Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / มชฺฌิมนิกาย • Majjhimanikāya |
๔. จูฬโคปาลกสุตฺตํ
4. Cūḷagopālakasuttaṃ
๓๕๐. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา วชฺชีสุ วิหรติ อุกฺกเจลายํ คงฺคาย นทิยา ตีเรฯ ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามเนฺตสิ – ‘‘ภิกฺขโว’’ติฯ ‘‘ภทเนฺต’’ติ เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจโสฺสสุํฯ ภควา เอตทโวจ –
350. Evaṃ me sutaṃ – ekaṃ samayaṃ bhagavā vajjīsu viharati ukkacelāyaṃ gaṅgāya nadiyā tīre. Tatra kho bhagavā bhikkhū āmantesi – ‘‘bhikkhavo’’ti. ‘‘Bhadante’’ti te bhikkhū bhagavato paccassosuṃ. Bhagavā etadavoca –
‘‘ภูตปุพฺพํ , ภิกฺขเว, มาคธโก โคปาลโก ทุปฺปญฺญชาติโก, วสฺสานํ ปจฺฉิเม มาเส สรทสมเย, อสมเวกฺขิตฺวา คงฺคาย นทิยา โอริมํ ตีรํ, อสมเวกฺขิตฺวา ปาริมํ ตีรํ, อติเตฺถเนว คาโว ปตาเรสิ อุตฺตรํ ตีรํ สุวิเทหานํฯ อถ โข, ภิกฺขเว, คาโว มเชฺฌคงฺคาย นทิยา โสเต อามณฺฑลิยํ กริตฺวา ตเตฺถว อนยพฺยสนํ อาปชฺชิํสุฯ ตํ กิสฺส เหตุ? ตถา หิ โส, ภิกฺขเว, มาคธโก โคปาลโก ทุปฺปญฺญชาติโก, วสฺสานํ ปจฺฉิเม มาเส สรทสมเย, อสมเวกฺขิตฺวา คงฺคาย นทิยา โอริมํ ตีรํ, อสมเวกฺขิตฺวา ปาริมํ ตีรํ, อติเตฺถเนว คาโว ปตาเรสิ อุตฺตรํ ตีรํ สุวิเทหานํฯ เอวเมว โข, ภิกฺขเว, เย หิ เกจิ 1 สมณา วา พฺราหฺมณา วา อกุสลา อิมสฺส โลกสฺส อกุสลา ปรสฺส โลกสฺส, อกุสลา มารเธยฺยสฺส อกุสลา อมารเธยฺยสฺส, อกุสลา มจฺจุเธยฺยสฺส อกุสลา อมจฺจุเธยฺยสฺส, เตสํ เย โสตพฺพํ สทฺทหาตพฺพํ มญฺญิสฺสนฺติ, เตสํ ตํ ภวิสฺสติ ทีฆรตฺตํ อหิตาย ทุกฺขายฯ
‘‘Bhūtapubbaṃ , bhikkhave, māgadhako gopālako duppaññajātiko, vassānaṃ pacchime māse saradasamaye, asamavekkhitvā gaṅgāya nadiyā orimaṃ tīraṃ, asamavekkhitvā pārimaṃ tīraṃ, atittheneva gāvo patāresi uttaraṃ tīraṃ suvidehānaṃ. Atha kho, bhikkhave, gāvo majjhegaṅgāya nadiyā sote āmaṇḍaliyaṃ karitvā tattheva anayabyasanaṃ āpajjiṃsu. Taṃ kissa hetu? Tathā hi so, bhikkhave, māgadhako gopālako duppaññajātiko, vassānaṃ pacchime māse saradasamaye, asamavekkhitvā gaṅgāya nadiyā orimaṃ tīraṃ, asamavekkhitvā pārimaṃ tīraṃ, atittheneva gāvo patāresi uttaraṃ tīraṃ suvidehānaṃ. Evameva kho, bhikkhave, ye hi keci 2 samaṇā vā brāhmaṇā vā akusalā imassa lokassa akusalā parassa lokassa, akusalā māradheyyassa akusalā amāradheyyassa, akusalā maccudheyyassa akusalā amaccudheyyassa, tesaṃ ye sotabbaṃ saddahātabbaṃ maññissanti, tesaṃ taṃ bhavissati dīgharattaṃ ahitāya dukkhāya.
