Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / อปทานปาฬิ • Apadānapāḷi |
๔. ทพฺพมลฺลปุตฺตเตฺถรอปทานํ
4. Dabbamallaputtattheraapadānaṃ
๑๐๘.
108.
‘‘ปทุมุตฺตโร นาม ชิโน, สพฺพโลกวิทู มุนิ;
‘‘Padumuttaro nāma jino, sabbalokavidū muni;
อิโต สตสหสฺสมฺหิ, กเปฺป อุปฺปชฺชิ จกฺขุมาฯ
Ito satasahassamhi, kappe uppajji cakkhumā.
๑๐๙.
109.
‘‘โอวาทโก วิญฺญาปโก, ตารโก สพฺพปาณินํ;
‘‘Ovādako viññāpako, tārako sabbapāṇinaṃ;
เทสนากุสโล พุโทฺธ, ตาเรสิ ชนตํ พหุํฯ
Desanākusalo buddho, tāresi janataṃ bahuṃ.
๑๑๐.
110.
‘‘อนุกมฺปโก การุณิโก, หิเตสี สพฺพปาณินํ;
‘‘Anukampako kāruṇiko, hitesī sabbapāṇinaṃ;
๑๑๑.
111.
วิจิตฺตํ อรหเนฺตหิ, วสีภูเตหิ ตาทิภิฯ
Vicittaṃ arahantehi, vasībhūtehi tādibhi.
๑๑๒.
112.
‘‘รตนานฎฺฐปญฺญาสํ, อุคฺคโต โส มหามุนิ;
‘‘Ratanānaṭṭhapaññāsaṃ, uggato so mahāmuni;
กญฺจนคฺฆิยสงฺกาโส, พาตฺติํสวรลกฺขโณฯ
Kañcanagghiyasaṅkāso, bāttiṃsavaralakkhaṇo.
๑๑๓.
113.
‘‘วสฺสสตสหสฺสานิ , อายุ วิชฺชติ ตาวเท;
‘‘Vassasatasahassāni , āyu vijjati tāvade;
ตาวตา ติฎฺฐมาโน โส, ตาเรสิ ชนตํ พหุํฯ
Tāvatā tiṭṭhamāno so, tāresi janataṃ bahuṃ.
๑๑๔.
114.
‘‘ตทาหํ หํสวติยํ, เสฎฺฐิปุโตฺต มหายโส;
‘‘Tadāhaṃ haṃsavatiyaṃ, seṭṭhiputto mahāyaso;
อุเปตฺวา โลกปโชฺชตํ, อโสฺสสิํ ธมฺมเทสนํฯ
Upetvā lokapajjotaṃ, assosiṃ dhammadesanaṃ.
๑๑๕.
115.
‘‘เสนาสนานิ ภิกฺขูนํ, ปญฺญาเปนฺตํ สสาวกํ;
‘‘Senāsanāni bhikkhūnaṃ, paññāpentaṃ sasāvakaṃ;
กิตฺตยนฺตสฺส วจนํ, สุณิตฺวา มุทิโต อหํฯ
Kittayantassa vacanaṃ, suṇitvā mudito ahaṃ.
๑๑๖.
116.
‘‘อธิการํ สสงฺฆสฺส, กตฺวา ตสฺส มเหสิโน;
‘‘Adhikāraṃ sasaṅghassa, katvā tassa mahesino;
นิปจฺจ สิรสา ปาเท, ตํ ฐานมภิปตฺถยิํฯ
Nipacca sirasā pāde, taṃ ṭhānamabhipatthayiṃ.
๑๑๗.
117.
‘‘ตทาห ส มหาวีโร, มม กมฺมํ ปกิตฺตยํ;
‘‘Tadāha sa mahāvīro, mama kammaṃ pakittayaṃ;
‘โย สสงฺฆมโภเชสิ, สตฺตาหํ โลกนายกํฯ
‘Yo sasaṅghamabhojesi, sattāhaṃ lokanāyakaṃ.
๑๑๘.
118.
‘‘‘โสยํ กมลปตฺตโกฺข, สีหํโส กนกตฺตโจ;
‘‘‘Soyaṃ kamalapattakkho, sīhaṃso kanakattaco;
๑๑๙.
119.
‘‘‘สตสหสฺสิโต กเปฺป, โอกฺกากกุลสมฺภโว;
‘‘‘Satasahassito kappe, okkākakulasambhavo;
โคตโม นาม โคเตฺตน, สตฺถา โลเก ภวิสฺสติฯ
Gotamo nāma gottena, satthā loke bhavissati.
๑๒๐.
120.
‘‘‘สาวโก ตสฺส พุทฺธสฺส, ทโพฺพ นาเมน วิสฺสุโต;
‘‘‘Sāvako tassa buddhassa, dabbo nāmena vissuto;
เสนาสนปญฺญาปโก, อโคฺค เหสฺสติยํ ตทา’ฯ
Senāsanapaññāpako, aggo hessatiyaṃ tadā’.
๑๒๑.
121.
‘‘เตน กเมฺมน สุกเตน, เจตนาปณิธีหิ จ;
‘‘Tena kammena sukatena, cetanāpaṇidhīhi ca;
ชหิตฺวา มานุสํ เทหํ, ตาวติํสมคจฺฉหํฯ
Jahitvā mānusaṃ dehaṃ, tāvatiṃsamagacchahaṃ.
๑๒๒.
122.
‘‘สตานํ ตีณิกฺขตฺตุญฺจ, เทวรชฺชมการยิํ;
‘‘Satānaṃ tīṇikkhattuñca, devarajjamakārayiṃ;
สตานํ ปญฺจกฺขตฺตุญฺจ, จกฺกวตฺตี อโหสหํฯ
Satānaṃ pañcakkhattuñca, cakkavattī ahosahaṃ.
๑๒๓.
123.
‘‘ปเทสรชฺชํ วิปุลํ, คณนาโต อสงฺขิยํ;
‘‘Padesarajjaṃ vipulaṃ, gaṇanāto asaṅkhiyaṃ;
สพฺพตฺถ สุขิโต อาสิํ, ตสฺส กมฺมสฺส วาหสาฯ
Sabbattha sukhito āsiṃ, tassa kammassa vāhasā.
๑๒๔.
124.
‘‘เอกนวุติโต กเปฺป, วิปสฺสี นาม นายโก;
‘‘Ekanavutito kappe, vipassī nāma nāyako;
๑๒๕.
125.
‘‘ทุฎฺฐจิโตฺต อุปวทิํ, สาวกํ ตสฺส ตาทิโน;
‘‘Duṭṭhacitto upavadiṃ, sāvakaṃ tassa tādino;
สพฺพาสวปริกฺขีณํ, สุโทฺธติ จ วิชานิยฯ
Sabbāsavaparikkhīṇaṃ, suddhoti ca vijāniya.
๑๒๖.
126.
‘‘ตเสฺสว นรวีรสฺส, สาวกานํ มเหสินํ;
‘‘Tasseva naravīrassa, sāvakānaṃ mahesinaṃ;
๑๒๗.
127.
‘‘อิมมฺหิ ภทฺทเก กเปฺป, พฺรหฺมพนฺธุ มหายโส;
‘‘Imamhi bhaddake kappe, brahmabandhu mahāyaso;
กสฺสโป นาม โคเตฺตน, อุปฺปชฺชิ วทตํ วโรฯ
Kassapo nāma gottena, uppajji vadataṃ varo.
๑๒๘.
128.
‘‘สาสนํ โชตยิตฺวาน, อภิภุยฺย กุติตฺถิเย;
‘‘Sāsanaṃ jotayitvāna, abhibhuyya kutitthiye;
วิเนเยฺย วินยิตฺวาว, นิพฺพุโต โส สสาวโกฯ
Vineyye vinayitvāva, nibbuto so sasāvako.
๑๒๙.
129.
‘‘สสิเสฺส นิพฺพุเต นาเถ, อตฺถเมนฺตมฺหิ สาสเน;
‘‘Sasisse nibbute nāthe, atthamentamhi sāsane;
เทวา กนฺทิํสุ สํวิคฺคา, มุตฺตเกสา รุทมฺมุขาฯ
Devā kandiṃsu saṃviggā, muttakesā rudammukhā.
๑๓๐.
130.
‘‘นิพฺพายิสฺสติ ธมฺมโกฺข, น ปสฺสิสฺสาม สุพฺพเต;
‘‘Nibbāyissati dhammakkho, na passissāma subbate;
น สุณิสฺสาม สทฺธมฺมํ, อโห โน อปฺปปุญฺญตาฯ
Na suṇissāma saddhammaṃ, aho no appapuññatā.
๑๓๑.
131.
สาคโร จ สโสโกว, วินที กรุณํ คิรํฯ
Sāgaro ca sasokova, vinadī karuṇaṃ giraṃ.
๑๓๒.
132.
‘‘จตุทฺทิสา ทุนฺทุภิโย, นาทยิํสุ อมานุสา;
‘‘Catuddisā dundubhiyo, nādayiṃsu amānusā;
สมนฺตโต อสนิโย, ผลิํสุ จ ภยาวหาฯ
Samantato asaniyo, phaliṃsu ca bhayāvahā.
๑๓๓.
133.
‘‘อุกฺกา ปติํสุ นภสา, ธูมเกตุ จ ทิสฺสติ;
‘‘Ukkā patiṃsu nabhasā, dhūmaketu ca dissati;
๑๓๔.
134.
‘‘อุปฺปาเท ทารุเณ ทิสฺวา, สาสนตฺถงฺคสูจเก;
‘‘Uppāde dāruṇe disvā, sāsanatthaṅgasūcake;
สํวิคฺคา ภิกฺขโว สตฺต, จินฺตยิมฺห มยํ ตทาฯ
Saṃviggā bhikkhavo satta, cintayimha mayaṃ tadā.
๑๓๕.
135.
‘‘สาสเนน วินามฺหากํ, ชีวิเตน อลํ มยํ;
‘‘Sāsanena vināmhākaṃ, jīvitena alaṃ mayaṃ;
ปวิสิตฺวา มหารญฺญํ, ยุญฺชาม ชินสาสนํฯ
Pavisitvā mahāraññaṃ, yuñjāma jinasāsanaṃ.
๑๓๖.
136.
‘‘อทฺทสมฺห ตทารเญฺญ, อุพฺพิทฺธํ เสลมุตฺตมํ;
‘‘Addasamha tadāraññe, ubbiddhaṃ selamuttamaṃ;
นิเสฺสณิยา ตมารุยฺห, นิเสฺสณิํ ปาตยิมฺหเสฯ
Nisseṇiyā tamāruyha, nisseṇiṃ pātayimhase.
๑๓๗.
137.
‘‘ตทา โอวทิ โน เถโร, พุทฺธุปฺปาโท สุทุลฺลโภ;
‘‘Tadā ovadi no thero, buddhuppādo sudullabho;
สทฺธาติทุลฺลภา ลทฺธา, โถกํ เสสญฺจ สาสนํฯ
Saddhātidullabhā laddhā, thokaṃ sesañca sāsanaṃ.
๑๓๘.
138.
‘‘นิปตนฺติ ขณาตีตา, อนเนฺต ทุกฺขสาคเร;
‘‘Nipatanti khaṇātītā, anante dukkhasāgare;
๑๓๙.
139.
‘‘อรหา อาสิ โส เถโร, อนาคามี ตทานุโค;
‘‘Arahā āsi so thero, anāgāmī tadānugo;
สุสีลา อิตเร ยุตฺตา, เทวโลกํ อคมฺหเสฯ
Susīlā itare yuttā, devalokaṃ agamhase.
๑๔๐.
140.
‘‘นิพฺพุโต ติณฺณสํสาโร, สุทฺธาวาเส จ เอกโก;
‘‘Nibbuto tiṇṇasaṃsāro, suddhāvāse ca ekako;
อหญฺจ ปกฺกุสาติ จ, สภิโย พาหิโย ตถาฯ
Ahañca pakkusāti ca, sabhiyo bāhiyo tathā.
๑๔๑.
141.
‘‘กุมารกสฺสโป เจว, ตตฺถ ตตฺถูปคา มยํ;
‘‘Kumārakassapo ceva, tattha tatthūpagā mayaṃ;
สํสารพนฺธนา มุตฺตา, โคตเมนานุกมฺปิตาฯ
Saṃsārabandhanā muttā, gotamenānukampitā.
๑๔๒.
142.
‘‘มเลฺลสุ กุสินารายํ, ชาโต คเพฺภว เม สโต;
‘‘Mallesu kusinārāyaṃ, jāto gabbheva me sato;
มาตา มตา จิตารุฬฺหา, ตโต นิปฺปติโต อหํฯ
Mātā matā citāruḷhā, tato nippatito ahaṃ.
๑๔๓.
143.
‘‘ปติโต ทพฺพปุญฺชมฺหิ, ตโต ทโพฺพติ วิสฺสุโต;
‘‘Patito dabbapuñjamhi, tato dabboti vissuto;
พฺรหฺมจารีพเลนาหํ, วิมุโตฺต สตฺตวสฺสิโกฯ
Brahmacārībalenāhaṃ, vimutto sattavassiko.
๑๔๔.
144.
‘‘ขีโรทนพเลนาหํ , ปญฺจหเงฺคหุปาคโต;
‘‘Khīrodanabalenāhaṃ , pañcahaṅgehupāgato;
ขีณาสโวปวาเทน, ปาเปหิ พหุโจทิโตฯ
Khīṇāsavopavādena, pāpehi bahucodito.
๑๔๕.
145.
‘‘อุโภ ปุญฺญญฺจ ปาปญฺจ, วีติวโตฺตมฺหิ ทานิหํ;
‘‘Ubho puññañca pāpañca, vītivattomhi dānihaṃ;
ปตฺวาน ปรมํ สนฺติํ, วิหรามิ อนาสโวฯ
Patvāna paramaṃ santiṃ, viharāmi anāsavo.
๑๔๖.
146.
‘‘เสนาสนํ ปญฺญาปยิํ, หาสยิตฺวาน สุพฺพเต;
‘‘Senāsanaṃ paññāpayiṃ, hāsayitvāna subbate;
ชิโน ตสฺมิํ คุเณ ตุโฎฺฐ, เอตทเคฺค ฐเปสิ มํฯ
Jino tasmiṃ guṇe tuṭṭho, etadagge ṭhapesi maṃ.
๑๔๗.
147.
‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ…เป.… วิหรามิ อนาสโวฯ
‘‘Kilesā jhāpitā mayhaṃ…pe… viharāmi anāsavo.
๑๔๘.
148.
‘‘สฺวาคตํ วต เม อาสิ…เป.… กตํ พุทฺธสฺส สาสนํฯ
‘‘Svāgataṃ vata me āsi…pe… kataṃ buddhassa sāsanaṃ.
๑๔๙.
149.
‘‘ปฎิสมฺภิทา จตโสฺส…เป.… กตํ พุทฺธสฺส สาสนํ’’ฯ
‘‘Paṭisambhidā catasso…pe… kataṃ buddhassa sāsanaṃ’’.
อิตฺถํ สุทํ อายสฺมา ทพฺพมลฺลปุโตฺต เถโร อิมา คาถาโย
Itthaṃ sudaṃ āyasmā dabbamallaputto thero imā gāthāyo
อภาสิตฺถาติฯ
Abhāsitthāti.
ทพฺพมลฺลปุตฺตเตฺถรสฺสาปทานํ จตุตฺถํฯ
Dabbamallaputtattherassāpadānaṃ catutthaṃ.
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / ขุทฺทกนิกาย (อฎฺฐกถา) • Khuddakanikāya (aṭṭhakathā) / อปทาน-อฎฺฐกถา • Apadāna-aṭṭhakathā / ๔. ทพฺพมลฺลปุตฺตเตฺถรอปทานวณฺณนา • 4. Dabbamallaputtattheraapadānavaṇṇanā