Tipiṭaka / Tipiṭaka (English) / Majjhima Nikāya, English translation |
มชฺฌิม นิกาย ๑๑
The Middle-Length Suttas Collection 11
จูฬสีหนาทสุตฺต
The Shorter Discourse on the Lion’s Roar
เอวํ เม สุตํ—เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเมฯ ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ: “ภิกฺขโว”ติฯ
So I have heard. At one time the Buddha was staying near Sāvatthī in Jeta’s Grove, Anāthapiṇḍika’s monastery. There the Buddha addressed the bhikkhus, “Bhikkhus!”
“ภทนฺเต”ติ เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจโสฺสสุํฯ ภควา เอตทโวจ:
“Venerable sir,” they replied. The Buddha said this:
“อิเธว, ภิกฺขเว, สมโณ, อิธ ทุติโย สมโณ, อิธ ตติโย สมโณ, อิธ จตุตฺโถ สมโณ; สุญฺญา ปรปฺปวาทา สมเณภิ อญฺเญหีติฯ เอวเมตํ, ภิกฺขเว, สมฺมา สีหนาทํ นทถฯ
“‘Only here is there a true ascetic, here a second ascetic, here a third ascetic, and here a fourth ascetic. Other sects are empty of ascetics.’ This, bhikkhus, is how you should rightly roar your lion’s roar.
ฐานํ โข ปเนตํ, ภิกฺขเว, วิชฺชติ ยํ อญฺญติตฺถิยา ปริพฺพาชกา เอวํ วเทยฺยุํ: ‘โก ปนายสฺมนฺตานํ อสฺสาโส, กึ พลํ, เยน ตุเมฺห อายสฺมนฺโต เอวํ วเทถ—อิเธว สมโณ, อิธ ทุติโย สมโณ, อิธ ตติโย สมโณ, อิธ จตุตฺโถ สมโณ; สุญฺญา ปรปฺปวาทา สมเณภิ อญฺเญหี'ติ? เอวํวาทิโน, ภิกฺขเว, อญฺญติตฺถิยา ปริพฺพาชกา เอวมสฺสุ วจนียา: ‘อตฺถิ โข โน, อาวุโส, เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน จตฺตาโร ธมฺมา อกฺขาตา เย มยํ อตฺตนิ สมฺปสฺสมานา เอวํ วเทม—
It’s possible that wanderers of other religions might say: ‘But what is the source of the venerables’ self-confidence and forcefulness that they say this?’ You should say to them: ‘There are four things explained by the Blessed One, who knows and sees, the perfected one, the fully awakened Buddha. Seeing these things in ourselves we say that:
อิเธว สมโณ, อิธ ทุติโย สมโณ, อิธ ตติโย สมโณ, อิธ จตุตฺโถ สมโณ; สุญฺญา ปรปฺปวาทา สมเณภิ อญฺเญหีติฯ กตเม จตฺตาโร? อตฺถิ โข โน, อาวุโส, สตฺถริ ปสาโท, อตฺถิ ธมฺเม ปสาโท, อตฺถิ สีเลสุ ปริปูรการิตา; สหธมฺมิกา โข ปน ปิยา มนาปา—คหฏฺฐา เจว ปพฺพชิตา จฯ อิเม โข โน, อาวุโส, เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน จตฺตาโร ธมฺมา อกฺขาตา เย มยํ อตฺตนิ สมฺปสฺสมานา เอวํ วเทม—อิเธว สมโณ, อิธ ทุติโย สมโณ, อิธ ตติโย สมโณ, อิธ จตุตฺโถ สมโณ; สุญฺญา ปรปฺปวาทา สมเณภิ อญฺเญหี'ติฯ
“Only here is there a true ascetic, here a second ascetic, here a third ascetic, and here a fourth ascetic. Other sects are empty of ascetics.” What four? We have confidence in the Teacher, we have confidence in the teaching, and we have fulfilled the precepts. And we have love and affection for those who share our path, both laypeople and renunciates. These are the four things.’
ฐานํ โข ปเนตํ, ภิกฺขเว, วิชฺชติ ยํ อญฺญติตฺถิยา ปริพฺพาชกา เอวํ วเทยฺยุํ: ‘อมฺหากมฺปิ โข, อาวุโส, อตฺถิ สตฺถริ ปสาโท โย อมฺหากํ สตฺถา, อมฺหากมฺปิ อตฺถิ ธมฺเม ปสาโท โย อมฺหากํ ธมฺโม, มยมฺปิ สีเลสุ ปริปูรการิโน ยานิ อมฺหากํ สีลานิ, อมฺหากมฺปิ สหธมฺมิกา ปิยา มนาปา—คหฏฺฐา เจว ปพฺพชิตา จฯ อิธ โน, อาวุโส, โก วิเสโส โก อธิปฺปยาโส กึ นานากรณํ ยทิทํ ตุมฺหากญฺเจว อมฺหากญฺจา'ติ?
It’s possible that wanderers of other religions might say: ‘We too have confidence in the Teacher—our Teacher; we have confidence in the teaching—our teaching; and we have fulfilled the precepts—our precepts. And we have love and affection for those who share our path, both laypeople and renunciates. What, then, is the difference between you and us?’
เอวํวาทิโน, ภิกฺขเว, อญฺญติตฺถิยา ปริพฺพาชกา เอวมสฺสุ วจนียา: ‘กึ ปนาวุโส, เอกา นิฏฺฐา, อุทาหุ ปุถุ นิฏฺฐา'ติ? สมฺมา พฺยากรมานา, ภิกฺขเว, อญฺญติตฺถิยา ปริพฺพาชกา เอวํ พฺยากเรยฺยุํ: ‘เอกาวุโส, นิฏฺฐา, น ปุถุ นิฏฺฐา'ติฯ
You should say to them: ‘Well, friends, is the goal one or many?’ Answering rightly, the wanderers would say: ‘The goal is one, friends, not many.’
‘สา ปนาวุโส, นิฏฺฐา สราคสฺส อุทาหุ วีตราคสฺสา'ติ? สมฺมา พฺยากรมานา, ภิกฺขเว, อญฺญติตฺถิยา ปริพฺพาชกา เอวํ พฺยากเรยฺยุํ: ‘วีตราคสฺสาวุโส, สา นิฏฺฐา, น สา นิฏฺฐา สราคสฺสา'ติฯ
‘But is that goal for the greedy or for those free of greed?’ Answering rightly, the wanderers would say: ‘That goal is for those free of greed, not for the greedy.’
‘สา ปนาวุโส, นิฏฺฐา สโทสสฺส อุทาหุ วีตโทสสฺสา'ติ? สมฺมา พฺยากรมานา, ภิกฺขเว, อญฺญติตฺถิยา ปริพฺพาชกา เอวํ พฺยากเรยฺยุํ: ‘วีตโทสสฺสาวุโส, สา นิฏฺฐา, น สา นิฏฺฐา สโทสสฺสา'ติฯ
‘Is it for the hateful or those free of hate?’ ‘It’s for those free of hate.’
‘สา ปนาวุโส, นิฏฺฐา สโมหสฺส อุทาหุ วีตโมหสฺสา'ติ? สมฺมา พฺยากรมานา, ภิกฺขเว, อญฺญติตฺถิยา ปริพฺพาชกา เอวํ พฺยากเรยฺยุํ: ‘วีตโมหสฺสาวุโส, สา นิฏฺฐา, น สา นิฏฺฐา สโมหสฺสา'ติฯ
‘Is it for the delusional or those free of delusion?’ ‘It’s for those free of delusion.’
‘สา ปนาวุโส, นิฏฺฐา สตณฺหสฺส อุทาหุ วีตตณฺหสฺสา'ติ? สมฺมา พฺยากรมานา, ภิกฺขเว, อญฺญติตฺถิยา ปริพฺพาชกา เอวํ พฺยากเรยฺยุํ: ‘วีตตณฺหสฺสาวุโส, สา นิฏฺฐา, น สา นิฏฺฐา สตณฺหสฺสา'ติฯ
‘Is it for those who crave or those rid of craving?’ ‘It’s for those rid of craving.’
‘สา ปนาวุโส, นิฏฺฐา เสาปาทานสฺส อุทาหุ อนุปาทานสฺสา'ติ? สมฺมา พฺยากรมานา, ภิกฺขเว, อญฺญติตฺถิยา ปริพฺพาชกา เอวํ พฺยากเรยฺยุํ: ‘อนุปาทานสฺสาวุโส, สา นิฏฺฐา, น สา นิฏฺฐา เสาปาทานสฺสา'ติฯ
‘Is it for those who grasp or those who don’t grasp?’ ‘It’s for those who don’t grasp.’
‘สา ปนาวุโส, นิฏฺฐา วิทฺทสุโน อุทาหุ อวิทฺทสุโน'ติ? สมฺมา พฺยากรมานา, ภิกฺขเว, อญฺญติตฺถิยา ปริพฺพาชกา เอวํ พฺยากเรยฺยุํ: ‘วิทฺทสุโน, อาวุโส, สา นิฏฺฐา, น สา นิฏฺฐา อวิทฺทสุโน'ติฯ
‘Is it for the knowledgeable or the ignorant?’ ‘It’s for the knowledgeable.’
‘สา ปนาวุโส, นิฏฺฐา อนุรุทฺธปฺปฏิวิรุทฺธสฺส อุทาหุ อนนุรุทฺธอปฺปฏิวิรุทฺธสฺสา'ติ? สมฺมา พฺยากรมานา, ภิกฺขเว, อญฺญติตฺถิยา ปริพฺพาชกา เอวํ พฺยากเรยฺยุํ: ‘อนนุรุทฺธอปฺปฏิวิรุทฺธสฺสาวุโส, สา นิฏฺฐา, น สา นิฏฺฐา อนุรุทฺธปฺปฏิวิรุทฺธสฺสา'ติฯ
‘Is it for those who favor and oppose or for those who don’t favor and oppose?’ ‘It’s for those who don’t favor and oppose.’
‘สา ปนาวุโส, นิฏฺฐา ปปญฺจารามสฺส ปปญฺจรติโน อุทาหุ นิปฺปปญฺจารามสฺส นิปฺปปญฺจรติโน'ติ? สมฺมา พฺยากรมานา, ภิกฺขเว, อญฺญติตฺถิยา ปริพฺพาชกา เอวํ พฺยากเรยฺยุํ: ‘นิปฺปปญฺจารามสฺสาวุโส, สา นิฏฺฐา นิปฺปปญฺจรติโน, น สา นิฏฺฐา ปปญฺจารามสฺส ปปญฺจรติโน'ติฯ
‘But is that goal for those who enjoy proliferation or for those who enjoy non-proliferation?’ Answering rightly, the wanderers would say: ‘It’s for those who enjoy non-proliferation, not for those who enjoy proliferation.’
เทฺวมา, ภิกฺขเว, ทิฏฺฐิโย—ภวทิฏฺฐิ จ วิภวทิฏฺฐิ จฯ เย หิ เกจิ, ภิกฺขเว, สมณา วา พฺราหฺมณา วา ภวทิฏฺฐึ อลฺลีนา ภวทิฏฺฐึ อุปคตา ภวทิฏฺฐึ อชฺโฌสิตา, วิภวทิฏฺฐิยา เต ปฏิวิรุทฺธาฯ เย หิ เกจิ, ภิกฺขเว, สมณา วา พฺราหฺมณา วา วิภวทิฏฺฐึ อลฺลีนา วิภวทิฏฺฐึ อุปคตา วิภวทิฏฺฐึ อชฺโฌสิตา, ภวทิฏฺฐิยา เต ปฏิวิรุทฺธาฯ
Bhikkhus, there are these two views: views favoring continued existence and views favoring ending existence. Any ascetics or brahmins who cling, hold, and attach to a view favoring continued existence will oppose a view favoring ending existence. Any ascetics or brahmins who cling, hold, and attach to a view favoring ending existence will oppose a view favoring continued existence.
เย หิ เกจิ, ภิกฺขเว, สมณา วา พฺราหฺมณา วา อิมาสํ ทฺวินฺนํ ทิฏฺฐีนํ สมุทยญฺจ อตฺถงฺคมญฺจ อสฺสาทญฺจ อาทีนวญฺจ นิสฺสรณญฺจ ยถาภูตํ นปฺปชานนฺติ, ‘เต สราคา เต สโทสา เต สโมหา เต สตณฺหา เต เสาปาทานา เต อวิทฺทสุโน เต อนุรุทฺธปฺปฏิวิรุทฺธา เต ปปญฺจารามา ปปญฺจรติโน; เต น ปริมุจฺจนฺติ ชาติยา ชราย มรเณน โสเกหิ ปริเทเวหิ ทุกฺเขหิ โทมนเสฺสหิ อุปายาเสหิ; น ปริมุจฺจนฺติ ทุกฺขสฺมา'ติ วทามิฯ
There are some ascetics and brahmins who don’t truly understand these two views’ origin, ending, gratification, drawback, and escape. They’re greedy, hateful, delusional, craving, grasping, and ignorant. They favor and oppose, and they enjoy proliferation. They’re not freed from rebirth, old age, and death, from sorrow, lamentation, pain, sadness, and distress. They’re not freed from suffering, I say.
เย จ โข เกจิ, ภิกฺขเว, สมณา วา พฺราหฺมณา วา อิมาสํ ทฺวินฺนํ ทิฏฺฐีนํ สมุทยญฺจ อตฺถงฺคมญฺจ อสฺสาทญฺจ อาทีนวญฺจ นิสฺสรณญฺจ ยถาภูตํ ปชานนฺติ, ‘เต วีตราคา เต วีตโทสา เต วีตโมหา เต วีตตณฺหา เต อนุปาทานา เต วิทฺทสุโน เต อนนุรุทฺธอปฺปฏิวิรุทฺธา เต นิปฺปปญฺจารามา นิปฺปปญฺจรติโน; เต ปริมุจฺจนฺติ ชาติยา ชราย มรเณน โสเกหิ ปริเทเวหิ ทุกฺเขหิ โทมนเสฺสหิ อุปายาเสหิ; ปริมุจฺจนฺติ ทุกฺขสฺมา'ติ วทามิฯ
There are some ascetics and brahmins who do truly understand these two views’ origin, ending, gratification, drawback, and escape. They’re rid of greed, hate, delusion, craving, grasping, and ignorance. They don’t favor and oppose, and they enjoy non-proliferation. They’re freed from rebirth, old age, and death, from sorrow, lamentation, pain, sadness, and distress. They’re freed from suffering, I say.
จตฺตาริมานิ, ภิกฺขเว, อุปาทานานิฯ กตมานิ จตฺตาริ? กามุปาทานํ, ทิฏฺฐุปาทานํ, สีลพฺพตุปาทานํ, อตฺตวาทุปาทานํฯ
There are these four kinds of grasping. What four? Grasping at sensual pleasures, views, precepts and observances, and theories of a self.
สนฺติ, ภิกฺขเว, เอเก สมณพฺราหฺมณา สพฺพุปาทานปริญฺญาวาทา ปฏิชานมานาฯ เต น สมฺมา สพฺพุปาทานปริญฺญํ ปญฺญเปนฺติ—กามุปาทานสฺส ปริญฺญํ ปญฺญเปนฺติ, น ทิฏฺฐุปาทานสฺส ปริญฺญํ ปญฺญเปนฺติ, น สีลพฺพตุปาทานสฺส ปริญฺญํ ปญฺญเปนฺติ, น อตฺตวาทุปาทานสฺส ปริญฺญํ ปญฺญเปนฺติฯ ตํ กิสฺส เหตุ? อิมานิ หิ เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา ตีณิ ฐานานิ ยถาภูตํ นปฺปชานนฺติฯ ตสฺมา เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา สพฺพุปาทานปริญฺญาวาทา ปฏิชานมานา; เต น สมฺมา สพฺพุปาทานปริญฺญํ ปญฺญเปนฺติ—กามุปาทานสฺส ปริญฺญํ ปญฺญเปนฺติ, น ทิฏฺฐุปาทานสฺส ปริญฺญํ ปญฺญเปนฺติ, น สีลพฺพตุปาทานสฺส ปริญฺญํ ปญฺญเปนฺติ, น อตฺตวาทุปาทานสฺส ปริญฺญํ ปญฺญเปนฺติฯ
There are some ascetics and brahmins who claim to propound the complete understanding of all kinds of grasping. But they don’t correctly describe the complete understanding of all kinds of grasping. They describe the complete understanding of grasping at sensual pleasures, but not views, precepts and observances, and theories of a self. Why is that? Because those gentlemen don’t truly understand these three things. That’s why they claim to propound the complete understanding of all kinds of grasping, but they don’t really.
สนฺติ, ภิกฺขเว, เอเก สมณพฺราหฺมณา สพฺพุปาทานปริญฺญาวาทา ปฏิชานมานาฯ เต น สมฺมา สพฺพุปาทานปริญฺญํ ปญฺญเปนฺติ—กามุปาทานสฺส ปริญฺญํ ปญฺญเปนฺติ, ทิฏฺฐุปาทานสฺส ปริญฺญํ ปญฺญเปนฺติ, น สีลพฺพตุปาทานสฺส ปริญฺญํ ปญฺญเปนฺติ, น อตฺตวาทุปาทานสฺส ปริญฺญํ ปญฺญเปนฺติฯ ตํ กิสฺส เหตุ? อิมานิ หิ เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา เทฺว ฐานานิ ยถาภูตํ นปฺปชานนฺติฯ ตสฺมา เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา สพฺพุปาทานปริญฺญาวาทา ปฏิชานมานา; เต น สมฺมา สพฺพุปาทานปริญฺญํ ปญฺญเปนฺติ—กามุปาทานสฺส ปริญฺญํ ปญฺญเปนฺติ, ทิฏฺฐุปาทานสฺส ปริญฺญํ ปญฺญเปนฺติ, น สีลพฺพตุปาทานสฺส ปริญฺญํ ปญฺญเปนฺติ, น อตฺตวาทุปาทานสฺส ปริญฺญํ ปญฺญเปนฺติฯ
There are some other ascetics and brahmins who claim to propound the complete understanding of all kinds of grasping, but they don’t really. They describe the complete understanding of grasping at sensual pleasures and views, but not precepts and observances, and theories of a self. Why is that? Because those gentlemen don’t truly understand these two things. That’s why they claim to propound the complete understanding of all kinds of grasping, but they don’t really.
สนฺติ, ภิกฺขเว, เอเก สมณพฺราหฺมณา สพฺพุปาทานปริญฺญาวาทา ปฏิชานมานาฯ เต น สมฺมา สพฺพุปาทานปริญฺญํ ปญฺญเปนฺติ—กามุปาทานสฺส ปริญฺญํ ปญฺญเปนฺติ, ทิฏฺฐุปาทานสฺส ปริญฺญํ ปญฺญเปนฺติ, สีลพฺพตุปาทานสฺส ปริญฺญํ ปญฺญเปนฺติ, น อตฺตวาทุปาทานสฺส ปริญฺญํ ปญฺญเปนฺติฯ ตํ กิสฺส เหตุ? อิมญฺหิ เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา เอกํ ฐานํ ยถาภูตํ นปฺปชานนฺติฯ ตสฺมา เต โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา สพฺพุปาทานปริญฺญาวาทา ปฏิชานมานา; เต น สมฺมา สพฺพุปาทานปริญฺญํ ปญฺญเปนฺติ—กามุปาทานสฺส ปริญฺญํ ปญฺญเปนฺติ, ทิฏฺฐุปาทานสฺส ปริญฺญํ ปญฺญเปนฺติ, สีลพฺพตุปาทานสฺส ปริญฺญํ ปญฺญเปนฺติ, น อตฺตวาทุปาทานสฺส ปริญฺญํ ปญฺญเปนฺติฯ
There are some other ascetics and brahmins who claim to propound the complete understanding of all kinds of grasping, but they don’t really. They describe the complete understanding of grasping at sensual pleasures, views, and precepts and observances, but not theories of a self. Why is that? Because those gentlemen don’t truly understand this one thing. That’s why they claim to propound the complete understanding of all kinds of grasping, but they don’t really.
เอวรูเป โข, ภิกฺขเว, ธมฺมวินเย โย สตฺถริ ปสาโท โส น สมฺมคฺคโต อกฺขายติ; โย ธมฺเม ปสาโท โส น สมฺมคฺคโต อกฺขายติ; ยา สีเลสุ ปริปูรการิตา สา น สมฺมคฺคตา อกฺขายติ; ยา สหธมฺมิเกสุ ปิยมนาปตา สา น สมฺมคฺคตา อกฺขายติฯ ตํ กิสฺส เหตุ? เอวเญฺหตํ, ภิกฺขเว, โหติ ยถา ตํ ทุรกฺขาเต ธมฺมวินเย ทุปฺปเวทิเต อนิยฺยานิเก อนุปสมสํวตฺตนิเก อสมฺมาสมฺพุทฺธปฺปเวทิเตฯ
In such a teaching and training, confidence in the Teacher is said to be far from ideal. Likewise, confidence in the teaching, fulfillment of the precepts, and love and affection for those sharing the same path are said to be far from ideal. Why is that? It’s because that teaching and training is poorly explained and poorly propounded, not emancipating, not leading to peace, proclaimed by someone who is not a fully awakened Buddha.
ตถาคโต จ โข, ภิกฺขเว, อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ สพฺพุปาทานปริญฺญาวาโท ปฏิชานมาโน สมฺมา สพฺพุปาทานปริญฺญํ ปญฺญเปติ—กามุปาทานสฺส ปริญฺญํ ปญฺญเปติ, ทิฏฺฐุปาทานสฺส ปริญฺญํ ปญฺญเปติ, สีลพฺพตุปาทานสฺส ปริญฺญํ ปญฺญเปติ, อตฺตวาทุปาทานสฺส ปริญฺญํ ปญฺญเปติฯ
The Realized One, the perfected one, the fully awakened Buddha claims to propound the complete understanding of all kinds of grasping. He describes the complete understanding of grasping at sensual pleasures, views, precepts and observances, and theories of a self.
เอวรูเป โข, ภิกฺขเว, ธมฺมวินเย โย สตฺถริ ปสาโท โส สมฺมคฺคโต อกฺขายติ; โย ธมฺเม ปสาโท โส สมฺมคฺคโต อกฺขายติ; ยา สีเลสุ ปริปูรการิตา สา สมฺมคฺคตา อกฺขายติ; ยา สหธมฺมิเกสุ ปิยมนาปตา สา สมฺมคฺคตา อกฺขายติฯ ตํ กิสฺส เหตุ? เอวเญฺหตํ, ภิกฺขเว, โหติ ยถา ตํ สฺวากฺขาเต ธมฺมวินเย สุปฺปเวทิเต นิยฺยานิเก อุปสมสํวตฺตนิเก สมฺมาสมฺพุทฺธปฺปเวทิเตฯ
In such a teaching and training, confidence in the Teacher is said to be ideal. Likewise, confidence in the teaching, fulfillment of the precepts, and love and affection for those sharing the same path are said to be ideal. Why is that? It’s because that teaching and training is well explained and well propounded, emancipating, leading to peace, proclaimed by a fully awakened Buddha.
อิเม จ, ภิกฺขเว, จตฺตาโร อุปาทานาฯ กึนิทานา กึสมุทยา กึชาติกา กึปภวา? อิเม จตฺตาโร อุปาทานา ตณฺหานิทานา ตณฺหาสมุทยา ตณฺหาชาติกา ตณฺหาปภวาฯ ตณฺหา จายํ, ภิกฺขเว, กึนิทานา กึสมุทยา กึชาติกา กึปภวา? ตณฺหา เวทนานิทานา เวทนาสมุทยา เวทนาชาติกา เวทนาปภวาฯ เวทนา จายํ, ภิกฺขเว, กึนิทานา กึสมุทยา กึชาติกา กึปภวา? เวทนา ผสฺสนิทานา ผสฺสสมุทยา ผสฺสชาติกา ผสฺสปภวาฯ ผโสฺส จายํ, ภิกฺขเว, กึนิทาโน กึสมุทโย กึชาติโก กึปภโว? ผโสฺส สฬายตนนิทาโน สฬายตนสมุทโย สฬายตนชาติโก สฬายตนปภโวฯ สฬายตนญฺจิทํ, ภิกฺขเว, กึนิทานํ กึสมุทยํ กึชาติกํ กึปภวํ? สฬายตนํ นามรูปนิทานํ นามรูปสมุทยํ นามรูปชาติกํ นามรูปปภวํฯ นามรูปญฺจิทํ, ภิกฺขเว, กึนิทานํ กึสมุทยํ กึชาติกํ กึปภวํ? นามรูปํ วิญฺญาณนิทานํ วิญฺญาณสมุทยํ วิญฺญาณชาติกํ วิญฺญาณปภวํฯ วิญฺญาณญฺจิทํ, ภิกฺขเว, กึนิทานํ กึสมุทยํ กึชาติกํ กึปภวํ? วิญฺญาณํ สงฺขารนิทานํ สงฺขารสมุทยํ สงฺขารชาติกํ สงฺขารปภวํฯ สงฺขารา จิเม, ภิกฺขเว, กึนิทานา กึสมุทยา กึชาติกา กึปภวา? สงฺขารา อวิชฺชานิทานา อวิชฺชาสมุทยา อวิชฺชาชาติกา อวิชฺชาปภวาฯ
What is the source, origin, birthplace, and inception of these four kinds of grasping? Craving. And what is the source, origin, birthplace, and inception of craving? Feeling. And what is the source of feeling? Contact. And what is the source of contact? The six sense fields. And what is the source of the six sense fields? Name and form. And what is the source of name and form? Consciousness. And what is the source of consciousness? Choices. And what is the source of choices? Ignorance.
ยโต จ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน อวิชฺชา ปหีนา โหติ วิชฺชา อุปฺปนฺนา, โส อวิชฺชาวิราคา วิชฺชุปฺปาทา เนว กามุปาทานํ อุปาทิยติ, น ทิฏฺฐุปาทานํ อุปาทิยติ, น สีลพฺพตุปาทานํ อุปาทิยติ, น อตฺตวาทุปาทานํ อุปาทิยติฯ อนุปาทิยํ น ปริตสฺสติ, อปริตสฺสํ ปจฺจตฺตญฺเญว ปรินิพฺพายติฯ
When that bhikkhu has given up ignorance and given rise to knowledge, they don’t grasp at sensual pleasures, views, precepts and observances, or theories of a self. Not grasping, they’re not anxious. Not being anxious, they personally become extinguished.
‘ขีณา ชาติ, วุสิตํ พฺรหฺมจริยํ, กตํ กรณียํ, นาปรํ อิตฺถตฺตายา'ติ ปชานาตี”ติฯ
They understand: ‘Rebirth is ended, the spiritual journey has been completed, what had to be done has been done, there is no return to any state of existence.’”
อิทมโวจ ภควาฯ อตฺตมนา เต ภิกฺขู ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทุนฺติฯ
That is what the Buddha said. Satisfied, the bhikkhus approved what the Buddha said.
จูฬสีหนาทสุตฺตํ นิฏฺฐิตํ ปฐมํฯ
The authoritative text of the Majjhima Nikāya is the Pāli text. The English translation is provided as an aid to the study of the original Pāli text. [CREDITS »]