Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / มชฺฌิมนิกาย (อฎฺฐกถา) • Majjhimanikāya (aṭṭhakathā)

    ๑๐. จูฬปุณฺณมสุตฺตวณฺณนา

    10. Cūḷapuṇṇamasuttavaṇṇanā

    ๙๑. เอวํ เม สุตนฺติ จูฬปุณฺณมสุตฺตํฯ ตตฺถ ตุณฺหีภูตํ ตุณฺหีภูตนฺติ ยํ ยํ ทิสํ อนุวิโลเกติ, ตตฺถ ตตฺถ ตุณฺหีภูตเมวฯ อนุวิโลเกตฺวาติ ปญฺจปสาทปฎิมณฺฑิตานิ อกฺขีนิ อุมฺมีเลตฺวา ตโต ตโต วิโลเกตฺวา อนฺตมโส หตฺถกุกฺกุจฺจปาทกุกฺกุจฺจานมฺปิ อภาวํ ทิสฺวาฯ อสปฺปุริโสติ ปาปปุริโสฯ โน เหตํ, ภเนฺตติ ยสฺมา อโนฺธ อนฺธํ วิย โส ตํ ชานิตุํ น สโกฺกติ, ตสฺมา เอวมาหํสุฯ เอเตเนว นเยน อิโต ปเรสุปิ วาเรสุ อโตฺถ เวทิตโพฺพฯ อสฺสทฺธสมนฺนาคโตติ ปาปธมฺมสมนฺนาคโตฯ อสปฺปุริสภตฺตีติ อสปฺปุริสเสวโนฯ อสปฺปุริสจินฺตีติ อสปฺปุริสจินฺตาย จินฺตโกฯ อสปฺปุริสมนฺตีติ อสปฺปุริสมนฺตนํ มเนฺตตาฯ อสปฺปุริสวาโจติ อสปฺปุริสวาจํ ภาสิตาฯ อสปฺปุริสกมฺมโนฺตติ อสปฺปุริสกมฺมานํ กตฺตาฯ อสปฺปุริสทิฎฺฐีติ อสปฺปุริสทิฎฺฐิยา สมนฺนาคโตฯ อสปฺปุริสทานนฺติ อสปฺปุริเสหิ ทาตพฺพํ ทานํฯ ตฺยาสฺส มิตฺตาติ เต อสฺส มิตฺตาฯ อตฺตพฺยาพาธายปิ เจเตตีติ ปาณํ หนิสฺสามิ, อทินฺนํ อาทิยิสฺสามิ, มิจฺฉา จริสฺสามิ, ทส อกุสลกมฺมปเถ สมาทาย วตฺติสฺสามีติ เอวํ อตฺตโน ทุกฺขตฺถาย จิเนฺตติฯ ปรพฺยาพาธายาติ ยถา อสุโก อสุกํ ปาณํ หนฺติ, อสุกสฺส สนฺตกํ อทินฺนํ อาทิยติ, ทส อกุสลกมฺมปเถ สมาทาย วตฺตติ, เอวํ นํ อาณาเปสฺสามีติ เอวํ ปรสฺส ทุกฺขตฺถาย จิเนฺตติฯ อุภยพฺยาพาธายาติ อหํ อสุกญฺจ อสุกญฺจ คเหตฺวา ทส อกุสลกมฺมปเถ สมาทาย วตฺติสฺสามีติ เอวํ อุภยทุกฺขตฺถาย จิเนฺตตีติฯ

    91.Evaṃme sutanti cūḷapuṇṇamasuttaṃ. Tattha tuṇhībhūtaṃ tuṇhībhūtanti yaṃ yaṃ disaṃ anuviloketi, tattha tattha tuṇhībhūtameva. Anuviloketvāti pañcapasādapaṭimaṇḍitāni akkhīni ummīletvā tato tato viloketvā antamaso hatthakukkuccapādakukkuccānampi abhāvaṃ disvā. Asappurisoti pāpapuriso. No hetaṃ, bhanteti yasmā andho andhaṃ viya so taṃ jānituṃ na sakkoti, tasmā evamāhaṃsu. Eteneva nayena ito paresupi vāresu attho veditabbo. Assaddhasamannāgatoti pāpadhammasamannāgato. Asappurisabhattīti asappurisasevano. Asappurisacintīti asappurisacintāya cintako. Asappurisamantīti asappurisamantanaṃ mantetā. Asappurisavācoti asappurisavācaṃ bhāsitā. Asappurisakammantoti asappurisakammānaṃ kattā. Asappurisadiṭṭhīti asappurisadiṭṭhiyā samannāgato. Asappurisadānanti asappurisehi dātabbaṃ dānaṃ. Tyāssa mittāti te assa mittā. Attabyābādhāyapi cetetīti pāṇaṃ hanissāmi, adinnaṃ ādiyissāmi, micchā carissāmi, dasa akusalakammapathe samādāya vattissāmīti evaṃ attano dukkhatthāya cinteti. Parabyābādhāyāti yathā asuko asukaṃ pāṇaṃ hanti, asukassa santakaṃ adinnaṃ ādiyati, dasa akusalakammapathe samādāya vattati, evaṃ naṃ āṇāpessāmīti evaṃ parassa dukkhatthāya cinteti. Ubhayabyābādhāyāti ahaṃ asukañca asukañca gahetvā dasa akusalakammapathe samādāya vattissāmīti evaṃ ubhayadukkhatthāya cintetīti.

    อตฺตพฺยาพาธายปิ มเนฺตตีติอาทีสุ อหํ ทส อกุสลกมฺมปเถ สมาทาย วตฺติสฺสามีติ มเนฺตโนฺต อตฺตพฺยาพาธาย มเนฺตติ นามฯ อสุกํ ทส อกุสลกมฺมปเถ สมาทเปสฺสามีติ มเนฺตโนฺต ปรพฺยาพาธาย มเนฺตติ นามฯ อเญฺญน สทฺธิํ – ‘‘มยํ อุโภปิ เอกโต หุตฺวา ทส อกุสลกมฺมปเถ สมาทาย วตฺติสฺสามา’’ติ มเนฺตโนฺต อุภยพฺยาพาธาย มเนฺตติ นามฯ

    Attabyābādhāyapi mantetītiādīsu ahaṃ dasa akusalakammapathe samādāya vattissāmīti mantento attabyābādhāya manteti nāma. Asukaṃ dasa akusalakammapathe samādapessāmīti mantento parabyābādhāya manteti nāma. Aññena saddhiṃ – ‘‘mayaṃ ubhopi ekato hutvā dasa akusalakammapathe samādāya vattissāmā’’ti mantento ubhayabyābādhāya manteti nāma.

    อสกฺกจฺจํ ทานํ เทตีติ เทยฺยธมฺมมฺปิ ปุคฺคลมฺปิ น สกฺกโรติฯ เทยฺยธมฺมํ น สกฺกโรติ นาม อุตฺตณฺฑุลาทิโทสสมนฺนาคตํ อาหารํ เทติ, น ปสนฺนํ กโรติฯ ปุคฺคลํ น สกฺกโรติ นาม นิสีทนฎฺฐานํ อสมฺมชฺชิตฺวา ยตฺถ วา ตตฺถ วา นิสีทาเปตฺวา ยํ วา ตํ วา อาธารกํ ฐเปตฺวา ทานํ เทติฯ อสหตฺถาติ อตฺตโน หเตฺถน, น เทติ, ทาสกมฺมการาทีหิ ทาเปติฯ อจิตฺติกตฺวาติ เหฎฺฐา วุตฺตนเยน เทยฺยธเมฺมปิ ปุคฺคเลปิ น จิตฺตีการํ กตฺวา เทติฯ อปวิทฺธนฺติ ฉเฑฺฑตุกาโม หุตฺวา วมฺมิเก อุรคํ ปกฺขิปโนฺต วิย เทติฯ อนาคมนทิฎฺฐิโกติ โน ผลปาฎิกงฺขี หุตฺวา เทติฯ

    Asakkaccaṃ dānaṃ detīti deyyadhammampi puggalampi na sakkaroti. Deyyadhammaṃ na sakkaroti nāma uttaṇḍulādidosasamannāgataṃ āhāraṃ deti, na pasannaṃ karoti. Puggalaṃ na sakkaroti nāma nisīdanaṭṭhānaṃ asammajjitvā yattha vā tattha vā nisīdāpetvā yaṃ vā taṃ vā ādhārakaṃ ṭhapetvā dānaṃ deti. Asahatthāti attano hatthena, na deti, dāsakammakārādīhi dāpeti. Acittikatvāti heṭṭhā vuttanayena deyyadhammepi puggalepi na cittīkāraṃ katvā deti. Apaviddhanti chaḍḍetukāmo hutvā vammike uragaṃ pakkhipanto viya deti. Anāgamanadiṭṭhikoti no phalapāṭikaṅkhī hutvā deti.

    ตตฺถ อุปปชฺชตีติ น ทานํ ทตฺวา นิรเย อุปปชฺชติฯ ยํ ปน เตน ปาปลทฺธิกาย มิจฺฉาทสฺสนํ คหิตํ, ตาย มิจฺฉาทิฎฺฐิยา นิรเย อุปปชฺชติฯ สุกฺกปโกฺข วุตฺตปฎิปกฺขนเยน เวทิตโพฺพฯ เทวมหตฺตตาติ ฉกามาวจรเทวาฯ มนุสฺสมหตฺตตาติ ติณฺณํ กุลานํ สมฺปตฺติฯ เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวฯ อิทํ ปน สุตฺตํ สุทฺธวฎฺฎวเสเนว กถิตนฺติฯ

    Tatthaupapajjatīti na dānaṃ datvā niraye upapajjati. Yaṃ pana tena pāpaladdhikāya micchādassanaṃ gahitaṃ, tāya micchādiṭṭhiyā niraye upapajjati. Sukkapakkho vuttapaṭipakkhanayena veditabbo. Devamahattatāti chakāmāvacaradevā. Manussamahattatāti tiṇṇaṃ kulānaṃ sampatti. Sesaṃ sabbattha uttānameva. Idaṃ pana suttaṃ suddhavaṭṭavaseneva kathitanti.

    ปปญฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฎฺฐกถาย

    Papañcasūdaniyā majjhimanikāyaṭṭhakathāya

    จูฬปุณฺณมสุตฺตวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Cūḷapuṇṇamasuttavaṇṇanā niṭṭhitā.

    ปฐมวคฺควณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Paṭhamavaggavaṇṇanā niṭṭhitā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / มชฺฌิมนิกาย • Majjhimanikāya / ๑๐. จูฬปุณฺณมสุตฺตํ • 10. Cūḷapuṇṇamasuttaṃ

    ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / มชฺฌิมนิกาย (ฎีกา) • Majjhimanikāya (ṭīkā) / ๑๐. จูฬปุณฺณมสุตฺตวณฺณนา • 10. Cūḷapuṇṇamasuttavaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact