Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / เถรคาถา-อฎฺฐกถา • Theragāthā-aṭṭhakathā

    ๒. ทุติยวโคฺค

    2. Dutiyavaggo

    ๑. จูฬวจฺฉเตฺถรคาถาวณฺณนา

    1. Cūḷavacchattheragāthāvaṇṇanā

    ปาโมชฺชพหุโลติ อายสฺมโต จูฬวจฺฉเตฺถรสฺส คาถาฯ กา อุปฺปตฺติ? โส กิร ปทุมุตฺตรสฺส ภควโต กาเล ทลิทฺทกุเล นิพฺพตฺติตฺวา ปเรสํ ภติยา ชีวิกํ กเปฺปโนฺต ภควโต สาวกํ สุชาตํ นาม เถรํ ปํสุกูลํ ปริเยสนฺตํ ทิสฺวา ปสนฺนมานโส อุปสงฺกมิตฺวา วตฺถํ ทตฺวา ปญฺจปติฎฺฐิเตน วนฺทิฯ โส เตน ปุญฺญกเมฺมน เตตฺติํสกฺขตฺตุํ เทวรชฺชํ กาเรสิฯ สตฺตสตฺตติกฺขตฺตุํ จกฺกวตฺตี ราชา อโหสิฯ อเนกวารํ ปเทสราชาฯ เอวํ เทวมนุเสฺสสุ สํสรโนฺต กสฺสปสฺส ภควโต สาสเน โอสกฺกมาเน ปพฺพชิตฺวา สมณธมฺมํ กตฺวา เอกํ พุทฺธนฺตรํ เทวมนุสฺสคตีสุ อปราปรํ ปริวตฺตโนฺต อมฺหากํ ภควโต กาเล โกสมฺพิยํ พฺราหฺมณกุเล นิพฺพตฺติฯ จูฬวโจฺฉติสฺส นามํ อโหสิฯ โส วยปฺปโตฺต พฺราหฺมณสิเปฺปสุ นิปฺผตฺติํ คโต พุทฺธคุเณ สุตฺวา ปสนฺนมานโส ภควนฺตํ อุปสงฺกมิ, ตสฺส ภควา ธมฺมํ กเถสิฯ โส ปฎิลทฺธสโทฺธ ปพฺพชิตฺวา ลทฺธูปสมฺปโท กตปุพฺพกิโจฺจ จริตานุกูลํ กมฺมฎฺฐานํ คเหตฺวา ภาเวโนฺต วิหริฯ เตน จ สมเยน โกสมฺพิกา ภิกฺขู ภณฺฑนชาตา อเหสุํฯ ตทา จูฬวจฺฉเตฺถโร อุภเยสํ ภิกฺขูนํ ลทฺธิํ อนาทาย ภควตา ทิโนฺนวาเท ฐตฺวา วิปสฺสนํ พฺรูเหตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณิฯ เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถร ๒.๕๐.๓๑-๔๐) –

    Pāmojjabahuloti āyasmato cūḷavacchattherassa gāthā. Kā uppatti? So kira padumuttarassa bhagavato kāle daliddakule nibbattitvā paresaṃ bhatiyā jīvikaṃ kappento bhagavato sāvakaṃ sujātaṃ nāma theraṃ paṃsukūlaṃ pariyesantaṃ disvā pasannamānaso upasaṅkamitvā vatthaṃ datvā pañcapatiṭṭhitena vandi. So tena puññakammena tettiṃsakkhattuṃ devarajjaṃ kāresi. Sattasattatikkhattuṃ cakkavattī rājā ahosi. Anekavāraṃ padesarājā. Evaṃ devamanussesu saṃsaranto kassapassa bhagavato sāsane osakkamāne pabbajitvā samaṇadhammaṃ katvā ekaṃ buddhantaraṃ devamanussagatīsu aparāparaṃ parivattanto amhākaṃ bhagavato kāle kosambiyaṃ brāhmaṇakule nibbatti. Cūḷavacchotissa nāmaṃ ahosi. So vayappatto brāhmaṇasippesu nipphattiṃ gato buddhaguṇe sutvā pasannamānaso bhagavantaṃ upasaṅkami, tassa bhagavā dhammaṃ kathesi. So paṭiladdhasaddho pabbajitvā laddhūpasampado katapubbakicco caritānukūlaṃ kammaṭṭhānaṃ gahetvā bhāvento vihari. Tena ca samayena kosambikā bhikkhū bhaṇḍanajātā ahesuṃ. Tadā cūḷavacchatthero ubhayesaṃ bhikkhūnaṃ laddhiṃ anādāya bhagavatā dinnovāde ṭhatvā vipassanaṃ brūhetvā arahattaṃ pāpuṇi. Tena vuttaṃ apadāne (apa. thera 2.50.31-40) –

    ‘‘ปทุมุตฺตรภควโต, สุชาโต นาม สาวโก;

    ‘‘Padumuttarabhagavato, sujāto nāma sāvako;

    ปํสุกูลํ คเวสโนฺต, สงฺกาเร จรตี ตทาฯ

    Paṃsukūlaṃ gavesanto, saṅkāre caratī tadā.

    ‘‘นคเร หํสวติยา, ปเรสํ ภตโก อหํ;

    ‘‘Nagare haṃsavatiyā, paresaṃ bhatako ahaṃ;

    อุปฑฺฒุทุสฺสํ ทตฺวาน, สิรสา อภิวาทยิํฯ

    Upaḍḍhudussaṃ datvāna, sirasā abhivādayiṃ.

    ‘‘เตน กเมฺมน สุกเตน, เจตนาปณิธีหิ จ;

    ‘‘Tena kammena sukatena, cetanāpaṇidhīhi ca;

    ชหิตฺวา มานุสํ เทหํ, ตาวติํสมคจฺฉหํฯ

    Jahitvā mānusaṃ dehaṃ, tāvatiṃsamagacchahaṃ.

    ‘‘เตตฺติํสกฺขตฺตุํ เทวิโนฺท, เทวรชฺชมการยิํ;

    ‘‘Tettiṃsakkhattuṃ devindo, devarajjamakārayiṃ;

    สตฺตสตฺตติกฺขตฺตุญฺจ, จกฺกวตฺตี อโหสหํฯ

    Sattasattatikkhattuñca, cakkavattī ahosahaṃ.

    ‘‘ปเทสรชฺชํ วิปุลํ, คณนาโต อสงฺขิยํ;

    ‘‘Padesarajjaṃ vipulaṃ, gaṇanāto asaṅkhiyaṃ;

    อุปฑฺฒทุสฺสทาเนน, โมทามิ อกุโตภโยฯ

    Upaḍḍhadussadānena, modāmi akutobhayo.

    ‘‘อิจฺฉมาโน จหํ อชฺช, สกานนํ สปพฺพตํ;

    ‘‘Icchamāno cahaṃ ajja, sakānanaṃ sapabbataṃ;

    โขมทุเสฺสหิ ฉาเทยฺยํ, อฑฺฒุทุสฺสสฺสิทํ ผลํฯ

    Khomadussehi chādeyyaṃ, aḍḍhudussassidaṃ phalaṃ.

    ‘‘สตสหสฺสิโต กเปฺป, ยํ ทานมททิํ ตทา;

    ‘‘Satasahassito kappe, yaṃ dānamadadiṃ tadā;

    ทุคฺคติํ นาภิชานามิ, อฑฺฒุทุสฺสสฺสิทํ ผลํฯ

    Duggatiṃ nābhijānāmi, aḍḍhudussassidaṃ phalaṃ.

    ‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ…เป.… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติฯ

    ‘‘Kilesā jhāpitā mayhaṃ…pe… kataṃ buddhassa sāsana’’nti.

    อถ จูฬวจฺฉเตฺถโร อรหตฺตํ ปตฺวา เตสํ ภิกฺขูนํ กลหาภิรติยา สกตฺถวินาสํ ทิสฺวา ธมฺมสํเวคปฺปโตฺต, อตฺตโน จ ปตฺตวิเสสํ ปจฺจเวกฺขิตฺวา ปีติโสมนสฺสวเสน ‘‘ปาโมชฺชพหุโล’’ติ คาถํ อภาสิฯ

    Atha cūḷavacchatthero arahattaṃ patvā tesaṃ bhikkhūnaṃ kalahābhiratiyā sakatthavināsaṃ disvā dhammasaṃvegappatto, attano ca pattavisesaṃ paccavekkhitvā pītisomanassavasena ‘‘pāmojjabahulo’’ti gāthaṃ abhāsi.

    ๑๑. ตตฺถ ปาโมชฺชพหุโลติ สุปริสุทฺธสีลตาย วิปฺปฎิสาราภาวโต อธิกุสเลสุ ธเมฺมสุ อภิรติวเสน ปโมทพหุโลฯ เตเนวาห ‘‘ธเมฺม พุทฺธปฺปเวทิเต’’ติฯ ตตฺถ ธเมฺมติฯ สตฺตติํสาย โพธิปกฺขิยธเมฺม นววิเธ วา โลกุตฺตรธเมฺมฯ โส หิ สพฺพญฺญุพุเทฺธน สามุกฺกํสิกาย เทสนาย ปกาสิตตฺตา สาติสยํ พุทฺธปฺปเวทิโต นามฯ ตสฺส ปน อธิคมูปายภาวโต เทสนาธโมฺมปิ อิธ ลพฺภเตวฯ ปทํ สนฺตนฺติ นิพฺพานํ สนฺธาย วทติฯ เอวรูโป หิ ภิกฺขุ สนฺตํ ปทํ สนฺตํ โกฎฺฐาสํ สพฺพสงฺขารานํ อุปสมภาวโต สงฺขารูปสมํ ปรมสุขตาย สุขํ นิพฺพานํ อธิคจฺฉติ วินฺทติเยวฯ ปริสุทฺธสีโล หิ ภิกฺขุ วิปฺปฎิสาราภาเวน ปาโมชฺชพหุโล สทฺธเมฺม ยุตฺตปฺปยุโตฺต วิมุตฺติปริโยสานา สพฺพสมฺปตฺติโย ปาปุณาติฯ ยถาห – ‘‘อวิปฺปฎิสารตฺถานิ โข , อานนฺท, กุสลานิ สีลานิ, อวิปฺปฎิสาโร ปาโมชฺชตฺถายา’’ติอาทิ (อ. นิ. ๑๐.๑)ฯ อถ วา ปาโมชฺชพหุโลติ สมฺมาสมฺพุโทฺธ ภควา, สฺวากฺขาโต ธโมฺม, สุปฺปฎิปโนฺน สโงฺฆติ รตนตฺตยํ สนฺธาย ปโมทพหุโลฯ ตตฺถ ปน โส ปโมทพหุโล กิํ วา กโรตีติ อาห ‘‘ธเมฺม พุทฺธปฺปเวทิเต’’ติอาทิฯ สทฺธาสมฺปนฺนสฺส หิ สปฺปุริสสํเสวนสทฺธมฺมสฺสวนโยนิโสมนสิการธมฺมานุธมฺมปฎิปตฺตีนํ สุเขเนว สมฺภวโต สมฺปตฺติโย หตฺถคตา เอว โหนฺติ, ยถาห – ‘‘สทฺธาชาโต อุปสงฺกมติ, อุปสงฺกมโนฺต ปยิรุปาสตี’’ติอาทิ (ม. นิ. ๒.๑๘๓)ฯ

    11. Tattha pāmojjabahuloti suparisuddhasīlatāya vippaṭisārābhāvato adhikusalesu dhammesu abhirativasena pamodabahulo. Tenevāha ‘‘dhamme buddhappavedite’’ti. Tattha dhammeti. Sattatiṃsāya bodhipakkhiyadhamme navavidhe vā lokuttaradhamme. So hi sabbaññubuddhena sāmukkaṃsikāya desanāya pakāsitattā sātisayaṃ buddhappavedito nāma. Tassa pana adhigamūpāyabhāvato desanādhammopi idha labbhateva. Padaṃ santanti nibbānaṃ sandhāya vadati. Evarūpo hi bhikkhu santaṃ padaṃ santaṃ koṭṭhāsaṃ sabbasaṅkhārānaṃ upasamabhāvato saṅkhārūpasamaṃ paramasukhatāya sukhaṃ nibbānaṃ adhigacchati vindatiyeva. Parisuddhasīlo hi bhikkhu vippaṭisārābhāvena pāmojjabahulo saddhamme yuttappayutto vimuttipariyosānā sabbasampattiyo pāpuṇāti. Yathāha – ‘‘avippaṭisāratthāni kho , ānanda, kusalāni sīlāni, avippaṭisāro pāmojjatthāyā’’tiādi (a. ni. 10.1). Atha vā pāmojjabahuloti sammāsambuddho bhagavā, svākkhāto dhammo, suppaṭipanno saṅghoti ratanattayaṃ sandhāya pamodabahulo. Tattha pana so pamodabahulo kiṃ vā karotīti āha ‘‘dhamme buddhappavedite’’tiādi. Saddhāsampannassa hi sappurisasaṃsevanasaddhammassavanayonisomanasikāradhammānudhammapaṭipattīnaṃ sukheneva sambhavato sampattiyo hatthagatā eva honti, yathāha – ‘‘saddhājāto upasaṅkamati, upasaṅkamanto payirupāsatī’’tiādi (ma. ni. 2.183).

    จูฬวจฺฉเตฺถรคาถาวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Cūḷavacchattheragāthāvaṇṇanā niṭṭhitā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / เถรคาถาปาฬิ • Theragāthāpāḷi / ๑. จูฬวจฺฉเตฺถรคาถา • 1. Cūḷavacchattheragāthā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact