Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / อิติวุตฺตก-อฎฺฐกถา • Itivuttaka-aṭṭhakathā

    ๖. ทานสุตฺตวณฺณนา

    6. Dānasuttavaṇṇanā

    ๒๖. ฉเฎฺฐ เอวเญฺจติ เอตฺถ เอวนฺติ อุปมากาเร นิปาโต, เจติ ปริกปฺปเนฯ สตฺตาติ รูปาทีสุ สตฺตา วิสตฺตาฯ ชาเนยฺยุนฺติ พุเชฺฌยฺยุํฯ ทานสํวิภาคสฺสาติ ยาย หิ เจตนาย อนฺนาทิเทยฺยธมฺมํ สํหริตฺวา อนุกมฺปาปูชาสุ อญฺญตรวเสน ปเรสํ ทียติ, ตํ ทานํฯ ยาย ปน อตฺตนา ปริภุญฺชิตพฺพภาเวน คหิตวตฺถุสฺส เอกเทโส สํวิภชิตฺวา ทียติ, อยํ สํวิภาโคฯ วิปากนฺติ ผลํฯ ยถาหํ ชานามีติ ยถา อหํ ชานามิฯ อิทํ วุตฺตํ โหติ – ติรจฺฉานคตสฺสปิ ทานํ ทตฺวา อตฺตภาวสเต ปวตฺตสุขวิปจฺจนวเสน สตคุณา ทกฺขิณา โหตีติ เอวมาทินา, ภิกฺขเว, เยน ปกาเรน อหํ ทานสฺส สํวิภาคสฺส จ วิปากํ กมฺมวิปากํ ญาณพเลน ปจฺจกฺขโต ชานามิ, เอวํ อิเม สตฺตา ยทิ ชาเนยฺยุนฺติฯ น อทตฺวา ภุเญฺชยฺยุนฺติ ยํ ภุญฺชิตพฺพยุตฺตกํ อตฺตโน อตฺถิ, ตโต ปเรสํ น อทตฺวา มจฺฉริยจิเตฺตน จ ตณฺหาโลภวเสน จ ภุเญฺชยฺยุํ, ทตฺวาว ภุเญฺชยฺยุํฯ น จ เนสํ มเจฺฉรมลํ จิตฺตํ ปริยาทาย ติเฎฺฐยฺยาติ อตฺตโน สมฺปตฺตีนํ ปเรหิ สาธารณภาวาสหนลกฺขณํ จิตฺตสฺส ปภสฺสรภาวทูสกานํ อุปกฺกิเลสภูตานํ กณฺหธมฺมานํ อญฺญตรํ มเจฺฉรมลํฯ อถ วา ยถาวุตฺตมเจฺฉรเญฺจว อญฺญมฺปิ ทานนฺตรายกรํ อิสฺสาโลภโทสาทิมลญฺจ เนสํ สตฺตานํ จิตฺตํ ยถา ทานเจตนา น ปวตฺตติ, น วา สุปริสุทฺธา โหติ, เอวํ ปริยาทาย ปริโต คเหตฺวา อภิภวิตฺวา น ติเฎฺฐยฺยฯ โก หิ สมฺมเทว ทานผลํ ชานโนฺต อตฺตโน จิเตฺต มเจฺฉรมลสฺส โอกาสํ ทเทยฺยฯ

    26. Chaṭṭhe evañceti ettha evanti upamākāre nipāto, ceti parikappane. Sattāti rūpādīsu sattā visattā. Jāneyyunti bujjheyyuṃ. Dānasaṃvibhāgassāti yāya hi cetanāya annādideyyadhammaṃ saṃharitvā anukampāpūjāsu aññataravasena paresaṃ dīyati, taṃ dānaṃ. Yāya pana attanā paribhuñjitabbabhāvena gahitavatthussa ekadeso saṃvibhajitvā dīyati, ayaṃ saṃvibhāgo. Vipākanti phalaṃ. Yathāhaṃ jānāmīti yathā ahaṃ jānāmi. Idaṃ vuttaṃ hoti – tiracchānagatassapi dānaṃ datvā attabhāvasate pavattasukhavipaccanavasena sataguṇā dakkhiṇā hotīti evamādinā, bhikkhave, yena pakārena ahaṃ dānassa saṃvibhāgassa ca vipākaṃ kammavipākaṃ ñāṇabalena paccakkhato jānāmi, evaṃ ime sattā yadi jāneyyunti. Na adatvā bhuñjeyyunti yaṃ bhuñjitabbayuttakaṃ attano atthi, tato paresaṃ na adatvā macchariyacittena ca taṇhālobhavasena ca bhuñjeyyuṃ, datvāva bhuñjeyyuṃ. Na ca nesaṃ maccheramalaṃ cittaṃ pariyādāya tiṭṭheyyāti attano sampattīnaṃ parehi sādhāraṇabhāvāsahanalakkhaṇaṃ cittassa pabhassarabhāvadūsakānaṃ upakkilesabhūtānaṃ kaṇhadhammānaṃ aññataraṃ maccheramalaṃ. Atha vā yathāvuttamaccherañceva aññampi dānantarāyakaraṃ issālobhadosādimalañca nesaṃ sattānaṃ cittaṃ yathā dānacetanā na pavattati, na vā suparisuddhā hoti, evaṃ pariyādāya parito gahetvā abhibhavitvā na tiṭṭheyya. Ko hi sammadeva dānaphalaṃ jānanto attano citte maccheramalassa okāsaṃ dadeyya.

    โยปิ เนสํ อสฺส จริโม อาโลโปติ เนสํ สตฺตานํ โย สพฺพปจฺฉิมโก อาโลโป สิยาฯ จริมํ กพฬนฺติ ตเสฺสว เววจนํฯ อิทํ วุตฺตํ โหติ – อิเม สตฺตา ปกติยา ยตฺตเกหิ อาโลเปหิ สยํ ยาเปยฺยุํ, เตสุ เอกเมว อาโลปํ อตฺตโน อตฺถาย ฐเปตฺวา ตทเญฺญ สเพฺพ อาโลเป อาคตาคตานํ อตฺถิกานํ ทตฺวา โย ฐปิโต อาโลโป อสฺส, โส อิธ จริโม อาโลโป นามฯ ตโตปิ น อสํวิภชิตฺวา ภุเญฺชยฺยุํ, สเจ เนสํ ปฎิคฺคาหกา อสฺสูติ เนสํ สตฺตานํ ปฎิคฺคาหกา ยทิ สิยุํ, ตโตปิ ยถาวุตฺตจริมาโลปโตปิ สํวิภชิตฺวาว เอกเทสํ ทตฺวาว ภุเญฺชยฺยุํ, ยถาหํ ทานสํวิภาคสฺส วิปากํ ปจฺจกฺขโต ชานามิ, เอวํ ยทิ ชาเนยฺยุนฺติฯ ยสฺมา จ โขติอาทินา กมฺมผลสฺส อปฺปจฺจกฺขภาวโต เอวเมเต สตฺตา ทานสํวิภาเคสุ น ปวตฺตนฺตีติ ยถาธิเปฺปตมตฺถํ การเณน สมฺปฎิปาเทติฯ เอเตเนว เตสํ ตทญฺญปุเญฺญสุ จ อปฺปฎิปตฺติยา อปุเญฺญสุ จ ปฎิปตฺติยา การณํ ทสฺสิตนฺติ ทฎฺฐพฺพํฯ

    Yopi nesaṃ assa carimo ālopoti nesaṃ sattānaṃ yo sabbapacchimako ālopo siyā. Carimaṃ kabaḷanti tasseva vevacanaṃ. Idaṃ vuttaṃ hoti – ime sattā pakatiyā yattakehi ālopehi sayaṃ yāpeyyuṃ, tesu ekameva ālopaṃ attano atthāya ṭhapetvā tadaññe sabbe ālope āgatāgatānaṃ atthikānaṃ datvā yo ṭhapito ālopo assa, so idha carimo ālopo nāma. Tatopi na asaṃvibhajitvā bhuñjeyyuṃ, sace nesaṃ paṭiggāhakā assūti nesaṃ sattānaṃ paṭiggāhakā yadi siyuṃ, tatopi yathāvuttacarimālopatopi saṃvibhajitvāva ekadesaṃ datvāva bhuñjeyyuṃ, yathāhaṃ dānasaṃvibhāgassa vipākaṃ paccakkhato jānāmi, evaṃ yadi jāneyyunti. Yasmā ca khotiādinā kammaphalassa appaccakkhabhāvato evamete sattā dānasaṃvibhāgesu na pavattantīti yathādhippetamatthaṃ kāraṇena sampaṭipādeti. Eteneva tesaṃ tadaññapuññesu ca appaṭipattiyā apuññesu ca paṭipattiyā kāraṇaṃ dassitanti daṭṭhabbaṃ.

    คาถาสุ ยถาวุตฺตํ มเหสินาติ มเหสินา ภควตา ‘‘ติรจฺฉานคเต ทานํ ทตฺวา สตคุณา ทกฺขิณา ปาฎิกงฺขิตพฺพา’ ติอาทินา, อิเธว วา ‘‘เอวํ เจ สตฺตา ชาเนยฺยุ’’นฺติอาทินา ยถาวุตฺตํ, ญาณจาเรน ตํ ยถาวุตฺตํ จิตฺตํ ญาตนฺติ อโตฺถฯ วิปากํ สํวิภาคสฺสาติ สํวิภาคสฺสปิ วิปากํ, โก ปน วาโท ทานสฺสฯ ยถา โหติ มหปฺผลนฺติ ยถา โส วิปาโก มหนฺตํ ผลํ โหติ, เอวํ อิเม สตฺตา ยทิ ชาเนยฺยุนฺติ สมฺพโนฺธฯ วิเนยฺย มเจฺฉรมลนฺติ มจฺฉริยมลํ อปเนตฺวา กมฺมผลสทฺธาย รตนตฺตยสทฺธาย จ วิเสสโต ปสเนฺนน จิเตฺตน เยสุ กิเลเสหิ อารกตฺตา อริเยสุ สีลาทิคุณสมฺปเนฺนสุ ทินฺนํ อปฺปกมฺปิ ทานํ มหปฺผลํ โหติ, เตสุ ยุตฺตกาเลน ทชฺชุํ ทเทยฺยุํฯ

    Gāthāsu yathāvuttaṃ mahesināti mahesinā bhagavatā ‘‘tiracchānagate dānaṃ datvā sataguṇā dakkhiṇā pāṭikaṅkhitabbā’ tiādinā, idheva vā ‘‘evaṃ ce sattā jāneyyu’’ntiādinā yathāvuttaṃ, ñāṇacārena taṃ yathāvuttaṃ cittaṃ ñātanti attho. Vipākaṃ saṃvibhāgassāti saṃvibhāgassapi vipākaṃ, ko pana vādo dānassa. Yathā hoti mahapphalanti yathā so vipāko mahantaṃ phalaṃ hoti, evaṃ ime sattā yadi jāneyyunti sambandho. Vineyya maccheramalanti macchariyamalaṃ apanetvā kammaphalasaddhāya ratanattayasaddhāya ca visesato pasannena cittena yesu kilesehi ārakattā ariyesu sīlādiguṇasampannesu dinnaṃ appakampi dānaṃ mahapphalaṃ hoti, tesu yuttakālena dajjuṃ dadeyyuṃ.

    มหปฺผลภาวกรณโต ทกฺขิณํ อรหนฺตีติ ทกฺขิเณยฺยา, สมฺมาปฎิปนฺนา, เตสุ ทกฺขิเณเยฺยสุฯ ทกฺขิณํ ปรโลกํ สทฺทหิตฺวา ทาตพฺพํ เทยฺยธมฺมํ ยถา ตํ ทานํ โหติ มหาทานํ, เอวํ ทตฺวาฯ อถ วา พหุโน อนฺนํ ทตฺวา, กถํ ปน อนฺนํ ทาตพฺพนฺติ อาห ‘‘ทกฺขิเณเยฺยสุ ทกฺขิณ’’นฺติฯ อิโต มนุสฺสตฺตา มนุสฺสตฺตภาวโต จุตา ปฎิสนฺธิวเสน สคฺคํ คจฺฉนฺติ ทายกาฯ กามกามิโนติ กาเมตพฺพานํ อุฬารานํ เทวโภคานํ ปฎิลทฺธรูปวิภเวน กมฺมุนา อุปคมเน สาธุการิตาย กามกามิโน สพฺพกามสมงฺคิโนฯ โมทนฺติ ยถารุจิ ปริจาเรนฺตีติ อโตฺถฯ

    Mahapphalabhāvakaraṇato dakkhiṇaṃ arahantīti dakkhiṇeyyā, sammāpaṭipannā, tesu dakkhiṇeyyesu. Dakkhiṇaṃ paralokaṃ saddahitvā dātabbaṃ deyyadhammaṃ yathā taṃ dānaṃ hoti mahādānaṃ, evaṃ datvā. Atha vā bahuno annaṃ datvā, kathaṃ pana annaṃ dātabbanti āha ‘‘dakkhiṇeyyesu dakkhiṇa’’nti. Ito manussattā manussattabhāvato cutā paṭisandhivasena saggaṃ gacchanti dāyakā. Kāmakāminoti kāmetabbānaṃ uḷārānaṃ devabhogānaṃ paṭiladdharūpavibhavena kammunā upagamane sādhukāritāya kāmakāmino sabbakāmasamaṅgino. Modanti yathāruci paricārentīti attho.

    ฉฎฺฐสุตฺตวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Chaṭṭhasuttavaṇṇanā niṭṭhitā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / อิติวุตฺตกปาฬิ • Itivuttakapāḷi / ๖. ทานสุตฺตํ • 6. Dānasuttaṃ


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact