Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย • Aṅguttaranikāya |
๑๐. จุนฺทสุตฺตํ
10. Cundasuttaṃ
๑๗๖. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา ปาวายํ 1 วิหรติ จุนฺทสฺส กมฺมารปุตฺตสฺส อมฺพวเนฯ อถ โข จุโนฺท กมฺมารปุโตฺต เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข จุนฺทํ กมฺมารปุตฺตํ ภควา เอตทโวจ – ‘‘กสฺส โน ตฺวํ, จุนฺท, โสเจยฺยานิ โรเจสี’’ติ? ‘‘พฺราหฺมณา, ภเนฺต, ปจฺฉาภูมกา กมณฺฑลุกา เสวาลมาลิกา 2 อคฺคิปริจาริกา อุทโกโรหกา โสเจยฺยานิ ปญฺญเปนฺติ; เตสาหํ โสเจยฺยานิ โรเจมี’’ติฯ
176. Evaṃ me sutaṃ – ekaṃ samayaṃ bhagavā pāvāyaṃ 3 viharati cundassa kammāraputtassa ambavane. Atha kho cundo kammāraputto yena bhagavā tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā bhagavantaṃ abhivādetvā ekamantaṃ nisīdi. Ekamantaṃ nisinnaṃ kho cundaṃ kammāraputtaṃ bhagavā etadavoca – ‘‘kassa no tvaṃ, cunda, soceyyāni rocesī’’ti? ‘‘Brāhmaṇā, bhante, pacchābhūmakā kamaṇḍalukā sevālamālikā 4 aggiparicārikā udakorohakā soceyyāni paññapenti; tesāhaṃ soceyyāni rocemī’’ti.
‘‘ยถา กถํ ปน, จุนฺท, พฺราหฺมณา ปจฺฉาภูมกา กมณฺฑลุกา เสวาลมาลิกา อคฺคิปริจาริกา อุทโกโรหกา โสเจยฺยานิ ปญฺญเปนฺตี’’ติ? ‘‘อิธ, ภเนฺต, พฺราหฺมณา ปจฺฉาภูมกา กมณฺฑลุกา เสวาลมาลิกา อคฺคิปริจาริกา อุทโกโรหกาฯ เต สาวกํ 5 เอวํ สมาทเปนฺติ – ‘เอหิ ตฺวํ, อโมฺภ ปุริส, กาลเสฺสว 6 อุฎฺฐหโนฺตว 7 สยนมฺหา ปถวิํ อามเสยฺยาสิ; โน เจ ปถวิํ อามเสยฺยาสิ, อลฺลานิ โคมยานิ อามเสยฺยาสิ; โน เจ อลฺลานิ โคมยานิ อามเสยฺยาสิ, หริตานิ ติณานิ อามเสยฺยาสิ; โน เจ หริตานิ ติณานิ อามเสยฺยาสิ, อคฺคิํ ปริจเรยฺยาสิ; โน เจ อคฺคิํ ปริจเรยฺยาสิ, ปญฺชลิโก อาทิจฺจํ นมเสฺสยฺยาสิ; โน เจ ปญฺชลิโก อาทิจฺจํ นมเสฺสยฺยาสิ, สายตติยกํ อุทกํ โอโรเหยฺยาสี’ติฯ เอวํ โข, ภเนฺต, พฺราหฺมณา ปจฺฉาภูมกา กมณฺฑลุกา เสวาลมาลิกา อคฺคิปริจาริกา อุทโกโรหกา โสเจยฺยานิ ปญฺญเปนฺติ; เตสาหํ โสเจยฺยานิ โรเจมี’’ติฯ
‘‘Yathā kathaṃ pana, cunda, brāhmaṇā pacchābhūmakā kamaṇḍalukā sevālamālikā aggiparicārikā udakorohakā soceyyāni paññapentī’’ti? ‘‘Idha, bhante, brāhmaṇā pacchābhūmakā kamaṇḍalukā sevālamālikā aggiparicārikā udakorohakā. Te sāvakaṃ 8 evaṃ samādapenti – ‘ehi tvaṃ, ambho purisa, kālasseva 9 uṭṭhahantova 10 sayanamhā pathaviṃ āmaseyyāsi; no ce pathaviṃ āmaseyyāsi, allāni gomayāni āmaseyyāsi; no ce allāni gomayāni āmaseyyāsi, haritāni tiṇāni āmaseyyāsi; no ce haritāni tiṇāni āmaseyyāsi, aggiṃ paricareyyāsi; no ce aggiṃ paricareyyāsi, pañjaliko ādiccaṃ namasseyyāsi; no ce pañjaliko ādiccaṃ namasseyyāsi, sāyatatiyakaṃ udakaṃ oroheyyāsī’ti. Evaṃ kho, bhante, brāhmaṇā pacchābhūmakā kamaṇḍalukā sevālamālikā aggiparicārikā udakorohakā soceyyāni paññapenti; tesāhaṃ soceyyāni rocemī’’ti.
‘‘อญฺญถา โข, จุนฺท, พฺราหฺมณา ปจฺฉาภูมกา กมณฺฑลุกา เสวาลมาลิกา อคฺคิปริจาริกา อุทโกโรหกา โสเจยฺยานิ ปญฺญเปนฺติ, อญฺญถา จ ปน อริยสฺส วินเย โสเจยฺยํ โหตี’’ติฯ ‘‘ยถา กถํ ปน, ภเนฺต, อริยสฺส วินเย โสเจยฺยํ โหติ? สาธุ เม, ภเนฺต, ภควา ตถา ธมฺมํ เทเสตุ ยถา อริยสฺส วินเย โสเจยฺยํ โหตี’’ติฯ
‘‘Aññathā kho, cunda, brāhmaṇā pacchābhūmakā kamaṇḍalukā sevālamālikā aggiparicārikā udakorohakā soceyyāni paññapenti, aññathā ca pana ariyassa vinaye soceyyaṃ hotī’’ti. ‘‘Yathā kathaṃ pana, bhante, ariyassa vinaye soceyyaṃ hoti? Sādhu me, bhante, bhagavā tathā dhammaṃ desetu yathā ariyassa vinaye soceyyaṃ hotī’’ti.
‘‘เตน หิ, จุนฺท, สุณาหิ, สาธุกํ มนสิ กโรหิ; ภาสิสฺสามี’’ติฯ ‘‘เอวํ, ภเนฺต’’ติ โข จุโนฺท กมฺมารปุโตฺต ภควโต ปจฺจโสฺสสิฯ ภควา เอตทโวจ –
‘‘Tena hi, cunda, suṇāhi, sādhukaṃ manasi karohi; bhāsissāmī’’ti. ‘‘Evaṃ, bhante’’ti kho cundo kammāraputto bhagavato paccassosi. Bhagavā etadavoca –
‘‘ติวิธํ โข, จุนฺท, กาเยน อโสเจยฺยํ โหติ; จตุพฺพิธํ วาจาย อโสเจยฺยํ โหติ; ติวิธํ มนสา อโสเจยฺยํ โหติฯ
‘‘Tividhaṃ kho, cunda, kāyena asoceyyaṃ hoti; catubbidhaṃ vācāya asoceyyaṃ hoti; tividhaṃ manasā asoceyyaṃ hoti.
‘‘กถญฺจ, จุนฺท, ติวิธํ กาเยน อโสเจยฺยํ โหติ? ‘‘อิธ, จุนฺท, เอกโจฺจ ปาณาติปาตี โหติ ลุโทฺท โลหิตปาณิ หตปหเต นิวิโฎฺฐ อทยาปโนฺน สพฺพปาณภูเตสุ 11ฯ
‘‘Kathañca, cunda, tividhaṃ kāyena asoceyyaṃ hoti? ‘‘Idha, cunda, ekacco pāṇātipātī hoti luddo lohitapāṇi hatapahate niviṭṭho adayāpanno sabbapāṇabhūtesu 12.
‘‘อทินฺนาทายี โหติฯ ยํ ตํ ปรสฺส ปรวิตฺตูปกรณํ คามคตํ วา อรญฺญคตํ วา ตํ อทินฺนํ เถยฺยสงฺขาตํ อาทาตา โหติฯ
‘‘Adinnādāyī hoti. Yaṃ taṃ parassa paravittūpakaraṇaṃ gāmagataṃ vā araññagataṃ vā taṃ adinnaṃ theyyasaṅkhātaṃ ādātā hoti.
‘‘กถญฺจ , จุนฺท, จตุพฺพิธํ วาจาย อโสเจยฺยํ โหติ? อิธ, จุนฺท, เอกโจฺจ มุสาวาที โหติฯ สภคฺคโต วา ปริสคฺคโต วา ญาติมชฺฌคโต วา ปูคมชฺฌคโต วา ราชกุลมชฺฌคโต วา อภินีโต สกฺขิปุโฎฺฐ – ‘เอหโมฺภ ปุริส, ยํ ชานาสิ ตํ วเทหี’ติ 17, โส อชานํ วา อาห ‘ชานามี’ติ, ชานํ วา อาห ‘น ชานามี’ติ; อปสฺสํ วา อาห ‘ปสฺสามี’ติ, ปสฺสํ วา อาห ‘น ปสฺสามี’ติ 18ฯ อิติ อตฺตเหตุ วา ปรเหตุ วา อามิสกิญฺจิกฺขเหตุ วา สมฺปชานมุสา ภาสิตา โหติฯ
‘‘Kathañca , cunda, catubbidhaṃ vācāya asoceyyaṃ hoti? Idha, cunda, ekacco musāvādī hoti. Sabhaggato vā parisaggato vā ñātimajjhagato vā pūgamajjhagato vā rājakulamajjhagato vā abhinīto sakkhipuṭṭho – ‘ehambho purisa, yaṃ jānāsi taṃ vadehī’ti 19, so ajānaṃ vā āha ‘jānāmī’ti, jānaṃ vā āha ‘na jānāmī’ti; apassaṃ vā āha ‘passāmī’ti, passaṃ vā āha ‘na passāmī’ti 20. Iti attahetu vā parahetu vā āmisakiñcikkhahetu vā sampajānamusā bhāsitā hoti.
‘‘ปิสุณวาโจ โหติฯ อิโต สุตฺวา อมุตฺร อกฺขาตา อิเมสํ เภทาย, อมุตฺร วา สุตฺวา อิเมสํ อกฺขาตา อมูสํ เภทายฯ อิติ สมคฺคานํ วา เภตฺตา 21, ภินฺนานํ วา อนุปฺปทาตา, วคฺคาราโม วคฺครโต วคฺคนนฺที วคฺคกรณิํ วาจํ ภาสิตา โหติฯ
‘‘Pisuṇavāco hoti. Ito sutvā amutra akkhātā imesaṃ bhedāya, amutra vā sutvā imesaṃ akkhātā amūsaṃ bhedāya. Iti samaggānaṃ vā bhettā 22, bhinnānaṃ vā anuppadātā, vaggārāmo vaggarato vagganandī vaggakaraṇiṃ vācaṃ bhāsitā hoti.
‘‘ผรุสวาโจ โหติฯ ยา สา วาจา อณฺฑกา กกฺกสา ปรกฎุกา ปราภิสชฺชนี โกธสามนฺตา อสมาธิสํวตฺตนิกา, ตถารูปิํ วาจํ ภาสิตา โหติฯ
‘‘Pharusavāco hoti. Yā sā vācā aṇḍakā kakkasā parakaṭukā parābhisajjanī kodhasāmantā asamādhisaṃvattanikā, tathārūpiṃ vācaṃ bhāsitā hoti.
‘‘สมฺผปฺปลาปี โหติ อกาลวาที อภูตวาที อนตฺถวาที อธมฺมวาที อวินยวาที; อนิธานวติํ วาจํ ภาสิตา โหติ อกาเลน อนปเทสํ อปริยนฺตวติํ อนตฺถสํหิตํฯ เอวํ โข, จุนฺท, จตุพฺพิธํ วาจาย อโสเจยฺยํ โหติฯ
‘‘Samphappalāpī hoti akālavādī abhūtavādī anatthavādī adhammavādī avinayavādī; anidhānavatiṃ vācaṃ bhāsitā hoti akālena anapadesaṃ apariyantavatiṃ anatthasaṃhitaṃ. Evaṃ kho, cunda, catubbidhaṃ vācāya asoceyyaṃ hoti.
‘‘กถญฺจ, จุนฺท, ติวิธํ มนสา อโสเจยฺยํ โหติ? อิธ, จุนฺท, เอกโจฺจ อภิชฺฌาลุ โหติฯ ยํ ตํ ปรสฺส ปรวิตฺตูปกรณํ ตํ อภิชฺฌาตา 23 โหติ – ‘อโห วต ยํ ปรสฺส ตํ มมสฺสา’ติฯ
‘‘Kathañca, cunda, tividhaṃ manasā asoceyyaṃ hoti? Idha, cunda, ekacco abhijjhālu hoti. Yaṃ taṃ parassa paravittūpakaraṇaṃ taṃ abhijjhātā 24 hoti – ‘aho vata yaṃ parassa taṃ mamassā’ti.
‘‘พฺยาปนฺนจิโตฺต โหติ ปทุฎฺฐมนสงฺกโปฺป – ‘อิเม สตฺตา หญฺญนฺตุ วา พชฺฌนฺตุ วา อุจฺฉิชฺชนฺตุ วา วินสฺสนฺตุ วา มา วา อเหสุ’นฺติ 25ฯ
‘‘Byāpannacitto hoti paduṭṭhamanasaṅkappo – ‘ime sattā haññantu vā bajjhantu vā ucchijjantu vā vinassantu vā mā vā ahesu’nti 26.
‘‘มิจฺฉาทิฎฺฐิโก โหติ วิปรีตทสฺสโน – ‘นตฺถิ ทินฺนํ, นตฺถิ ยิฎฺฐํ, นตฺถิ หุตํ, นตฺถิ สุกฎทุกฺกฎานํ 27 กมฺมานํ ผลํ วิปาโก, นตฺถิ อยํ โลโก, นตฺถิ ปโร โลโก, นตฺถิ มาตา, นตฺถิ ปิตา, นตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, นตฺถิ โลเก สมณพฺราหฺมณา สมฺมคฺคตา สมฺมาปฎิปนฺนา เย อิมญฺจ โลกํ ปรญฺจ โลกํ สยํ อภิญฺญา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทนฺตี’ติฯ เอวํ โข, จุนฺท, มนสา ติวิธํ อโสเจยฺยํ โหติฯ
‘‘Micchādiṭṭhiko hoti viparītadassano – ‘natthi dinnaṃ, natthi yiṭṭhaṃ, natthi hutaṃ, natthi sukaṭadukkaṭānaṃ 28 kammānaṃ phalaṃ vipāko, natthi ayaṃ loko, natthi paro loko, natthi mātā, natthi pitā, natthi sattā opapātikā, natthi loke samaṇabrāhmaṇā sammaggatā sammāpaṭipannā ye imañca lokaṃ parañca lokaṃ sayaṃ abhiññā sacchikatvā pavedentī’ti. Evaṃ kho, cunda, manasā tividhaṃ asoceyyaṃ hoti.
‘‘อิเม โข, จุนฺท, ทส อกุสลกมฺมปถา 29ฯ อิเมหิ โข, จุนฺท, ทสหิ อกุสเลหิ กมฺมปเถหิ สมนฺนาคโต กาลเสฺสว อุฎฺฐหโนฺตว สยนมฺหา ปถวิํ เจปิ อามสติ, อสุจิเยว โหติ; โน เจปิ ปถวิํ อามสติ, อสุจิเยว โหติฯ
‘‘Ime kho, cunda, dasa akusalakammapathā 30. Imehi kho, cunda, dasahi akusalehi kammapathehi samannāgato kālasseva uṭṭhahantova sayanamhā pathaviṃ cepi āmasati, asuciyeva hoti; no cepi pathaviṃ āmasati, asuciyeva hoti.
‘‘อลฺลานิ เจปิ โคมยานิ อามสติ, อสุจิเยว โหติ; โน เจปิ อลฺลานิ โคมยานิ อามสติ, อสุจิเยว โหติฯ
‘‘Allāni cepi gomayāni āmasati, asuciyeva hoti; no cepi allāni gomayāni āmasati, asuciyeva hoti.
‘‘หริตานิ เจปิ ติณานิ อามสติ, อสุจิเยว โหติ; โน เจปิ หริตานิ ติณานิ อามสติ, อสุจิเยว โหติฯ
‘‘Haritāni cepi tiṇāni āmasati, asuciyeva hoti; no cepi haritāni tiṇāni āmasati, asuciyeva hoti.
‘‘อคฺคิํ เจปิ ปริจรติ, อสุจิเยว โหติ, โน เจปิ อคฺคิํ ปริจรติ, อสุจิเยว โหติฯ
‘‘Aggiṃ cepi paricarati, asuciyeva hoti, no cepi aggiṃ paricarati, asuciyeva hoti.
‘‘ปญฺชลิโก เจปิ อาทิจฺจํ นมสฺสติ, อสุจิเยว โหติ; โน เจปิ ปญฺชลิโก อาทิจฺจํ นมสฺสติ, อสุจิเยว โหติฯ
‘‘Pañjaliko cepi ādiccaṃ namassati, asuciyeva hoti; no cepi pañjaliko ādiccaṃ namassati, asuciyeva hoti.
‘‘สายตติยกํ เจปิ อุทกํ โอโรหติ, อสุจิเยว โหติ; โน เจปิ สายตติยกํ อุทกํ โอโรหติ, อสุจิเยว โหติฯ ตํ กิสฺส เหตุ? อิเม, จุนฺท, ทส อกุสลกมฺมปถา อสุจีเยว 31 โหนฺติ อสุจิกรณา จฯ
‘‘Sāyatatiyakaṃ cepi udakaṃ orohati, asuciyeva hoti; no cepi sāyatatiyakaṃ udakaṃ orohati, asuciyeva hoti. Taṃ kissa hetu? Ime, cunda, dasa akusalakammapathā asucīyeva 32 honti asucikaraṇā ca.
‘‘ติวิธํ โข, จุนฺท, กาเยน โสเจยฺยํ โหติ; จตุพฺพิธํ วาจาย โสเจยฺยํ โหติ; ติวิธํ มนสา โสเจยฺยํ โหติฯ
‘‘Tividhaṃ kho, cunda, kāyena soceyyaṃ hoti; catubbidhaṃ vācāya soceyyaṃ hoti; tividhaṃ manasā soceyyaṃ hoti.
‘‘กถํ , จุนฺท, ติวิธํ กาเยน โสเจยฺยํ โหติ? อิธ, จุนฺท, เอกโจฺจ ปาณาติปาตํ ปหาย ปาณาติปาตา ปฎิวิรโต โหติ นิหิตทโณฺฑ นิหิตสโตฺถ, ลชฺชี ทยาปโนฺน, สพฺพปาณภูตหิตานุกมฺปี วิหรติฯ
‘‘Kathaṃ , cunda, tividhaṃ kāyena soceyyaṃ hoti? Idha, cunda, ekacco pāṇātipātaṃ pahāya pāṇātipātā paṭivirato hoti nihitadaṇḍo nihitasattho, lajjī dayāpanno, sabbapāṇabhūtahitānukampī viharati.
‘‘อทินฺนาทานํ ปหาย, อทินฺนาทานา ปฎิวิรโต โหติฯ ยํ ตํ ปรสฺส ปรวิตฺตูปกรณํ คามคตํ วา อรญฺญคตํ วา, น ตํ อทินฺนํ 37 เถยฺยสงฺขาตํ อาทาตา โหติฯ
‘‘Adinnādānaṃ pahāya, adinnādānā paṭivirato hoti. Yaṃ taṃ parassa paravittūpakaraṇaṃ gāmagataṃ vā araññagataṃ vā, na taṃ adinnaṃ 38 theyyasaṅkhātaṃ ādātā hoti.
‘‘กาเมสุมิจฺฉาจารํ ปหาย, กาเมสุมิจฺฉาจารา ปฎิวิรโต โหติ ยา ตา มาตุรกฺขิตา ปิตุรกฺขิตา มาตาปิตุรกฺขิตา ภาตุรกฺขิตา ภคินิรกฺขิตา ญาติรกฺขิตา โคตฺตรกฺขิตา ธมฺมรกฺขิตา สสามิกา สปริทณฺฑา อนฺตมโส มาลาคุฬปริกฺขิตฺตาปิ, ตถารูปาสุ น จาริตฺตํ อาปชฺชิตา โหติฯ เอวํ โข, จุนฺท, ติวิธํ กาเยน โสเจยฺยํ โหติฯ
‘‘Kāmesumicchācāraṃ pahāya, kāmesumicchācārā paṭivirato hoti yā tā māturakkhitā piturakkhitā mātāpiturakkhitā bhāturakkhitā bhaginirakkhitā ñātirakkhitā gottarakkhitā dhammarakkhitā sasāmikā saparidaṇḍā antamaso mālāguḷaparikkhittāpi, tathārūpāsu na cārittaṃ āpajjitā hoti. Evaṃ kho, cunda, tividhaṃ kāyena soceyyaṃ hoti.
‘‘กถญฺจ, จุนฺท, จตุพฺพิธํ วาจาย โสเจยฺยํ โหติ? อิธ, จุนฺท, เอกโจฺจ มุสาวาทํ ปหาย มุสาวาทา ปฎิวิรโต โหติฯ สภคฺคโต วา ปริสคฺคโต วา ญาติมชฺฌคโต วา ปูคมชฺฌคโต วา ราชกุลมชฺฌคโต วา อภินีโต สกฺขิปุโฎฺฐ – ‘เอหโมฺภ ปุริส, ยํ ชานาสิ ตํ วเทหี’ติ, โส อชานํ วา อาห ‘น ชานามี’ติ, ชานํ วา อาห ‘ชานามี’ติ, อปสฺสํ วา อาห ‘น ปสฺสามี’ติ, ปสฺสํ วา อาห ‘ปสฺสามี’ติฯ อิติ อตฺตเหตุ วา ปรเหตุ วา อามิสกิญฺจิกฺขเหตุ วา น สมฺปชานมุสา ภาสิตา โหติฯ
‘‘Kathañca, cunda, catubbidhaṃ vācāya soceyyaṃ hoti? Idha, cunda, ekacco musāvādaṃ pahāya musāvādā paṭivirato hoti. Sabhaggato vā parisaggato vā ñātimajjhagato vā pūgamajjhagato vā rājakulamajjhagato vā abhinīto sakkhipuṭṭho – ‘ehambho purisa, yaṃ jānāsi taṃ vadehī’ti, so ajānaṃ vā āha ‘na jānāmī’ti, jānaṃ vā āha ‘jānāmī’ti, apassaṃ vā āha ‘na passāmī’ti, passaṃ vā āha ‘passāmī’ti. Iti attahetu vā parahetu vā āmisakiñcikkhahetu vā na sampajānamusā bhāsitā hoti.
‘‘ปิสุณํ วาจํ ปหาย, ปิสุณาย วาจาย ปฎิวิรโต โหติ – น อิโต สุตฺวา อมุตฺร อกฺขาตา อิเมสํ เภทาย, น อมุตฺร วา สุตฺวา อิเมสํ อกฺขาตา อมูสํ เภทายฯ อิติ ภินฺนานํ วา สนฺธาตา สหิตานํ วา อนุปฺปทาตา สมคฺคาราโม สมคฺครโต สมคฺคนนฺที สมคฺคกรณิํ วาจํ ภาสิตา โหติฯ
‘‘Pisuṇaṃ vācaṃ pahāya, pisuṇāya vācāya paṭivirato hoti – na ito sutvā amutra akkhātā imesaṃ bhedāya, na amutra vā sutvā imesaṃ akkhātā amūsaṃ bhedāya. Iti bhinnānaṃ vā sandhātā sahitānaṃ vā anuppadātā samaggārāmo samaggarato samagganandī samaggakaraṇiṃ vācaṃ bhāsitā hoti.
‘‘ผรุสํ วาจํ ปหาย, ผรุสาย วาจาย ปฎิวิรโต โหติฯ ยา สา วาจา เนลา กณฺณสุขา เปมนียา หทยงฺคมา โปรี พหุชนกนฺตา พหุชนมนาปา, ตถารูปิํ วาจํ ภาสิตา โหติฯ
‘‘Pharusaṃ vācaṃ pahāya, pharusāya vācāya paṭivirato hoti. Yā sā vācā nelā kaṇṇasukhā pemanīyā hadayaṅgamā porī bahujanakantā bahujanamanāpā, tathārūpiṃ vācaṃ bhāsitā hoti.
‘‘สมฺผปฺปลาปํ ปหาย, สมฺผปฺปลาปา ปฎิวิรโต โหติ กาลวาที ภูตวาที อตฺถวาที ธมฺมวาที วินยวาที; นิธานวติํ วาจํ ภาสิตา โหติ กาเลน สาปเทสํ ปริยนฺตวติํ อตฺถสํหิตํฯ เอวํ โข, จุนฺท , จตุพฺพิธํ วาจาย โสเจยฺยํ โหติฯ
‘‘Samphappalāpaṃ pahāya, samphappalāpā paṭivirato hoti kālavādī bhūtavādī atthavādī dhammavādī vinayavādī; nidhānavatiṃ vācaṃ bhāsitā hoti kālena sāpadesaṃ pariyantavatiṃ atthasaṃhitaṃ. Evaṃ kho, cunda , catubbidhaṃ vācāya soceyyaṃ hoti.
‘‘กถญฺจ , จุนฺท, ติวิธํ มนสา โสเจยฺยํ โหติ? อิธ, จุนฺท, เอกโจฺจ อนภิชฺฌาลุ โหติฯ ยํ ตํ ปรสฺส ปรวิตฺตูปกรณํ ตํ อนภิชฺฌิตา โหติ – ‘อโห วต ยํ ปรสฺส ตํ มมสฺสา’ติฯ
‘‘Kathañca , cunda, tividhaṃ manasā soceyyaṃ hoti? Idha, cunda, ekacco anabhijjhālu hoti. Yaṃ taṃ parassa paravittūpakaraṇaṃ taṃ anabhijjhitā hoti – ‘aho vata yaṃ parassa taṃ mamassā’ti.
‘‘อพฺยาปนฺนจิโตฺต โหติ อปฺปทุฎฺฐมนสงฺกโปฺป – ‘อิเม สตฺตา อเวรา โหนฺตุ 39 อพฺยาปชฺชา, อนีฆา สุขี อตฺตานํ ปริหรนฺตู’ติฯ
‘‘Abyāpannacitto hoti appaduṭṭhamanasaṅkappo – ‘ime sattā averā hontu 40 abyāpajjā, anīghā sukhī attānaṃ pariharantū’ti.
‘‘สมฺมาทิฎฺฐิโก โหติ อวิปรีตทสฺสโน – ‘อตฺถิ ทินฺนํ, อตฺถิ ยิฎฺฐํ, อตฺถิ หุตํ, อตฺถิ สุกฎทุกฺกฎานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก, อตฺถิ อยํ โลโก, อตฺถิ ปโร โลโก, อตฺถิ มาตา, อตฺถิ ปิตา, อตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, อตฺถิ โลเก สมณพฺราหฺมณา สมฺมคฺคตา สมฺมาปฎิปนฺนา เย อิมญฺจ โลกํ ปรญฺจ โลกํ สยํ อภิญฺญา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทนฺตี’ติฯ เอวํ โข, จุนฺท, ติวิธํ มนสา โสเจยฺยํ โหติฯ
‘‘Sammādiṭṭhiko hoti aviparītadassano – ‘atthi dinnaṃ, atthi yiṭṭhaṃ, atthi hutaṃ, atthi sukaṭadukkaṭānaṃ kammānaṃ phalaṃ vipāko, atthi ayaṃ loko, atthi paro loko, atthi mātā, atthi pitā, atthi sattā opapātikā, atthi loke samaṇabrāhmaṇā sammaggatā sammāpaṭipannā ye imañca lokaṃ parañca lokaṃ sayaṃ abhiññā sacchikatvā pavedentī’ti. Evaṃ kho, cunda, tividhaṃ manasā soceyyaṃ hoti.
‘‘อิเม โข, จุนฺท, ทส กุสลกมฺมปถาฯ อิเมหิ โข, จุนฺท, ทสหิ กุสเลหิ กมฺมปเถหิ สมนฺนาคโต กาลเสฺสว อุฎฺฐหโนฺตว สยนมฺหา ปถวิํ เจปิ อามสติ, สุจิเยว โหติ; โน เจปิ ปถวิํ อามสติ, สุจิเยว โหติฯ
‘‘Ime kho, cunda, dasa kusalakammapathā. Imehi kho, cunda, dasahi kusalehi kammapathehi samannāgato kālasseva uṭṭhahantova sayanamhā pathaviṃ cepi āmasati, suciyeva hoti; no cepi pathaviṃ āmasati, suciyeva hoti.
‘‘อลฺลานิ เจปิ โคมยานิ อามสติ, สุจิเยว โหติ; โน เจปิ อลฺลานิ โคมยานิ อามสติ, สุจิเยว โหติฯ
‘‘Allāni cepi gomayāni āmasati, suciyeva hoti; no cepi allāni gomayāni āmasati, suciyeva hoti.
‘‘หริตานิ เจปิ ติณานิ อามสติ, สุจิเยว โหติ; โน เจปิ หริตานิ ติณานิ อามสติ, สุจิเยว โหติฯ
‘‘Haritāni cepi tiṇāni āmasati, suciyeva hoti; no cepi haritāni tiṇāni āmasati, suciyeva hoti.
‘‘อคฺคิํ เจปิ ปริจรติ, สุจิเยว โหติ; โน เจปิ อคฺคิํ ปริจรติ, สุจิเยว โหติฯ
‘‘Aggiṃ cepi paricarati, suciyeva hoti; no cepi aggiṃ paricarati, suciyeva hoti.
‘‘ปญฺชลิโก เจปิ อาทิจฺจํ นมสฺสติ, สุจิเยว โหติ; โน เจปิ ปญฺชลิโก อาทิจฺจํ นมสฺสติ , สุจิเยว โหติฯ
‘‘Pañjaliko cepi ādiccaṃ namassati, suciyeva hoti; no cepi pañjaliko ādiccaṃ namassati , suciyeva hoti.
‘‘สายตติยกํ เจปิ อุทกํ โอโรหติ, สุจิเยว โหติ; โน เจปิ สายตติยกํ อุทกํ โอโรหติ, สุจิเยว โหติฯ ตํ กิสฺส เหตุ? อิเม, จุนฺท, ทส กุสลกมฺมปถา สุจีเยว โหนฺติ สุจิกรณา จฯ
‘‘Sāyatatiyakaṃ cepi udakaṃ orohati, suciyeva hoti; no cepi sāyatatiyakaṃ udakaṃ orohati, suciyeva hoti. Taṃ kissa hetu? Ime, cunda, dasa kusalakammapathā sucīyeva honti sucikaraṇā ca.
‘‘อิเมสํ ปน, จุนฺท, ทสนฺนํ กุสลานํ กมฺมปถานํ สมนฺนาคมนเหตุ เทวา ปญฺญายนฺติ, มนุสฺสา ปญฺญายนฺติ, ยา วา ปนญฺญาปิ กาจิ สุคติโย’’ติ 41ฯ
‘‘Imesaṃ pana, cunda, dasannaṃ kusalānaṃ kammapathānaṃ samannāgamanahetu devā paññāyanti, manussā paññāyanti, yā vā panaññāpi kāci sugatiyo’’ti 42.
เอวํ วุเตฺต จุโนฺท กมฺมารปุโตฺต ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อภิกฺกนฺตํ, ภเนฺต…เป.… อุปาสกํ มํ, ภเนฺต, ภควา ธาเรตุ อชฺชตเคฺค ปาณุเปตํ สรณํ คต’’นฺติฯ ทสมํฯ
Evaṃ vutte cundo kammāraputto bhagavantaṃ etadavoca – ‘‘abhikkantaṃ, bhante…pe… upāsakaṃ maṃ, bhante, bhagavā dhāretu ajjatagge pāṇupetaṃ saraṇaṃ gata’’nti. Dasamaṃ.
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / องฺคุตฺตรนิกาย (อฎฺฐกถา) • Aṅguttaranikāya (aṭṭhakathā) / ๑๐. จุนฺทสุตฺตวณฺณนา • 10. Cundasuttavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / องฺคุตฺตรนิกาย (ฎีกา) • Aṅguttaranikāya (ṭīkā) / ๑-๔๔. พฺราหฺมณปโจฺจโรหณีสุตฺตาทิวณฺณนา • 1-44. Brāhmaṇapaccorohaṇīsuttādivaṇṇanā