Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / มชฺฌิมนิกาย • Majjhimanikāya

    ๓. สุญฺญตวโคฺค

    3. Suññatavaggo

    ๑. จูฬสุญฺญตสุตฺตํ

    1. Cūḷasuññatasuttaṃ

    ๑๗๖. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ ปุพฺพาราเม มิคารมาตุปาสาเทฯ อถ โข อายสฺมา อานโนฺท สายนฺหสมยํ ปฎิสลฺลานา วุฎฺฐิโต เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสิโนฺน โข อายสฺมา อานโนฺท ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘เอกมิทํ, ภเนฺต, สมยํ ภควา สเกฺกสุ วิหรติ นครกํ นาม สกฺยานํ นิคโมฯ ตตฺถ เม, ภเนฺต, ภควโต สมฺมุขา สุตํ, สมฺมุขา ปฎิคฺคหิตํ – ‘สุญฺญตาวิหาเรนาหํ, อานนฺท, เอตรหิ พหุลํ วิหรามี’ติฯ กจฺจิ เมตํ, ภเนฺต, สุสฺสุตํ สุคฺคหิตํ สุมนสิกตํ สูปธาริต’’นฺติ? ‘‘ตคฺฆ เต เอตํ, อานนฺท, สุสฺสุตํ สุคฺคหิตํ สุมนสิกตํ สูปธาริตํฯ ปุเพฺพปาหํ 1, อานนฺท, เอตรหิปิ 2 สุญฺญตาวิหาเรน พหุลํ วิหรามิฯ เสยฺยถาปิ, อานนฺท, อยํ มิคารมาตุปาสาโท สุโญฺญ หตฺถิควสฺสวฬเวน, สุโญฺญ ชาตรูปรชเตน, สุโญฺญ อิตฺถิปุริสสนฺนิปาเตน อตฺถิ เจวิทํ อสุญฺญตํ ยทิทํ – ภิกฺขุสงฺฆํ ปฎิจฺจ เอกตฺตํ; เอวเมว โข, อานนฺท, ภิกฺขุ อมนสิกริตฺวา คามสญฺญํ, อมนสิกริตฺวา มนุสฺสสญฺญํ, อรญฺญสญฺญํ ปฎิจฺจ มนสิ กโรติ เอกตฺตํ ฯ ตสฺส อรญฺญสญฺญาย จิตฺตํ ปกฺขนฺทติ ปสีทติ สนฺติฎฺฐติ อธิมุจฺจติฯ โส เอวํ ปชานาติ – ‘เย อสฺสุ ทรถา คามสญฺญํ ปฎิจฺจ เตธ น สนฺติ, เย อสฺสุ ทรถา มนุสฺสสญฺญํ ปฎิจฺจ เตธ น สนฺติ, อตฺถิ เจวายํ ทรถมตฺตา ยทิทํ – อรญฺญสญฺญํ ปฎิจฺจ เอกตฺต’นฺติฯ โส ‘สุญฺญมิทํ สญฺญาคตํ คามสญฺญายา’ติ ปชานาติ, ‘สุญฺญมิทํ สญฺญาคตํ มนุสฺสสญฺญายา’ติ ปชานาติ, ‘อตฺถิ เจวิทํ อสุญฺญตํ ยทิทํ – อรญฺญสญฺญํ ปฎิจฺจ เอกตฺต’นฺติฯ อิติ ยญฺหิ โข ตตฺถ น โหติ เตน ตํ สุญฺญํ สมนุปสฺสติ, ยํ ปน ตตฺถ อวสิฎฺฐํ โหติ ตํ ‘สนฺตมิทํ อตฺถี’’’ติ ปชานาติฯ เอวมฺปิสฺส เอสา, อานนฺท, ยถาภุจฺจา อวิปลฺลตฺถา ปริสุทฺธา สุญฺญตาวกฺกนฺติ ภวติฯ

    176. Evaṃ me sutaṃ – ekaṃ samayaṃ bhagavā sāvatthiyaṃ viharati pubbārāme migāramātupāsāde. Atha kho āyasmā ānando sāyanhasamayaṃ paṭisallānā vuṭṭhito yena bhagavā tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā bhagavantaṃ abhivādetvā ekamantaṃ nisīdi. Ekamantaṃ nisinno kho āyasmā ānando bhagavantaṃ etadavoca – ‘‘ekamidaṃ, bhante, samayaṃ bhagavā sakkesu viharati nagarakaṃ nāma sakyānaṃ nigamo. Tattha me, bhante, bhagavato sammukhā sutaṃ, sammukhā paṭiggahitaṃ – ‘suññatāvihārenāhaṃ, ānanda, etarahi bahulaṃ viharāmī’ti. Kacci metaṃ, bhante, sussutaṃ suggahitaṃ sumanasikataṃ sūpadhārita’’nti? ‘‘Taggha te etaṃ, ānanda, sussutaṃ suggahitaṃ sumanasikataṃ sūpadhāritaṃ. Pubbepāhaṃ 3, ānanda, etarahipi 4 suññatāvihārena bahulaṃ viharāmi. Seyyathāpi, ānanda, ayaṃ migāramātupāsādo suñño hatthigavassavaḷavena, suñño jātarūparajatena, suñño itthipurisasannipātena atthi cevidaṃ asuññataṃ yadidaṃ – bhikkhusaṅghaṃ paṭicca ekattaṃ; evameva kho, ānanda, bhikkhu amanasikaritvā gāmasaññaṃ, amanasikaritvā manussasaññaṃ, araññasaññaṃ paṭicca manasi karoti ekattaṃ . Tassa araññasaññāya cittaṃ pakkhandati pasīdati santiṭṭhati adhimuccati. So evaṃ pajānāti – ‘ye assu darathā gāmasaññaṃ paṭicca tedha na santi, ye assu darathā manussasaññaṃ paṭicca tedha na santi, atthi cevāyaṃ darathamattā yadidaṃ – araññasaññaṃ paṭicca ekatta’nti. So ‘suññamidaṃ saññāgataṃ gāmasaññāyā’ti pajānāti, ‘suññamidaṃ saññāgataṃ manussasaññāyā’ti pajānāti, ‘atthi cevidaṃ asuññataṃ yadidaṃ – araññasaññaṃ paṭicca ekatta’nti. Iti yañhi kho tattha na hoti tena taṃ suññaṃ samanupassati, yaṃ pana tattha avasiṭṭhaṃ hoti taṃ ‘santamidaṃ atthī’’’ti pajānāti. Evampissa esā, ānanda, yathābhuccā avipallatthā parisuddhā suññatāvakkanti bhavati.

    ๑๗๗. ‘‘ปุน จปรํ, อานนฺท, ภิกฺขุ อมนสิกริตฺวา มนุสฺสสญฺญํ, อมนสิกริตฺวา อรญฺญสญฺญํ, ปถวีสญฺญํ ปฎิจฺจ มนสิ กโรติ เอกตฺตํฯ ตสฺส ปถวีสญฺญาย จิตฺตํ ปกฺขนฺทติ ปสีทติ สนฺติฎฺฐติ อธิมุจฺจติฯ เสยฺยถาปิ, อานนฺท, อาสภจมฺมํ สงฺกุสเตน สุวิหตํ วิคตวลิกํ; เอวเมว โข, อานนฺท, ภิกฺขุ ยํ อิมิสฺสา ปถวิยา อุกฺกูลวิกฺกูลํ นทีวิทุคฺคํ ขาณุกณฺฎกฎฺฐานํ ปพฺพตวิสมํ ตํ สพฺพํ 5 อมนสิกริตฺวา ปถวีสญฺญํ ปฎิจฺจ มนสิ กโรติ เอกตฺตํฯ ตสฺส ปถวีสญฺญาย จิตฺตํ ปกฺขนฺทติ ปสีทติ สนฺติฎฺฐติ อธิมุจฺจติฯ โส เอวํ ปชานาติ – ‘เย อสฺสุ ทรถา มนุสฺสสญฺญํ ปฎิจฺจ เตธ น สนฺติ, เย อสฺสุ ทรถา อรญฺญสญฺญํ ปฎิจฺจ เตธ น สนฺติ, อตฺถิ เจวายํ ทรถมตฺตา ยทิทํ – ปถวีสญฺญํ ปฎิจฺจ เอกตฺต’นฺติฯ โส ‘สุญฺญมิทํ สญฺญาคตํ มนุสฺสสญฺญายา’ติ ปชานาติ, ‘สุญฺญมิทํ สญฺญาคตํ อรญฺญสญฺญายา’ติ ปชานาติ, ‘อตฺถิ เจวิทํ อสุญฺญตํ ยทิทํ – ปถวีสญฺญํ ปฎิจฺจ เอกตฺต’นฺติฯ อิติ ยญฺหิ โข ตตฺถ น โหติ เตน ตํ สุญฺญํ สมนุปสฺสติ, ยํ ปน ตตฺถ อวสิฎฺฐํ โหติ ตํ ‘สนฺตมิทํ อตฺถี’ติ ปชานาติฯ เอวมฺปิสฺส เอสา, อานนฺท, ยถาภุจฺจา อวิปลฺลตฺถา ปริสุทฺธา สุญฺญตาวกฺกนฺติ ภวติฯ

    177. ‘‘Puna caparaṃ, ānanda, bhikkhu amanasikaritvā manussasaññaṃ, amanasikaritvā araññasaññaṃ, pathavīsaññaṃ paṭicca manasi karoti ekattaṃ. Tassa pathavīsaññāya cittaṃ pakkhandati pasīdati santiṭṭhati adhimuccati. Seyyathāpi, ānanda, āsabhacammaṃ saṅkusatena suvihataṃ vigatavalikaṃ; evameva kho, ānanda, bhikkhu yaṃ imissā pathaviyā ukkūlavikkūlaṃ nadīviduggaṃ khāṇukaṇṭakaṭṭhānaṃ pabbatavisamaṃ taṃ sabbaṃ 6 amanasikaritvā pathavīsaññaṃ paṭicca manasi karoti ekattaṃ. Tassa pathavīsaññāya cittaṃ pakkhandati pasīdati santiṭṭhati adhimuccati. So evaṃ pajānāti – ‘ye assu darathā manussasaññaṃ paṭicca tedha na santi, ye assu darathā araññasaññaṃ paṭicca tedha na santi, atthi cevāyaṃ darathamattā yadidaṃ – pathavīsaññaṃ paṭicca ekatta’nti. So ‘suññamidaṃ saññāgataṃ manussasaññāyā’ti pajānāti, ‘suññamidaṃ saññāgataṃ araññasaññāyā’ti pajānāti, ‘atthi cevidaṃ asuññataṃ yadidaṃ – pathavīsaññaṃ paṭicca ekatta’nti. Iti yañhi kho tattha na hoti tena taṃ suññaṃ samanupassati, yaṃ pana tattha avasiṭṭhaṃ hoti taṃ ‘santamidaṃ atthī’ti pajānāti. Evampissa esā, ānanda, yathābhuccā avipallatthā parisuddhā suññatāvakkanti bhavati.

    ๑๗๘. ‘‘ปุน จปรํ, อานนฺท, ภิกฺขุ อมนสิกริตฺวา อรญฺญสญฺญํ, อมนสิกริตฺวา ปถวีสญฺญํ, อากาสานญฺจายตนสญฺญํ ปฎิจฺจ มนสิ กโรติ เอกตฺตํฯ ตสฺส อากาสานญฺจายตนสญฺญาย จิตฺตํ ปกฺขนฺทติ ปสีทติ สนฺติฎฺฐติ อธิมุจฺจติฯ โส เอวํ ปชานาติ – ‘เย อสฺสุ ทรถา อรญฺญสญฺญํ ปฎิจฺจ เตธ น สนฺติ, เย อสฺสุ ทรถา ปถวีสญฺญํ ปฎิจฺจ เตธ น สนฺติ, อตฺถิ เจวายํ ทรถมตฺตา ยทิทํ – อากาสานญฺจายตนสญฺญํ ปฎิจฺจ เอกตฺต’นฺติฯ โส ‘สุญฺญมิทํ สญฺญาคตํ อรญฺญสญฺญายา’ติ ปชานาติ, ‘สุญฺญมิทํ สญฺญาคตํ ปถวีสญฺญายา’ติ ปชานาติ, ‘อตฺถิ เจวิทํ อสุญฺญตํ ยทิทํ – อากาสานญฺจายตนสญฺญํ ปฎิจฺจ เอกตฺต’นฺติฯ อิติ ยญฺหิ โข ตตฺถ น โหติ เตน ตํ สุญฺญํ สมนุปสฺสติ, ยํ ปน ตตฺถ อวสิฎฺฐํ โหติ ตํ ‘สนฺตมิทํ อตฺถี’ติ ปชานาติฯ เอวมฺปิสฺส เอสา, อานนฺท , ยถาภุจฺจา อวิปลฺลตฺถา ปริสุทฺธา สุญฺญตาวกฺกนฺติ ภวติฯ

    178. ‘‘Puna caparaṃ, ānanda, bhikkhu amanasikaritvā araññasaññaṃ, amanasikaritvā pathavīsaññaṃ, ākāsānañcāyatanasaññaṃ paṭicca manasi karoti ekattaṃ. Tassa ākāsānañcāyatanasaññāya cittaṃ pakkhandati pasīdati santiṭṭhati adhimuccati. So evaṃ pajānāti – ‘ye assu darathā araññasaññaṃ paṭicca tedha na santi, ye assu darathā pathavīsaññaṃ paṭicca tedha na santi, atthi cevāyaṃ darathamattā yadidaṃ – ākāsānañcāyatanasaññaṃ paṭicca ekatta’nti. So ‘suññamidaṃ saññāgataṃ araññasaññāyā’ti pajānāti, ‘suññamidaṃ saññāgataṃ pathavīsaññāyā’ti pajānāti, ‘atthi cevidaṃ asuññataṃ yadidaṃ – ākāsānañcāyatanasaññaṃ paṭicca ekatta’nti. Iti yañhi kho tattha na hoti tena taṃ suññaṃ samanupassati, yaṃ pana tattha avasiṭṭhaṃ hoti taṃ ‘santamidaṃ atthī’ti pajānāti. Evampissa esā, ānanda , yathābhuccā avipallatthā parisuddhā suññatāvakkanti bhavati.

    ๑๗๙. ‘‘ปุน จปรํ, อานนฺท, ภิกฺขุ อมนสิกริตฺวา ปถวีสญฺญํ, อมนสิกริตฺวา อากาสานญฺจายตนสญฺญํ, วิญฺญาณญฺจายตนสญฺญํ ปฎิจฺจ มนสิ กโรติ เอกตฺตํฯ ตสฺส วิญฺญาณญฺจายตนสญฺญาย จิตฺตํ ปกฺขนฺทติ ปสีทติ สนฺติฎฺฐติ อธิมุจฺจติฯ โส เอวํ ปชานาติ – ‘เย อสฺสุ ทรถา ปถวีสญฺญํ ปฎิจฺจ เตธ น สนฺติ, เย อสฺสุ ทรถา อากาสานญฺจายตนสญฺญํ ปฎิจฺจ เตธ น สนฺติ, อตฺถิ เจวายํ ทรถมตฺตา ยทิทํ – วิญฺญาณญฺจายตนสญฺญํ ปฎิจฺจ เอกตฺต’นฺติฯ โส ‘สุญฺญมิทํ สญฺญาคตํ ปถวีสญฺญายา’ติ ปชานาติ, ‘สุญฺญมิทํ สญฺญาคตํ อากาสานญฺจายตนสญฺญายา’ติ ปชานาติ, ‘อตฺถิ เจวิทํ อสุญฺญตํ ยทิทํ – วิญฺญาณญฺจายตนสญฺญํ ปฎิจฺจ เอกตฺต’นฺติฯ อิติ ยญฺหิ โข ตตฺถ น โหติ เตน ตํ สุญฺญํ สมนุปสฺสติ, ยํ ปน ตตฺถ อวสิฎฺฐํ โหติ ตํ ‘สนฺตมิทํ อตฺถี’ติ ปชานาติฯ เอวมฺปิสฺส เอสา, อานนฺท, ยถาภุจฺจา อวิปลฺลตฺถา ปริสุทฺธา สุญฺญตาวกฺกนฺติ ภวติฯ

    179. ‘‘Puna caparaṃ, ānanda, bhikkhu amanasikaritvā pathavīsaññaṃ, amanasikaritvā ākāsānañcāyatanasaññaṃ, viññāṇañcāyatanasaññaṃ paṭicca manasi karoti ekattaṃ. Tassa viññāṇañcāyatanasaññāya cittaṃ pakkhandati pasīdati santiṭṭhati adhimuccati. So evaṃ pajānāti – ‘ye assu darathā pathavīsaññaṃ paṭicca tedha na santi, ye assu darathā ākāsānañcāyatanasaññaṃ paṭicca tedha na santi, atthi cevāyaṃ darathamattā yadidaṃ – viññāṇañcāyatanasaññaṃ paṭicca ekatta’nti. So ‘suññamidaṃ saññāgataṃ pathavīsaññāyā’ti pajānāti, ‘suññamidaṃ saññāgataṃ ākāsānañcāyatanasaññāyā’ti pajānāti, ‘atthi cevidaṃ asuññataṃ yadidaṃ – viññāṇañcāyatanasaññaṃ paṭicca ekatta’nti. Iti yañhi kho tattha na hoti tena taṃ suññaṃ samanupassati, yaṃ pana tattha avasiṭṭhaṃ hoti taṃ ‘santamidaṃ atthī’ti pajānāti. Evampissa esā, ānanda, yathābhuccā avipallatthā parisuddhā suññatāvakkanti bhavati.

    ๑๘๐. ‘‘ปุน จปรํ, อานนฺท, ภิกฺขุ อมนสิกริตฺวา อากาสานญฺจายตนสญฺญํ, อมนสิกริตฺวา วิญฺญาณญฺจายตนสญฺญํ, อากิญฺจญฺญายตนสญฺญํ ปฎิจฺจ มนสิ กโรติ เอกตฺตํฯ ตสฺส อากิญฺจญฺญายตนสญฺญาย จิตฺตํ ปกฺขนฺทติ ปสีทติ สนฺติฎฺฐติ อธิมุจฺจติฯ โส เอวํ ปชานาติ – ‘เย อสฺสุ ทรถา อากาสานญฺจายตนสญฺญํ ปฎิจฺจ เตธ น สนฺติ, เย อสฺสุ ทรถา วิญฺญาณญฺจายตนสญฺญํ ปฎิจฺจ เตธ น สนฺติ, อตฺถิ เจวายํ ทรถมตฺตา ยทิทํ – อากิญฺจญฺญายตนสญฺญํ ปฎิจฺจ เอกตฺต’นฺติฯ โส ‘สุญฺญมิทํ สญฺญาคตํ อากาสานญฺจายตนสญฺญายา’ติ ปชานาติ, ‘สุญฺญมิทํ สญฺญาคตํ วิญฺญาณญฺจายตนสญฺญายา’ติ ปชานาติ, ‘อตฺถิ เจวิทํ อสุญฺญตํ ยทิทํ – อากิญฺจญฺญายตนสญฺญํ ปฎิจฺจ เอกตฺต’นฺติฯ อิติ ยญฺหิ โข ตตฺถ น โหติ เตน ตํ สุญฺญํ สมนุปสฺสติ, ยํ ปน ตตฺถ อวสิฎฺฐํ โหติ ตํ ‘สนฺตมิทํ อตฺถี’ติ ปชานาติฯ เอวมฺปิสฺส เอสา, อานนฺท, ยถาภุจฺจา อวิปลฺลตฺถา ปริสุทฺธา สุญฺญตาวกฺกนฺติ ภวติฯ

    180. ‘‘Puna caparaṃ, ānanda, bhikkhu amanasikaritvā ākāsānañcāyatanasaññaṃ, amanasikaritvā viññāṇañcāyatanasaññaṃ, ākiñcaññāyatanasaññaṃ paṭicca manasi karoti ekattaṃ. Tassa ākiñcaññāyatanasaññāya cittaṃ pakkhandati pasīdati santiṭṭhati adhimuccati. So evaṃ pajānāti – ‘ye assu darathā ākāsānañcāyatanasaññaṃ paṭicca tedha na santi, ye assu darathā viññāṇañcāyatanasaññaṃ paṭicca tedha na santi, atthi cevāyaṃ darathamattā yadidaṃ – ākiñcaññāyatanasaññaṃ paṭicca ekatta’nti. So ‘suññamidaṃ saññāgataṃ ākāsānañcāyatanasaññāyā’ti pajānāti, ‘suññamidaṃ saññāgataṃ viññāṇañcāyatanasaññāyā’ti pajānāti, ‘atthi cevidaṃ asuññataṃ yadidaṃ – ākiñcaññāyatanasaññaṃ paṭicca ekatta’nti. Iti yañhi kho tattha na hoti tena taṃ suññaṃ samanupassati, yaṃ pana tattha avasiṭṭhaṃ hoti taṃ ‘santamidaṃ atthī’ti pajānāti. Evampissa esā, ānanda, yathābhuccā avipallatthā parisuddhā suññatāvakkanti bhavati.

    ๑๘๑. ‘‘ปุน จปรํ, อานนฺท ภิกฺขุ อมนสิกริตฺวา วิญฺญาณญฺจายตนสญฺญํ, อมนสิกริตฺวา อากิญฺจญฺญายตนสญฺญํ, เนวสญฺญานาสญฺญายตนสญฺญํ ปฎิจฺจ มนสิ กโรติ เอกตฺตํฯ ตสฺส เนวสญฺญานาสญฺญายตนสญฺญาย จิตฺตํ ปกฺขนฺทติ ปสีทติ สนฺติฎฺฐติ อธิมุจฺจติฯ โส เอวํ ปชานาติ – ‘เย อสฺสุ ทรถา วิญฺญาณญฺจายตนสญฺญํ ปฎิจฺจ เตธ น สนฺติ, เย อสฺสุ ทรถา อากิญฺจญฺญายตนสญฺญํ ปฎิจฺจ เตธ น สนฺติ, อตฺถิ เจวายํ ทรถมตฺตา ยทิทํ – เนวสญฺญานาสญฺญายตนสญฺญํ ปฎิจฺจ เอกตฺต’นฺติฯ โส ‘สุญฺญมิทํ สญฺญาคตํ วิญฺญาณญฺจายตนสญฺญายา’ติ ปชานาติ, ‘สุญฺญมิทํ สญฺญาคตํ อากิญฺจญฺญายตนสญฺญายา’ติ ปชานาติ, ‘อตฺถิ เจวิทํ อสุญฺญตํ ยทิทํ – เนวสญฺญานาสญฺญายตนสญฺญํ ปฎิจฺจ เอกตฺต’นฺติ ฯ อิติ ยญฺหิ โข ตตฺถ น โหติ เตน ตํ สุญฺญํ สมนุปสฺสติ, ยํ ปน ตตฺถ อวสิฎฺฐํ โหติ ตํ ‘สนฺตมิทํ อตฺถี’ติ ปชานาติฯ เอวมฺปิสฺส เอสา, อานนฺท, ยถาภุจฺจา อวิปลฺลตฺถา ปริสุทฺธา สุญฺญตาวกฺกนฺติ ภวติฯ

    181. ‘‘Puna caparaṃ, ānanda bhikkhu amanasikaritvā viññāṇañcāyatanasaññaṃ, amanasikaritvā ākiñcaññāyatanasaññaṃ, nevasaññānāsaññāyatanasaññaṃ paṭicca manasi karoti ekattaṃ. Tassa nevasaññānāsaññāyatanasaññāya cittaṃ pakkhandati pasīdati santiṭṭhati adhimuccati. So evaṃ pajānāti – ‘ye assu darathā viññāṇañcāyatanasaññaṃ paṭicca tedha na santi, ye assu darathā ākiñcaññāyatanasaññaṃ paṭicca tedha na santi, atthi cevāyaṃ darathamattā yadidaṃ – nevasaññānāsaññāyatanasaññaṃ paṭicca ekatta’nti. So ‘suññamidaṃ saññāgataṃ viññāṇañcāyatanasaññāyā’ti pajānāti, ‘suññamidaṃ saññāgataṃ ākiñcaññāyatanasaññāyā’ti pajānāti, ‘atthi cevidaṃ asuññataṃ yadidaṃ – nevasaññānāsaññāyatanasaññaṃ paṭicca ekatta’nti . Iti yañhi kho tattha na hoti tena taṃ suññaṃ samanupassati, yaṃ pana tattha avasiṭṭhaṃ hoti taṃ ‘santamidaṃ atthī’ti pajānāti. Evampissa esā, ānanda, yathābhuccā avipallatthā parisuddhā suññatāvakkanti bhavati.

    ๑๘๒. ‘‘ปุน จปรํ, อานนฺท, ภิกฺขุ อมนสิกริตฺวา อากิญฺจญฺญายตนสญฺญํ, อมนสิกริตฺวา เนวสญฺญานาสญฺญายตนสญฺญํ, อนิมิตฺตํ เจโตสมาธิํ ปฎิจฺจ มนสิ กโรติ เอกตฺตํฯ ตสฺส อนิมิเตฺต เจโตสมาธิมฺหิ จิตฺตํ ปกฺขนฺทติ ปสีทติ สนฺติฎฺฐติ อธิมุจฺจติฯ โส เอวํ ปชานาติ – ‘เย อสฺสุ ทรถา อากิญฺจญฺญายตนสญฺญํ ปฎิจฺจ เตธ น สนฺติ, เย อสฺสุ ทรถา เนวสญฺญานาสญฺญายตนสญฺญํ ปฎิจฺจ เตธ น สนฺติ, อตฺถิ เจวายํ ทรถมตฺตา ยทิทํ – อิมเมว กายํ ปฎิจฺจ สฬายตนิกํ ชีวิตปจฺจยา’ติ ฯ โส ‘สุญฺญมิทํ สญฺญาคตํ อากิญฺจญฺญายตนสญฺญายา’ติ ปชานาติ, ‘สุญฺญมิทํ สญฺญาคตํ เนวสญฺญานาสญฺญายตนสญฺญายา’ติ ปชานาติ, ‘อตฺถิ เจวิทํ อสุญฺญตํ ยทิทํ – อิมเมว กายํ ปฎิจฺจ สฬายตนิกํ ชีวิตปจฺจยา’ติฯ อิติ ยญฺหิ โข ตตฺถ น โหติ เตน ตํ สุญฺญํ สมนุปสฺสติ, ยํ ปน ตตฺถ อวสิฎฺฐํ โหติ ตํ ‘สนฺตมิทํ อตฺถี’ติ ปชานาติฯ เอวมฺปิสฺส เอสา, อานนฺท, ยถาภุจฺจา อวิปลฺลตฺถา ปริสุทฺธา สุญฺญตาวกฺกนฺติ ภวติฯ

    182. ‘‘Puna caparaṃ, ānanda, bhikkhu amanasikaritvā ākiñcaññāyatanasaññaṃ, amanasikaritvā nevasaññānāsaññāyatanasaññaṃ, animittaṃ cetosamādhiṃ paṭicca manasi karoti ekattaṃ. Tassa animitte cetosamādhimhi cittaṃ pakkhandati pasīdati santiṭṭhati adhimuccati. So evaṃ pajānāti – ‘ye assu darathā ākiñcaññāyatanasaññaṃ paṭicca tedha na santi, ye assu darathā nevasaññānāsaññāyatanasaññaṃ paṭicca tedha na santi, atthi cevāyaṃ darathamattā yadidaṃ – imameva kāyaṃ paṭicca saḷāyatanikaṃ jīvitapaccayā’ti . So ‘suññamidaṃ saññāgataṃ ākiñcaññāyatanasaññāyā’ti pajānāti, ‘suññamidaṃ saññāgataṃ nevasaññānāsaññāyatanasaññāyā’ti pajānāti, ‘atthi cevidaṃ asuññataṃ yadidaṃ – imameva kāyaṃ paṭicca saḷāyatanikaṃ jīvitapaccayā’ti. Iti yañhi kho tattha na hoti tena taṃ suññaṃ samanupassati, yaṃ pana tattha avasiṭṭhaṃ hoti taṃ ‘santamidaṃ atthī’ti pajānāti. Evampissa esā, ānanda, yathābhuccā avipallatthā parisuddhā suññatāvakkanti bhavati.

    ๑๘๓. ‘‘ปุน จปรํ, อานนฺท, ภิกฺขุ อมนสิกริตฺวา อากิญฺจญฺญายตนสญฺญํ, อมนสิกริตฺวา เนวสญฺญานาสญฺญายตนสญฺญํ, อนิมิตฺตํ เจโตสมาธิํ ปฎิจฺจ มนสิ กโรติ เอกตฺตํฯ ตสฺส อนิมิเตฺต เจโตสมาธิมฺหิ จิตฺตํ ปกฺขนฺทติ ปสีทติ สนฺติฎฺฐติ อธิมุจฺจติฯ โส เอวํ ปชานาติ – ‘อยมฺปิ โข อนิมิโตฺต เจโตสมาธิ อภิสงฺขโต อภิสเญฺจตยิโต’ฯ ‘ยํ โข ปน กิญฺจิ อภิสงฺขตํ อภิสเญฺจตยิตํ ตทนิจฺจํ นิโรธธมฺม’นฺติ ปชานาติฯ ตสฺส เอวํ ชานโต เอวํ ปสฺสโต กามาสวาปิ จิตฺตํ วิมุจฺจติ, ภวาสวาปิ จิตฺตํ วิมุจฺจติ, อวิชฺชาสวาปิ จิตฺตํ วิมุจฺจติฯ วิมุตฺตสฺมิํ วิมุตฺตมิติ ญาณํ โหติฯ ‘ขีณา ชาติ, วุสิตํ พฺรหฺมจริยํ, กตํ กรณียํ, นาปรํ อิตฺถตฺตายา’ติ ปชานาติฯ โส เอวํ ปชานาติ – ‘เย อสฺสุ ทรถา กามาสวํ ปฎิจฺจ เตธ น สนฺติ, เย อสฺสุ ทรถา ภวาสวํ ปฎิจฺจ เตธ น สนฺติ, เย อสฺสุ ทรถา อวิชฺชาสวํ ปฎิจฺจ เตธ น สนฺติ, อตฺถิ เจวายํ ทรถมตฺตา ยทิทํ – อิมเมว กายํ ปฎิจฺจ สฬายตนิกํ ชีวิตปจฺจยา’ติฯ โส ‘สุญฺญมิทํ สญฺญาคตํ กามาสเวนา’ติ ปชานาติ, ‘สุญฺญมิทํ สญฺญาคตํ ภวาสเวนา’ติ ปชานาติ, ‘สุญฺญมิทํ สญฺญาคตํ อวิชฺชาสเวนา’ติ ปชานาติ, ‘อตฺถิ เจวิทํ อสุญฺญตํ ยทิทํ – อิมเมว กายํ ปฎิจฺจ สฬายตนิกํ ชีวิตปจฺจยา’ติฯ อิติ ยญฺหิ โข ตตฺถ น โหติ เตน ตํ สุญฺญํ สมนุปสฺสติ, ยํ ปน ตตฺถ อวสิฎฺฐํ โหติ ตํ ‘สนฺตมิทํ อตฺถี’ติ ปชานาติฯ เอวมฺปิสฺส เอสา, อานนฺท, ยถาภุจฺจา อวิปลฺลตฺถา ปริสุทฺธา ปรมานุตฺตรา สุญฺญตาวกฺกนฺติ ภวติฯ

    183. ‘‘Puna caparaṃ, ānanda, bhikkhu amanasikaritvā ākiñcaññāyatanasaññaṃ, amanasikaritvā nevasaññānāsaññāyatanasaññaṃ, animittaṃ cetosamādhiṃ paṭicca manasi karoti ekattaṃ. Tassa animitte cetosamādhimhi cittaṃ pakkhandati pasīdati santiṭṭhati adhimuccati. So evaṃ pajānāti – ‘ayampi kho animitto cetosamādhi abhisaṅkhato abhisañcetayito’. ‘Yaṃ kho pana kiñci abhisaṅkhataṃ abhisañcetayitaṃ tadaniccaṃ nirodhadhamma’nti pajānāti. Tassa evaṃ jānato evaṃ passato kāmāsavāpi cittaṃ vimuccati, bhavāsavāpi cittaṃ vimuccati, avijjāsavāpi cittaṃ vimuccati. Vimuttasmiṃ vimuttamiti ñāṇaṃ hoti. ‘Khīṇā jāti, vusitaṃ brahmacariyaṃ, kataṃ karaṇīyaṃ, nāparaṃ itthattāyā’ti pajānāti. So evaṃ pajānāti – ‘ye assu darathā kāmāsavaṃ paṭicca tedha na santi, ye assu darathā bhavāsavaṃ paṭicca tedha na santi, ye assu darathā avijjāsavaṃ paṭicca tedha na santi, atthi cevāyaṃ darathamattā yadidaṃ – imameva kāyaṃ paṭicca saḷāyatanikaṃ jīvitapaccayā’ti. So ‘suññamidaṃ saññāgataṃ kāmāsavenā’ti pajānāti, ‘suññamidaṃ saññāgataṃ bhavāsavenā’ti pajānāti, ‘suññamidaṃ saññāgataṃ avijjāsavenā’ti pajānāti, ‘atthi cevidaṃ asuññataṃ yadidaṃ – imameva kāyaṃ paṭicca saḷāyatanikaṃ jīvitapaccayā’ti. Iti yañhi kho tattha na hoti tena taṃ suññaṃ samanupassati, yaṃ pana tattha avasiṭṭhaṃ hoti taṃ ‘santamidaṃ atthī’ti pajānāti. Evampissa esā, ānanda, yathābhuccā avipallatthā parisuddhā paramānuttarā suññatāvakkanti bhavati.

    ๑๘๔. ‘‘เยปิ หิ เกจิ, อานนฺท, อตีตมทฺธานํ สมณา วา พฺราหฺมณา วา ปริสุทฺธํ ปรมานุตฺตรํ สุญฺญตํ อุปสมฺปชฺช วิหริํสุ, สเพฺพ เต อิมํเยว ปริสุทฺธํ ปรมานุตฺตรํ สุญฺญตํ อุปสมฺปชฺช วิหริํสุฯ เยปิ 7 หิ เกจิ, อานนฺท, อนาคตมทฺธานํ สมณา วา พฺราหฺมณา วา ปริสุทฺธํ ปรมานุตฺตรํ สุญฺญตํ อุปสมฺปชฺช วิหริสฺสนฺติ, สเพฺพ เต อิมํเยว ปริสุทฺธํ ปรมานุตฺตรํ สุญฺญตํ อุปสมฺปชฺช วิหริสฺสนฺติฯ เยปิ 8 หิ เกจิ, อานนฺท, เอตรหิ สมณา วา พฺราหฺมณา วา ปริสุทฺธํ ปรมานุตฺตรํ สุญฺญตํ อุปสมฺปชฺช วิหรนฺติ, สเพฺพ เต อิมํเยว ปริสุทฺธํ ปรมานุตฺตรํ สุญฺญตํ อุปสมฺปชฺช วิหรนฺติฯ ตสฺมาติห, อานนฺท, ‘ปริสุทฺธํ ปรมานุตฺตรํ สุญฺญตํ อุปสมฺปชฺช วิหริสฺสามา’ติ 9 – เอวญฺหิ โว 10, อานนฺท, สิกฺขิตพฺพ’’นฺติฯ

    184. ‘‘Yepi hi keci, ānanda, atītamaddhānaṃ samaṇā vā brāhmaṇā vā parisuddhaṃ paramānuttaraṃ suññataṃ upasampajja vihariṃsu, sabbe te imaṃyeva parisuddhaṃ paramānuttaraṃ suññataṃ upasampajja vihariṃsu. Yepi 11 hi keci, ānanda, anāgatamaddhānaṃ samaṇā vā brāhmaṇā vā parisuddhaṃ paramānuttaraṃ suññataṃ upasampajja viharissanti, sabbe te imaṃyeva parisuddhaṃ paramānuttaraṃ suññataṃ upasampajja viharissanti. Yepi 12 hi keci, ānanda, etarahi samaṇā vā brāhmaṇā vā parisuddhaṃ paramānuttaraṃ suññataṃ upasampajja viharanti, sabbe te imaṃyeva parisuddhaṃ paramānuttaraṃ suññataṃ upasampajja viharanti. Tasmātiha, ānanda, ‘parisuddhaṃ paramānuttaraṃ suññataṃ upasampajja viharissāmā’ti 13 – evañhi vo 14, ānanda, sikkhitabba’’nti.

    อิทมโวจ ภควาฯ อตฺตมโน อายสฺมา อานโนฺท ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทีติฯ

    Idamavoca bhagavā. Attamano āyasmā ānando bhagavato bhāsitaṃ abhinandīti.

    จูฬสุญฺญตสุตฺตํ นิฎฺฐิตํ ปฐมํฯ

    Cūḷasuññatasuttaṃ niṭṭhitaṃ paṭhamaṃ.







    Footnotes:
    1. ปุเพฺพจาหํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)
    2. เอตรหิ จ (สพฺพตฺถ)
    3. pubbecāhaṃ (sī. syā. kaṃ. pī.)
    4. etarahi ca (sabbattha)
    5. สพฺพํ (ก.)
    6. sabbaṃ (ka.)
    7. เย (สี. ปี.)
    8. เย (สี. ปี.)
    9. วิหริสฺสามีติ (ปี. ก.)
    10. เต (ก.)
    11. ye (sī. pī.)
    12. ye (sī. pī.)
    13. viharissāmīti (pī. ka.)
    14. te (ka.)



    Related texts:



    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / มชฺฌิมนิกาย (อฎฺฐกถา) • Majjhimanikāya (aṭṭhakathā) / ๑. จูฬสุญฺญตสุตฺตวณฺณนา • 1. Cūḷasuññatasuttavaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / มชฺฌิมนิกาย (ฎีกา) • Majjhimanikāya (ṭīkā) / ๑. จูฬสุญฺญตสุตฺตวณฺณนา • 1. Cūḷasuññatasuttavaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact