชฺฌาลุสฺส อภิชฺฌา ปหียิสฺสติ พฺยาปนฺนจิตฺตสฺส พฺยาปาโท ปหียิสฺสติ, โกธนสฺส โกโธ ปหียิสฺสติ…เป.… ปาปิจฺฉสฺส ปาปิกา อิจฺฉา ปหียิสฺสติ มิจฺฉาทิฎฺฐิกสฺส มิจฺฉาทิฎฺฐิ ปหียิสฺสตี’ติฯ ยสฺมา จ โข อหํ, ภิกฺขเว, ชฎิลกมฺปิ อิเธกจฺจํ ปสฺสามิ อภิชฺฌาลุํ พฺยาปนฺนจิตฺตํ โกธนํ อุปนาหิํ มกฺขิํ ปลาสิํ อิสฺสุกิํ มจฺฉริํ สฐํ มายาวิํ ปาปิจฺฉํ มิจฺฉาทิฎฺฐิํ, ตสฺมา น ชฎิลกสฺส ชฎาธารณมเตฺตน สามญฺญํ วทามิฯ

    ‘‘Acelakassa ce, bhikkhave…pe… rajojallikassa ce, bhikkhave…pe… udakorohakassa ce, bhikkhave…pe… rukkhamūlikassa ce, bhikkhave…pe… abbhokāsikassa ce, bhikkhave…pe… ubbhaṭṭhakassa ce, bhikkhave…pe… pariyāyabhattikassa ce, bhikkhave…pe… mantajjhāyakassa ce, bhikkhave…pe… jaṭilakassa ce, bhikkhave, jaṭādhāraṇamattena abhijjhālussa abhijjhā pahīyetha, byāpannacittassa byāpādo pahīyetha , kodhanassa kodho pahīyetha, upanāhissa upanāho pahīyetha, makkhissa makkho pahīyetha, paḷāsissa paḷāso pahīyetha, issukissa issā pahīyetha, maccharissa macchariyaṃ pahīyetha, saṭhassa sāṭheyyaṃ pahīyetha, māyāvissa māyā pahīyetha, pāpicchassa pāpikā icchā pahīyetha, micchādiṭṭhikassa micchādiṭṭhi pahīyetha, tamenaṃ mittāmaccā ñātisālohitā jātameva naṃ jaṭilakaṃ kareyyuṃ, jaṭilakattameva 6 samādapeyyuṃ – ‘ehi tvaṃ, bhadramukha, jaṭilako hohi, jaṭilakassa te sato jaṭādhāraṇamattena abhijjhālussa abhijjhā pahīyissati byāpannacittassa byāpādo pahīyissati, kodhanassa kodho pahīyissati…pe… pāpicchassa pāpikā icchā pahīyissati micchādiṭṭhikassa micchādiṭṭhi pahīyissatī’ti. Yasmā ca kho ahaṃ, bhikkhave, jaṭilakampi idhekaccaṃ passāmi abhijjhāluṃ byāpannacittaṃ kodhanaṃ upanāhiṃ makkhiṃ palāsiṃ issukiṃ macchariṃ saṭhaṃ māyāviṃ pāpicchaṃ micchādiṭṭhiṃ, tasmā na jaṭilakassa jaṭādhāraṇamattena sāmaññaṃ vadāmi.

    ๔๓๘. ‘‘กถญฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สมณสามีจิปฺปฎิปทํ ปฎิปโนฺน โหติ? ยสฺส กสฺสจิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน อภิชฺฌาลุสฺส อภิชฺฌา ปหีนา โหติ, พฺยาปนฺนจิตฺตสฺส พฺยาปาโท ปหีโน โหติ, โกธนสฺส โกโธ ปหีโน โหติ, อุปนาหิสฺส อุปนาโห ปหีโน โหติ, มกฺขิสฺส มโกฺข ปหีโน โหติ, ปฬาสิสฺส ปฬาโส ปหีโน โหติ, อิสฺสุกิสฺส อิสฺสา ปหีนา โหติ, มจฺฉริสฺส มจฺฉริยํ ปหีนํ โหติ, สฐสฺส สาเฐยฺยํ ปหีนํ โหติ, มายาวิสฺส มายา ปหีนา โหติ, ปาปิจฺฉสฺส ปาปิกา อิจฺฉา ปหีนา โหติ, มิจฺฉาทิฎฺฐิกสฺส มิจฺฉาทิฎฺฐิ ปหีนา โหติ – อิเมสํ โข อหํ, ภิกฺขเว, สมณมลานํ สมณโทสานํ สมณกสฎานํ อาปายิกานํ ฐานานํ ทุคฺคติเวทนิยานํ ปหานา ‘สมณสามีจิปฺปฎิปทํ ปฎิปโนฺน’ติ วทามิฯ โส สเพฺพหิ อิเมหิ ปาปเกหิ อกุสเลหิ ธเมฺมหิ วิสุทฺธมตฺตานํ สมนุปสฺสติ ( ) 7ฯ ตสฺส สเพฺพหิ อิเมหิ ปาปเกหิ อกุสเลหิ ธเมฺมหิ วิสุทฺธมตฺตานํ สมนุปสฺสโต ( ) 8 ปาโมชฺชํ ชายติ, ปมุทิตสฺส ปีติ ชายติ, ปีติมนสฺส กาโย ปสฺสมฺภติ, ปสฺสทฺธกาโย สุขํ เวเทติ, สุขิโน จิตฺตํ สมาธิยติฯ

    438. ‘‘Kathañca, bhikkhave, bhikkhu samaṇasāmīcippaṭipadaṃ paṭipanno hoti? Yassa kassaci, bhikkhave, bhikkhuno abhijjhālussa abhijjhā pahīnā hoti, byāpannacittassa byāpādo pahīno hoti, kodhanassa kodho pahīno hoti, upanāhissa upanāho pahīno hoti, makkhissa makkho pahīno hoti, paḷāsissa paḷāso pahīno hoti, issukissa issā pahīnā hoti, maccharissa macchariyaṃ pahīnaṃ hoti, saṭhassa sāṭheyyaṃ pahīnaṃ hoti, māyāvissa māyā pahīnā hoti, pāpicchassa pāpikā icchā pahīnā hoti, micchādiṭṭhikassa micchādiṭṭhi pahīnā hoti – imesaṃ kho ahaṃ, bhikkhave, samaṇamalānaṃ samaṇadosānaṃ samaṇakasaṭānaṃ āpāyikānaṃ ṭhānānaṃ duggativedaniyānaṃ pahānā ‘samaṇasāmīcippaṭipadaṃ paṭipanno’ti vadāmi. So sabbehi imehi pāpakehi akusalehi dhammehi visuddhamattānaṃ samanupassati ( ) 9. Tassa sabbehi imehi pāpakehi akusalehi dhammehi visuddhamattānaṃ samanupassato ( ) 10 pāmojjaṃ jāyati, pamuditassa pīti jāyati, pītimanassa kāyo passambhati, passaddhakāyo sukhaṃ vedeti, sukhino cittaṃ samādhiyati.

    ‘‘โส เมตฺตาสหคเตน เจตสา เอกํ ทิสํ ผริตฺวา วิหรติ, ตถา ทุติยํ, ตถา ตติยํ, ตถา จตุตฺถํฯ อิติ อุทฺธมโธ ติริยํ สพฺพธิ สพฺพตฺตตาย สพฺพาวนฺตํ โลกํ เมตฺตาสหคเตน เจตสา วิปุเลน มหคฺคเตน อปฺปมาเณน อเวเรน อพฺยาพเชฺฌน ผริตฺวา วิหรติฯ กรุณาสหคเตน เจตสา…เป.… มุทิตาสหคเตน เจตสา…เป.… อุเปกฺขาสหคเตน เจตสา เอกํ ทิสํ ผริตฺวา วิหรติ, ตถา ทุติยํ, ตถา ตติยํ, ตถา จตุตฺถํฯ อิติ อุทฺธมโธ ติริยํ สพฺพธิ สพฺพตฺตตาย สพฺพาวนฺตํ โลกํ อุเปกฺขาสหคเตน เจตสา วิปุเลน มหคฺคเตน อปฺปมาเณน อเวเรน อพฺยาพเชฺฌน ผริตฺวา วิหรติฯ เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, โปกฺขรณี อโจฺฉทกา สาโตทกา สีโตทกา เสตกา สุปติตฺถา รมณียาฯ ปุรตฺถิมาย เจปิ ทิสาย ปุริโส อาคเจฺฉยฺย ฆมฺมาภิตโตฺต ฆมฺมปเรโต กิลโนฺต ตสิโต ปิปาสิโตฯ โส ตํ โปกฺขรณิํ อาคมฺม วิเนยฺย อุทกปิปาสํ วิเนยฺย ฆมฺมปริฬาหํ…เป.… ปจฺฉิมาย เจปิ ทิสาย ปุริโส อาคเจฺฉยฺย…เป.… อุตฺตราย เจปิ ทิสาย ปุริโส อาคเจฺฉยฺย…เป.… ทกฺขิณาย เจปิ ทิสาย ปุริโส อาคเจฺฉยฺยฯ ยโต กุโต เจปิ นํ ปุริโส อาคเจฺฉยฺย ฆมฺมาภิตโตฺต ฆมฺมปเรโต, กิลโนฺต ตสิโต ปิปาสิโตฯ โส ตํ โปกฺขรณิํ อาคมฺม วิเนยฺย อุทกปิปาสํ, วิเนยฺย ฆมฺมปริฬาหํฯ เอวเมว โข, ภิกฺขเว, ขตฺติยกุลา เจปิ อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิโต โหติ, โส จ ตถาคตปฺปเวทิตํ ธมฺมวินยํ อาคมฺม, เอวํ เมตฺตํ กรุณํ มุทิตํ อุเปกฺขํ ภาเวตฺวา ลภติ อชฺฌตฺตํ 11 วูปสมํ 12ฯ อชฺฌตฺตํ วูปสมา ‘สมณสามีจิปฺปฎิปทํ ปฎิปโนฺน’ติ วทามิฯ พฺราหฺมณกุลา เจปิ…เป.… เวสฺสกุลา เจปิ…เป.… สุทฺทกุลา เจปิ…เป.… ยสฺมา กสฺมา เจปิ กุลา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิโต โหติ , โส จ ตถาคตปฺปเวทิตํ ธมฺมวินยํ อาคมฺม, เอวํ เมตฺตํ กรุณํ มุทิตํ อุเปกฺขํ ภาเวตฺวา ลภติ อชฺฌตฺตํ วูปสมํฯ อชฺฌตฺตํ วูปสมา ‘สมณสามีจิปฺปฎิปทํ ปฎิปโนฺน’ติ วทามิฯ

    ‘‘So mettāsahagatena cetasā ekaṃ disaṃ pharitvā viharati, tathā dutiyaṃ, tathā tatiyaṃ, tathā catutthaṃ. Iti uddhamadho tiriyaṃ sabbadhi sabbattatāya sabbāvantaṃ lokaṃ mettāsahagatena cetasā vipulena mahaggatena appamāṇena averena abyābajjhena pharitvā viharati. Karuṇāsahagatena cetasā…pe… muditāsahagatena cetasā…pe… upekkhāsahagatena cetasā ekaṃ disaṃ pharitvā viharati, tathā dutiyaṃ, tathā tatiyaṃ, tathā catutthaṃ. Iti uddhamadho tiriyaṃ sabbadhi sabbattatāya sabbāvantaṃ lokaṃ upekkhāsahagatena cetasā vipulena mahaggatena appamāṇena averena abyābajjhena pharitvā viharati. Seyyathāpi, bhikkhave, pokkharaṇī acchodakā sātodakā sītodakā setakā supatitthā ramaṇīyā. Puratthimāya cepi disāya puriso āgaccheyya ghammābhitatto ghammapareto kilanto tasito pipāsito. So taṃ pokkharaṇiṃ āgamma vineyya udakapipāsaṃ vineyya ghammapariḷāhaṃ…pe… pacchimāya cepi disāya puriso āgaccheyya…pe… uttarāya cepi disāya puriso āgaccheyya…pe… dakkhiṇāya cepi disāya puriso āgaccheyya. Yato kuto cepi naṃ puriso āgaccheyya ghammābhitatto ghammapareto, kilanto tasito pipāsito. So taṃ pokkharaṇiṃ āgamma vineyya udakapipāsaṃ, vineyya ghammapariḷāhaṃ. Evameva kho, bhikkhave, khattiyakulā cepi agārasmā anagāriyaṃ pabbajito hoti, so ca tathāgatappaveditaṃ dhammavinayaṃ āgamma, evaṃ mettaṃ karuṇaṃ muditaṃ upekkhaṃ bhāvetvā labhati ajjhattaṃ 13 vūpasamaṃ 14. Ajjhattaṃ vūpasamā ‘samaṇasāmīcippaṭipadaṃ paṭipanno’ti vadāmi. Brāhmaṇakulā cepi…pe… vessakulā cepi…pe… suddakulā cepi…pe… yasmā kasmā cepi kulā agārasmā anagāriyaṃ pabbajito hoti , so ca tathāgatappaveditaṃ dhammavinayaṃ āgamma, evaṃ mettaṃ karuṇaṃ muditaṃ upekkhaṃ bhāvetvā labhati ajjhattaṃ vūpasamaṃ. Ajjhattaṃ vūpasamā ‘samaṇasāmīcippaṭipadaṃ paṭipanno’ti vadāmi.

    ‘‘ขตฺติยกุลา เจปิ อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิโต โหติฯ โส จ อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺติํ ปญฺญาวิมุตฺติํ ทิเฎฺฐว ธเมฺม สยํ อภิญฺญา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ อาสวานํ ขยา สมโณ โหติฯ พฺราหฺมณกุลา เจปิ…เป.… เวสฺสกุลา เจปิ… สุทฺทกุลา เจปิ… ยสฺมา กสฺมา เจปิ กุลา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิโต โหติ, โส จ อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺติํ ปญฺญาวิมุตฺติํ ทิเฎฺฐว ธเมฺม สยํ อภิญฺญา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ อาสวานํ ขยา สมโณ โหตี’’ติฯ

    ‘‘Khattiyakulā cepi agārasmā anagāriyaṃ pabbajito hoti. So ca āsavānaṃ khayā anāsavaṃ cetovimuttiṃ paññāvimuttiṃ diṭṭheva dhamme sayaṃ abhiññā sacchikatvā upasampajja viharati. Āsavānaṃ khayā samaṇo hoti. Brāhmaṇakulā cepi…pe… vessakulā cepi… suddakulā cepi… yasmā kasmā cepi kulā agārasmā anagāriyaṃ pabbajito hoti, so ca āsavānaṃ khayā anāsavaṃ cetovimuttiṃ paññāvimuttiṃ diṭṭheva dhamme sayaṃ abhiññā sacchikatvā upasampajja viharati. Āsavānaṃ khayā samaṇo hotī’’ti.

    อิทมโวจ ภควาฯ อตฺตมนา เต ภิกฺขู ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทุนฺติฯ

    Idamavoca bhagavā. Attamanā te bhikkhū bhagavato bhāsitaṃ abhinandunti.

    จูฬอสฺสปุรสุตฺตํ นิฎฺฐิตํ ทสมํฯ

    Cūḷaassapurasuttaṃ niṭṭhitaṃ dasamaṃ.

    มหายมกวโคฺค นิฎฺฐิโต จตุโตฺถฯ

    Mahāyamakavaggo niṭṭhito catuttho.

    ตสฺสุทฺทานํ –

    Tassuddānaṃ –

    คิญฺชกสาลวนํ ปริหริตุํ, ปญฺญวโต ปุน สจฺจกนิเสโธ;

    Giñjakasālavanaṃ pariharituṃ, paññavato puna saccakanisedho;

    มุขวณฺณปสีทนตาปิโนฺท, เกวฎฺฎอสฺสปุรชฎิเลนฯ

    Mukhavaṇṇapasīdanatāpindo, kevaṭṭaassapurajaṭilena.







    Footnotes:
    1. อุทโกโรหกมเตฺตน (สี. ปี.)
    2. udakorohakamattena (sī. pī.)
    3. สํฆาฎีกเตฺต เจว (ก.)
    4. saṃghāṭīkatte ceva (ka.)
    5. ชฎิลกเตฺต เจว (ก.)
    6. jaṭilakatte ceva (ka.)
    7. (วิมุตฺตมตฺตานํ สมนุปสฺสติ) (สี. สฺยา. กํ. ปี.)
    8. (วิมุตฺตมตฺตานํ สมนุปสฺสโต) (สี. สฺยา. กํ. ปี.)
    9. (vimuttamattānaṃ samanupassati) (sī. syā. kaṃ. pī.)
    10. (vimuttamattānaṃ samanupassato) (sī. syā. kaṃ. pī.)
    11. ตมหํ (ก.)
    12. ตมหํ (ก.)
    13. tamahaṃ (ka.)
    14. tamahaṃ (ka.)



    Related texts:



    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / มชฺฌิมนิกาย (อฎฺฐกถา) • Majjhimanikāya (aṭṭhakathā) / ๑๐. จูฬอสฺสปุรสุตฺตวณฺณนา • 10. Cūḷaassapurasuttavaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / มชฺฌิมนิกาย (ฎีกา) • Majjhimanikāya (ṭīkā) / ๑๐. จูฬอสฺสปุรสุตฺตวณฺณนา • 10. Cūḷaassapurasuttavaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact