Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / อุทาน-อฎฺฐกถา • Udāna-aṭṭhakathā |
๑๐. จูฬปนฺถกสุตฺตวณฺณนา
10. Cūḷapanthakasuttavaṇṇanā
๕๐. ทสเม จูฬปนฺถโกติ มหาปนฺถกเตฺถรสฺส กนิฎฺฐภาติกตฺตา ปเนฺถ ชาตตฺตา จ ทหรกาเล ลทฺธโวหาเรน อปรภาเคปิ อยมายสฺมา ‘‘จูฬปนฺถโก’’เตฺวว ปญฺญายิตฺถฯ คุณวิเสเสหิ ปน ฉฬภิโญฺญ ปภินฺนปฎิสมฺภิโท ‘‘เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, มม สาวกานํ ภิกฺขูนํ มโนมยํ กายํ อภินิมฺมินนฺตานํ ยทิทํ จูฬปนฺถโก, เจโตวิวฎฺฎกุสลานํ ยทิทํ จูฬปนฺถโก’’ติ ทฺวีสุ (อ. นิ. ๑.๑๙๙) ฐาเนสุ ภควตา เอตทเคฺค ฐปิโต อสีติยา มหาสาวเกสุ อพฺภนฺตโรฯ
50. Dasame cūḷapanthakoti mahāpanthakattherassa kaniṭṭhabhātikattā panthe jātattā ca daharakāle laddhavohārena aparabhāgepi ayamāyasmā ‘‘cūḷapanthako’’tveva paññāyittha. Guṇavisesehi pana chaḷabhiñño pabhinnapaṭisambhido ‘‘etadaggaṃ, bhikkhave, mama sāvakānaṃ bhikkhūnaṃ manomayaṃ kāyaṃ abhinimminantānaṃ yadidaṃ cūḷapanthako, cetovivaṭṭakusalānaṃ yadidaṃ cūḷapanthako’’ti dvīsu (a. ni. 1.199) ṭhānesu bhagavatā etadagge ṭhapito asītiyā mahāsāvakesu abbhantaro.
โส เอกทิวสํ ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฺปฎิกฺกโนฺต อตฺตโน ทิวาฎฺฐาเน ทิวาวิหารํ นิสิโนฺน สมาปตฺตีหิ ทิวสภาคํ วีตินาเมตฺวา สายนฺหสมยํ อุปาสเกสุ ธมฺมสฺสวนตฺถํ อนาคเตสุ เอว วิหารมชฺฌํ ปวิสิตฺวา ภควติ คนฺธกุฎิยํ นิสิเนฺน ‘‘อกาโล ตาว ภควโต อุปฎฺฐานํ อุปสงฺกมิตุ’’นฺติ คนฺธกุฎิปมุเข เอกมนฺตํ นิสีทิ ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวาฯ เตน วุตฺตํ – ‘‘เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา จูฬปนฺถโก ภควโต อวิทูเร นิสิโนฺน โหติ ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา อุชุํ กายํ ปณิธาย ปริมุขํ สติํ อุปฎฺฐเปตฺวา’’ติฯ โส หิ ตทา กาลปริเจฺฉทํ กตฺวา สมาปตฺติํ สมาปชฺชิตฺวา นิสีทิฯ
So ekadivasaṃ pacchābhattaṃ piṇḍapātappaṭikkanto attano divāṭṭhāne divāvihāraṃ nisinno samāpattīhi divasabhāgaṃ vītināmetvā sāyanhasamayaṃ upāsakesu dhammassavanatthaṃ anāgatesu eva vihāramajjhaṃ pavisitvā bhagavati gandhakuṭiyaṃ nisinne ‘‘akālo tāva bhagavato upaṭṭhānaṃ upasaṅkamitu’’nti gandhakuṭipamukhe ekamantaṃ nisīdi pallaṅkaṃ ābhujitvā. Tena vuttaṃ – ‘‘tena kho pana samayena āyasmā cūḷapanthako bhagavato avidūre nisinno hoti pallaṅkaṃ ābhujitvā ujuṃ kāyaṃ paṇidhāya parimukhaṃ satiṃ upaṭṭhapetvā’’ti. So hi tadā kālaparicchedaṃ katvā samāpattiṃ samāpajjitvā nisīdi.
เอตมตฺถํ วิทิตฺวาติ เอตํ อายสฺมโต จูฬปนฺถกสฺส กายจิตฺตานํ สมฺมาปณิหิตภาวสงฺขาตํ อตฺถํ ชานิตฺวาฯ อิมํ อุทานนฺติ อโญฺญปิ โย ปสฺสทฺธกาโย สพฺพิริยาปเถสุ อุปฎฺฐิตสฺสติ สมาหิโต, ตสฺส ภิกฺขุโน อนุปาทา ปรินิพฺพานปริโยสานสฺส วิเสสาธิคมสฺส ตตฺถ ปาตุภาววิภาวนํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิฯ
Etamatthaṃ viditvāti etaṃ āyasmato cūḷapanthakassa kāyacittānaṃ sammāpaṇihitabhāvasaṅkhātaṃ atthaṃ jānitvā. Imaṃ udānanti aññopi yo passaddhakāyo sabbiriyāpathesu upaṭṭhitassati samāhito, tassa bhikkhuno anupādā parinibbānapariyosānassa visesādhigamassa tattha pātubhāvavibhāvanaṃ imaṃ udānaṃ udānesi.
ตตฺถ ฐิเตน กาเยนาติ กายทฺวาริกสฺส อสํวรสฺส ปหาเนน อกรเณน สมฺมา ฐปิเตน โจปนกาเยน, ตถา จกฺขาทีนํ อินฺทฺริยานํ นิพฺพิเสวนภาวกรเณน สุฎฺฐุ ฐปิเตน ปญฺจทฺวาริกกาเยน, สํยตหตฺถปาทตาย หตฺถกุกฺกุจฺจาทีนํ อภาวโต อปริผนฺทเนน ฐิเตน กรชกาเยน จาติ สเงฺขปโต สเพฺพนปิ กาเยน นิพฺพิการตาสงฺขาเตน นิจฺจลภาเวน ฐิเตนฯ เอเตนสฺส สีลปาริสุทฺธิ ทสฺสิตาฯ อิตฺถมฺภูตลกฺขเณ จ อิทํ กรณวจนํฯ ฐิเตน เจตสาติ จิตฺตสฺส ฐิติปริทีปเนน สมาธิสมฺปทํ ทเสฺสติฯ สมาธิ หิ จิตฺตสฺส ‘ฐิตี’ติ วุจฺจติฯ ตสฺมา สมถวเสน วิปสฺสนาวเสเนว วา เอกคฺคตาย สติ จิตฺตํ อารมฺมเณ เอโกทิภาวูปคมเนน ฐิตํ นาม โหติ, น อญฺญถาฯ อิทญฺจ ยถาวุตฺตกายจิตฺตานํ ฐปนํ สมาทหนํ สพฺพสฺมิํ กาเล สเพฺพสุ จ อิริยาปเถสุ อิจฺฉิตพฺพนฺติ ทเสฺสโนฺต อาห – ‘‘ติฎฺฐํ นิสิโนฺน อุท วา สยาโน’’ติ ฯ ตตฺถ วา-สโทฺท อนิยมโตฺถฯ เตน ติฎฺฐโนฺต วา นิสิโนฺน วา สยาโน วา ตทญฺญิริยาปโถ วาติ อยมโตฺถ ทีปิโต โหตีติ จงฺกมนสฺสาปิ อิธ สงฺคโห เวทิตโพฺพฯ
Tattha ṭhitena kāyenāti kāyadvārikassa asaṃvarassa pahānena akaraṇena sammā ṭhapitena copanakāyena, tathā cakkhādīnaṃ indriyānaṃ nibbisevanabhāvakaraṇena suṭṭhu ṭhapitena pañcadvārikakāyena, saṃyatahatthapādatāya hatthakukkuccādīnaṃ abhāvato apariphandanena ṭhitena karajakāyena cāti saṅkhepato sabbenapi kāyena nibbikāratāsaṅkhātena niccalabhāvena ṭhitena. Etenassa sīlapārisuddhi dassitā. Itthambhūtalakkhaṇe ca idaṃ karaṇavacanaṃ. Ṭhitena cetasāti cittassa ṭhitiparidīpanena samādhisampadaṃ dasseti. Samādhi hi cittassa ‘ṭhitī’ti vuccati. Tasmā samathavasena vipassanāvaseneva vā ekaggatāya sati cittaṃ ārammaṇe ekodibhāvūpagamanena ṭhitaṃ nāma hoti, na aññathā. Idañca yathāvuttakāyacittānaṃ ṭhapanaṃ samādahanaṃ sabbasmiṃ kāle sabbesu ca iriyāpathesu icchitabbanti dassento āha – ‘‘tiṭṭhaṃ nisinno uda vā sayāno’’ti . Tattha vā-saddo aniyamattho. Tena tiṭṭhanto vā nisinno vā sayāno vā tadaññiriyāpatho vāti ayamattho dīpito hotīti caṅkamanassāpi idha saṅgaho veditabbo.
เอตํ สติํ ภิกฺขุ อธิฎฺฐหาโนติ ยาย ปเคว ปริสุทฺธสมาจาโร กายจิตฺตทุฎฺฐุลฺลภาวูปสมเนน กายํ จิตฺตญฺจ อสารทฺธํ กตฺวา ปฎิลทฺธาย อนวชฺชสุขาธิฎฺฐาย กายจิตฺตปสฺสทฺธิวเสน จิตฺตํ ลหุํ มุทุํ กมฺมญฺญญฺจ กตฺวา สมฺมา ฐเปโนฺต สมาทหโนฺต กมฺมฎฺฐานํ ปริพฺรูเหติ มตฺถกญฺจ ปาเปติ, ตํ เอว กมฺมฎฺฐานานุโยคสฺส อาทิมชฺฌปริโยสาเนสุ พหูปการํ สติํ ภิกฺขุ อธิฎฺฐหาโน สีลวิโสธนํ อาทิํ กตฺวา ยาว วิเสสาธิคมา ตตฺถ ตตฺถ อธิฎฺฐหโนฺตติ อโตฺถฯ ลเภถ ปุพฺพาปริยํ วิเสสนฺติ โส เอวํ สติอารเกฺขน เจตสา กมฺมฎฺฐานํ อุปรูปริ วเฑฺฒโนฺต พฺรูเหโนฺต ผาติํ กโรโนฺต ปุพฺพาปริยํ ปุพฺพาปริยวนฺตํ ปุพฺพาปรภาเคน ปวตฺตํ อุฬารุฬารตราทิเภทวิเสสํ ลเภยฺยฯ
Etaṃsatiṃ bhikkhu adhiṭṭhahānoti yāya pageva parisuddhasamācāro kāyacittaduṭṭhullabhāvūpasamanena kāyaṃ cittañca asāraddhaṃ katvā paṭiladdhāya anavajjasukhādhiṭṭhāya kāyacittapassaddhivasena cittaṃ lahuṃ muduṃ kammaññañca katvā sammā ṭhapento samādahanto kammaṭṭhānaṃ paribrūheti matthakañca pāpeti, taṃ eva kammaṭṭhānānuyogassa ādimajjhapariyosānesu bahūpakāraṃ satiṃ bhikkhu adhiṭṭhahāno sīlavisodhanaṃ ādiṃ katvā yāva visesādhigamā tattha tattha adhiṭṭhahantoti attho. Labhetha pubbāpariyaṃ visesanti so evaṃ satiārakkhena cetasā kammaṭṭhānaṃ uparūpari vaḍḍhento brūhento phātiṃ karonto pubbāpariyaṃ pubbāpariyavantaṃ pubbāparabhāgena pavattaṃ uḷāruḷāratarādibhedavisesaṃ labheyya.
ตตฺถ ทุวิโธ ปุพฺพาปริยวิเสโส สมถวเสน วิปสฺสนาวเสน จาติฯ เตสุ สมถวเสน ตาว นิมิตฺตุปฺปตฺติโต ปฎฺฐาย ยาว เนวสญฺญานาสญฺญายตนวสีภาโว, ตาว ปวโตฺต ภาวนาวิเสโส ปุพฺพาปริยวิเสโสฯ วิปสฺสนาวเสน ปน รูปมุเขน อภินิวิสนฺตสฺส รูปธมฺมปริคฺคหโต, อิตรสฺส นามธมฺมปริคฺคหโต ปฎฺฐาย ยาว อรหตฺตาธิคโม, ตาว ปวโตฺต ภาวนาวิเสโส ปุพฺพาปริยวิเสโสฯ อยเมว จ อิธาธิเปฺปโตฯ
Tattha duvidho pubbāpariyaviseso samathavasena vipassanāvasena cāti. Tesu samathavasena tāva nimittuppattito paṭṭhāya yāva nevasaññānāsaññāyatanavasībhāvo, tāva pavatto bhāvanāviseso pubbāpariyaviseso. Vipassanāvasena pana rūpamukhena abhinivisantassa rūpadhammapariggahato, itarassa nāmadhammapariggahato paṭṭhāya yāva arahattādhigamo, tāva pavatto bhāvanāviseso pubbāpariyaviseso. Ayameva ca idhādhippeto.
ลทฺธาน ปุพฺพาปริยํ วิเสสนฺติ ปุพฺพาปริยวิเสสํ อุกฺกํสปารมิปฺปตฺตํ อรหตฺตํ ลภิตฺวาฯ อทสฺสนํ มจฺจุราชสฺส คเจฺฉติ ชีวิตุปเจฺฉทวเสน สเพฺพสํ สตฺตานํ อภิภวนโต มจฺจุราชสงฺขาตสฺส มรณสฺส วิสยภูตํ ภวตฺตยํ สมติกฺกนฺตตฺตา อทสฺสนํ อโคจรํ คเจฺฉยฺยฯ อิมสฺมิํ วเคฺค ยํ อวุตฺตํ, ตํ เหฎฺฐา วุตฺตนยเมวาติฯ
Laddhāna pubbāpariyaṃ visesanti pubbāpariyavisesaṃ ukkaṃsapāramippattaṃ arahattaṃ labhitvā. Adassanaṃ maccurājassa gaccheti jīvitupacchedavasena sabbesaṃ sattānaṃ abhibhavanato maccurājasaṅkhātassa maraṇassa visayabhūtaṃ bhavattayaṃ samatikkantattā adassanaṃ agocaraṃ gaccheyya. Imasmiṃ vagge yaṃ avuttaṃ, taṃ heṭṭhā vuttanayamevāti.
ทสมสุตฺตวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Dasamasuttavaṇṇanā niṭṭhitā.
นิฎฺฐิตา จ มหาวคฺควณฺณนาฯ
Niṭṭhitā ca mahāvaggavaṇṇanā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / อุทานปาฬิ • Udānapāḷi / ๑๐. จูฬปนฺถกสุตฺตํ • 10. Cūḷapanthakasuttaṃ