Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / มชฺฌิมนิกาย (อฎฺฐกถา) • Majjhimanikāya (aṭṭhakathā)

    ๔. จูฬโคปาลกสุตฺตวณฺณนา

    4. Cūḷagopālakasuttavaṇṇanā

    ๓๕๐. เอวํ เม สุตนฺติ จูฬโคปาลกสุตฺตํฯ ตตฺถ อุกฺกเจลายนฺติ เอวํนามเก นคเรฯ ตสฺมิํ กิร มาปิยมาเน รตฺติํ คงฺคาโสตโต มโจฺฉ ถลํ ปโตฺตฯ มนุสฺสา เจลานิ เตลปาติยํ เตเมตฺวา อุกฺกา กตฺวา มจฺฉํ คณฺหิํสุฯ นคเร นิฎฺฐิเต ตสฺส นามํ กโรเนฺต อเมฺหหิ นครฎฺฐานสฺส คหิตทิวเส เจลุกฺกาหิ มโจฺฉ คหิโตติ อุกฺกเจลา-เตฺววสฺส นามํ อกํสุฯ ภิกฺขู อามเนฺตสีติ ยสฺมิํ ฐาเน นิสินฺนสฺส สพฺพา คงฺคา ปากฎา หุตฺวา ปญฺญายติ, ตาทิเส วาลิกุสฺสเท คงฺคาติเตฺถ สายนฺหสมเย มหาภิกฺขุสงฺฆปริวุโต นิสีทิตฺวา มหาคงฺคํ ปริปุณฺณํ สนฺทมานํ โอโลเกโนฺต, – ‘‘อตฺถิ นุ โข อิมํ คงฺคํ นิสฺสาย โกจิ ปุเพฺพ วฑฺฒิปริหานิํ ปโตฺต’’ติ อาวชฺชิตฺวา, ปุเพฺพ เอกํ พาลโคปาลกํ นิสฺสาย อเนกสตสหสฺสา โคคณา อิมิสฺสา คงฺคาย อาวเฎฺฎ ปติตฺวา สมุทฺทเมว ปวิฎฺฐา, อปรํ ปน ปณฺฑิตโคปาลกํ นิสฺสาย อเนกสตสหสฺสโคคณสฺส โสตฺถิ ชาตา วฑฺฒิ ชาตา อาโรคฺยํ ชาตนฺติ อทฺทสฯ ทิสฺวา อิมํ การณํ นิสฺสาย ภิกฺขูนํ ธมฺมํ เทเสสฺสามีติ จิเนฺตตฺวา ภิกฺขู อามเนฺตสิฯ

    350.Evaṃme sutanti cūḷagopālakasuttaṃ. Tattha ukkacelāyanti evaṃnāmake nagare. Tasmiṃ kira māpiyamāne rattiṃ gaṅgāsotato maccho thalaṃ patto. Manussā celāni telapātiyaṃ temetvā ukkā katvā macchaṃ gaṇhiṃsu. Nagare niṭṭhite tassa nāmaṃ karonte amhehi nagaraṭṭhānassa gahitadivase celukkāhi maccho gahitoti ukkacelā-tvevassa nāmaṃ akaṃsu. Bhikkhū āmantesīti yasmiṃ ṭhāne nisinnassa sabbā gaṅgā pākaṭā hutvā paññāyati, tādise vālikussade gaṅgātitthe sāyanhasamaye mahābhikkhusaṅghaparivuto nisīditvā mahāgaṅgaṃ paripuṇṇaṃ sandamānaṃ olokento, – ‘‘atthi nu kho imaṃ gaṅgaṃ nissāya koci pubbe vaḍḍhiparihāniṃ patto’’ti āvajjitvā, pubbe ekaṃ bālagopālakaṃ nissāya anekasatasahassā gogaṇā imissā gaṅgāya āvaṭṭe patitvā samuddameva paviṭṭhā, aparaṃ pana paṇḍitagopālakaṃ nissāya anekasatasahassagogaṇassa sotthi jātā vaḍḍhi jātā ārogyaṃ jātanti addasa. Disvā imaṃ kāraṇaṃ nissāya bhikkhūnaṃ dhammaṃ desessāmīti cintetvā bhikkhū āmantesi.

    มาคธโกติ มคธรฎฺฐวาสีฯ ทุปฺปญฺญชาติโกติ นิปฺปญฺญสภาโว ทโนฺธ มหาชโฬฯ อสมเวกฺขิตฺวาติ อสลฺลเกฺขตฺวา อนุปธาเรตฺวาฯ ปตาเรสีติ ตาเรตุํ อารภิฯ อุตฺตรํ ตีรํ สุวิเทหานนฺติ คงฺคาย โอริเม ตีเร มคธรฎฺฐํ, ปาริเม ตีเร วิเทหรฎฺฐํ, คาโว มคธรฎฺฐโต วิเทหรฎฺฐํ เนตฺวา รกฺขิสฺสามีติ อุตฺตรํ ตีรํ ปตาเรสิฯ ตํ สนฺธาย วุตฺตํ – ‘‘อุตฺตรํ ตีรํ สุวิเทหาน’’นฺติฯ อามณฺฑลิกํ กริตฺวาติ มณฺฑลิกํ กตฺวาฯ อนยพฺยสนํ อาปชฺชิํสูติ อวฑฺฒิํ วินาสํ ปาปุณิํสุ, มหาสมุทฺทเมว ปวิสิํสุฯ เตน หิ โคปาลเกน คาโว โอตาเรเนฺตน คงฺคาย โอริมตีเร สมติตฺถญฺจ วิสมติตฺถญฺจ โอโลเกตพฺพํ อสฺส, มเชฺฌ คงฺคาย คุนฺนํ วิสฺสมฎฺฐานตฺถํ เทฺว ตีณิ วาลิกตฺถลานิ สลฺลเกฺขตพฺพานิ อสฺสุฯ ตถา ปาริมตีเร ตีณิ จตฺตาริ ติตฺถานิ, อิมสฺมา ติตฺถา ภฎฺฐา อิมํ ติตฺถํ คณฺหิสฺสนฺติ, อิมสฺมา ภฎฺฐา อิมนฺติฯ อยํ ปน พาลโคปาลโก โอริมตีเร คุนฺนํ โอตรณติตฺถํ สมํ วา วิสมํ วา อโนโลเกตฺวาว มเชฺฌ คงฺคาย คุนฺนํ วิสฺสมฎฺฐานตฺถํ เทฺว ตีณิ วาลิกตฺถลานิปิ อสลฺลเกฺขตฺวาว ปรตีเร จตฺตาริ ปญฺจ อุตฺตรณติตฺถานิ อสมเวกฺขิตฺวาว อติเตฺถเนว คาโว โอตาเรสิฯ อถสฺส มหาอุสโภ ชวนสมฺปนฺนตาย เจว ถามสมฺปนฺนตาย จ ติริยํ คงฺคาย โสตํ เฉตฺวา ปาริมํ ตีรํ ปตฺวา ฉินฺนตฎเญฺจว กณฺฎกคุมฺพคหนญฺจ ทิสฺวา, ‘‘ทุพฺพินิวิฎฺฐเมต’’นฺติ ญตฺวา ธุรคฺค-ปติฎฺฐาโนกาสมฺปิ อลภิตฺวา ปฎินิวตฺติฯ คาโว มหาอุสโภ นิวโตฺต มยมฺปิ นิวตฺติสฺสามาติ นิวตฺตาฯ มหโต โคคณสฺส นิวตฺตฎฺฐาเน อุทกํ ฉิชฺชิตฺวา มเชฺฌ คงฺคาย อาวฎฺฎํ อุฎฺฐเปสิฯ โคคโณ อาวฎฺฎํ ปวิสิตฺวา สมุทฺทเมว ปโตฺตฯ เอโกปิ โคโณ อโรโค นาม นาโหสิฯ เตนาห – ‘‘ตเตฺถว อนยพฺยสนํ อาปชฺชิํสู’’ติฯ

    Māgadhakoti magadharaṭṭhavāsī. Duppaññajātikoti nippaññasabhāvo dandho mahājaḷo. Asamavekkhitvāti asallakkhetvā anupadhāretvā. Patāresīti tāretuṃ ārabhi. Uttaraṃ tīraṃ suvidehānanti gaṅgāya orime tīre magadharaṭṭhaṃ, pārime tīre videharaṭṭhaṃ, gāvo magadharaṭṭhato videharaṭṭhaṃ netvā rakkhissāmīti uttaraṃ tīraṃ patāresi. Taṃ sandhāya vuttaṃ – ‘‘uttaraṃ tīraṃ suvidehāna’’nti. Āmaṇḍalikaṃ karitvāti maṇḍalikaṃ katvā. Anayabyasanaṃ āpajjiṃsūti avaḍḍhiṃ vināsaṃ pāpuṇiṃsu, mahāsamuddameva pavisiṃsu. Tena hi gopālakena gāvo otārentena gaṅgāya orimatīre samatitthañca visamatitthañca oloketabbaṃ assa, majjhe gaṅgāya gunnaṃ vissamaṭṭhānatthaṃ dve tīṇi vālikatthalāni sallakkhetabbāni assu. Tathā pārimatīre tīṇi cattāri titthāni, imasmā titthā bhaṭṭhā imaṃ titthaṃ gaṇhissanti, imasmā bhaṭṭhā imanti. Ayaṃ pana bālagopālako orimatīre gunnaṃ otaraṇatitthaṃ samaṃ vā visamaṃ vā anoloketvāva majjhe gaṅgāya gunnaṃ vissamaṭṭhānatthaṃ dve tīṇi vālikatthalānipi asallakkhetvāva paratīre cattāri pañca uttaraṇatitthāni asamavekkhitvāva atittheneva gāvo otāresi. Athassa mahāusabho javanasampannatāya ceva thāmasampannatāya ca tiriyaṃ gaṅgāya sotaṃ chetvā pārimaṃ tīraṃ patvā chinnataṭañceva kaṇṭakagumbagahanañca disvā, ‘‘dubbiniviṭṭhameta’’nti ñatvā dhuragga-patiṭṭhānokāsampi alabhitvā paṭinivatti. Gāvo mahāusabho nivatto mayampi nivattissāmāti nivattā. Mahato gogaṇassa nivattaṭṭhāne udakaṃ chijjitvā majjhe gaṅgāya āvaṭṭaṃ uṭṭhapesi. Gogaṇo āvaṭṭaṃ pavisitvā samuddameva patto. Ekopi goṇo arogo nāma nāhosi. Tenāha – ‘‘tattheva anayabyasanaṃ āpajjiṃsū’’ti.

    อกุสลา อิมสฺส โลกสฺสาติ อิธ โลเก ขนฺธธาตายตเนสุ อกุสลา อเฉกา, ปรโลเกปิ เอเสว นโยฯ มารเธยฺยํ วุจฺจติ เตภูมกธมฺมาฯ อมารเธยฺยํ นว โลกุตฺตรธมฺมาฯ มจฺจุเธยฺยมฺปิ เตภูมกธมฺมาวฯ อมจฺจุเธยฺยํ นว โลกุตฺตรธมฺมาฯ ตตฺถ อกุสลา อเฉกาฯ วจนตฺถโต ปน มารสฺส เธยฺยํ มารเธยฺยํฯ เธยฺยนฺติ ฐานํ วตฺถุ นิวาโส โคจโรฯ มจฺจุเธเยฺยปิ เอเสว นโยฯ เตสนฺติ เตสํ เอวรูปานํ สมณพฺราหฺมณานํ, อิมินา ฉ สตฺถาโร ทสฺสิตาติ เวทิตพฺพาฯ

    Akusalā imassa lokassāti idha loke khandhadhātāyatanesu akusalā achekā, paralokepi eseva nayo. Māradheyyaṃ vuccati tebhūmakadhammā. Amāradheyyaṃ nava lokuttaradhammā. Maccudheyyampi tebhūmakadhammāva. Amaccudheyyaṃ nava lokuttaradhammā. Tattha akusalā achekā. Vacanatthato pana mārassa dheyyaṃ māradheyyaṃ. Dheyyanti ṭhānaṃ vatthu nivāso gocaro. Maccudheyyepi eseva nayo. Tesanti tesaṃ evarūpānaṃ samaṇabrāhmaṇānaṃ, iminā cha satthāro dassitāti veditabbā.

    ๓๕๑. เอวํ กณฺหปกฺขํ นิฎฺฐเปตฺวา สุกฺกปกฺขํ ทเสฺสโนฺต ภูตปุพฺพํ, ภิกฺขเวติอาทิมาหฯ ตตฺถ พลวคาโวติ ทนฺตโคเณ เจว เธนุโย จฯ ทมฺมคาโวติ ทเมตพฺพโคเณ เจว อวิชาตคาโว จฯ วจฺฉตเรติ วจฺฉภาวํ ตริตฺวา ฐิเต พลววเจฺฉฯ วจฺฉเกติ เธนุปเก ตรุณวจฺฉเก ฯ กิสาพลเกติ อปฺปมํสโลหิเต มนฺทถาเมฯ ตาวเทว ชาตโกติ ตํทิวเส ชาตโกฯ มาตุโครวเกน วุยฺหมาโนติ มาตา ปุรโต ปุรโต หุํหุนฺติ โครวํ กตฺวา สญฺญํ ททมานา อุเรน อุทกํ ฉินฺทมานา คจฺฉติ, วจฺฉโก ตาย โครวสญฺญาย เธนุยา วา อุเรน ฉิโนฺนทเกน คจฺฉมาโน ‘‘มาตุโครวเกน วุยฺหมาโน’’ติ วุจฺจติฯ

    351. Evaṃ kaṇhapakkhaṃ niṭṭhapetvā sukkapakkhaṃ dassento bhūtapubbaṃ, bhikkhavetiādimāha. Tattha balavagāvoti dantagoṇe ceva dhenuyo ca. Dammagāvoti dametabbagoṇe ceva avijātagāvo ca. Vacchatareti vacchabhāvaṃ taritvā ṭhite balavavacche. Vacchaketi dhenupake taruṇavacchake . Kisābalaketi appamaṃsalohite mandathāme. Tāvadeva jātakoti taṃdivase jātako. Mātugoravakena vuyhamānoti mātā purato purato huṃhunti goravaṃ katvā saññaṃ dadamānā urena udakaṃ chindamānā gacchati, vacchako tāya goravasaññāya dhenuyā vā urena chinnodakena gacchamāno ‘‘mātugoravakena vuyhamāno’’ti vuccati.

    ๓๕๒. มารสฺส โสตํ เฉตฺวาติ อรหตฺตมเคฺคน มารสฺส ตณฺหาโสตํ เฉตฺวาฯ ปารํ คตาติ มหาอุสภา นทีปารํ วิย สํสารปารํ นิพฺพานํ คตาฯ ปารํ อคมํสูติ มหาอุสภานํ ปารงฺคตกฺขเณ คงฺคาย โสตสฺส ตโย โกฎฺฐาเส อติกฺกมฺม ฐิตา มหาอุสเภ ปารํ ปเตฺต ทิสฺวา เตสํ คตมคฺคํ ปฎิปชฺชิตฺวา ปารํ อคมํสุฯ ปารํ คมิสฺสนฺตีติ จตุมคฺควชฺฌานํ กิเลสานํ ตโย โกฎฺฐาเส เขเปตฺวา ฐิตา อิทานิ อรหตฺตมเคฺคน อวเสสํ ตณฺหาโสตํ เฉตฺวา พลวคาโว วิย นทีปารํ สํสารปารํ นิพฺพานํ คมิสฺสนฺตีติฯ อิมินา นเยน สพฺพวาเรสุ อโตฺถ เวทิตโพฺพฯ ธมฺมานุสาริโน, สทฺธานุสาริโนติ อิเม เทฺว ปฐมมคฺคสมงฺคิโนฯ

    352.Mārassasotaṃ chetvāti arahattamaggena mārassa taṇhāsotaṃ chetvā. Pāraṃ gatāti mahāusabhā nadīpāraṃ viya saṃsārapāraṃ nibbānaṃ gatā. Pāraṃ agamaṃsūti mahāusabhānaṃ pāraṅgatakkhaṇe gaṅgāya sotassa tayo koṭṭhāse atikkamma ṭhitā mahāusabhe pāraṃ patte disvā tesaṃ gatamaggaṃ paṭipajjitvā pāraṃ agamaṃsu. Pāraṃ gamissantīti catumaggavajjhānaṃ kilesānaṃ tayo koṭṭhāse khepetvā ṭhitā idāni arahattamaggena avasesaṃ taṇhāsotaṃ chetvā balavagāvo viya nadīpāraṃ saṃsārapāraṃ nibbānaṃ gamissantīti. Iminā nayena sabbavāresu attho veditabbo. Dhammānusārino, saddhānusārinoti ime dve paṭhamamaggasamaṅgino.

    ชานตาติ สพฺพธเมฺม ชานเนฺตน พุเทฺธนฯ สุปฺปกาสิโตติ สุกถิโตฯ วิวฎนฺติ วิวริตํฯ อมตทฺวารนฺติ อริยมโคฺคฯ นิพฺพานปตฺติยาติ ตทตฺถาย วิวฎํฯ วินฬีกตนฺติ วิคตมานนฬํ กตํฯ เขมํ ปเตฺถถาติ กตฺตุกมฺยตาฉเนฺทน อรหตฺตํ ปเตฺถถ, กตฺตุกามา นิพฺพเตฺตตุกามา โหถาติ อโตฺถฯ ‘‘ปตฺต’ตฺถา’’ติปิ ปาโฐฯ เอวรูปํ สตฺถารํ ลภิตฺวา ตุเมฺห ปตฺตาเยว นามาติ อโตฺถฯ เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวฯ ภควา ปน ยถานุสนฺธินาว เทสนํ นิฎฺฐเปสีติฯ

    Jānatāti sabbadhamme jānantena buddhena. Suppakāsitoti sukathito. Vivaṭanti vivaritaṃ. Amatadvāranti ariyamaggo. Nibbānapattiyāti tadatthāya vivaṭaṃ. Vinaḷīkatanti vigatamānanaḷaṃ kataṃ. Khemaṃ patthethāti kattukamyatāchandena arahattaṃ patthetha, kattukāmā nibbattetukāmā hothāti attho. ‘‘Patta’tthā’’tipi pāṭho. Evarūpaṃ satthāraṃ labhitvā tumhe pattāyeva nāmāti attho. Sesaṃ sabbattha uttānameva. Bhagavā pana yathānusandhināva desanaṃ niṭṭhapesīti.

    ปปญฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฎฺฐกถาย

    Papañcasūdaniyā majjhimanikāyaṭṭhakathāya

    จูฬโคปาลกสุตฺตวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Cūḷagopālakasuttavaṇṇanā niṭṭhitā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / มชฺฌิมนิกาย • Majjhimanikāya / ๔. จูฬโคปาลกสุตฺตํ • 4. Cūḷagopālakasuttaṃ

    ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / มชฺฌิมนิกาย (ฎีกา) • Majjhimanikāya (ṭīkā) / ๔. จูฬโคปาลกสุตฺตวณฺณนา • 4. Cūḷagopālakasuttavaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact