Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / เถรคาถา-อฎฺฐกถา • Theragāthā-aṭṭhakathā |
๖. จูฬกเตฺถรคาถาวณฺณนา
6. Cūḷakattheragāthāvaṇṇanā
นทนฺติ โมรา สุสิขา สุเปขุณาติ อายสฺมโต จูฬกเตฺถรสฺส คาถาฯ กา อุปฺปตฺติ? อยมฺปิ ปุริมพุเทฺธสุ กตาธิกาโร ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฎฺฎูปนิสฺสยํ กุสลํ อุปจินโนฺต อิโต เอกติํเส กเปฺป สิขิสฺส ภควโต กาเล กุลเคเห นิพฺพตฺติตฺวา วิญฺญุตํ ปโตฺต เอกทิวสํ สตฺถารํ ทิสฺวา ปสนฺนมานโส ฉตฺตปณฺณิผลํ อทาสิฯ โส เตน ปุญฺญกเมฺมน เทวมนุเสฺสสุ สํสรโนฺต อิมสฺมิํ พุทฺธุปฺปาเท ราชคเห พฺราหฺมณกุเล นิพฺพตฺติตฺวา จูฬโกติ ลทฺธนาโม วยปฺปโตฺต ธนปาลทมเน สตฺถริ ลทฺธปฺปสาโท ปพฺพชิตฺวา สมณธมฺมํ กโรโนฺต อินฺทสาลคุหายํ วสติ, โส เอกทิวสํ คุหาทฺวาเร นิสิโนฺน มคธเกฺขตฺตํ โอโลเกสิฯ ตสฺมิํ ขเณ ปาวุสกาลเมโฆ คมฺภีรมธุรนิโคฺฆโส สตปฎลสหสฺสปฎโล อญฺชน สิขรสนฺนิกาโส นภํ ปูเรตฺวา ปวสฺสติ, มยูรสงฺฆา จ เมฆคชฺชิตํ สุตฺวา หฎฺฐตุฎฺฐา เกกาสทฺทํ มุญฺจิตฺวา ตตฺถ ตตฺถ ปเทเส นจฺจนฺตา วิจรนฺติฯ เถรสฺสปิ อาวาสคเพฺภ เมฆวาตผเสฺสหิ อปคตธมฺมตฺตา ปสฺสทฺธกรชกาเย กลฺลตํ ปเตฺต อุตุสปฺปายลาเภน จิตฺตํ เอกคฺคํ อโหสิ, กมฺมฎฺฐานวีถิํ โอตริ, โส ตํ ญตฺวา กาลสมฺปทาทิกิตฺตนมุเขน อตฺตานํ ภาวนาย อุสฺสาเหโนฺต –
Nadanti morā susikhā supekhuṇāti āyasmato cūḷakattherassa gāthā. Kā uppatti? Ayampi purimabuddhesu katādhikāro tattha tattha bhave vivaṭṭūpanissayaṃ kusalaṃ upacinanto ito ekatiṃse kappe sikhissa bhagavato kāle kulagehe nibbattitvā viññutaṃ patto ekadivasaṃ satthāraṃ disvā pasannamānaso chattapaṇṇiphalaṃ adāsi. So tena puññakammena devamanussesu saṃsaranto imasmiṃ buddhuppāde rājagahe brāhmaṇakule nibbattitvā cūḷakoti laddhanāmo vayappatto dhanapāladamane satthari laddhappasādo pabbajitvā samaṇadhammaṃ karonto indasālaguhāyaṃ vasati, so ekadivasaṃ guhādvāre nisinno magadhakkhettaṃ olokesi. Tasmiṃ khaṇe pāvusakālamegho gambhīramadhuranigghoso satapaṭalasahassapaṭalo añjana sikharasannikāso nabhaṃ pūretvā pavassati, mayūrasaṅghā ca meghagajjitaṃ sutvā haṭṭhatuṭṭhā kekāsaddaṃ muñcitvā tattha tattha padese naccantā vicaranti. Therassapi āvāsagabbhe meghavātaphassehi apagatadhammattā passaddhakarajakāye kallataṃ patte utusappāyalābhena cittaṃ ekaggaṃ ahosi, kammaṭṭhānavīthiṃ otari, so taṃ ñatvā kālasampadādikittanamukhena attānaṃ bhāvanāya ussāhento –
๒๑๑.
211.
‘‘นทนฺติ โมรา สุสิขา สุเปขุณา, สุนีลคีวา สุมุขา สุคชฺชิโน;
‘‘Nadanti morā susikhā supekhuṇā, sunīlagīvā sumukhā sugajjino;
สุสทฺทลา จาปิ มหามหี อยํ, สุพฺยาปิตมฺพุ สุวลาหกํ นภํฯ
Susaddalā cāpi mahāmahī ayaṃ, subyāpitambu suvalāhakaṃ nabhaṃ.
๒๑๒.
212.
‘‘สุกลฺลรูโป สุมนสฺส ฌายตํ, สุนิกฺกโม สาธุ สุพุทฺธสาสเน;
‘‘Sukallarūpo sumanassa jhāyataṃ, sunikkamo sādhu subuddhasāsane;
สุสุกฺกสุกฺกํ นิปุณํ สุทุทฺทสํ, ผุสาหิ ตํ อุตฺตมมจฺจุตํ ปท’’นฺติฯ –
Susukkasukkaṃ nipuṇaṃ sududdasaṃ, phusāhi taṃ uttamamaccutaṃ pada’’nti. –
เทฺว คาถา อภาสิฯ
Dve gāthā abhāsi.
ตตฺถ นทนฺติ โมรา สุสิขา สุเปขุณา, สุนีลคีวา สุมุขา สุคชฺชิโนติ เอเต มตฺถเก อุฎฺฐิตาหิ สุนฺทราหิ สิขาหิ สมนฺนาคตตฺตา สุสิขา, นานาวเณฺณหิ อเนเกหิ โสภเนหิ ภทฺทกปิเญฺฉหิ สมนฺนาคตตฺตา สุเปขุณา, ราชีววณฺณสงฺกาสาย สุนฺทราย นีลวณฺณาย คีวาย สมนฺนาคตตฺตา สุนีลคีวา, สุนฺทรมุขตาย สุมุขา, มนุญฺญวาทิตาย สุคชฺชิโน, โมรา สิขณฺฑิโน ฉชฺชสํวาที เกกาสทฺทํ มุญฺจนฺตา นทนฺติ รวนฺติฯ สุสทฺทลา จาปิ มหามหี อยนฺติ อยญฺจ มหาปถวี สุสทฺทลา สุนฺทรหริตติณาฯ สุพฺยาปิตมฺพูติ อภินววุฎฺฐิยา ตหํ ตหํ วิสฺสนฺทมานสลิลตาย สุฎฺฐุ พฺยาปิตชลา วิตตชลาฯ ‘‘สุสุกฺกตมฺพู’’ติปิ ปาโฐ, สุวิสุทฺธชลาติ อโตฺถฯ สุวลาหกํ นภนฺติ อิทญฺจ นภํ อากาสํ นีลุปฺปลทลสนฺนิเภหิ สมนฺตโต ปูเรตฺวา ฐิเตหิ สุนฺทเรหิ วลาหเกหิ เมเฆหิ สุวลาหกํฯ
Tattha nadanti morā susikhā supekhuṇā, sunīlagīvā sumukhā sugajjinoti ete matthake uṭṭhitāhi sundarāhi sikhāhi samannāgatattā susikhā, nānāvaṇṇehi anekehi sobhanehi bhaddakapiñchehi samannāgatattā supekhuṇā, rājīvavaṇṇasaṅkāsāya sundarāya nīlavaṇṇāya gīvāya samannāgatattā sunīlagīvā, sundaramukhatāya sumukhā, manuññavāditāya sugajjino, morā sikhaṇḍino chajjasaṃvādī kekāsaddaṃ muñcantā nadanti ravanti. Susaddalā cāpi mahāmahī ayanti ayañca mahāpathavī susaddalā sundaraharitatiṇā. Subyāpitambūti abhinavavuṭṭhiyā tahaṃ tahaṃ vissandamānasalilatāya suṭṭhu byāpitajalā vitatajalā. ‘‘Susukkatambū’’tipi pāṭho, suvisuddhajalāti attho. Suvalāhakaṃ nabhanti idañca nabhaṃ ākāsaṃ nīluppaladalasannibhehi samantato pūretvā ṭhitehi sundarehi valāhakehi meghehi suvalāhakaṃ.
สุกลฺลรูโป สุมนสฺส ฌายตนฺติ อิทานิ อุตุสปฺปายลาเภน สุฎฺฐุ กลฺลรูโป กมฺมนิยสภาโว ตฺวํ, นีวรเณหิ อนชฺฌารูฬฺหจิตฺตตาย สุนฺทรมนสฺส โยคาวจรสฺส ยํ อารมฺมณูปนิชฺฌานวเสน ลกฺขณูปนิชฺฌานวเสน จ ฌายตํฯ สุนิกฺกโม…เป.… อจฺจุตํ ปทนฺติ เอวํ ฌายโนฺต จ สาธุ สุพุทฺธสฺส สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส สาสเน สุนฺทรนิกฺกโม หุตฺวา สุปริสุทฺธสีลตาย สุสุกฺกํ, วิสุทฺธสภาวตาย สพฺพสฺสปิ สํกิเลสสฺส โคจรภาวานุปคมนโต สุกฺกํ, นิปุณญาณโคจรตาย นิปุณํ, ปรมคมฺภีรตาย สุทุทฺทสํ, ปณีตภาเวน เสฎฺฐภาเวน จ อุตฺตมํ, นิจฺจสภาวตาย อจฺจุตํ ปทํ ตํ นิพฺพานํ ผุสาหิ อตฺตปจฺจกฺขกรเณน สมฺมาปฎิปตฺติยา สจฺฉิกโรหีติฯ
Sukallarūposumanassa jhāyatanti idāni utusappāyalābhena suṭṭhu kallarūpo kammaniyasabhāvo tvaṃ, nīvaraṇehi anajjhārūḷhacittatāya sundaramanassa yogāvacarassa yaṃ ārammaṇūpanijjhānavasena lakkhaṇūpanijjhānavasena ca jhāyataṃ. Sunikkamo…pe… accutaṃ padanti evaṃ jhāyanto ca sādhu subuddhassa sammāsambuddhassa sāsane sundaranikkamo hutvā suparisuddhasīlatāya susukkaṃ, visuddhasabhāvatāya sabbassapi saṃkilesassa gocarabhāvānupagamanato sukkaṃ, nipuṇañāṇagocaratāya nipuṇaṃ, paramagambhīratāya sududdasaṃ, paṇītabhāvena seṭṭhabhāvena ca uttamaṃ, niccasabhāvatāya accutaṃ padaṃ taṃ nibbānaṃ phusāhi attapaccakkhakaraṇena sammāpaṭipattiyā sacchikarohīti.
เอวํ เถโร อตฺตานํ โอวทโนฺตว อุตุสปฺปายลาเภน สมาหิตจิโตฺต วิปสฺสนํ อุสฺสุกฺกาเปตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณิฯ เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถร ๑.๓๙.๓๗-๔๒) –
Evaṃ thero attānaṃ ovadantova utusappāyalābhena samāhitacitto vipassanaṃ ussukkāpetvā arahattaṃ pāpuṇi. Tena vuttaṃ apadāne (apa. thera 1.39.37-42) –
‘‘กณิการํว ชลิตํ, ปุณฺณมาเยว จนฺทิมํ;
‘‘Kaṇikāraṃva jalitaṃ, puṇṇamāyeva candimaṃ;
ชลนฺตํ ทีปรุกฺขํว, อทฺทสํ โลกนายกํฯ
Jalantaṃ dīparukkhaṃva, addasaṃ lokanāyakaṃ.
‘‘กทลิผลํ ปคฺคยฺห, อทาสิํ สตฺถุโน อหํ;
‘‘Kadaliphalaṃ paggayha, adāsiṃ satthuno ahaṃ;
ปสนฺนจิโตฺต สุมโน, วนฺทิตฺวาน อปกฺกมิํฯ
Pasannacitto sumano, vanditvāna apakkamiṃ.
‘‘เอกติํเส อิโต กเปฺป, ยํ ผลมททิํ ตทา;
‘‘Ekatiṃse ito kappe, yaṃ phalamadadiṃ tadā;
ทุคฺคติํ นาภิชานามิ, ผลทานสฺสิทํ ผลํฯ
Duggatiṃ nābhijānāmi, phaladānassidaṃ phalaṃ.
‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ…เป.… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติฯ
‘‘Kilesā jhāpitā mayhaṃ…pe… kataṃ buddhassa sāsana’’nti.
อรหตฺตํ ปน ปตฺวา เถโร อตฺตโน ปฎิปตฺติํ ปจฺจเวกฺขิตฺวา ปีติโสมนสฺสชาโต ‘‘นทนฺติ โมรา’’ติอาทินา ตาเยว คาถา ปจฺจุทาหาสิฯ เตนสฺส อิทเมว อญฺญาพฺยากรณํ อโหสีติฯ
Arahattaṃ pana patvā thero attano paṭipattiṃ paccavekkhitvā pītisomanassajāto ‘‘nadanti morā’’tiādinā tāyeva gāthā paccudāhāsi. Tenassa idameva aññābyākaraṇaṃ ahosīti.
จูฬกเตฺถรคาถาวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Cūḷakattheragāthāvaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / เถรคาถาปาฬิ • Theragāthāpāḷi / ๖. จูฬกเตฺถรคาถา • 6. Cūḷakattheragāthā