Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya

    ๓. จุนฺทสุตฺตํ

    3. Cundasuttaṃ

    ๓๗๙. เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเมฯ เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา สาริปุโตฺต มคเธสุ วิหรติ นาลกคามเก อาพาธิโก ทุกฺขิโต พาฬฺหคิลาโนฯ จุโนฺท จ สมณุเทฺทโส อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส อุปฎฺฐาโก โหติฯ

    379. Ekaṃ samayaṃ bhagavā sāvatthiyaṃ viharati jetavane anāthapiṇḍikassa ārāme. Tena kho pana samayena āyasmā sāriputto magadhesu viharati nālakagāmake ābādhiko dukkhito bāḷhagilāno. Cundo ca samaṇuddeso āyasmato sāriputtassa upaṭṭhāko hoti.

    อถ โข อายสฺมา สาริปุโตฺต เตเนว อาพาเธน ปรินิพฺพายิฯ อถ โข จุโนฺท สมณุเทฺทโส อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส ปตฺตจีวรมาทาย เยน สาวตฺถิ เชตวนํ อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราโม เยนายสฺมา อานโนฺท เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสิโนฺน โข จุโนฺท สมณุเทฺทโส อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ เอตทโวจ – ‘‘อายสฺมา, ภเนฺต, สาริปุโตฺต ปรินิพฺพุโตฯ อิทมสฺส ปตฺตจีวร’’นฺติฯ

    Atha kho āyasmā sāriputto teneva ābādhena parinibbāyi. Atha kho cundo samaṇuddeso āyasmato sāriputtassa pattacīvaramādāya yena sāvatthi jetavanaṃ anāthapiṇḍikassa ārāmo yenāyasmā ānando tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā āyasmantaṃ ānandaṃ abhivādetvā ekamantaṃ nisīdi. Ekamantaṃ nisinno kho cundo samaṇuddeso āyasmantaṃ ānandaṃ etadavoca – ‘‘āyasmā, bhante, sāriputto parinibbuto. Idamassa pattacīvara’’nti.

    ‘‘อตฺถิ โข อิทํ, อาวุโส จุนฺท, กถาปาภตํ ภควนฺตํ ทสฺสนายฯ อายามาวุโส จุนฺท, เยน ภควา เตนุปสงฺกมิสฺสาม; อุปสงฺกมิตฺวา ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสฺสามา’’ติฯ ‘‘เอวํ, ภเนฺต’’ติ โข จุโนฺท สมณุเทฺทโส อายสฺมโต อานนฺทสฺส ปจฺจโสฺสสิฯ

    ‘‘Atthi kho idaṃ, āvuso cunda, kathāpābhataṃ bhagavantaṃ dassanāya. Āyāmāvuso cunda, yena bhagavā tenupasaṅkamissāma; upasaṅkamitvā bhagavato etamatthaṃ ārocessāmā’’ti. ‘‘Evaṃ, bhante’’ti kho cundo samaṇuddeso āyasmato ānandassa paccassosi.

    อถ โข อายสฺมา จ อานโนฺท จุโนฺท จ สมณุเทฺทโส เยน ภควา เตนุปสงฺกมิํสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิํสุฯ เอกมนฺตํ นิสิโนฺน โข อายสฺมา อานโนฺท ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อยํ, ภเนฺต, จุโนฺท สมณุเทฺทโส เอวมาห – ‘อายสฺมา, ภเนฺต, สาริปุโตฺต ปรินิพฺพุโต; อิทมสฺส ปตฺตจีวร’นฺติฯ อปิ จ เม, ภเนฺต, มธุรกชาโต วิย กาโย, ทิสาปิ เม น ปกฺขายนฺติ, ธมฺมาปิ มํ นปฺปฎิภนฺติ ‘อายสฺมา สาริปุโตฺต ปรินิพฺพุโต’ติ สุตฺวา’’ฯ

    Atha kho āyasmā ca ānando cundo ca samaṇuddeso yena bhagavā tenupasaṅkamiṃsu; upasaṅkamitvā bhagavantaṃ abhivādetvā ekamantaṃ nisīdiṃsu. Ekamantaṃ nisinno kho āyasmā ānando bhagavantaṃ etadavoca – ‘‘ayaṃ, bhante, cundo samaṇuddeso evamāha – ‘āyasmā, bhante, sāriputto parinibbuto; idamassa pattacīvara’nti. Api ca me, bhante, madhurakajāto viya kāyo, disāpi me na pakkhāyanti, dhammāpi maṃ nappaṭibhanti ‘āyasmā sāriputto parinibbuto’ti sutvā’’.

    ‘‘กิํ นุ โข เต, อานนฺท, สาริปุโตฺต สีลกฺขนฺธํ วา อาทาย ปรินิพฺพุโต, สมาธิกฺขนฺธํ วา อาทาย ปรินิพฺพุโต, ปญฺญากฺขนฺธํ วา อาทาย ปรินิพฺพุโต, วิมุตฺติกฺขนฺธํ วา อาทาย ปรินิพฺพุโต, วิมุตฺติญาณทสฺสนกฺขนฺธํ วา อาทาย ปรินิพฺพุโต’’ติ? ‘‘น จ โข เม, ภเนฺต, อายสฺมา สาริปุโตฺต สีลกฺขนฺธํ วา อาทาย ปรินิพฺพุโต, สมาธิกฺขนฺธํ วา…เป.… ปญฺญากฺขนฺธํ วา… วิมุตฺติกฺขนฺธํ วา… วิมุตฺติญาณทสฺสนกฺขนฺธํ วา อาทาย ปรินิพฺพุโตฯ อปิ จ เม, ภเนฺต, อายสฺมา สาริปุโตฺต โอวาทโก อโหสิ โอติโณฺณ วิญฺญาปโก สนฺทสฺสโก สมาทปโก สมุเตฺตชโก สมฺปหํสโก, อกิลาสุ ธมฺมเทสนาย, อนุคฺคาหโก สพฺรหฺมจารีนํฯ ตํ มยํ อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส ธโมฺมชํ ธมฺมโภคํ ธมฺมานุคฺคหํ อนุสฺสรามา’’ติฯ

    ‘‘Kiṃ nu kho te, ānanda, sāriputto sīlakkhandhaṃ vā ādāya parinibbuto, samādhikkhandhaṃ vā ādāya parinibbuto, paññākkhandhaṃ vā ādāya parinibbuto, vimuttikkhandhaṃ vā ādāya parinibbuto, vimuttiñāṇadassanakkhandhaṃ vā ādāya parinibbuto’’ti? ‘‘Na ca kho me, bhante, āyasmā sāriputto sīlakkhandhaṃ vā ādāya parinibbuto, samādhikkhandhaṃ vā…pe… paññākkhandhaṃ vā… vimuttikkhandhaṃ vā… vimuttiñāṇadassanakkhandhaṃ vā ādāya parinibbuto. Api ca me, bhante, āyasmā sāriputto ovādako ahosi otiṇṇo viññāpako sandassako samādapako samuttejako sampahaṃsako, akilāsu dhammadesanāya, anuggāhako sabrahmacārīnaṃ. Taṃ mayaṃ āyasmato sāriputtassa dhammojaṃ dhammabhogaṃ dhammānuggahaṃ anussarāmā’’ti.

    ‘‘นนุ ตํ, อานนฺท, มยา ปฎิกเจฺจว 1 อกฺขาตํ – ‘สเพฺพหิ ปิเยหิ มนาเปหิ นานาภาโว วินาภาโว อญฺญถาภาโว ฯ ตํ กุเตตฺถ, อานนฺท, ลพฺภา! ยํ ตํ ชาตํ ภูตํ สงฺขตํ ปโลกธมฺมํ, ตํ วต มา ปลุชฺชีติ – เนตํ ฐานํ วิชฺชติฯ เสยฺยถาปิ, อานนฺท, มหโต รุกฺขสฺส ติฎฺฐโต สารวโต โย มหนฺตตโร ขโนฺธ โส ปลุเชฺชยฺย; เอวเมว โข อานนฺท, มหโต ภิกฺขุสงฺฆสฺส ติฎฺฐโต สารวโต สาริปุโตฺต ปรินิพฺพุโตฯ ตํ กุเตตฺถ, อานนฺท, ลพฺภา! ยํ ตํ ชาตํ ภูตํ สงฺขตํ ปโลกธมฺมํ, ตํ วต มา ปลุชฺชี’ติ – เนตํ ฐานํ วิชฺชติฯ ตสฺมาติหานนฺท, อตฺตทีปา วิหรถ อตฺตสรณา อนญฺญสรณา, ธมฺมทีปา ธมฺมสรณา อนญฺญสรณาฯ

    ‘‘Nanu taṃ, ānanda, mayā paṭikacceva 2 akkhātaṃ – ‘sabbehi piyehi manāpehi nānābhāvo vinābhāvo aññathābhāvo . Taṃ kutettha, ānanda, labbhā! Yaṃ taṃ jātaṃ bhūtaṃ saṅkhataṃ palokadhammaṃ, taṃ vata mā palujjīti – netaṃ ṭhānaṃ vijjati. Seyyathāpi, ānanda, mahato rukkhassa tiṭṭhato sāravato yo mahantataro khandho so palujjeyya; evameva kho ānanda, mahato bhikkhusaṅghassa tiṭṭhato sāravato sāriputto parinibbuto. Taṃ kutettha, ānanda, labbhā! Yaṃ taṃ jātaṃ bhūtaṃ saṅkhataṃ palokadhammaṃ, taṃ vata mā palujjī’ti – netaṃ ṭhānaṃ vijjati. Tasmātihānanda, attadīpā viharatha attasaraṇā anaññasaraṇā, dhammadīpā dhammasaraṇā anaññasaraṇā.

    ‘‘กถญฺจานนฺท, ภิกฺขุ อตฺตทีโป วิหรติ อตฺตสรโณ อนญฺญสรโณ, ธมฺมทีโป ธมฺมสรโณ อนญฺญสรโณ? อิธานนฺท, ภิกฺขุ กาเย กายานุปสฺสี วิหรติ อาตาปี สมฺปชาโน สติมา, วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺสํ; เวทนาสุ…เป.… จิเตฺต…เป.… ธเมฺมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรติ อาตาปี สมฺปชาโน สติมา, วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺสํฯ เอวํ โข, อานนฺท, ภิกฺขุ อตฺตทีโป วิหรติ อตฺตสรโณ อนญฺญสรโณ, ธมฺมทีโป ธมฺมสรโณ อนญฺญสรโณฯ เย หิ เกจิ, อานนฺท, เอตรหิ วา มมจฺจเย วา อตฺตทีปา วิหริสฺสนฺติ อตฺตสรณา อนญฺญสรณา, ธมฺมทีปา ธมฺมสรณา อนญฺญสรณา; ตมตเคฺค เมเต, อานนฺท, ภิกฺขู ภวิสฺสนฺติ เย เกจิ สิกฺขากามา’’ติฯ ตติยํฯ

    ‘‘Kathañcānanda, bhikkhu attadīpo viharati attasaraṇo anaññasaraṇo, dhammadīpo dhammasaraṇo anaññasaraṇo? Idhānanda, bhikkhu kāye kāyānupassī viharati ātāpī sampajāno satimā, vineyya loke abhijjhādomanassaṃ; vedanāsu…pe… citte…pe… dhammesu dhammānupassī viharati ātāpī sampajāno satimā, vineyya loke abhijjhādomanassaṃ. Evaṃ kho, ānanda, bhikkhu attadīpo viharati attasaraṇo anaññasaraṇo, dhammadīpo dhammasaraṇo anaññasaraṇo. Ye hi keci, ānanda, etarahi vā mamaccaye vā attadīpā viharissanti attasaraṇā anaññasaraṇā, dhammadīpā dhammasaraṇā anaññasaraṇā; tamatagge mete, ānanda, bhikkhū bhavissanti ye keci sikkhākāmā’’ti. Tatiyaṃ.







    Footnotes:
    1. ปฎิคเจฺจว (สี. ปี.)
    2. paṭigacceva (sī. pī.)



    Related texts:



    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) / ๓. จุนฺทสุตฺตวณฺณนา • 3. Cundasuttavaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) / ๓. จุนฺทสุตฺตวณฺณนา • 3. Cundasuttavaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact