Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) |
๓. จุนฺทสุตฺตวณฺณนา
3. Cundasuttavaṇṇanā
๓๗๙. ปุเพฺพ สาวตฺถิโต เวฬุวคามสฺส คตตฺตา วุตฺตํ ‘‘อาคตมเคฺคเนว ปฎินิวตฺตโนฺต’’ติฯ สตฺตนฺนนฺติ อุปเสโน, เรวโต, ขทิรวนิโย, จุโนฺท, สมณุเทฺทโส อหนฺติ จตุนฺนํ, จาลา, อุปจาลา, สีสูปจาลาติ, ติสฺสนฺนนฺติ อิเมสํ สตฺตนฺนํ อรหนฺตานํฯ นตฺถิ นุ โขติ เอตฺถาปิ ‘‘โอโลเกโนฺต’’ติ อาเนตฺวา สมฺพโนฺธ สีหาวโลกนญาเยนฯ ภวิสฺสนฺติ เม วตฺตาโร หริตุํ นาสกฺขีติ สมฺพโนฺธฯ อิทํ ทานิ ปจฺฉิมทสฺสนนฺติ ภูตกถนมตฺตํ, น ตตฺถ สาลยตาทสฺสนํ ยถา ตถาคตสฺส เวสาลิยา นิกฺขมิตฺวา นาคาปโลกิตํฯ
379. Pubbe sāvatthito veḷuvagāmassa gatattā vuttaṃ ‘‘āgatamaggeneva paṭinivattanto’’ti. Sattannanti upaseno, revato, khadiravaniyo, cundo, samaṇuddeso ahanti catunnaṃ, cālā, upacālā, sīsūpacālāti, tissannanti imesaṃ sattannaṃ arahantānaṃ. Natthi nu khoti etthāpi ‘‘olokento’’ti ānetvā sambandho sīhāvalokanañāyena. Bhavissanti me vattāro harituṃ nāsakkhīti sambandho. Idaṃ dāni pacchimadassananti bhūtakathanamattaṃ, na tattha sālayatādassanaṃ yathā tathāgatassa vesāliyā nikkhamitvā nāgāpalokitaṃ.
ตสฺส ตสฺส วิเสสสฺส อธิฎฺฐานวเสเนว อิทฺธิเภททสฺสนํ อิทฺธิวิกุพฺพนํฯ สีหสฺส วิชมฺภนาทิวเสน กีฬิตฺวา นาทสทิสี อยํ ธมฺมกถาติ วุตฺตํ ‘‘สีหวิกีฬิโต ธมฺมปริยาโย’’ติฯ คมนกาโล มยฺหนฺตีติ เอตฺถ อิติ-สโทฺท ปริสมาปเนฯ เตน เถเรน ยถารมฺภสฺส วจนปพนฺธสฺส สมาปิตภาวํ โชเตติฯ เอส นโย เสเสสุปิ เอทิเสสุ สพฺพฎฺฐาเนสุฯ ยุคนฺธราทโย ปริภณฺฑปพฺพตาติ เวทิตพฺพาฯ เอกปฺปหาเรเนวาติ เอกปฺปหาเรน อิวฯ สฺวายํ อิว-สโทฺท น สโกฺกมีติ เอตฺถ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตโพฺพฯ
Tassa tassa visesassa adhiṭṭhānavaseneva iddhibhedadassanaṃ iddhivikubbanaṃ. Sīhassa vijambhanādivasena kīḷitvā nādasadisī ayaṃ dhammakathāti vuttaṃ ‘‘sīhavikīḷito dhammapariyāyo’’ti. Gamanakālo mayhantīti ettha iti-saddo parisamāpane. Tena therena yathārambhassa vacanapabandhassa samāpitabhāvaṃ joteti. Esa nayo sesesupi edisesu sabbaṭṭhānesu. Yugandharādayo paribhaṇḍapabbatāti veditabbā. Ekappahārenevāti ekappahārena iva. Svāyaṃ iva-saddo na sakkomīti ettha ānetvā sambandhitabbo.
ปฎิปาเทสฺสามีติ ฐิตกายํ ปฎิปาเทสฺสามิฯ ปตฺถนากาเล อโนมทสฺสิสฺส ภควโต วจนสุตานุสาเรน ญาเณน ทิฎฺฐมตฺตตํ สนฺธาย ‘‘ตํ ปฐมทสฺสน’’นฺติ วุตฺตํฯ ธาเรตุํ อสโกฺกนฺตี คุณสารํฯ เอส มโคฺคติ เอโส ชาตานํ สตฺตานํ มรณนิฎฺฐิโต ปโนฺถฯ ปุนปิ เอวํภาวิโน นาม สงฺขาราติ สงฺขารา นาม เอวํภาวิโน, มรณปริโยสานาติ อโตฺถฯ เอตฺตกนฺติ เอตฺตกํ กาลํฯ สงฺกฑฺฒิตฺวา สํหริตฺวาฯ มุขํ ปิธายาติ มุขํ ฉาเทตฺวาฯ อคฺฆิกสตานีติ มกุฬงฺกุรเจติยสตานิฯ
Paṭipādessāmīti ṭhitakāyaṃ paṭipādessāmi. Patthanākāle anomadassissa bhagavato vacanasutānusārena ñāṇena diṭṭhamattataṃ sandhāya ‘‘taṃ paṭhamadassana’’nti vuttaṃ. Dhāretuṃ asakkontī guṇasāraṃ. Esa maggoti eso jātānaṃ sattānaṃ maraṇaniṭṭhito pantho. Punapi evaṃbhāvino nāma saṅkhārāti saṅkhārā nāma evaṃbhāvino, maraṇapariyosānāti attho. Ettakanti ettakaṃ kālaṃ. Saṅkaḍḍhitvā saṃharitvā. Mukhaṃ pidhāyāti mukhaṃ chādetvā. Agghikasatānīti makuḷaṅkuracetiyasatāni.
ปุริมทิวเสติ อตีตทิวเสฯ ยสฺมา ธมฺมเสนาปติโน อรหตฺตปฺปตฺตทิวเสเยว สตฺถุ สาวกสนฺนิปาโต อโหสิ, ตสฺมา ‘‘ปูริตสาวกสนฺนิปาโต เอส ภิกฺขู’’ติ วุตฺตํฯ ปญฺจ ชาติสตานีติ ภุมฺมเตฺถ, อจฺจนฺตสํโยเค วา อุปโยควจนํฯ
Purimadivaseti atītadivase. Yasmā dhammasenāpatino arahattappattadivaseyeva satthu sāvakasannipāto ahosi, tasmā ‘‘pūritasāvakasannipāto esa bhikkhū’’ti vuttaṃ. Pañca jātisatānīti bhummatthe, accantasaṃyoge vā upayogavacanaṃ.
กโฬปิหโตฺถติ วิลีวมยภาชนหโตฺถฯ ‘‘จมฺมมยภาชนหโตฺถ’’ติ จ วทนฺติฯ ปุรนฺตเรติ นครมเชฺฌฯ วเนติ อรเญฺญฯ
Kaḷopihatthoti vilīvamayabhājanahattho. ‘‘Cammamayabhājanahattho’’ti ca vadanti. Purantareti nagaramajjhe. Vaneti araññe.
โอสกฺกนาการวิรหิโตติ ธมฺมเทสนาย สโงฺกจเหตุวิรหิโตฯ วิสารโทติ สารทวิรหิโตฯ ธโมฺมชนฺติ ธมฺมรสํ, โอชวนฺตํ เทสนาธมฺมนฺติ อโตฺถฯ ธมฺมโภคนฺติ ธมฺมปริโภคํ, ปเรหิ สทฺธิํ สํวิภชนวเสน ปวตฺตํ ธมฺมสโมฺภคนฺติ เทสนาธมฺมเมว วทติฯ เตน วุตฺตํ ‘‘อุภเยนปิ ธมฺมปริโภโคว กถิโต’’ติฯ
Osakkanākāravirahitoti dhammadesanāya saṅkocahetuvirahito. Visāradoti sāradavirahito. Dhammojanti dhammarasaṃ, ojavantaṃ desanādhammanti attho. Dhammabhoganti dhammaparibhogaṃ, parehi saddhiṃ saṃvibhajanavasena pavattaṃ dhammasambhoganti desanādhammameva vadati. Tena vuttaṃ ‘‘ubhayenapi dhammaparibhogova kathito’’ti.
ปิยายิตพฺพโต ปิเยหิฯ มนสฺส วฑฺฒนโต มนาเปหิฯ ชาติยาติ ขตฺติยาทิชาติยาฯ นานาภาโว อสหภาโว วิสุํภาโวฯ อญฺญถาภาโว อญฺญถตฺตํฯ สรีรนฺติ รูปธมฺมกายสงฺขาตํ สรีรํฯ รูปกาเย หิ ภิชฺชเนฺต ภิชฺชเนฺตวฯ โส ภิเชฺชยฺยาติ โส มหนฺตตโร ขโนฺธ ภิเชฺชยฺยฯ
Piyāyitabbato piyehi. Manassa vaḍḍhanato manāpehi. Jātiyāti khattiyādijātiyā. Nānābhāvo asahabhāvo visuṃbhāvo. Aññathābhāvo aññathattaṃ. Sarīranti rūpadhammakāyasaṅkhātaṃ sarīraṃ. Rūpakāye hi bhijjante bhijjanteva. So bhijjeyyāti so mahantataro khandho bhijjeyya.
ทกฺขิณทิสํ คโตติ ทกฺขิณทิสามุเข ปวโตฺตฯ มหาขโนฺธ วิยาติ มหโนฺต สารวโนฺต สาขาขโนฺธ วิยฯ สาขขนฺธา หิ ทิสาภิมุขปวตฺตาการา, มูลขโนฺธ ปน อุทฺธมุคฺคโตฯ โสฬสนฺนํ ปญฺหานนฺติ โสฬสนฺนํ อปราปริยปวตฺตนิยานํ อตฺถานํฯ ญาตุํ อิจฺฉิโต หิ อโตฺถ ปโญฺหฯ
Dakkhiṇadisaṃ gatoti dakkhiṇadisāmukhe pavatto. Mahākhandho viyāti mahanto sāravanto sākhākhandho viya. Sākhakhandhā hi disābhimukhapavattākārā, mūlakhandho pana uddhamuggato. Soḷasannaṃ pañhānanti soḷasannaṃ aparāpariyapavattaniyānaṃ atthānaṃ. Ñātuṃ icchito hi attho pañho.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya / ๓. จุนฺทสุตฺตํ • 3. Cundasuttaṃ
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) / ๓. จุนฺทสุตฺตวณฺณนา • 3. Cundasuttavaṇṇanā