Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / มชฺฌิมนิกาย • Majjhimanikāya |
๒. สีหนาทวโคฺค
2. Sīhanādavaggo
๑. จูฬสีหนาทสุตฺตํ
1. Cūḷasīhanādasuttaṃ
๑๓๙. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเมฯ ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามเนฺตสิ – ‘‘ภิกฺขโว’’ติฯ ‘‘ภทเนฺต’’ติ เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจโสฺสสุํฯ ภควา เอตทโวจ –
139. Evaṃ me sutaṃ – ekaṃ samayaṃ bhagavā sāvatthiyaṃ viharati jetavane anāthapiṇḍikassa ārāme. Tatra kho bhagavā bhikkhū āmantesi – ‘‘bhikkhavo’’ti. ‘‘Bhadante’’ti te bhikkhū bhagavato paccassosuṃ. Bhagavā etadavoca –
๑๔๐. ‘‘ฐานํ โข ปเนตํ, ภิกฺขเว, วิชฺชติ ยํ อญฺญติตฺถิยา ปริพฺพาชกา เอวํ วเทยฺยุํ – ‘โก ปนายสฺมนฺตานํ อสฺสาโส, กิํ พลํ, เยน ตุเมฺห อายสฺมโนฺต เอวํ วเทถ – อิเธว สมโณ, อิธ ทุติโย สมโณ, อิธ ตติโย สมโณ, อิธ จตุโตฺถ สมโณ; สุญฺญา ปรปฺปวาทา สมเณภิ อเญฺญหี’ติ? เอวํวาทิโน, ภิกฺขเว, อญฺญติตฺถิยา ปริพฺพาชกา เอวมสฺสุ วจนียา – ‘อตฺถิ โข โน, อาวุโส, เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุเทฺธน จตฺตาโร ธมฺมา อกฺขาตา เย มยํ อตฺตนิ สมฺปสฺสมานา เอวํ วเทม – อิเธว สมโณ, อิธ ทุติโย สมโณ, อิธ ตติโย สมโณ, อิธ จตุโตฺถ สมโณ; สุญฺญา ปรปฺปวาทา สมเณภิ อเญฺญหีติฯ กตเม จตฺตาโร? อตฺถิ โข โน, อาวุโส, สตฺถริ ปสาโท, อตฺถิ ธเมฺม ปสาโท, อตฺถิ สีเลสุ ปริปูรการิตา; สหธมฺมิกา โข ปน ปิยา มนาปา – คหฎฺฐา เจว ปพฺพชิตา จฯ อิเม โข โน, อาวุโส, เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุเทฺธน จตฺตาโร ธมฺมา อกฺขาตา เย มยํ อตฺตนิ สมฺปสฺสมานา เอวํ วเทม – อิเธว สมโณ, อิธ ทุติโย สมโณ, อิธ ตติโย สมโณ, อิธ จตุโตฺถ สมโณ; สุญฺญา ปรปฺปวาทา สมเณภิ อเญฺญหี’ติฯ
140. ‘‘Ṭhānaṃ kho panetaṃ, bhikkhave, vijjati yaṃ aññatitthiyā paribbājakā evaṃ vadeyyuṃ – ‘ko panāyasmantānaṃ assāso, kiṃ balaṃ, yena tumhe āyasmanto evaṃ vadetha – idheva samaṇo, idha dutiyo samaṇo, idha tatiyo samaṇo, idha catuttho samaṇo; suññā parappavādā samaṇebhi aññehī’ti? Evaṃvādino, bhikkhave, aññatitthiyā paribbājakā evamassu vacanīyā – ‘atthi kho no, āvuso, tena bhagavatā jānatā passatā arahatā sammāsambuddhena cattāro dhammā akkhātā ye mayaṃ attani sampassamānā evaṃ vadema – idheva samaṇo, idha dutiyo samaṇo, idha tatiyo samaṇo, idha catuttho samaṇo; suññā parappavādā samaṇebhi aññehīti. Katame cattāro? Atthi kho no, āvuso, satthari pasādo, atthi dhamme pasādo, atthi sīlesu paripūrakāritā; sahadhammikā kho pana piyā manāpā – gahaṭṭhā ceva pabbajitā ca. Ime kho no, āvuso, tena bhagavatā jānatā passatā arahatā sammāsambuddhena cattāro dhammā akkhātā ye mayaṃ attani sampassamānā evaṃ vadema – idheva samaṇo, idha dutiyo samaṇo, idha tatiyo samaṇo, idha catuttho samaṇo; suññā parappavādā samaṇebhi aññehī’ti.
๑๔๑. ‘‘ฐานํ โข ปเนตํ, ภิกฺขเว, วิชฺชติ ยํ อญฺญติตฺถิยา ปริพฺพาชกา เอวํ วเทยฺยุํ – ‘อมฺหากมฺปิ โข, อาวุโส, อตฺถิ สตฺถริ ปสาโท โย อมฺหากํ สตฺถา, อมฺหากมฺปิ อตฺถิ ธเมฺม ปสาโท โย อมฺหากํ ธโมฺม, มยมฺปิ สีเลสุ ปริปูรการิโน ยานิ อมฺหากํ สีลานิ, อมฺหากมฺปิ สหธมฺมิกา ปิยา มนาปา – คหฎฺฐา เจว ปพฺพชิตา จฯ อิธ โน, อาวุโส, โก วิเสโส โก อธิปฺปยาโส 5 กิํ นานากรณํ ยทิทํ ตุมฺหากเญฺจว อมฺหากญฺจา’ติ?
141. ‘‘Ṭhānaṃ kho panetaṃ, bhikkhave, vijjati yaṃ aññatitthiyā paribbājakā evaṃ vadeyyuṃ – ‘amhākampi kho, āvuso, atthi satthari pasādo yo amhākaṃ satthā, amhākampi atthi dhamme pasādo yo amhākaṃ dhammo, mayampi sīlesu paripūrakārino yāni amhākaṃ sīlāni, amhākampi sahadhammikā piyā manāpā – gahaṭṭhā ceva pabbajitā ca. Idha no, āvuso, ko viseso ko adhippayāso 6 kiṃ nānākaraṇaṃ yadidaṃ tumhākañceva amhākañcā’ti?
‘‘เอวํวาทิโน, ภิกฺขเว, อญฺญติตฺถิยา ปริพฺพาชกา เอวมสฺสุ วจนียา – ‘กิํ ปนาวุโส, เอกา นิฎฺฐา, อุทาหุ ปุถุ นิฎฺฐา’ติ? สมฺมา พฺยากรมานา, ภิกฺขเว, อญฺญติตฺถิยา ปริพฺพาชกา เอวํ พฺยากเรยฺยุํ – ‘เอกาวุโส, นิฎฺฐา, น ปุถุ นิฎฺฐา’ติฯ
‘‘Evaṃvādino, bhikkhave, aññatitthiyā paribbājakā evamassu vacanīyā – ‘kiṃ panāvuso, ekā niṭṭhā, udāhu puthu niṭṭhā’ti? Sammā byākaramānā, bhikkhave, aññatitthiyā paribbājakā evaṃ byākareyyuṃ – ‘ekāvuso, niṭṭhā, na puthu niṭṭhā’ti.
‘‘‘สา ปนาวุโส, นิฎฺฐา สราคสฺส อุทาหุ วีตราคสฺสา’ติ? สมฺมา พฺยากรมานา, ภิกฺขเว, อญฺญติตฺถิยา ปริพฺพาชกา เอวํ พฺยากเรยฺยุํ – ‘วีตราคสฺสาวุโส, สา นิฎฺฐา, น สา นิฎฺฐา สราคสฺสา’ติฯ
‘‘‘Sā panāvuso, niṭṭhā sarāgassa udāhu vītarāgassā’ti? Sammā byākaramānā, bhikkhave, aññatitthiyā paribbājakā evaṃ byākareyyuṃ – ‘vītarāgassāvuso, sā niṭṭhā, na sā niṭṭhā sarāgassā’ti.
‘‘‘สา ปนาวุโส, นิฎฺฐา สโทสสฺส อุทาหุ วีตโทสสฺสา’ติ? สมฺมา พฺยากรมานา, ภิกฺขเว, อญฺญติตฺถิยา ปริพฺพาชกา เอวํ พฺยากเรยฺยุํ – ‘วีตโทสสฺสาวุโส, สา นิฎฺฐา, น สา นิฎฺฐา สโทสสฺสา’ติฯ
‘‘‘Sā panāvuso, niṭṭhā sadosassa udāhu vītadosassā’ti? Sammā byākaramānā, bhikkhave, aññatitthiyā paribbājakā evaṃ byākareyyuṃ – ‘vītadosassāvuso, sā niṭṭhā, na sā niṭṭhā sadosassā’ti.
‘‘‘สา ปนาวุโส, นิฎฺฐา สโมหสฺส อุทาหุ วีตโมหสฺสา’ติ? สมฺมา พฺยากรมานา, ภิกฺขเว, อญฺญติตฺถิยา ปริพฺพาชกา เอวํ พฺยากเรยฺยุํ – ‘วีตโมหสฺสาวุโส, สา นิฎฺฐา, น สา นิฎฺฐา สโมหสฺสา’ติฯ
‘‘‘Sā panāvuso, niṭṭhā samohassa udāhu vītamohassā’ti? Sammā byākaramānā, bhikkhave, aññatitthiyā paribbājakā evaṃ byākareyyuṃ – ‘vītamohassāvuso, sā niṭṭhā, na sā niṭṭhā samohassā’ti.
‘‘‘สา ปนาวุโส, นิฎฺฐา สตณฺหสฺส อุทาหุ วีตตณฺหสฺสา’ติ? สมฺมา พฺยากรมานา, ภิกฺขเว, อญฺญติตฺถิยา ปริพฺพาชกา เอวํ พฺยากเรยฺยุํ – ‘วีตตณฺหสฺสาวุโส, สา นิฎฺฐา, น สา นิฎฺฐา สตณฺหสฺสา’ติฯ
‘‘‘Sā panāvuso, niṭṭhā sataṇhassa udāhu vītataṇhassā’ti? Sammā byākaramānā, bhikkhave, aññatitthiyā paribbājakā evaṃ byākareyyuṃ – ‘vītataṇhassāvuso, sā niṭṭhā, na sā niṭṭhā sataṇhassā’ti.
‘‘‘สา ปนาวุโส, นิฎฺฐา สอุปาทานสฺส อุทาหุ อนุปาทานสฺสา’ติ? สมฺมา พฺยากรมานา, ภิกฺขเว , อญฺญติตฺถิยา ปริพฺพาชกา เอวํ พฺยากเรยฺยุํ – ‘อนุปาทานสฺสาวุโส, สา นิฎฺฐา, น สา นิฎฺฐา สอุปาทานสฺสา’ติฯ
‘‘‘Sā panāvuso, niṭṭhā saupādānassa udāhu anupādānassā’ti? Sammā byākaramānā, bhikkhave , aññatitthiyā paribbājakā evaṃ byākareyyuṃ – ‘anupādānassāvuso, sā niṭṭhā, na sā niṭṭhā saupādānassā’ti.
‘‘‘สา ปนาวุโส, นิฎฺฐา วิทฺทสุโน อุทาหุ อวิทฺทสุโน’ติ? สมฺมา พฺยากรมานา, ภิกฺขเว, อญฺญติตฺถิยา ปริพฺพาชกา เอวํ พฺยากเรยฺยุํ – ‘วิทฺทสุโน, อาวุโส, สา นิฎฺฐา, น สา นิฎฺฐา อวิทฺทสุโน’ติฯ
‘‘‘Sā panāvuso, niṭṭhā viddasuno udāhu aviddasuno’ti? Sammā byākaramānā, bhikkhave, aññatitthiyā paribbājakā evaṃ byākareyyuṃ – ‘viddasuno, āvuso, sā niṭṭhā, na sā niṭṭhā aviddasuno’ti.
‘‘‘สา ปนาวุโส, นิฎฺฐา อนุรุทฺธปฺปฎิวิรุทฺธสฺส อุทาหุ อนนุรุทฺธอปฺปฎิวิรุทฺธสฺสา’ติ? สมฺมา พฺยากรมานา, ภิกฺขเว, อญฺญติตฺถิยา ปริพฺพาชกา เอวํ พฺยากเรยฺยุํ – ‘อนนุรุทฺธอปฺปฎิวิรุทฺธสฺสาวุโส, สา นิฎฺฐา, น สา นิฎฺฐา อนุรุทฺธปฺปฎิวิรุทฺธสฺสา’ติฯ
‘‘‘Sā panāvuso, niṭṭhā anuruddhappaṭiviruddhassa udāhu ananuruddhaappaṭiviruddhassā’ti? Sammā byākaramānā, bhikkhave, aññatitthiyā paribbājakā evaṃ byākareyyuṃ – ‘ananuruddhaappaṭiviruddhassāvuso, sā niṭṭhā, na sā niṭṭhā anuruddhappaṭiviruddhassā’ti.
‘‘‘สา ปนาวุโส, นิฎฺฐา ปปญฺจารามสฺส ปปญฺจรติโน อุทาหุ นิปฺปปญฺจารามสฺส นิปฺปปญฺจรติโน’ติ? สมฺมา พฺยากรมานา, ภิกฺขเว, อญฺญติตฺถิยา ปริพฺพาชกา เอวํ พฺยากเรยฺยุํ – ‘นิปฺปปญฺจารามสฺสาวุโส, สา นิฎฺฐา นิปฺปปญฺจรติโน, น สา นิฎฺฐา ปปญฺจารามสฺส ปปญฺจรติโน’ติฯ
‘‘‘Sā panāvuso, niṭṭhā papañcārāmassa papañcaratino udāhu nippapañcārāmassa nippapañcaratino’ti? Sammā byākaramānā, bhikkhave, aññatitthiyā paribbājakā evaṃ byākareyyuṃ – ‘nippapañcārāmassāvuso, sā niṭṭhā nippapañcaratino, na sā niṭṭhā papañcārāmassa papañcaratino’ti.
๑๔๒. ‘‘เทฺวมา, ภิกฺขเว, ทิฎฺฐิโย – ภวทิฎฺฐิ จ วิภวทิฎฺฐิ จฯ เย หิ เกจิ, ภิกฺขเว, สมณา วา พฺราหฺมณา วา ภวทิฎฺฐิํ อลฺลีนา ภวทิฎฺฐิํ อุปคตา ภวทิฎฺฐิํ อโชฺฌสิตา, วิภวทิฎฺฐิยา เต ปฎิวิรุทฺธาฯ เย หิ เกจิ, ภิกฺขเว, สมณา วา พฺราหฺมณา วา วิภวทิฎฺฐิํ อลฺลีนา วิภวทิฎฺฐิํ อุปคตา วิภวทิฎฺฐิํ อโชฺฌสิตา, ภวทิฎฺฐิยา เต ปฎิวิรุทฺธาฯ เย หิ เกจิ, ภิกฺขเว, สมณา วา พฺราหฺมณา วา อิมาสํ ทฺวินฺนํ ทิฎฺฐีนํ สมุทยญฺจ อตฺถงฺคมญฺจ อสฺสาทญฺจ อาทีนวญฺจ นิสฺสรณญฺจ ยถาภูตํ นปฺปชานนฺติ, ‘เต สราคา เต สโทสา เต สโมหา เต สตณฺหา เต สอุปาทานา เต อวิทฺทสุโน เต อนุรุทฺธปฺปฎิวิรุทฺธา เต ปปญฺจารามา ปปญฺจรติโน; เต น ปริมุจฺจนฺติ ชาติยา ชราย มรเณน โสเกหิ ปริเทเวหิ ทุเกฺขหิ โทมนเสฺสหิ อุปายาเสหิ; น ปริมุจฺจนฺติ ทุกฺขสฺมา’ติ วทามิฯ เย จ โข เกจิ, ภิกฺขเว, สมณา วา พฺราหฺมณา วา อิมาสํ ทฺวินฺนํ ทิฎฺฐีนํ สมุทยญฺจ อตฺถงฺคมญฺจ อสฺสาทญฺจ อาทีนวญฺจ นิสฺสรณญฺจ ยถาภูตํ ปชานนฺติ, ‘เต วีตราคา เต วีตโทสา เต วีตโมหา เต วีตตณฺหา เต อนุปาทานา เต วิทฺทสุโน เต อนนุรุทฺธอปฺปฎิวิรุทฺธา เต นิปฺปปญฺจารามา นิปฺปปญฺจรติโน; เต ปริมุจฺจนฺติ ชาติยา ชราย มรเณน โสเกหิ ปริเทเวหิ ทุเกฺขหิ โทมนเสฺสหิ อุปายาเสหิ; ปริมุจฺจนฺติ ทุกฺขสฺมา’ติ วทามิฯ
142. ‘‘Dvemā, bhikkhave, diṭṭhiyo – bhavadiṭṭhi ca vibhavadiṭṭhi ca. Ye hi keci, bhikkhave, samaṇā vā brāhmaṇā vā bhavadiṭṭhiṃ allīnā bhavadiṭṭhiṃ upagatā bhavadiṭṭhiṃ ajjhositā, vibhavadiṭṭhiyā te paṭiviruddhā. Ye hi keci, bhikkhave, samaṇā vā brāhmaṇā vā vibhavadiṭṭhiṃ allīnā vibhavadiṭṭhiṃ upagatā vibhavadiṭṭhiṃ ajjhositā, bhavadiṭṭhiyā te paṭiviruddhā. Ye hi keci, bhikkhave, samaṇā vā brāhmaṇā vā imāsaṃ dvinnaṃ diṭṭhīnaṃ samudayañca atthaṅgamañca assādañca ādīnavañca nissaraṇañca yathābhūtaṃ nappajānanti, ‘te sarāgā te sadosā te samohā te sataṇhā te saupādānā te aviddasuno te anuruddhappaṭiviruddhā te papañcārāmā papañcaratino; te na parimuccanti jātiyā jarāya maraṇena sokehi paridevehi dukkhehi domanassehi upāyāsehi; na parimuccanti dukkhasmā’ti vadāmi. Ye ca kho keci, bhikkhave, samaṇā vā brāhmaṇā vā imāsaṃ dvinnaṃ diṭṭhīnaṃ samudayañca atthaṅgamañca assādañca ādīnavañca nissaraṇañca yathābhūtaṃ pajānanti, ‘te vītarāgā te vītadosā te vītamohā te vītataṇhā te anupādānā te viddasuno te ananuruddhaappaṭiviruddhā te nippapañcārāmā nippapañcaratino; te parimuccanti jātiyā jarāya maraṇena sokehi paridevehi dukkhehi domanassehi upāyāsehi; parimuccanti dukkhasmā’ti vadāmi.
๑๔๓. ‘‘จตฺตาริมานิ , ภิกฺขเว, อุปาทานานิฯ กตมานิ จตฺตาริ? กามุปาทานํ, ทิฎฺฐุปาทานํ, สีลพฺพตุปาทานํ, อตฺตวาทุปาทานํฯ สนฺติ, ภิกฺขเว, เอเก สมณพฺราหฺมณา สพฺพุปาทานปริญฺญาวาทา ปฎิชานมานาฯ เต น สมฺมา สพฺพุปาทานปริญฺญํ ปญฺญเปนฺติ – กามุปาทานสฺส ปริญฺญํ ปญฺญเปนฺติ, น ทิฎฺฐุปาทานสฺส ปริญฺญํ ปญฺญเปนฺติ, น สีลพฺพตุปาทานสฺส ปริญฺญํ ปญฺญเปนฺติ, น อตฺตวาทุปาทานสฺส ปริญฺญํ ปญฺญเปนฺติฯ ตํ กิสฺส เหตุ? อิมานิ หิ เต โภโนฺต สมณพฺราหฺมณา ตีณิ ฐานานิ ยถาภูตํ นปฺปชานนฺติฯ ตสฺมา เต โภโนฺต สมณพฺราหฺมณา สพฺพุปาทานปริญฺญาวาทา ปฎิชานมานา; เต น สมฺมา สพฺพุปาทานปริญฺญํ ปญฺญเปนฺติ – กามุปาทานสฺส ปริญฺญํ ปญฺญเปนฺติ, น ทิฎฺฐุปาทานสฺส ปริญฺญํ ปญฺญเปนฺติ, น สีลพฺพตุปาทานสฺส ปริญฺญํ ปญฺญเปนฺติ, น อตฺตวาทุปาทานสฺส ปริญฺญํ ปญฺญเปนฺติฯ
143. ‘‘Cattārimāni , bhikkhave, upādānāni. Katamāni cattāri? Kāmupādānaṃ, diṭṭhupādānaṃ, sīlabbatupādānaṃ, attavādupādānaṃ. Santi, bhikkhave, eke samaṇabrāhmaṇā sabbupādānapariññāvādā paṭijānamānā. Te na sammā sabbupādānapariññaṃ paññapenti – kāmupādānassa pariññaṃ paññapenti, na diṭṭhupādānassa pariññaṃ paññapenti, na sīlabbatupādānassa pariññaṃ paññapenti, na attavādupādānassa pariññaṃ paññapenti. Taṃ kissa hetu? Imāni hi te bhonto samaṇabrāhmaṇā tīṇi ṭhānāni yathābhūtaṃ nappajānanti. Tasmā te bhonto samaṇabrāhmaṇā sabbupādānapariññāvādā paṭijānamānā; te na sammā sabbupādānapariññaṃ paññapenti – kāmupādānassa pariññaṃ paññapenti, na diṭṭhupādānassa pariññaṃ paññapenti, na sīlabbatupādānassa pariññaṃ paññapenti, na attavādupādānassa pariññaṃ paññapenti.
‘‘สนฺติ, ภิกฺขเว, เอเก สมณพฺราหฺมณา สพฺพุปาทานปริญฺญาวาทา ปฎิชานมานาฯ เต น สมฺมา สพฺพุปาทานปริญฺญํ ปญฺญเปนฺติ – กามุปาทานสฺส ปริญฺญํ ปญฺญเปนฺติ, ทิฎฺฐุปาทานสฺส ปริญฺญํ ปญฺญเปนฺติ, น สีลพฺพตุปาทานสฺส ปริญฺญํ ปญฺญเปนฺติ, น อตฺตวาทุปาทานสฺส ปริญฺญํ ปญฺญเปนฺติฯ ตํ กิสฺส เหตุ? อิมานิ หิ เต โภโนฺต สมณพฺราหฺมณา เทฺว ฐานานิ ยถาภูตํ นปฺปชานนฺติฯ ตสฺมา เต โภโนฺต สมณพฺราหฺมณา สพฺพุปาทานปริญฺญาวาทา ปฎิชานมานา; เต น สมฺมา 7 สพฺพุปาทานปริญฺญํ ปญฺญเปนฺติ – กามุปาทานสฺส ปริญฺญํ ปญฺญเปนฺติ, ทิฎฺฐุปาทานสฺส ปริญฺญํ ปญฺญเปนฺติ, น สีลพฺพตุปาทานสฺส ปริญฺญํ ปญฺญเปนฺติ, น อตฺตวาทุปาทานสฺส ปริญฺญํ ปญฺญเปนฺติฯ
‘‘Santi, bhikkhave, eke samaṇabrāhmaṇā sabbupādānapariññāvādā paṭijānamānā. Te na sammā sabbupādānapariññaṃ paññapenti – kāmupādānassa pariññaṃ paññapenti, diṭṭhupādānassa pariññaṃ paññapenti, na sīlabbatupādānassa pariññaṃ paññapenti, na attavādupādānassa pariññaṃ paññapenti. Taṃ kissa hetu? Imāni hi te bhonto samaṇabrāhmaṇā dve ṭhānāni yathābhūtaṃ nappajānanti. Tasmā te bhonto samaṇabrāhmaṇā sabbupādānapariññāvādā paṭijānamānā; te na sammā 8 sabbupādānapariññaṃ paññapenti – kāmupādānassa pariññaṃ paññapenti, diṭṭhupādānassa pariññaṃ paññapenti, na sīlabbatupādānassa pariññaṃ paññapenti, na attavādupādānassa pariññaṃ paññapenti.
‘‘สนฺติ, ภิกฺขเว, เอเก สมณพฺราหฺมณา สพฺพุปาทานปริญฺญาวาทา ปฎิชานมานาฯ เต น สมฺมา สพฺพุปาทานปริญฺญํ ปญฺญเปนฺติ – กามุปาทานสฺส ปริญฺญํ ปญฺญเปนฺติ, ทิฎฺฐุปาทานสฺส ปริญฺญํ ปญฺญเปนฺติ, สีลพฺพตุปาทานสฺส ปริญฺญํ ปญฺญเปนฺติ, น อตฺตวาทุปาทานสฺส ปริญฺญํ ปญฺญเปนฺติฯ ตํ กิสฺส เหตุ? อิมญฺหิ เต โภโนฺต สมณพฺราหฺมณา เอกํ ฐานํ ยถาภูตํ นปฺปชานนฺติฯ ตสฺมา เต โภโนฺต สมณพฺราหฺมณา สพฺพุปาทานปริญฺญาวาทา ปฎิชานมานา; เต น สมฺมา 9 สพฺพุปาทานปริญฺญํ ปญฺญเปนฺติ – กามุปาทานสฺส ปริญฺญํ ปญฺญเปนฺติ, ทิฎฺฐุปาทานสฺส ปริญฺญํ ปญฺญเปนฺติ, สีลพฺพตุปาทานสฺส ปริญฺญํ ปญฺญเปนฺติ, น อตฺตวาทุปาทานสฺส ปริญฺญํ ปญฺญเปนฺติฯ
‘‘Santi, bhikkhave, eke samaṇabrāhmaṇā sabbupādānapariññāvādā paṭijānamānā. Te na sammā sabbupādānapariññaṃ paññapenti – kāmupādānassa pariññaṃ paññapenti, diṭṭhupādānassa pariññaṃ paññapenti, sīlabbatupādānassa pariññaṃ paññapenti, na attavādupādānassa pariññaṃ paññapenti. Taṃ kissa hetu? Imañhi te bhonto samaṇabrāhmaṇā ekaṃ ṭhānaṃ yathābhūtaṃ nappajānanti. Tasmā te bhonto samaṇabrāhmaṇā sabbupādānapariññāvādā paṭijānamānā; te na sammā 10 sabbupādānapariññaṃ paññapenti – kāmupādānassa pariññaṃ paññapenti, diṭṭhupādānassa pariññaṃ paññapenti, sīlabbatupādānassa pariññaṃ paññapenti, na attavādupādānassa pariññaṃ paññapenti.
‘‘เอวรูเป โข, ภิกฺขเว, ธมฺมวินเย โย สตฺถริ ปสาโท โส น สมฺมคฺคโต อกฺขายติ; โย ธเมฺม ปสาโท โส น สมฺมคฺคโต อกฺขายติ; ยา สีเลสุ ปริปูรการิตา สา น สมฺมคฺคตา อกฺขายติ; ยา สหธมฺมิเกสุ ปิยมนาปตา สา น สมฺมคฺคตา อกฺขายติฯ ตํ กิสฺส เหตุ? เอวเญฺหตํ, ภิกฺขเว, โหติ ยถา ตํ ทุรกฺขาเต ธมฺมวินเย ทุปฺปเวทิเต อนิยฺยานิเก อนุปสมสํวตฺตนิเก อสมฺมาสมฺพุทฺธปฺปเวทิเตฯ
‘‘Evarūpe kho, bhikkhave, dhammavinaye yo satthari pasādo so na sammaggato akkhāyati; yo dhamme pasādo so na sammaggato akkhāyati; yā sīlesu paripūrakāritā sā na sammaggatā akkhāyati; yā sahadhammikesu piyamanāpatā sā na sammaggatā akkhāyati. Taṃ kissa hetu? Evañhetaṃ, bhikkhave, hoti yathā taṃ durakkhāte dhammavinaye duppavedite aniyyānike anupasamasaṃvattanike asammāsambuddhappavedite.
๑๔๔. ‘‘ตถาคโต จ โข, ภิกฺขเว, อรหํ สมฺมาสมฺพุโทฺธ สพฺพุปาทานปริญฺญาวาโท ปฎิชานมาโน สมฺมา สพฺพุปาทานปริญฺญํ ปญฺญเปติ – กามุปาทานสฺส ปริญฺญํ ปญฺญเปติ, ทิฎฺฐุปาทานสฺส ปริญฺญํ ปญฺญเปติ, สีลพฺพตุปาทานสฺส ปริญฺญํ ปญฺญเปติ, อตฺตวาทุปาทานสฺส ปริญฺญํ ปญฺญเปติฯ เอวรูเป โข, ภิกฺขเว, ธมฺมวินเย โย สตฺถริ ปสาโท โส สมฺมคฺคโต อกฺขายติ; โย ธเมฺม ปสาโท โส สมฺมคฺคโต อกฺขายติ; ยา สีเลสุ ปริปูรการิตา สา สมฺมคฺคตา อกฺขายติ; ยา สหธมฺมิเกสุ ปิยมนาปตา สา สมฺมคฺคตา อกฺขายติฯ ตํ กิสฺส เหตุ? เอวเญฺหตํ, ภิกฺขเว, โหติ ยถา ตํ สฺวากฺขาเต ธมฺมวินเย สุปฺปเวทิเต นิยฺยานิเก อุปสมสํวตฺตนิเก สมฺมาสมฺพุทฺธปฺปเวทิเตฯ
144. ‘‘Tathāgato ca kho, bhikkhave, arahaṃ sammāsambuddho sabbupādānapariññāvādo paṭijānamāno sammā sabbupādānapariññaṃ paññapeti – kāmupādānassa pariññaṃ paññapeti, diṭṭhupādānassa pariññaṃ paññapeti, sīlabbatupādānassa pariññaṃ paññapeti, attavādupādānassa pariññaṃ paññapeti. Evarūpe kho, bhikkhave, dhammavinaye yo satthari pasādo so sammaggato akkhāyati; yo dhamme pasādo so sammaggato akkhāyati; yā sīlesu paripūrakāritā sā sammaggatā akkhāyati; yā sahadhammikesu piyamanāpatā sā sammaggatā akkhāyati. Taṃ kissa hetu? Evañhetaṃ, bhikkhave, hoti yathā taṃ svākkhāte dhammavinaye suppavedite niyyānike upasamasaṃvattanike sammāsambuddhappavedite.
๑๔๕. ‘‘อิเม จ, ภิกฺขเว, จตฺตาโร อุปาทานาฯ กิํนิทานา กิํสมุทยา กิํชาติกา กิํปภวา? อิเม จตฺตาโร อุปาทานา ตณฺหานิทานา ตณฺหาสมุทยา ตณฺหาชาติกา ตณฺหาปภวาฯ ตณฺหา จายํ, ภิกฺขเว, กิํนิทานา กิํสมุทยา กิํชาติกา กิํปภวา? ตณฺหา เวทนานิทานา เวทนาสมุทยา เวทนาชาติกา เวทนาปภวาฯ เวทนา จายํ, ภิกฺขเว, กิํนิทานา กิํสมุทยา กิํชาติกา กิํปภวา? เวทนา ผสฺสนิทานา ผสฺสสมุทยา ผสฺสชาติกา ผสฺสปภวาฯ ผโสฺส จายํ, ภิกฺขเว, กิํนิทาโน กิํสมุทโย กิํชาติโก กิํปภโว? ผโสฺส สฬายตนนิทาโน สฬายตนสมุทโย สฬายตนชาติโก สฬายตนปภโวฯ สฬายตนญฺจิทํ, ภิกฺขเว, กิํนิทานํ กิํสมุทยํ กิํชาติกํ กิํปภวํ? สฬายตนํ นามรูปนิทานํ นามรูปสมุทยํ นามรูปชาติกํ นามรูปปภวํฯ นามรูปญฺจิทํ, ภิกฺขเว, กิํนิทานํ กิํสมุทยํ กิํชาติกํ กิํปภวํ? นามรูปํ วิญฺญาณนิทานํ วิญฺญาณสมุทยํ วิญฺญาณชาติกํ วิญฺญาณปภวํฯ วิญฺญาณญฺจิทํ, ภิกฺขเว , กิํนิทานํ กิํสมุทยํ กิํชาติกํ กิํปภวํ? วิญฺญาณํ สงฺขารนิทานํ สงฺขารสมุทยํ สงฺขารชาติกํ สงฺขารปภวํฯ สงฺขารา จิเม, ภิกฺขเว, กิํนิทานา กิํสมุทยา กิํชาติกา กิํปภวา? สงฺขารา อวิชฺชานิทานา อวิชฺชาสมุทยา อวิชฺชาชาติกา อวิชฺชาปภวาฯ
145. ‘‘Ime ca, bhikkhave, cattāro upādānā. Kiṃnidānā kiṃsamudayā kiṃjātikā kiṃpabhavā? Ime cattāro upādānā taṇhānidānā taṇhāsamudayā taṇhājātikā taṇhāpabhavā. Taṇhā cāyaṃ, bhikkhave, kiṃnidānā kiṃsamudayā kiṃjātikā kiṃpabhavā? Taṇhā vedanānidānā vedanāsamudayā vedanājātikā vedanāpabhavā. Vedanā cāyaṃ, bhikkhave, kiṃnidānā kiṃsamudayā kiṃjātikā kiṃpabhavā? Vedanā phassanidānā phassasamudayā phassajātikā phassapabhavā. Phasso cāyaṃ, bhikkhave, kiṃnidāno kiṃsamudayo kiṃjātiko kiṃpabhavo? Phasso saḷāyatananidāno saḷāyatanasamudayo saḷāyatanajātiko saḷāyatanapabhavo. Saḷāyatanañcidaṃ, bhikkhave, kiṃnidānaṃ kiṃsamudayaṃ kiṃjātikaṃ kiṃpabhavaṃ? Saḷāyatanaṃ nāmarūpanidānaṃ nāmarūpasamudayaṃ nāmarūpajātikaṃ nāmarūpapabhavaṃ. Nāmarūpañcidaṃ, bhikkhave, kiṃnidānaṃ kiṃsamudayaṃ kiṃjātikaṃ kiṃpabhavaṃ? Nāmarūpaṃ viññāṇanidānaṃ viññāṇasamudayaṃ viññāṇajātikaṃ viññāṇapabhavaṃ. Viññāṇañcidaṃ, bhikkhave , kiṃnidānaṃ kiṃsamudayaṃ kiṃjātikaṃ kiṃpabhavaṃ? Viññāṇaṃ saṅkhāranidānaṃ saṅkhārasamudayaṃ saṅkhārajātikaṃ saṅkhārapabhavaṃ. Saṅkhārā cime, bhikkhave, kiṃnidānā kiṃsamudayā kiṃjātikā kiṃpabhavā? Saṅkhārā avijjānidānā avijjāsamudayā avijjājātikā avijjāpabhavā.
‘‘ยโต จ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน อวิชฺชา ปหีนา โหติ วิชฺชา อุปฺปนฺนา, โส อวิชฺชาวิราคา วิชฺชุปฺปาทา เนว กามุปาทานํ อุปาทิยติ, น ทิฎฺฐุปาทานํ อุปาทิยติ, น สีลพฺพตุปาทานํ อุปาทิยติ, น อตฺตวาทุปาทานํ อุปาทิยติฯ อนุปาทิยํ น ปริตสฺสติ, อปริตสฺสํ ปจฺจตฺตเญฺญว ปรินิพฺพายติฯ ‘ขีณา ชาติ, วุสิตํ พฺรหฺมจริยํ, กตํ กรณียํ, นาปรํ อิตฺถตฺตายา’ติ ปชานาตี’’ติฯ
‘‘Yato ca kho, bhikkhave, bhikkhuno avijjā pahīnā hoti vijjā uppannā, so avijjāvirāgā vijjuppādā neva kāmupādānaṃ upādiyati, na diṭṭhupādānaṃ upādiyati, na sīlabbatupādānaṃ upādiyati, na attavādupādānaṃ upādiyati. Anupādiyaṃ na paritassati, aparitassaṃ paccattaññeva parinibbāyati. ‘Khīṇā jāti, vusitaṃ brahmacariyaṃ, kataṃ karaṇīyaṃ, nāparaṃ itthattāyā’ti pajānātī’’ti.
อิทมโวจ ภควาฯ อตฺตมนา เต ภิกฺขู ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทุนฺติฯ
Idamavoca bhagavā. Attamanā te bhikkhū bhagavato bhāsitaṃ abhinandunti.
จูฬสีหนาทสุตฺตํ นิฎฺฐิตํ ปฐมํฯ
Cūḷasīhanādasuttaṃ niṭṭhitaṃ paṭhamaṃ.
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / มชฺฌิมนิกาย (อฎฺฐกถา) • Majjhimanikāya (aṭṭhakathā) / ๑. จูฬสีหนาทสุตฺตวณฺณนา • 1. Cūḷasīhanādasuttavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / มชฺฌิมนิกาย (ฎีกา) • Majjhimanikāya (ṭīkā) / ๑. จูฬสีหนาทสุตฺตวณฺณนา • 1. Cūḷasīhanādasuttavaṇṇanā