๓๕๑. ‘‘ภูตปุพฺพํ, ภิกฺขเว, มาคธโก โคปาลโก สปฺปญฺญชาติโก, วสฺสานํ ปจฺฉิเม มาเส สรทสมเย, สมเวกฺขิตฺวา คงฺคาย นทิยา โอริมํ ตีรํ, สมเวกฺขิตฺวา ปาริมํ ตีรํ, ติเตฺถเนว คาโว ปตาเรสิ อุตฺตรํ ตีรํ สุวิเทหานํฯ โส ปฐมํ ปตาเรสิ เย เต อุสภา โคปิตโร โคปริณายกาฯ เต ติริยํ คงฺคาย โสตํ เฉตฺวา โสตฺถินา ปารํ อคมํสุฯ อถาปเร ปตาเรสิ พลวคาโว ทมฺมคาโวฯ เตปิ ติริยํ คงฺคาย โสตํ เฉตฺวา โสตฺถินา ปารํ อคมํสุฯ อถาปเร ปตาเรสิ วจฺฉตเร วจฺฉตริโยฯ เตปิ ติริยํ คงฺคาย โสตํ เฉตฺวา โสตฺถินา ปารํ อคมํสุฯ อถาปเร ปตาเรสิ วจฺฉเก กิสาพลเก 3ฯ เตปิ ติริยํ คงฺคาย โสตํ เฉตฺวา โสตฺถินา ปารํ อคมํสุฯ ภูตปุพฺพํ, ภิกฺขเว, วจฺฉโก ตรุณโก ตาวเทว ชาตโก มาตุโครวเกน วุยฺหมาโน, โสปิ ติริยํ คงฺคาย โสตํ เฉตฺวา โสตฺถินา ปารํ อคมาสิฯ ตํ กิสฺส เหตุ? ตถา หิ โส, ภิกฺขเว, มาคธโก โคปาลโก สปฺปญฺญชาติโก , วสฺสานํ ปจฺฉิเม มาเส สรทสมเย, สมเวกฺขิตฺวา คงฺคาย นทิยา โอริมํ ตีรํ, สมเวกฺขิตฺวา ปาริมํ ตีรํ, ติเตฺถเนว คาโว ปตาเรสิ อุตฺตรํ ตีรํ สุวิเทหานํฯ เอวเมว โข, ภิกฺขเว, เย หิ เกจิ สมณา วา พฺราหฺมณา วา กุสลา อิมสฺส โลกสฺส กุสลา ปรสฺส โลกสฺส, กุสลา มารเธยฺยสฺส กุสลา อมารเธยฺยสฺส, กุสลา มจฺจุเธยฺยสฺส กุสลา อมจฺจุเธยฺยสฺส, เตสํ เย โสตพฺพํ สทฺทหาตพฺพํ มญฺญิสฺสนฺติ, เตสํ ตํ ภวิสฺสติ ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขายฯ
351. ‘‘Bhūtapubbaṃ, bhikkhave, māgadhako gopālako sappaññajātiko, vassānaṃ pacchime māse saradasamaye, samavekkhitvā gaṅgāya nadiyā orimaṃ tīraṃ, samavekkhitvā pārimaṃ tīraṃ, tittheneva gāvo patāresi uttaraṃ tīraṃ suvidehānaṃ. So paṭhamaṃ patāresi ye te usabhā gopitaro gopariṇāyakā. Te tiriyaṃ gaṅgāya sotaṃ chetvā sotthinā pāraṃ agamaṃsu. Athāpare patāresi balavagāvo dammagāvo. Tepi tiriyaṃ gaṅgāya sotaṃ chetvā sotthinā pāraṃ agamaṃsu. Athāpare patāresi vacchatare vacchatariyo. Tepi tiriyaṃ gaṅgāya sotaṃ chetvā sotthinā pāraṃ agamaṃsu. Athāpare patāresi vacchake kisābalake 4. Tepi tiriyaṃ gaṅgāya sotaṃ chetvā sotthinā pāraṃ agamaṃsu. Bhūtapubbaṃ, bhikkhave, vacchako taruṇako tāvadeva jātako mātugoravakena vuyhamāno, sopi tiriyaṃ gaṅgāya sotaṃ chetvā sotthinā pāraṃ agamāsi. Taṃ kissa hetu? Tathā hi so, bhikkhave, māgadhako gopālako sappaññajātiko , vassānaṃ pacchime māse saradasamaye, samavekkhitvā gaṅgāya nadiyā orimaṃ tīraṃ, samavekkhitvā pārimaṃ tīraṃ, tittheneva gāvo patāresi uttaraṃ tīraṃ suvidehānaṃ. Evameva kho, bhikkhave, ye hi keci samaṇā vā brāhmaṇā vā kusalā imassa lokassa kusalā parassa lokassa, kusalā māradheyyassa kusalā amāradheyyassa, kusalā maccudheyyassa kusalā amaccudheyyassa, tesaṃ ye sotabbaṃ saddahātabbaṃ maññissanti, tesaṃ taṃ bhavissati dīgharattaṃ hitāya sukhāya.
๓๕๒. ‘‘เสยฺยถาปิ , ภิกฺขเว, เย เต อุสภา โคปิตโร โคปริณายกา เต ติริยํ คงฺคาย โสตํ เฉตฺวา โสตฺถินา ปารํ อคมํสุ, เอวเมว โข, ภิกฺขเว, เย เต ภิกฺขู อรหโนฺต ขีณาสวา วุสิตวโนฺต กตกรณียา โอหิตภารา อนุปฺปตฺตสทตฺถา ปริกฺขีณภวสํโยชนา สมฺมทญฺญา วิมุตฺตา, เต ติริยํ มารสฺส โสตํ เฉตฺวา โสตฺถินา ปารํ คตาฯ
352. ‘‘Seyyathāpi , bhikkhave, ye te usabhā gopitaro gopariṇāyakā te tiriyaṃ gaṅgāya sotaṃ chetvā sotthinā pāraṃ agamaṃsu, evameva kho, bhikkhave, ye te bhikkhū arahanto khīṇāsavā vusitavanto katakaraṇīyā ohitabhārā anuppattasadatthā parikkhīṇabhavasaṃyojanā sammadaññā vimuttā, te tiriyaṃ mārassa sotaṃ chetvā sotthinā pāraṃ gatā.
‘‘เสยฺยถาปิ เต, ภิกฺขเว, พลวคาโว ทมฺมคาโว ติริยํ คงฺคาย โสตํ เฉตฺวา โสตฺถินา ปารํ อคมํสุ, เอวเมว โข, ภิกฺขเว, เย เต ภิกฺขู ปญฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โอปปาติกา ตตฺถ ปรินิพฺพายิโน อนาวตฺติธมฺมา ตสฺมา โลกา, เตปิ ติริยํ มารสฺส โสตํ เฉตฺวา โสตฺถินา ปารํ คมิสฺสนฺติฯ
‘‘Seyyathāpi te, bhikkhave, balavagāvo dammagāvo tiriyaṃ gaṅgāya sotaṃ chetvā sotthinā pāraṃ agamaṃsu, evameva kho, bhikkhave, ye te bhikkhū pañcannaṃ orambhāgiyānaṃ saṃyojanānaṃ parikkhayā opapātikā tattha parinibbāyino anāvattidhammā tasmā lokā, tepi tiriyaṃ mārassa sotaṃ chetvā sotthinā pāraṃ gamissanti.
‘‘เสยฺยถาปิ เต, ภิกฺขเว, วจฺฉตรา วจฺฉตริโย ติริยํ คงฺคาย โสตํ เฉตฺวา โสตฺถินา ปารํ อคมํสุ, เอวเมว โข, ภิกฺขเว, เย เต ภิกฺขู ติณฺณํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา ราคโทสโมหานํ ตนุตฺตา สกทาคามิโน สกิํเทว อิมํ โลกํ อาคนฺตฺวา ทุกฺขสฺสนฺตํ กริสฺสนฺติ, เตปิ ติริยํ มารสฺส โสตํ เฉตฺวา โสตฺถินา ปารํ คมิสฺสนฺติฯ
‘‘Seyyathāpi te, bhikkhave, vacchatarā vacchatariyo tiriyaṃ gaṅgāya sotaṃ chetvā sotthinā pāraṃ agamaṃsu, evameva kho, bhikkhave, ye te bhikkhū tiṇṇaṃ saṃyojanānaṃ parikkhayā rāgadosamohānaṃ tanuttā sakadāgāmino sakiṃdeva imaṃ lokaṃ āgantvā dukkhassantaṃ karissanti, tepi tiriyaṃ mārassa sotaṃ chetvā sotthinā pāraṃ gamissanti.
‘‘เสยฺยถาปิ เต, ภิกฺขเว, วจฺฉกา กิสาพลกา ติริยํ คงฺคาย โสตํ เฉตฺวา โสตฺถินา ปารํ อคมํสุ, เอวเมว โข, ภิกฺขเว, เย เต ภิกฺขู ติณฺณํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โสตาปนฺนา อวินิปาตธมฺมา นิยตา สโมฺพธิปรายนา, เตปิ ติริยํ มารสฺส โสตํ เฉตฺวา โสตฺถินา ปารํ คมิสฺสนฺติฯ
‘‘Seyyathāpi te, bhikkhave, vacchakā kisābalakā tiriyaṃ gaṅgāya sotaṃ chetvā sotthinā pāraṃ agamaṃsu, evameva kho, bhikkhave, ye te bhikkhū tiṇṇaṃ saṃyojanānaṃ parikkhayā sotāpannā avinipātadhammā niyatā sambodhiparāyanā, tepi tiriyaṃ mārassa sotaṃ chetvā sotthinā pāraṃ gamissanti.
‘‘เสยฺยถาปิ โส, ภิกฺขเว, วจฺฉโก ตรุณโก ตาวเทว ชาตโก มาตุโครวเกน วุยฺหมาโน ติริยํ คงฺคาย โสตํ เฉตฺวา โสตฺถินา ปารํ อคมาสิ, เอวเมว โข, ภิกฺขเว, เย เต ภิกฺขู ธมฺมานุสาริโน สทฺธานุสาริโน, เตปิ ติริยํ มารสฺส โสตํ เฉตฺวา โสตฺถินา ปารํ คมิสฺสนฺติฯ
‘‘Seyyathāpi so, bhikkhave, vacchako taruṇako tāvadeva jātako mātugoravakena vuyhamāno tiriyaṃ gaṅgāya sotaṃ chetvā sotthinā pāraṃ agamāsi, evameva kho, bhikkhave, ye te bhikkhū dhammānusārino saddhānusārino, tepi tiriyaṃ mārassa sotaṃ chetvā sotthinā pāraṃ gamissanti.
‘‘อหํ โข ปน, ภิกฺขเว, กุสโล อิมสฺส โลกสฺส กุสโล ปรสฺส โลกสฺส, กุสโล มารเธยฺยสฺส กุสโล อมารเธยฺยสฺส, กุสโล มจฺจุเธยฺยสฺส กุสโล อมจฺจุเธยฺยสฺสฯ ตสฺส มยฺหํ, ภิกฺขเว, เย โสตพฺพํ สทฺทหาตพฺพํ มญฺญิสฺสนฺติ, เตสํ ตํ ภวิสฺสติ ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขายา’’ติฯ
‘‘Ahaṃ kho pana, bhikkhave, kusalo imassa lokassa kusalo parassa lokassa, kusalo māradheyyassa kusalo amāradheyyassa, kusalo maccudheyyassa kusalo amaccudheyyassa. Tassa mayhaṃ, bhikkhave, ye sotabbaṃ saddahātabbaṃ maññissanti, tesaṃ taṃ bhavissati dīgharattaṃ hitāya sukhāyā’’ti.
อิทมโวจ ภควาฯ อิทํ วตฺวา สุคโต อถาปรํ เอตทโวจ สตฺถา –
Idamavoca bhagavā. Idaṃ vatvā sugato athāparaṃ etadavoca satthā –
‘‘อยํ โลโก ปโร โลโก, ชานตา สุปฺปกาสิโต;
‘‘Ayaṃ loko paro loko, jānatā suppakāsito;
ยญฺจ มาเรน สมฺปตฺตํ, อปฺปตฺตํ ยญฺจ มจฺจุนาฯ
Yañca mārena sampattaṃ, appattaṃ yañca maccunā.
‘‘สพฺพํ โลกํ อภิญฺญาย, สมฺพุเทฺธน ปชานตา;
‘‘Sabbaṃ lokaṃ abhiññāya, sambuddhena pajānatā;
วิวฎํ อมตทฺวารํ, เขมํ นิพฺพานปตฺติยาฯ
Vivaṭaṃ amatadvāraṃ, khemaṃ nibbānapattiyā.
‘‘ฉินฺนํ ปาปิมโต โสตํ, วิทฺธสฺตํ วินฬีกตํ;
‘‘Chinnaṃ pāpimato sotaṃ, viddhastaṃ vinaḷīkataṃ;
ปาโมชฺชพหุลา โหถ, เขมํ ปตฺตตฺถ 5 ภิกฺขโว’’ติฯ
Pāmojjabahulā hotha, khemaṃ pattattha 6 bhikkhavo’’ti.
จูฬโคปาลกสุตฺตํ นิฎฺฐิตํ จตุตฺถํฯ
Cūḷagopālakasuttaṃ niṭṭhitaṃ catutthaṃ.
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / มชฺฌิมนิกาย (อฎฺฐกถา) • Majjhimanikāya (aṭṭhakathā) / ๔. จูฬโคปาลกสุตฺตวณฺณนา • 4. Cūḷagopālakasuttavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / มชฺฌิมนิกาย (ฎีกา) • Majjhimanikāya (ṭīkā) / ๔. จูฬโคปาลกสุตฺตวณฺณนา • 4. Cūḷagopālakasuttavaṇṇanā