Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / มชฺฌิมนิกาย (ฎีกา) • Majjhimanikāya (ṭīkā) |
๑๐. จูฬปุณฺณมสุตฺตวณฺณนา
10. Cūḷapuṇṇamasuttavaṇṇanā
๙๑. ตุณฺหีภูตํ ตุณฺหีภูตนฺติ อาเมฑิตวจนํ พฺยาปนิจฺฉาวเสน วุตฺตนฺติ อาห – ‘‘ยํ ยํ ทิส’’นฺติอาทิฯ อนุวิโลเกตฺวาติ เอตฺถ อนุสโทฺทปิ พฺยาปนิจฺฉายเมวาติ อนุ อนุ วิโลเกตฺวาติ อโตฺถฯ เตเนวาห – ‘‘ตโต ตโต วิโลเกตฺวา’’ติฯ อสโนฺต นีโจ ปุริโสติ อสปฺปุริโสติ อาห – ‘‘ปาปปุริโส ลามกปุริโส’’ติฯ โสติ อสปฺปุริโสฯ ตนฺติ อสปฺปุริสํ ชานิตุํ น สโกฺกติ อสปฺปุริสธมฺมานํ ยาถาวโต อชานนโตฯ ปาปธมฺมสมนฺนาคโตติ กายทุจฺจริตาทิอสนฺตุฎฺฐิตาทิลามกธมฺมสมนฺนาคโตฯ อสปฺปุริเส ภตฺติ เอตสฺสาติ อสปฺปุริสภตฺติฯ เตนาห – ‘‘อสปฺปุริสเสวโน’’ติฯ อสปฺปุริสธโมฺม อสปฺปุริโส อุตฺตรปทโลเปน, เตสํ จินฺตนสีโลติ อสปฺปุริสจินฺตีฯ เตนาห ‘‘อสปฺปุริสจินฺตาย จินฺตโก’’ติ, ทุจฺจินฺติตจินฺตีติ อโตฺถฯ อสปฺปุริสมนฺตนนฺติ อสาธุชนวิจารํ อสปฺปุริสวีมํสํฯ อสปฺปุริสวาจนฺติ จตุพฺพิธํ ทุพฺภาสิตํฯ อสปฺปุริสกมฺมํ นาม ติวิธมฺปิ กายทุจฺจริตํฯ อสปฺปุริสทิฎฺฐิ นาม วิเสสโต ทสวตฺถุกา มิจฺฉาทิฎฺฐิ, ตาย สมนฺนาคโต อสปฺปุริสทิฎฺฐิยา สมนฺนาคโต, อสปฺปุริสทานํ นาม อสกฺกจฺจทานาทิฯ สโพฺพปายมโตฺถ ปาฬิโต เอว วิญฺญายติฯ
91.Tuṇhībhūtaṃtuṇhībhūtanti āmeḍitavacanaṃ byāpanicchāvasena vuttanti āha – ‘‘yaṃ yaṃ disa’’ntiādi. Anuviloketvāti ettha anusaddopi byāpanicchāyamevāti anu anu viloketvāti attho. Tenevāha – ‘‘tato tato viloketvā’’ti. Asanto nīco purisoti asappurisoti āha – ‘‘pāpapuriso lāmakapuriso’’ti. Soti asappuriso. Tanti asappurisaṃ jānituṃ na sakkoti asappurisadhammānaṃ yāthāvato ajānanato. Pāpadhammasamannāgatoti kāyaduccaritādiasantuṭṭhitādilāmakadhammasamannāgato. Asappurise bhatti etassāti asappurisabhatti. Tenāha – ‘‘asappurisasevano’’ti. Asappurisadhammo asappuriso uttarapadalopena, tesaṃ cintanasīloti asappurisacintī. Tenāha ‘‘asappurisacintāya cintako’’ti, duccintitacintīti attho. Asappurisamantananti asādhujanavicāraṃ asappurisavīmaṃsaṃ. Asappurisavācanti catubbidhaṃ dubbhāsitaṃ. Asappurisakammaṃ nāma tividhampi kāyaduccaritaṃ. Asappurisadiṭṭhi nāma visesato dasavatthukā micchādiṭṭhi, tāya samannāgato asappurisadiṭṭhiyā samannāgato, asappurisadānaṃ nāma asakkaccadānādi. Sabbopāyamattho pāḷito eva viññāyati.
‘‘ปาณํ หนิสฺสามี’’ติอาทิกา เจตนา กามํ ปรพฺยาพาธายปิ โหติเยว, ยถา ปน สา อตฺตโน พลวตรทุกฺขตฺถาย โหติ, ตถา น ปรสฺสาติ อิมมตฺถํ ทเสฺสตุํ, ‘‘อตฺตโน ทุกฺขตฺถาย จิเนฺตติ’’อิเจฺจว วุโตฺตฯ ยถา อสุโก อสุกนฺติอาทีหิ ปาปโก ปาปวิปาเกกเทสํ พลวํ ครุตรํ วา ปจฺจนุโภโนฺตปิ ยถา ปโร ปจฺจนุโภติ, น ตถา สยนฺติ ทเสฺสติฯ เตนาห ‘‘ปรพฺยาพาธายา’’ติฯ คเหตฺวาติ ปาปกิริยาย สหายภาเวน คเหตฺวาฯ
‘‘Pāṇaṃ hanissāmī’’tiādikā cetanā kāmaṃ parabyābādhāyapi hotiyeva, yathā pana sā attano balavataradukkhatthāya hoti, tathā na parassāti imamatthaṃ dassetuṃ, ‘‘attano dukkhatthāya cinteti’’icceva vutto. Yathā asuko asukantiādīhi pāpako pāpavipākekadesaṃ balavaṃ garutaraṃ vā paccanubhontopi yathā paro paccanubhoti, na tathā sayanti dasseti. Tenāha ‘‘parabyābādhāyā’’ti. Gahetvāti pāpakiriyāya sahāyabhāvena gahetvā.
อสกฺกจฺจนฺติ อนาทรํ กตฺวาฯ เทยฺยธมฺมสฺส อสกฺกรณํ อปฺปสนฺนากาโร, ปุคฺคลสฺส อสกฺกรณํ อครุกรณนฺติ อิมมตฺถํ ทเสฺสโนฺต, ‘‘เทยฺยธมฺมํ น สกฺกโรติ นามา’’ติอาทิมาหฯ อจิตฺตีกตฺวาติ น จิเตฺต กตฺวา, น ปูเชตฺวาติ อโตฺถฯ ปูเชโนฺต หิ ปูเชตพฺพวตฺถุํ จิเตฺต ฐเปติ, ตโต น พหิ กโรติฯ จิตฺตํ วา อจฺฉริยํ กตฺวา ปฎิปตฺติ จิตฺตีกรณํ, สมฺภาวนกิริยาฯ ตปฺปฎิเกฺขปโต อจิตฺตีกรณํ, อสมฺภาวนกิริยาฯ อปวิทฺธนฺติ อุจฺฉิฎฺฐาทิฉฑฺฑนียธมฺมํ วิย อวขิตฺตกํฯ เตนาห – ‘‘ฉเฑฺฑตุกาโม วิยา’’ติอาทิฯ โรคํ ปกฺขิปโนฺต วิยาติ โรคิกสรีรํ โอทนาทีหิ ปมชฺชิตฺวา วมฺมิเก โรคํ ปกฺขิปโนฺต วิยฯ อทฺธา อิมสฺส ทานสฺส ผลํ มเมว อาคจฺฉตีติ เอวํ ยสฺส ตถา ทิฎฺฐิ อตฺถิ, โส อาคมนทิฎฺฐิโก, อยํ ปน น ตาทิโสติ อาห ‘‘อนาคมนทิฎฺฐิโก’’ติฯ เตนาห – ‘‘โน ผลปาฎิกงฺขี หุตฺวา เทตี’’ติฯ
Asakkaccanti anādaraṃ katvā. Deyyadhammassa asakkaraṇaṃ appasannākāro, puggalassa asakkaraṇaṃ agarukaraṇanti imamatthaṃ dassento, ‘‘deyyadhammaṃ na sakkaroti nāmā’’tiādimāha. Acittīkatvāti na citte katvā, na pūjetvāti attho. Pūjento hi pūjetabbavatthuṃ citte ṭhapeti, tato na bahi karoti. Cittaṃ vā acchariyaṃ katvā paṭipatti cittīkaraṇaṃ, sambhāvanakiriyā. Tappaṭikkhepato acittīkaraṇaṃ, asambhāvanakiriyā. Apaviddhanti ucchiṭṭhādichaḍḍanīyadhammaṃ viya avakhittakaṃ. Tenāha – ‘‘chaḍḍetukāmo viyā’’tiādi. Rogaṃ pakkhipantoviyāti rogikasarīraṃ odanādīhi pamajjitvā vammike rogaṃ pakkhipanto viya. Addhā imassa dānassa phalaṃ mameva āgacchatīti evaṃ yassa tathā diṭṭhi atthi, so āgamanadiṭṭhiko, ayaṃ pana na tādisoti āha ‘‘anāgamanadiṭṭhiko’’ti. Tenāha – ‘‘no phalapāṭikaṅkhī hutvā detī’’ti.
กามญฺจายํ ยถาวุตฺตปุคฺคโล อสทฺธมฺมาทีหิ ปาปธเมฺมหิ สมนฺนาคโต, เตหิ ปน สเพฺพหิปิ มิจฺฉาทสฺสนํ มหาสาวชฺชนฺติ ทเสฺสตุํ, ‘‘ตาย มิจฺฉาทิฎฺฐิยา นิรเย อุปปชฺชตี’’ติ วุตฺตํฯ วุตฺตปฎิปกฺขนเยนาติ กณฺหปเกฺข วุตฺตสฺส อตฺถสฺส วิปริยาเยน สุกฺกปเกฺข อโตฺถ เวทิตโพฺพฯ ‘‘สเทวกํ โลก’’นฺติอาทีสุ (ปารา. ๑) เทวสโทฺท ฉกามาวจรเทเวสุ, เอวมิธาติ อาห ‘‘ฉกามาวจรเทวา’’ติฯ ตตฺถ พฺรหฺมานํ วิสุํ คหิตตฺตา กามาวจรเทวคฺคหณนฺติ เจ? อิธ ทานผลสฺส อธิเปฺปตตฺตา กามาวจรเทวคฺคหณํ , ตตฺถาปิ ฉกามาวจรคฺคหณํ ทฎฺฐพฺพํ เทวมหตฺตตาทิวจนโตฯ ติณฺณํ กุลานํ สมฺปตฺตีติ ขตฺติยมหตฺตาทีนํ ติณฺณํ กุลานํ สมฺปตฺติ, น เกวลํ กุลสมฺปทา เอว อธิเปฺปตา, อถ โข ตตฺถ อายุวณฺณยสโภคอิสฺสริยาทิสมฺปทาปิ อธิเปฺปตาติ ทฎฺฐพฺพํ อุฬารสฺส ทานมยปุญฺญสฺส วเสน เตสมฺปิ สมิชฺฌนโตฯ สุทฺธวฎฺฎวเสเนว กถิตํ สุกฺกปเกฺขปิ สพฺพโส วิวฎฺฎสฺส อนามฎฺฐตฺตาฯ สทฺธาทโย หิ โลกิยกุสลสมฺภารา เอเวตฺถ อธิเปฺปตาติฯ เสสํ สุวิเญฺญยฺยเมวฯ
Kāmañcāyaṃ yathāvuttapuggalo asaddhammādīhi pāpadhammehi samannāgato, tehi pana sabbehipi micchādassanaṃ mahāsāvajjanti dassetuṃ, ‘‘tāya micchādiṭṭhiyā niraye upapajjatī’’ti vuttaṃ. Vuttapaṭipakkhanayenāti kaṇhapakkhe vuttassa atthassa vipariyāyena sukkapakkhe attho veditabbo. ‘‘Sadevakaṃ loka’’ntiādīsu (pārā. 1) devasaddo chakāmāvacaradevesu, evamidhāti āha ‘‘chakāmāvacaradevā’’ti. Tattha brahmānaṃ visuṃ gahitattā kāmāvacaradevaggahaṇanti ce? Idha dānaphalassa adhippetattā kāmāvacaradevaggahaṇaṃ , tatthāpi chakāmāvacaraggahaṇaṃ daṭṭhabbaṃ devamahattatādivacanato. Tiṇṇaṃ kulānaṃ sampattīti khattiyamahattādīnaṃ tiṇṇaṃ kulānaṃ sampatti, na kevalaṃ kulasampadā eva adhippetā, atha kho tattha āyuvaṇṇayasabhogaissariyādisampadāpi adhippetāti daṭṭhabbaṃ uḷārassa dānamayapuññassa vasena tesampi samijjhanato. Suddhavaṭṭavaseneva kathitaṃ sukkapakkhepi sabbaso vivaṭṭassa anāmaṭṭhattā. Saddhādayo hi lokiyakusalasambhārā evettha adhippetāti. Sesaṃ suviññeyyameva.
จูฬปุณฺณมสุตฺตวณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนา สมตฺตาฯ
Cūḷapuṇṇamasuttavaṇṇanāya līnatthappakāsanā samattā.
นิฎฺฐิตา จ เทวทหวคฺควณฺณนาฯ
Niṭṭhitā ca devadahavaggavaṇṇanā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / มชฺฌิมนิกาย • Majjhimanikāya / ๑๐. จูฬปุณฺณมสุตฺตํ • 10. Cūḷapuṇṇamasuttaṃ
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / มชฺฌิมนิกาย (อฎฺฐกถา) • Majjhimanikāya (aṭṭhakathā) / ๑๐. จูฬปุณฺณมสุตฺตวณฺณนา • 10. Cūḷapuṇṇamasuttavaṇṇanā