Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย • Aṅguttaranikāya |
๑๐. จูฬนิกาสุตฺตํ
10. Cūḷanikāsuttaṃ
๘๑. อถ โข อายสฺมา อานโนฺท เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ ฯ เอกมนฺตํ นิสิโนฺน โข อายสฺมา อานโนฺท ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘สมฺมุขาเมตํ, ภเนฺต, ภควโต สุตํ สมฺมุขา ปฎิคฺคหิตํ – ‘ภควโต, อานนฺท, สิขิสฺส อภิภู นาม สาวโก พฺรหฺมโลเก ฐิโต สหสฺสิโลกธาตุํ 1 สเรน วิญฺญาเปสี’ติฯ ภควา ปน, ภเนฺต, อรหํ สมฺมาสมฺพุโทฺธ กีวตกํ ปโหติ สเรน วิญฺญาเปตุ’’นฺติ? ‘‘สาวโก โส, อานนฺท, อปฺปเมยฺยา ตถาคตา’’ติฯ
81. Atha kho āyasmā ānando yena bhagavā tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā bhagavantaṃ abhivādetvā ekamantaṃ nisīdi . Ekamantaṃ nisinno kho āyasmā ānando bhagavantaṃ etadavoca – ‘‘sammukhāmetaṃ, bhante, bhagavato sutaṃ sammukhā paṭiggahitaṃ – ‘bhagavato, ānanda, sikhissa abhibhū nāma sāvako brahmaloke ṭhito sahassilokadhātuṃ 2 sarena viññāpesī’ti. Bhagavā pana, bhante, arahaṃ sammāsambuddho kīvatakaṃ pahoti sarena viññāpetu’’nti? ‘‘Sāvako so, ānanda, appameyyā tathāgatā’’ti.
ทุติยมฺปิ โข อายสฺมา อานโนฺท ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘สมฺมุขา เมตํ, ภเนฺต, ภควโต สุตํ สมฺมุขา ปฎิคฺคหิตํ – ‘ภควโต, อานนฺท, สิขิสฺส อภิภู นาม สาวโก พฺรหฺมโลเก ฐิโต สหสฺสิโลกธาตุํ สเรน วิญฺญาเปสี’ติฯ ภควา ปน, ภเนฺต, อรหํ สมฺมาสมฺพุโทฺธ กีวตกํ ปโหติ สเรน วิญฺญาเปตุ’’นฺติ? ‘‘สาวโก โส, อานนฺท, อปฺปเมยฺยา ตถาคตา’’ติฯ
Dutiyampi kho āyasmā ānando bhagavantaṃ etadavoca – ‘‘sammukhā metaṃ, bhante, bhagavato sutaṃ sammukhā paṭiggahitaṃ – ‘bhagavato, ānanda, sikhissa abhibhū nāma sāvako brahmaloke ṭhito sahassilokadhātuṃ sarena viññāpesī’ti. Bhagavā pana, bhante, arahaṃ sammāsambuddho kīvatakaṃ pahoti sarena viññāpetu’’nti? ‘‘Sāvako so, ānanda, appameyyā tathāgatā’’ti.
ตติยมฺปิ โข อายสฺมา อานโนฺท ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘สมฺมุขาเมตํ, ภเนฺต, ภควโต สุตํ สมฺมุขา ปฎิคฺคหิตํ – ‘ภควโต, อานนฺท, สิขิสฺส อภิภู นาม สาวโก พฺรหฺมโลเก ฐิโต สหสฺสิโลกธาตุํ สเรน วิญฺญาเปสี’ติฯ ภควา ปน, ภเนฺต, อรหํ สมฺมาสมฺพุโทฺธ กีวตกํ ปโหติ สเรน วิญฺญาเปตุ’’นฺติ? ‘‘สุตา เต, อานนฺท, สหสฺสี จูฬนิกา โลกธาตู’’ติ? ‘‘เอตสฺส, ภควา, กาโล; เอตสฺส, สุคต, กาโล! ยํ ภควา ภาเสยฺยฯ ภควโต สุตฺวา ภิกฺขู ธาเรสฺสนฺตี’’ติฯ ‘‘เตนหานนฺท, สุณาหิ สาธุกํ มนสิ กโรหิ, ภาสิสฺสามี’’ติฯ ‘‘เอวํ, ภเนฺต’’ติ โข อายสฺมา อานโนฺท ภควโต ปจฺจโสฺสสิฯ ภควา เอตทโวจ –
Tatiyampi kho āyasmā ānando bhagavantaṃ etadavoca – ‘‘sammukhāmetaṃ, bhante, bhagavato sutaṃ sammukhā paṭiggahitaṃ – ‘bhagavato, ānanda, sikhissa abhibhū nāma sāvako brahmaloke ṭhito sahassilokadhātuṃ sarena viññāpesī’ti. Bhagavā pana, bhante, arahaṃ sammāsambuddho kīvatakaṃ pahoti sarena viññāpetu’’nti? ‘‘Sutā te, ānanda, sahassī cūḷanikā lokadhātū’’ti? ‘‘Etassa, bhagavā, kālo; etassa, sugata, kālo! Yaṃ bhagavā bhāseyya. Bhagavato sutvā bhikkhū dhāressantī’’ti. ‘‘Tenahānanda, suṇāhi sādhukaṃ manasi karohi, bhāsissāmī’’ti. ‘‘Evaṃ, bhante’’ti kho āyasmā ānando bhagavato paccassosi. Bhagavā etadavoca –
‘‘ยาวตา, อานนฺท, จนฺทิมสูริยา 3 ปริหรนฺติ, ทิสา ภนฺติ วิโรจนา, ตาว สหสฺสธา โลโกฯ ตสฺมิํ สหสฺสธา โลเก สหสฺสํ 4 จนฺทานํ, สหสฺสํ สูริยานํ, สหสฺสํ สิเนรุปพฺพตราชานํ, สหสฺสํ ชมฺพุทีปานํ, สหสฺสํ อปรโคยานานํ, สหสฺสํ อุตฺตรกุรูนํ, สหสฺสํ ปุพฺพวิเทหานํ, จตฺตาริ มหาสมุทฺทสหสฺสานิ, จตฺตาริ มหาราชสหสฺสานิ, สหสฺสํ จาตุมหาราชิกานํ, สหสฺสํ ตาวติํสานํ , สหสฺสํ ยามานํ , สหสฺสํ ตุสิตานํ, สหสฺสํ นิมฺมานรตีนํ, สหสฺสํ ปรนิมฺมิตวสวตฺตีนํ, สหสฺสํ พฺรหฺมโลกานํ – อยํ วุจฺจตานนฺท, สหสฺสี จูฬนิกา โลกธาตุฯ
‘‘Yāvatā, ānanda, candimasūriyā 5 pariharanti, disā bhanti virocanā, tāva sahassadhā loko. Tasmiṃ sahassadhā loke sahassaṃ 6 candānaṃ, sahassaṃ sūriyānaṃ, sahassaṃ sinerupabbatarājānaṃ, sahassaṃ jambudīpānaṃ, sahassaṃ aparagoyānānaṃ, sahassaṃ uttarakurūnaṃ, sahassaṃ pubbavidehānaṃ, cattāri mahāsamuddasahassāni, cattāri mahārājasahassāni, sahassaṃ cātumahārājikānaṃ, sahassaṃ tāvatiṃsānaṃ , sahassaṃ yāmānaṃ , sahassaṃ tusitānaṃ, sahassaṃ nimmānaratīnaṃ, sahassaṃ paranimmitavasavattīnaṃ, sahassaṃ brahmalokānaṃ – ayaṃ vuccatānanda, sahassī cūḷanikā lokadhātu.
‘‘ยาวตานนฺท , สหสฺสี จูฬนิกา โลกธาตุ ตาว สหสฺสธา โลโกฯ อยํ วุจฺจตานนฺท, ทฺวิสหสฺสี มชฺฌิมิกา โลกธาตุฯ
‘‘Yāvatānanda , sahassī cūḷanikā lokadhātu tāva sahassadhā loko. Ayaṃ vuccatānanda, dvisahassī majjhimikā lokadhātu.
‘‘ยาวตานนฺท, ทฺวิสหสฺสี มชฺฌิมิกา โลกธาตุ ตาว สหสฺสธา โลโกฯ อยํ วุจฺจตานนฺท, ติสหสฺสี มหาสหสฺสี โลกธาตุฯ
‘‘Yāvatānanda, dvisahassī majjhimikā lokadhātu tāva sahassadhā loko. Ayaṃ vuccatānanda, tisahassī mahāsahassī lokadhātu.
‘‘อากงฺขมาโน, อานนฺท, ตถาคโต ติสหสฺสิมหาสหสฺสิโลกธาตุํ 7 สเรน วิญฺญาเปยฺย, ยาวตา ปน อากเงฺขยฺยา’’ติฯ
‘‘Ākaṅkhamāno, ānanda, tathāgato tisahassimahāsahassilokadhātuṃ 8 sarena viññāpeyya, yāvatā pana ākaṅkheyyā’’ti.
‘‘ยถา กถํ ปน, ภเนฺต, ภควา ติสหสฺสิมหาสหสฺสิโลกธาตุํ สเรน วิญฺญาเปยฺย, ยาวตา ปน อากเงฺขยฺยา’’ติ? ‘‘อิธานนฺท, ตถาคโต ติสหสฺสิมหาสหสฺสิโลกธาตุํ โอภาเสน ผเรยฺยฯ ยทา เต สตฺตา ตํ อาโลกํ สญฺชาเนยฺยุํ, อถ ตถาคโต โฆสํ กเรยฺย สทฺทมนุสฺสาเวยฺยฯ เอวํ โข, อานนฺท, ตถาคโต ติสหสฺสิมหาสหสฺสิโลกธาตุํ สเรน วิญฺญาเปยฺย, ยาวตา ปน อากเงฺขยฺยา’’ติฯ
‘‘Yathā kathaṃ pana, bhante, bhagavā tisahassimahāsahassilokadhātuṃ sarena viññāpeyya, yāvatā pana ākaṅkheyyā’’ti? ‘‘Idhānanda, tathāgato tisahassimahāsahassilokadhātuṃ obhāsena phareyya. Yadā te sattā taṃ ālokaṃ sañjāneyyuṃ, atha tathāgato ghosaṃ kareyya saddamanussāveyya. Evaṃ kho, ānanda, tathāgato tisahassimahāsahassilokadhātuṃ sarena viññāpeyya, yāvatā pana ākaṅkheyyā’’ti.
เอวํ วุเตฺต อายสฺมา อานโนฺท (อายสฺมนฺตํ อุทายิํ) 9 เอตทโวจ – ‘‘ลาภา วต เม, สุลทฺธํ วต เม, ยสฺส เม สตฺถา เอวํมหิทฺธิโก เอวํมหานุภาโว’’ติฯ เอวํ วุเตฺต อายสฺมา อุทายี อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ เอตทโวจ – ‘‘กิํ ตุเยฺหตฺถ, อาวุโส อานนฺท, ยทิ เต สตฺถา เอวํมหิทฺธิโก เอวํมหานุภาโว’’ติ? เอวํ วุเตฺต ภควา อายสฺมนฺตํ อุทายิํ เอตทโวจ – ‘‘มา เหวํ, อุทายิ, มา เหวํ, อุทายิฯ สเจ, อุทายิ, อานโนฺท อวีตราโค กาลํ กเรยฺย, เตน จิตฺตปฺปสาเทน สตฺตกฺขตฺตุํ เทเวสุ เทวรชฺชํ กาเรยฺย, สตฺตกฺขตฺตุํ อิมสฺมิํเยว ชมฺพุทีเป มหารชฺชํ กาเรยฺยฯ อปิ จ, อุทายิ, อานโนฺท ทิเฎฺฐว ธเมฺม ปรินิพฺพายิสฺสตี’’ติฯ ทสมํฯ
Evaṃ vutte āyasmā ānando (āyasmantaṃ udāyiṃ) 10 etadavoca – ‘‘lābhā vata me, suladdhaṃ vata me, yassa me satthā evaṃmahiddhiko evaṃmahānubhāvo’’ti. Evaṃ vutte āyasmā udāyī āyasmantaṃ ānandaṃ etadavoca – ‘‘kiṃ tuyhettha, āvuso ānanda, yadi te satthā evaṃmahiddhiko evaṃmahānubhāvo’’ti? Evaṃ vutte bhagavā āyasmantaṃ udāyiṃ etadavoca – ‘‘mā hevaṃ, udāyi, mā hevaṃ, udāyi. Sace, udāyi, ānando avītarāgo kālaṃ kareyya, tena cittappasādena sattakkhattuṃ devesu devarajjaṃ kāreyya, sattakkhattuṃ imasmiṃyeva jambudīpe mahārajjaṃ kāreyya. Api ca, udāyi, ānando diṭṭheva dhamme parinibbāyissatī’’ti. Dasamaṃ.
อานนฺทวโคฺค ตติโยฯ
Ānandavaggo tatiyo.
ตสฺสุทฺทานํ –
Tassuddānaṃ –
ฉโนฺน อาชีวโก สโกฺก, นิคโณฺฐ จ นิเวสโก;
Channo ājīvako sakko, nigaṇṭho ca nivesako;
ทุเว ภวา สีลพฺพตํ, คนฺธชาตญฺจ จูฬนีติฯ
Duve bhavā sīlabbataṃ, gandhajātañca cūḷanīti.
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / องฺคุตฺตรนิกาย (อฎฺฐกถา) • Aṅguttaranikāya (aṭṭhakathā) / ๑๐. จูฬนิกาสุตฺตวณฺณนา • 10. Cūḷanikāsuttavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / องฺคุตฺตรนิกาย (ฎีกา) • Aṅguttaranikāya (ṭīkā) / ๑๐. จูฬนิกาสุตฺตวณฺณนา • 10. Cūḷanikāsuttavaṇṇanā