Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / มชฺฌิมนิกาย (อฎฺฐกถา) • Majjhimanikāya (aṭṭhakathā)

    ๕. จูฬธมฺมสมาทานสุตฺตวณฺณนา

    5. Cūḷadhammasamādānasuttavaṇṇanā

    ๔๖๘. เอวํ เม สุตนฺติ จูฬธมฺมสมาทานสุตฺตํฯ ตตฺถ ธมฺมสมาทานานีติ ธโมฺมติ คหิตคหณานิฯ ปจฺจุปฺปนฺนสุขนฺติ ปจฺจุปฺปเนฺน สุขํ, อายูหนกฺขเณ สุขํ สุกรํ สุเขน สกฺกา ปูเรตุํฯ อายติํ ทุกฺขวิปากนฺติ อนาคเต วิปากกาเล ทุกฺขวิปากํฯ อิมินา อุปาเยน สพฺพปเทสุ อโตฺถ เวทิตโพฺพฯ

    468.Evaṃme sutanti cūḷadhammasamādānasuttaṃ. Tattha dhammasamādānānīti dhammoti gahitagahaṇāni. Paccuppannasukhanti paccuppanne sukhaṃ, āyūhanakkhaṇe sukhaṃ sukaraṃ sukhena sakkā pūretuṃ. Āyatiṃ dukkhavipākanti anāgate vipākakāle dukkhavipākaṃ. Iminā upāyena sabbapadesu attho veditabbo.

    ๔๖๙. นตฺถิ กาเมสุ โทโสติ วตฺถุกาเมสุปิ กิเลสกาเมสุปิ โทโส นตฺถิฯ ปาตพฺยตํ อาปชฺชนฺตีติ เต วตฺถุกาเมสุ กิเลสกาเมน ปาตพฺยตํ ปิวิตพฺพตํ, ยถารุจิ ปริภุญฺชิตพฺพตํ อาปชฺชนฺตีติ อโตฺถฯ โมฬิพทฺธาหีติ โมฬิํ กตฺวา พทฺธเกสาหิฯ ปริพฺพาชิกาหีติ ตาปสปริพฺพาชิกาหิฯ เอวมาหํสูติ เอวํ วทนฺติฯ ปริญฺญํ ปญฺญเปนฺตีติ ปหานํ สมติกฺกมํ ปญฺญเปนฺติฯ มาลุวาสิปาฎิกาติ ทีฆสณฺฐานํ มาลุวาปกฺกํฯ ผเลยฺยาติ อาตเปน สุสฺสิตฺวา ภิเชฺชยฺยฯ สาลมูเลติ สาลรุกฺขสฺส สมีเปฯ สนฺตาสํ อาปเชฺชยฺยาติ กสฺมา อาปชฺชติ? ภวนวินาสภยาฯ รุกฺขมูเล ปติตมาลุวาพีชโต หิ ลตา อุปฺปชฺชิตฺวา รุกฺขํ อภิรุหติฯ สา มหาปตฺตา เจว โหติ พหุปตฺตา จ, โกวิฬารปตฺตสทิเสหิ ปเตฺตหิ สมนฺนาคตาฯ อถ ตํ รุกฺขํ มูลโต ปฎฺฐาย วินนฺธมานา สพฺพวิฎปานิ สญฺฉาเทตฺวา มหนฺตํ ภารํ ชเนตฺวา ติฎฺฐติฯ สา วาเต วา วายเนฺต เทเว วา วสฺสเนฺต โอฆนํ ชเนตฺวา ตสฺส รุกฺขสฺส สพฺพสาขาปสาขํ ภญฺชติ, ภูมิยํ นิปาเตติฯ ตโต ตสฺมิํ รุเกฺข ปติฎฺฐิตวิมานํ ภิชฺชติ นสฺสติฯ อิติ สา ภวนวินาสภยา สนฺตาสํ อาปชฺชติฯ

    469.Natthi kāmesu dosoti vatthukāmesupi kilesakāmesupi doso natthi. Pātabyataṃ āpajjantīti te vatthukāmesu kilesakāmena pātabyataṃ pivitabbataṃ, yathāruci paribhuñjitabbataṃ āpajjantīti attho. Moḷibaddhāhīti moḷiṃ katvā baddhakesāhi. Paribbājikāhīti tāpasaparibbājikāhi. Evamāhaṃsūti evaṃ vadanti. Pariññaṃ paññapentīti pahānaṃ samatikkamaṃ paññapenti. Māluvāsipāṭikāti dīghasaṇṭhānaṃ māluvāpakkaṃ. Phaleyyāti ātapena sussitvā bhijjeyya. Sālamūleti sālarukkhassa samīpe. Santāsaṃ āpajjeyyāti kasmā āpajjati? Bhavanavināsabhayā. Rukkhamūle patitamāluvābījato hi latā uppajjitvā rukkhaṃ abhiruhati. Sā mahāpattā ceva hoti bahupattā ca, koviḷārapattasadisehi pattehi samannāgatā. Atha taṃ rukkhaṃ mūlato paṭṭhāya vinandhamānā sabbaviṭapāni sañchādetvā mahantaṃ bhāraṃ janetvā tiṭṭhati. Sā vāte vā vāyante deve vā vassante oghanaṃ janetvā tassa rukkhassa sabbasākhāpasākhaṃ bhañjati, bhūmiyaṃ nipāteti. Tato tasmiṃ rukkhe patiṭṭhitavimānaṃ bhijjati nassati. Iti sā bhavanavināsabhayā santāsaṃ āpajjati.

    อารามเทวตาติ ตตฺถ ตตฺถ ปุปฺผารามผลาราเมสุ อธิวตฺถา เทวตาฯ วนเทวตาติ อนฺธวนสุภควนาทีสุ วเนสุ อธิวตฺถา เทวตาฯ รุกฺขเทวตาติ อภิลกฺขิเตสุ นเฬรุปุจิมนฺทาทีสุ รุเกฺขสุ อธิวตฺถา เทวตาฯ โอสธิติณวนปฺปตีสูติ หรีตกีอามลกีอาทีสุ โอสธีสุ ตาลนาฬิเกราทีสุ ติเณสุ วนเชฎฺฐเกสุ จ วนปฺปติรุเกฺขสุ อธิวตฺถา เทวตาฯ วนกมฺมิกาติ วเน กสนลายนทารุอาหรณโครกฺขาทีสุ เกนจิเทว กเมฺมน วา วิจรกมนุสฺสาฯ อุทฺธเรยฺยุนฺติ ขาเทยฺยุํฯ วิลมฺพินีติ วาเตน ปหตปหตฎฺฐาเนสุ เกฬิํ กโรนฺตี วิย วิลมฺพนฺตีฯ สุโข อิมิสฺสาติ เอวรูปาย มาลุวาลตาย สมฺผโสฺสปิ สุโข, ทสฺสนมฺปิ สุขํฯ อยํ เม ทารกานํ อาปานมณฺฑลํ ภวิสฺสติ, กีฬาภูมิ ภวิสฺสติ, ทุติยํ เม วิมานํ ปฎิลทฺธนฺติ ลตาย ทสฺสเนปิ สมฺผเสฺสปิ โสมนสฺสชาตา เอวมาหฯ

    Ārāmadevatāti tattha tattha pupphārāmaphalārāmesu adhivatthā devatā. Vanadevatāti andhavanasubhagavanādīsu vanesu adhivatthā devatā. Rukkhadevatāti abhilakkhitesu naḷerupucimandādīsu rukkhesu adhivatthā devatā. Osadhitiṇavanappatīsūti harītakīāmalakīādīsu osadhīsu tālanāḷikerādīsu tiṇesu vanajeṭṭhakesu ca vanappatirukkhesu adhivatthā devatā. Vanakammikāti vane kasanalāyanadāruāharaṇagorakkhādīsu kenacideva kammena vā vicarakamanussā. Uddhareyyunti khādeyyuṃ. Vilambinīti vātena pahatapahataṭṭhānesu keḷiṃ karontī viya vilambantī. Sukho imissāti evarūpāya māluvālatāya samphassopi sukho, dassanampi sukhaṃ. Ayaṃ me dārakānaṃ āpānamaṇḍalaṃ bhavissati, kīḷābhūmi bhavissati, dutiyaṃ me vimānaṃ paṭiladdhanti latāya dassanepi samphassepi somanassajātā evamāha.

    วิฎภิํ กเรยฺยาติ สาขานํ อุปริ ฉตฺตากาเรน ติเฎฺฐยฺยฯ โอฆนํ ชเนยฺยาติ เหฎฺฐา ฆนํ ชเนยฺยฯ อุปริ อารุยฺห สกลํ รุกฺขํ ปลิเวเฐตฺวา ปุน เหฎฺฐา ภสฺสมานา ภูมิํ คเณฺหยฺยาติ อโตฺถฯ ปทาเลยฺยาติ เอวํ โอฆนํ กตฺวา ปุน ตโต ปฎฺฐาย ยาว มูลา โอติณฺณสาขาหิ อภิรุหมานา สพฺพสาขา ปลิเวเฐนฺตี มตฺถกํ ปตฺวา เตเนว นิยาเมน ปุน โอโรหิตฺวา จ อภิรุหิตฺวา จ สกลรุกฺขํ สํสิพฺพิตฺวา อโชฺฌตฺถรนฺตี สพฺพสาขา เหฎฺฐา กตฺวา สยํ อุปริ ฐตฺวา วาเต วา วายเนฺต เทเว วา วสฺสเนฺต ปทาเลยฺยฯ ภิเนฺทยฺยาติ อโตฺถฯ ขาณุมตฺตเมว ติเฎฺฐยฺย, ตตฺถ ยํ สาขฎฺฐกวิมานํ โหติ, ตํ สาขาสุ ภิชฺชมานาสุ ตตฺถ ตเตฺถว ภิชฺชิตฺวา สพฺพสาขาสุ ภินฺนาสุ สพฺพํ ภิชฺชติฯ รุกฺขฎฺฐกวิมานํ ปน ยาว รุกฺขสฺส มูลมตฺตมฺปิ ติฎฺฐติ, ตาว น นสฺสติฯ อิทํ ปน วิมานํ สาขฎฺฐกํ, ตสฺมา สพฺพสาขาสุ สํภิชฺชมานาสุ ภิชฺชิตฺถฯ เทวตา ปุตฺตเก คเหตฺวา ขาณุเก ฐิตา ปริเทวิตุํ อารทฺธาฯ

    Viṭabhiṃ kareyyāti sākhānaṃ upari chattākārena tiṭṭheyya. Oghanaṃ janeyyāti heṭṭhā ghanaṃ janeyya. Upari āruyha sakalaṃ rukkhaṃ paliveṭhetvā puna heṭṭhā bhassamānā bhūmiṃ gaṇheyyāti attho. Padāleyyāti evaṃ oghanaṃ katvā puna tato paṭṭhāya yāva mūlā otiṇṇasākhāhi abhiruhamānā sabbasākhā paliveṭhentī matthakaṃ patvā teneva niyāmena puna orohitvā ca abhiruhitvā ca sakalarukkhaṃ saṃsibbitvā ajjhottharantī sabbasākhā heṭṭhā katvā sayaṃ upari ṭhatvā vāte vā vāyante deve vā vassante padāleyya. Bhindeyyāti attho. Khāṇumattameva tiṭṭheyya, tattha yaṃ sākhaṭṭhakavimānaṃ hoti, taṃ sākhāsu bhijjamānāsu tattha tattheva bhijjitvā sabbasākhāsu bhinnāsu sabbaṃ bhijjati. Rukkhaṭṭhakavimānaṃ pana yāva rukkhassa mūlamattampi tiṭṭhati, tāva na nassati. Idaṃ pana vimānaṃ sākhaṭṭhakaṃ, tasmā sabbasākhāsu saṃbhijjamānāsu bhijjittha. Devatā puttake gahetvā khāṇuke ṭhitā paridevituṃ āraddhā.

    ๔๗๑. ติพฺพราคชาติโกติ พหลราคสภาโวฯ ราคชํ ทุกฺขํ โทมนสฺสํ ปฎิสํเวเทตีติ ติพฺพราคชาติกตฺตา ทิเฎฺฐ ทิเฎฺฐ อารมฺมเณ นิมิตฺตํ คณฺหาติฯ อถสฺส อาจริยุปชฺฌายา ทณฺฑกมฺมํ อาณาเปนฺติฯ โส อภิกฺขณํ ทณฺฑกมฺมํ กโรโนฺต ทุกฺขํ โทมนสฺสํ ปฎิสํเวเทติ, นเตฺวว วีติกฺกมํ กโรติฯ ติพฺพโทสชาติโกติ อปฺปมตฺติเกเนว กุปฺปติ, ทหรสามเณเรหิ สทฺธิํ หตฺถปรามาสาทีนิ กโรโนฺตว กเถติฯ โสปิ ทณฺฑกมฺมปจฺจยา ทุกฺขํ โทมนสฺสํ ปฎิสํเวเทติฯ โมหชาติโก ปน อิธ กตํ วา กตโต อกตํ วา อกตโต น สลฺลเกฺขติ, ตานิ ตานิ กิจฺจานิ วิราเธติฯ โสปิ ทณฺฑกมฺมปจฺจยา ทุกฺขํ โทมนสฺสํ ปฎิสํเวเทติฯ

    471.Tibbarāgajātikoti bahalarāgasabhāvo. Rāgajaṃ dukkhaṃ domanassaṃ paṭisaṃvedetīti tibbarāgajātikattā diṭṭhe diṭṭhe ārammaṇe nimittaṃ gaṇhāti. Athassa ācariyupajjhāyā daṇḍakammaṃ āṇāpenti. So abhikkhaṇaṃ daṇḍakammaṃ karonto dukkhaṃ domanassaṃ paṭisaṃvedeti, natveva vītikkamaṃ karoti. Tibbadosajātikoti appamattikeneva kuppati, daharasāmaṇerehi saddhiṃ hatthaparāmāsādīni karontova katheti. Sopi daṇḍakammapaccayā dukkhaṃ domanassaṃ paṭisaṃvedeti. Mohajātiko pana idha kataṃ vā katato akataṃ vā akatato na sallakkheti, tāni tāni kiccāni virādheti. Sopi daṇḍakammapaccayā dukkhaṃ domanassaṃ paṭisaṃvedeti.

    ๔๗๒. น ติพฺพราคชาติโกติอาทีนิ วุตฺตปฎิปกฺขนเยน เวทิตพฺพานิฯ กสฺมา ปเนตฺถ โกจิ ติพฺพราคาทิชาติโก โหติ, โกจิ น ติพฺพราคาทิชาติโก? กมฺมนิยาเมนฯ ยสฺส หิ กมฺมายูหนกฺขเณ โลโภ พลวา โหติ, อโลโภ มโนฺท, อโทสาโมหา พลวโนฺต, โทสโมหา มนฺทา, ตสฺส มโนฺท อโลโภ โลภํ ปริยาทาตุํ น สโกฺกติ, อโทสาโมหา ปน พลวโนฺต โทสโมเห ปริยาทาตุํ สโกฺกนฺติฯ ตสฺมา โส เตน กเมฺมน ทินฺนปฎิสนฺธิวเสน นิพฺพโตฺต ลุโทฺธ โหติ, สุขสีโล อโกฺกธโน ปญฺญวา วชิรูปมญาโณฯ

    472.Na tibbarāgajātikotiādīni vuttapaṭipakkhanayena veditabbāni. Kasmā panettha koci tibbarāgādijātiko hoti, koci na tibbarāgādijātiko? Kammaniyāmena. Yassa hi kammāyūhanakkhaṇe lobho balavā hoti, alobho mando, adosāmohā balavanto, dosamohā mandā, tassa mando alobho lobhaṃ pariyādātuṃ na sakkoti, adosāmohā pana balavanto dosamohe pariyādātuṃ sakkonti. Tasmā so tena kammena dinnapaṭisandhivasena nibbatto luddho hoti, sukhasīlo akkodhano paññavā vajirūpamañāṇo.

    ยสฺส ปน กมฺมายูหนกฺขเณ โลภโทสา พลวโนฺต โหนฺติ, อโลภาโทสา มนฺทา, อโมโห พลวา, โมโห มโนฺท, โส ปุริมนเยเนว ลุโทฺธ เจว โหติ ทุโฎฺฐ จ, ปญฺญวา ปน โหติ วชิรูปมญาโณ ทตฺตาภยเตฺถโร วิยฯ

    Yassa pana kammāyūhanakkhaṇe lobhadosā balavanto honti, alobhādosā mandā, amoho balavā, moho mando, so purimanayeneva luddho ceva hoti duṭṭho ca, paññavā pana hoti vajirūpamañāṇo dattābhayatthero viya.

    ยสฺส ปน กมฺมายูหนกฺขเณ โลภาโทสโมหา พลวโนฺต โหนฺติ, อิตเร มนฺทา, โส ปุริมนเยเนว ลุโทฺธ เจว โหติ ทโนฺธ จ, สุขสีลโก ปน โหติ อโกฺกธโนฯ

    Yassa pana kammāyūhanakkhaṇe lobhādosamohā balavanto honti, itare mandā, so purimanayeneva luddho ceva hoti dandho ca, sukhasīlako pana hoti akkodhano.

    ตถา ยสฺส กมฺมายูหนกฺขเณ ตโยปิ โลภโทสโมหา พลวโนฺต โหนฺติ, อโลภาทโย มนฺทา, โส ปุริมนเยเนว ลุโทฺธ เจว โหติ ทุโฎฺฐ จ มูโฬฺห จฯ

    Tathā yassa kammāyūhanakkhaṇe tayopi lobhadosamohā balavanto honti, alobhādayo mandā, so purimanayeneva luddho ceva hoti duṭṭho ca mūḷho ca.

    ยสฺส ปน กมฺมายูหนกฺขเณ อโลภโทสโมหา พลวโนฺต โหนฺติ, อิตเร มนฺทา, โส ปุริมนเยเนว อปฺปกิเลโส โหติ, ทิพฺพารมฺมณมฺปิ ทิสฺวา นิจฺจโล, ทุโฎฺฐ ปน โหติ ทนฺธปโญฺญ จฯ

    Yassa pana kammāyūhanakkhaṇe alobhadosamohā balavanto honti, itare mandā, so purimanayeneva appakileso hoti, dibbārammaṇampi disvā niccalo, duṭṭho pana hoti dandhapañño ca.

    ยสฺส ปน กมฺมายูหนกฺขเณ อโลภาโทสโมหา พลวโนฺต โหนฺติ, อิตเร มนฺทา, โส ปุริมนเยเนว อลุโทฺธ เจว โหติ สุขสีลโก จ, มูโฬฺห ปน โหติฯ

    Yassa pana kammāyūhanakkhaṇe alobhādosamohā balavanto honti, itare mandā, so purimanayeneva aluddho ceva hoti sukhasīlako ca, mūḷho pana hoti.

    ตถา ยสฺส กมฺมายูหนกฺขเณ อโลภโทสาโมหา พลวโนฺต โหนฺติ, อิตเร มนฺทา, โส ปุริมนเยเนว อลุโทฺธ เจว โหติ ปญฺญวา จ, ทุโฎฺฐ ปน โหติ โกธโนฯ

    Tathā yassa kammāyūhanakkhaṇe alobhadosāmohā balavanto honti, itare mandā, so purimanayeneva aluddho ceva hoti paññavā ca, duṭṭho pana hoti kodhano.

    ยสฺส ปน กมฺมายูหนกฺขเณ ตโยปิ อโลภาทโย พลวโนฺต โหนฺติ, โลภาทโย มนฺทา, โส มหาสงฺฆรกฺขิตเตฺถโร วิย อลุโทฺธ อทุโฎฺฐ ปญฺญวา จ โหติฯ

    Yassa pana kammāyūhanakkhaṇe tayopi alobhādayo balavanto honti, lobhādayo mandā, so mahāsaṅgharakkhitatthero viya aluddho aduṭṭho paññavā ca hoti.

    เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติฯ

    Sesaṃ sabbattha uttānatthamevāti.

    ปปญฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฎฺฐกถาย

    Papañcasūdaniyā majjhimanikāyaṭṭhakathāya

    จูฬธมฺมสมาทานสุตฺตวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Cūḷadhammasamādānasuttavaṇṇanā niṭṭhitā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / มชฺฌิมนิกาย • Majjhimanikāya / ๕. จูฬธมฺมสมาทานสุตฺตํ • 5. Cūḷadhammasamādānasuttaṃ

    ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / มชฺฌิมนิกาย (ฎีกา) • Majjhimanikāya (ṭīkā) / ๕. จูฬธมฺมสมาทานสุตฺตวณฺณนา • 5. Cūḷadhammasamādānasuttavaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact